ย้อนดูประวัติทักษิณแล้วก็ไม่แปลกที่ทักษิณจะรวยเป็นมหาเศรษฐีได้เพราะพื้นฐานทางบ้านทำธุรกิจมากมายหลายอย่าง ทักษิณเป็นลูกนักการเมืองเก่าอย่างนายเลิศ ชินวัตรที่เป็นเพื่อนสนิทกับนายปรีดา พัฒนถาบุตรเขาเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ในเวลาที่นายเลิศบิดาของเขาค้าขายสินค้าที่ได้จากชาวเขาเผ่าแม้วให้กับชาวใต้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน สินค้าของของครอบครัวของเขาก็คือฝิ่น แม้ทักษิณจะตัดสินใจรับราชการแต่ก็คาดหวังอยากจะมีเงินเยอะๆเหมือนปุถุชนทั่วไป ทักษิณเองก็ล้มเหลวจากการทำธุรกิจมานับไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่การค้าขายผ้าไหม ซื้อภาพยนตร์ฉาย กิจการโรงภาพยนตร์ และธุรกิจอสังหาฯอย่างคอนโดมิเนียม ธุรกิจของเขาทั้งหลายทั้งปวงนั้นก็ล้วนแต่เจ๊งไม่เป็นท่าทั้งสิ้น ทักษิณเป็นนักเสี่ยงโชค เขาเคยประสบปัญหาทางธุรกิจแลกเช็คและถูกฟ้องเช็คเด้ง เขานิยมบริหารธุรกิจแบบคิดไวทำไวและมักขาดความรอบคอบ เขาเริ่มต้นชีวิตทางธุรกิจอย่างล้มลุกคลุกคลาน จนกระทั่งทักษิณได้ค้นพบได้ว่าไม่ว่าธุรกิจประเภทใดยุทธวิธีพิเศษทางการค้าหรือที่เรียกว่าคอนเนคชั่นและตลาดเป็นเรื่องสำคัญ ตลาดที่ทำมาค้าคล่องที่สุดก็คือราชการนั่นเอง
จากตำแหน่งของทักษิณที่ต้องทำงานราชการประจำอยู่ศูนย์ประมวลข่าวสารของกรมตำรวจทำให้รู้ความต้องการและช่องทางของหน่วยงานที่ตนทำเป็นอย่างดีจนกระทั่งมีการเล่นแร่แปรธาตุจนมีผู้หลักผู้ใหญ่ต้องเตือนให้เขาลาออกไปก่อนที่จะต้องถูกสาวไปจนถึงตัว เขามีพ่อ เพื่อนพ่อและญาติเป็นนักการเมืองทำให้มีโอกาสได้วิ่งเต้นทั้งใต้โต๊ะบนโต๊ะ จากนั้นเขาได้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดไอซีเอสไอ (ICSI) ดำเนินธุรกิจให้เช่าคอมพิวเตอร์แก่สำนักงานต่างๆขึ้น ICSI ไม่เคยมีประสบการณ์ให้เช่าคอมพิวเตอร์หรือวางระบบคอมฯในหน่วยงานราชการใหญ่ๆใดมาก่อนแต่กลับได้เค๊กก้อนโตจึงคิดขยายกิจการของตนเองเข้าสู่การแข่งขันในตลาดเต็มตัว ทักษิณเองก็ไม่ได้ทำธุรกิจโทรคมนาคมด้วยใจรักและถนัดแต่เขาเองก็ล้มเหลวจากการทำธุรกิจมานับไม่ถ้วนแล้วทักษิณได้เรียนรู้ว่าตนเองไม่ได้ถนัดกิจการโทรคมนาคมแต่ไม่มีอะไรดีเท่ากิจการที่ทำกับรัฐและการค้าที่ดีที่สุดคือการค้าที่ผูกขาดไร้คู่แข่งเช่นธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก หรือ เคเบิลทีวี ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ กิจการอีกอย่างของทักษิณที่สร้างรายได้มหาศาลนั่นคือกิจการดาวเทียมที่ได้รับสัมปทานธุรกิจดาวเทียมเป็นเวลาถึง 30 ปี ถ้ายังไม่เชื่อว่าทักษิณเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้เพราะเป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหารไอ้พวกบริวารที่เห่าต่อต้านรัฐประหารแทนนาย ต้องลองไปถาม เสธ.อ้วนพลเอกสัมพันธ์ บุญญานันต์ดูก็ได้
เมื่อก่อนเกิดวิกฤติค่าเงินบาททักษิณและบริษัทรอดวิกฤติคนเดียวไปซื้อประกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินบาทเอาไว้มากๆหรือไปซื้อดอลลาร์เอาไว้มากๆ ก่อนประกาศลอยค่าเงินบาทเหมือนจุดไฟเผาบ้านตัวเองเพื่อเอาเงินประกัน เศรษฐกิจของชาติพังเสียหายแต่ตัวเองรอดพ้นวิกฤติเพราะได้ประกัน เมื่อทักษิณเป็นนักธุรกิจผูกขาดที่ยิ่งใหญ่แล้วเขาก็เริ่มสยายปีกเข้ามาผูกขาดอำนาจทางการเมืองต่อทันที คนคนนี้โกงเพื่อเข้ามาสู่อำนาจ เมื่อมีอำนาจก็โกงอีกอันเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองสุดๆ การเข้าสู่การเมืองด้วยตนเองของทักษิณแทนการสนับสนุนทุนให้แก่นักการเมืองเช่นเดิมกลับทำให้เขาได้กำไรจากกิจการมากขึ้นไปอีกโดยแทบทั้งหมดนั้นล้วนเป็นกำไรจากการลดต้นทุนจากกิจการสัมปทานเช่นการแก้สัญญาสัมทานกับรัฐนั่นเอง เมื่อเข้าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในโควต้าพรรคพลังธรรมเปิดโอกาสให้เอไอเอสขอแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งที่ 3 แต่ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐยอมแก้เพื่อผลประโยชน์เอกชนในการจัดเก็บและการแบ่งรายได้ของบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การขยายอายุสัญญาจาก 20 ปี เป็น 25 ปี ขอปรับลดส่วนแบ่งรายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบบัตรเติมเงิน (พรีเพด) จากร้อยละ 25 เป็น 20 และครั้งที่สองเขาแก้ไขสัญญาเพื่อกำหนดผลประโยชน์ตอบแทนจากค่าเครือข่ายร่วมโดยผ่านวันมูหะมัดนอร์ที่เป็นรัฐมนตรี แม้จะไม่มีลูกค้ามากขึ้นแต่กลับมีรายได้มากขึ้นเพราะได้ลดต้นทุนในส่วนที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐลดลงไปแล้วก็เท่ากับการโกงประเทศนั่นเอง เขายังผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มไปให้ประชาชนในส่วนสาธารณูปโภคโดยการลดภาษีดังกล่าวทำให้รัฐต้องเรียกเก็บเพิ่มเติมจากผู้บริโภคแทน หากแต่ร่ำรวยได้เพราะการสัมปทานและรักษาการผูกขาดผ่านนักการเมืองก็หนักหนาอยู่แล้ว ยิ่งเขาเข้ามานั่งในตำแหน่งโดยตรงส่งผลให้ธุรกิจของเขามีกำไรเติบโตขึ้นก็ไม่ใช่เพราะกิจการเติบโตอีกเช่นกันแต่เป็นเพราะได้ลดต้นทุนส่วนสำคัญไปต่างหาก
อย่างไรก็ตามแม้ดาวเทียมไทยคม 1 ได้สร้างความภูมิใจให้คนไทยอย่างมากหากแต่ในความเป็นจริงรายได้ก็ไม่ได้มากมายอย่างที่คิด ยิ่งถ้าหากเจ้าของบริษัทไม่ใช่ผู้มีอำนาจทางการเมืองย่อมได้รับสิทธิเหล่านั้นมาได้ยาก ดังนั้นการที่ไทยต้องไปลงนามเอฟทีเอกับจีนสูญเสียผลประโยชน์มากมาย แต่อย่างน้อยก็ได้สร้างรายได้มหาศาลให้กับไอพีสตาร์โดยตัวแทนรัฐบาลไทยที่ขอไปเจรจามีชื่อว่าทักษิณ ดาวเทียมไทยคม 3 และไทยคม4 ก็ได้สิทธิส่งเสริมการลงทุนให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปีเฉพาะรายรับจากต่างประเทศ โครงการเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรและพัฒนาประเทศพม่ารายได้ของธุรกิจดาวเทียมพุ้งทยานอีกครั้งโดยเขาสั่งให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าหรือเอ็กซิมแบงก์ไทยได้ปล่อยเงินกู้ 4,000 ล้านบาทอันเป็นหนี้สูญที่ต่อมาทางการพม่าประกาศไม่รับผิดชอบหลังการปฏิวัติภายใน นอกจากนี้ยังมีที่มาของรายได้ที่ทำให้ทักษิณร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกมากมายที่คงไม่สามารถเล่าได้หมดในวันนี้ ความร่ำรวยของเขานั้นไม่ได้มาจากความฉลาดในการดำเนินธุรกิจหรือวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมแต่อย่างใดแท้ที่จริงล้วนมาจากเทคนิคเฉพาะตัวที่ไม่สามารถนำมาบริหารประเทศแล้วจะทำให้ประเทศหรือคนในประเทศร่ำรวยด้วยวิธีอย่างนี้พร้อมๆกันได้
ในวันคล้ายวันปฏิวัติโค่นล้มระบอบกษัตริย์ฝรั่งเศสทักษิณชายหน้าเหลี่ยมคนนั้นได้ตั้งพรรคการเมืองชื่อไทยรักไทยระดมสรรพกำลังทางการเมือง ความเชื่อมั่นในเงินและปรัชญาจีนที่ว่าเงิน-จ้างผีโม่แป้งได้ เขาจึงทุ่มเงินก้อนโตซื้อผู้คนราวซื้อวัวควายทันที ทักษิณใช้พวกฝ่ายซ้ายจัดและพวกตุลาจอมปลอมมาทำงานทางการเมืองให้ตน ขณะที่พวกฝ่ายซ้ายจัดและพวกตุลาจอมปลอมก็เลยถือโอกาสเอาทั้งเงินเอาทั้งประโยชน์ของทักษิณมาเป็นประโยชน์ต่ออุดมการณ์ทางการเมืองให้กับพวกพ้องตนเร่ชูทฤษฎีที่อ้างเป็นลัทธิมาร์กซ์ว่าทุนนิยมสามานย์- ดีกว่า-ศักดินาล้าหลัง! ดังนั้นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างซ้ายจัด-ขวาจัด-ผู้ร้ายทางการเมืองจึงเกิดขึ้นผลประโยชน์ที่เจือสมด้วยทุนนิยมสามานย์ผูกขาดก็ต้องการให้ระบอบศักดินาอ่อนแอหรือล้มครืนเพื่อพวกทุนนิยมสามานย์จะได้สวาปามทุกสิ่งบนแผ่นดินนี้หวานคอแร้ง ทักษิณได้ทุ่มเงินมากมายมหาศาลไหลผ่านมือผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทยทั่วประเทศสู่การเมืองไทย เงินและระบบจัดซื้ออันแยบยลทุกวิธีการได้ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งคราครั้งนั้นอย่างท่วมท้น ทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจและยังชี้เป็นชี้ตายได้ทุกเรื่องจริงๆ
โดยเนื้อแท้แล้วทักษิณไม่ใช่เป็นคนเทิดทูนประชาธิปไตย เขาไม่เคยต่อต้านเผด็จการรัฐประหารอย่างที่ตัวเองและสมุนยกเป็นทองปิดหน้าผาก ทักษิณได้กระทำทุกวิถีทางที่จะรวบอำนาจเข้าสู่ตัวเองโดยใช้อำนาจกลไกรัฐที่อยู่ในมือหรือแลกด้วยผลประโยชน์กดดันให้พรรคการเมืองต่างๆต้องจำยอม เขาได้ทำให้องค์กรอิสระต่างๆเหล่านี้ขาดประสิทธิภาพในการตรวจสอบกับครอบงำปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชน ด้วยการรวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของทักษิณทำให้กลุ่มการเมืองและพรรคพวกของเขาใช้อำนาจที่มีอยู่กอบโกยโกงกินทุจริตทุกรูปแบบอย่างมโหฬารไม่เคยปรากฎมาก่อน รัฐบาลทักษิณก็ยอมที่จะเอาผลประโยชน์ชาติและผลประโยชน์ของประชาชนไปให้ต่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ตนหรือกลุ่มบริษัทของตนหรือพรรคพวก หลายครั้งหลายหนที่รัฐบาลทักษิณเร่งเจรจาการค้าแบบทวิภาคีกับรัฐบาลประเทศต่างๆ โดยปราศจากการศึกษาและการเตรียมการรองรับให้ดีตลอดจนหาช่องทางคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของคนในชาติ รัฐบาลทักษิณก็ดำเนินการในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอันเป็นสมบัติของชาติโดยขาดความโปร่งใสส่อไปในทางเอื้อประโยชน์แก่ตนและพรรคพวก ตลอดระยะเวลาห้าปีเศษภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลทักษิณยังเต็มไปด้วยเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่นและการกำหนดนโยบายในลักษณะของผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งเรียกกันว่าเป็นทุจริตเชิงนโยบาย รัฐบาลทักษิณเป็นรัฐบาลที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุดจำนวนผลประโยชน์ของชาติที่ต้องสูญเสียไปมีมากที่สุดกว่ารัฐบาลใดๆที่ผ่านมารวมทั้งการขายหุ้นของกลุ่มบริษัทของตนเองซึ่งเติบโตและมั่งคั่งขึ้นจากทรัพยากรของประเทศและสิทธิประโยชน์ที่รัฐหยิบยื่นให้ทั้งโดยชอบธรรมและฉ้อฉลจากการบริหารประเทศให้แก่เอกชนที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลต่างชาติโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย หลีกเลี่ยงภาษีอากร โดยมิได้คำนึงว่าธุรกิจดาวเทียมไทยคมเป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามให้โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จฯทรงเป็นสักขีพยานในวันที่ดาวเทียมดวงนี้ได้ถูกยิงขึ้นสู่วงโคจรของโลกโดยรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมานั้นต้องการให้เป็นธุรกิจของคนไทยเป็นความภาคภูมิใจของไทยทั้งชาติ การใช้งบประมาณก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะทำให้คนจนหายจน กองทุนต่างๆ ก็ทำให้ชาวบ้านสะสมภาระหนี้ขึ้น ออกกองทุนควบคู่กับการขยายตัวของโทรศัพท์มือถือ มอเตอร์ไซค์ พยุงราคาเกษตรแจกเงินทุกๆ ปี เอากล้ายางไปให้เกษตรกรก็โกงกันจนเดือดร้อน ระดับอุปสงค์-อุปทานที่ไม่เหมาะก็ยังทำ ชาวบ้านยังจนต่อไปและยังต้องพึ่งนักการเมืองต่อไป ก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าหรือเป็นความตั้งใจให้ชาวบ้านจนเข้าไว้จะได้ใช้เงินหว่านเอาชาวบ้านเป็นพวกให้ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้เพียงเป็นทางผ่านให้เขามาหากินกับอำนาจรัฐเท่านั้น ทั้งๆ ที่ทักษิณเคยได้รับความเมตตาจากศาลรัฐธรรมนูญในช่วงปี 2543-2544 เรื่องการ "ซุกหุ้น" ในชื่อคนรถ คนใช้ ยาม โดยยอมรับประเด็น "บกพร่องโดยสุจริต" แต่กลับยังซุกซ่อนทรัพย์สินมหาศาล นับหมื่นๆ แสนๆ ล้านบาท อันเป็นการผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 (ซึ่งต้องยึดถือ) อย่างซ้ำซาก
ช่วงเวลาที่รัฐบาลทักษิณเรืองอำนาจในทางสังคม ศีลธรรม คุณธรรม จรรยาบรรณของคนในชาติก็ได้ถูกทำลายจนย่อยยับผู้คนทั้งหลายในบ้านเมืองต่างตกอยู่ภายใต้อิทธิพลลัทธิบริโภคนิยมแบบไม่ลืมหูลืมตา เด็กและเยาวชนถูกวัฒนธรรมอันเลวร้ายของโลกตะวันตกครอบงำ ศีลธรรมเสื่อมทรามตกต่ำ ประชาชนฟุ่มเฟือยโดยผู้นำเป็นแบบอย่างและส่งเสริม ขาดการอดออมและประหยัด ขาดการส่งเสริมศีลธรรม คุณธรรมอันดีงาม เกิดปัญหารุนแรงในความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง ทักษิณประเมินสถานการณ์ผิดพลาดขาดความรู้ความเข้าใจในปัญหาความมั่นคงและหลงเชื่อข้าราชการบางคนที่มีผลประโยชน์แอบแฝงในพื้นที่ ข้าราชการที่ดีเป็นที่นับถือไว้วางใจของประชาชนถูกขจัดออกจากตำแหน่งหน้าที่ แก้ปัญหาด้วยวิธีการนอกกฎหมาย บ้านเมืองตกอยู่ภายใต้ความเลวร้ายอย่างรุนแรงชนิดที่กล่าวได้ว่าไม่เคยมียุคใดสมัยใดจะเกิดความเสียหายอย่างสุดๆ ทุกด้านสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักแทบจะสุดเยียวยาแก้ไข ระบอบทักษิณนั้นเป็นเครือข่ายที่มีคนร่วมอยู่เป็นจำนวนมากนับสิบล้านคน คนเหล่านี้ประกอบด้วยชาวชนบทในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนจนในเมืองใหญ่ นักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่นที่สังกัดพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน ข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือนทั้งในราชการและนอกราชการ นักวิชาการ สื่อสารมวลชน นักธุรกิจทุกระดับที่มีผลประโยชน์กับทักษิณ ระบอบทักษิณได้ใช้เงินทุนซื้อเสียงทั้ง 2 สภาและรัฐบาลนั้นควบคุมองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเอาไว้หมด เอาเงินไปแจกประชาชนก็แล้วสร้างบุญคุณเอาเงินไปแจกให้ประชาชนผ่านโครงการต่างๆ นั้นล้วนทั้งที่เป็นเงินงบประมาณของรัฐทั้งสิ้น เมื่อสภาและองค์กรอิสระไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ และยังมีฝ่ายซ้ายที่เคยอยู่กับพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทยหลังเหตุการณ์6 ตุลาคม 2519 รวมอยู่ด้วย ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2545 นายชวน หลีกภัยประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ได้เตือนทักษิณว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่ หลังจากที่ทักษิณประกาศว่าจะเป็นนายกฯ ต่อเนื่องถึง 20 ปี ต่อมาไม่กี่วันหลวงตามหาบัวระบุว่าทักษิณคือลูกศิษย์เนรคุณ มีคนไปถามหลวงตามหาบัวท่านว่าทักษิณ ไม่มีแผ่นดินอยู่ อ้าวแล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหน หลวงตามหาบัวตอบกลับมาว่าให้ ทักษิณลงไปอยู่ในดินเหมือนกับเทวทัต อีกทั้งหลวงตามหาบัวท่านยังกรุณาเทศนาต่อเรื่องพระเทวทัตยังรู้โทษ
ฟ้ายังมีตา ในที่สุดคณะทหาร คมช.ก็ทำการรัฐประหารสำเร็จอันเป็นการยึดอำนาจเพื่อเอา นายกฯ ที่บ้างานออกไป แต่แล้วเอาคนแก่ที่ควรจะเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้านมาเป็นแทนกอปรกับคณะทหารที่ทำรัฐประหาร และรัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ ไม่มีการปฏิรูปการเมืองใดๆ ไม่มีการปฏิรูปสื่อเพื่อให้ประชาชนรับรู้ถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณในวงกว้าง แม้ว่าพรรคไทยรักไทยของทักษิณต้องถูกยุบตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 2 ปีฐานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในคดีที่ดินรัชดาฯ ทักษิณหนีหมายจับหลายต่อหลายคดีที่ยังพิจารณาไม่เสร็จไปอยู่ต่างประเทศจนกระทั่งบัดนี้
...ตอนเป็นนายกฯ ไม่เคยตอบกระทู้ในสภา
...เมื่อสภาจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยุบสภาหนี
...ศาลเรียกหลักฐาน และสอบปากคำ ให้โอกาสโต้แย้งข้อสงสัย ก็ "ไม่ตอบ"
...หนีศาล หนีคุกไปต่างประเทศ
หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 รัฐบาลชุดต่างๆที่บริหารประเทศในนามพรรคพลังประชาชนก็เป็นพรรคการเมืองที่ถือกำเนิดมาจากพรรคไทยรักไทยและถึงแม้พรรคพลังประชาชนอาจจะถูกยุบไปอีกครั้งอยู่ในขณะนี้โดยศาลรัฐธรรมนูญก็ตามแต่ระบอบทักษิณก็เตรียมพรรคเพื่อไทยไว้สานต่ออำนาจของพวกตนเองไว้แล้ว ขณะนี้แม้ตัวทักษิณจะหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศแต่เขายังไม่วายที่จะก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองและประชาชนผ่านรัฐบาลตัวแทนของตนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนายสมัครหรือรัฐบาลนายสมชาย ผู้เป็นน้องเขยของตนผ่านกลไกในระบอบทักษิณซึ่งฝังรากกินลึกอยู่ในบ้านเมือง และก็ไม่ได้หมายความว่าระบอบทักษิณจะล่มสลายตามไปด้วยพลพรรคทุกฝ่ายของคนหน้าเหลี่ยมฟื้นตัวและเริ่มสร้างเครือข่ายองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้นกระทั่งพวกเหมาอิสต์กับนักการเมืองเครือข่ายคนหน้าเหลี่ยมบางคน ได้ให้การสนับสนุนทุกวิถีทาง ทั้งทางตรงทางอ้อมทั้งลับและเปิดเผย ทั้งในและต่างประเทศให้กับเว็บไซต์ให้ร้ายป้ายสี-ทำร้าย-ทำลายสถาบันบางเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องนับวันยิ่งเปิดมากขึ้นราวดอกเห็ด ทักษิณยังคงทำผิดรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง ตัวทักษิณเองที่ถูกคณะทหารทำการรัฐประหารจนตกงานแต่ด้วยเงินทองที่ได้มาโดยไม่โปร่งใสมากมายมหาศาลเขาจึงมิเคยหยุดนิ่งกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งลับและเปิดเผยทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่องในความเป็น "ทักษิณ" ที่ไม่ยอมแพ้ เขาไม่ยอมรับความผิดที่ตัวเองก่อบวกกับอำนาจเงินที่เขามีอยู่ในมือจำนวนมหาศาลนั้นย่อมมีแนวโน้มที่จะทำให้เขาเลือกใช้วิธีการแบบกล้าได้กล้าเสียใช้เกมแตกหักกับทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสถาบันที่อาจได้รับผลกระทบทักษิณเพราะเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะได้กลับมาเพียงแต่ยังไม่ใช่เวลานี้ เมื่อถูกกดดันมากๆก็พร้อมจะตอบโต้ และทำลายฝ่ายตรงข้าม"อาศัยกลไกทางการเมือง และบริษัทล็อบบี้ยิสต์ตลอดจนสื่อต่างๆในมือได้ทั้งในและต่างประเทศเหมือนกับที่เคยสร้างความเสียหายให้กับประเทศมาแล้ว ทักษิณทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองและพรรคพวกทำอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมแม้กระทั่งกฎหมายใดๆ แม้หลังจะแตะกระดานพื้นโลงศพแล้วก็ตามทักษิณก็คงจะยังไม่รู้สึกตัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของตนนั้นจบสิ้นลงแล้ว ความไม่รู้จักตัวเองของทักษิณนั้นได้ฆ่าทักษิณให้ย่อยยับมาโดยตลอดโดยไม่รู้สึกตัวแม้กระทั่งบัดนี้ ทักษิณยังคงทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้กลับมาใหม่แบบผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งแม้การกระทำนั้นจะเกิดผลเสียหายกับชาติบ้านเมืองอย่างไรก็ไม่สนใจ ขอเพียงให้ตนอยู่ได้อย่างที่ตัวต้องการเท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ยำเกรงฟ้า
ตามปรกตินักการเมืองที่บริหารงานผิดพลาดจนก่อให้เกิดความเสียหายทางการเมืองจะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองจะต้องลาออกทันทีเป็นหลักปฏิบัติสากลใช้กันอยู่ทั่วโลก นักการเมืองบ้านเราต้องรอให้กฎหมายทำงานเสียก่อนเขาจึงจะแสดงความรับผิดชอบเพราะถูกบังคับโดยกฎหมาย แต่หาได้สำเหนียกและปฏิบัติตามไม่กับทั้งความรับผิดชอบทางการเมืองไม่เคยแสดงออกมาเลยและถ้านักการเมืองเหล่านั้นแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองก็จะทำให้กระบวนการยุติธรรมทำงานน้อยลงและจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ดีขึ้นทันทีเหมือนอารยะประเทศ ระบอบการเมืองเก่านั้นไปด้วยนักธุรกิจการเมืองที่เข้ามากอบโกยแสวงหาผลประโยชน์จากเงินงบประมาณของแผ่นดินอย่างที่เคยเป็นมาในอดีตเพราะนักการเมืองไทยทุกวันนี้มักขาดจริยธรรม ทักษิณทำธุรกิจสุจริตไม่เป็นหากไม่มีอำนาจรัฐเอื้อธุรกิจพิเศษก็จะขาดทุนซ้ำซาก ทักษิณทำธุรกิจราวกับเด็กๆหากไม่มีอำนาจรัฐเอื้อ เขาไม่รู้จักหลัก "เศรษฐกิจพอเพียง" หลงลงทุนน้ำมันยามแพงสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งข้าวและทองคำ ตามกระแสและลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบเป่าลูกโป่งลงทุนเกินตัว จนทุนอาจหมดสิ้นได้ แม้ว่าเขาเคยพยายามสร้างภาพให้ดูเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญโทรคมนาคมในเมืองไทยแต่ที่แท้เป็นผู้เชี่ยวชาญการให้สินบนซื้ออำนาจรัฐเอื้อธุรกิจโทรคมนาคมในไทย ดังนั้นเมื่อเขาไปลงทุนชินอินเตอร์ในต่างประเทศระหว่างเร่ร่อนเขาก็ล้มเหลวสิ้นเชิงเช่นกัน
ทักษิณก็ออกแถลงการณ์ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันและหยันหยามต่อคำตัดสินศาลโดยส่งให้สื่อต่างประเทศเหยียบย่ำทำลายชาติบ้านเมืองตัวเอง ทำไม..แผ่นดินไทยไม่มีคุณงามความดีที่จะให้คนคนหนึ่งที่ชื่อทักษิณได้รู้ถึงคุณแผ่นดินบ้างเชียวหรือ? ไม่เคยมีใครไปรังแกทักษิณ หากทักษิณดำเนินชีวิตแบบปกติมาตลอดชีวิตของเขาและความรวยของทักษิณก็ไม่ใช่สิ่งผิดแต่ประเด็นที่กำลังเป็นปัญหาในไทยหรือแม้กระทั่งที่ทางการอังกฤษห้ามเข้าประเทศก็เพราะเรื่องทุจริตล้วนๆไม่เกียวข้องกับการเมืองทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป ความรวยของทักษิณก็เช่นกันย่อมมีที่มาที่ไม่ธรรมดา หลังจากทักษิณหนีออกจากประเทศไทยก็มีข่าวลือว่าทักษิณมีเงินที่กอบโกยจากการโกงไปด้วยจำนวนประมาณ 300,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวที่ส่วนหนึ่งถูกหอบหิ้วโดยคุณหญิงพจมานและสมุนบริวารคนใกล้ชิดที่หนีคดีหลีกเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ได้บรรจุกระเป๋าใบใหญ่จำนวน 24 ใบไปอาจจะทำให้ทักษิณไม่ได้เดือดร้อนอะไรแม้จะถูก คตส.สั่งอายัดเงินจำนวนกว่า 70,000 ล้านบาทไว้เพราะเงินที่ซุกซ่อนไว้ไซฟ่อนออกไปในต่างประเทศยังมีอีกมากและมากพอที่จะส่งท่อน้ำเลี้ยงเพื่อให้บรรดานักการเมืองสมุนรับใช้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งหรือเคลื่อนไหวทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย และทักษิณมีเหลือเฟือสำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองและพร้อมที่จะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อสร้างความวุ่นวายทางการเมืองเนื่องจากเขาไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ยิ่งเขาถูกอังกฤษอายัดทรัพย์ได้ทำให้ประชาชนได้รับรู้พฤติกรรมของทักษิณ ได้รู้เช่นเห็นชาติที่แท้จริงของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับแรงศรัทธาจากประชาชนอย่างท่วมท้นและเป็นการลบล้างทฤษฎีคนรวยแล้วจะไม่โกงลงอย่างสิ้นเชิง เงินที่ทักษิณมีอยู่ล้วนเป็นเงินที่โกงจากคนไทยไปทั้งสิ้นและควรตกเป็นเงินของรัฐเพื่อกระจายกลับไปสู่ประชาชนทั้งประเทศ ยิ่งเราปล่อยให้ทักษิณเคลื่อนไหวไปยิ่งขยับมากเท่าไรทักษิณเองก็ยิ่งจะเจ็บตัวมากเท่านั้น ในวันนี้ทักษิณตกเป็นเครื่องมือของสามเกลอหัวขวดวีระ, จตุพร, ณัฐวุฒิและเฉลิม อยู่ทำไมคนเหล่านี้หาได้เคารพบูชาทักษิณแต่อย่างใดไม่ทั้งหมดที่พวกมันทำก็เพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น การใช้เครื่องมือต่างๆเพื่อต่อสู้ในทางการเมืองน่ากังวลตรงที่เรื่องที่มีความละเอียดอ่อนค่อนข้างมากเน้น 3 สถาบัน “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศได้
วันนี้แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ดำเนินการกดดันรัฐบาลจากภายในประเทศในขณะที่บริษัทล๊อบบี้ยิสต์ต่างชาติทำการโจมตีจากภายนอกด้วยกลยุทธ์“โลกล้อมประเทศ”ผ่านบริษัท เอลเดอร์แมน บริษัท บาเบอร์ กริฟฟิก รอเจอร์ หรือ บีจีอาร์ บริษัท เบล พอททิงเกอร์ นอร์ทและบริษัท เบเกอร์บอทที่มีชื่อตัวละครสำคัญเป็นคนกลางในการเดินเกมดังกล่าว อาทิ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษานายกฯ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯ และภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองเลขาธิการนายกฯ ซ้ายอกหักทั้งแก้งค์โดยมีเป้าหมายเป้าหมายในการล้างบางชนชั้นสูง - เชิดชูทักษิณให้กลับมายิ่งใหญ่โดยสื่อภายในประเทศจึงค่อนข้างมีข้อจำกัดในเรื่องดังกล่าวจึงถูกมองข้ามและหันไปใช้งานสื่อหรือล๊อบบี้ยิสต์ต่างประเทศแทนซึ่งสื่อต่างประเทศนั้นค่อนข้างมีศักยภาพในการสื่อสารที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง รวมถึงสามารถทำในสิ่งที่สื่อไทยไม่สามารถทำได้ หากประเมินจากการเคลื่อนไหวของทั้งพรรคเพื่อไทย และนปช.ตลอดจนเครือข่ายทั้งหมดแล้วจะพบว่ามีการเดินหน้าอย่างคึกคักเพื่อเร่งโค่นล้มรัฐบาลเร่งปิดเกมก่อนเงินหมด-กระแสหายเพื่อให้สามารถมีโอกาสฟื้นคืนกลับมาได้อีกเพราะทักษิณยังมีความพร้อมในเรื่องเงินและบารมีทางการเมืองแม้จะมีกระแสข่าวว่าเขาขาดทุนจากการเก็งกำไรหุ้นน้ำมันหรือแม้แต่การมีข่าวว่าถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดเงินเอาไว้จำนวนมากก็ตาม และยังยิ่งเพิ่มโอกาสในการช่วงชิง “พื้นที่ข่าว” ที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว กองวินัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอกองกำลังพล ทำการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คาด 1-2 วัน เสนอต่อ “พัชรวาท” พิจารณาชี้ขาดได้ ยันไม่ประวิงเวลา
น่าจะไปเยี่ยม "หมอดูตาทิพย์" ดูสักหนเห็นว่าแม่นนักแม่นหนา หมอดูตาทิพย์แห่งป่าซางจ.ลำพูนคนนี้เป็นผู้ชายเห็นอนาคตจากความฝัน แม่นยำจนน่ากลัว เคยส่องนิมิตไปค้นหาสาเหตุแห่งเวรชะตา เพื่อขอขมาลาโทษเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ ให้กับคนดังในเมืองไทยมาแล้วหลายราย เหตุใดหมอดูตาทิพย์เจอคนไข้ชายคนนี้กลับหนักใจและไม่ให้คำตอบ รุกไล่หนักๆ เข้า ก็ได้แต่พร่ำพูดเพ้อเจ้อราวคนบ้าว่า
"ผมประสาทไม่ดีเพี้ยนๆ พูดผิดบ้างถูกบ้าง ผมตอบอะไรไม่ได้ ทุกชีวิตขึ้นอยู่กับเวรกับกรรม และกรรมเก่าตามมาทันแล้ว ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว"
ถามต่อไม่ลดละแกมโกรธว่า "แล้วลูกๆ ละจะเป็นอย่างไร"
หมอดูตาทิพย์ตอบกลับราบเรียบว่า "ลูกๆ จะรับกรรมของพ่อแม่ที่ก่อไว้"
ถามอย่างรำคาญใจในนาทีสุดท้ายว่า "ต่อจากนี้นายของเราจะเป็นอย่างไร"
หมอดูหลับตานิ่งอ่อนใจและพูดเบาๆ ว่า "เคยมีมาเท่าไรจะเหลือเท่านั้น เคยเป็นมาอย่างไรจะกลับไปเป็นอย่างนั้น" พูดจบก็ขอตัวไปพัก
คุณหญิงคนหนึ่งนั้นเคยให้คนมารอรับถึงสนามบินเพื่อพาไปพักที่บ้านแล้วบังคับให้ฝันค้นหาอนาคตให้ตัวเองและสามีบ้าอำนาจ ความฝันอันมืดมิดพรั่งพรูเปิดปริศนาชีวิต 4 ข้อว่า
1. จะเรืองยศ เรืองเกียรติ เปี่ยมอำนาจ มากเงินตรา หาใครเทียบเทียม
2. ต่อมาจะหมดยศ ไร้เกียรติ ก้มหน้าลงดิน สิ้นศักดิ์ศรี หมดบารมีเพราะบริวาร และความทะยานอยากแห่งตน ทรัพย์สินที่หามาได้จะหมดลงไปด้วยบริวารเลว ทรัพย์ศฤงคารจะร่อยหรอและเหลือน้อยลงเท่ากับที่เคยเป็นมา
3. จากนั้นจะถูกประชาชนสีเหลืองขับไล่ และหนีหน้า เร้นกายไปตายในต่างแดน และ
4. เป็นปริศนาข้อสุดท้าย ที่ฟ้าดินลงโทษ เป็นเวรกรรมที่แก้ไม่ได้ ใช้ไม่หมด เจ้ากรรมนายเวรมีทั่วไปทั้งแผ่นดิน สิ้นสุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ไร้รังนอน และเอนกายกับผืนดิน มีเพียงเมียและลูกในชุดดำร่ำไห้ เดียวดาย แต่คนทั้งแผ่นดินจะจดจำเจ้าชะตาได้แม่นมั่นนิรันดรไม่ลืมเลือน
ถ้าทักษิณไม่โลภอย่างนี้ ถ้าทักษิณยังมีความรักต่อแผ่นดินแม่มากกว่านี้ ทักษิณก็คงไม่ต้องดิ้นรนไปซื้อทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้เพื่อสร้างพื้นที่ข่าว ทั้งในไทยและในเวทีโลกโดยทักษิณทำให้ดูเหมือนว่า ซื้อมา 70 ล้านปอนด์ขายไปได้ 150 ล้านปอนด์ แล้วให้พรรคพวกยกย่องว่าเห็นไหม เก่งอีกแล้ว ทำทีมฟุตบอลก็กำไร ทำอะไรก็ดีไปหมด ตามข่าวสเตรทไทม์ครั้งนี้ เปิดโปงว่า ทักษิณได้ลงทุนรวมกับซื้อนักกีฬาเป็นเงินถึงกว่า 200 ล้านปอนด์! และจากการตรวจสอบที่มาของเงินทำให้บัญชีนอมินีต่างๆ ของทักษิณถึง 25-30 บัญชีต้องถูกแช่แข็ง ในฐานะที่เป็นคนไทยระลึกถึงพระคุณแผ่นดินบ้าง ระลึกถึงคำสอน "เศรษฐกิจพอเพียง" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกหมู่ทุกเหล่าทุกฝ่ายทุกๆ คน หากท่านไม่พยายามสร้างภาพว่า ต้องเป็นคนทันสมัยเป็นคนโลกาภิวัตน์ ก็คงไม่ลงทุนเกินตัวหรือกู้เงินเกินตัว โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและจะไม่พาตัวสู่วิบัติเช่นนี้ น่าจะต้องยอมจำนนแล้วว่าทักษิณคงไม่สามารถลวงคนทั้งโลกได้อีกต่อไปว่าทักษิณเป็นนักธุรกิจคนเก่ง "รวยแล้วไม่โกง" ก็หวังว่าทักษิณจะได้ยอมรับฟังคำแนะนำของลูกน้องผู้เตือนท่านด้วยความรักว่า "มันจบแล้วครับนาย" ทักษิณควรกลับใจ ต่อสู้ความด้วยหลักฐาน และเหตุผล ใช้ความจริงครบด้านเผชิญความจริง ถ้าทักษิณ "ถูก" ทุกคนก็ศรัทธา ถ้าทักษิณ "ผิด" ก็ยอมเข้าคุก ให้ประชาชนเห็นข้อมูลเท่ากัน โดยไม่มีความแตกแยกและเห็น "คุณค่า" ของ "ความชอบธรรม" ให้คู่กับแผ่นดินไทย หลังจากนั้น ทักษิณก็จะมีชีวิตที่สง่างามขึ้นและบ้านเมืองก็จะมีมาตรฐานคุณธรรมสูงขึ้น และสงบสุขร่มเย็นต่อไป