31 ตุลาคม 2551

สาธารณรัฐสยาม / No English todays' blog.

เราไม่อยากได้ธงชาติใหม่แบบนี้

เราเป็นประเทศราชอาณาจักรมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่มีอำนาจสูงสุด สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเอกภาพของชาติไทยที่อยู่คู่กันมาเป็นร้อยเป็นพันปีเพราะเป็นองค์ประกอบของชาติที่สำคัญ พระองค์ท่านปกครองแผ่นดินเพื่อประชาชน แบบพ่อปกครองลูก เป็นที่เคารพบูชาการ สิ่งใดจะทำให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันจงอย่าได้ทำ อำนาจการปกครองไทยเรานั้นมี 3ระดับที่เราถวายให้พระมหากษัตริย์ใช้อำนาจนี้ผ่านศาล (ตุลาการ) สภาผู้แทนราษฎร (นิติบัญญัติ) และคณะรัฐมนตรี(บริหาร) พระองค์ท่านมีอำนาจในการแต่งตั้งตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติและบริหารหรือนายกรัฐมนตรีและประธานสภาตามลำดับ โดยพระองค์ท่านเลือกโดยดูว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองได้รับคะแนนสูงสุดก็แต่งตั้ง

ดิสธร วัชโรทัยประธานมูลนิธิราชประชาฯเผยรัก "พระเจ้าอยู่หัว" ให้อยู่บ้านไม่ต้องไปที่อื่นผู้ที่มาฟังในครั้งนี้ไม่ทราบว่าเป็นพรรคพวกไหนจะเป็นฝ่ายพันธมิตร (พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) หรือ นปช. (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) ก็ดีขอเรียนความจริงอันหนึ่งว่า ถ้าทุกคนรักในหลวงไม่ต้องไปทำนาที่ทำเนียบหรือไปแสดงพลังที่ไหน  กล่าวไว้ว่า "ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ผมไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ผมอยู่พรรคในหลวงและพรรคนี้ใหญ่โตมาก" แสดงพลังไม่เกิดประโยชน์ทำแตกแยก  ท่านดิสธรเองก็ถือเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่งรับสนองพระเดชพระคุณอันเป็นที่ประจักษ์แจ้งแต่ที่ท่านพูดว่า " ผมไม่รู้ว่า ใครผิด ใครถูก " แล้วพฤติกรรมและเรื่องราวทั้งสิ้นทั้งมวลที่ผ่านๆมาจนถึงวันนี้ของทักษิณอันเป็นที่สำเหนียกรู้ไปทั่วบ้านทั่วเมือง ท่านมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร คงไม่ต้องกล่าวให้มากความ

ภารกิจสำคัญที่ทักษิณมอบให้กับพรรคพลังประชาชนคือการทำอย่างไรก็ได้ที่จะทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ ของคนจน โดยอย่าให้พูดถึงการทุจริตของเขาให้มากมายนัก  โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์กำลังทำตัวเป็นปัญหาของแผ่นดิน ถ้าน้องเขยของทักษิณคนนี้ไม่พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยไปโดยเร็วก็น่าเป็นห่วงว่าเค้าลางของเรื่องเลวร้ายบนแผ่นดินอาจจะเกิดขึ้นจริงๆในเร็ววัน... การเรียกร้องให้นายกฯลาออกเนื่องจากถูกมองว่าเป็นตัวแทนของทักษิณมีเสียงเรียกร้องอย่างเซ็งแซ่ ถ้าคืนนี้นายกฯกลับใจและจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อกู้ประเทศชาติกู้แผ่นดินโดยจะมาจากบุคคลทุกฝ่ายที่อยากจะมาแก้ไขปัญหาด้วยความรู้ที่มี   ทุกคนที่มีหัวใจเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินไม่ต้องนึกว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลขอให้เอาบ้านเมืองอยู่รอดก่อน  ที่ผ่านมาเลือดไทยสมัยบางระจันยังสามารถทำได้  ปัญหาความวุ่นวายของบ้านเมืองในขณะนี้ทำให้อดนึกสงสัยไม่ได้ว่า มีเรื่องของ "ยุทธศาสตร์ลอนดอน" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ 

1) มีขบวนการโจมตีให้ร้ายสถาบันสูงสุด คนที่เอาสถาบันและไม่เอาสถาบันและฝ่ายที่ไม่เอาสถาบันนั้นต้องการให้ทักษิณกลับมาเป็นใหญ่ทั้งๆ ที่ ขบวนการดังกล่าวถูกจัดตั้งถูกบงการและดำเนินการโดยคนกลุ่มเดียว โดยที่คนไทยส่วนใหญ่ล้วนแต่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด สำหรับชื่อ “ฟ้าเดียวกัน” ในปัจจุบันนั้นถือว่าโด่งดังอย่างมาก เพราะ เว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นเว็บไซต์ที่ทราบกันดีว่าเป็น เบอร์ 1 ของเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเฉพาะในส่วนเว็บบอร์ดที่มีข้อความด่าทอสถาบันตุลาการ องค์กรอิสระ และสถาบันสูงสุดด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและข้อมูลอันเป็นเท็จจำนวนมาก รวมถึงมีการเผยแพร่ธงชาติใหม่ของ “สาธารณรัฐสยาม” ทว่า ไม่มีใครกล้ากล้าแตะต้องหรือปิด แม้กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ออกมาแสดงท่าทีขึงขังเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ถึงปัจจุบันเว็บไซต์แห่งนี้ก็ยังคงเผยแพร่เนื้อหาหมิ่นฯ ได้อย่างสะดวกราบรื่น

2) บงการใช้บริวารในเครือข่ายที่ยึดกุมอำนาจรัฐไว้เพื่อเอื้อประโยชน์หรือละเว้นไม่ดำเนินการบางอย่างที่จะ
เอื้อประโยชน์แก่ทักษิณและพวก

3) ใช้สื่อของรัฐบิดเบือนข้อมูลข่าวสารปกปิดข้อมูลความผิดเกี่ยวกับคดีต่างๆ ของทักษิณและพวก 
เพื่อมิให้ประชาชนได้รู้เช่นเห็นชาติและเข้าใจถึงความเลวร้ายและในอีกด้านหนึ่งก็ปลุกระดมประชาชนให้เกิดความสงสารทักษิณและพวก 

4) บงการ จัดซื้อจัดจ้าง และจัดตั้งมวลชนเพื่อขึ้นมาปะทะกับกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยพยายามทำเลียนแบบย้อนรอยพันธมิตรฯ 

5) พยายามซื้อศาล ถ้าซื้อไม่ได้ก็ใช้วิธีข่มขู่คุกคามมุ่งหมายเอาชีวิตเพื่อให้กลัว 

6) พยายามแบ่งแยกกองทัพพยายามทุ่มซื้อแม่ทัพนายกอง 

7) บงการให้มีการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มเติมภายในประเทศไม่ว่าจะโดยการพยายามผลักดันการล้มล้างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับมีการใช้ความรุนแรงโดยภาครัฐหรือการปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงให้มีการปะทะกันของมวลชนหรือมีสถานการณ์จลาจล 

8) เร่งรีบใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเพื่อซื้อเสียงประชาชน ซื้อเสียงหัวคะแนนการเมือง สร้างแนวร่วมทางการเมืองด้วยการเอาเงินภาษีของประชาชนไปจัดซื้อ พร้อมๆ กับจัดวางคนของตัวเองเข้าควบคุมอำนาจในฝ่ายปกครองโดยเฉพาะตามหัวเมืองต่างๆ 

9) เร่งฟื้นโครงการสมัยรัฐบาลทักษิณเพื่อให้มวลชนหวนคิดถึงทักษิณตอกย้ำความภักดีต่อตราสินค้าทักษิณ พยายามหาโอกาสให้ทักษิณได้สื่อสารกับมวลชน เพื่อสร้างภาพความจงรักภักดีโดยอ้างว่าประชาชนเหล่านั้นเป็น "ประชาชนของผม" 

10) เมื่อสบโอกาส ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อสถาปนาใหญ่ให้เข้ามาบดบังหรือทดแทนสถาบันสูงสุดหรือโจมตีโค่นทำลายสถาบันองคมนตรีเพื่อสวมตัวเข้าไปแทนทิศทางที่รัฐบาลนายสมชายกำลังกระทำอยู่ในขณะนี้ 
ยิ่งเป็นตัวเร่งหรือตอกย้ำความสงสัยมากยิ่งขึ้นว่าความเลวรายวันที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเวลานี้เกิดจากหรือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ลอนดอน

อุณหภูมิการเมืองที่อึมครึมเริ่มเดือดพล่านและนับเป็นเหตุการณ์โหมโรงก่อนที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือม็อบเสื้อแดงจะชุมนุมรวมพลคนรักทักษิณเพื่อแสดงพลังครั้งใหญ่และให้ทักษิณโทรศัพท์เข้ามาพูดคุยในรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร"ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ที่ราชมังคลากีฬาสถานในขณะที่ 3 เกลอหัวขวดแห่งความจริงวันนี้ต้องแสดงท่าทีแบบเคารพกฎหมายเต็มที่ไม่ต่างวันที่ประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ ที่นปช.รื้อเวทีจากสนามหลวงไปตั้งที่ท่าน้ำเมืองนนท์เพื่อแสดงโชวะพันธมิตรว่า นปช. เคารพกฎหมาย    ผู้บัญชาการ(ผบ.)เหล่าทัพจับตาหวั่นจะเกิดกระแสต่อต้านและความรุนแรงแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีว่าจะสั่งห้ามหรือไม่ "ผมไม่มีสิทธิห้ามใครทำอะไรทั้งสิ้นแต่ทุกอย่างอยากให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยในบ้านเมือง เชื่อมั่นว่าทักษิณจะระมัดระวังเพราะที่ผ่านมาก็ระมัดระวังมาตลอด และไม่เคยก้าวล่วงเบื้องสูงเลย  ข่าวที่ออกมานั้นไม่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะตั้งใจพูดถึงสถาบันเบื้องสูง คงหมายถึงพวกที่รองๆ ลงมาคือพวกอำมาตย์เป็นคนธรรมดาที่ถือยศถือศักดิ์มากกว่าซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไร" 

ขณะนี้ทักษิณและพจมานเดินทางจากอังกฤษมายังเกาะฮ่องกงเพื่อมาเคลื่อนไหวเพื่อสั่งการโดยตรงด้วยการโฟนอินมายังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเป็นการทำสงครามครั้งสุดท้ายของเขาซึ่งตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะไม่กลับเมืองไทยเพราะต้องติดคุกอีกหลายคดีโดยเคลื่อนไหวให้คณะ 111 คนที่รับเงินจากทักษิณมาประมาณจำนวน 200 ล้านบาทเพื่อมาเตรียมการล่วงหน้ากับตั้งกลุ่มขึ้นมา 6-8 กลุ่มเพื่อไล่ล่าแกนนำพันธมิตรฯให้ได้อย่างน้อย 5 คน เขาจะใช้ความรุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยไม่เปิดเผย เขาจะเริ่มปลุกอันธพาลการเมือง โดยใช้ตำรวจนอกเครื่องแบบรวมทั้งทหารพรานเข้าไปปะปนเพื่อที่จะใช้อาวุธหนักเข้าจัดการสถานการณ์ ขณะนี้ได้ยินว่าทั้งคู่ มี แ ผนจะเดินทางจากฮ่องกงมายังสามเหลี่ยมทองคำบริเวณเชียงรายเพื่อบัญชาการรบด้วยตัวเอง

ลำดับสถานการณ์ความรุนแรงพร้อมกันหลายจุดในกรุงเทพมหานครหลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ตุลาคม เรื่อยมาจนช่วงเช้ามืดวันที่ 30 ตุลาคมไม่นับเหตุก่อกวนย่อยๆ 2-3 เหตุ มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บเกือบ 10 คน เริ่มต้นที่
๑ ) การปาระเบิดบ้านจรัญ ภักดีธนากุลตุลาการศาล รธน. แค่นี้คงได้ผลตามที่เขาต้องการ วิธีการเช่นนี้น่าจะเป็นการข่มขู่ซึ่งป็นวิธีปกติที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ก็ต้องดิสเครดิตเมื่อดิสเครดิตไม่ได้ก็ข่มขู่คุกคามอย่างไรก็ตามตนและครอบครัวไม่ได้หวั่นไหวอะไรและไม่จำเป็นที่จะต้องขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม ... การคุกคามแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมันเป็นกฎแห่งกรรมคิดว่าคงเป็นกรรมเก่าเราเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯไม่มีคำว่าขวัญเสีย ยิ่งเป็นตุลาการต้องไม่กลัวแต่ไม่ใช่ท้าทาย     
๒ ) ขว้างM-87ใส่พันธมิตรฯเจ็บ6สาหัส1
๓ ) เสียงปืนลึกลับ-กับหนึ่งศพใกล้ บช.น. 
๔ ) เผารถแกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่จนกระทั่งค่ำวันนี้ (30ต.ค) เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของใคร และฝ่ายใดกันแน่ 

เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเหลือล้ำที่สังคมไทยกำลังวิตกกังวลจนเกินเหตุกับอาชญากรผู้หลบหนีคดีอาญาสังคมไทยกำลังพิกลพิการเป็นที่สุดเพราะคนจำนวนหนึ่งยังหลงไปให้ความสำคัญกับซากศพของบุคคลเพียงคนเดียวให้มันรู้กันไปว่าคนไทยด้วยกันเองจะต้องฆ่าฟันกันเพราะอาชญากรหนีคดีคนนั้น หากเกิดมิคสัญญีกลียุคดังที่หลายคนหวาดวิตกขึ้นมาจริงๆก็ต้องถือว่าเป็นคราวเคราะห์อย่างมหันต์ของประเทศไทยแล้ว ยามนี้ หวังว่าคนไทยผู้มีสติคงประจักษ์ชัดแล้วว่าศาลสถิตยุติธรรมของบ้านเราถูกหมิ่นประมาทอีกทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ถูกหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเรื่องร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะนักโทษหนีคดีอาญาผู้นั้นเพียงคนเดียว  ทำไมคนไทยจำนวนหนึ่งจึงมองไม่เห็นความผิดของนักโทษหนีคดีผู้นั้นหรือว่าบาปกรรมมันบังตาจนทำให้คนไทยหลงลืมความดี ไม่สามารถแยกแยะว่าสิ่งใดผิดหรือถูก คนไทยที่ประกาศว่าตนเองคือสาวกของนักโทษหนีคดีอาญายังไม่สามารถวิเคราะห์ได้อีกว่าวลีลวงโลกที่ว่า "คนปรุงอาหารถูกปลด กบฏถูกปล่อย" มันคือคำพูดของนักเลือกตั้งที่ไร้ความรับผิดชอบ 

ผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบตัวนักโทษหนีคดีอาญาและยอมขายศักดิ์ศรีให้กับอาชญากรรายนี้ ส่วนหนึ่งก็เคยเป็นนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาแล้วบางคนก็เป็นนักการเมืองจำพวกขายตัวเพราะย้ายพรรคมาแล้วจนนับไม่ถ้วน บางก็คือบุคคลล้มละลายหนี้สินล้นพ้นตัว คนเหล่านี้มีศักดิ์ศรีหรือมีความน่าเคารพศรัทธาตรงไหนแต่ทำไมคนไทยจำนวนหนึ่งจึงหลงยกย่องเชิดชู สาวกเสื้อแดงจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือหากเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยใจจริงแล้วเหตุใดสาวกเสื้อแดงจึงปล่อยให้ดา ตอร์ปิโดและสุชาติ นาคบางไทรหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้ 

เมื่อมีคนทนไม่ไหวออกมาปกป้องดันมีคนจากสาขาอาชีพต่างๆบอกว่าให้อยู่ที่บ้าน ต้องสมานฉันท์ คนที่เชื่อพันธมิตรหรือพวกที่อยู่ในทำเนียบคือพวกเชื่องเชื่องั้นหรือ ผิดไปแล้วพวกนี้มีสมอง มีปัญญา มีสถานะทางสังคม มีความสามารถ ทีสำคัญพวกนี้เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือหงอให้ทักษิณเพราะพวกนี้เขาสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวของเขาเอง ฝ่ายที่เข้าข้างทักษิณเองก็มีคนที่มีเกียรติ มีการศึกษา มีสถานะแต่คุณลองหันไปมองและดูให้ทะลุนะว่าพวกเขาเหล่านั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ถามตัวเองและพิจารณาดูให้ดีอย่าอคติ  คนที่มีจิตใจที่เที่ยงธรรมย่อมมองเห็นว่าการกระทำของคุณทักษิณและตัวแทนมีพฤติกรรม "ระราน" ผู้คนในสังคมตลอด สื่อต่างๆ(ตั้งแต่คุณทักษิณเข้ามาเป็นนายก)ไล่ตั้งแต่สื่อทีวีหากมีใครหือหรือกล้าวิจารณ์ก็ไล่, ปลดรายการหรือถอนสปอนเซอร์ สื่อหนังสือพิมพ์มันด่าเหรอ ถอนสปอนเซอร์มันออกแค่นี้มันก็ตายแล้ว  สื่อวิทยุทำบ้างหรือ ปลดมันถอนรายการมัน การขาดจิตสำนึกดีงาม, ขาดความรับผิดชอบ, การบริหารผิดพลาดของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีประเด็นใหญ่ๆเห็นชัดๆก็เช่นเรื่องเขาพระวิหาร, การบกพร่องต่อหนา้ที่ทำให้ประชาชนไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ยิ่งวันแถลงนโยบายเลือดวันที่ 7 ตุลานั่นคือความเสียหายที่จงใจก่อโดยรัฐบาล มีคนถูกยิง อุ้ม ฆ่า หน้ารัฐสภา

ตลกสามเกลอคณะความจริงวันนี้กลับรู้สึกตลกขบขันออกอากาศโทรทัศน์คุยกัน หัวเราะชอบใจ สนุกสนาน บอกสมควรแล้ว แสดงว่าสมองฝั่งหนึ่งต้องบกพร่องโดยสุจริตเหมือลูกพี่ ที่หนักข้อคือการใช้สถานีทีวีมาแถลงการอัปยศที่เอาชีวิตประชาชนชายแดนใต้มาสุ่มเสี่ยงและเซ่นสังเวยต่อแถลงการโดยพลเอกเชษฐา รัฐบาลแต่งตั้งคนไม่เหมาะสมตามความสามารถเป็นรัฐมนตรี ขาดความใส่ใจในปัญหาของประชาชน มุ่งแต่จะแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่สังคมไม่ให้โอกาสแก่รัฐบาลชุดนี้แต่รัฐบาลชุดนี้วันๆเอาแต่สร้างเรื่องให้คนเคลือบแคลงไม่ไว้วางใจให้บริหารชาติบ้านเมืองอีกต่อไป   

เนื่องจากทักษิณไม่มีความรักประเทศชาติเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะเมื่อเข้าสู่ภาวะจนตรอก   เขาก็พร้อมที่จะทำร้ายสังคมแล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเขารักประเทศชาติได้อย่างไร เขาพร้อมที่จะทำให้สังคมเกิดความแตกแยกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและจะทำให้คุณค่าของทั้งกองทัพ สถาบันกษัตริย์ และสถาบันตุลาการลดลง โดยเขาบอกกับเพื่อนพ้องเขาว่า ถ้าเขาสามารถทำให้คุณค่าของ 3 สถาบันลดลงได้ เราก็จะสามารถครองประเทศไปได้อีกนานถึงแม้ว่าเขาจะกลับประเทศไม่ได้    บังเอิญมาอาศัยเกิดในแผ่นดินไทยเขาจึงทำร้ายประเทศไทยได้ถึงขนาดนี้ ทั้งโกงกินทุกรูปแบบอย่างที่หาตัวจับยาก เสียดายที่พ่อแม่เขาให้สมองที่ดีมาแต่ไม่ได้สอนลูกเรื่องคุณงามความดีเขาจึงคิดได้แต่วิธีโกงกิน  บ้านเมืองให้ครอบครัวตนเองและสร้างพวกพร้องลิ่วล้อร่ำรวยผิดสังเกต ต่างมียศมีตำแหน่ง ด้วยเงิน ยศตำแหน่งที่เป็นของแผ่นดินไทยเพื่อให้ลิ่วล้อพวกนี้ที่ไร้คุณธรรมเหมือนเขาเป็นกันชนของเขา    บัดนี้มีคนดีและกล้าหาญของแผ่นดินจับได้ไล่ทันและลงโทษมัน มันจึงต้องดิ้นรนสู้สุดฤทธิ์แบบหมาจนตรอกและยิ่งเลวกว่าหมาเสียอีกตรงที่หมามันยังรักเจ้าของรักคนที่เคยให้ข้าวปลาอาหารมัน แต่ทักษิณพจมานนี่อกตัญญู เนรคุณต่อแผ่นดินเกิดคิดแต่จะทำลายแม้มันอยู่นอกประเทศยังไปปลุกปั่นให้ฝรั่งตาน้ำข้าวตำหนิศาลยุติธรรมของไทย มันร่วมหัวกับเขมรฮุนเซ็นเอาแผ่นดินไทยให้แลกเปลี่ยนประโยชน์ส่วนตน ยุแหย่จ้างกลุ่ม นปช. ซึ่งคนไทยยากจนในประเทศให้มาทำลายล้างกลุ่มคนไทยที่ขวางทางของมันแล้วมันก็ตีปีกเดินจูงลูกสาวของมันเสวยสุขในลอนดอน เลวเสียจนหาที่เปรียบไม่ได้ 

เสียดายชาวเหนือชาวอิสานยังมีความรักทักษิณ แม้แต่พระก็ยังบอกทักษิณดี มีความสามารถ ไม่มีรัฐบาลชุดไหนทำงานได้ดีเท่านี้เมื่อถามพระท่านว่าแล้วที่เขาเป็นคนดีนักดีหนานั่นทำไมมีคดีโกงสารพัดคดีขึ้นศาลแล้วหนีคดีแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเขาถูกใส่ร้าย ศาลไม่ยุติธรรม แต่เชื่อเถอะคำสาบแช่งที่กึกก้องของคนไทยที่รักหวงแผ่นดินด้วยหัวใจ จะทำให้เขาและครอบครัวหาความสุขสงบไม่ได้ ไม่มีแผ่นดินอยู่ อยู่ที่ใดก็มีแต่ผู้คนรังเกียจขับไล่ พวกเรามีแต่ต้องจดจำไว้และนำไปสั่งสอนลูกหลานไทยว่า ลูกหลานไทยเอ๋ย จำไว้นะ เมื่อ ปี 49-50 มีคนไทยชาติชั่วขายชาติชื่อ ทักษิณ พจมาน... เขาทำร้ายประเทศชาติของเรา เขาเป็นคนฉลาดที่พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนเรื่องคุณธรรมไว้เขาจึงขี้โกงฉิบหาย....
..อย่าเอาเยี่ยงอย่างเขานะลูกหลานเอ้ย.. 

30 ตุลาคม 2551

ถึงสถานทูตอังกฤษ จี้ส่ง “แม้ว” กลับไทยรับโทษ / Letter to UK Ambassador from Thais



จดหมายกราบเรียน ฯพณฯ นายควินตัน มาร์ค เควลย์ เอกราชทูตแห่งสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เพื่อให้ส่งตัวนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน ทักษิณ และพจมาน ชินวัตร

วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ฯพณฯ ควินตัน มาร์ค เควลย์ เอกอัครราชทูตแห่งสหราชอาณาจักร ประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร, สถานทูตอังกฤษ 14 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330

เรา, พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชื่อว่ารัฐบาลของท่าน จะได้กระทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ได้ยินยอมให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วยภรรยา, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ลี้ภัยอยู่ในสหราชอาณาจักร เราขอให้ ฯพณฯ ได้ส่งผ่านจดหมายฉบับนี้ไปยังนายกรัฐมนตรี นายกอร์ดอน บราวน์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสหราชอาณาจักร เพื่อนำไปพิจารณาตัดสินใจอย่างรอบคอบ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อ้างว่าคำตัดสินจำคุกตัวเขานั้นไม่ได้อยู่บนหลักเหตุผลและมีแรงจูงใจทางการเมือง
โดยกลุ่มที่เป็นศัตรูต่อประชาธิปไตยจากคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย พบว่าเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ฝ่าฝืนกฎหมายในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในการช่วยเหลือคุณหญิงพจมาน ชินวัตรภรรยาของตัวเองในการซื้อที่ดินจากหน่วยงานของรัฐในราคาเพียง 1 ใน สามของราคาตลาดและได้ถูกพิพากษาให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ระบุในคำพิพากษาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กระทำความผิดต่อมาตรา 100 ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ศาลได้ระบุว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศ ต้องทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศและประชาชน แต่กลับไปกระทำผิดกฎหมายเสียเอง ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชิวัตรควรเป็นตัวอย่างที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต และประพฤติตนด้วยจริยธรรมทางการเมือง การตัดสินในกรณีของที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก คือคดีแรกที่ในหลายคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ถูกฟ้องร้องในกระบวนการยุติธรรม สำหรับคดีอื่นๆนั้นศาลฎีกาได้รับคดีเอาไว้พิจารณาแล้ว ดังเช่น คดีการออกสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว ของรัฐบาลที่กระทำมิชอบด้วยกฎหมาย คดีการปล่อยสินเชื่อกว่า 4 พันล้านบาทของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยให้รัฐบาลทหารของพม่าเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของครอบครัวชินวัตร คดีการแก้ไขนโยบายทางภาษีเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจในเครือ (ชิน คอร์ปอเรชั่น) และคดีการปกปิดทรัพย์สิน นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลอาญาได้พิพากษาคุณหญิง พจมาน ชินวัตร, พี่ชาย และเลขานุการ ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญาในกรณีการหลบเลี่ยงภาษีในการซื้อขายหุ้นมูลค่ากว่า 546 ล้านบาท และปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งในการอ่านคำพิพากษานั้น ศาลอาญาได้ระบุว่า คุณหญิงพจมาน ชินวัตร มีฐานะที่ดี อยู่ในสังคมชั้นสูง และมีสถานภาพทางการเมืองในฐานะเป็นภริยาของนายกรัฐมนตรี จึงควรกระทำให้เป็นตัวอย่างแก่สังคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวอ้างในคำขอลี้ภัยว่าเขาไม่ได้รับคำตัดสินอย่างเป็นธรรมในประเทศไทย ทั้งๆที่เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2551 ศาลฎีกาได้ตัดสินทีมทนายของทักษิณ 3 คนให้ได้รับโทษจำคุก 6 เดือน โทษฐานละเมิดอำนาจศาลในการติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาลระดับซี 7 โดยการนำส่งเป็นกล่องขนมที่บรรจุเงินจำนวน 2 ล้านบาท ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอ้างว่ากระบวนการยุติธรรมไม่มีความเป็นธรรม ทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกลับยื่นฟ้องร้องคดีความต่างๆต่อศาลไทยต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อ้างว่า ประชาชนที่ออกมาต่อต้านเขานั้นคือกลุ่มที่ไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่พรรคไทยรักไทยได้ถูกยุบพรรคเพราะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 กรรมการบริหารพรรค 111 คนซึ่งรวมถึง นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ถูกเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี แม้กระทั่งพรรคได้ถูกยุบไปแล้วแต่ทุกอย่างก็กลับมีความสลับซับซ้อนขึ้นยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า ตัวอย่างเช่น พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่พรรคไทยรักไทยของทักษิณตั้งขึ้นมาใหม่ ได้คุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร กลับถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานโกงการเลือกตั้ง ซึ่งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ถูกจับจากการบันทึกวีดีโอพบว่าได้จ่ายเงินให้กับกำนันหลายราย รายละ 20,000 บาท เพื่อจูงใช้ให้คนเหล่านั้นลงคะแนนและหาเสียงเพื่อรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้ง ปัจจุบันน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้ใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงดำรงตำแหน่งในรัฐบาล ตำแหน่งข้าราชการ และควบคุมธุรกิจที่สำคัญหลายแห่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศไทยและเป็นผู้ที่ทรงอำนาจที่สุด อย่างไรก็ตามเขากล่าวอ้างว่า “อภิสิทธิชนชั้นสูง” คือผู้ที่ได้ดำเนินการทำลายตัวเขา ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็คือผู้นำของกลุ่มอภิสิทธิ์ชนชั้นสูงจำนวนมาก ควบคุมและครอบงำประเทศไทยเสียมากว่า ประเทศไทย และสหราชอาณาจักร ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างยาวนานในทุกระดับและทุกมิติ ประเทศของเราทั้งสองไม่ควรที่จะยินยอมให้เรื่องส่วนตัวของคนๆหนึ่งให้มากระทบความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรไม่ควรที่จะนำผลประโยชน์ นำโอกาสที่จะขยายความร่วมมือกับประเทศไทย ไปแลกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะต้องถูกนำตัวส่งกับมาประเทศไทย ไม่ใช่เพียงเพื่อมาต่อสู้คดีความในชั้นศาลฎีการตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญยิ่งไปกว่าที่จะช่วยทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศมีอนาคตที่มั่นคง การตัดสินใจที่ผิดพลาดในส่วนของรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรมของสหราชอาณาจักร
จะทำให้การทำงานในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยประสบกับความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง เรา, พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดินจากสหราชอาณาจักรเพื่อมารับโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา ใช้เวลาในคุกและปรากฏตัวต่อศาลเพื่อต่อสู้ในคดีอื่นๆ ต่อไป ขอความกรุณาให้ขับไล่พวกเขาให้ออกจากสหราชอาณาจักร และส่งตัวผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินกลับมาประเทศไทย

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

Letter to His Excellency Mr. Quinton Mark Quayle, United Kingdom Ambassador to Thailand on the extradition of Thaksin and Pojamarn Shinawatra
October 30, 2008

His Excellency Quinton Mark Quayle Ambassador of the United Kingdom Thailand, Bangkok, British Embassy 14 Wireless Road Lumpini, Pathumwan Bangkok 10330

We, the People’s Alliance for Democracy, believe your government will be making a grave mistake by allowing former Prime Minister Thaksin Shinawatra and his wife, Pojamarn Shinawatra, asylum in the United Kingdom. We ask that you forward this letter to Prime Minister Gordon Brown and Members of Parliament in the UK and consider your decision carefully. Ex-Prime Minister Thaksin Shinawatra claims the charges against him are unfounded and politically motivated by “enemies of democracy”. In a landmark ruling on October 21, 2008, he was found to have violated conflicts of interest rules in helping his wife Khunying Pojamam Shinawatra buy land from a state agency at one third the market price and sentenced to two years in jail. According to the Thai Supreme Court’s Criminal Division for Political Office Holders, Thaksin was found guilty of breaching Article 100 of the National Counter Corruption Act by aiding his wife in 2003 while he was still Prime Minister. The court stated that as Thai Prime Minister, Thaksin had been entrusted to administer the state for the highest benefit of the state and the people, but instead chose to break the law. As the head of government, he should have set a good example, been honest, and behaved with good political ethics. The Ratchapisek land ruling is the first in a series of cases against Thaksin Shinawatra. Other cases still pending in the Thai Supreme Court are abuse of power allegations linked to a two and three digit government lottery scheme, abuse of power related to irregularities in a 4 billion baht loan given by state controlled Export Import Bank of Thailand to the military government of Burma which alleged to have benefited his family business, and amending tax policies to enrich his business empire (Shin Corporation), as well as concealing assets. In addition, on July 31, 2008 the Criminal Court sentenced Pojamarn Shinawatra to 3 years in prison for tax evasion over a 546 million baht transaction, and falsifying statements, and the same for her adopted brother, and her secretary with no probation. In its reading, the court reprimanded her, saying that with her high economic, social, and political status - as wife of the prime minister - she should have acted as a role model for society. Thaksin has claimed in his bid for asylum that he cannot receive a fair trial in Thailand, yet in June 2008, the Thai Supreme Court sentenced three lawyers working for him to a six-month jail term for trying to bribe a C-7 court official by presenting the official with a snack box containing two million baht. But at the same time, his lawyers are petitioning Thai Courts in several other cases while he claims the Thai Courts are unfair. Thaksin claims the people fighting against him do not believe in democracy, yet in May 2007 his Thai Rak Thai party was dissolved due to violating electoral laws (vote buying). 111 of the party’s executives including Prime Minister Thaksin Shinawatra were barred from voting and holding public office for five years. Even after his party was dissolved, things are, however, much more complicated. For instance, the People's Power Party, which is Thaksin's Thai Rak Thai party in a new guise, came close to controlling the majority in the House of Representatives and won the right to set up a new government, but not without controversy. People’s Power Party party executive and House Speaker Yongyuth Tiyapairat was found guilty of electoral fraud. Mr. Yongyuth was caught on video tape paying local village leaders 20,000 baht each to influence them in voting and canvassing for votes in their regions. His brother-in-law is now the Prime Minister. His close allies occupy key government and bureaucratic positions and control key businesses. He is still one of Thailand’s richest and most powerful person. However, he still claims that the “priveliged elite” is set to destroy him. In reality, it is he who is a leading member of the "various groups of privilege elites" that quite literally control Thailand. Thailand and Great Britain have long enjoyed close and longstanding relations at all levels and in all aspects. Our two countries should not allow an individual to test the strength of our partnership. More importantly, the British Government should not exchange its broader national interests and opportunities to expand its cooperation with Thailand for Thaksin. Thaksin Shinawatra must thus be brought back to Thailand not simply to face the Supreme Court's ruling but also, and more importantly, to help secure the future of justice in the country. A wrong decision on the part of the British government and judiciary system will help make the functioning of justice in Thailand difficult. We, the People’s Alliance for Democracy, call for the extradition of Thaksin and Pojamarn Shinawatra from the United Kingdom in order to face the guilty verdict and serve time in prison and appear in court for the other charges against them. Expel them from the UK and return these fugitives to Thailand.

The People’s Alliance for Democracy

28 ตุลาคม 2551

ระบอบเสรีประชาธิปไตย ประชาชนพลเมืองไทย นักการเมืองไทย / Shame to interpret

"ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้" พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2512

การปกครองตามระบอบเสรีประชาธิปไตยกำหนดไว้ชัดเจนว่า ประชาชนพลเมืองคือผู้มีอำนาจคัดสรรผู้อาสาเข้ามาเป็นผู้ปกครองและมีสิทธิปลดผู้ปกครองที่ฉ้อฉลได้โดยทันที อำนาจอันสูงส่งที่กล่าวมานี้ช่างเป็นนามธรรมเสียเหลือเกิน เพราะในความเป็นจริงแล้วคนไทยมิเคยตระหนักในอำนาจ หน้าที่ สิทธิและเสรีภาพของตนเอง นักการเมืองไทยประเภทฉ้อฉลโกงกินและไม่หวังดีกับประชาชนจะพูดปดตลอดเวลา นักเลือกตั้งตีค่าประชาชนเป็นแค่เพียงหมากตัวเล็กๆบนกระดานแห่งอำนาจ นักเลือกตั้งจงใจละเลยและไม่เคยให้ความสำคัญกับประชาชนพลเมือง หลายต่อหลายครั้งเรามักจะได้ยินคำหวานจากนักเลือกตั้งที่กล่าวยกย่องสรรเสริญประชาชน แต่คำกล่าวแค่เพียงลมปากของนักเลือกตั้งมิได้แสดงความจริงใจว่าเขาตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของประชาชนเขาใช้ประชาชนเป็นสะพานเพื่อเหยียบแล้วก้าวไปสู่ยอดพีระมิดแห่งอำนาจและผลประโยชน์เท่านั้น และอีกหลายต่อหลายครั้งที่ประชาชนถูกแอบอ้างชื่อเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมหรือล้างรอยมลทินของนักเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจที่นักการเมืองจำพวกนี้จะพูดความจริงแค่เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นเพราะเขาขาดความเข้าใจที่แท้จริงว่าประชาธิปไตยคืออะไรแต่ที่สำคัญที่สุดคือคนเช่นนี้มีเจตนาบิดเบือนความจริงเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์สูงสุด คนไทยถูกล้างสมองโดยนักเลือกตั้งตลอดเวลาว่าเรื่องของการบ้านการเมืองการปกครองประเทศชาติและการกำหนดนโยบายสาธารณะเป็นเรื่องของนักการเมืองเท่านั้น ประชาชนมีหน้าที่แค่เพียงไปลงคะแนนเลือกตั้งคนไทยกลายเป็นคนที่จะได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญก็แค่เพียงช่วงก่อนวันเลือกตั้งเท่านั้น เมื่อพ้นวันเลือกตั้งไปแล้วอำนาจทุกอย่างก็หลุดจากมือประชาชนไปเป็นของนักเลือกตั้ง

เรื่องที่น่าเจ็บปวด น่าสังเวชเช่นนี้คนไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจต่างซาบซึ้งเป็นอย่างดี (แต่ทุกคนก็ไม่พูดหรือบางคนอยากจะพูดแต่สุดท้ายก็ถูกห้ามพูดห้ามเรียกร้อง ประชาชนรู้ดีว่านักการเมืองยึดอำนาจทั้งหมดไปจากตนเองเจ้าของอำนาจกลายเป็นผู้ถูกกระทำแต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าคือผู้กระทำย่ำยีประชาชนคือผู้ที่ประชาชนเลือกเขาไปเป็นผู้แทนนั่นเองแม้จะรู้ดีว่าตนเองถูกกระทำแต่ประชาชนก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ) เกิดขึ้นในเมืองไทยมาตั้งแต่บ้านเมืองของเราเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อพ.ศ. 2475 การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเปรียบเสมือนการยินยอมยกอำนาจอธิปไตยทั้งหมดให้กับคนเพียงหยิบมือเดียวแล้วคนเพียงน้อยนิดกลุ่มนี้ก็อ้างแบบหน้าไม่อายว่าเป็นตัวแทนของประชาชนที่ให้อำนาจตัดสินใจแทนประชาชนได้ทุกเรื่องโดยไม่เคยหันไปถามประชาชนว่าต้องการหรือไม่ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนไทยต้องตระหนักในอำนาจ-หน้าที่-สิทธิและเสรีภาพของตนเอง เราต้องบอกตัวเองและสอนลูกหลานของเราให้รู้ว่าอำนาจของประชาชนมิใช่นามธรรมแต่เป็นความจริงที่เราสัมผัสได้เราทุกคนต้องพิทักษ์รักษาอำนาจสูงสุดของประชาชนไว้

... ตัวอย่างหนึ่ง ...
.....ในวันวาน .....

เมื่อเวลา 13.30น.วันที่ 28ตุลาคม ที่รัฐสภามีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาประเด็นกรอบเจรจาข้อตกลงชั่วคราวเขตแดนพิพาทไทย-กัมพูชาโดยมี นายชัย ชิดชอบประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานที่ประชุมมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 399 คน ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่พรรคพลังประชาชนจุดไฟป่วนสภาขอหารือให้ตรวจสอบการที่สมาชิกรัฐสภาพาบุคคลภายนอกเข้าร่วมประชุมในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาจนเกิดเหตุการณ์ตำรวจเข้าสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงระบบการรักษาความ
ปลอดภัยของรัฐสภาที่หย่อนยานมากขอให้ประธานกำชับให้ สส.และสว.เท่านั้น ที่สามารถเข้า-ออก บริเวณชั้น 2 ของอาคารรัฐสภาได้ สิ้นเสียงขอหารือเรื่องดังกล่าวทำให้น.ส.รสนา โตสิตระกูล สว.กทม.ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่าสภาของผู้ทรงเกียรติควรพิจารณาในส่วนของตัวปัญหาการเกิดเหตุขึ้นมาตนก็ได้ร้องเรียนไปเช่นกัน ขอให้ประธานบอก สส.มาล้อมตัวตนเพราะสภาไม่ใช่ศาลเตี้ยจะตัดสินทุกอย่างด้วยตัวเองและขอเรียนว่าตนไม่เคยพาผู้ติดตามเข้ามาในห้องประชุมสภาแม้แต่ครั้งเดียวแต่ในเหตุการณ์วันนั้นเมื่อตนถูกส.ส.รัฐบาลรุมล้อมผู้ติดตามของตนจึงเข้ามาภายในห้องประชุม สส.พลังประชาชนรุมกินโต๊ะโห่ร้องด้วยความไม่พอใจจากบริเวณที่นั่งของสส.พรรคพลังประชาชน ประธานในที่ประชุมพยายามไกล่เกลี่ยนายชัยถึงกับวิงวอนว่า"ขอความกรุณาสงสารผมที่นั่งอยู่ที่นี้บ้างเถิด"


นายวรินทร์ เทียมจรัสสว.สรรหากล่าวว่าตนได้ยินเสียงคุกคามมาจากส.ส.ที่นั่งด้านหลังว่า เดี๋ยวจะมาเตะ สว. ซึ่งนส.รสนาได้ยืนยันคำพูดของนายวรินทร์ คนที่พูดคือนายการุณ โหสกุลสส.กทม.พรรคพลังประชาชน ปรากฏว่าบรรยากาศเริ่มเข้มข้นมากยิ่งขึ้น นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ลุกประท้วงว่าการพูดในสภามีการถ่ายทอดเสียงออกไปถ้ามีการพูดว่าเตะกันในสภาจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียมากซึ่งสภาต้องเป็นแบบอย่างให้กับการประชุมต้องเอาความจริงมาพูดกัน

นายสมชาย แสวงการสว.สรรหากล่าวยืนยันว่าตนนั่งอยู่ข้าง นส.รสนาได้ยินและเห็นพฤติกรรมของ ส.ส.คนดังกล่าวขอให้ประธานชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยเพราะ ส.ว.จำนวน 150 คนเป็นผู้มีเกียรติและยืนยันว่านายการุณเป็นคนพูด

นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์สส.แม่ฮ่องสอนพรรคพลังประชาชนกล่าวว่า ไม่มีใครคุกคามสว.ในที่นี้ คุณรสนาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ใครจะทำอะไรได้ สามารถเดินเข้า-ออกสภาได้สบายๆในขณะที่พวกเราจะเข้า-ออกสภาก็ไม่ได้จึงต้องมีการสลายการชุมนุม

นายการุณชี้แจงว่าเนื่องจากมีผู้อภิปรายในการประชุมวันดังกล่าวแต่น.ส.รสนาลุกขึ้นมาพูดทะลุกลางปล้อง ตนจึงได้พูดกับเพื่อน สส.ที่นั่งอยู่ข้างๆว่ามายุ่งอะไรด้วย ตนพูดคุยกันในกลุ่มไม่ทราบว่าน.ส.รสนา แว่วเสียงหรือกลัวเงาตัวเองหรือเปล่า

นายสมชาย สว.สรรหาลุกขึ้นย้ำว่า"ผมได้ยินจริงๆว่า นายการุณพูดเดี๋ยวจะเตะสว.และสว.ที่ถูกคุกคามก็เป็นผู้หญิงด้วย"พร้อมทั้งหันมาถามเพื่อนสมาชิกสว.ที่นั่งอยู่ใกล้กันว่าใครได้ยินบ้างปรากฎว่ากลุ่ม สว.ที่นั่งตรงนั้นสว.นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหาได้ยกมือขึ้นพร้อมกับเพื่อนสว.อีกหลายสิบคน

นายอดุลย์ ส.ส.แม่ฮ่องสอนได้พยายามชี้แจงแทนนายการุณ ว่านายการุณพูดจริง แต่พูดว่าทำไมสว.ต้องมาพูดพาดพิงแบบนี้น่าเตะจริงๆ

นายสมชาย สว.สรรหาได้ตะโกนด้วยเสียงดังว่า สภาไม่ปลอดภัยแล้ว

นายชัยพูดตัดบทด้วยความไม่พอใจว่า"ขอให้ที่ประชุมยุติในเรื่องนี้คุณการุณก็เลิกใจร้อนได้แล้วเพราะถ้าคุณใจร้อนแบบนี้ สภาคงให้คุณร่วมประชุมด้วยต่อไปไม่ได้"

ด้านนายการุณ พยายามขอชี้แจงอีกครั้งว่าถ้าไม่ติดว่าประธานวิปฝ่ายค้านพูดพาดพิงให้ประธานตำหนิตน เมื่อถูกพาดพิงตนก็มีสิทธิพูด เพราะตนพูดอยู่ในหมู่เพื่อนพ้องแต่มาถูกก้าวล่วง

นายชัย เกรงสถานการณ์จะบานปลายได้ขอให้นายการุณนั่งลงพร้อมกับกล่าวว่าสภาจะมาเตะกันไม่ได้ ทำไมทำเรื่องเล็กๆให้เป็นเรื่องใหญ่จากนั้นเหตุการณ์จึงสงบลง

สำหรับนายการุณนั้นก่อนหน้านี้เคยสร้างความอื้อฉาวหลายคดีเกี่ยวกับการใช้กำลังความรุนแรงเข้าตัดสินปัญหาโดยเฉพาะเคยมีเรื่องโดดถีบนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์สส.สัดส่วนพรรคประชาธปัตย์หลังจากไม่พอใจที่นายสมเกียรติไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯจนมีการแจ้งความดำเนินคดีกันมาแล้ว กลุ่มชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีไทยนำโดย นส.ทัศนา บุญทองรองประธานวุฒิสภาคนที่สองนำสส.และสว.หญิงจำนวนกว่า 12 คนร่วมแถลงข่าวประกาศเจตนารมณ์ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบทั้งคำพูดและการกระทำโดยขอให้ทุกฝ่ายเคารพและตระหนักในสิทธิของตนเองและผู้อื่นพร้อมไม่ลบหลู่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกรูปแบบ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเสียเวลาถกเถียงกันในเรื่องนี้นานประมาณ 30นาทีก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมกรอบการเจราข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชาเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทยบริเวณเขาพระวิหาร

นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน(พด.) พร้อมด้วย สส.กลุ่มวังพญานาคร่วมแถลงข่าวว่านายประสงค์ โฆษิตานนท์เป็น รมช. มหาดไทย (มท.3) ได้ขอลาออกจากจำตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปโดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพไม่สามารถปฏิบัติราชการได้เต็มประสิทธิภาพ และได้แสดงใบลาออกจากตำแหน่งของนายประสงค์ที่เขียนด้วยลายมือด้วยโดยลงวันที่ 28 ตุลาคม นพ.อลงกต กล่าวเสริมว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมและมีมติเสนอชื่อนายไชยยศเป็นรมช.มหาดไทยแทนนายประสงค์ซึ่งไม่ได้ถูกกดดันจากพรรคแต่อย่างใดทั้งนี้หัวหน้าพรรคได้ทำหนังสือเสนอชื่อตนขึ้นเป็นรมช.มหาดไทยแล้ว

นายประสงค์ให้สัมภาษณ์ความจริงจากปากเรื่องการลาออกจากตำแหน่ง ยังสับสนกับข่าวที่เกิดขึ้นเพราะตนไม่มีปัญหาด้านสุขภาพเลยและไม่เคยคิดจะลาออกจากตำแหน่ง เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าถูกนายไชยยศตีหัวเข้าบ้านใช่หรือไม่ รมช. มหาดไทยยอมรับทันทีว่าใช่

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมครม.ว่าอนุมัติแต่งตั้งนายเฉลิมชัย มหากิจศิริเป็นรองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมืองโดยมีตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกฯพร้อมอนุมัติแต่งตั้งนายวัน อยู่บำรุงเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

จากเรื่องเล่าข้างบน เราพบว่า ...
  • กิริยาส่อสถุล
  • พวกมากลากไป
  • อันธพาล กร่างทั้ง ใน และ นอก สภา
  • ยื้อแย้ง วิ่งราวตำแหน่งแห่งหนกันเอง
  • พวกกันปันเก้าอี้ให้ พวกอื่นยืนกันไปเหอะ
  • เจ้าของอำนาจที่แท้จริงได้แต่นั่งดูความริยำตำบอนที่ปรากฏเป็นเกียรติ เป็นศรีแก่รัฐสภาของผู้ทรงเกือกกันต่อไป
เฮ้อ

การประกาศสงครามประชาชน, People Civil War

การประกาศสงครามประชาชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดขึ้นของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ออกมาต่อสู้ และกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาในหลากหลายชื่อและไม่ทราบแหล่งที่มาชัดเจน เพื่อต่อต้านพันธมิตรฯ ทำให้ประชาชนแตกแยกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน สังเกตถึงการก่อเกิดของกลุ่มก๊วนต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงนี้ น่าจะเป็นแผนการเดินเกมเอาคืนของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยกตัวอย่างการเกิดขึ้นของสำนักคิดไทยใหม่ มีการบริจาคเงินเข้าบัญชี เหมือนกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเตรียมไว้ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางประวัติศาสตร์

People Civil War was announced since Thaksin distributed his Oct 23rd letter, there are 2 groups who wear yellow and red clothes. Lots of gangsters were established in this moment in Thailand. Some press was established and is asking for donation, it is possible that the press requires money for the historical interchange.

นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาเปิดโปงสาธารณะรัฐสยามใหม่ที่มีการเปิดเว็บไซต์และความเคลื่อนไหวทางการเมืองใต้ดิน นายกษิต ภิรมย์อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศกล่าวไว้เมื่อ 4-5 วันก่อนที่ออกมาถามประชาชนว่าเราจะยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานาธิบดีจริงหรือ ทั้งนี้มีการพบว่าช่วงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามออกข่าวอย่างหนักเพื่อโหมกระแสการลี้ภัย โดยพุ่งเป้าโจมตีชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ ผ่านสื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากพิจารณาดูก็จะรู้ว่า ชนชั้นสูงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พุ่งเป้าโจมตี หมายถึงใคร นอกจากนี้ยังมีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประกาศต่อสู้กับทุกกลุ่มที่จาบจ้วงละเมิดสถาบันและทำให้ทรงระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และทำการเขียนหนังสือออกมา แต่อีกไม่กี่วันก็เข้าร่วมกับรัฐบาลสมชาย แล้วทำเป็นลืมว่าได้ทำอะไรไป

Pichet Pattanachote, the former senate's vice president, told there is some web sites announced Republic of Thailand and underground actions were made continously.

Kasit Pirom, the Thailand's ex-embassador ( in several countires ) asked publically "Do we accept Thaksin, the first Republic of Thailand pressident?". Thaksin hardly try to flee, and complaint Thailand's high society people throughout both international and local presses. Let see who is he talking about. Col-LT Gen Chavalit Yongjaiyuth had interviewed to fight whoever prohibits the monarchy and wrote his book, and then he joined Somchai's cabinet and forgot everything then.

หลังจากศาลอาญารัชดาฯ มีมติ 6 ต่อ 3 อนุญาต พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวตระกูลชินวัตรก็บินไปจีนและถือโอกาสหลบหนีไปลอนดอน โดยไม่มารายงานตัว พร้อมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 11 ส.ค.51 ที่บอกว่า วันนี้ไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนผมทุกคนอดทนรออีกนิดนึง และแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย 23 ต.ค.ก็เหมารวมทั้งหมดว่า เป็นประชาชนของผม

After the Criminal Court sentenced Thaksin's wife, to flew away Thailand, they left forever. Thaksin issued his first letter, to tell his roots - it is not his day, please be patient. The second one was distributed on Oct 23rd, Thaksin beats about the bush, Thais belongs to him. (I donot think I am his - Noted by writer)


นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีข่าวอื้อข่าวในการโจมตีสถาบันมาโดยตลอด ซึ่งในช่วงนี้ ก็มีการเขียนบทความเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ออมาถึง 5 ตอน พอถูกพันธมิตรเอามาเปิดโปง ก็เลิกเขียนและแอบไปหลบอยู่ในซอกหลืบแห่งหนึ่งในประเทศไทย พร้อมระบุว่า คนที่ใช้ชื่อกาหลิบใน น.ส.พ.โลกวันนี้ ก็คือนายจักรภพ หากเสร็จภารกิจแล้วคงต้องไปดื่มน้ำสะอาดกันสักครั้งหนึ่ง

Thaksin's root, Chakapob Phenkae, a former minister has the bad news about the monarchy throughout some few years later. On the week of our high majesty the queen's birth day this year, Kalib wrote his columns for 5 times and PAD informed publicly Kalib is Chakapob, so he was absent without bravery immediately.Kalib wrote his in LokWanNee. His messages are
1) complaint PAD which is Thai Red Cross's snake under the support of our High Majesty the king, is this his directly publishing to his target?
2) support Thaksin for fighting outside Thailand and it is more simple than fighting locally.
3) be a primeminister is so luxury, smart and has to do nothing. Which one work so hard, might be in dangerous, make someone conflict.
4) broadcast in Channel 11 (NBT) "from now on, PAD is not the target to discuss, but the PAD's owner is the significant one."

How do clearly he and his daddy need?
What is danger that Thaksin is afraid, which is his flee's cause. Which PAD/ Corruption detected/ Merit he afraid.

He can return after 10-15 years long, Thailand supposes he comes and gives Thailand turns for sure.

การที่นายจักรภพบอกว่าการเป็นนายกให้โก้หรูดีกว่า ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวจะเดือดร้อน ทำตัวเด่นจะเป็นภัย กระเทือนซางใครบางคน นอกจากนี้นายจักรภพ ได้ออกรายการของคนเสื้อแดงที่สถานีเอ็นบีที โดยบอกว่าต่อไปจะม่คุยกับแกนนำพันธมิตรฯ แต่จะขอคุยกับเจ้าของพันธมิตรตัวจริง ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า คนพวกนี้กำลังหมายถึงใคร อยากทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะลี้ภัยนั้น ถามว่าลี้ภัยอะไร หรือเป็นภัยจากพันธมิตรฯ และการโกงชาติบ้านเมือง ภัยจากฝ่ายธรรมและพลังทางศีลธรรม คงต้องใช้เวลานานนับ 10 ปี และหากเขากลับมาได้ เขาต้องชำระประวัติศาสตร์ใหม่แน่นอน

26 ตุลาคม 2551

ท ทหารอดทน -- Thai's patient soldiers

“กองทัพ” สุดทน “แก๊งหมิ่นเบื้องสูง” สั่ง “ทุกหน่วย” หากพบพฤติกรรมหมิ่นเหม่ให้ประสาน ตร.ปฏิบัติการขั้นเฉียบขาดทันที เตือน “ไอซีที” เร่งจัดการ “เว็บไซต์” จาบจ้วงสถาบัน ย้ำ “ทหาร” ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ลั่นพร้อมป้องกันเหตุนองเลือดก่อน 1 พ.ย.นี้ หลัง “แม้ว” ประกาศโฟนอินเป่าหู “สาวก” ข้ามประเทศ

The royal Armies stops being patient in whoever prohibited our high majesty the king and his family. They announces all actions must be reported to the Royal Thai Police Bureau, and ICT has to fix the problem websites. They also informed they can not concern to politic at all.

ท ทหาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว .... และพระราชินี ..... ต้องช่วยปกป้อง ราชวงศ์ และบัลลังก์ ..... ทุกวันนี้ ต่อมกระตุ้น ความสำนึกของ รัฐบาล พปช และ นปก นปช นั้น ...... ยังมีความจงรักภักดีหรือ ..... มีการปราศรัย และการกระทำเกินขอบเขต ..... เยี่ยงกบฎ เพราะ การกระทำหมิ่นราชวงศ์ ก.ม. ถือว่าเป็น กบฎ แต่หลายฝ่ายยังนิ่งเฉย โดยเฉพาะ นช. ทักษิณ, ดา ตอปิโด, สุชาติ ธาดาธำรงเวช และFM 87.75 ช่วง 18.00 - 19.00 น.มีพิธีกรที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์ชูพงศ์กับผอ.ไกรวัลพูดจาบิดเบือนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ต่างๆเพื่อเข้าข้างรัฐบาลและหมิ่นสถาบันทุกวัน ล่าสุดชูพงศ์ชวนให้ผู้ฟังและนปก.ไม่ให้เคารพระบบตุลาการเพื่อต่อต้านการตัดสินของศาล มันมาจากไหนมันคือใครบ้านมันอยู่ไหนช่วยกันแฉมันหน่อยม้นจะได้หยุดปลุกปั่นหลอกลวงรากหญ้าซะที อีกหลายคนนี้ร่วมวงที่ท้องสนามหลวง ...... ชนเหล่านี้ กองทัพ ท ทหาร เห็นควรทำยังไง ล่ะ ทุกวันนี้ รัฐบาลทำทองไม่รู้ร้อนเหมือนรู้เห็นเป็นใจเรื่องหมิ่นสถาบันตำรวจก็เตะถ่วง...ดองเรื่องอยู่นั่น ขอฟ้าจงบันดาลให้เกิดเหตุแบบเดียวที่นายชะล้าง บุญน้อยเอ้ยสล้าง บุนนาคโดน 22 ตค 51 คือ ฟ้าผ่าติดกัน 7 ครั้ง ลงเต็นพิธี จนหลังคาทะลุ ตำรวจต้องช่วยกันจับเหล็กโครงสร้างที่ขย่ม หล่นใส่หัวหมูพิธีกระเด็น อีกอันหล่นใส่รถตู้สีดำของนายชะล้างพังยับเยิน พระที่นั่งห่มเหลืองเปียกจีวรถลก เห็นกางเกงขาสั้นสีขาว พอคนเห็น ก็ลุกไปถอดจีวรออก ใส่เสื้อชุดขาวแทน พวกนปก.มันเล่นพิเรน ได้ปานนี้

Correct, the armies are the first significant ones to protect the dynasty. Almost Thais think todays that P(eople)P(ower)P(arty) and its gangsters which wear RED are confused in their respect to the dynasty. Their speeches, actions, both direct and in-direct actions were expressed in several formats, times, and so on. Even the illegal incidents came out frequently, almost concerned offices are still be freezed. Prisoner Taksin, Da Torpido, absence Suchart Tadatham... are the example of who prohibited the dynasty, and what is the armies' actions while the government and police keep silence.

If it is possible, would they get like what Salang Bunnag got thundered for 7 times at this desk during his pray in Oct 22nd, near the king RAMA V's monument. The hut were broken to hit his car. All of his artificial monks were found that they wear short, de-wore monkhood sheets to wear usual men's wear. Is there any tricky action secretive.

แต่ไอ้พวกที่มันออกมาพูด มาโพสต์อะไรเนี่ยนะ ไม่น่ากลัวหรอกเพราะมันก็แค่ หมากเบี้ย กระจอกๆตัวนึงเท่านั้น แต่ไอ้พวกอยู่ข้างหลังที่คอยส่งท่อน้ำเลี้ยงกับไอ้พวก คอยดำเนินการนี่สิ ถ้าจะจัดการจริงๆต้องเล่นงานคนพวกนี้เพราะถ้าท่อน้ำเลี้ยงโดนจัดการทุกอย่างก็จะหายหมดไปเอง จะจับโจรต้องจับหัวหน้าโจรนะ

The focal point is the guy who has employed them, the naughty teams. If the guy was stopped, so everything would be fine.

ส่วนอีกเรื่องที่อยากฝากไว้คือเรื่องธรรมกาย ลองไปพิจารณาดูว่าธรรมกายมันน่ากลัวขนาดไหนไม่มีความรุนแรงแต่เป็นเหมือนมะเร็งที่เพาะเชื้ออยู่ภายใน เน้นให้คนทำสมาธิแล้วก็อุปโลกน์ว่านั่นคือแนวทางของธรรมกายซึ่งการนั่งสมาธินั้นก่อเกิดความสุขสงบนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของพระพุทธศาสนา สมาธิคือการรวมจิตไม่ให้ฟุ้งซ่านเมื่อจิตไม่ฟุ้งซ่านจิตย่อมเกิดพลัง เมื่อจิตเกิดพลังกำลังใจย่อมกล้าแข็งทำให้คนกล้าสู้กับอุปสรรคซึ่งมันก็ถูก แต่ที่สำคัญคือเล่นอุปโลกน์เรื่องทั้งหมดว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของดวงแก้วอะไรนั่นสิน่ากลัวโคตร ทำให้คนหลงติดงมงาย และมีการชักชวนบริจาคกันอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งบริจาคมากยิ่งได้บุญมากน่ากลัวมากเลยลัทธินี้มันจะทำลายเศรษฐกิจพื้นฐานของครอบครัว เมื่อพื้นฐานครอบครัวพังก็อย่าไปคิดเลยเรื่องอื่น พังกันหมดแน่นอน

Thammakai is the one that we should be aware. It is terrible for Thai society, with peaceful. However there is something in Thammakai's peaceful. It uses LuangPorSod as its selling point to have people merit with it as well as other buddha places. BUT Thammakai refers the high merit's meditation, is from its glass ball. The believe made people crazy and donated all their assets without consciousness. If the family's economy was broken and how can we expect the broken family to develop our society.