18 เมษายน 2552

ใจมันอำมหิต

ในค่ำคืนวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมาพลเอกป๊อกแป๊กยั่วยุพันธมิตรที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำยำยีจากทรราชและตำรวจไทยมาตั้งแต่เช้าจนเย็น พันธมิตรที่กำลังโกรธแค้นแบบเงียบๆ พร้อมกับตอกย้ำความโกรธแค้นเข้าไปอีกด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทหารออกมาช่วยตำรวจอย่างจงใจ สั่งทหารเกณฑ์ผลัดแรก ออกมาอยู่ข้างตำรวจและก็บอกเราเป็นนัย ๆ ว่าทหารเหล่านั้นไม่มีอาวุธก็เพื่อว่าหากเราก่อการจลาจลหรือเข้าทำร้ายทหาร เราจะไม่ได้รับการโต้ตอบทันทีทันใดมีเวลาหนีได้แล้วคนที่อยู่ในที่ชุมนุมกับแกนนำของเราก็ย่อมน้อยลงไปด้วยเป็นการเปิดโอกาสให้ตำรวจเข้าถึงแกนนำได้ง่ายดาย และในเย็นวันนั้นก็มีคนแอบอ้างว่าสงสารพันธมิตรและนำรถเมล์มาให้การ์ดพันธมิตรโดยที่ไม่แจ้งแกนนำอย่างเป็นทางการ จุดประสงค์คือความต้องการให้พันธมิตรเคลื่อนไหวป่วนเมืองได้ง่ายขึ้นตามแผนของเขานั่นเอง เพราะพันธมิตรไม่มีอะไรเป็นอาวุธเลย ไม่มีรถใช้และหากจำเป็นเราก็ขอบริจาคตามความจำเป็นเท่านั้น ฟรีทีวีก็สอดรับประโคมข่าวว่าพันธมิตรได้ยึดรถเมล์เตรียมเผาเมืองในค่ำคืนนั้นเพื่อประโคมข่าวบิดเบือนเหมือนเริ่มปูทางสร้างความชอบธรรมให้ทหารในการสลายพันธมิตร ในคืนวันนั้น จะตายอีกเท่าไหร่ก็จับมือใครดมไม่ได้ แกนนำพันธมิตรจึงขึ้นประกาศทันทีว่าให้ขสมกมาเอารถเมล์กลับไปและพันธมิตรไม่เกี่ยวข้อง แผนการในขั้นนี้ก็พลาดอีกจนได้

ในวันนั้นหลังจากที่พันธมิตรเผาเมืองก่อการจลาจลเข้าทางพลเอกป๊อกแป๊กแล้ว ก่อนที่ทหารและตำรวจจะเข้าปราบพันธมิตรเขาจะประกาศก่อนว่าจะเข้าสลายอย่างเด็ด ขาดอ้างหลักสากลเพื่อทหารหรือตำรวจจะได้มีความชอบธรรมเข้าสลายคล้ายๆการสลายม๊อบเสื้อแดงที่ผ่านมาแต่อาจถือโอกาสฆ่าแกนนำได้ตอนนั้น ภายหลังควบคุม เหตุการณ์ได้แล้วทหารก็กลับเข้ากรมกองปล่อยให้ตำรวจควบคุมสถานการณ์ต่อไป แล้วจับแกนนำที่ยังไม่ตายขังคุกหรืออาจไม่มีใครรอดชีวิตเลย ส่วนพลเอกป๊อกแป๊ก ก็จะเสแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยการเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ตามแผนที่ได้ถูกวางไว้แล้วล่วงหน้าเพื่ออ้างว่าทหารไม่ได้ทำการปฏิวัติแต่อย่างใดเป็นการเปิดโอกาสให้ทักษิณกลับเข้ามาปกครองไทยอีกครั้ง

หลังจากที่แผนไม่เดินตามที่พลเอกป๊อกแป๊กวางไว้และแรงสังคมด่าพลเอกป๊อกแป๊กมากเข้าๆพลเอกป๊อกแป๊กเลยกลับลำออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ข้างประชาชน แต่พลเอกป๊อกแป๊กจึงให้สัมภาษณ์แบบอยู่ตรงข้ามกับพันธมิตรอย่างเห็นได้ชัด ขนาดตำรวจยิงทหารพยาบาลทหารของพระราชินี หรือกุ๊ยนปช.รุมกระทืบสายข่าวซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพลเอกป๊อกแป๊กทำไมพลเอกป๊อกแป๊กยังเฉยได้และตำรวจก็ยังไม่เกรงพระบารมีเลย

ในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ประธานรัฐสภาหลุดปากให้ข่าวสื่อมวลชนก่อนก๊วนเสื้อแดงถล่มโรงแรมที่พัทยาว่าอีกไม่นานจะมีคนที่เป็นกลางที่ทุกคนยอมรับมาไกล่เกลี่ย คนๆนี้ก็เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีที่แม้จะเป็นผู้นำประเทศแต่ก็แทบเอาชีวิตตัวเองไม่รอดถูกไล่ตีเหมือนลูกเป็ดที่เมืองพัทยา เสียท่าที่คล้อยตามเนวินไปประชุมผู้นำฯที่เมืองพัทยา คนดีๆมีอยู่มากทั้งในทั้งนอกพรรคไม่เชื่อแต่ไปเชื่อ การที่ให้เนวินจัดการเสื้อแดงด้วยเสื้อน้ำเงินพวกไม้มาคนละอันแล้วผลออกมาเป็นอย่างไรแถมทหาร ตำรวจใส่เกียร์ว่างให้กลุ่มเสื้อแดงเข้าประชิดตัว เมื่อสถานการณ์ไม่ค่อยดีนายอภิสิทธิ์ได้ขอให้พันธมิตรฯ ช่วยซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ได้ร่วมประชุมตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือ แต่นายอภิสิทธิ์กลับไปพึ่งพาเนวินแทนสุดท้ายได้กลุ่มเสื้อน้ำเงินออกมาปะทะเจอก้อนหินเสื้อแดงก็วิ่งหนีแล้ว โดยเนวินปรากฎตัวพัทยานักข่าวถ่ายซ้อนมอไซค์อย่างง่ายดายแต่งตัวซะมีพิรุธอย่างจงใจทั้งที่ปกติงานแบบนี้ให้ลูกน้องทำ ไม่ได้ทำเอง

เหตุการณ์ที่เกิดในกระทรวงมหาดไทยมาทบทวน-ไล่เรียงดู เรื่องราวเป็นยังไงทำให้ต้องไปแถลงข่าวที่มหาดไทย มีใครไปบ้าง การไปมีใครรู้บ้าง ตอนเกิดเหตุมีใครถูกเสื้อแดงทุบ มีใครไม่ถูกทุบ อภิสิทธิ สุเทพ โดนไล่ทุบรถ นิพนธ์ปางตาย นายกบอกว่า ถูกรถทหารมาขวางไว้ตอนที่รถจะออกจากกระทรวงมหาดไทย การประกาศ พ.ร.ก.การบริหารประเทศในภาวะฉุกเฉินร้ายแรงในวันที่ 11และ12 เมษายน ซึ่งวันนั้นเองหน่วยไล่ล่าข่มขู่จะลักพาตัวนายกรัฐมนตรีขณะไปประกาศแถลงการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย จึงไปดักรอด้วยกำลังพลมากพอที่จะสยบหน่วยรักษาความปลอดภัย และทุกอย่างเป็นไปตามแผนกลุ่มแกนนำที่ต้องการจับตัวนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นตัวประกันแล้วบังคับให้ลาออก แต่พระสยามเทวาธิราชคุ้มครองนายอภิสิทธิ์จึงรอดจากการถูกจับตัว แต่รปภ.ถูกทำร้ายและถูกทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ถูกพวกอมนุษย์รุมทำร้าย และนำไปประจานที่ทำเนียบฯ เป็นที่ประจักษ์ บุคคลที่เคราะห์ร้ายมากกว่าคือ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขานุการนายกรัฐมนตรีที่ไม่สามารถหนีออกไปได้ ถูกรุมทำร้าย และทำทารุณไร้มนุษยธรรม แต่ชวรัตน์และบุญจงเด็กเนวินบอกหลบอยู่ในห้องๆหนึ่งจึงรอดมาได้สบายๆ และหน่วยรักษาความปลอดภัยเป็นหน่วยไหน ใครจัดมาให้ท่าน ต่างๆ นานามันเป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบทั้งนั้นว่าเรื่องบัดสี-หยาบช้านี้เกิดขึ้นกับผู้นำประเทศได้อย่างไร? ทหาร ตำรวจ ที่ใส่เกียร์ว่างเพื่อต้องการเอาชีวิตนายอภิสิทธิ์ จากเหตุการณ์คราวนั้นแล้วให้มวลชนเสื้อแดงเป็นแพะรับบาปหรือเปล่า
โดยปรกตินายกรัฐมนตรีไม่สามารถย้ายนายทหารในกองทัพได้เพราะกฎหมายที่เพิ่งออกมากำหนดห้ามไว้ และขั้นตอนการปฏิบัติของรัฐบาลต่อกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงนั้นถูกวางโครงสร้างในการปฏิบัติเป็นอย่างดี ตั้งแต่การสถาปนากองอำนวยการที่มีผู้รับผิดชอบชัดเจนตามลำดับขั้นตอน การประสานงาน และสั่งการ แต่สิ่งที่ทหารต้องการรู้คือ ผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติการของทหาร เมื่อสถานการณ์เลวร้ายลงโดยนายทหารรุ่นตท. 10 รวมหัวกันอยู่ฝ่ายทักษิณหมดโดยเฉพาะนายทหารเรือที่สัตหีบบอกข่าวลับเปิดทางให้เสื้อแดงเข้าไปที่ประชุมอาเซียนซัมมิต เวลานี้มีคนต้องการแซะก้นท่านให้พ้นเก้าอี้ กองทัพเองก็ขาดเอกภาพในการบังคับบัญชา ทั้งตำรวจและทหารไม่ให้ความร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีเลย ถึงกับมีการวิเคราะห์กับถึงขั้นว่านายอภิสิทธิ์ผู้ซึ่งหลายคนปรามาสว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์กลัวได้หรือไม่กล้าตัดสินใจใช้อำนาจรัฐให้ทันต่อเหตุการณ์หรือจะควบคุมกองทัพได้กำลังถูกปฏิวัติเงียบและมีคนใกล้ตัวเป็นหอกที่จะคอยทิ่มแทงตัวเอง คนเสื้อเหลืองก็ไม่ยอมออกมาช่วยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์จึงเป็นคนตัดสินใจที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเองเพื่อให้นายกฯ มีอำนาจเต็มที่ หากนายทหารไม่ยอมปฏิบัติตามต้องถูกย้ายและเมื่อนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบในการใช้กฎหมาย มีนโยบายชัดเจนประกอบคำสั่งปฏิบัติที่ผู้บังคับหน่วยสามารถออกคำสั่งยุทธการได้ชัดเจนเพราะมีผู้รับผิดชอบ

คนที่เอารถถังออกมาให้เสื้อแดงขย่มก็คือพลเอกป๊อกแป๊กที่ได้เตรียมปฏิวัติไว้แล้วในคืนนั้นน่ะแต่แผนพลิก อภิสิทธิ์รู้ทันพลเอกป๊อกแป๊กจึงถูกสต๊าฟไว้ในห้องประชุม แต่ครั้งนี้นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บัญชาการกองทัพไทยจึงมีเอกภาพ และผู้บัญชาการทหารบกสามารถสั่งการได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นระบบ มีระเบียบวินัยและขวัญดี การประสานงานของหน่วยต่างๆ ภายใต้วิกฤต แรงกดดันและอคติไม่ไว้ใจกันในหลายหน่วยงานเพราะมีการแยกฝ่ายในหมู่ข้าราชการถูกขจัดไปสิ้น เมื่อหน่วยทหารมีเอกภาพและปฏิบัติการเฉียบขาดชัดเจน ภายใต้วินัยการปฏิบัติการ อดทน อดกลั้น และขวัญดี จากกระแสสังคมที่ออกมาต่อต้านเสื้อแดง และความกล้าหาญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งความอดทน อดกลั้น และมีวินัยของทหารทำให้เหตุร้ายยุติลงภายในเวลา 48 ชั่วโมง ทำให้ควบคุมการชุมนุมได้และทำให้นายอภิสิทธิ์ได้รับเสียงปรบมือชื่นชมจากประชาชน

คนที่เอารถถังออกมาให้เสื้อแดงขย่มก็คือพลเอกป๊อกแป๊กที่ได้เตรียมปฏิวัติซึ่งได้มีการวางตัวไว้แล้วและว่ากันว่ามีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ต้องการจะได้ครุฑตัวที่สอง ซึ่งบังเอิญพัวพันกับเหตุการณ์ที่พยายามสังหารองคมนตรีอีกด้วย แต่แผนพลิกอภิสิทธิ์รู้ทันพลเอกป๊อกแป๊กจึงถูกสต๊าฟไว้ในห้องประชุม สิ่งที่พลเอกป๊อกแป๊กคือพลเอกป๊อกแป๊กจะยึดเก้าอี้ไว้ให้จงได้ ใจมันอำมหิตไม่ต่างจากพวกทักษิณเลย วันที่เห็นภาพนายทหารใหญ่นั่งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมนายกอภิสิทธิ์ เห็นชัดเจนเลยว่านายทหารใหญ่ทั้งพลเอกอนุพงษ์และพลโทประยุทธ์หน้าบอกบุญไม่รับเลย พลเอกป๊อกแป๊กเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบแต่ประยุทธ์มีคิ้วขมวดถอนหายใจเฮือกเลยทีเดียว ท่านทหารใหญ่ทั้งสองเป็นทหารมีเกียรติมีศักดิ์ศรีทั้งแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลแล้ว คนเราอย่าอยากได้อยากเป็นมากเกินบุญกุศลที่ตนสั่งสมมาเลย ถ้าท่านปฏิวัติสำเร็จจริง มันก็ชั่วคราวแค่ข้ามคืนเท่านั้นเองแล้วท่านจะต้องถูกประชาชนรุมประณามทั้งชาติ เกียรติประวัติต่างๆ ของท่านที่สั่งสมมาจนเติบใหญ่ในราชการจะพังทลายลงหมดสิ้นทันที เกียรติยศผลงานท่านมีมากมายกว่านายเนวินหลายเท่านัก ขอให้ท่านกลับใจคิดตั้งสติใหม่เถิด การกระทำครั้งนี้เกิดจากสื่อ-หนังสือพิมพ์ทั้งหลายให้ใช้เลือดแทนหมึก ทหารชั่ว ตำรวจเลว ข้าราชการขายตัว นักวิชาการสีขาวไร้ความคิด นักการเมืองไร้จิตสำนึกที่เอาแต่ทำร้าย ทำลายประเทศไทยและคนไทย

หลังจากสงครามประชาชนของอมนุษย์ทักษิณกับประชาชนชาวไทยทั้งประเทศแต่มันคงยังไม่ยุติ นายอภิสิทธิ์ท่านใช้วิสัยทัศน์และความเก่งบนความเป็นเด็กนอกเพื่อการบริหารงานเถิด รัฐบาลจะต้องทำให้ประเทศไทยเป็นนิติรัฐที่เข้มแข็งจริงๆ โดยเร็ว ต้องกล้าสั่งสอบพัชรวาท อนุพงศ์และ ผบ ทรที่ปล่อยให้ลูกน้องใส่เกียร์ว่างจนการประชุม ASEAN SUMMIT ล่มไปแล้ว หลังจากนี้จะมีเหตุการณ์พิเศษๆเกิดขึ้นเช่น ปฎิวัติรัฐประหาร สร้างกลุ่มล่าสังหาร มีความพยายามของบางกลุ่มที่เป็นศูนย์อำนาจต้องการทำลายทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลืองเพื่อจะตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมา ปั้นแต่งสถานการณ์ขึ้นมาหวังจะให้เสื้อเหลืองออกมา...เสื้อแดงออกมา ประชาชนตีกันแล้วอ้างว่าทหารคุมสถานการณ์ไม่ได้ก็ปฏิวัติจากนั้นก็สถาปนาตนขึ้นเป็นใหญ่ พลเอกป๊อกแป๊กเองนั่นหวังจะได้เงินส่วนแบ่งหลังรัฐประหารสำเร็จ ตำรวจที่ฆ่าประชาชนเมื่อ 7 ต.ค.51 ส.ส.ถูกตัดสิทธิ์ นักการเมืองที่มีคดีความรวมทั้งทักษิณ คนเหล่านี้จะได้ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำรัฐประหาร เงินที่ถูกอายัดไว้ทักษิณก็จะได้คืน
ในการทำหน้าที่สื่อของคุณสนธิในรอบ 4-5 ปีนี้ทำด้วยจิตวิญญาณอุทิศ ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ด้วยหวังอย่างเดียวให้สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันชาติบ้านเมืองอยู่รอด ในชั่วโมงนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ทหารควบคุม-ตรวจตรา แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนขนอาวุธสงครามร้ายแรง กราดยิงหวังฆ่าคนกลางเมืองหลวง แถมกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ บริเวณนั้นมีอันขัดข้อง-ใช้ไม่ได้ในเวลาเดียวกันทั้งหมด เลือดสดฉาดฉานแดงสาดโชกเสื้อเชิ้ตสีขาวของสนธิ ลิ้มทองกุลจากห่ากระสุนสงคราม ทั้งเอ็ม 16 เอ็ม 79 ที่กราดใส่เมื่อเช้ามืด 17 เม.ย.52 ที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุช ย่านบางขุนพรหมในช่วงเวลาที่คุณสนธิกำลังวิจารณ์โจมตี ทหาร โจมตีพลเอกป๊อกแป๊ก โจมตีเนวิน โจมตี สุเทพและประเด็นสำคัญตรงที่คุณ สนธิเสนอให้มีการโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตำรวจ แถมที่ผ่านมาพลเอกป๊อกแป๊กเลือกที่จะวางตัวเงียบขรึมมาโดยตลอดตั้งแต่ยุคคมช" พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดาผบ.ทบ.เอ่ยวาจาให้ชาวบ้านได้ยินเสียงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 8 เมษายน 53 ที่ทัพแดงทักษิณบุกยึดกรุงแล้วเผาบ้าน-เผาเมืองว่า "เรื่องเอาอาวุธสงครามมาถล่มหวังฆ่าสนธิเป็นคดีอาชญากรรมธรรมดา ย่อมเกิดได้ไม่ว่าจะเป็นภาวะฉุกเฉิน หรือไม่ฉุกเฉิน" อย่างมีวุฒิภาวะยิ่ง

ทักษิณอยู่เบื้องหลังความปั่นป่วนในประเทศระหว่างเทศกาลสงกรานต์เป็นการแสดงถึงความขี้ขลาดตาขาวเพราะอาศัยมือคนไทยให้ฆ่ากันเองโดยตัวเองและครอบครัวเดินทางหนีไปต่างประเทศและยังลอบกัดคนอื่นอีก ทักษิณต่างหากที่หนีหัวซุกหัวซุนถูกตีตราแล้วว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ทักษิณหมายจะกลับมาเป็นใหญ่ ไม่ถูกลงโทษและได้เงินคืนและเพื่อความต้องการของมัน มันพร้อมจะทำทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นการเผาบ้านเผาเมือง ลอบสังหาร ยุยงให้คนไทยแตกแยกและฆ่าล้างกันเอง จนประเทศไทยต้องพังทลายหรือมันอาจคิดว่าถ้ามันกลับมาเป็นใหญ่ไม่ได้แผ่นดินไทยก็จงลุกเป็นไฟไปซะ ด้วยเหตุนี้ทักษิณและพวกพ้องจึงเป็นภัยร้ายแรงที่สุดของชาติไทยและสถาบันเบื้องสูงยิ่งกว่าโจรใต้ ชนกลุ่มน้อย ผู้ค้ายาเสพย์ติด จึงสมควรที่จะพิฆาตทักษิณและพวกพ้องทั้งหมดให้วอดวายภายในปีนี้ให้จงได้ ถ้าทักษิณยังอยู่ประเทศไทยจะวุ่นวายไปทั่ว ถ้าทักษิณพินาศประเทศไทยจะสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง

17 เมษายน 2552

ม๊อบที่แตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้....

ม๊อบที่แตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้....
ยังอยากได้ยิน ทุกเรื่องราววววว.....
เมิงอมเงินกรูใช่ไม๊....
เมิงใช้ไปเท่าไหร่.....
อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง.....


ทักษิณที่จุดไฟเผ่าบ้านที่พ่อแม่พี่น้องเพื่อนและญาติๆของมันอยู่โดยที่ตัวมันได้หนีไปอยู่ที่อิ่นที่ปลอดภัยแล้วปล่อยให้พ่อแม่พี่น้องของมันและเพื่อนและญาติสนิทของมันต้องรับชะตากรรมโดยที่มันอยู่อย่างมีความสุขแล้วก็มาหลอกว่าถ้าเราเจ็บมันจะเจ็บด้วยเห็นหรือยังมันปลุกระดมว่าจะบินกลับมาเป็นแกนนำกลุ่มเสื้อแดงทันทีหากมีเสียงปืนแตกแต่ในวันที่กลุ่มเสื้อแดงถูกทหารสลายการชุมนุมกลับมีคนเห็นทักษิณเดินช็อปปิ้งซื้อของให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อยู่ที่ประเทศดูไบทั้งๆ ที่ออกมาระบุว่าเลิกกันไปแล้ว
/
ทั้งแกนนำและทักษิณไม่ได้เห็นชีวิตที่มีค่าของพี่น้องประชาชนทั้งชาวบ้านทั้งผู้ที่มาร่วมชุมนุมแต่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดการปฏิวัติ วัดธรรมกายเป็นแหล่งเพาะเชื้อสอนให้คนใช้เงินซื้อโลกหน้าเป็นลัทธิวัตถุนิยมซึ่งบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า ศิษย์วัดธรรมกายนั้นเป็นเสื้อแดงเกือบทั้งหมดเมื่อดูข่าวมีพระออกมาร่วมขบวนกับแดงเปรตด้วยเดินอยู่กลางแถวเลย ในการชุมนุมครั้งล่าสุดของคนเสื้อแดงคนเหล่านี้มาจากสำนักสงฆ์จานบินเป็นกำลังหลักนับได้เรือนหมื่นและเป็นหน่วยขนเสบียงกรังมาอุดหนุนไม่ให้ขาด รวมกับม็อบเติมเงินที่ส.ส.เพื่อไทยและกลุ่มบ้านเลขที่ 111 และ109ขนมาจากทั่วประเทศ

จุดพลิกผันของกบฏเสื้อแดงต้องเพลี่ยงพล้ำจนพ่ายแพ้เมื่อทักษิณเอาแค่สะใจหวังฉีกหน้ารัฐบาลประจานชาวโลกปลุกเร้ากลุ่มผู้ชุมนุมไปขัดขวางการประชุมกลุ่มประเทศผู้นำอาเซียน +3 และ +6 ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ จนผู้นำ 16 ประเทศแตกกระเจิงหนีตายพร้อมๆ กับโอกาสของไทยหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายทั้งที่การประชุมไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ชูธงโค่นล้มอำมาตยาธิปไตยแต่อย่างใด จากนั้นกบฏเสื้อแดงเหมือนอยู่ในอาการเมาหมัดทำอะไรก็พลาดไปหมด ไร้ทั้งยุทธศาสตร์ ขาดยุทธวิธีพลาดตั้งแต่การไล่ทุบรถนายกฯ ถึงขั้นจะเอาชีวิตเหมือนไม่ใช่ผู้นำประเทศจนถึงการก่อจลาจลทั่วกรุงปะทะชาวบ้านในหลายๆ จุด กบฏเสื้อแดงเขวี้ยงระเบิดเพลิง-ขับรถชนทหาร แยกดินแดง ซึ่งปรากฏเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่าฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายเริ่มความรุนแรงก่อน

โกหกใครก็ได้โกหกตัวเองนี่เจ็บใจจิ๊ด ๆไหมอาวุธมีไม่เท่าพธม.ก๊าก 1)มีระเบิดขวด นับไม่ทัน 2)เอาปืนมายิงคนนางเลิ้งตาย 2 คน 3)ขวานในมือ 4)ดาบในมือ 5)น้ำมัน ปืน ที่จะไปวางเพลิง 6)ยิงทหารบาดเจ็บนับสิบ 7)ขับแท๊กซี่ ขับเมล์มาชน 8)ยิงคนที่ เพชรบุรี ซอย5 & 7 9) M79 ยิงเข้าศาลอีก 10) ถังแก๊ส มากมาย รถแก๊สอีก สังเกตไหมทำไมรถเมล์ ยูโรถึงได้โดนกลุ่มคนเสื้อแดงเผาเยอะขนาดนั้น ก็หัวหน้าที่คุมอู่รถเมล์แถวๆตลาดสุชาติ รังสิตเป็นพวกเสื้อแดงสั่งให้เอารถขับไปจอดพร้อมทั้งทิ้งกุญแจรถไว้ ให้พวกเสื้อแดงที่สามเหลี่ยมดินแดง พวกเสื้อแดงไม่ได้ปล้นก็ไม่ใช่รถของมันนี่แต่เป็นรถของรัฐบาล สรุปรวมตัวเลขมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการชุมนุมรวมทั้งสิ้น 138 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและอยู่ระหว่างการรักษาตัว 58 ราย กทม.ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 9,490,630 บาท กทม.ที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 9,490,630 บาท ขสมก.สรุปความเสียหายโดนยึดรถเมล์ 52 คัน โดนเผาทิ้ง 18 คัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างระเบิดเพลิงเข้ามายัง สอศ.จนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย 3.5 ล้านบาท

สื่อทั้งในและนอกประเทศมันปกปิดข่าว เชื่อถือไม่ได้ ทีแรกนึกว่ามีแค่สื่อในประเทศอย่าง ASTV, เนชั่นที่บิดเบือน แต่ตอนนี้มันบิดเบือนกันทั่วโลกแล้วทั้ง 3, 5, 7, 9, NBT, CNN, BBC, Times, อัลจาซีร่าห์, FHM, Playboy, ทีวีพูล, สตาร์ซอดเกอร์, BOOM, C-kids, ขายหัวเราะ, มหาสนุก, นีออน ฯลฯ 2 มาตรฐานจริงๆพวกสื่อพวกนี้


ภาพการ์ตูนหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ฉบับวันศุกร์ที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นทักษิณกำลังหวดไม้กอล์ฟแต่แทนที่จะเป็นลูกกอล์ฟอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยกำลังหวดทุ่นระเบิดจากกัมพูชาข้ามพรมแดนเข้าสู่ดินแดนประเทศไทย

สมเด็จฯ ฮุนเซนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับทักษิณพูดว่า "นั่น..คุณกำลังทำอะไรละ? มันประเทศของคุณนะ..."
ส่วนทักษิณที่กำลังหวดลูกระเบิดกล่าวตอบว่า "อ๋อ..ใช่..มันคือระเบิด!!! เพราะผมจะทำอะไรก็ได้..."


กรณีที่อดีตประธานรัฐสภา นักการเมืองบางราย ตลอดไปจนถึงผู้ซึ่งมีสถานะเป็นถึงท่านผู้หญิงบางท่านได้รวบรวมรายชื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระบารมีจากองค์พระมหากษัตริย์ให้เข้ามายุติสถานการณ์ความขัดแย้งหลังจากที่ทักษิณได้ทำท่าว่าจะเริ่มเพลี่ยงพล้ำขึ้นมาบ้างแล้วเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดรับกับคำให้สัมภาษณ์ของนักโทษชายต่อสำนักข่าวต่างประเทศบางสำนักอย่างตรงไป-ตรงมาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวควรจะทรงเข้ามา แทรกแซง สถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อเพิ่มขึ้นไปอีกซึ่งขัดแย้งกับคำโจมตี วิพากษ์ วิจารณ์ที่ตัวเองได้จาบจ้วงล่วงเกินต่อบรรดาองคมนตรีอันเป็นผู้ซึ่งได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระมหากษัตริย์ให้ทำหน้าที่ทูลเกล้าฯ ถวายคำปรึกษาอย่างเห็นได้ชัดเจน ว่าบรรดาองคมนตรีเหล่านั้นเข้ามาแทรกแซงการเมือง

การสลายม็อบจากเช้าถึงเที่ยงวันที่ 14 เม.ย.นั้นกอฉ.กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะกิจใช้สมองทำงานมากกว่าใช้กำลังในการปราบกบฏโดยเปิดเผยโดยยอมให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมไปเป็นพยานเต็มไปหมดทั้งชาวบ้าน ทั้งสื่อไทยและสื่อเทศต่างยืนยันได้ว่าไม่มีคนเสื้อแดงเจ็บ-ตายจากการสลายม็อบของทหารมีแต่ชาวบ้าน และทหาร ทั้งเจ็บ-ทั้งตาย พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงทักษิณมุกแป๊กโจมตีว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงบ้าง ว่าทหารฆ่าประชาชนแล้วเอาศพแอบไปเผาบ้างนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการบิดเบือน สร้างข่าวใส่ร้าย-ป้ายสีรัฐบาลและทหารอย่างหน้าด้านที่สุด

หลังจากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามประชาชนครั้งนี้ปฏิบัติการกบฏแผ่นดินของทักษิณยังไม่จบเพียงแต่สะดุด-หยุดชะงักไปชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งมีการบีบวงล้อมทั้งตัวทักษิณและบริวารแดงจากฝ่ายรัฐบาลที่รัฐอาจจะได้เห็นปฏิบัติการตอบโต้-ต่อต้าน ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปทักษิณที่ไม่เคยสำนึกบุญคุณของแผ่นดิน เป็นต้นตอของปัญหาทั้งมวลจะต้องถูกรุกไล่ทั้งจากรัฐบาลและสังคม แต่ก็ยังมีปฏิกิริยาต่อต้านอยู่มันต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างตามเป้าหมายให้จงได้ มันทำงานกันเป็นทีมเป็นขบวนการต่อสู้ทุกวิถีทาง ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อัลจาซีราและบีบีซีเหล่านี้มีวิธีการถามทักษิณในระหว่างการสัมภาษณ์ที่น่าสนใจมากโดยผู้สื่อข่าวเขาถามว่าทักษิณ เป็นผู้บงการสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใช่หรือไม่เพราะเป็นคนที่ติดต่อวิดีโอลึงค์กลับมาประเทศไทย เขายังถามอีกว่าคุณมัวแต่พูดเรื่องประชาธิปไตยแต่สิ่งที่คุณพูดคือความพยายามที่จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมบีบบังคับให้รัฐบาลลาออกนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย อีกคำถามหนึ่งคือความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ ทักษิณ อยู่เบื้องหลังเพื่อต้องการกลับมามีอำนาจและล้างคดีความของตนใช่หรือไม่ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นนั่นไม่ได้ให้ความน่าเชื่อถือกับทักษิณนัก
ก็รูปผู้ชายคนหนึ่งเลือดอาบแขนและมีรูกระสุนอยู่ตรงหน้าอกด้านซ้ายใกล้หัวใจ ซึ่งได้ถูกสลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ตอนเช้าวันที่ 13 เม.ย.ที่ทักษิณเอาออกมากล่าวอ้างชายคนที่อยู่ในภาพนั้น คือ นายไสว ทองอ้ม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ไม่ใช่เอ็ม 16 นั่นไม่สำคัญเท่ากับชายคนดังกล่าวไม่ได้เสียชีวิตและได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถีแต่พวกกลุ่มเสื้อแดงกับทักษิณกลับจงใจให้ข้อมูลผิดๆ กับแกนนำ นปช.ว่าทหารใช้กำลังฆ่าประชาชนทั้งๆ ที่ชายคนดังกล่าวกำลังรักษาตัวอยู่ หมอสระอาหมาเหวง ซึ่งเดินทางไปเยี่ยมคนดังกล่าวด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็พบว่าชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิตแต่กลับไม่ยอมไปบอกกับแกนนำและกลุ่มเสื้อแดงว่าชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิต ทักษิณและบริวารกำลังโฆษณาชวนเชื่อว่าทหารทำร้ายฆ่าประชาชนที่ไม่มีทางสู้และนำศพไปซ่อน ไทยพีบีเอส เป็นสื่อที่แฝงมาในรูปแบบของเอ็นจีโอ เป็นช่องเดียวที่ให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.โกหกออกอากาศ เป็นช่องเดียวที่ได้เชิญนิธิ เอียวศรีวงศ์ ชัยวัฒน์ สถาอนันต์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการอิสระรวมถึงนักวิชาการริบบิ้นขาวและฝักใฝ่เสื้อแดงเรียกร้องให้นายอภิสิทธ์ลาออก เป็นช่องเดียวที่ปล่อยให้วิทยา บูรณศิริ ส.ส.เพื่อไทยโกหกออกอากาศ เป็นช่องเดียวที่ปล่อยให้สมบัติ บุญนามอนงค์บก.ลายจุดทั้งๆ ที่เป็นแกนนำ นปก.รุ่นที่ 2 มาชี้ทางออกให้กับสถานการณ์บ้านเมืองด้วยกริยาหยาบคาย ถ่อยสถุล เป็นช่องเดียวที่ชอบเอา บก.บห.ที่ทำเว็บไซต์ประชาไทยที่หมิ่นสถาบัน เป็นช่องเดียวที่กินเงินของรัฐปีละ 2,000 ล้านบาทโดยมีนายจอน อึ้งภากรณ์พี่ชายของนายใจ อึ้งภากรณ์นั่งเป็นคณะกรรมการซึ่งถือเป็นการถลุงเงินภาษีอากรของประเทศ แต่เป็นหนึ่งในหลายๆช่องที่มีพิธีกรเอียงข้าง

ส.ส.พรรคเพื่อไทยชักจูงประชาชนในภูมิภาคโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานในบางจังหวัด อ้างมีการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมโดยศพถูกนำไปทิ้งแม่น้ำ คาดว่าในส่วนตัวเพื่อไทยเองก็ต้องกลับมาเล่นเกมในสภาและดำเนินการทางรัฐสภาในหลายทาง เรียกร้องให้มีการเปิดประชุม รัฐสภาเพื่อหยิบยกทางออกขึ้นมาพิจารณาเช่นการผลักดันรัฐบาลเพื่อชาติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การออกพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เป็นต้น แล้วแก้ตัวว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ทั้งนี้ในทางลับพรรคเพื่อไทยยังไม่ทิ้งการเล่นเกมนอกสภาเช่น เเกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และคนใกล้ชิดทักษิณ ชินวัตรอดีตกฯเช่นพายัพ ชินวัตรรวมทั้งจตุพรได้นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อเเดงแล้ว คงจะก่อม็อบปากท้องเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา ส่วนขบวนการใต้ดินจะปล่อยหลักฐานจำนวนผู้สูญหายจากเหตุการณ์ชุมนุมตามช่องทางต่างๆ อาทิ เว็บไซต์ อี-เมล หรือแม้แต่ยุทธวิธีโบราณคือเสียงเล่าลือปากต่อปากเพื่อให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลและทหารที่ใช้ความรุนแรงโดยมอบหมายให้คนบ้านเลขที่ 111 รับผิดชอบในส่วนนี้

กลุ่มเอ็นจีโอและองค์การนักศึกษาสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) จัดงานแถลงข่าวการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องคนหายในเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ออกมาตั้งโต๊ะรับเรื่องผู้สูญหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมนั้นเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงเมื่อเร็วๆนี้ทำไมไม่พูดถึงประชาชนชาวบ้านนางเลิ้งซึ่งเสียชีวิต 2 คน เพราะถูกกลุ่มเสื้อแดงยิงอาวุธปืนเข้าในใส่ถึง 2 รายบ้าง แจ้งเรื่องคนหายในเหตุการณ์ชุมนุมได้ที่นางสาวสุลักษณ์ หลำอุบลหมายเลขโทรศัพท์ 0805937904 และ e-mail suluck_fai@hotmail.com, กับ suluck@gmail.com คนในสนนท.เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงนามให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นมาตรา 112 โดยลงชื่อสนับสนุนใจรัญ อึ๊งภากรณ์ด้วย ชื่อเสียงของสนนท.เริ่มป่นและเน่าตกเวทีประวัติศาสตร์ไปนานแล้วตั้งแต่สมัยหลังพฤษภา 35 ดังนั้นสมัยนี้สนนท.มีสภาพที่ไม่ต่างกับกลุ่มกิจกรรมเล็กๆ ที่ไม่ได้มีบทบาทต่อสังคมสาธารณะหรือมีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองอันเป็นที่ยอมรับเหมือนในอดีตและยังไม่ได้ถือว่าเป็นตัวแทนขององค์การนักศึกษาของทุกมหาวิทยาลัยเฉกในเช่นอดีตอีกด้วย นางสาวสุลักษณ์ หลำอุบลเป็นเพื่อนร่วมรุ่นแสนสนิทกับ นายธีรชัย จารุวัตร ประธานกลุ่ม "ประชาธิปไตยไม่ใช่กิ๊ก"ซึ่งเป็นนักเขียนประจำในนิตยสาร "ฟ้าเดียวกัน"เจ้าเก่า ที่เป็นที่รวมของเครือข่ายคนจ้องล้มสถาบันฯนั่นเอง สุลักษณ์เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มต่อต้านสถาบันฯแทบทุกกลุ่มตลอดมา เป็นหนึ่งในสาวกคนสำคัญของอาจารย์จุฬาฯคนดังๆที่จ้องทำลายสถาบันเช่นสุธาชัย ยิ้มประเสริฐกับใจรัญ

ทำไมหรือเพราะเหตุใดที่ทักษิณต้องการทำลายสถาบัน มันมีเหตุผลส่วนตัวและส่วนรวมที่ทำให้ทักษิณเห็นว่าเมืองไทยต้องปลอดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อแรกก็คือสถาบันนี้ถือเป็นสูงสุดทำให้ทักษิณไม่อาจสูงสุดในการปกครองได้ก็ในเมื่อเขาต้องการอำนาจสูงสุด ข้อสองรากหญ้าที่สถาบันอุปการะโดยโครงการต่างๆ ส่วนพระองค์นั้นทักษิณเห็นว่าทำไม่จริงจัง ทักษิณมองว่าคนเหล่านั้นเป็นรากหญ้าแท้จริงเป็นรูปธรรมกว่าและจะได้ประโยชน์จากเขามากกว่า การที่ดึงรากหญ้ามาเป็นพวกก็เพื่อย้ายฐานเรื่องความจงรักภักดีจากคนไทยออกมาสู่ตัวเขาแทน ข้อสามทักษิณเห็นว่าสถาบันเป็นอุปสรรคทางการเมืองทั้งๆ ที่ตัวเขาอยู่ในการเมือง ข้อสี่ทักษิณไม่เชื่อในความคิดว่าประเทศไทยควรมีการปกครองที่มีสถาบันค้ำจุน แต่เชื่อว่าประเทศไทยควรมีความทันสมัยในระบบแบบเสรีโดยครบถ้วนไม่ล้าหลังด้วยสถาบันเก่าๆ ข้อห้าข้อที่สำคัญมากทักษิณเชื่อว่าสถาบันนั้นควรสลายไปเองก็จริง แต่ก็ควรเร่งให้สลายเสียโดยเร็วตามหลักการที่ฝ่ายซ้ายที่เป็นปรึกษาของเขาบอกว่าระบอบทุนนิยมจะโตถึงขีดสุดไม่ได้หากมีซากของระบอบศักดินาอยู่ คิดแบบทักษิณนี่ มันอันตรายจริงๆ เป่าหูประชาชนว่าสถาบันเบื้องสูงอย่างนั้นอย่างนี้ พยายามดิสเครดิตให้มากที่สุด หวังโน้มนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสุดยอดความฝันอันสูงสุด ของพวกคอมมิวนิสต์

พธม.ปิดสนามบิน เกิดความเสียหายจริงแต่บนพื้นฐานที่คนไม่เข้าประเทศเป็นเวลาสองสามอาทิตย์หลังจากนั้น คำว่าความเสียหายแสนล้านเป็นการประเมินที่อยู่บนพื้นฐานที่ไม่เป็นจริงของนักวิชาการ ข้าราชการบางคนที่บอกว่าการท่องเที่ยวเราเสียหายยับเยิน ในขณะที่ช่วงปิดสุวรรณภูมิไม่ได้มีประกาศออกมาว่าให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ความปลอดภัยอยู่ในระดับเท่าไร หลังจากเหตุการณ์ยึดสนามบินก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวทยอยกันเข้ามาแม้จะไม่มากเหมือนเมื่อก่อน แต่นอกจากการปิดสนามบินแล้วพธม.เคยข่มขู่ว่าจะทำร้ายทำลายประเทศไหม เคยเอารถแก๊สออกมาแล้วใช้ปชช.เป็นตัวประกันไหม เคยยึดรถเมล์ เผายาง ขว้างระเบิดขวดไหม ประเทศในแถบยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา ออกมาประกาศชัดว่าให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ความปลอดภัยอยู่ในระดับสามคือไม่ปลอดภัยที่จะมาเที่ยว เหตุการณ์ช่วงสงกรานต์ที่หลายต่อหลายบริษัทประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปไทยทั้งหมด พร้อมคืนเงินให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นแล้วยังประกาศว่าจะไม่มีเที่ยวบินไปเมืองไทยผ่านทุกบริษัททัวร์อย่างไม่มีกำหนด ก็ลองทบทวนว่าแบบไหนเสียหายมากกว่ากัน

ลีลานำม็อบเผากรุงเหมือนพญาราชสีห์แต่จตุพรกลับหนีคดีเหมือนตู๊ดตู่มูดในรูการกระทำของจตุพรเป็นการปฏิเสธระบอบรัฐสภาและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ให้เอกสิทธิ์ ส.ส. เพื่อรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ออกไปรับใช้นักโทษที่หลบหนีคดีอาญา แล้วยังคิดจะทำลายประเทศชาติบ้านเมืองที่ เข้าข่ายกบฏแผ่นดิน พอโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ก็อ้างเอกสิทธิ์เพื่อหวังเอาตัวรอด จตุพรเคยกล่าวหานายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ว่าเก่งจริงอย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่พอถึงคราวตัวเองกลับวิ่งหลบอยู่หลังเอกสิทธิ์อย่างไรศักดิ์ศรีทั้งๆ ที่พฤติกรรมคนละอย่างกับนายสมเกียรติ์อย่างชัดเจนทำตัวหลบๆซ่อนๆแล้วโผล่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นต่อมสำนึกลึกหลายขุม ลอยหน้าลอยตายันแดงไม่ผิด ยังมีหน้ามาบิดข่าวว่าอภิสิทธิ์เป็นฆาตกรที่ฆ่าประชาชน คนเสื้อแดงโดนตีตาย 3ศพ คนเสื้อแดงไม่มีเหตุผลที่ไปทะเลาะประชาชนและคนเสื้อแดงรู้สึกว่าโดนทหารยิงอดทนไม่ได้แล้วมีการนำถึงแก๊สมาขู่บ้าง ยังอ้างได้อีกว่าสถานการณ์มันลุกลามเพราะเนวินและสุเทพ ใส่ใข่ว่ามีการปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงมาเผารถเมล์และนำรถแก๊สที่แกนนำไม่รู้ว่าใครเอาไปมาเพื่อก่อวินาศกรรมและการเอาประชาชนเป็นตัวประกันไม่ใช่เป็นฝีมือคนเสื้อแดงแล้วยังหน้าด้านตั้งรางวัลนำจับหาคนร้ายอีก มันตัวใหญ่เสียเปล่าแต่กลับใจปลาซิวขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับการกระทำของตัวเอง ได้แต่โยนขี้ให้คนอื่น ยุยงปลุกปั่นมวลชนจนเกิดเหตุรุนแรง

รัฐบาลไม่ต้องการให้คนไทยทำร้ายประเทศจะใต้ดินหรือบนดิน แต่ก็ควรประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ให้ดีก่อนอย่าใจเร็วรีบยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องเอาคนที่รอบรู้มาช่วยนายอภิสิทธิ์ ตั้งหน่วยงานเพื่อโต้ตอบทักษิณแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เอาพวกกบฏพวกนี้มาลงโทษในเวลาที่รวดเร็ว เร่งดำเนินการกับกลุ่มตัวนำเช่นที่เชียงใหม่และที่อุดร อย่าใช้คนไม่เหมาะกับงาน ควรจะมีคณะทำงานด้านความมั่นคง เข้มแข็ง กล้าได้ กล้าเสีย ทำงานเชิงรุก รัฐต้องเป็นคนกำหนดเกมเล่น ไม่ใช่ตามไปเล่น อย่าไว้ใจตำรวจสังเกตจากงานหลายภารกิจตำรวจทำไม่ได้ ทำไม่เสร็จทั้งที่งานไม่ยาก ผลงานไม่มี มีแต่ข้ออ้างข้อแก้ตัวมีผู้นำตำรวจที่อ่อนแอเกินไปเวลานี้เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจพิจารณาปรับเปลี่ยน ปลดผบ.ตร.เป็นคนอื่นได้แล้วหลังที่ได้เห็นแล้วว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำหน่วยแห่งนี้ ภายใต้พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลบทบาทหลักก็ตกอยู่ที่ทหารแต่ตำรวจก็ยังต้องเป็นหน่วยหลักในการสนธิกำลังกับฝ่ายทหารเพื่อสนับสนุนภารกิจการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแต่นี่ปรากฏชัดว่าตำรวจกลับไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ได้ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่แบบปิดตาข้างเดียวไม่สนใจประชาชน สังคมเอือมระอาเต็มทนกับตำรวจที่เป็นทาสของระบอบทักษิณ

ผบ.ทร.ได้แสดงตัวชัเจนตั้งแต่ต้นแล้วว่ายืนข้างทักษิณมานานแล้วโดยเฉพาะ ผบ.ทร.คนเก่า บิ๊กมีสีที่ส่อเกียร์ว่างและบางคนอาจถึงขั้นส่อพฤติการณ์ทำตัวเป็นคนในขบวนการสีแดง ทั้งตำรวจและกองทัพปันใจให้คนเสื้อแดงจากเหตุการณ์หลายต่อหลายครั้งที่อภิสิทธิ์ได้ทดลองด้วยตัวเองที่พัทยา มวลชนคนคลั่งทักษิณกลุ่มที่เสนอตัวเข้าร่วมชุมนุมหน้าทำเนียบฯคือมวลชนจากตำรวจและครอบครัวที่มีการจัดตั้งเตรียมไว้ก่อนตบเท้าเข้าร่วมจำนวนมากและเติมเต็มให้กับม็อบทุกคืน ภารกิจเร่งด่วนนื้ที่อภิสิทธิ์ต้องเร่งทำคือฟื้นความปรองดองของคนในชาติและเร่งปฏิรูปการเมืองอย่างจริงใจ ถ้าบ้านเมืองยังแตกแยกการเมืองไม่นิ่งกระตุ้นไปกี่หมื่นกี่แสนล้านเศรษฐกิจก็ไม่ฟื้นจัดทีมจะโรดโชว์ต่างประเทศสักกี่พันรอบก็คงไม่มีใครเชื่อมั่นรัฐบาลทำข้างในดีเมื่อไหร่แล้วข้างนอกจะดีตาม ที่แน่ๆคนที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆต้องจะเป็นสุเทพ เทือกรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ จุดบกพร่องอยู่ตรงไหนอภิสิทธิ์ต้องเร่งแก้ไข ยิ่งถ้าอภิสิทธิ์เร่งจัดการประชุมกลุ่มประเทศผู้นำอาเซียน +3 และอาเซียน +6 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาหากทำได้สำเร็จคนบางคนอาจจะอกแตกตายก็ได้

แม้ว่าเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ทราบว่าเคยเกิดขึ้น 2-3 ครั้งแล้วโดยมีการยิงเข้าไปในบ้านและระหว่างที่มีการชุมนุม แต่ครั้งนี้พบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 64 นัด กระสุนเอสเค 17 นัด เอ็ม 16 จำนวน 3 นัดและถูกกระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 นัดแต่ไม่ระเบิด โดนไปขนาดนี้เห็นสภาพรถขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าจะเป็นการเสี้ยมของคนในระบอบทักษิณที่ต้องการฆ่าสนธิในช่วงเวลาที่สนธิกำลังวิจารณ์โจมตี ทหาร โจมตีอนุพงษ์ โจมตีเนวิน โจมตี สุเทพและประเด็นสำคัญตรงที่สนธิเสนอให้มีการโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตำรวจ มือปืนเลยใช้ช่วงโอกาสเหมาะตรงนี้เพื่อโยนบาปไปให้รัฐบาลว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าซึ่งสอดคล้องกับคำพูด เสธ.แดงทำให้พันธมิตรเข้าใจผิดว่ารัฐบาลเป็นคนทำแล้วจะโกรธแค้นลุกฮือออกมาต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ล้มทักษิณก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ กระจกหน้ากระโปรงพรุน แต่กระจกไม่แตกละเอียด กระจกหน้าน่าจะเป็นกระจกกันกระสุนแต่ไม่ใช่แบบพิเศษ เลยทนแรงอัดจากอาวุธสงครามไม่ได้ กระสุนเจาะทะลุกระจกหลัง ทำให้กระจกหลังแตกละเอียดมีกระสุนทะลุหัวพนักพิงด้านหลังเป็นรูโหว่หลายจุด คนร้ายกราดยิงไปทั่วรถ ทำให้วิถีกระสุนเจาะทะลุกระจกข้างคนขับและข้างคนขับแตกละเอียด กล้อง CCTV จำนวน5ตัว ในบริเวณนั้นขัดข้องทั้งหมดแหมทีไอ้กล้องที่เพิ่งติดใหม่ใว้จับคนฝ่าไฟแดงชัดจริงถ่ายถึงในห้องคนขับเลยวัดความเร็วได้ด้วย ทั้งจับภาพได้หลายมุม

14 เมษายน 2552

นักโทษ ประหาร ชีวิต (นปช.)


การทรยศแผ่นดินไทย ประชาชนมือเปล่า เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายต้องกุมสติกันให้มั่น อย่าถาม-อย่าโทษใครทั้งหลายทั้งปวงมันพิสูจน์ด้วยตัวมันเองชัดแจ้งแล้วว่า กลียุคบ้านเมืองขณะนี้อันเกิดจากกลุ่มเสื้อแดงโดยมีทักษิณ ชินวัตรวางแผน-สั่งการ-ซ่องสุมและจัดตั้งกองกำลังทรยศชาติ อ้างมาทวงประชาธิปไตย จัดจ้างหรือหลอกใช้พี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ สวมเสื้อแดงมารวมตัวกันชุมนุมเรียกร้อง แล้วใช้กองกำลังทรยศชาติที่ผ่านการฝึกและเพาะเลี้ยงมาแล้วอย่างดี แทรกซึมปะปนเข้ามา แฝงเข้ามา ทำทีเป็นว่าร่วมชุมนุมกับพี่น้องเสื้อแดง สงบ-สันติ ด้วยซื่อบริสุทธิ์ พร้อมแผนก่อการจลาจล-ยึดประเทศ และรออาณัติสัญญานจากตัวการใหญ่ที่จะสั่งผ่านวิดีโอลึงค์การดำรงอยู่ของคนเสื้อแดงในวันนี้โดดเดี่ยวเดียวดายกลางถนนเพราะแม้แต่คนบงการและลูกเมียก็เผ่นออกไปตั้งหลักอยู่ต่างประเทศกันหมดแล้ว เมื่อพี่น้องเสื้อแดงที่หลงเข้าใจผิดตามคำปลุกปั่น-ยุยงทักษิณคงได้เห็นธาตุแท้ของทักษิณและทราบความจริงแล้วชัดเจน

การยึดสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และรูปแบบการก่อการทั้งหมดไม่ใช่ความคิดความอ่าน และยิ่งไม่ใช่ระดับปฏิบัติการของชาวบ้านสวมเสื้อแดงธรรมดาแน่ๆแต่ว่าเป็นปฏิบัติการของผู้ที่ได้ผ่านการฝึกการสงครามทั้งด้านยุทธการและยุทธิวิธีอย่างช่ำชองเป็นการกบฏแผ่นดินของทักษิณ เพื่อทักษิณ และโดยทักษิณแท้ๆ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้บ้านเมืองยับเยินตามแผนทุบให้น่วมแล้วต่อรอง ท่ามกลางการประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไปของฝ่ายที่ดูแลความมั่นคงการทุบรถยนต์ของนายก การปิดวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย การประชุมสุดยอดผู้นำฯล่ม ในบรรยากาศที่เหมือนแถลงอยู่บนขั้วโลกคนเดียวแต่นายกอภิสิทธิ์ยังสามารถยืนหยัดรักษาบุคลิกภาพผู้นำด้วยวุฒิภาวะที่สูงกว่าผู้นำคนก่อนๆย้อนไปได้นับสิบๆปี ท่านจงฟังและปรึกษาหารือคนอื่นๆ นอกจากที่อยู่รอบตัวไม่กี่คนให้มากๆ การก่อจราจลเป็นแรงดีดกลับให้ความชอบธรรมของกลุ่มเสื้อแดงลดลงๆตามลำดับ แม้กระทั่งที่พันทิพย์แย่แล้ว ทั้งโต๊ะราชดำเนิน และศาลาประชาคมคนไม่เอาทักษิณพร้อมใจกันเข้าไปชำระจนสีแดงต้านไม่ไหวแล้ว ดังนั้นในการก่อเหตุจราจลวันสงกรานต์วันที่เราชาวไทยถูกปล้นความสุขความหวังและวันปีใหม่ไปเป็นครั้งแรกหลังการเสียกรุงศรีฯครั้งที่สองนั้นกลุ่มเสื้อแดงได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากคนไทยที่รู้สึกแล้วว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่ได้ร่ำร้องหาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ระหว่างการชุมนุมการส่งวิดีโอลึงค์ของตัวการใหญ่ยิ้มร่าไม่เก็บอาการบอกถึงนาทีทอง มีอยู่ชอร์ทหนึ่งที่โจรตัวพ่อหลุดปากว่าดีกว่าที่พวกเสื้อแดงจะต้องมาต่อคิวรับ 500 บาท เหตุการณ์ใน 6 จุดสำคัญๆในกทม.ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ฯ แยกผ่านฟ้า บก.ทบ. อุรุพงษ์ เพชรบุรี ซ.5 กับ ซ.7 และจากยมราชไปป่วนนางเลิ้ง ชาวบ้านร้านช่องไม่ทนและร่วมกับทางการขับไล่ ก่นด่ากลุ่มเสื้อแดง เช่นในคลิปเสื้อแดงโจมตีทหารอย่างโหดร้าย

เสื้อแดงนำถังแก๊สไปซุกซ่อนไว้ในพุ่มไม้ในพื้นที่หลายจุดยึดรถยูโรทูหันหน้ามาประจันหน้าทหาร ที่ตรงแยกเทวกรรมถืออาวุธปืนซุ่มอยู่ตามเสาไฟฟ้าต่างๆด้วย ทหารได้ยึดระเบิดขวดจากการ์ดม็อบเสื้อแดงได้จำนวนมาก ม็อบเสื้อแดงที่เข้ามายืนประจันในจุดแยกจปร.นั้นต่างโพกผ้าปิดหน้าปิดตาและในมือถืออาวุธทั้งระเบิดขวดและปืน สถานการณ์เริ่มตรึงเครียดเมื่อทหารเคลื่อนตัวเข้าประชิดผู้ชุมนุม ชาวบ้านออกมาเกาะกลุ่มดูเป็นจำนวนมากปรบมือส่งเสียงเชียร์ทหารกันดังลั่นนำอาหารและเครื่องดื่มมาให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วย ในการกดดันของเจ้าหน้าที่เจ๊เพ็ญที่เคยขึ้นขึ้นเวทีปลุกระดมคนมาทำลายชาติบ้านเมืองหนีตามไอ้ตู่หายตัวจากทำเนียบฯเสียอย่างนั้นนังแพศยา ชาวบ้านที่อยู่ในเวทีเสื้อแดงหน้าทำเนียบรัฐบาลต้องการจะกลับบ้านแต่ถูกการ์ดล็อกประตูกักตัวเอาไว้ไม่ยอมให้กลับบ้าน แกนนำหายตัวแล้วเหลือแดพวกรากเหง้าไม่ได้รับข่าวสารรัฐบาล ไม่มีรถกลับ ที่สำคัญคือยังไม่ได้เงินค่าจ้างไปขอค่ารถกลับบ้านแกนนำยังโยนกันให้วุ่น ส่วนนักรบรับจ้างอย่างไอ้หัวขวดที่เหลือประเมินแล้วตายในตีนทหารยังได้ค่าจ้างมากกว่าตายในฝ่าตีนชาวบ้านก็เลยประกาศบนเวทีขอยุติการชุมนุมแล้ว การเคลียร์พื้นที่พบระเบิดขวดและอุปกรณ์ทำระเบิดเพลิงจำนวนมากและมีขยะเกลื่อนพื้นทีไปหมดโดยไม่ต้องไปดำน้ำค้นหาหรือเสกเป่ามาแต่อย่างใด

ในระหว่างการดำเนินการสร้างความล่มจมของชาติโจรตัวพ่อยังแหล CNN ทั้งๆที่เป็นหนึ่งในล๊อบบี้ยิสต์ที่ทักษิณจ้าง ได้อีกว่าทหารยิงหัวสมุนดับ ยังด้านด้วยว่าไม่เคยโกงชาติ ด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษอเมริกันแบบตึกแถวมากและนักข่าวถามคำถามตบหน้าทักษิณไปหลายครั้งเชือดนิ่มๆออกอากาศ พอโดน BBC ถามจี้ก็ได้แต่ออกอาการอ้ำๆอึ้งๆอึกๆอักๆ อภิสิทธิ์ได้ไล่ยึดพื้นที่สื่อนอกคืนโดยให้สัมภาษณ์ CNN โต้โจรตัวพ่อแม้ว่านักข่าวสาวของ CNN พยายามสัมภาษณ์อภิสิทธิ์แบบขึ้นเสียงกะต้อนให้จนมุม แต่ฟังที่อภิสิทธิ์แล้วรู้สึกได้เลยต้อนไม่จนจนหลังๆ นักข่าวสาวเสียงอ่อนลง ไทม์สยกอภิสิทธิ์นำชาติพ้นอนาธิปไตยด้วยภาพการสลายม็อบออกมาในเชิงบวกแถมตอบโต้ข้อกล่าวหาในสงครามสื่อที่ตอบโต้ CNN,BBC อย่างมีเหตุมีผล อดทน และชัดถ้อยชัดคำตรงข้ามกับอดีตนายกฯ หนีคดี ที่ตอบคำถามอย่างเลื่อนลอยและไม่น่าเชื่อถือ จบแล้วทักษิณจบแล้วในในเวทีโลกถูกอัลจาซีราสื่อมวลชนชื่อดังของโลกอาหรับกระชากหน้ากากที่เคยให้สัญญากลับเมืองไทยทันทีหากรัฐบาลปราบปรามผู้ชุมนุมแต่สุดท้ายก็ไร้เงา จับโกหกบอกผู้สนับสนุนประท้วงอย่างสันติ แต่ดันยึดรถก่อนจุดไฟเผาและก่อความรุนแรง

ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างการกดดันของเจ้าหน้าที่ต่อที่มั่นของกองโจรเสื่อแดงที่ทำเนียบฯ โจรตัวพ่อซึ่งเพิ่งเสร็จจากการชอปเสื้อผ้าที่ร้านกุชชีในดูไบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับเมียนอกสมรสยังมีหน้าให้สัมภาษณ์สื่อนอกสำนักข่าวสกายนิวส์เรียกร้องให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงเป็นที่เคารพของคนไทยทั้งประเทศช่วยระงับวิกฤตที่เกิดขึ้นโดยอ้างความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในขณะนี้ ตอนนี้ไม่มีใครที่จะนำสันติสุขกลับมาสู่ประเทศได้ยกเว้นองค์พระมหากษัตริย์

ขณะที่ดำเนินการควบคุมตัวและส่งผู้ชุมนุมกลับบ้านยังคงมีการชุมนุมของประชาชนจำนวนหนึ่งและไม่ได้สวมเสื้อสีแดงที่ท้องสนามหลวง ก็แหมมันนัดกันตั้งแต่เริ่มมีข่าวแล้วว่าจะสลายการชุมนุม ปริญญา เทวานฤมิตรกุลยังมีหน้าให้สัมภาษณ์ว่าทหารไม่ได้รับการฝึกให้มาสลายการชุมนุมสรุปแล้วทหารยังทำได้ดีกว่าตำรวจอีก หน้าแหกอีกครั้งหลังจากวิจารณ์ผิดมาหลายครั้งน่าจะคิดทบทวนตัวเองได้แล้วว่าคุ้มค่าจ้างหรือไม่ไอ้พวกริบบินสีขาวตืดรับบินโชว์ว่าได้รับเงินมาแล้วกระมัง ส่วนหมอลักษณ์นายทำนายแม่นมากยอมรับๆ ลีลาวดี วัชโรบลกับกลุ่มสภาประชาชนนัดรวมตัวกันที่วัดธรรมกายจะออกมาต่อต้านได้อีกหรือ ส่วนกาฝากกองทัพร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ ผู้เขียนหนังสือ ทักษิณแวร์อาร์ยู และทักษิณอาร์ยูโอเคเดินทางไปให้กำลังใจคนเสื้อแดงที่สนามหลวงบีบน้ำตาตอแหลได้อีกว่าทหารปราบปรามประชาชนมือเปล่า ภาพอีดาบยาวเกือบศอกในเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นหมวดเจี๊ยบคงเห็นเป็นสากกระเบือเลยกล้าบอกว่า “เสื้อแดงที่มาไม่มีอาวุธอะไรในมือเลย” ขว้างระเบิดเพลิงเข้าใส่ทหารเพื่อนร่วมอาชีพทั้งขโมยและเผารถเมล์แถมขู่ระเบิดรถก๊าซสร้างความหวาดหวั่นให้คนไปทั่ว รถปอ. ที่ถูกเผาเป็นจุลหมวดเจี๊ยบก็คงโทษแก๊สโซฮอล กบฎเสื้อแดงขนถังแก๊สมาหุงข้าวกระมัง? หมวดเจี๊ยบเรียกว่าชุมนุมอย่างสันติ โจรก่อการร้ายเสื้อแดงได้ยึดรถบันทุกแก๊สแล้วเอาไปไว้ที่ดินแดง ที่ปชป.คงเอาไว้ทำกับข้าวด้วยดิ อ้อลืมๆท่าประ(รับ)ทานของบริษัทแก๊สเป็นพี่ของโจรตัวพ่อนี่กรรมการตรวจสอบก็บ้านทิวารี ลืม ขอโทษหมวดเจี๊ยบ ขอโทษอีบ้า

ครั้นพอถูกควบคุมตัวศาลอาญารับลูกอนุมัติหมายจับใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหารหรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตตาม(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีต่อ 13 แกนนำ นปช. วีระ-จักรภพ-จตุพร-ณัฐวุฒิรวมถึงทักษิณโจรตัวพ่อผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการเผาเมืองและมาตรา 215 ระบุว่าผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับถ้าผู้กระทำความผิดคนใดมีอาวุธผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน สี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับโดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้จับกุมอริสมันต์ พงศ์เรืองรองไปแล้ว 1 คน มันยังมีหน้ามาโวยถูกจับแต่ไม่ให้ประกันตัวพร้อมถูกแยกขัง ขณะที่โฆษกกองทัพบกยอมรับคืนนี้มีข่าวเตรียมก่อวินาศกรรมจริงพร้อมปรับกำลังพลรับมือเต็มที่

12 เมษายน 2552

มูลเหตุแห่งวิวาท


วิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้ใด หมู่คณะใด เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และใครเป็นผู้กระพือ ความจริงวันนี้ อันเป็น มูลเหตุแห่งการวิวาท ที่หลวงพ่อผู้ทรงศีลได้เทศนาโปรดนักรบปัญญาชนแห่งกองทัพภาคที่ 3

หนึ่ง. “มีความเป็นผู้มักโกรธ มีความผูกโกรธ” เช่น โกรธผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ โกรธป๋า โกรธ คมช. โกรธพลเอกสุรยุทธ โกรธสองสนธิ โกรธเสื้อเหลือง ฯลฯ

สอง. ”มีความลบหลู่ ตีเสมอ” ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่สำรวมกิริยาวาจา(ใจ) สามหาว “เมตตา”หลวงตาบัว ฯลฯ

สอง. “ความริษยา ในสักการะเป็นต้นของผู้อื่น และความตระหนี่” ทนเด็กวานซืนไปเด่นในเวทีโลกไม่ได้ ภาษาอังกฤษเหนือชั้นฯลฯ

สี่. “ความเป็นผู้โอ้อวด เจ้าเล่ห์ ปกปิด ความชั่วที่ตนทำ” ผมไม่เคยทำผิดอะไร แต่พวกมันช่วยกันใส่ความ มันอิจฉารวมหัวกันเล่นงานผม ผมมันบ้าทำงานไม่ลืมหูลืมตา จนอีกไม่กี่ปีคนไทยก็จะพากันเลิกจนทั้งประเทศอยู่แล้วฯลฯ

ห้า. “ความเป็นผู้มีความปรารถนาลามก เป็นผู้ทุศีลปรารถนาความยกย่องที่ตนไม่มี เป็นความเห็นผิด” เก่งเหมือนปรีดี พนมยงค์ กล้าเหมือนแมนเดลลา ปฏิรูปยิ่งใหญ่ปาน ร. 5 มีประเทศนับไม่ถ้วนคอยให้ไปช่วยแก้ความจน ประเทศเพื่อนบ้าน ทหาร ตำรวจเป็นของพวกเราฯลฯ

หก. “ความเป็นผู้ถือมั่นทิฏฐิของตน” ไม่ยากเลยครับ ผมจะทำให้ประเทศชาติมั่งคั่ง ประชาชนพ้นความยากจนทั่วถึง หากเสียงปืนแตกเพียงหนึ่งนัดเมื่อไร ผมจะกลับมาทันที มานำหน้าพี่น้องกอบกู้เอาประชาธิปไตยที่แท้จริงของเรากลับคืนมาฯลฯ

ปราโมทย์ นาครทรรพ 12 เมษายน 2552 19:55 น.