ม๊อบที่แตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้....
ยังอยากได้ยิน ทุกเรื่องราววววว.....
เมิงอมเงินกรูใช่ไม๊....
เมิงใช้ไปเท่าไหร่.....
อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง.....
ทักษิณที่จุดไฟเผ่าบ้านที่พ่อแม่พี่น้องเพื่อนและญาติๆของมันอยู่โดยที่ตัวมันได้หนีไปอยู่ที่อิ่นที่ปลอดภัยแล้วปล่อยให้พ่อแม่พี่น้องของมันและเพื่อนและญาติสนิทของมันต้องรับชะตากรรมโดยที่มันอยู่อย่างมีความสุขแล้วก็มาหลอกว่าถ้าเราเจ็บมันจะเจ็บด้วยเห็นหรือยังมันปลุกระดมว่าจะบินกลับมาเป็นแกนนำกลุ่มเสื้อแดงทันทีหากมีเสียงปืนแตกแต่ในวันที่กลุ่มเสื้อแดงถูกทหารสลายการชุมนุมกลับมีคนเห็นทักษิณเดินช็อปปิ้งซื้อของให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อยู่ที่ประเทศดูไบทั้งๆ ที่ออกมาระบุว่าเลิกกันไปแล้ว
จุดพลิกผันของกบฏเสื้อแดงต้องเพลี่ยงพล้ำจนพ่ายแพ้เมื่อทักษิณเอาแค่สะใจหวังฉีกหน้ารัฐบาลประจานชาวโลกปลุกเร้ากลุ่มผู้ชุมนุมไปขัดขวางการประชุมกลุ่มประเทศผู้นำอาเซียน +3 และ +6 ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ จนผู้นำ 16 ประเทศแตกกระเจิงหนีตายพร้อมๆ กับโอกาสของไทยหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายทั้งที่การประชุมไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ชูธงโค่นล้มอำมาตยาธิปไตยแต่อย่างใด จากนั้นกบฏเสื้อแดงเหมือนอยู่ในอาการเมาหมัดทำอะไรก็พลาดไปหมด ไร้ทั้งยุทธศาสตร์ ขาดยุทธวิธีพลาดตั้งแต่การไล่ทุบรถนายกฯ ถึงขั้นจะเอาชีวิตเหมือนไม่ใช่ผู้นำประเทศจนถึงการก่อจลาจลทั่วกรุงปะทะชาวบ้านในหลายๆ จุด กบฏเสื้อแดงเขวี้ยงระเบิดเพลิง-ขับรถชนทหาร แยกดินแดง ซึ่งปรากฏเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่าฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายเริ่มความรุนแรงก่อน
โกหกใครก็ได้โกหกตัวเองนี่เจ็บใจจิ๊ด ๆไหมอาวุธมีไม่เท่าพธม.ก๊าก 1)มีระเบิดขวด นับไม่ทัน 2)เอาปืนมายิงคนนางเลิ้งตาย 2 คน 3)ขวานในมือ 4)ดาบในมือ 5)น้ำมัน ปืน ที่จะไปวางเพลิง 6)ยิงทหารบาดเจ็บนับสิบ 7)ขับแท๊กซี่ ขับเมล์มาชน 8)ยิงคนที่ เพชรบุรี ซอย5 & 7 9) M79 ยิงเข้าศาลอีก 10) ถังแก๊ส มากมาย รถแก๊สอีก สังเกตไหมทำไมรถเมล์ ยูโรถึงได้โดนกลุ่มคนเสื้อแดงเผาเยอะขนาดนั้น ก็หัวหน้าที่คุมอู่รถเมล์แถวๆตลาดสุชาติ รังสิตเป็นพวกเสื้อแดงสั่งให้เอารถขับไปจอดพร้อมทั้งทิ้งกุญแจรถไว้ ให้พวกเสื้อแดงที่สามเหลี่ยมดินแดง พวกเสื้อแดงไม่ได้ปล้นก็ไม่ใช่รถของมันนี่แต่เป็นรถของรัฐบาล สรุปรวมตัวเลขมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการชุมนุมรวมทั้งสิ้น 138 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและอยู่ระหว่างการรักษาตัว 58 ราย กทม.ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 9,490,630 บาท กทม.ที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 9,490,630 บาท ขสมก.สรุปความเสียหายโดนยึดรถเมล์ 52 คัน โดนเผาทิ้ง 18 คัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างระเบิดเพลิงเข้ามายัง สอศ.จนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย 3.5 ล้านบาท
สื่อทั้งในและนอกประเทศมันปกปิดข่าว เชื่อถือไม่ได้ ทีแรกนึกว่ามีแค่สื่อในประเทศอย่าง ASTV, เนชั่นที่บิดเบือน แต่ตอนนี้มันบิดเบือนกันทั่วโลกแล้วทั้ง 3, 5, 7, 9, NBT, CNN, BBC, Times, อัลจาซีร่าห์, FHM, Playboy, ทีวีพูล, สตาร์ซอดเกอร์, BOOM, C-kids, ขายหัวเราะ, มหาสนุก, นีออน ฯลฯ 2 มาตรฐานจริงๆพวกสื่อพวกนี้
ภาพการ์ตูนหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ฉบับวันศุกร์ที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นทักษิณกำลังหวดไม้กอล์ฟแต่แทนที่จะเป็นลูกกอล์ฟอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยกำลังหวดทุ่นระเบิดจากกัมพูชาข้ามพรมแดนเข้าสู่ดินแดนประเทศไทย
สมเด็จฯ ฮุนเซนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับทักษิณพูดว่า "นั่น..คุณกำลังทำอะไรละ? มันประเทศของคุณนะ..."
ส่วนทักษิณที่กำลังหวดลูกระเบิดกล่าวตอบว่า "อ๋อ..ใช่..มันคือระเบิด!!! เพราะผมจะทำอะไรก็ได้..."
กรณีที่อดีตประธานรัฐสภา นักการเมืองบางราย ตลอดไปจนถึงผู้ซึ่งมีสถานะเป็นถึงท่านผู้หญิงบางท่านได้รวบรวมรายชื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระบารมีจากองค์พระมหากษัตริย์ให้เข้ามายุติสถานการณ์ความขัดแย้งหลังจากที่ทักษิณได้ทำท่าว่าจะเริ่มเพลี่ยงพล้ำขึ้นมาบ้างแล้วเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดรับกับคำให้สัมภาษณ์ของนักโทษชายต่อสำนักข่าวต่างประเทศบางสำนักอย่างตรงไป-ตรงมาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวควรจะทรงเข้ามา แทรกแซง สถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อเพิ่มขึ้นไปอีกซึ่งขัดแย้งกับคำโจมตี วิพากษ์ วิจารณ์ที่ตัวเองได้จาบจ้วงล่วงเกินต่อบรรดาองคมนตรีอันเป็นผู้ซึ่งได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระมหากษัตริย์ให้ทำหน้าที่ทูลเกล้าฯ ถวายคำปรึกษาอย่างเห็นได้ชัดเจน ว่าบรรดาองคมนตรีเหล่านั้นเข้ามาแทรกแซงการเมือง
การสลายม็อบจากเช้าถึงเที่ยงวันที่ 14 เม.ย.นั้นกอฉ.กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะกิจใช้สมองทำงานมากกว่าใช้กำลังในการปราบกบฏโดยเปิดเผยโดยยอมให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมไปเป็นพยานเต็มไปหมดทั้งชาวบ้าน ทั้งสื่อไทยและสื่อเทศต่างยืนยันได้ว่าไม่มีคนเสื้อแดงเจ็บ-ตายจากการสลายม็อบของทหารมีแต่ชาวบ้าน และทหาร ทั้งเจ็บ-ทั้งตาย พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงทักษิณมุกแป๊กโจมตีว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงบ้าง ว่าทหารฆ่าประชาชนแล้วเอาศพแอบไปเผาบ้างนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการบิดเบือน สร้างข่าวใส่ร้าย-ป้ายสีรัฐบาลและทหารอย่างหน้าด้านที่สุด
หลังจากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามประชาชนครั้งนี้ปฏิบัติการกบฏแผ่นดินของทักษิณยังไม่จบเพียงแต่สะดุด-หยุดชะงักไปชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งมีการบีบวงล้อมทั้งตัวทักษิณและบริวารแดงจากฝ่ายรัฐบาลที่รัฐอาจจะได้เห็นปฏิบัติการตอบโต้-ต่อต้าน ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปทักษิณที่ไม่เคยสำนึกบุญคุณของแผ่นดิน เป็นต้นตอของปัญหาทั้งมวลจะต้องถูกรุกไล่ทั้งจากรัฐบาลและสังคม แต่ก็ยังมีปฏิกิริยาต่อต้านอยู่มันต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างตามเป้าหมายให้จงได้ มันทำงานกันเป็นทีมเป็นขบวนการต่อสู้ทุกวิถีทาง ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อัลจาซีราและบีบีซีเหล่านี้มีวิธีการถามทักษิณในระหว่างการสัมภาษณ์ที่น่าสนใจมากโดยผู้สื่อข่าวเขาถามว่าทักษิณ เป็นผู้บงการสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใช่หรือไม่เพราะเป็นคนที่ติดต่อวิดีโอลึงค์กลับมาประเทศไทย เขายังถามอีกว่าคุณมัวแต่พูดเรื่องประชาธิปไตยแต่สิ่งที่คุณพูดคือความพยายามที่จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมบีบบังคับให้รัฐบาลลาออกนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย อีกคำถามหนึ่งคือความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ ทักษิณ อยู่เบื้องหลังเพื่อต้องการกลับมามีอำนาจและล้างคดีความของตนใช่หรือไม่ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นนั่นไม่ได้ให้ความน่าเชื่อถือกับทักษิณนัก
ก็รูปผู้ชายคนหนึ่งเลือดอาบแขนและมีรูกระสุนอยู่ตรงหน้าอกด้านซ้ายใกล้หัวใจ ซึ่งได้ถูกสลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ตอนเช้าวันที่ 13 เม.ย.ที่ทักษิณเอาออกมากล่าวอ้างชายคนที่อยู่ในภาพนั้น คือ นายไสว ทองอ้ม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ไม่ใช่เอ็ม 16 นั่นไม่สำคัญเท่ากับชายคนดังกล่าวไม่ได้เสียชีวิตและได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถีแต่พวกกลุ่มเสื้อแดงกับทักษิณกลับจงใจให้ข้อมูลผิดๆ กับแกนนำ นปช.ว่าทหารใช้กำลังฆ่าประชาชนทั้งๆ ที่ชายคนดังกล่าวกำลังรักษาตัวอยู่ หมอสระอาหมาเหวง ซึ่งเดินทางไปเยี่ยมคนดังกล่าวด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็พบว่าชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิตแต่กลับไม่ยอมไปบอกกับแกนนำและกลุ่มเสื้อแดงว่าชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิต ทักษิณและบริวารกำลังโฆษณาชวนเชื่อว่าทหารทำร้ายฆ่าประชาชนที่ไม่มีทางสู้และนำศพไปซ่อน ไทยพีบีเอส เป็นสื่อที่แฝงมาในรูปแบบของเอ็นจีโอ เป็นช่องเดียวที่ให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.โกหกออกอากาศ เป็นช่องเดียวที่ได้เชิญนิธิ เอียวศรีวงศ์ ชัยวัฒน์ สถาอนันต์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการอิสระรวมถึงนักวิชาการริบบิ้นขาวและฝักใฝ่เสื้อแดงเรียกร้องให้นายอภิสิทธ์ลาออก เป็นช่องเดียวที่ปล่อยให้วิทยา บูรณศิริ ส.ส.เพื่อไทยโกหกออกอากาศ เป็นช่องเดียวที่ปล่อยให้สมบัติ บุญนามอนงค์บก.ลายจุดทั้งๆ ที่เป็นแกนนำ นปก.รุ่นที่ 2 มาชี้ทางออกให้กับสถานการณ์บ้านเมืองด้วยกริยาหยาบคาย ถ่อยสถุล เป็นช่องเดียวที่ชอบเอา บก.บห.ที่ทำเว็บไซต์ประชาไทยที่หมิ่นสถาบัน เป็นช่องเดียวที่กินเงินของรัฐปีละ 2,000 ล้านบาทโดยมีนายจอน อึ้งภากรณ์พี่ชายของนายใจ อึ้งภากรณ์นั่งเป็นคณะกรรมการซึ่งถือเป็นการถลุงเงินภาษีอากรของประเทศ แต่เป็นหนึ่งในหลายๆช่องที่มีพิธีกรเอียงข้าง
ส.ส.พรรคเพื่อไทยชักจูงประชาชนในภูมิภาคโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานในบางจังหวัด อ้างมีการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมโดยศพถูกนำไปทิ้งแม่น้ำ คาดว่าในส่วนตัวเพื่อไทยเองก็ต้องกลับมาเล่นเกมในสภาและดำเนินการทางรัฐสภาในหลายทาง เรียกร้องให้มีการเปิดประชุม รัฐสภาเพื่อหยิบยกทางออกขึ้นมาพิจารณาเช่นการผลักดันรัฐบาลเพื่อชาติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การออกพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เป็นต้น แล้วแก้ตัวว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ทั้งนี้ในทางลับพรรคเพื่อไทยยังไม่ทิ้งการเล่นเกมนอกสภาเช่น เเกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และคนใกล้ชิดทักษิณ ชินวัตรอดีตกฯเช่นพายัพ ชินวัตรรวมทั้งจตุพรได้นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อเเดงแล้ว คงจะก่อม็อบปากท้องเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา ส่วนขบวนการใต้ดินจะปล่อยหลักฐานจำนวนผู้สูญหายจากเหตุการณ์ชุมนุมตามช่องทางต่างๆ อาทิ เว็บไซต์ อี-เมล หรือแม้แต่ยุทธวิธีโบราณคือเสียงเล่าลือปากต่อปากเพื่อให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลและทหารที่ใช้ความรุนแรงโดยมอบหมายให้คนบ้านเลขที่ 111 รับผิดชอบในส่วนนี้
กลุ่มเอ็นจีโอและองค์การนักศึกษาสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) จัดงานแถลงข่าวการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องคนหายในเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ออกมาตั้งโต๊ะรับเรื่องผู้สูญหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมนั้นเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงเมื่อเร็วๆนี้ทำไมไม่พูดถึงประชาชนชาวบ้านนางเลิ้งซึ่งเสียชีวิต 2 คน เพราะถูกกลุ่มเสื้อแดงยิงอาวุธปืนเข้าในใส่ถึง 2 รายบ้าง แจ้งเรื่องคนหายในเหตุการณ์ชุมนุมได้ที่นางสาวสุลักษณ์ หลำอุบลหมายเลขโทรศัพท์ 0805937904 และ e-mail suluck_fai@hotmail.com, กับ suluck@gmail.com คนในสนนท.เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงนามให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นมาตรา 112 โดยลงชื่อสนับสนุนใจรัญ อึ๊งภากรณ์ด้วย ชื่อเสียงของสนนท.เริ่มป่นและเน่าตกเวทีประวัติศาสตร์ไปนานแล้วตั้งแต่สมัยหลังพฤษภา 35 ดังนั้นสมัยนี้สนนท.มีสภาพที่ไม่ต่างกับกลุ่มกิจกรรมเล็กๆ ที่ไม่ได้มีบทบาทต่อสังคมสาธารณะหรือมีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองอันเป็นที่ยอมรับเหมือนในอดีตและยังไม่ได้ถือว่าเป็นตัวแทนขององค์การนักศึกษาของทุกมหาวิทยาลัยเฉกในเช่นอดีตอีกด้วย นางสาวสุลักษณ์ หลำอุบลเป็นเพื่อนร่วมรุ่นแสนสนิทกับ นายธีรชัย จารุวัตร ประธานกลุ่ม "ประชาธิปไตยไม่ใช่กิ๊ก"ซึ่งเป็นนักเขียนประจำในนิตยสาร "ฟ้าเดียวกัน"เจ้าเก่า ที่เป็นที่รวมของเครือข่ายคนจ้องล้มสถาบันฯนั่นเอง สุลักษณ์เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มต่อต้านสถาบันฯแทบทุกกลุ่มตลอดมา เป็นหนึ่งในสาวกคนสำคัญของอาจารย์จุฬาฯคนดังๆที่จ้องทำลายสถาบันเช่นสุธาชัย ยิ้มประเสริฐกับใจรัญ
ทำไมหรือเพราะเหตุใดที่ทักษิณต้องการทำลายสถาบัน มันมีเหตุผลส่วนตัวและส่วนรวมที่ทำให้ทักษิณเห็นว่าเมืองไทยต้องปลอดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อแรกก็คือสถาบันนี้ถือเป็นสูงสุดทำให้ทักษิณไม่อาจสูงสุดในการปกครองได้ก็ในเมื่อเขาต้องการอำนาจสูงสุด ข้อสองรากหญ้าที่สถาบันอุปการะโดยโครงการต่างๆ ส่วนพระองค์นั้นทักษิณเห็นว่าทำไม่จริงจัง ทักษิณมองว่าคนเหล่านั้นเป็นรากหญ้าแท้จริงเป็นรูปธรรมกว่าและจะได้ประโยชน์จากเขามากกว่า การที่ดึงรากหญ้ามาเป็นพวกก็เพื่อย้ายฐานเรื่องความจงรักภักดีจากคนไทยออกมาสู่ตัวเขาแทน ข้อสามทักษิณเห็นว่าสถาบันเป็นอุปสรรคทางการเมืองทั้งๆ ที่ตัวเขาอยู่ในการเมือง ข้อสี่ทักษิณไม่เชื่อในความคิดว่าประเทศไทยควรมีการปกครองที่มีสถาบันค้ำจุน แต่เชื่อว่าประเทศไทยควรมีความทันสมัยในระบบแบบเสรีโดยครบถ้วนไม่ล้าหลังด้วยสถาบันเก่าๆ ข้อห้าข้อที่สำคัญมากทักษิณเชื่อว่าสถาบันนั้นควรสลายไปเองก็จริง แต่ก็ควรเร่งให้สลายเสียโดยเร็วตามหลักการที่ฝ่ายซ้ายที่เป็นปรึกษาของเขาบอกว่าระบอบทุนนิยมจะโตถึงขีดสุดไม่ได้หากมีซากของระบอบศักดินาอยู่ คิดแบบทักษิณนี่ มันอันตรายจริงๆ เป่าหูประชาชนว่าสถาบันเบื้องสูงอย่างนั้นอย่างนี้ พยายามดิสเครดิตให้มากที่สุด หวังโน้มนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสุดยอดความฝันอันสูงสุด ของพวกคอมมิวนิสต์
พธม.ปิดสนามบิน เกิดความเสียหายจริงแต่บนพื้นฐานที่คนไม่เข้าประเทศเป็นเวลาสองสามอาทิตย์หลังจากนั้น คำว่าความเสียหายแสนล้านเป็นการประเมินที่อยู่บนพื้นฐานที่ไม่เป็นจริงของนักวิชาการ ข้าราชการบางคนที่บอกว่าการท่องเที่ยวเราเสียหายยับเยิน ในขณะที่ช่วงปิดสุวรรณภูมิไม่ได้มีประกาศออกมาว่าให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ความปลอดภัยอยู่ในระดับเท่าไร หลังจากเหตุการณ์ยึดสนามบินก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวทยอยกันเข้ามาแม้จะไม่มากเหมือนเมื่อก่อน แต่นอกจากการปิดสนามบินแล้วพธม.เคยข่มขู่ว่าจะทำร้ายทำลายประเทศไหม เคยเอารถแก๊สออกมาแล้วใช้ปชช.เป็นตัวประกันไหม เคยยึดรถเมล์ เผายาง ขว้างระเบิดขวดไหม ประเทศในแถบยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา ออกมาประกาศชัดว่าให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ความปลอดภัยอยู่ในระดับสามคือไม่ปลอดภัยที่จะมาเที่ยว เหตุการณ์ช่วงสงกรานต์ที่หลายต่อหลายบริษัทประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปไทยทั้งหมด พร้อมคืนเงินให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นแล้วยังประกาศว่าจะไม่มีเที่ยวบินไปเมืองไทยผ่านทุกบริษัททัวร์อย่างไม่มีกำหนด ก็ลองทบทวนว่าแบบไหนเสียหายมากกว่ากัน
ลีลานำม็อบเผากรุงเหมือนพญาราชสีห์แต่จตุพรกลับหนีคดีเหมือนตู๊ดตู่มูดในรูการกระทำของจตุพรเป็นการปฏิเสธระบอบรัฐสภาและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ให้เอกสิทธิ์ ส.ส. เพื่อรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ออกไปรับใช้นักโทษที่หลบหนีคดีอาญา แล้วยังคิดจะทำลายประเทศชาติบ้านเมืองที่ เข้าข่ายกบฏแผ่นดิน พอโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ก็อ้างเอกสิทธิ์เพื่อหวังเอาตัวรอด จตุพรเคยกล่าวหานายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ว่าเก่งจริงอย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่พอถึงคราวตัวเองกลับวิ่งหลบอยู่หลังเอกสิทธิ์อย่างไรศักดิ์ศรีทั้งๆ ที่พฤติกรรมคนละอย่างกับนายสมเกียรติ์อย่างชัดเจนทำตัวหลบๆซ่อนๆแล้วโผล่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นต่อมสำนึกลึกหลายขุม ลอยหน้าลอยตายันแดงไม่ผิด ยังมีหน้ามาบิดข่าวว่าอภิสิทธิ์เป็นฆาตกรที่ฆ่าประชาชน คนเสื้อแดงโดนตีตาย 3ศพ คนเสื้อแดงไม่มีเหตุผลที่ไปทะเลาะประชาชนและคนเสื้อแดงรู้สึกว่าโดนทหารยิงอดทนไม่ได้แล้วมีการนำถึงแก๊สมาขู่บ้าง ยังอ้างได้อีกว่าสถานการณ์มันลุกลามเพราะเนวินและสุเทพ ใส่ใข่ว่ามีการปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงมาเผารถเมล์และนำรถแก๊สที่แกนนำไม่รู้ว่าใครเอาไปมาเพื่อก่อวินาศกรรมและการเอาประชาชนเป็นตัวประกันไม่ใช่เป็นฝีมือคนเสื้อแดงแล้วยังหน้าด้านตั้งรางวัลนำจับหาคนร้ายอีก มันตัวใหญ่เสียเปล่าแต่กลับใจปลาซิวขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับการกระทำของตัวเอง ได้แต่โยนขี้ให้คนอื่น ยุยงปลุกปั่นมวลชนจนเกิดเหตุรุนแรง
รัฐบาลไม่ต้องการให้คนไทยทำร้ายประเทศจะใต้ดินหรือบนดิน แต่ก็ควรประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ให้ดีก่อนอย่าใจเร็วรีบยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องเอาคนที่รอบรู้มาช่วยนายอภิสิทธิ์ ตั้งหน่วยงานเพื่อโต้ตอบทักษิณแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เอาพวกกบฏพวกนี้มาลงโทษในเวลาที่รวดเร็ว เร่งดำเนินการกับกลุ่มตัวนำเช่นที่เชียงใหม่และที่อุดร อย่าใช้คนไม่เหมาะกับงาน ควรจะมีคณะทำงานด้านความมั่นคง เข้มแข็ง กล้าได้ กล้าเสีย ทำงานเชิงรุก รัฐต้องเป็นคนกำหนดเกมเล่น ไม่ใช่ตามไปเล่น อย่าไว้ใจตำรวจสังเกตจากงานหลายภารกิจตำรวจทำไม่ได้ ทำไม่เสร็จทั้งที่งานไม่ยาก ผลงานไม่มี มีแต่ข้ออ้างข้อแก้ตัวมีผู้นำตำรวจที่อ่อนแอเกินไปเวลานี้เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจพิจารณาปรับเปลี่ยน ปลดผบ.ตร.เป็นคนอื่นได้แล้วหลังที่ได้เห็นแล้วว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำหน่วยแห่งนี้ ภายใต้พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลบทบาทหลักก็ตกอยู่ที่ทหารแต่ตำรวจก็ยังต้องเป็นหน่วยหลักในการสนธิกำลังกับฝ่ายทหารเพื่อสนับสนุนภารกิจการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแต่นี่ปรากฏชัดว่าตำรวจกลับไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ได้ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่แบบปิดตาข้างเดียวไม่สนใจประชาชน สังคมเอือมระอาเต็มทนกับตำรวจที่เป็นทาสของระบอบทักษิณ
ผบ.ทร.ได้แสดงตัวชัเจนตั้งแต่ต้นแล้วว่ายืนข้างทักษิณมานานแล้วโดยเฉพาะ ผบ.ทร.คนเก่า บิ๊กมีสีที่ส่อเกียร์ว่างและบางคนอาจถึงขั้นส่อพฤติการณ์ทำตัวเป็นคนในขบวนการสีแดง ทั้งตำรวจและกองทัพปันใจให้คนเสื้อแดงจากเหตุการณ์หลายต่อหลายครั้งที่อภิสิทธิ์ได้ทดลองด้วยตัวเองที่พัทยา มวลชนคนคลั่งทักษิณกลุ่มที่เสนอตัวเข้าร่วมชุมนุมหน้าทำเนียบฯคือมวลชนจากตำรวจและครอบครัวที่มีการจัดตั้งเตรียมไว้ก่อนตบเท้าเข้าร่วมจำนวนมากและเติมเต็มให้กับม็อบทุกคืน ภารกิจเร่งด่วนนื้ที่อภิสิทธิ์ต้องเร่งทำคือฟื้นความปรองดองของคนในชาติและเร่งปฏิรูปการเมืองอย่างจริงใจ ถ้าบ้านเมืองยังแตกแยกการเมืองไม่นิ่งกระตุ้นไปกี่หมื่นกี่แสนล้านเศรษฐกิจก็ไม่ฟื้นจัดทีมจะโรดโชว์ต่างประเทศสักกี่พันรอบก็คงไม่มีใครเชื่อมั่นรัฐบาลทำข้างในดีเมื่อไหร่แล้วข้างนอกจะดีตาม ที่แน่ๆคนที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆต้องจะเป็นสุเทพ เทือกรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ จุดบกพร่องอยู่ตรงไหนอภิสิทธิ์ต้องเร่งแก้ไข ยิ่งถ้าอภิสิทธิ์เร่งจัดการประชุมกลุ่มประเทศผู้นำอาเซียน +3 และอาเซียน +6 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาหากทำได้สำเร็จคนบางคนอาจจะอกแตกตายก็ได้
แม้ว่าเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ทราบว่าเคยเกิดขึ้น 2-3 ครั้งแล้วโดยมีการยิงเข้าไปในบ้านและระหว่างที่มีการชุมนุม แต่ครั้งนี้พบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 64 นัด กระสุนเอสเค 17 นัด เอ็ม 16 จำนวน 3 นัดและถูกกระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 นัดแต่ไม่ระเบิด โดนไปขนาดนี้เห็นสภาพรถขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าจะเป็นการเสี้ยมของคนในระบอบทักษิณที่ต้องการฆ่าสนธิในช่วงเวลาที่สนธิกำลังวิจารณ์โจมตี ทหาร โจมตีอนุพงษ์ โจมตีเนวิน โจมตี สุเทพและประเด็นสำคัญตรงที่สนธิเสนอให้มีการโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตำรวจ มือปืนเลยใช้ช่วงโอกาสเหมาะตรงนี้เพื่อโยนบาปไปให้รัฐบาลว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าซึ่งสอดคล้องกับคำพูด เสธ.แดงทำให้พันธมิตรเข้าใจผิดว่ารัฐบาลเป็นคนทำแล้วจะโกรธแค้นลุกฮือออกมาต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ล้มทักษิณก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ กระจกหน้ากระโปรงพรุน แต่กระจกไม่แตกละเอียด กระจกหน้าน่าจะเป็นกระจกกันกระสุนแต่ไม่ใช่แบบพิเศษ เลยทนแรงอัดจากอาวุธสงครามไม่ได้ กระสุนเจาะทะลุกระจกหลัง ทำให้กระจกหลังแตกละเอียดมีกระสุนทะลุหัวพนักพิงด้านหลังเป็นรูโหว่หลายจุด คนร้ายกราดยิงไปทั่วรถ ทำให้วิถีกระสุนเจาะทะลุกระจกข้างคนขับและข้างคนขับแตกละเอียด กล้อง CCTV จำนวน5ตัว ในบริเวณนั้นขัดข้องทั้งหมดแหมทีไอ้กล้องที่เพิ่งติดใหม่ใว้จับคนฝ่าไฟแดงชัดจริงถ่ายถึงในห้องคนขับเลยวัดความเร็วได้ด้วย ทั้งจับภาพได้หลายมุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น