26 ธันวาคม 2552

ไม่มีคำว่าพอสำหรับคนโลภ


เด็ดดอกไม้รายทาง
       โดย...อัญชะลี ไพรีรัก
      
       ช้อบ...ชอบที่ “พี่บัณฑิต” ผู้ดำเนินรายการหนึ่งในทีมข่าวยามเช้าริมเจ้าพระยา ASTV ให้คำจำกัดความ ถึงแนวทางการต่อสู้ที่ผลุบๆ โผล่ๆ ของ “จักภพ เพ็ญแข”ว่า “เป็นคล้ายๆ กับกองกำลังปลดปล่อยพยัคฆ์ทมิฬอีเพ็ญ”
      
       ความว่า พี่บัณฑิต เจ้าของวาทะตลกร้ายเอามาจาก “กองกำลังปลดปล่อยพยัคฆ์ทมิฬอีแลม” ของศรีลังกาที่มุ่งมั่นจะแบ่งแยกรัฐทมิฬออกจากศรีลังกา ด้วยการใช้วิธีระเบิดพลีชีพ แต่ของเขาทำเพื่อเผ่าพันธุ์ ส่วน”อีเพ็ญ”ทำเพื่อ “คุณพ่อทักษิณ” ต่างกันลิบลับดุจฟ้ากับเหว
      
       สัปดาห์นี้ก็คงต้องวนเวียนพูดถึงแต่ความวุ่นวายของชาติบ้านเมืองที่มาพร้อมกับการก่อกำเนิดและเติบโตของระบอบนายใหญ่ เจ้าของเชื้อชั่วไม่มีวันยอมตายง่ายๆ แม้จะเพลี่ยงพล้ำ ถูกปฏิวัติรัฐประหารไปเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่ใช่ว่าคนอย่างจอมโจรหน้าเหลี่ยมซึ่งโกงแผ่นดินรวยล้นฟ้ามหาสมุทรจะยอมพังพาบลงไปอย่างง่ายดาย
      
       หลังจากไปผจญชีวิตรุ่มรวยอักโขในอังกฤษพักใหญ่ ความดิ้นรนหาเรื่องซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของโจรปล้นชาติรายนี้ ทำให้เขาติดกับดักความโลภของตัวเอง จนเป็นเหตุให้ต้องระเหเร่ร่อนลี้ภัยประเทศโน้นที- ประเทศนี้ที อยู่ไม่เป็นสุข แถมเมื่อไปที่ไหนก็รังแต่จะสร้างความวิบัติฉิบหายให้กับคนที่นั่นไม่เว้นแต่ละที่
      
       ดูอย่าง “ดูไบ”เป็นต้น แว่วมาว่าตอนนี้ให้ที่พักพิงกับโจรใจเขมรไปอย่างแกนๆ ด้วยเหตุที่ทำมาค้าขายใหญ่โตด้วยกันมาเก่าก่อน จะไล่เปิดไปเสียก็ใช่ที่ เพราะที่เป็นอยู่ก็เจ๊งวอดวายไปมิใช่น้อย แต่จะให้อยู่แล้วปล่อยให้ทรราชหน้าเหลี่ยม เปลี่ยนทะเลทรายเป็นฐานที่มั่นกองกำลังเสื้อแดงพลัดถิ่นอยู่อย่างเคย ก็เห็นทีจะเดือดร้อนอู่ข้าวอู่น้ำ ที่พี่น้องในอาบูดาบี พี่ใหญ่แห่งสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ไม่ค่อยพออกพอใจ ร่ำๆ จะตัดขาดอยู่รอนๆ
      
       ยิ่งตอนนี้ออกจากพนมเปญมาซุกปีกดูไบอีกแล้ว ชีคผู้ครองนครดูไบเลยสั่งแกมขอร้องให้ทำตัวเงียบเชียบอยู่ในคฤหาสน์เลขที่ 10 บนถนนเลขที่ 10 หลังแรกของแยกเข้าซอย 10 ตอนนี้ทักษิณเลยบ้า ร้อน – หนาว สลับกันไปมาเหมือน เลือดจะไปลมจะมา
      
       หันรีหันขวางอยู่พักใหญ่ เลยถามเมีย ทะเบียนหย่าว่า เอาไง เมียใหญ่ ตอบว่า เอาไง เอากัน ไม่งั้น หมดตูดแน่ เพราะ สุรเกียรติขึ้นให้การมัดตัว คดียึดทรัพย์ พร้อมหลักฐานครบครัน ชนิดที่ดิ้นไม่หลุดยิ่งกว่าแร้วดักสัตว์ พอดีพอร้ายจะติดคุกหัวโต หรือ ตายในต่างแดน ทั้งโคตรเหง้าศักราช
      
       สมน้ำหน้า...จำได้ไหมเคยชี้หน้าบริภาษ “ญาติข้างเมีย” ของเขาว่าอย่างไรในวันโดนรัฐประหารที่นิวยอร์กนะ วันนี้เห็นแล้วใช่ไหมว่า สุรเกียรติ์ของขึ้น เพราะด่าเมียก็แทบทนไม่ได้แล้ว ยังลามปามผรุสวาจาใส่ญาติข้างเมีย มีหรือจะทนอยู่ด้วยได้...หลังสุรเกียรติลงจากศาล...ชีวิตนายใหญ่ก็เปลี่ยนไปไม่หวนกลับ
      
       ทั้งกลัวติดคุก ทั้งกลัวถูกยึดทรัพย์ เลยฝากคำสั่งครั้งสุดท้ายก่อนถลาไปดูไบว่า “หลังปีใหม่ เผาบ้าน-เผาเมืองและเผา ASTV”
      
       ใครจะเถียงเชิญเรียงหน้าออกมา เพราะวิทยุชุมชนเสื้อแดงแฝงนัดหมาย ออกอากาศเจื้อยแจ้วว่า เจอกันแน่ๆ หลังปีใหม่ งานนี้นายใหญ่ให้เหตุผลหลังทุ่มหมดหน้าตักว่า “เพราะไอ้หนูดีลพลาด ” …ความเดิมที่ว่าจะแบ่งรางวัลให้ครึ่งหนึ่งถ้าพากลับบ้าน เป็นอันจบเห่กัน หลังมีคนดียื่นหน้า “ฟ้อง” ว่า ลับหลังทีไร นายใหญ่ “ด่าเจ้า”มันปากทีนั้น แถมทวงบุญคุณไม่จบไม่สิ้น “คนฟัง” นึกโมโหโกรธาเลยปั้นปึ่งไม่แยแส จะเป็นจะตายก็ช่าง ทีนี้ละตัวใครตัวมัน
      
       ส่วนเจ้เพ็ญ กล้ามใหญ่อดีตสมาชิก “สราญรมย์” ตัวจริงเสียงจริง ตอนนี้เดินตากลมหนาวตัวปลิวอยู่กับอ้ายยงยุทธ ที่พนมเปญ เพื่อรอการกลับมาของนายใหญ่อีกหนในปีหน้า ส่วนจะได้กลับพนมเปญอีกรอบหรือเปล่ายังสงสัย!!!
      
       เวลานี้หัวขบวนใหญ่ที่บ่อนปอยเปต แดนดินถิ่นสวรรค์ของผีพนัน โอดครวญน่าสงสารว่า “ฉิบหาย” หลังจากทักษิณเหยียบกัมพูชาในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ ยอดผีพนันลดฮวบฮาบด้วยกลัวการเมืองลุกเป็นไฟ ร้อนถึงเสี่ยพัด สุภาภา มือขวาฮุนเซนต้องแอบกระซิบ “ไม่ไหวแล้วนาย...ขืนอุ้มต่อไปเราตายแน่”
      
       ขณะที่ สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ร่อนสารขอแรงจากเขมรพลัดถิ่นให้ลุกขึ้นสู้กับเผด็จการฮุนเซนอีกระลอก ... ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็มีเฉย แต่วันนี้ลูกเขมรลุกฮือ แรงกระเพื่อมขนาดนี้มีหรือเสือเฒ่าอย่างฮุนเซนจะไม่รู้
      
       แถมอดีตกษัตริย์กัมพูชาเจ้าสีหนุ ก็ออกแรงหนุนเขมรในต่างแดนให้โค่นฮุนเซนอีกแรง เพื่อปกปักรักษาราชบัลลังค์ให้เจ้าสีหมุนี ผู้บุตรชายยอดดวงใจ หลังจากถูกฮุนเซนบีบมานานแสนนาน
      
       ศึกนอกศึกในสุมไฟจวนเจียนจะพังมิพังแหล่ งานนี้ฮุนเซนเลยขยิบตาให้หน่วยงานใต้ดิน ดักฟังสายโทรศัพท์ให้พล่านไปหมด ใครพูดอะไรกับใครต้องระวังตัวลีบตัวแบน แค่พอจับได้ความว่า เขมรหน้าไหนเขม่นอำนาจฮุนเซน เป็นต้องโดนกองกำลังติดอาวุธของลูกชายไปจัดการทันที
      
       เรื่องนี้มีให้เห็นทุกวัน หากแต่หนังสือพิมพ์ชั้นนำของเขมรอย่างรัศมีกำพูเจียไม่เคยรายงาน ส่วนคนในบ่อนเขารู้หมด หดหัวกันเป็นแถว ด้วยเกรงบ่อนใหญ่ลงทุนเยอะจะโดนกลืนด้วยกองกำลังติดอาวุธ ที่กฎหมายใดๆในกัมพูชาก็ไม่อาจเอื้อมมือไปถึง เพราะ ฮุนเซน คือ กัมพูชา และ กัมพูชา คือ ฮุนเซน
      
       การเมืองในพนมเปญเกือบจับไข้ และ ไฟนอกที่ฮุนเซนถือมาเผาบ้านตัวเองก็กำลังลุกลาม ด้วยเสื้อแดงที่แฝงเข้าไปทำทีเยี่ยมนายใหญ่ ณ คฤหาสน์หรูย่านวงเวียนวิมานเอกราช ใกล้ๆพระราชวังเขมรินทร์ กลับออกมาไม่ครบ!!!
      
       ที่เหลือจึงมีทหารใจเขมร สถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้านักรบชุดดำ เวียนไปฝึกปรืออาวุธยุทโธปกรณ์กันเอิกเกริกหวังว่าจะยาตราทัพกับเจ้เพ็ญ หลังปีใหม่ โดยอาศัยรอดตาทหารไทยมาตามตะเข็บชายแดนเพื่อผนึกกำลังกับนักรบรับจ้างเสื้อแดง ที่ภาคอีสาน...แหมถ้าไม่ได้สนิทกับพ่อกำนัน เรื่องลับๆอย่างนี้ไม่รู้เลยนะเนี่ย!!!
      
       เพราะเขาลือกันทั่วกรุงพนมเปญแล้วว่า เร็วๆ นี้กองกำลังเขมรไม่ทราบฝ่ายจะประสมกำลังกับกองทัพเสื้อแดง แล้วบุกตลุยทำ “สงครามประชาชน” เพื่อนายใหญ่ หุ้นส่วนบ่อน้ำมัน และ เพื่อชิงพระวิหารมาเชยชม
      
       ส่วนพวกแก๊งค์รับจ้างจัดม๊อบเสื้อแดง ตอนนี้รุ่มร้อนหนัก เกรงฤทธิ์เจ้เพ็ญ เพราะกลัวเจ้กับจิ๋วจะพลาดแล้วไม่มีแผ่นดินอยู่ยกทีม เลยหอบเงินฝากเมียและแม่ที่ต่างจังหวัดเป็นทิวแถว ทางโน้นก็ใช้กันจนผิดสังเกต ระวังเถอะ...ไอ้ที่เคยคิดว่าจะเหลือๆพอเลี้ยงชีพตลอดชีวิต เดี๋ยวจะหมดตัวไปตามๆกัน สู้อุตส่าห์ “อมเงินม๊อบ”มา ดันพังเพราะ เมียเล่นไพ่ และ แม่เล่นหวยตั้งวงแชร์... จะหาว่าไม่เตือน
      
       ส่วนเอกสารที่ว่าลับ สงสัยจะไม่ง่ายเหมือนให้ของลับบนเวทีเสื้อแดงแล้วกระมัง เพราะ รัฐบาลเขารู้ตัวแล้วว่าอ้าย-อี หน้าไหนสวมบทปอบหยิบขายชาติ ใครสนใจไปเยี่ยมหน้าไปหาดูที่กระทรวงการต่างประเทศยุคนี้ได้
      
       เพราะเห็นกันหลัดๆ ว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จฯอยู่ดีๆ ดันเกิดผีเข้าหรือไรไม่รู้ จู่ๆ ทำตัวเป็นไส้ศึก มือบอนหยิบเอกสารที่เจ้าของเขาให้ทำก๊อปปี้ เอาไปเสนอหน้าค้ากำไรเกินควรกับนายใหญ่ ทีนี้คงกลัวติ้งเหล่ตลบหลังเอาหน้าไปเหมือนเคย งานนี้เลยใช้เมียยื่นมือไปรับรางวัลเอง ติ้งเหล่เลยแฉลงใต้ดินเสียงามหน้าละพ่อคุณ
      
       แล้วไม่ต้องกังวลใจว่าจะไปไหนรอด สายข่าวในกระทรวงต่างประเทศกระซิบติ่งหูว่า ให้ดู บัญชีโยกย้ายกลางปีหน้า ใครอยู่ ใครไป ใครกระเด็น...นั่นละปอบหยิบขายชาติ ภาคพิศดารละ …เอ้าพี่กษิต สู้ สู้
      
       ปิดท้ายด้วยข่าวเมีย โจรปล้นชาติ...อย่าคิดนะว่าจะอยู่เป็นสุข สนุกสบาย หน้าชื่นอกตรมละสิไม่ว่า เพราะเวลานี้ไปไหนมาไหนคนเขามองจ้องหน้าราวจะกินเลือดกินเนื้อ
      
       ยิ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีเมียทูตต่างประเทศคนไหนกล้าไปกินข้าวด้วยแล้ว เกรงจะโดนคนไทยเล่นงานตายคาพรมแดงเหมือนเมียทูตอเมริกา ที่ถูกทั้งผัวและหน่วยงานรุมด่าบักโกรก
      
       ส่วนขาไพ่วงเก่าก็ค่อยๆถอนตัวออกไปทีละคนสองคนหลังจากผัวดูไบตัวดี “จาบจ้วง”ในไทมส์ ออนไลน์
      
       ล่าสุดไฮโซที่เคยเดินตามไปดูหมอด้วยกัน ก็ตีกรรเชียงหนีเพราะกลัวภัยมาถึงตัว เนื่องจากปั่นหุ้นและฟอกเงินเหมือนๆกัน
      
       วันนี้เลยนั่งถอดไพ่ แกมถอดใจ เดียวดายใต้เงากรรม...รอวันเวลาแห่งการชดใช้ที่ใกล้มาถึงเพียงคืบเท่านั่น ...แต่เดี๋ยว...ลูกชายคนโปรด...คืนสู่วงการอีกแล้วใช่ไหม...พ่อ-แม่ บ้านนี้ช่างรังแกลูกเสียจริงๆ จะงกเงิน บ้าอำนาจถึงไหน ถึงได้ปล่อยลูกชายคนเดียวไม่เป็นผู้เป็นคนอย่างนี้
      
       ดูเอาเถิดทรัพย์สมบัติมหาศาลที่โกงมาได้ มีเท่าไรอีกหน่อยคงหมดตัว เพราะถึงไม่ใช่ลูกติดยา-บ้าผู้ชายเผาผลาญ ก็ต้องโดนบริวารปอกลอก
      
       งานใหญ่กำลังเรียงหน้าเข้ามา ฉากจบกำลังจะเริ่มต้น หลังปีใหม่คงได้เห็นดีกัน ส่วนพวกเลือกข้างที่ทำตัวเหมือนคนควานหารองเท้าอีกข้างไม่ยอมเจอนะ ก็ให้หากันต่อไป
      
       เพราะข้างคนดีเขาพร้อมสู้เพื่อชาติเต็มพิกัดแล้ว


21 ธันวาคม 2552

"ถ้าจะทา เลือดนั้นคือเลือดกบฏ"


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทไว้เมื่อวันที่  5 ธันวาคม  52  นี้ว่าบ้านเมืองของเรามีความเจริญ  มั่นคง  เป็นปกติสุข  สำเร็จผลเป็นจริงไปได้ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติมุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง  ด้วยสติ  รู้ตัว  ด้วยปัญญา  รู้ผิด  และด้วยความสุจริต  จริงใจ  โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น  ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง  แล้วทำตั้งจิต  ตั้งใจ  ให้เที่ยงตรงหนักแน่น  ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ มีความเจริญ  มั่นคง  ยั่งยืนไป  กรรมของประเทศในเวลานี้เกิดจากกรรมของคน ไอ้ที่ประเทศชาติเราต้องมาเป็นอย่างนี้ก็เพราะการกระทำของคนในชาติ  ฉะนั้นถ้าจะแก้กรรมของแผ่นดินก็สามารถแก้ได้โดยการแก้ที่การกระทำของคนอันเป็นประชาชนพลเมืองไทยนั่น เพราะว่าปัญหาบ้านเมืองทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องกองทัพนักกีฬาไทย  ถูกกองทัพนักกีฬาเวียดนามคว้าเหรียญทองแซงหน้า  หรือกองทัพเวียดนามซื้อเรือดำน้ำตัดหน้ากองทัพไทยแต่อย่างใด  แต่ไม่ว่าจะเป็นการเมือง  เศรษฐกิจ  สังคมล้วนเกิดจากผู้มีหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญๆมิได้สนใจรักษาความซื่อสัตย์และความตรงไปตรงมาต่อหน้าที่ตามกระบวนการที่ถูกต้องและตามครรลองของกฎหมายที่เรียกว่า"ธรรมาภิบาล"

ด้วยภูมิรัฐศาสตร์ที่สุดแสนจะโชคดีเอามากๆ  เราคงไม่ถึงกับต้องไปดิ้นรน  ทะเยอทะยานอะไรกันมากมาย อุปนิสัยและสันดานดั้งเดิมของไทยเราเองมีความสุขสบายจนกระทั่งไม่ต้องเดือดร้อนลำเค็ญ  ไม่ต้องถูกแรงกดดัน  คุกคามเหมือนบ้านอื่นเมืองอื่นอันกลายเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้คนไทยมักจะหันมากัดกันเองเสียจนเคยตัว หนักเข้าๆต้องเรียกว่ากัดไม่ปล่อย  ไม่ไล่ไม่เลิกแถมยังไปลากคนอื่นเข้ามากัดคนในชาติเดียวกันเสียด้วย     หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปถึงแม้นบอลไทยจะได้ไปบอลโลกหรือถึงแม้นกองทัพไทยจะสั่งซื้อจรวดนิวเคลียร์เข้ามาประจำการก็ตาม  แต่สุดท้ายคงหนีไม่พ้นที่จะต้องสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดินไม่วันใดก็วันหนึ่ง

หากส.ส.ตระหนักในอำนาจหน้าที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช้ภาษีของประชาชนแต่ไม่ได้สนใจทำหน้าที่ในสภา  ไม่เป็นเครื่องมือของต่างชาติในการบั่นทอนความมั่นคงของรัฐ  ไม่ทำหน้าที่การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างหมิ่นเหม่และสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ยึดผลประโยชน์ของนายจ้างที่ตนไปรับงานซ้ำซ้อนมาเป็นใหญ่

หากกกต.องค์กรอิสระแห่งความหวังของประชาธิปไตยยุคใหม่  ให้ความสำคัญกับอำนาจของประชาชนเป็นใหญ่  ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา  โปร่งใส   ตรงไปตรงมาตามหลักการของการพิจารณา  ไม่กระทำการทำลับๆ  ล่อๆ ให้เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง

หากข้าราชการพลเรือน  ทหาร  ตำรวจตลอดจนข้าราชการบริพารได้ดำเนินบทบาทหน้าที่ของตนเองโดยยึดมั่นต่อคำสัตย์ปฏิญาณที่จะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์  สุจริต ใส่ใจในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง  ตรงไปตรงมา ก็จะไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น การวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง  การมีทหารเลวนอกแถวด่าทอประจานผู้ใหญ่ในกองทัพ  ไม่มีเอกสารลับของทางการออกมาสู่มือทรพี  

หากรัฐบาลทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมากฎหมาย  และตามนโยบาย นำพารัฐนาวา  สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน  ใช้อำนาจบริหารงบประมาณอย่างโปร่งใส

หากนักเรียนทุนอานันทมหิดลได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับทุนไปร่ำไปเรียนสูงส่งเกินกว่าสามาญชนทั่วไปจะได้รับ  ได้กลับมาสร้างความเจริญตามเส้นตามทางที่ได้ร่ำเรียนมา เพื่อนำมาสร้างคุณูปการให้สังคมอย่าไปเอาอย่างขุนหลวงนัยนาวิวาทกัมพุชชาติพาณิชยชั่วที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้จากทุนการศึกษาหลวงไปในการนำประเทศไปขายให้เขมรในปี 51 ที่ผ่านมา

หากสื่อต่างๆในปัจจุบันให้ข่าวสารบ้านเมืองผ่านทางหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ได้ใช้สติ-สัมปชัญญะและแยกแยะเรื่องราวด้วยปัญญาตามรู้บ้านเมืองอันเป็นส่วนรวม  ไม่สร้างอันตรายจากข่าวลวงและข่าวบิดเบือนเพราะสื่อทุกวันนี้เหมือนกระดาษซับ ซับทุกอย่าง  ซับทั้งขี้  ทั้งเยี่ยว ทั้งสารพิษ  ทั้งสารคุณภาพ  ซับอะไรมาได้ก็สาดออกไปแบบดิบๆตามสื่อที่ตนถืออยู่อย่างนั้นทั้งหมดโดยไม่มีการสังเคราะห์  ผู้บริโภคจึงตกอยู่ในลักษณะสำลักข่าวสารเจือพิษ

การผนึกกำลังกันระหว่างชาวเขมรบางคน ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านพรมแดนติดกัน กับ นักการเมืองชาวไทยใจเขมรบางกลุ่มบางรายแห่งพรรคเพื่อทุยหรือเพื่อเขมรก็มิอาจสรุปได้มีส่วนทำให้การเมืองในประเทศกับการเมืองระหว่างประเทศกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันได้และพยายามสาดแข้งออกอาวุธใส่ไทยไม่เว้นวันโดยไม่คิดลดราวาศอกเอา  อะไรที่ขบวนการพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดเสียประโยชน์  ก็หาว่ารัฐบาลไทยใช้  2  มาตรฐาน  แล้วทีอย่างในการจับกุมคนขนอาวุธร้ายเข้าประเทศโดยรัฐบาลไทยใช้มาตรฐานเดียว    กลับออกมาด่าว่า  ถามทำไมไม่ใช้มาตรฐานที่  2

พรรคเพื่อทุยถอนตัว ตัดสินใจเลือกที่จะไม่เดินตามแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เบื้องต้น 6 ประเด็นตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯเสนอ  เพื่อทุยพยายามยัดเยียดฐธรรมนูญ 40 ให้กลับมาใช้โดยจะแก้ไขหลักการให้เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 27 มิถุนายน 2475 ที่บอกว่าอำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย  ลืมร่างรัฐธรรมนูญฉบับคปพร.ของนพ.โหวงเหวง เลวเกินจินตนาการและจะรั้น ดิษฐาอภิชัยที่ลอกรัฐธรรมนูญ 40 มาทั้งหมดยกเว้นบทเฉพาะกาลมาตรา 314  (ม.292/รธน.50) ที่รับรองการคงอยู่ของคณะองคมนตรี  สามเกลอหัวดอของคนเสื้อแดงเคยเปิดประเด็นว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 24 วรรคสองที่กำหนดให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราว ณ สถานการณ์หนึ่งที่เป็นรอยต่อ ความคิดแบบฮุนเซนโมเดลนี้แสดงว่าคนไทยใจเขมรพวกนี้มีความคิดในหมู่คนเสื้อแดงบางส่วนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์จริง เพื่อกฎมณเฑียรบาลต้องไม่สูงกว่ารัฐธรรมนูญและลดพระราชอำนาจให้เหลือในระดับที่ไม่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย   แม้ประเด็นเหล่านี้จะยังไม่ได้เป็นฉันทมติของคนเสื้อแดงทั้งหมดและไม่อาจสรุปได้ว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดคิดไปไกลขนาดนี้เลยหรือไม่แต่ก็ดูเหมือนจะต้องการให้ 1) ไม่ต้องมีองคมนตรีหรืออย่างน้อยถ้าจะมีองคมนตรีก็ต้องไม่ใช่โดยการแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย   2) การขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเพราะในอดีตเพียงแค่แจ้งรัฐสภาเพื่อรับทราบเท่านั้น    3) การสืบราชสันตติวงศ์ต้องไม่เป็นการใช้พระราชอำนาจโดยเฉพาะของพระมหากษัตริย์    4) พระมหากษัตริย์ไม่อาจมีพระราชดำรัสสดๆโดยพระองค์เองต่อสาธารณะได้

วันนี้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดเริ่มแสดงอาการแกว่ง อยู่กับที่ไม่เป็นสุขจนต้องดิ้นพล่าน  พล่านถึงขั้นที่ว่าให้ระดมเกจิอาจารย์พระสายวิปัสนาไปสอนนั่งสมาธิสงบจิตสงบใจถึงดูไบ แต่ก็ไม่อาจช่วยหยุดใจที่ฟุ้งซ่านของพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดได้ การที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดที่เที่ยวตะลอนไปตะลอนมาหลายประเทศก็พอบ่งบอกได้ว่ามีความสงบทางจิตติดลบเลยอยู่ไม่ติด  อันนี้ต้องยกให้เป็นผลงานของกษิต ภิรมย์ที่มีภารกิจกำจัดบุคคลที่หนีคดีและเป็นภัยรุนแรงต่อความมั่นคงของชาติ

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่สะดวกที่จะให้ใช้นครดูไบเป็นฐานการเมืองแล้วจึงเป็นเหตุให้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดต้องเผ่นหนีจากถิ่นพำนักแห่งนี้และคิดจะย้ายฐานไปที่รัสเซียหรือประเทศยุโรปตะวันออก โดยอาศัยมือดีลมาเฟียรัสเซีย Oleg Yevidokimenko ที่เคยดีลธุรกิจในอังกฤษด้วยกันมาก่อนหาที่ทางให้ซุกหัว  แต่เมื่อพิจารณาแล้วรัสเซียหรือประเทศยุโรปตะวันออกคงเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับภาวะที่ต้องการเปิดศึกป่วนบ้านเกิดเมืองนอนของตน    ไปๆ-มาๆแล้วกระบวนการเช่นนี้ ชักจะดูเป็นกิจการและยิ่งชัดเจนขึ้นทุกทียิ่งในช่วงหน้าข้าว-หน้าเหล้าหรือช่วงใกล้จะมีข่าวการยึดทรัพย์ในอีกไม่นานไม่ช้า ก็ไอ้เงินที่ว่าขนาดขายก๋วยเตี๋ยวยังโดนสรรพากรมานั่งนับชามเพื่อเก็บภาษีแล้วทำไมขายหุ้นถึงไม่เสียภาษี  กระบวนการที่ว่านี้ก็ดูจะยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือยิ่งขึ้นเท่านั้น   อะไรๆจะไหลมารวมตัวกันอย่างเป็นระบบเป็นกิจการเช่นนี้  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดก็เลยต้องหาที่ใหม่เพื่อเปิดเกมรุกก่อนถึงเงื่อนเวลาอันตรายคดียึดทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้าน ใช้เขมรเป็นกองบัญชาการหลัก เล่นไพ่ใบสุดท้าย  ชนะ-ได้ครองเมือง แต่ถ้าแพ้-กบฏแผ่นดิน  ยืมมือผู้นำเพื่อนบ้านใช้เมืองต่างๆให้เคลื่อนไหวได้สะดวก   สาวกคนเสื้อแดงจะได้ไปเยี่ยมและไถเพื่อแจกเงินและสั่งงานได้สะดวก  ขณะเดียวกันสาวกได้แอบจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ   กลุ่มนปช.ได้จัดตั้งอบรมคนเสื้อแดงมาแล้วหลายรุ่นโดยให้ความรู้แบบผิดๆ ฝึกการใช้อาวุธ เดินเกมใต้ดิน ตั้งกองกำลังส่วนตัวไว้พร้อมสู้กับทางการไทย  ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแผนการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในประเทศเพื่อนบ้าน   ด้วยจิตที่ฟุ้งซ่านคิดระแวงไปต่างๆ นานาของพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดและถ้ามากๆ เข้า หรือเดินเกมสะเปะสะปะสักวันพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดอาจถึงขั้น จิตแตก-จิตดับได้โดยเฉพาะเมื่อแผนการโฉดที่วางไว้ ต้องล้มเหลวลง  ไอ้ที่ต้องเร่งต้องรีบจะต้องกลับไทยเพราะพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดต้องใกล้แพทย์เฉพาะทางโดยด่วนนั่นเอง

นี่มันหน้าอะไร ฤดูอะไรกันในห้วงเวลาที่รัฐบาลอภิสิทธิ์อ่อนแอ   ทหาร-ข้าราชการ-ตำรวจไร้เอกภาพและเสื่อมลงทุกวัน    พรรคเพื่อทุย นปช. สาวกคนเสื้อแดงถูกปลุกขวัญ-กำลังใจได้ที่แล้ว  ไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่ผู้นำสมคบกับอาชญากรแผ่นดินของอีกประเทศถึงขนาดยกประเทศให้เป็นฐานบัญชาการชิงเมือง   เพียงต้องการให้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดพ้นผิดหวนกลับมามีอำนาจคนหนักแผ่นดินกลุ่มนี้ตั้งใจจะทำสงครามแตกหักทั้งในสภาและนอกสภามีเป้าหมายหลักให้รัฐบาลเลือกตั้งใหม่   มุ่งหวังให้เกิดการจลาจลเพื่อเปลี่ยนแปลงการเมือง  ให้คนเสื้อแดงชุมนุมเป็นเรือนแสน ป่วนบ้านเมืองโดยหวังให้เกิดการจลาจล  ทั้งๆที่การต่อสู้ของคนเสื้อแดงไม่มีความชอบธรรม     สั่ง  ส.ส.ลาออกกดดันยุบสภา  ใช้สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรเป็นแรงกดดันอีกทางหนึ่ง  โหรฟันธงแล้วว่า  ครานี้...ชนะแน่  การร่วมมือ  ร่วมตีน  แยกกันเดิน  รวมกันตีน  หรือแยกอาณาเขตแดนแต่หันมารวมตัวกันรุมกระทืบประเทศไทย  รัฐบาลไทย  ระบบยุติธรรมไทย  กองทัพไทยหรือแม้กระทั่งการสร้างข้อเปรียบเทียบระหว่างสถาบันบางสถาบัน  ฯลฯ     หากไม่สามารถเอาชนะได้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดอาจต้องประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในเขมรเพราะมีฮุนเซนตนเดียวเท่านั้นที่ยอมให้ทำเช่นนั้นได้ เหมือนเราอยู่บ้านดีๆ แล้วมีหมาจรจัดมาคำรามนอกประตูรั้วบ้าน สลับกับการเห่าหอน(คลิ๊กอ่านคำเต็ม)  ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นหน้าหนาวไม่ใช่หน้าฝนแต่การที่ฝนตกชะขี้หมูในแต่ละก้อน  จะไหลไปซึมซับน้ำในแหล่งใดๆก็แล้วแต่จนก่อให้เกิดความเลวในระดับสามารถไหลมารวมตัวกันได้เช่นนี้  โอกาสที่จะเผชิญกับความวิบัติ  ความจัญไรจนต้องฉิบหาย  วายวอด  ลงไปทั้งเล้าก็ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ  

ทุกครั้งมีการส่งสัญญาณอาจจะเกิดความรุนแรงกับประเทศก็มักมีการข่าวที่พูดถึงการเจรจาขึ้นมา  เอาความรุนแรงมาขึ้นเพื่อที่จะใช้เป็นอำนาจในการต่อรอง  คิดในลักษณะนักต่อรองเพื่อผลประโยชน์ หากพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดโทร.มาคุยสุรยุทธ์ขิงแก่จะคุยไหม  จะมาเจรจาเรื่องอะไรกันยืนยันจุดยืนเดิมว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดต้องยอมรับระบบกฎหมายไทยและเมื่อไรที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดยอมรับระบบกฎหมายไทยสังคมก็ให้อภัย  แต่ยิ่งพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดมีข้อแม้ว่า  1)ต้องไม่ติดคุก  2)ต้องไม่ดำเนินคดีความใดๆทั้งสิ้นและ 3)ต้องคืนเงินทั้งหมดให้แม้ว่าเงินนั้นจะได้ไปโดยไม่ถูกด้วยกฎหมายก็คงจะเป็นไปไม่ได้  นายไชยันต์   ไชยพรอาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่าจุดยืนของนายกฯอภิสิทธิ์ก็คงไม่ต่างกับพล.อ.สุรยุทธ์ ขิงแก่ที่ขึ้นอยู่กับว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดจะโทร.มาหรือไม่   ถ้าคุยกันรู้เรื่องเช่นเจรจากันว่าจะกลับมารับโทษและขอพระราชทานอภัยโทษและจะคุ้มครองความปลอดภัยให้ได้ไหมเป็นต้น  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดรู้เงื่อนไขหมดทุกอย่างแล้วแต่จะทำหรือไม่   เพราะไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดอยากจะเหนื่อยและทนทุกข์ทรมานไปอีกนานแค่ไหน
     "หากจะเจรจาให้ยกคดีความให้  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดเลย  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดก็ต้องไปอยู่เขมรเพราะที่นั่นเขาตัดสินและยกคดีกันเอง   ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ไปอยู่ให้โลกเขาร่ำลือว่าเราตัดสินกันไปและยกกันเองอย่างนี้โดยไม่มีเหตุผลที่จะใช้กำลังเข้าข่มขู่กันก็ขอให้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดไปทำที่กัมพูชา"  นายไชยันต์กล่าวในทำนองนี้

ป๋าเปลวแกปักทวนทับธงแล้วว่า ที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดโฆษณามกราจะทำสงครามชิงประเทศบวกกับที่บรรดาโหราออกมาประสานเสียงต้นปีหน้าเลือดทาแผ่นดินนั้น  "ถ้าจะทา  เลือดนั้นคือเลือดกบฏ" อย่างเก่งก็ทนกันถึงแค่พฤษภาปี 53  ปีนี้-จะเป็นปีที่ประเทศไทยจะได้โชคลาภใหญ่จากต่างชาติ-ต่างภาษาและมีมาให้ฮือฮากันแบบฟลุกๆชนิดปุบปับฉับพลัน  สำคัญแต่ว่าเมื่อถึงกลางปีหน้าไม่รู้ใครอาจต้องรอให้มีคนมาเคาะฝาโลงเรียกให้กินข้าวจึงจะได้กิน(คลิ๊กอ่านคำเต็ม)

"วันนี้เสื้อแดงต้องรวมพลังกันไล่เผด็จการประชาธิปไตยเพราะบ้านเมืองวันนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตย   ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่ว่ายังไม่มีประสบการณ์   ทำงานล้มเหลว  บ้านเมืองเสียหายหมด  เศรษฐกิจย่ำแย่  ประชาชนเดือดร้อน   ถ้าอยู่ต่อไปบ้านเมืองก็ล่มจม   ถึงเวลาที่พวกเราต้องทวงคืนประชาธิปไตย   ต้องขอแรงพี่น้องเสื้อแดงกันอีกครั้งต้องไปกันให้มากที่สุด   บอกให้พวกคนที่มีอำนาจสั่งการให้รู้ว่าพวกเราประชาชนไม่พอใจ   จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้บ้านเมืองจะพัง   พวกเราอยากเห็นการพัฒนา   ยืนยันกับพี่น้องประชาธิปไตย   ถ้าผมกลับมาได้เห็นแน่   ผมจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ   ทำให้ลูกหลานมีความสุขก้าวหน้า วันนี้พี่น้องต้องช่วยกัน   ถ้าทำสำเร็จตัวผมก็เป็นแค่ของแถมแล้วผมจะให้ประชาธิปไตยที่แท้จริง  ปีใหม่นี้พี่น้องจะได้พ้นทุกข์  ปีใหม่นี้เอาผมผูกโบใส่กล่องเป็นของขวัญปีใหม่"      พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดกล่าวทิ้งท้าย

ตัวเองก็เลยมาไกลตั้งนานแล้วโอกาสจะใช้เขมรเป็นหลังพิงดำเนินสงครามประชาชน  ก่อการจลาจลแยกเมือง  แยกประเทศ   เพียงแค่จุดเริ่มต้นก็มองไม่เห็นเงื่อนไขใดๆที่จะหยิบยกมาอ้างอิงเพื่อให้เกิดความสมเหตุสมผลหรือเพื่อให้เกิดความชอบธรรมเอาเลยแม้แต่น้อย