07 พฤษภาคม 2555

ยุคขายชาติ ขายแผ่นดิน!!


ยุคขายชาติ ขายแผ่นดิน!!
โดย โสภณ องค์การณ์7 พฤษภาคม 2555 20:37 น.
       บ้านเมืองอยู่ในจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อ จากอากาศร้อนเกิดภัยแล้งรุนแรงใน 50 กว่าจังหวัด ระอุจนแผ่นดินลุกเป็นไฟ ควายตับแตกตาย น้ำแห้งขอดก้นแหล่งต่างๆ จู่ๆ เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ น้ำป่าไหลหลากในภาคเหนือ เปลี่ยนฤดูกาลเฉียบพลัน        จะนำไปสู่อุทกภัยซ้ำอีกรอบหรือไม่ หลังจากไอน้ำจากอากาศร้อนได้สะสมในบรรยากาศมากเกินสมควร แปรสภาพเป็นฝนกระหน่ำหนักต่อเนื่องทุกภาค       สินค้าราคาแพง ประชาชนคนรายได้น้อยและปานกลางเดือดร้อนแทบทุกหย่อมหญ้า รากหญ้าเสื้อแดง เสื้อสีอื่นๆ พบกับความเสมอภาคยากจน ลำบากเลือดตาแทบกระเด็น มีแต่นายกฯ ปูโพรกเน่าใน แต่งกายไม่เคยซ้ำชุดเท่านั้น ยังไม่รู้สึกทุกข์ร้อน        แถมยังค่อนแคะชาวบ้านว่าปัญหาสินค้าราคาแพงเป็นเพียงรู้สึกไปเอง! ถ้างั้นผู้นำรัฐบาลคงด้านชา เสนาบดีเป็นผู้มีทรัพย์สินระดับหลายสิบล้าน ร้อยล้านบาท แม้กระทั่งพวกไพร่กำมะลอเสแสร้งยกระดับเป็นอำมาตย์ก็มองไม่เห็นหัวคนยากจน
      
       มาถึงจุดนี้ บ้านเมืองอยู่ในจุดเสี่ยงเป็นวิกฤตสูงสุด มี 2 ทางเลือก คือ วิบัติล่มจม สิ้นสภาพรัฐไทย หรือรอดพ้นจากมือขบวนการชั่วร้ายถ้ามีคนดีร่วมมือกอบกู้บ้านเมือง  เหตุการณ์ด้านการเมืองปัจจุบัน เช่น การล้มล้างรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายปรองดอง แผนนิรโทษกรรม การคืนสู่อำนาจของกลุ่มนักการเมืองบ้าน 111 หรือเรื่องอื่นๆ ต่อเนื่อง เป็นฉากย่อยประกอบภาพรวมลวงตาให้คนไทยไม่ตระหนักถึงภัย    วิกฤตร้ายแรงดำเนินอยู่ขณะนี้คือแผนขายชาติ ขายแผ่นดินอย่างจริงจัง แฝงอยู่ในเหตุอ้างนโยบายต่างๆ รวมทั้งกระบวนการนอกกฎหมายเพื่อยึดครองรัฐไทยถาวร       ความเป็นจริงขณะนี้คือ 1 ใน 3 ของแผ่นดินไทยตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติในรูปแบบต่างๆ ทั้งวิธีฉ้อฉล ผ่านนิติบุคคล ตัวแทน การสมรส และกระบวนการอื่นๆ เช่น ส่งเสริมการลงทุน เปิดช่องทางให้ต่างชาติถือครอง โดยการเช่า ซื้อขายผ่านนายหน้า   แผ่นดินไทยยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ แหล่งผลิตพืชพันธุ์สินค้าเกษตรเป็นอาหารเกินความต้องการ ส่งไปขายในตลาดโลกได้ทุกปี แลกกับธนบัตรพิมพ์โดยแท่นพิมพ์ ถูกสมมติให้เป็นตราสารมีค่าตามกฎหมายการแลกเปลี่ยน       เกษตรกรไทยปลูกพืชผลเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติสารพัด เหนื่อยยากสายตัวแทบขาด ชาวนาถูกแปรสภาพเป็นชาวเช่านา กรรมกรภาคเกษตรค่าแรงต่ำ เพียงเพื่อแลกกับธนบัตรซึ่งนับวันค่าน้อยลงเมื่อได้มา สำหรับยังชีพแต่ละวัน ไร้โอกาสลืมตาอ้าปาก   แต่ละวันรัฐบาลประกาศส่งเสริมการลงทุน ชักชวนให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยความมั่งคั่งของทรัพยากรไทย แรงงาน ใช้ไฟฟ้า น้ำประปา สาธารณูปโภคต่างๆ แผ่นดิน สร้างบำรุงด้วยเงินภาษีของคนไทย! ใช้พลังงาน น้ำมันของไทย ได้กำไรก็ขนกลับบ้าน     ทิ้งกากสารพิษ ขยะสารพัด สภาพแวดล้อมเสียหาย ซากอาคาร แม่น้ำลำคลองหนองบึงต่างๆ มีแต่สารพิษอุตสาหกรรม นอกเหนือจากอุบัติเหตุโรงงานสร้างความเสียหายคร่าชีวิตและทำลายร่างกายแรงงานไทย ดังที่เกิดขึ้นหมาดๆ ที่มาบตาพุด
      
       เรามุ่งขายชาติ ขายแผ่นดิน แลกกับเงินลงทุนจากต่างชาติ ทั้งๆ ที่แผ่นดินไทยผลิตได้ทุกอย่าง เพียงแต่กระแสเศรษฐกิจโลกสร้างความต้องการวัตถุ ทำให้เป็นสังคมบริโภคนิยม แปรเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต การบริโภคอาหาร ค่านิยม    สังคมทุกระดับต้องมีกระดาษทิชชูเป็นสิ่งจำเป็นไว้เช็ดปากและเช็ดก้น!     การขายชาติในลักษณะพรางตาคือการส่งเสริมการลงทุน ปลอดภาษีสำหรับอุปกรณ์เครื่องจักร ให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่งกำไรกลับคืน ประเทศไทยได้เพียงค่าน้ำ ค่าไฟ ภาษีเล็กน้อย และเงินเดือนสำหรับลูกจ้างพนักงาน! ไม่คุ้มกับความเสียหายสารพัด   ขบวนการเหลี่ยมร้ายและระบบทุนสามานย์ เศรษฐกิจเสรี มือใครยาวสาวได้สาวเอา ทำให้แผ่นดินไทยเป็นที่หมายปองของชาติมหาอำนาจซึ่งต้องการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเมือง จุดยุทธศาสตร์ในอาเซียน ซึ่งจะเป็นเขตการค้าเสรีในปี 2558 นี้     ประเทศไทยจะเหมือนตัวหมากรุก ถูกบังคับให้เข้าสู่ตาบังคับ และจุดอับแทบจะไร้ทางเลือก เป็นจุดระเบิดของวิกฤตร้ายแรง การเผชิญหน้าของกลุ่มชนในประเทศและกับกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะชนะคดีพิพาทในศาลโลกกรณีแผ่นดินรอบปราสาทพระวิหาร
      
       กองทัพไทยจะทำอย่างไร ยอมหรือไม่? หลังจากไปเจรจากับผู้นำกองทัพจีนให้งดสนับสนุนด้านอาวุธให้กัมพูชา โดยเฉพาะเครื่องยิงจรวดสตาลินออร์แกนหลายลำกล้อง ซึ่งได้สร้างความเสียหายอย่างวินาศสันตะโรให้ชาวบ้านบริเวณชายแดน!      จีนคงอยากรู้ว่าไทยจะให้ชาติมหาอำนาจตะวันตกใช้ไทยเป็นฐานทัพหรือไม่!!    ชาติมหาอำนาจอยากตั้งฐานทัพในไทยเพื่อสร้างอิทธิพล ปิดล้อมจีน และรัฐบาลภายใต้เครือข่ายเหลี่ยมร้ายเท่านั้นจะทำให้เป็นความจริงได้ แลกกับผลประโยชน์ของตัวเอง! สนับสนุนช่วยเหลือกัมพูชาให้ฮุบทรัพยากรในอ่าวไทยและต่อเนื่องถึงบนบก      ถ้าชาติไทยแตกเป็นเสี่ยงจากวิกฤตภายใน ส่งผลให้เกิดการแทรกแซงโดยต่างชาติ จะเป็นการสูญเสียอธิปไตย ความอยู่รอดของชาติ สถาบันหลักถูกล้ม เพราะขัดโดยตรงกับทุนข้ามชาติและผลประโยชน์ของเครือข่ายเหลี่ยมร้ายตัวแทนทุนต่างชาติ      
       เหลี่ยมร้ายมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับกลุ่มทุนใหญ่ของสหรัฐฯ สิงคโปร์ และทุนตะวันตก! จึงไม่น่าประหลาดใจที่รัฐบาลต่างชาติยอมให้คนหนีคุก หนีหมายจับคดีก่อการร้ายได้เข้าประเทศ กระชับเครือข่ายกับกลุ่มทุนผลประโยชน์ยิวในสหรัฐฯ และยุโรป      ศึกกับเขมร หรือศึกระหว่างสีในไทย จะนำไปสู่ความเสี่ยงมิคสัญญีสิ้นชาติ! ยังมีต่อ!!