09 พฤษภาคม 2554

มหกรรมตีตั๋วกินเมือง โดย โสภณ องค์การณ์


มหกรรมตีตั๋วกินเมือง
โดย โสภณ องค์การณ์9 พฤษภาคม 2554 17:42 น.
ผู้นำรัฐบาลเดินหน้ายุบสภาให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดวันให้ประชาชนเดินเข้าคูหากาเบอร์หย่อนบัตร เลือกกลุ่มก๊วนการเมืองเข้าไปกุมอำนาจรัฐ จัดสรรแบ่งเงินงบประมาณจากภาษีประชาชน เพิ่มความร่ำรวยให้ตัวเอง
      
       นี่เป็นสภาพความจริง แต่ภายใต้ฉากของการเมืองระบอบประชาธิปไตย มีข้ออ้างหลอกชาวบ้านว่าเป็นการใช้สิทธิเลือกตัวแทนปวงชนเข้าไปบริหารประเทศ
      
       ทุกคนมีสิทธิใช้ 1 เสียง กำหนดชะตากรรมบ้านเมือง!
      
       กกต. ก็รู้ดีว่างบประมาณเกือบ 4 พันล้านบาท เป็นเงินเอามาละเลงให้เจ้าหน้าที่ได้มีกิจกรรมเกี่ยวเนื่องกับมหกรรมเลือกตั้ง ผลที่จะได้คือผู้แทนฯ ส่วนใหญ่เป็นพวกหน้าเดิม จากคนธรรมดาเป็นฝักถั่วยกมือแลกเงินในสภาฯ อีกครั้ง
      
       เมื่อ “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” ประกาศยุบสภา ความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน คือ ส.ส.จะว่างงานไม่เกิน 2 เดือน ถ้าหลอกชาวบ้านได้! ไม่สอบตก
      
       ผู้นำรัฐบาลเป็นเพียงรักษาการนายกฯ เท่านั้น! อำนาจต่างๆ จะลดลงจากสภาพเดิม! แต่ไม่มีความหมาย เมื่อมีอำนาจเต็มยังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน วางพื้นฐานให้อนาคตบ้านเมืองมั่นคงปลอดภัย
      
       เมื่อยุบสภาเท่ากับเปิดทางให้บ้านเมืองเข้าสู่ความไม่แน่นอน! ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังลังเลใจว่าจะเลือกอัปรีย์หรือจัญไร ท่ามกลางการรณรงค์เข้มข้นให้ประชาชน “ไม่เลือกใคร” หรือ “Vote No” แทนการนอนหลับทับสิทธิ์
      
       ช่วงนี้ยังมีเสียงท้วงติง! “จะดีเหรอ โหวต โน เท่ากับเสียคะแนนเปล่านะ” และอ้างว่าระหว่างพรรคการเมืองชาวมอนเตเนโกรกับค่ายสะตออีตั้น อ๊อกซฟอร์ดนั้น ยังมีความแตกต่าง เมื่อก๊กแรกเป็นพวกแดง “ไม่เอาเจ้า” แต่ก๊กหลังยังเอาสถาบัน
      
       แต่การเอาสถาบันยังแตกแขนง! ก๊กบุรีรัมย์ใช้การปกป้องสถาบันทำมาหากินอย่างเป็นกอบเป็นกำ ตีกินมาโดยตลอด เพิ่งเปิดหลังลายให้เห็นว่าที่แท้คำอ้างปกป้องสถาบันเป็นพฤติกรรมกะล่อน เมื่อเฒ่าร้อยเล่ห์ตัวแสบแลบลิ้นแผล็บๆ
      
       “พวกเราพร้อมจะร่วมตั้งรัฐบาลกับทุกฝ่ายที่ได้เสียงมากที่สุด” นั่นเท่ากับความพร้อมจับมือขบวนการแดงล้มเจ้า ทั้งๆ ที่ปากเหี่ยวๆ อ้างว่าการใช้สถาบันหาเสียงไม่ผิดกฎหมาย! นี่คือลวดลายจอมกะล่อน ร้อยลิ้นกะลาวนจนเข้าโลง
      
       ลิ้นคมเหมือนมีดซุยเอาไว้แทงข้างหลัง แบบก๊วนนักลงทุนการเมืองยึดถือผลประโยชน์เป็นใหญ่ พร้อมหักหลังเพื่อนร่วมโกงกิน ถ้าเป็นก้างขวางคอ
      
       ประเทศไทยมีคนมากกว่า 65 ล้าน แต่หาคนดีกล้าลงสนามการเมืองไม่ได้ เมื่อการเมืองปัจจุบันโดยผูกขาดเพื่อกลุ่มก๊วนในระบบ “ธนบัตราธิปไตย” ใช้เงินเป็นใหญ่ ซื้อเจ้าหน้าที่ได้ทุกระดับ ทั้งองค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรมทุกชั้น
      
       คนดีไม่มีช่องทางเข้าสู่การเมือง! นี่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้งด้วยซ้ำ มีข่าวรู้กันในวงจรอุบาทว์ของการเมืองน้ำเน่าแล้วว่าเครือข่ายก๊วนการเมืองต่างๆ ได้ไปหว่านเงิน ตกเขียว สร้างเครือข่ายซื้อเสียงแบบแยบยลครอบคลุมไว้หมดแล้ว
      
       กกต.จะเป็นเพียงตรายางประทับให้นักซื้อเสียงอีกครั้ง! เท่ากับว่าการเลือกตั้งไม่ทำให้อนาคตบ้านเมืองดีขึ้น แต่สุ่มเสี่ยงกับความไม่สงบ! ไม่ต้องให้นักการเมืองพรรคเตี้ย หรือโหรฟังธงที่ไหนมาทำนาย ชาวบ้านทั่วไปก็รู้
      
       ถ้าพรรคแดงของชาวมอนเตเนโกรชนะ ชาวบ้านส่วนหนึ่งจะไม่พอใจ ผู้นำกองทัพมองเห็นอนาคตตัวเองว่าจะต้องดับวูบ โดนโยกไปพิฆาตยุงร้าย ส่วนหนึ่งจะโดนสอบสวนในข้อหาเก่า เช่น ทำร้าย ฆ่า พวกเผาบ้านเผาเมือง นักปล้นห้าง
      
       จะให้เกิดสภาพนั้น หรือกลุ่มพลังอำนาจใช้มาตรการสกัดกั้นปกป้องสถานภาพ ตำแหน่งผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ให้ก๊วนเสื้อแดงและเครือข่ายนักล้มเจ้าเอาชนะศึกเลือกตั้ง (ถ้ามี) และเสี่ยงกับก๊วนแดงป่วนเมืองอีกรอบหรือไม่ ยิ่งได้ยินชาวมอนเตเนโกรประกาศอย่างอหังการว่าจะคืนสู่เหย้าสิ้นปีนี้ เท่ากับสร้างความหวาดผวาให้กลุ่มอยู่ตรงข้ามเครือข่ายแดงล้มเจ้า ว่าเสี่ยงต่อการถูกล้างแค้น เพราะหัวโจกหนีคุกคือสุดยอดเจ้าคิด เจ้าแค้น อาฆาต พยาบาท
      
       “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” จะมีตัวช่วยในชุดเขียวรอบใหม่หรือไม่ หลังจากผูกใจด้วยการผ่านงบประมาณจัดซื้ออาวุธแบบจุใจ และจะตามมาอีกอย่างง่ายๆ
      
       “มาร์ค” ไม่มีอะไรจะเสีย ด้านความน่าเชื่อถือ เกียรติภูมิ! ทั้งบกพร่องด้านปกป้องสถาบัน แต่ต้องทนกับพฤติกรรมแบล็กเมล์โดยก๊วน 2 พ่อลูกบุรีรัมย์ไปก่อน แม้ได้ยอมให้เขมือบโครงการใหญ่ๆ แต่สัจจะย่อมไม่มีในหมู่โจรปล้นวัวควาย
      
       การรณรงค์ให้ “ไม่เลือกใคร” เริ่มมีพลังสะสม หลังจากยุบสภายังมีเวลาอีกเกือบ 2 เดือนให้ประชาชนได้รู้ว่า 1 เสียงของตัวเองมีค่ามากถึงขนาดปิดเส้นทางพวกกังฉินกินเมือง จะเป็นก๊วนไหนก็ตาม ไม่ให้กุมอำนาจเข้าเขมือบเงินภาษี!
      
       เลวน้อย เลวมาก ก็เลวเหมือนกัน! ต้องไม่ใจอ่อนกับเสียงออดอ้อนออเซาะ! “เออหว่า! ที่ว่าเลวน้อยนั้น ทำไมเอ็งเลว ถ้าเลือกเอ็งอีก เอ็งคงจะยกระดับความเลวแหงๆ กินคำโตกว่าเดิม นึกว่าชาวบ้านไม่มีทางเลือก!” มีดิ! “โหวต โน” ไงล่ะ!
      
       อย่าใจอ่อนกับพวกหน้าใหม่ ภาพยังดีที่ไปเข้าพรรคเลวน้อย! “ทำไมพวกเอ็งยอมรับความเลว! แสดงว่าเตรียมตัวไปฝึกงานวิชาเลวใช่หรือไม่?”
      
       จะหยุดรณรงค์ “โหวต โน” ได้ คือต้องไม่มีเลือกตั้งเท่านั้นนิ! อิอิอิ!!!