12 พฤศจิกายน 2552

ทั้งพระยาละแวก กับ ออกญาจักรี จะเล่น แรง แรงได้อีก


เมื่อปีพ.ศ. 2075 ในรัชสมัยพระมหาจักรพรรดิ กรุงหงสาวดีได้ยกทัพมาตีไทย ฝ่ายเขมรโดยการนำของพระยาละแวก 1 เห็นได้ทีจึงยกทัพเข้ามาทางปราจีนบุรีกวาดต้อนผู้คนกลับไปเขมรจำนวนมาก
หลังจากพม่ายกทัพกลับไป สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้ยกทัพไปถึงเมืองพระตะบองและละแวก   พระยาละแวกเห็นท่าจะไม่ดีจึงมีสาสน์มากราบทูลพระมหาจักรพรรดิจับใจความได้ว่า
"ข้าพระองค์ผู้ปกครองเขมรมิได้เกรงพระบรมเดชานุภาพที่ไปกวาดต้อนคนจากปราจีนบุรี ขออย่าทรงพิโรธยกทัพมาตีเมืองข้าพเจ้าจะนำเครื่องราชบรรณาการมาถวายและเป็นข้าพระบาทตราบชั่วกัลปวสาน" หลังจากนั้นพระยาละแวกได้นำเครื่องราชบรรณาการมาถวายและกวาดต้อนคนชาวปราจีนบุรีกลับคืนมาฝั่งไทย   ต่อมาในปี พ.ศ. 2113 หลังจากที่ไทยเสียกรุงในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาให้แก่พม่าเพียงปีเดียว    พระยาละแวก 2 จากเขมรได้ถือโอกาสเข้ามาปล้นและตีเมืองนครนายก    พระมหาธรรมราชาจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพไปปราบทัพของเขมรถอยกลับไปแต่ก็ย้อนกลับมาปล้นเมืองอีกหลายครั้ง  ครั้งนี้พระยาละแวกยังนำทัพมากวาดต้อนผู้คนแถวจันทบุรีกลับไปเขมรจำนวนมาก ด้วยความคดในข้องอในกระดูก พระยาละแวกได้ยกทัพมาถึงปากน้ำพระประแดง โจมตีเมืองธนบุรี จับชาวเมืองเป็นเชลยจำนวนมากแต่ท้ายสุดถูกปืนใหญ่ของไทยยิงตายฝ่ายเขมรแตกทัพจึงหนีกลับไปทางพระประแดง

ในปี พ.ศ. 2129 พระยาละแวกเห็นว่าไทยกำลังสู้ศึกหงสาวดีอยู่จึงฉวยโอกาสยกทัพเข้ามาตีเมืองปราจีน  สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปปราบผลการศึกกองทัพไทยไล่ตีเขมรไปจนสุดชายแดน ทหารเขมรล้มตายจำนวนมาก  จวบจนกระทั่งสมเด็จพระนเรศวรครองราชย์ทรงปรึกษาข้าราชการว่า กษัตริย์เขมรมีใจคิดไม่ซื่อเหมือนพระยาละแวก ชอบซ้ำเติมไทยในยามศึกกับพม่าจึงทรงมีพระราชดำริที่จะยกทัพไปแก้แค้น เอาโลหิตมาล้างพระบาทแล้วทรงจัดกองทัพให้ไปตีเมืองปัตบอง เมืองโพธิสัตว์ แล้วเข้าล้อมเมืองละแวกเอาไว้ทรงล้อมเมืองนานถึง 3 เดือนยังตีไม่ได้ เสบียงอาหารเริ่มลดน้อยลงจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยาไปก่อนแล้วจะเตรียมการมาตีในภายหน้า ต่อมา พ.ศ. 2137 ทัพสยามตีเมืองละแวกแตก  สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงกระทำพิธีปฐมกรรมต่อพระยาละแวก แต่ยังคงมีกษัตริย์ปกครองเขมรต่อไป

ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีแม้ว่าไทยเพิ่งจะกู้ชาติและเพิ่งตั้งตัวได้ก็ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขมร เพราะเจ้าเขมร 2 ฝ่ายทะเลาะกันเจ้าเขมรฝ่ายหนึ่งหนีมาให้ไทยช่วยเหลือ แต่อีกฝ่ายหนึ่งไปพึ่งญวนไทยจึงต้องทำสงครามกับทั้งเขมรและญวนสู้รบกันอยู่นานจนกระทั่งญวนเกิดปัญหาภายในประเทศตนเองขึ้น เหตุการณ์จึงได้สงบเพราะเจ้าเขมรที่พึ่งญวนไม่อาจที่จะพึ่งได้ต่อไปอีกจึงได้หันกลับมาพึ่งไทยยอมลดยศลดอำนาจ ลงให้แก่เขมรฝ่ายไทย    เหตุการณ์ครั้งนี้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีต้องทรงกรีธาทัพไปรบเขมรถึง 2 ครั้ง   ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เสด็จขึ้นเสวยราชย์ เจ้าเขมรแต่ละฝ่ายก็เกิดทะเลาะกันเองอีก แต่ว่าในคราวนี้รัชกาลที่ 1 ทรงจัดการได้สำเร็จก่อนสงครามจึงไม่เกิดขึ้น   ถึงรัชกาลที่ 2 เจ้าเขมรคราวนี้ก็ถึงกับแตกออกเป็นฝ่ายนิยมไทยพวกหนึ่งกับฝ่ายนิยมญวนพวกหนึ่ง ทั้งสองพวกนี้ต่างก็รบพุ่งกันเองและสร้างความเดือดร้อนมาถึงไทยอีกจนได้     ถึงรัชกาลที่ 3 ไทยกับญวนต้องทำสงครามกันอยู่นานนับสิบปีก็เพราะปัญหาเจ้าเขมรที่มีความแตกแยกและเอาแต่ทะเลาะเบาะแว้ง ทำสงครามภายในกันเองอยู่เสมอ     ในยุคพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ นี้เองที่เจ้าเขมรองค์หนึ่งนามว่านักองค์ด้วงถูกกักตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ที่โรงทิมซอมซ่อขุนนางไทยท่านหนึ่งสงสารเกรงว่าจะตายเสียก่อนจึงได้ขอตัวมาดูแลเป็นอย่างดีอยู่ในเรือนของท่านประวัติศาสตร์ตอนนี้กล่าวว่า “ขุนจำนงอักษร (กลิ่น) ส่งกับข้าวของกินเลี้ยงนักองค์ด้วงอยู่มิได้ อนาทร”นักองค์ด้วงต่อมาได้เป็นกษัตริย์ของเขมรเรื่องให้ที่พักหลับนอนและเลี้ยงดูเจ้าเขมรที่แตกแยกพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในเมืองไทยนี้จะเห็นว่ามีอยู่เรื่อยๆ แม้แต่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 ก็ปรากฏว่าได้พระราชทานบ้านหลังหนึ่งให้แก่เจ้าเขมรองค์หนึ่งได้พักอยู่อย่างสุขสบายที่ภายในกรุงเทพฯ เจ้าเขมรองค์นี้ชื่อว่านโรดมเป็นพระโอรสนักองค์ด้วงซึ่งต่อมาก็ได้เป็นกษัตริย์เขมรเช่นกัน     กษัตริย์นโรดมองค์แรกของเขมรทรงปกครองเขมรอยู่จนกระทั่งเขมรตกไปเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสเช่นเดียวกับญวน    ไทย เขมรและญวนถึงได้เลิกรบกันก็เพราะต่างมีศัตรูใหม่    ในสมัยของนักล่าอาณานิคมเฟื่องฟูฝรั่งเศสได้บอกว่าการแบ่งเส้นเขตแดนทางน้ำระหว่างไทยกับเขมรให้ใช้ร่องน้ำลึกหากเป็นเขาก็ให้ใช้หลักสันปันน้ำ   สมัยก่อนคนที่เคยไปเที่ยวปราสาทเขาวิหารจะขึ้นทางประเทศไทยโดยมีแต่ทหารเจ้าหน้าที่ไทยแล้วก็ไม่ทหารเขมรอยู่แม้แต่คนเดียว แต่พอทักษิณเขามาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เริ่มมีทหารเขมรเข้ามาและการแบ่งเส้นเขตแดน

ฮุนเซนเป็นลูกชาวนายากจนจากจังหวัดกัมปงจามเกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2494 ไม่มีเวลาเกิด ตุหรัดตุเหร่เตร็ดเตร่มาเป็นเด็กวัดพึ่งข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิตที่กรุงพนมเปญเมื่ออายุได้ 13 ปีเพื่อเรียนต่อในชั้นประถมปลาย   แต่จะเรียนจบการศึกษาในระดับใดไม่ปรากฏ    จนในปี 2513 เมื่อนายพลลอนนอลโค่นล้มเจ้านโรดมสีหนุลงได้สำเร็จโดยการสนับสนุนของสหรัฐ  ฮุนเซนซึ่งมีอายุเพียง 18 ปี ได้เข้าร่วมขบวนการต่อต้านจักรวรรดินิยมและกลายมาเป็นทหารในกองทัพเขมรแดงในปีถัดมา เมื่อ 5 มกราคม 2519 ฮุนเซนถูกจับให้แต่งงานหมู่รวม 13 คู่ เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2519 ในวัย 25 ปี เจ้าสาวชื่อบุญ สมเอียงมีพยานรัก 4 คน  ในห้วงเวลานั้นเวียดนามเหนือเข้ายึดไซ่ง่อนได้ในปี 18 เวียดนามจึงได้รวมเป็นประเทศเดียว ต่อมาหนึ่งปีเขมรแดงได้นำกำลังบุกยึดพนมเปญได้ประชาชนก็หวังว่าสงครามจะจบสิ้นกันเสียที   แต่ไม่นานฝันร้ายของชาวเขมรก็เริ่มขึ้นเมื่อทหารเขมรแดงปล่อยข่าวสหรัฐจะมาทิ้งระเบิดแก้แค้นให้ประชาชนทุกคนอพยพออกไปโดยด่วนตามตำนานทุ่งสังหารที่โด่งดังนั่นเอง

เมื่อเขมรแดงประสบความสำเร็จในการยึดครองบ้านเมืองในเวลาต่อมา ฮุนเซนซึ่งเป็นเพียงนายทหารชั้นผู้น้อยกลับไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปกครองด้วยความรุนแรงของกลุ่มเขมรแดงและได้เข้าร่วมกลุ่มกับฝ่ายต่อต้านเขมรแดงจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนหลบการไล่ล่าอยู่หลายปี  จนเขาไม่มีโอกาสเห็นหน้าลูกคนแรกเพราะหนีการไล่ล่าของเขมรแดง   ฮุนเซนซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้นำเขมรแดงแต่ฝักใฝ่เวียดนามจึงได้นำกองกำลังเวียดนามเข้ามาโค่นล้มอำนาจของเขมรแดง  กองกำลังเฮงสัมริน, ฝ่ายสีหนุ, ซอน ซาน, และเขมรแดงเขียว สัมพันธ์ที่รบกันจะเป็นจะตายต้องมาร่วมกันต่อต้านเวียดกง  ครั้งนั้นนาวาตรีประสงค์ สุ่นศิริเลขาธิการความมั่นคงวิเคราะห์ว่าเวียดนามต้องเข้าบุกเขมรแน่แต่ทางสหรัฐกลับเห็นต่าง   สุดท้ายเวียดนามได้เข้าควบคุมเมืองสำคัญๆ ของเขมรได้หมด ที่ฮานอยเหิมบอก"สามารถเข้ายึดกรุงเทพได้ในเวลา 2 ชั่วโมง"   ไทยก็มีปัญหาคอมมิวนิสต์หากต้องมารับมือกับทางเวียดนามอีก  ไทยต้องเจรจากับจีนให้จีนยุติการสนับสนุนคอมมิวนิสต์และซื้อน้ำมันมาสำรองเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน   ดีที่จีนช่วยและจีนยังขายอาวุธหนักให้ไทยในราคาถูกอีกด้วย   แต่ไทยก็ต้องทำสัญญาลับกับจีนหลายๆ เรื่องเพื่อตอบแทน

ใน 1 ปีหลังจากเวียดนามบุกเขมร จีนได้บุกเวียดนามทางตอนเหนือโดยมีอดีตนายกหน้าปลาตีนเข้าสังเกตุการณ์  ซึ่งจีนได้ให้เกียรติเป็นผู้ลั่นกระสุนปืนใหญ่นัดแรกใส่เวียดนามด้วย   จีนบอกก่อนบุกเวียดนามว่า จีนจะสร้างบทเรียนสงครามสั่งสอนให้กับเวียดนามอย่างสาสมที่บุกเขมรและว่าเวียดนามเนรคุณจีน  ในสงครามเวียดนามและหลังเวียดนามรบชนะฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟูที่ได้รับการสนับสนุนอาวุธจากจีน จีนนั้นสนับสนุนเวียดนามสุดลิ่มแต่เวียดนามกลับทำเรื่องไม่เหมาะสมต่อชาวเวียดนามเชื้อสายจีน มีการทำร้ายต่อชาวเวียดนามเชื้อสายจีนด้วย  ชาวเวียดนามจำนวนหลายแสนคนอพยพเข้ามาประเทศไทย  ตั้งค่ายผู้อพยพขึ้นลี้ภัย ฝึกอาวุธ และส่งเข้าไปรบกับเวียดนามโดยมีสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีนและไทยสนับสนุน เวียดนามจึงมาประชิดชายแดนไทย รุกล้ำเข้ามาเขตแดนไทยทั้งที่บนเขาพระวิหารและที่ราบลุ่มพรมแดนของไทย ลาว และเขมรอย่างบ้านช่องบกที่ได้เกิดสมรภูมิขึ้นเพราะเวียดนามต้องการตัดกำลังเขมรแดง  การรบที่ช่องบกนี้มีความรุนแรงมาก

ในปี 29 กองกำลังสุรนารีได้ใช้กำลังเข้าผลักดันและขับไล่กองกำลังต่างชาติ   เวียดนามจึงถอนตัวออกจากที่มั่นบางส่วน ช่วงแรกของการรบ เวียดนามเป็นฝ่ายได้เปรียบ  ไทยปรับกลยุทธใหม่สื่อสารเป็นความลับมากขึ้นและลดการใช้วิทยุสื่อสารลง ไทยได้ใช้กำลังเป็นชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก ทำการเข้าตีต่อที่หมาย เนินต่าง ๆ ในลักษณะการยุทธแบบป้อมค่าย สามารถยึดฐานที่มั่น ฝ่ายเวียดนามได้บางส่วน ขุดคูติดต่อเจาะเข้าหาฐานที่มั่น ใกล้ฐานเวียดให้เวียดยิงปืนใหญ่ยาก ไทยกดดันฝ่ายเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เมื่อไทยตรวจพบและระดมยิงปืนใหญ่ถล่มฐานเวียดอย่างหนักจนกระทั่งฝ่ายเวียดนามได้ถอนกำลัง ออกจากที่หมายเนินต่างๆ และแนวเขตประเทศไทย ในปลายปี 30 เข้าไปอยู่ในเขมร  โดยมีเขมรแดงและกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเข้าตีฐานของทหารเวียดตลอดและไทยสนับสนุนการยิงปืนใหญ่เสมอๆ เป็นอันสิ้นสุดของการรบกับเวียดเมื่อไทยได้เข้ามายึดและตั้งแนวป้องกันเนินต่างๆ อย่างแน่นหนา

ในดวงจรวันที่เจ้าชะตาได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นหุ่นเชิดให้แก่ผู้อื่นสรุปได้ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหุ่นเชิดอย่างแท้จริงในดวงกำเนิดและได้เป็นรัฐบาลหุ่น ณ วันเวลาที่ดวงชะตาจรบอกว่าวันที่ 14 มกราคม 2528 มีการแต่งตั้งรัฐบาลหุ่นขึ้นในโลกใบนี้หรือหากมีการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญใดๆ ก็ตามผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในวันนั้นจะเป็นเพียงตัวแทนหาใช่ตัวจริงไม่ เมื่อกองทัพเวียดนามทำการปลดปล่อยเขมรจากระบอบอำมหิตของเขมรแดงได้สำเร็จ  ถึงฮุนเซนพูดภาษาอังกฤษได้เพียงกระท่อนกระแท่นแต่กลับได้รับความไว้วางใจจากเฮง สัมรินให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศตั้งแต่ยังหนุ่ม ในช่วงนั้นฮุนเซนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักข่าวต่างประเทศด้วยลีลาการเจรจาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแพรวพราว เล่นเอาคณะทูตจากประเทศมหาอำนาจมากมายเถียงไม่ทันมานักต่อนัก ใครก็ตามที่ได้เคยเห็นลีลาการเจรจาของฮุนเซน คงตระหนักได้ดีว่าไม่ธรรมดาแต่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงในการเจรจาต่อรองและวางหมากทางการเมืองหลอกล่อคู่แข่งให้หลงกลได้ตลอดเวลา

ฮุนเซนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำของเขมรต่อจากเฮง สัมรินในปี 2528 เมื่ออายุสามสิบเศษและเป็นผู้นำที่ครองอำนาจมาได้อย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ฮุนเซนสามารถต่อสู้ชนะเขมรแดงได้นั้นได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเวียดนามในขณะนั้น จึงทำให้บุญคุณของเวียดนามยังมีอย่างล้นเหลือจนถึงทุกวันนี้จนฮุนเซนจะไม่กล้าแสดงบทบาทที่แข็งกร้าวต่อรัฐบาลเวียดนามในทุกกรณี   ฮุนเซนกลับสามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงให้กับตนเองและระบบการเมืองเขมรจากลูกไพร่ยากจนที่เติบโตมาท่ามกลางความขัดแย้งและสงคราม   ฮุนเซนรู้สึกถึงมีปมด้อย สั่งสมปริญญากิตติมศักดิ์ระดับดอกเตอร์หลายใบ บ้ายศและอำนาจไม่ต่างจากจอมเผด็จการอิดี้อามินแห่งอูกันดา แผลเก่าเรื้อรังที่เยียวยาได้ยากของฮุนเซนคือปัญหาเวียดนามเป็น  แม้ว่าฮุนเซนจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปลุกปั่นให้ชาวเขมรเกลียดชังประเทศไทยแต่จะไม่ประสบความสำเร็จในการทำให้ชาวเขมรเกิดรู้สึกรักเวียดนามเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ชายแดนตะวันออกฮุนเซนจะใช้วิธีปิดปากเงียบและพยายามปิดบังซ่อนเร้น    เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่ติดตัวฮุนเซนมาตั้งแต่วันที่กองทัพเวียดนามจัดตั้งรัฐบาลขึ้นในกรุงพนมเปญในเดือน ม.ค.2522 และอาจจะกลายเป็นจุดตายของเขมร-ฮุนเซนได้ในวันหนึ่ง

ประสบการณ์จากสงครามจริงที่ผ่านมาตั้งแต่ยังหนุ่มทำให้ฮุนเซนเป็นผู้นำที่กล้าคิดกล้าทำและไม่เคยเกรงกลัวใคร    แต่ประสบการณ์ทางการเมืองที่สั่งสมมาหลายสิบปีก็ทำให้ฮุนเซนมีความฉลาดเฉลียวและความแพรวพราวทางการเมืองอย่างหาตัวจับได้ยาก  รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา รู้จักทางหนีทีไล่ทำให้ฮุนเซนสร้างฐานอำนาจทางเศรษฐกิจการเมืองให้กับตนเองได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความขัดแย้งและการแย่งชิงผลประโยชน์ของชนชั้นนำเขมร ไม่ว่าจะมาจากการทำลายคู่ต่อสู้อย่างเฉียบขาด การสร้างเครือข่ายพันธมิตรในหมู่ชนชั้นนำด้วยกัน ทั้งในด้านของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างลงตัวและการแต่งงานระหว่างครอบครัวชนชั้นนำด้วยกัน ล้วนแล้วแต่เป็นประจักษ์พยานยืนยันถึงความสุขุมรอบคอบและความเป็นผู้นำทางการเมืองที่หาตัวจับได้ยากในอุษาคเนย์เวลานี้

ทักษิณเข้าไปลงทุนในเขมรรับสัมปทานกิจการสถานีโทรทัศน์ยาวนานถึง 99 ปี ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมากแลกกับสัมปทานยาวนาน 7 ชั่วโคตรขนาดนี้แน่  ธุรกิจยังไม่ทันจะออกดอกออกผลกลับมีการเรียกรับผลประโยชน์ไม่จบไม่สิ้น  ฮุนเซนดัดหลังด้วยการแก้ไขสัมปทานใหม่ลดอายุลงเหลือ 30 ปี     ทักษิณแค้นสนับสนุนทหารฝ่ายตรงกันข้ามทำการปฏิวัติอาศัยความช่วยเหลือจากคนใหญ่โตในไทยในสมัยที่มีนายกเป็นอดีตนายกหน้าปลาตีน มีรองนายกฯหน้าเหลี่ยม   ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล  ชวน  หลีกภัยพยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์แต่อดีตนายกหน้าปลาตีนให้ข้อมูลว่านายพลซอนซานตายแล้วทั้งๆที่กบดานอยู่แถวซอยราชครูในบ้านเมียน้อยอดีตนายกหน้าปลาตีน

นายพลซอนซานก่อการรัฐประหารฮุนเซนแต่ล้มเหลวผู้ร่วมก่อการรัฐประหารอย่างซกเยือนก็ได้ลี้ภัยมาอยู่ในไทยก่อนไปอยู่ประเทศที่ 3 เมื่อปี 42  ไทยได้มีการหารือเรื่องการส่งตัวกลับตามคำเรียกร้องของรัฐบาลเขมรมาโดยตลอดและมีความเห็นพ้องกันว่าประสงค์จะเห็นซกเยือนซึ่งมีอายุมากและมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับครอบครัวที่พำนักอยู่ในประเทศฟินแลนด์อีกครั้งหนึ่งด้วยมนุษยธรรม   ทักษิณนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นให้ รมว.ต่างประเทศไปหารือจนเขมรแจ้งว่าฮุนเซนเห็นด้วยในหลักการกับข้อเสนอของไทยและจะไม่เรียกร้องให้ฝ่ายไทยส่งตัวซกเยือนกลับอีก การนำผลประโยชน์ชาติแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวจึงเริ่มต้นขึ้นและกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงวันนี้

ต่อมาในปี 40 ได้มอบสัมปทานโทรคมนามคมให้ทักษิณเพิ่มจากเดิมเป็น 35 ปี  พอดีได้เกิดการจลาจลในเขมรเป็นเหตุเผาสถานทูตไทยในพนมเปญที่กำลังจะเลือกตั้งภายในเมื่อหลายปีก่อนกอรปกับฐานเสียงของฮุนเซนก็สั่นคลอนอย่างหนักจึงต้องใช้วิธีปลุกกระแสคลั่งชาติขึ้นมาด้วยการใช้กบสุวนันท์ครอบครัวทาสของเพื่อทุยมาเป็นชนวนจนสถานฑูตไทยถูกเผา  ทักษิณก็เป็นงานแปรวิกฤติเป็นโอกาส สร้างภาวะความเป็นผู้นำ นำเครื่องบินของกองทัพไปรับคนไทยกลับ ไทยได้ส่งทหารดุ่มๆเข้ากรุงพนมเปญซุกรถลำเลียงพลฮัมวี่ไปบนเครื่องบินซี 130 เพื่อคุ้มกันขบวนทหารทุกคนติดอาวุธทันสมัยครบมือดูแข็งขันนำชาวไทยออกจากสนามบินโปเจินตงกลับประเทศอย่างปลอดภัยและได้รับการชดใช้ความเสียหายจากเขมรอีกด้วย ถ้าเป็นประเทศอื่นอาจก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศไปแล้ว  แต่ฮุนเซนนิ่ง ส.ส.เขมรฝ่ายค้านเปิดโปงในภายหลังว่ามีบางคนเงินหนาจ่ายเงินให้ฮุนเซน 125 ล้านบาทเพื่อช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งงานนี้เขมรต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับรัฐบาลไทยและบริษัทที่เข้าไปลงทุนชินคอร์ปได้รับเงินชดเชยไป 27 ล้าน  หลังฮุนเซน "รัฐประหารตัวเอง" เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 ด้วยการไล่ล่าสังหารศัตรูทางการเมืองไปร่วมครึ่งร้อยเพื่อสถาปนาความเข้มแข็งให้ระบอบฮุนเซนอยู่ยืนยงตลอดกาล ต่อมาฮุนเซนได้รับการสถาปนาบรรดาศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนีกษัตริย์ตรายางใต้อุ้งตีนตนขึ้นเป็นสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน เมื่อปี 2550   ต่อมาในปี 51 ทักษิณจะเข้ามาประกอบธุรกิจบันเทิงในเกาะกงแลกกับคำแถลงการณ์สนับสนุนให้รัฐบาลเขมรเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร

ฮุนเซนรู้จักการเมืองไทยและผู้นำไทยดี อ่านได้ทะลุ  เป็นศิษย์รักศิษย์แค้นของสีหนุเจ้าตำรับนกสองหัวจอมตีสองหน้าที่เดี๋ยวนี้เก่งกว่าครูจนสีหนุปลงตกและบ่นอยากตายให้เร็วที่สุดอยู่เมื่อวันก่อนแล้ว   ฮุนเซนรู้ว่าคนไทยแตกกันและยุให้แตกกันได้ง่าย รัฐบาลและสภาของไทยไม่มีน้ำยา เอาอามิสและผลประโยชน์เข้าล่อ มีสายอยู่ตลอด  แม้กระทั่งกระทรวงการต่างประเทศยังขู่กันเองว่ากลัวจะขึ้นศาลโลกอีกบ้าง ถูกฟ้องคณะมนตรีความมั่นคงบ้าง  หากฮุนเซนนำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลกไม่สำเร็จ   ก็คงจะต้องถูกโจมตีทางการเมืองในประเทศตัวเองอย่างหนักหน่วงส่งผลต่อคะแนนความนิยมของตัวเองอย่างแน่นอนเพราะฮุนเซนได้ใช้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นการสร้างกระแสชาตินิยมและความนิยมให้กับตัวเองมาตลอดหลายปี อดีตนายสิบเขมรแดงนักเลงบ้านนอกคนนี้ยังได้ทำสัมปทานพื้นที่ต่างๆทั้งมรดกวัฒนธรรม พื้นที่ขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยให้กับประเทศมหาอำนาจหลายๆประเทศก็เพื่อหาแนวร่วม  ฮุนเซนจึงไม่เหลือทางเลือกมากนัก  ระบอบฮุนเซนเติบใหญ่มายาวนาน แม้จะวางตัวลูกให้เป็นทายาทการเมืองและการทหารกดหัวประชาชนไม่ให้กล้าหือไว้ได้อีกทั้งกว่าฮุนเซนจะหมดเรี่ยวแรงก็คงอีกกว่า 30 ปีเมื่อนั้นฮุนเซนอายุก็ร่วม 90 ปี   แต่หากฮุนเซนมีอันเป็นไปจนต้องลงจากอำนาจในเวลาอันใกล้นี้ศพฮุนเซนไม่สวยแน่นอน

ที่ฮุนเซนและนักการเมืองไทยอีกหลายคนเคยทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายถึงขนาดตายไม่เผา-เงาไม่เหยียบหรือบางครั้งถึงขนาดตามล่าฆ่ากันมาแล้ว แต่วันดีคืนดีพอผลประโยชน์โคจรมาตรงกันคนเหล่านี้ก็กลับจูบปากกันได้อย่างไม่อายผีสางเทวดา  แผนรู้เห็นเป็นใจและขายชาติยกที่ดินรอบปราสาทพระวิหารให้ฮุนเซนในรอบปีสองปีนี้ไทยเรามีอดีตนายกฯและนักการเมืองชั่วไทยบางคนกระทำเพียงเพื่อแลกกับการได้เงินทองจากผลประโยชน์ทางด้านน้ำมันในทะเลที่ทับซ้อนระหว่างไทยและเขมรของคนไม่กี่คนเท่านั้นเอง  เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคที่ฮุนเซนพูดในการประชุมอาเซียนที่หัวหินและย้ำกับพลเอกอดีตนายกหน้าปลาตีนที่เดินทางไปเยือนเขมรเพื่อเปิดตัวในฐานะผู้นำคนใหม่ของพรรคเพื่อทุยกลับสร้างความสั่นสะเทือนข้ามประเทศได้อย่างไม่น่าเชื่อ    สื่อมวลชนไทยและต่างชาติรายงานข่าวอย่างใกล้ชิดโดยมีฮุนเซนมาขย่มให้กลายเป็นเรื่องในงานประชุมสุดยอดผู้นำ   การที่ฮุนเซนมางานช้าทำปากพล่อยงานนี้ฮุนเซนลงทุนลงแรงเปลือยตัวเองถึงขนาดนี้โดยในทางการทูตแล้ววิเคราะห์ว่าพฤติการณ์อย่างที่ฮุนเซนกระทำนั้นอาจจะเปรียบเปรยได้ว่าเสมือนไม่ได้ใส่อะไรมาเลยแม้แต่มารยาท

ฮุนเซนเลือกจังหวะได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้งที่ออกมาแสดงท่าทีดังกล่าวข้างต้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุให้รำตามเพลงที่เขมรบรรเลงเพื่อให้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ ในบ้านเราคุกรุ่นขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อละครฉากนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด ฮุนเซนก็คงยึดแนวทางนี้ไปอีกสักระยะเพื่อเล่นกับความขัดแย้งภายในของไทยและทำให้เสถียรภาพทางการเมืองของไทยมีปัญหาสืบต่อไป ความอ่อนแอทางการเมืองภายในของไทยคือผลประโยชน์ของฮุนเซน   กระนั้นฮุนเซนคงอดไม่ได้ที่จะต้องขอบคุณสื่อมวลชนไทยที่ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ให้เขมรอย่างแข็งขันและที่ขาดไม่ได้ก็คือไร้เดียงสาทางการเมืองของพลเอกอดีตนายกหน้าปลาตีนและนายกฯอภิสิทธิ์

ทั้งๆที่สำนักข่าวของออสเตรเลียและอื่นๆหลายๆแห่งชี้ฮุนเซนจอมกระล่อนแห่งอินโดจีนทำตัวเหมือนพญาละแวกที่จ้องทำลายไทยมันช่างไร้มารยาทและขัดต่อพิธีการทูต รัฐบาลไทยก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนหรือตอบโต้นักการเมืองผู้คร่ำหวอดอย่างฮุนเซน  นักวิชาการหลายคนเซ็งฮุนเซนทำไปได้เอากามาเปรียบกับหงส์ อัดรัฐบาลตอบโต้หน่อมแน้มเกินไป ควรจะต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้ให้มากกว่านี้ รัฐบาลควรจะทบทวนท่าทีต่อความสัมพันธ์รวมทั้งใช้วิธีการทุกรูปแบบทั้งลับและเปิดเผยชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันเพื่อตอบโต้รัฐบาลเขมรได้แล้ว   แต่คงมีใครบางคนคงไปบอกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยว่าอย่าตกเป็นเหยื่อของฮุนเซนเลยดังนั้นจึงไม่ควรที่จะไปตอบโต้  อย่าให้กุ๊ยมาขู่ ย่ำยีศักดิ์ศรีคนไทย ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันอีกแล้วถามฮุนเซนให้ชัดว่าจะเอาอย่างไร    สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การเมืองระหว่างประเทศแต่มันเป็นปัญหาความมั่นคงและปัญหาอธิปไตยของประเทศไทยไปแล้ว  ตอนนี้ที่ช่องสะงำมีทหารเวียดนามมาตั้งฐานอยู่ ดังนั้นถ้าเรารบจะไม่ได้รบกับแค่เขมรแต่เป็นการรบกับเวียดนามด้วยนอกเหนือจากชาติมหาอำนาจ

ที่น่าเสียใจคนในรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไปต่อยอดเอื้อประโยชน์ให้สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซนและพระยาอัครมหาวรนุชสุดชั่วเดโชโคกระบือทักษิณอีก นอกเหนือจากการถอดยศ เรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์คืนทั้งหมด รัฐบาลต้องอยู่ให้ได้นานเท่านาน  ดึงมวลชนเข้ามาสนับสนุน  สะสางการคอร์รับชัน และหามาตรการตอบโต้ทักษิณไม่ให้เคลื่อนไหวได้สะดวก  ความเคลื่อนไหวต่อไปของอดีตนายกหน้าปลาตีนที่จะเน้นเดินสายพบต่างประเทศ เพราะเห็นว่าสามารถใช้เป็นเครื่องมือสร้างภาพได้ดีมาก  ทำให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำไม่มีเวลาติดตามข่าวสารคล้อยตามได้และแน่นอนว่าการเตรียมไปประเทศมาเลเซียครั้งนี้คงหนีไม่พ้นสาวไส้รัฐบาลล้มเหลวในการปัญหาการแก้ปัญหาภาคใต้ กับ ปัญหาเปราะบางอื่นๆเช่นพลังงาน ก๊าซธรรมชาติ

ประเทศไทยควรดำเนินการอย่างไรกับพระยาละแวกยุคดิจิตอล ปรัชญา อดีต ปัจจุบัน และอนาคตล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน เวียนมาบรรจบตามรอบรอยล้อเกวียน   จากเหตุการณ์ในอดีตถึงปัจจุบันจะพบว่าผู้นำเขมรไม่เคยเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติต่อไทยเลย หลายต่อหลายคนพยายามหาช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีปัญหาในด้านอื่นแล้วฉวยโอกาสโจมตีประเทศไทยตลอดเวลา    บทเรียนในอดีตที่พระมหากษัตริย์ของไทยได้ตอบโต้เขมรนั้นยังเป็นบทเรียนอันทรงคุณ ผู้นำไทยในยุคปัจจุบันและในอนาคตพึงยึดถือและปฏิบัติด้วยความรอบคอบและปรับใช้ตามยุคสมัยเพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีต่อประเทศไทยนำไปใช้ประโยชน์ได้และควรสอนบทเรียนให้แก่ฮุนเซนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดให้รู้จักกาลเทศะและเคารพความเป็นเอกราชและอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน  ตราบใดที่การแก้ปัญหา ความไม่สงบภายในประเทศยังไม่สำเร็จลุล่วงผู้นำเขมรก็จะเหิมเกริมเช่นนี้ตลอดเวลาแนวทางแก้ปัญหาหนึ่งก็คือผู้นำเขมรในอดีตจะไม่กล้าแสดงบทบาทแข็งกร้าวต่อประเทศไทย หากประเทศไทยมีความสงบ สันติสุขโจทย์ยากข้อใหญ่ที่คนไทยทั้งประเทศต้องการ    ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้สถานการณ์ภายในประเทศมีความสงบเรียบร้อย    เมื่อนั้นผู้นำเขมรยุคดิจิตอลก็จะกลับมาสารภาพผิดและยอมสวามิภักดิ์ต่อประเทศไทยเหมือนเช่นที่พระยาละแวกเคยกระทำมาแล้วในอดีต  เหตุการณ์จะกลับกันตรงกันข้ามด้วยไทยกลับเป็นฝ่ายที่ทะเลาะกันเองจนถึงขนาดต้องบากหน้าไปคิดพึ่งใบบุญเขมรหวังอาศัยเขมรอยู่เป็นที่พักหลับนอน บ้านหรูหลังใหญ่โตอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว  แต่ไอ้ที่คาดไม่ถึงคือกระแสตีกลับประชาชนลามขยายไปถึงอีสานแสดงความไม่พอใจพรรคเพื่อไทยและทักษิณในท่วงทำนองการสมคบฮุนเซนที่กำลังยึดครองดินแดนไทย ย่อมทำให้หนทางในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารห่างไกลความจริงมากขึ้น และหมายถึงคะแนนนิยมที่สั่นคลอนของฮุนเซนนั่นเอง

ในวันนี้แก๊งฮุนเซน-ทักสิน จะไม่หยุดนิ่งแต่การประสานกับความเคลื่อนไหวของบรรดาไส้ศึกภายในที่มุ่งเอาชนะทางการเมืองอย่างไม่ลืมหูลืมตาเขย่าบัลลังก์ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์กำลังจะเริ่มขึ้น
ขณะที่สัมพันธ์ไทย-เขมรจะเสื่อมทรามลงอย่างต่อเนื่องไม่ว่านายอภิสิทธิ์จะต้องการหรือไม่ก็ตามและทุกอย่างส่อเค้าจะมีความยุ่งยากมากกว่าเมื่อกว่า 6 ปีก่อน    การกระทำของฮุนเซนเป็นการกระทำที่ชั่วบริสุทธิ์เหมือนคนเขมรคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยเคยทำมาแล้วคือพยาละแวกได้เป็นใหญ่เป็นโต เพราะประเทศไทยช่วยทำให้สถานการณ์ในประเทศคุณสงบจนฮุนเซนได้เป็นนายกรัฐมนตรี   ส่วนทักษิณนั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยด้วยการซื้อเสียงโกงการเลือกตั้งจนทำให้พรรคถูกยุบถึงสองครั้งแล้วเขาเคยรัฐประหารคุณ ฮุนเซนย่อมรู้แก้ใจดี ฮุนเซนไม่ใช่คนโง่แต่ไม่ใช่คนฉลาด    เมื่อฝนตกจนขี้หมูไหลมาสมคบกันจนทำให้ฮุนเซนสามารถเอากำลังทหารมายึดพื้นที่รอบเขาวิหาร แล้วยังบังอาจกำเริบหากคนไทยเข้าไปจะยิงทิ้ง ทั้งที่จริงเขมรรุกร้ำเขตแดนคนอื่น แล้วมาข่มขู่เจ้าของพื้นที่อย่างนั้นอย่างนี้ ฮุนเซนคิดว่าคนไทยจะงอมืองอเท้าให้ยิงฝ่ายเดียวหรือไร เอาล่ะเมื่อแต่งตั้งที่ปรึกษาตนนี้บอกให้เลยก็ได้ว่าทักษิณอยากเป็นสมเด็จฯ เหมือนฮุนเซน  วันนี้ฮุนเซนเลือกแล้วว่าจะเอาเพื่อนชั่ว...นิรันดรอย่างทักษิณ เพราะยิ่งคนไทยทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยก เขมรยิ่งได้ประโยชน์   ฮุนเซนเลือกข้างทักษิณเพราะคิดว่าเมื่อทักษิณกลับมามีอำนาจ ฮุนเซนจะได้ประโยชน์มากกว่า   คุยตกลงผลประโยชน์ได้มากกว่าและง่ายกว่า

ทันทีที่ทักษิณไปรับตำแหน่ง ไปถึงสนามบินที่พนมเปญ เขาได้รับการต้อนรับใหญ่โต จัดอาหาร 9 สำรับ  ระหว่างที่ทักษิณกำลังนั่งรถไปหาฮุนเซนระหว่างทางมีตัวเห้(..)กำลังข้ามถนน เมื่อรถทักษิณวิ่งมาถึง ตัวเห้ที่กำลังข้ามถนน ก็ต้องหยุดกะทันหัน แล้วหันมามองทักษิณที่นั่งชูคออยู่พลางนึกในใจว่า เชิญ เ-ี้ย กว่าไปก่อน     ฮุนเซนให้แบร์ฮักทักษิณแสดงความรักอันปานจะกลืน ราวกับว่าจากกันไปหลายปี ทั้งๆ ที่ค่ำวันก่อนเพิ่งจะเปิดบ้านฉลองเอิกเริก และ ฝ่ายรับตั้งหลักไม่ทัน แสดงอาการเคอะเขิน ดูจากภาพเคลื่อนไหวจะเห็นอาการเก้ๆ กังๆ ได้ชัด    แต่พออุปทูตไทยนำหนังสือขอให้จับกุมตัวทักษิณชั่วคราวและส่งตัวให้กับทางการไทย-เพียงไม่กี่นาทีเขมรปฏิเสธทันควัน เขมรฉีกสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน มาร์คเสียใจเขมรไม่ยึดหลักสากล  ทักษิณท้ายุบสภาผ่านปากเพื่อนชั่ว...นิรันดร"ถ้าอภิสิทธิ์แน่จริงให้เลือกตั้งใหม่สิ ท่านกลัวอะไรหรือหรือกลัวจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี" เพราะมีเป้าหมายหวังจะใช้เวทีเลือกตั้งมาต่อสู้เพื่อให้ได้ทรัพย์สินเงินทองที่เสียไปคืนมา หวังว่าถ้าได้เสียงข้างมากแล้วได้เป็นรัฐบาลจะได้แก้ไขกฎหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญให้พ้นความผิดในคดีต่างๆ   การเล่นที่เกินจริงของทักษิณในกรณีการพูดผ่านไทม์สออนไลน์ที่สอดรับกับการเล่นเกินบทของฮุนเซนวิพากษ์วิจารณ์ระบบบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไทยนับเป็นการขุดหลุมรอความสัมพันธ์ไทยกัมพูชากับทักษิณไว้ก่อนแล้วกำลังจะทำการฝังกลบทีหลัง  คำให้สัมภาษณ์ฉบับเต็มหน้าที่ 2 ตอบคำถามเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ใจความสำคัญก็คือเรื่องเดียวกับยุทธศาสตร์ขั้นที่ 5 ของปฏิญญาฟินแลนด์ ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญญลักษณ์เท่านั้น เป็นใบเสร็จที่พิสูจน์ว่า สิ่งที่นายสนธิ ลิ้มพูดมาตลอดสี่ปีกว่านั้นเป็นเรื่องจริง

แค่ทักษิณเดินทางถึงกัมพูชาชาวเขมรก็เริ่มแบ่งข้างออกเป็น 2 ฝ่ายแล้วเพียงพูดพาดพิงวิจารณ์หากไม่เข้าหูถึงขึ้นโดนต่อยคนที่ชกก่อนสนับสนุนฮุนเซนที่แต่งตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษา  ส่วนอีกคนกลับโต้แย้งว่าทักษิณอยู่ประเทศไทยก็ทำให้คนไทยแตกแยก  ชาวเขมรอีกคนหนึ่งที่ชื่อ “กี่” (Ky) เขียนความเห็นยาว 2 หน้ากระดาษส่งไปให้สำนักข่าวออนไลน์ Everyday.com.kh ระบุว่า “การแต่งตั้งทักษิณ (เป็นที่ปรึกษา) โดยต้องทะเลาะกับอภิสิทธิ์ (นายกรัฐมนตรีไทย) นั้นเป็นเกมของผู้นำที่โง่เง่าแห่งกัมพูชา” และ “เป็นการโยนชาวเขมรเข้ากองไฟ” ชาวบ้านเขมรบางคนยังฉลาดกว่าคนไทยหัวใจเขมรเสียอีกขนาดทักษิณมันจาบจ้วงพ่อหลวงของเรา  คนไทยหัวใจเขมรพวกนี้ยังไม่รู้สึกเจ็บแค้นอะไร หนำซ้ำยังแก้ตัวให้อีกนะ  แต่ก็นั่นเองไอ้ที่ฮุนเซนกล้ากร้าวใส่รัฐไทยเพราะเชื่อว่าใช้ ทรัพย์ในดินแลกมิตรประเทศหนุนได้


ภาพสองภาพนี้เหมือนกันมาก Thaksin & HunSen

ถูกใจๆภาพนี้จาก 0knation


เมื่อปีพ.ศ. 2075 ในรัชสมัยพระมหาจักรพรรดิ กรุงหงสาวดีได้ยกทัพมาตีไทย ฝ่ายเขมรโดยการนำของพระยาละแวก 1 เห็นได้ทีจึงยกทัพเข้ามาทางปราจีนบุรีกวาดต้อนผู้คนกลับไปเขมรจำนวนมาก
หลังจากพม่ายกทัพกลับไป สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้ยกทัพไปถึงเมืองพระตะบองและละแวก   พระยาละแวกเห็นท่าจะไม่ดีจึงมีสาสน์มากราบทูลพระมหาจักรพรรดิจับใจความได้ว่า
"ข้าพระองค์ผู้ปกครองเขมรมิได้เกรงพระบรมเดชานุภาพที่ไปกวาดต้อนคนจากปราจีนบุรี ขออย่าทรงพิโรธยกทัพมาตีเมืองข้าพเจ้าจะนำเครื่องราชบรรณาการมาถวายและเป็นข้าพระบาทตราบชั่วกัลปวสาน" หลังจากนั้นพระยาละแวกได้นำเครื่องราชบรรณาการมาถวายและกวาดต้อนคนชาวปราจีนบุรีกลับคืนมาฝั่งไทย   ต่อมาในปี พ.ศ. 2113 หลังจากที่ไทยเสียกรุงในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาให้แก่พม่าเพียงปีเดียว    พระยาละแวก 2 จากเขมรได้ถือโอกาสเข้ามาปล้นและตีเมืองนครนายก    พระมหาธรรมราชาจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพไปปราบทัพของเขมรถอยกลับไปแต่ก็ย้อนกลับมาปล้นเมืองอีกหลายครั้ง  ครั้งนี้พระยาละแวกยังนำทัพมากวาดต้อนผู้คนแถวจันทบุรีกลับไปเขมรจำนวนมาก ด้วยความคดในข้องอในกระดูก พระยาละแวกได้ยกทัพมาถึงปากน้ำพระประแดง
โจมตีเมืองธนบุรี จับชาวเมืองเป็นเชลยจำนวนมากแต่ท้ายสุดถูกปืนใหญ่ของไทยยิงตายฝ่ายเขมรแตกทัพจึงหนีกลับไปทางพระประแดง

ในปี พ.ศ. 2129 พระยาละแวกเห็นว่าไทยกำลังสู้ศึกหงสาวดีอยู่จึงฉวยโอกาสยกทัพเข้ามาตีเมืองปราจีน  สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปปราบผลการศึกกองทัพไทยไล่ตีเขมรไปจนสุดชายแดน
ทหารเขมรล้มตายจำนวนมาก  จวบจนกระทั่งสมเด็จพระนเรศวรครองราชย์ทรงปรึกษาข้าราชการว่า กษัตริย์เขมรมีใจคิดไม่ซื่อเหมือนพระยาละแวก ชอบซ้ำเติมไทยในยามศึกกับพม่าจึงทรงมีพระราชดำริที่จะยกทัพไปแก้แค้น เอาโลหิตมาล้างพระบาทแล้วทรงจัดกองทัพให้ไปตีเมืองปัตบอง เมืองโพธิสัตว์ แล้วเข้าล้อมเมืองละแวกเอาไว้ทรงล้อมเมืองนานถึง 3 เดือนยังตีไม่ได้ เสบียงอาหารเริ่มลดน้อยลงจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยาไปก่อนแล้วจะเตรียมการมาตีในภายหน้า ต่อมา พ.ศ. 2137 ทัพสยามตีเมืองละแวกแตก  สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงกระทำพิธีปฐมกรรมต่อพระยาละแวก แต่ยังคงมีกษัตริย์ปกครองเขมรต่อไป

ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีแม้ว่าไทยเพิ่งจะกู้ชาติและเพิ่งตั้งตัวได้ก็ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขมร เพราะเจ้าเขมร 2 ฝ่ายทะเลาะกันเจ้าเขมรฝ่ายหนึ่งหนีมาให้ไทยช่วยเหลือ แต่อีกฝ่ายหนึ่งไปพึ่งญวนไทยจึงต้องทำสงครามกับทั้งเขมรและญวนสู้รบกันอยู่นานจนกระทั่งญวนเกิดปัญหาภายในประเทศตนเองขึ้น เหตุการณ์จึงได้สงบเพราะเจ้าเขมรที่พึ่งญวนไม่อาจที่จะพึ่งได้ต่อไปอีกจึงได้หันกลับมาพึ่งไทยยอมลดยศลดอำนาจ ลงให้แก่เขมรฝ่ายไทย    เหตุการณ์ครั้งนี้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีต้องทรงกรีธาทัพไปรบเขมรถึง 2 ครั้ง   ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เสด็จขึ้นเสวยราชย์ เจ้าเขมรแต่ละฝ่ายก็เกิดทะเลาะกันเองอีก แต่ว่าในคราวนี้รัชกาลที่ 1 ทรงจัดการได้สำเร็จก่อนสงครามจึงไม่เกิดขึ้น   ถึงรัชกาลที่ 2 เจ้าเขมรคราวนี้ก็ถึงกับแตกออกเป็นฝ่ายนิยมไทยพวกหนึ่งกับฝ่ายนิยมญวนพวกหนึ่ง ทั้งสองพวกนี้ต่างก็รบพุ่งกันเองและสร้างความเดือดร้อนมาถึงไทยอีกจนได้     ถึงรัชกาลที่ 3 ไทยกับญวนต้องทำสงครามกันอยู่นานนับสิบปีก็เพราะปัญหาเจ้าเขมรที่มีความแตกแยกและเอาแต่ทะเลาะเบาะแว้ง ทำสงครามภายในกันเองอยู่เสมอ     ในยุคพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ นี้เองที่เจ้าเขมรองค์หนึ่งนามว่านักองค์ด้วงถูกกักตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ที่โรงทิมซอมซ่อขุนนางไทยท่านหนึ่งสงสารเกรงว่าจะตายเสียก่อนจึงได้ขอตัวมาดูแลเป็นอย่างดีอยู่ในเรือนของท่านประวัติศาสตร์ตอนนี้กล่าวว่า “ขุนจำนงอักษร (กลิ่น) ส่งกับข้าวของกินเลี้ยงนักองค์ด้วงอยู่มิได้ อนาทร”นักองค์ด้วงต่อมาได้เป็นกษัตริย์ของเขมรเรื่องให้ที่พักหลับนอนและเลี้ยงดูเจ้าเขมรที่แตกแยกพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในเมืองไทยนี้จะเห็นว่ามีอยู่เรื่อยๆ แม้แต่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 ก็ปรากฏว่าได้พระราชทานบ้านหลังหนึ่งให้แก่เจ้าเขมรองค์หนึ่งได้พักอยู่อย่างสุขสบายที่ภายในกรุงเทพฯ เจ้าเขมรองค์นี้ชื่อว่านโรดมเป็นพระโอรสนักองค์ด้วงซึ่งต่อมาก็ได้เป็นกษัตริย์เขมรเช่นกัน     กษัตริย์นโรดมองค์แรกของเขมรทรงปกครองเขมรอยู่จนกระทั่งเขมรตกไปเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสเช่นเดียวกับญวน    ไทย เขมรและญวนถึงได้เลิกรบกันก็เพราะต่างมีศัตรูใหม่    ในสมัยของนักล่าอาณานิคมเฟื่องฟูฝรั่งเศสได้บอกว่าการแบ่งเส้นเขตแดนทางน้ำระหว่างไทยกับเขมรให้ใช้ร่องน้ำลึกหากเป็นเขาก็ให้ใช้หลักสันปันน้ำ   สมัยก่อนคนที่เคยไปเที่ยวปราสาทเขาวิหารจะขึ้นทางประเทศไทยโดยมีแต่ทหารเจ้าหน้าที่ไทยแล้วก็ไม่ทหารเขมรอยู่แม้แต่คนเดียว แต่พอทักษิณเขามาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เริ่มมีทหารเขมรเข้ามาและการแบ่งเส้นเขตแดน

ฮุนเซนเป็นลูกชาวนายากจนจากจังหวัดกัมปงจามเกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2494 ไม่มีเวลาเกิด ตุหรัดตุเหร่เตร็ดเตร่มาเป็นเด็กวัดพึ่งข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิตที่กรุงพนมเปญเมื่ออายุได้ 13 ปีเพื่อเรียนต่อในชั้นประถมปลาย   แต่จะเรียนจบการศึกษาในระดับใดไม่ปรากฏ    จนในปี 2513 เมื่อนายพลลอนนอลโค่นล้มเจ้านโรดมสีหนุลงได้สำเร็จโดยการสนับสนุนของสหรัฐ  ฮุนเซนซึ่งมีอายุเพียง 18 ปี ได้เข้าร่วมขบวนการต่อต้านจักรวรรดินิยมและกลายมาเป็นทหารในกองทัพเขมรแดงในปีถัดมา เมื่อ 5 มกราคม 2519 ฮุนเซนถูกจับให้แต่งงานหมู่รวม 13 คู่ เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2519 ในวัย 25 ปี เจ้าสาวชื่อบุญ สมเอียงมีพยานรัก 4 คน  ในห้วงเวลานั้นเวียดนามเหนือเข้ายึดไซ่ง่อนได้ในปี 18 เวียดนามจึงได้รวมเป็นประเทศเดียว ต่อมาหนึ่งปีเขมรแดงได้นำกำลังบุกยึดพนมเปญได้ประชาชนก็หวังว่าสงครามจะจบสิ้นกันเสียที   แต่ไม่นานฝันร้ายของชาวเขมรก็เริ่มขึ้นเมื่อทหารเขมรแดงปล่อยข่าวสหรัฐจะมาทิ้งระเบิดแก้แค้นให้ประชาชนทุกคนอพยพออกไปโดยด่วนตามตำนานทุ่งสังหารที่โด่งดังนั่นเอง

เมื่อเขมรแดงประสบความสำเร็จในการยึดครองบ้านเมืองในเวลาต่อมา ฮุนเซนซึ่งเป็นเพียงนายทหารชั้นผู้น้อยกลับไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปกครองด้วยความรุนแรงของกลุ่มเขมรแดงและได้เข้าร่วมกลุ่มกับฝ่ายต่อต้านเขมรแดงจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนหลบการไล่ล่าอยู่หลายปี  จนเขาไม่มีโอกาสเห็นหน้าลูกคนแรกเพราะหนีการไล่ล่าของเขมรแดง   ฮุนเซนซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้นำเขมรแดงแต่ฝักใฝ่เวียดนามจึงได้นำกองกำลังเวียดนามเข้ามาโค่นล้มอำนาจของเขมรแดง  กองกำลังเฮงสัมริน, ฝ่ายสีหนุ, ซอน ซาน, และเขมรแดงเขียว สัมพันธ์ที่รบกันจะเป็นจะตายต้องมาร่วมกันต่อต้านเวียดกง  ครั้งนั้นนาวาตรีประสงค์ สุ่นศิริเลขาธิการความมั่นคงวิเคราะห์ว่าเวียดนามต้องเข้าบุกเขมรแน่แต่ทางสหรัฐกลับเห็นต่าง   สุดท้ายเวียดนามได้เข้าควบคุมเมืองสำคัญๆ ของเขมรได้หมด ที่ฮานอยเหิมบอก"สามารถเข้ายึดกรุงเทพได้ในเวลา 2 ชั่วโมง"   ไทยก็มีปัญหาคอมมิวนิสต์หากต้องมารับมือกับทางเวียดนามอีก  ไทยต้องเจรจากับจีนให้จีนยุติการสนับสนุนคอมมิวนิสต์และซื้อน้ำมันมาสำรองเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน   ดีที่จีนช่วยและจีนยังขายอาวุธหนักให้ไทยในราคาถูกอีกด้วย   แต่ไทยก็ต้องทำสัญญาลับกับจีนหลายๆ เรื่องเพื่อตอบแทน

ใน 1 ปีหลังจากเวียดนามบุกเขมร จีนได้บุกเวียดนามทางตอนเหนือโดยมีอดีตนายกหน้าปลาตีนเข้าสังเกตุการณ์  ซึ่งจีนได้ให้เกียรติเป็นผู้ลั่นกระสุนปืนใหญ่นัดแรกใส่เวียดนามด้วย   จีนบอกก่อนบุกเวียดนามว่า จีนจะสร้างบทเรียนสงครามสั่งสอนให้กับเวียดนามอย่างสาสมที่บุกเขมรและว่าเวียดนามเนรคุณจีน  ในสงครามเวียดนามและหลังเวียดนามรบชนะฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟูที่ได้รับการสนับสนุนอาวุธจากจีน จีนนั้นสนับสนุนเวียดนามสุดลิ่มแต่เวียดนามกลับทำเรื่องไม่เหมาะสมต่อชาวเวียดนามเชื้อสายจีน มีการทำร้ายต่อชาวเวียดนามเชื้อสายจีนด้วย  ชาวเวียดนามจำนวนหลายแสนคนอพยพเข้ามาประเทศไทย  ตั้งค่ายผู้อพยพขึ้นลี้ภัย ฝึกอาวุธ และส่งเข้าไปรบกับเวียดนามโดยมีสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีนและไทยสนับสนุน เวียดนามจึงมาประชิดชายแดนไทย รุกล้ำเข้ามาเขตแดนไทยทั้งที่บนเขาพระวิหารและที่ราบลุ่มพรมแดนของไทย ลาว และเขมรอย่างบ้านช่องบกที่ได้เกิดสมรภูมิขึ้นเพราะเวียดนามต้องการตัดกำลังเขมรแดง  การรบที่ช่องบกนี้มีความรุนแรงมาก

ในปี 29 กองกำลังสุรนารีได้ใช้กำลังเข้าผลักดันและขับไล่กองกำลังต่างชาติ   เวียดนามจึงถอนตัวออกจากที่มั่นบางส่วน ช่วงแรกของการรบ เวียดนามเป็นฝ่ายได้เปรียบ  ไทยปรับกลยุทธใหม่สื่อสารเป็นความลับมากขึ้นและลดการใช้วิทยุสื่อสารลง ไทยได้ใช้กำลังเป็นชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก ทำการเข้าตีต่อที่หมาย เนินต่าง ๆ ในลักษณะการยุทธแบบป้อมค่าย สามารถยึดฐานที่มั่น ฝ่ายเวียดนามได้บางส่วน ขุดคูติดต่อเจาะเข้าหาฐานที่มั่น ใกล้ฐานเวียดให้เวียดยิงปืนใหญ่ยาก ไทยกดดันฝ่ายเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เมื่อไทยตรวจพบและระดมยิงปืนใหญ่ถล่มฐานเวียดอย่างหนักจนกระทั่งฝ่ายเวียดนามได้ถอนกำลัง ออกจากที่หมายเนินต่างๆ และแนวเขตประเทศไทย ในปลายปี 30 เข้าไปอยู่ในเขมร  โดยมีเขมรแดงและกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเข้าตีฐานของทหารเวียดตลอดและไทยสนับสนุนการยิงปืนใหญ่เสมอๆ เป็นอันสิ้นสุดของการรบกับเวียดเมื่อไทยได้เข้ามายึดและตั้งแนวป้องกันเนินต่างๆ อย่างแน่นหนา

ในดวงจรวันที่เจ้าชะตาได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นหุ่นเชิดให้แก่ผู้อื่นสรุปได้ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหุ่นเชิดอย่างแท้จริงในดวงกำเนิดและได้เป็นรัฐบาลหุ่น ณ วันเวลาที่ดวงชะตาจรบอกว่าวันที่ 14 มกราคม 2528 มีการแต่งตั้งรัฐบาลหุ่นขึ้นในโลกใบนี้หรือหากมีการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญใดๆ ก็ตามผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในวันนั้นจะเป็นเพียงตัวแทนหาใช่ตัวจริงไม่ เมื่อกองทัพเวียดนามทำการปลดปล่อยเขมรจากระบอบอำมหิตของเขมรแดงได้สำเร็จ  ถึงฮุนเซนพูดภาษาอังกฤษได้เพียงกระท่อนกระแท่นแต่กลับได้รับความไว้วางใจจากเฮง สัมรินให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศตั้งแต่ยังหนุ่ม ในช่วงนั้นฮุนเซนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักข่าวต่างประเทศด้วยลีลาการเจรจาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแพรวพราว เล่นเอาคณะทูตจากประเทศมหาอำนาจมากมายเถียงไม่ทันมานักต่อนัก ใครก็ตามที่ได้เคยเห็นลีลาการเจรจาของฮุนเซน คงตระหนักได้ดีว่าไม่ธรรมดาแต่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงในการเจรจาต่อรองและวางหมากทางการเมืองหลอกล่อคู่แข่งให้หลงกลได้ตลอดเวลา

ฮุนเซนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำของเขมรต่อจากเฮง สัมรินในปี 2528 เมื่ออายุสามสิบเศษและเป็นผู้นำที่ครองอำนาจมาได้อย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ฮุนเซนสามารถต่อสู้ชนะเขมรแดงได้นั้นได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเวียดนามในขณะนั้น จึงทำให้บุญคุณของเวียดนามยังมีอย่างล้นเหลือจนถึงทุกวันนี้จนฮุนเซนจะไม่กล้าแสดงบทบาทที่แข็งกร้าวต่อรัฐบาลเวียดนามในทุกกรณี   ฮุนเซนกลับสามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงให้กับตนเองและระบบการเมืองเขมรจากลูกไพร่ยากจนที่เติบโตมาท่ามกลางความขัดแย้งและสงคราม   ฮุนเซนรู้สึกถึงมีปมด้อย สั่งสมปริญญากิตติมศักดิ์ระดับดอกเตอร์หลายใบ บ้ายศและอำนาจไม่ต่างจากจอมเผด็จการอิดี้อามินแห่งอูกันดา แผลเก่าเรื้อรังที่เยียวยาได้ยากของฮุนเซนคือปัญหาเวียดนามเป็น  แม้ว่าฮุนเซนจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปลุกปั่นให้ชาวเขมรเกลียดชังประเทศไทยแต่จะไม่ประสบความสำเร็จในการทำให้ชาวเขมรเกิดรู้สึกรักเวียดนามเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ชายแดนตะวันออกฮุนเซนจะใช้วิธีปิดปากเงียบและพยายามปิดบังซ่อนเร้น    เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่ติดตัวฮุนเซนมาตั้งแต่วันที่กองทัพเวียดนามจัดตั้งรัฐบาลขึ้นในกรุงพนมเปญในเดือน ม.ค.2522 และอาจจะกลายเป็นจุดตายของเขมร-ฮุนเซนได้ในวันหนึ่ง  

ประสบการณ์จากสงครามจริงที่ผ่านมาตั้งแต่ยังหนุ่มทำให้ฮุนเซนเป็นผู้นำที่กล้าคิดกล้าทำและไม่เคยเกรงกลัวใคร    แต่ประสบการณ์ทางการเมืองที่สั่งสมมาหลายสิบปีก็ทำให้ฮุนเซนมีความฉลาดเฉลียวและความแพรวพราวทางการเมืองอย่างหาตัวจับได้ยาก  รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา รู้จักทางหนีทีไล่ทำให้ฮุนเซนสร้างฐานอำนาจทางเศรษฐกิจการเมืองให้กับตนเองได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความขัดแย้งและการแย่งชิงผลประโยชน์ของชนชั้นนำเขมร ไม่ว่าจะมาจากการทำลายคู่ต่อสู้อย่างเฉียบขาด การสร้างเครือข่ายพันธมิตรในหมู่ชนชั้นนำด้วยกัน ทั้งในด้านของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างลงตัวและการแต่งงานระหว่างครอบครัวชนชั้นนำด้วยกัน ล้วนแล้วแต่เป็นประจักษ์พยานยืนยันถึงความสุขุมรอบคอบและความเป็นผู้นำทางการเมืองที่หาตัวจับได้ยากในอุษาคเนย์เวลานี้

ทักษิณเข้าไปลงทุนในเขมรรับสัมปทานกิจการสถานีโทรทัศน์ยาวนานถึง 99 ปี ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมากแลกกับสัมปทานยาวนาน 7 ชั่วโคตรขนาดนี้แน่  ธุรกิจยังไม่ทันจะออกดอกออกผลกลับมีการเรียกรับผลประโยชน์ไม่จบไม่สิ้น  ฮุนเซนดัดหลังด้วยการแก้ไขสัมปทานใหม่ลดอายุลงเหลือ 30 ปี     ทักษิณแค้นสนับสนุนทหารฝ่ายตรงกันข้ามทำการปฏิวัติอาศัยความช่วยเหลือจากคนใหญ่โตในไทยในสมัยที่มีนายกเป็นอดีตนายกหน้าปลาตีน มีรองนายกฯหน้าเหลี่ยม   ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล  ชวน  หลีกภัยพยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์แต่อดีตนายกหน้าปลาตีนให้ข้อมูลว่านายพลซอนซานตายแล้วทั้งๆที่กบดานอยู่แถวซอยราชครูในบ้านเมียน้อยอดีตนายกหน้าปลาตีน  

นายพลซอนซานก่อการรัฐประหารฮุนเซนแต่ล้มเหลวผู้ร่วมก่อการรัฐประหารอย่างซกเยือนก็ได้ลี้ภัยมาอยู่ในไทยก่อนไปอยู่ประเทศที่ 3 เมื่อปี 42  ไทยได้มีการหารือเรื่องการส่งตัวกลับตามคำเรียกร้องของรัฐบาลเขมรมาโดยตลอดและมีความเห็นพ้องกันว่าประสงค์จะเห็นซกเยือนซึ่งมีอายุมากและมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับครอบครัวที่พำนักอยู่ในประเทศฟินแลนด์อีกครั้งหนึ่งด้วยมนุษยธรรม   ทักษิณนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นให้ รมว.ต่างประเทศไปหารือจนเขมรแจ้งว่าฮุนเซนเห็นด้วยในหลักการกับข้อเสนอของไทยและจะไม่เรียกร้องให้ฝ่ายไทยส่งตัวซกเยือนกลับอีก การนำผลประโยชน์ชาติแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวจึงเริ่มต้นขึ้นและกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงวันนี้

ต่อมาในปี 40 ได้มอบสัมปทานโทรคมนามคมให้ทักษิณเพิ่มจากเดิมเป็น 35 ปี  พอดีได้เกิดการจลาจลในเขมรเป็นเหตุเผาสถานทูตไทยในพนมเปญที่กำลังจะเลือกตั้งภายในเมื่อหลายปีก่อนกอรปกับฐานเสียงของฮุนเซนก็สั่นคลอนอย่างหนักจึงต้องใช้วิธีปลุกกระแสคลั่งชาติขึ้นมาด้วยการใช้กบสุวนันท์ครอบครัวทาสของเพื่อทุยมาเป็นชนวนจนสถานฑูตไทยถูกเผา  ทักษิณก็เป็นงานแปรวิกฤติเป็นโอกาส สร้างภาวะความเป็นผู้นำ นำเครื่องบินของกองทัพไปรับคนไทยกลับ ไทยได้ส่งทหารดุ่มๆเข้ากรุงพนมเปญซุกรถลำเลียงพลฮัมวี่ไปบนเครื่องบินซี 130 เพื่อคุ้มกันขบวนทหารทุกคนติดอาวุธทันสมัยครบมือดูแข็งขันนำชาวไทยออกจากสนามบินโปเจินตงกลับประเทศอย่างปลอดภัยและได้รับการชดใช้ความเสียหายจากเขมรอีกด้วย ถ้าเป็นประเทศอื่นอาจก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศไปแล้ว  แต่ฮุนเซนนิ่ง ส.ส.เขมรฝ่ายค้านเปิดโปงในภายหลังว่ามีบางคนเงินหนาจ่ายเงินให้ฮุนเซน 125 ล้านบาทเพื่อช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งงานนี้เขมรต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับรัฐบาลไทยและบริษัทที่เข้าไปลงทุนชินคอร์ปได้รับเงินชดเชยไป 27 ล้าน  หลังฮุนเซน "รัฐประหารตัวเอง" เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 ด้วยการไล่ล่าสังหารศัตรูทางการเมืองไปร่วมครึ่งร้อยเพื่อสถาปนาความเข้มแข็งให้ระบอบฮุนเซนอยู่ยืนยงตลอดกาล ต่อมาฮุนเซนได้รับการสถาปนาบรรดาศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนีกษัตริย์ตรายางใต้อุ้งตีนตนขึ้นเป็นสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน เมื่อปี 2550   ต่อมาในปี 51 ทักษิณจะเข้ามาประกอบธุรกิจบันเทิงในเกาะกงแลกกับคำแถลงการณ์สนับสนุนให้รัฐบาลเขมรเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร

ฮุนเซนรู้จักการเมืองไทยและผู้นำไทยดี อ่านได้ทะลุ  เป็นศิษย์รักศิษย์แค้นของสีหนุเจ้าตำรับนกสองหัวจอมตีสองหน้าที่เดี๋ยวนี้เก่งกว่าครูจนสีหนุปลงตกและบ่นอยากตายให้เร็วที่สุดอยู่เมื่อวันก่อนแล้ว   ฮุนเซนรู้ว่าคนไทยแตกกันและยุให้แตกกันได้ง่าย รัฐบาลและสภาของไทยไม่มีน้ำยา เอาอามิสและผลประโยชน์เข้าล่อ มีสายอยู่ตลอด  แม้กระทั่งกระทรวงการต่างประเทศยังขู่กันเองว่ากลัวจะขึ้นศาลโลกอีกบ้าง ถูกฟ้องคณะมนตรีความมั่นคงบ้าง  หากฮุนเซนนำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลกไม่สำเร็จ   ก็คงจะต้องถูกโจมตีทางการเมืองในประเทศตัวเองอย่างหนักหน่วงส่งผลต่อคะแนนความนิยมของตัวเองอย่างแน่นอนเพราะฮุนเซนได้ใช้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นการสร้างกระแสชาตินิยมและความนิยมให้กับตัวเองมาตลอดหลายปี อดีตนายสิบเขมรแดงนักเลงบ้านนอกคนนี้ยังได้ทำสัมปทานพื้นที่ต่างๆทั้งมรดกวัฒนธรรม พื้นที่ขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยให้กับประเทศมหาอำนาจหลายๆประเทศก็เพื่อหาแนวร่วม  ฮุนเซนจึงไม่เหลือทางเลือกมากนัก  ระบอบฮุนเซนเติบใหญ่มายาวนาน แม้จะวางตัวลูกให้เป็นทายาทการเมืองและการทหารกดหัวประชาชนไม่ให้กล้าหือไว้ได้อีกทั้งกว่าฮุนเซนจะหมดเรี่ยวแรงก็คงอีกกว่า 30 ปีเมื่อนั้นฮุนเซนอายุก็ร่วม 90 ปี   แต่หากฮุนเซนมีอันเป็นไปจนต้องลงจากอำนาจในเวลาอันใกล้นี้ศพฮุนเซนไม่สวยแน่นอน

ที่ฮุนเซนและนักการเมืองไทยอีกหลายคนเคยทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายถึงขนาดตายไม่เผา-เงาไม่เหยียบหรือบางครั้งถึงขนาดตามล่าฆ่ากันมาแล้ว แต่วันดีคืนดีพอผลประโยชน์โคจรมาตรงกันคนเหล่านี้ก็กลับจูบปากกันได้อย่างไม่อายผีสางเทวดา  แผนรู้เห็นเป็นใจและขายชาติยกที่ดินรอบปราสาทพระวิหารให้ฮุนเซนในรอบปีสองปีนี้ไทยเรามีอดีตนายกฯและนักการเมืองชั่วไทยบางคนกระทำเพียงเพื่อแลกกับการได้เงินทองจากผลประโยชน์ทางด้านน้ำมันในทะเลที่ทับซ้อนระหว่างไทยและเขมรของคนไม่กี่คนเท่านั้นเอง  เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคที่ฮุนเซนพูดในการประชุมอาเซียนที่หัวหินและย้ำกับพลเอกอดีตนายกหน้าปลาตีนที่เดินทางไปเยือนเขมรเพื่อเปิดตัวในฐานะผู้นำคนใหม่ของพรรคเพื่อทุยกลับสร้างความสั่นสะเทือนข้ามประเทศได้อย่างไม่น่าเชื่อ    สื่อมวลชนไทยและต่างชาติรายงานข่าวอย่างใกล้ชิดโดยมีฮุนเซนมาขย่มให้กลายเป็นเรื่องในงานประชุมสุดยอดผู้นำ   การที่ฮุนเซนมางานช้าทำปากพล่อยงานนี้ฮุนเซนลงทุนลงแรงเปลือยตัวเองถึงขนาดนี้โดยในทางการทูตแล้ววิเคราะห์ว่าพฤติการณ์อย่างที่ฮุนเซนกระทำนั้นอาจจะเปรียบเปรยได้ว่าเสมือนไม่ได้ใส่อะไรมาเลยแม้แต่มารยาท

ฮุนเซนเลือกจังหวะได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้งที่ออกมาแสดงท่าทีดังกล่าวข้างต้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุให้รำตามเพลงที่เขมรบรรเลงเพื่อให้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ ในบ้านเรา
คุกรุ่นขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อละครฉากนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด ฮุนเซนก็คงยึดแนวทางนี้ไปอีกสักระยะเพื่อเล่นกับความขัดแย้งภายในของไทยและทำให้เสถียรภาพทางการเมืองของไทยมีปัญหาสืบต่อไป ความอ่อนแอทางการเมืองภายในของไทยคือผลประโยชน์ของฮุนเซน   กระนั้นฮุนเซนคงอดไม่ได้ที่จะต้องขอบคุณสื่อมวลชนไทยที่ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ให้เขมรอย่างแข็งขันและที่ขาดไม่ได้ก็คือไร้เดียงสาทางการเมืองของพลเอกอดีตนายกหน้าปลาตีนและนายกฯอภิสิทธิ์

ทั้งๆที่สำนักข่าวของออสเตรเลียและอื่นๆหลายๆแห่งชี้ฮุนเซนจอมกระล่อนแห่งอินโดจีนทำตัวเหมือนพญาละแวกที่จ้องทำลายไทยมันช่างไร้มารยาทและขัดต่อพิธีการทูต รัฐบาลไทยก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนหรือตอบโต้นักการเมืองผู้คร่ำหวอดอย่างฮุนเซน  นักวิชาการหลายคนเซ็งฮุนเซนทำไปได้เอากามาเปรียบกับหงส์ อัดรัฐบาลตอบโต้หน่อมแน้มเกินไป ควรจะต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้ให้มากกว่านี้ รัฐบาลควรจะทบทวนท่าทีต่อความสัมพันธ์รวมทั้งใช้วิธีการทุกรูปแบบทั้งลับและเปิดเผยชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันเพื่อตอบโต้รัฐบาลเขมรได้แล้ว   แต่คงมีใครบางคนคงไปบอกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยว่าอย่าตกเป็นเหยื่อของฮุนเซนเลยดังนั้นจึงไม่ควรที่จะไปตอบโต้  อย่าให้กุ๊ยมาขู่ ย่ำยีศักดิ์ศรีคนไทย ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันอีกแล้วถามฮุนเซนให้ชัดว่าจะเอาอย่างไร    สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การเมืองระหว่างประเทศแต่มันเป็นปัญหาความมั่นคงและปัญหาอธิปไตยของประเทศไทยไปแล้ว  ตอนนี้ที่ช่องสะงำมีทหารเวียดนามมาตั้งฐานอยู่ ดังนั้นถ้าเรารบจะไม่ได้รบกับแค่เขมรแต่เป็นการรบกับเวียดนามด้วยนอกเหนือจากชาติมหาอำนาจ

ที่น่าเสียใจคนในรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไปต่อยอดเอื้อประโยชน์ให้สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซนและพระยาอัครมหาวรนุชสุดชั่วเดโชโคกระบือทักษิณอีก นอกเหนือจากการถอดยศ เรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์คืนทั้งหมด รัฐบาลต้องอยู่ให้ได้นานเท่านาน  ดึงมวลชนเข้ามาสนับสนุน  สะสางการคอร์รับชัน และหามาตรการตอบโต้ทักษิณไม่ให้เคลื่อนไหวได้สะดวก  ความเคลื่อนไหวต่อไปของอดีตนายกหน้าปลาตีนที่จะเน้นเดินสายพบต่างประเทศ เพราะเห็นว่าสามารถใช้เป็นเครื่องมือสร้างภาพได้ดีมาก  ทำให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำไม่มีเวลาติดตามข่าวสารคล้อยตามได้และแน่นอนว่าการเตรียมไปประเทศมาเลเซียครั้งนี้คงหนีไม่พ้นสาวไส้รัฐบาลล้มเหลวในการปัญหาการแก้ปัญหาภาคใต้ กับ ปัญหาเปราะบางอื่นๆเช่นพลังงาน ก๊าซธรรมชาติ

ประเทศไทยควรดำเนินการอย่างไรกับพระยาละแวกยุคดิจิตอล ปรัชญา อดีต ปัจจุบัน และอนาคตล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน เวียนมาบรรจบตามรอบรอยล้อเกวียน   จากเหตุการณ์ในอดีตถึงปัจจุบันจะพบว่าผู้นำเขมรไม่เคยเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติต่อไทยเลย หลายต่อหลายคนพยายามหาช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีปัญหาในด้านอื่นแล้วฉวยโอกาสโจมตีประเทศไทยตลอดเวลา    บทเรียนในอดีตที่พระมหากษัตริย์ของไทยได้ตอบโต้เขมรนั้นยังเป็นบทเรียนอันทรงคุณ ผู้นำไทยในยุคปัจจุบันและในอนาคตพึงยึดถือและปฏิบัติด้วยความรอบคอบและปรับใช้ตามยุคสมัยเพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีต่อประเทศไทยนำไปใช้ประโยชน์ได้และควรสอนบทเรียนให้แก่ฮุนเซนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดให้รู้จักกาลเทศะและเคารพความเป็นเอกราชและอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน  ตราบใดที่การแก้ปัญหา ความไม่สงบภายในประเทศยังไม่สำเร็จลุล่วงผู้นำเขมรก็จะเหิมเกริมเช่นนี้ตลอดเวลาแนวทางแก้ปัญหาหนึ่งก็คือผู้นำเขมรในอดีตจะไม่กล้าแสดงบทบาทแข็งกร้าวต่อประเทศไทย หากประเทศไทยมีความสงบ สันติสุขโจทย์ยากข้อใหญ่ที่คนไทยทั้งประเทศต้องการ    ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้สถานการณ์ภายในประเทศมีความสงบเรียบร้อย    เมื่อนั้นผู้นำเขมรยุคดิจิตอลก็จะกลับมาสารภาพผิดและยอมสวามิภักดิ์ต่อประเทศไทยเหมือนเช่นที่พระยาละแวกเคยกระทำมาแล้วในอดีต  เหตุการณ์จะกลับกันตรงกันข้ามด้วยไทยกลับเป็นฝ่ายที่ทะเลาะกันเองจนถึงขนาดต้องบากหน้าไปคิดพึ่งใบบุญเขมรหวังอาศัยเขมรอยู่เป็นที่พักหลับนอน บ้านหรูหลังใหญ่โตอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว  แต่ไอ้ที่คาดไม่ถึงคือกระแสตีกลับประชาชนลามขยายไปถึงอีสานแสดงความไม่พอใจพรรคเพื่อไทยและทักษิณในท่วงทำนองการสมคบฮุนเซนที่กำลังยึดครองดินแดนไทย ย่อมทำให้หนทางในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารห่างไกลความจริงมากขึ้น และหมายถึงคะแนนนิยมที่สั่นคลอนของฮุนเซนนั่นเอง

ในวันนี้แก๊งฮุนเซน-ทักสิน จะไม่หยุดนิ่งแต่การประสานกับความเคลื่อนไหวของบรรดาไส้ศึกภายในที่มุ่งเอาชนะทางการเมืองอย่างไม่ลืมหูลืมตาเขย่าบัลลังก์ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์กำลังจะเริ่มขึ้น
ขณะที่สัมพันธ์ไทย-เขมรจะเสื่อมทรามลงอย่างต่อเนื่องไม่ว่านายอภิสิทธิ์จะต้องการหรือไม่ก็ตามและทุกอย่างส่อเค้าจะมีความยุ่งยากมากกว่าเมื่อกว่า 6 ปีก่อน    การกระทำของฮุนเซนเป็นการกระทำที่ชั่วบริสุทธิ์เหมือนคนเขมรคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยเคยทำมาแล้วคือพยาละแวกได้เป็นใหญ่เป็นโต เพราะประเทศไทยช่วยทำให้สถานการณ์ในประเทศคุณสงบจนฮุนเซนได้เป็นนายกรัฐมนตรี   ส่วนทักษิณนั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยด้วยการซื้อเสียงโกงการเลือกตั้งจนทำให้พรรคถูกยุบถึงสองครั้งแล้วเขาเคยรัฐประหารคุณ ฮุนเซนย่อมรู้แก้ใจดี ฮุนเซนไม่ใช่คนโง่แต่ไม่ใช่คนฉลาด    เมื่อฝนตกจนขี้หมูไหลมาสมคบกันจนทำให้ฮุนเซนสามารถเอากำลังทหารมายึดพื้นที่รอบเขาวิหาร แล้วยังบังอาจกำเริบหากคนไทยเข้าไปจะยิงทิ้ง ทั้งที่จริงเขมรรุกร้ำเขตแดนคนอื่น
แล้วมาข่มขู่เจ้าของพื้นที่อย่างนั้นอย่างนี้ ฮุนเซนคิดว่าคนไทยจะงอมืองอเท้าให้ยิงฝ่ายเดียวหรือไร เอาล่ะเมื่อแต่งตั้งที่ปรึกษาตนนี้บอกให้เลยก็ได้ว่าทักษิณอยากเป็นสมเด็จฯ เหมือนฮุนเซน  วันนี้ฮุนเซนเลือกแล้วว่าจะเอาเพื่อนชั่ว...นิรันดรอย่างทักษิณ เพราะยิ่งคนไทยทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยก เขมรยิ่งได้ประโยชน์   ฮุนเซนเลือกข้างทักษิณเพราะคิดว่าเมื่อทักษิณกลับมามีอำนาจ ฮุนเซนจะได้ประโยชน์มากกว่า   คุยตกลงผลประโยชน์ได้มากกว่าและง่ายกว่า

ทันทีที่ทักษิณไปรับตำแหน่ง ไปถึงสนามบินที่พนมเปญ เขาได้รับการต้อนรับใหญ่โต จัดอาหาร 9 สำรับ  ระหว่างที่ทักษิณกำลังนั่งรถไปหาฮุนเซนระหว่างทางมีตัวเห้(..)กำลังข้ามถนน เมื่อรถทักษิณวิ่งมาถึง ตัวเห้ที่กำลังข้ามถนน ก็ต้องหยุดกะทันหัน แล้วหันมามองทักษิณที่นั่งชูคออยู่พลางนึกในใจว่า เชิญ เ-ี้ย กว่าไปก่อน     ฮุนเซนให้แบร์ฮักทักษิณแสดงความรักอันปานจะกลืน ราวกับว่าจากกันไปหลายปี ทั้งๆ ที่ค่ำวันก่อนเพิ่งจะเปิดบ้านฉลองเอิกเริก และ ฝ่ายรับตั้งหลักไม่ทัน แสดงอาการเคอะเขิน ดูจากภาพเคลื่อนไหวจะเห็นอาการเก้ๆ กังๆ ได้ชัด    แต่พออุปทูตไทยนำหนังสือขอให้จับกุมตัวทักษิณชั่วคราวและส่งตัวให้กับทางการไทย-เพียงไม่กี่นาทีเขมรปฏิเสธทันควัน เขมรฉีกสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน มาร์คเสียใจเขมรไม่ยึดหลักสากล  ทักษิณท้ายุบสภาผ่านปากเพื่อนชั่ว...นิรันดร"ถ้าอภิสิทธิ์แน่จริงให้เลือกตั้งใหม่สิ ท่านกลัวอะไรหรือหรือกลัวจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี" เพราะมีเป้าหมายหวังจะใช้เวทีเลือกตั้งมาต่อสู้เพื่อให้ได้ทรัพย์สินเงินทองที่เสียไปคืนมา หวังว่าถ้าได้เสียงข้างมากแล้วได้เป็นรัฐบาลจะได้แก้ไขกฎหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญให้พ้นความผิดในคดีต่างๆ   การเล่นที่เกินจริงของทักษิณในกรณีการพูดผ่านไทม์สออนไลน์ที่สอดรับกับการเล่นเกินบทของฮุนเซนวิพากษ์วิจารณ์ระบบบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไทยนับเป็นการขุดหลุมรอความสัมพันธ์ไทยกัมพูชากับทักษิณไว้ก่อนแล้วกำลังจะทำการฝังกลบทีหลัง  คำให้สัมภาษณ์ฉบับเต็มหน้าที่ 2 ตอบคำถามเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ใจความสำคัญก็คือเรื่องเดียวกับยุทธศาสตร์ขั้นที่ 5 ของปฏิญญาฟินแลนด์ ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญญลักษณ์เท่านั้น เป็นใบเสร็จที่พิสูจน์ว่า สิ่งที่นายสนธิ ลิ้มพูดมาตลอดสี่ปีกว่านั้นเป็นเรื่องจริง

แค่ทักษิณเดินทางถึงกัมพูชาชาวเขมรก็เริ่มแบ่งข้างออกเป็น 2 ฝ่ายแล้วเพียงพูดพาดพิงวิจารณ์หากไม่เข้าหูถึงขึ้นโดนต่อยคนที่ชกก่อนสนับสนุนฮุนเซนที่แต่งตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษา  ส่วนอีกคนกลับโต้แย้งว่าทักษิณอยู่ประเทศไทยก็ทำให้คนไทยแตกแยก  ชาวเขมรอีกคนหนึ่งที่ชื่อ “กี่” (Ky) เขียนความเห็นยาว 2 หน้ากระดาษส่งไปให้สำนักข่าวออนไลน์ Everyday.com.kh ระบุว่า “การแต่งตั้งทักษิณ (เป็นที่ปรึกษา) โดยต้องทะเลาะกับอภิสิทธิ์ (นายกรัฐมนตรีไทย) นั้นเป็นเกมของผู้นำที่โง่เง่าแห่งกัมพูชา” และ “เป็นการโยนชาวเขมรเข้ากองไฟ” ชาวบ้านเขมรบางคนยังฉลาดกว่าคนไทยหัวใจเขมรเสียอีกขนาดทักษิณมันจาบจ้วงพ่อหลวงของเรา  คนไทยหัวใจเขมรพวกนี้ยังไม่รู้สึกเจ็บแค้นอะไร หนำซ้ำยังแก้ตัวให้อีกนะ  แต่ก็นั่นเองไอ้ที่ฮุนเซนกล้ากร้าวใส่รัฐไทยเพราะเชื่อว่าใช้ ทรัพย์ในดินแลกมิตรประเทศหนุนได้

11 พฤศจิกายน 2552

ความจงรักภักดีของทักษิณ กับ เพื่อนชั่ว...นิรันดรของเขา




มันมากไปแล้ว อ้ายเด็กเมื่อวานซืน


แค่ฮุนเซนเพื่อนชั่ว...นิรันดรของทักษิณปฏิเสธความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทย  ยืมตรายางจากสมเด็จฯนโรดมสีหมุนีมาประทับ  ย่ำยีกระบวนการยุติธรรมไทยด้วยปากโสมม ทักษิณต่ำค่ากว่ากรวดทรายใช้ทำพื้นส้วมตามปั๊มน้ำมันด้วยซ้ำ    ในประเทศไทยประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ เกลียด ขยะแขยงไม่ต้องการ แต่ปรากฏว่าฮุนเซนของเขมรกลับนิยมชมชื่น  กอบกรวดทรายใช้ทำพื้นส้วมที่ไทยไม่ต้องการไปปั้นเป็นเพชรยอดมงกุฎของเขมร  ซ้ำยังบอกด้วยว่าทางการไทยขอตัวก็ไม่ส่งให้เพราะคดีที่ตัดสินลงโทษทักษิณไม่เป็นธรรม

ทักษิณเดินหมากผิดเริ่มจากทวิตขอบคุณฮุนเซนพอรัฐบาลตอบโต้ด้วยการประกาศลดระดับสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อเข้าใจว่าปลาติดเบ็ดทวิตสั่งสอนรัฐบาลอภิสิทธิ์เหมือนกับเข้าข้างฮุนเซนพวกขี้ข้าที่อยู่ในไทยก็แห่ตามแถลงข่าวด่ารัฐบาลเป็นการใหญ่แต่ดีที่สังคมไทยไม่บ้าตามด้วย

ฮุนเซนนึกว่าไทยไร้น้ำยาถาวรลักไก่ ย่ามใจหลายครั้ง คราวนี้เจอลูกหนักเพราะไทยไม่สามารถนิ่งสงบได้อีกต่อไป   ไทยจึงได้ทบทวนความสัมพันธ์ เรียกทูตกลับ หยุดการช่วยเหลือโครงการต่างๆและยังจะมีอีกหลายมาตรการติดตามมา เพราะไทยได้สีซอให้ควายอย่างเพื่อนชั่ว...นิรันดรคนนั้นได้ฟังมานาน

ฮุนเซนไม่ใช่คนโง่แต่ไม่ใช่คนฉลาด  นานาชาติต่างถนอมมารยาทที่จะไม่สอดแทรกในปัญหาของชาติอื่นแต่เขาสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ถนอมแววตาสมเพช ดูอย่างที่การประชุมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงในญี่ปุ่นนั่นอย่างไรจะถ่ายรูปหมู่ผู้นำ  ที่ตัวฮุนเซนเองขัดเขินตัวเอง ไม่กล้าเข้าพวก-เข้าหมู่จนท่านบัวสอน  บุบผาวัน ผู้นำลาวต้องกวักมือให้มายืนเข้าแถว-ถ่ายรูป   คนเขมรก็มีตั้งหลายล้านคน      แต่จะหาคนเก่งคนดีมีวิชาความรู้สักคนอย่างทักษิณมาทำยา  ทั้งแผ่นดินเขมรนั้นไม่มีเลย    ต้องเอาประเทศทั้งประเทศมารองรับคนคนหนึ่งให้เป็นปัญหาของประเทศตัวเอง

ฮุนเซนไม่เคยให้ความจริงใจและไม่เคารพกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้าน  แถมยังหาญเชิญเพื่อนชั่ว...นิรันดรทักษิณเข้าร่วมประชุมเศรษฐกิจ 12 พ.ย.นี้พร้อมเตรียมที่พักสรรพเสร็จรับรอง ทักษิณจะไปเขมรรอบนี้จึงเป็นแค่การพยายามพลิกฟื้นสถานะที่ตกเป็นเบี้ยล่างกลับคืนมา  กระนั้นฮุนเซนก็รับว่ากังวลไทยปิดด่านชายแดนก่อนแต่ยังปากดีจะประกาศไม่ให้เขมรสนับสนุนสินค้าไทยเย้ยไทยจะเสียเปรียบมากกว่า   แต่สุดท้ายฮุนเซ็นก็ดอดสั่งพล.อ.เจีย ดารารองผบ.สส.เขมรมาอ้อนวอนต่อหน้า พล.ท.วีรวลิต จรสัมฤทธิ์แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอย่าเพิ่งปิดด่านชายแดนประเดี๋ยวชาวเขมรเดือดร้อน..   ในขณะเดียวกันโฆษกเขมรขู่จะปิดพรมแดนบ้าง ขำๆ  

ฮุนเซนมีความเสี่ยงว่าจะโดนคนเขมรรักชาติได้จังหวะขับไล่ให้หลุดจากอำนาจเพราะอยู่มานาน 29 ปีชาวเขมรไม่มีอะไรดีขึ้น  แต่หากดูความเคลื่อนไหวทางการทหารของเขมรแล้ว  สัมพันธภาพระหว่างไทย-เขมรไม่น่ามีอะไรเลวร้ายลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้    ไม่น่าจะถึงขั้นปิดด่าน-ปิดชายแดน  แล้วเคลื่อนกำลังทหาร  กำลังอาวุธประชิดชายแดน  พร้อมลั่นไกใส่กัน  จะมีก็แต่พูดให้เป็นข่าว  เกทับกัน  พอเป็นสีสันตามประสาเท่านั้น  เพราะเราต้องเข้าใจว่าเขมรนั้นเป็นประชาธิปไตยเพียงรูป แต่เนื้อแท้ก็คือเผด็จการอำนาจทหารเบ็ดเสร็จ  และทุกครั้ง  ไม่ว่าเล็ก  ไม่ว่าน้อย  เอะอะอะไรขึ้นมาทหารเขมรจะเคลื่อนกำลัง  หรือไม่ก็ปึงปัง  ปืนลั่น  ริมชายแดนทุกครั้งไป   แต่คราวนี้ดูแล้วเหมือนจะใหญ่กว่าทุกครั้งแต่ปรากฏว่าทหารเขมรสงบเงียบ-เรียบร้อยอยู่ในที่ตั้ง  อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เมื่อภัยมาถึงชาติคนไทยส่งเสียงสนับสนุนรัฐบาลต่อการแสดงท่าทีตอบโต้เขมรครั้งนี้พุ่งปรี๊ด  สวนทางกับแถลงการณ์เพื่อไทยเพื่อศักดิ์ศรีไทยไม่ฉลาดเลยสมคบคนชาติอื่นมาปาขี้ใส่หลังคาบ้านตัวเอง  การยืนอยู่คนละข้างระหว่างผลประโยชน์ของประเทศไทยกับผลประโยชน์ของประเทศเขมรกลุ่มคนที่เรียกว่าพรรคการเมืองก้อนขี้นี้ก็ยังอุตส่าห์ตะแบงไปยืนอยู่ข้างเดียวกับผลประโยชน์ของฝ่ายเขมร ไม่เว้นแม้แต่พงศ์เทพอดีตผู้พิพากษาที่เคยทำงานภายใต้พระปรมาภิไธยของพ่อหลวงเป็นผู้พิพากษาถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคดียุบพรรค    พงศ์เทพช่างคิดบอกรัฐบาลไทยกำลังอิจฉาทักษิณ

ฮุนเซนสมคบกันกับทักษิณจนสามารถเอากำลังทหารมายึดพื้นที่รอบเขาวิหาร แล้วยังบังอาจกำเริบหากคนไทยเข้าไปจะยิงทิ้ง  ทั้งที่จริงฮุนเซนเองที่รุกร้ำเขตแดนคนอื่น การที่มาข่มขู่อย่างนี้ฮุนเซนคิดว่าคนไทยจะงอมืองอเท้าให้ยิงฝ่ายเดียวหรือไรถ้าจะให้ดีน่าจะตั้งทักษิณเป็นสมเด็จอภิพระยาจักรีทักษิณ ทรราช ขายชาติ มหาราชเสื้อแดงมุนี มหาอัปรีย์เดโช หน้าเหมือนไทย หัวใจแขมร์”

ทักษิณเคยทำรัฐประหารฮุนเซนแต่ทั้งคู่กลับมาจับมือกันได้อีกครั้งก็ด้วยผลประโยชน์   ฝ่ายหนึ่งยังไม่รู้ว่าจะได้เขาพระวิหารหรือไม่ก็เขาควายบนหัว    อีกตัวหนึ่งได้ผลประโยชน์ทำเงินจากการขายชาติขายแผนดินที่ทุ่มเททำมาตลอด  งานนี้คุณอลงกรณ์ พลบุตรออกปากรับอาสาเป็นธุระเปลี่ยนสัญชาติให้เลยทีเดียว   การที่ฮุนเซนแต่งตั้งให้ทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวก็แค่ฉากบังหน้า ใช้เขมรเป็นฐานที่มั่นก็เท่านั้น  ทักษิณอาจจะคิดว่าเล่นไพ่ฮุนเซนแต่แท้จริงแล้วฮุนเซนเล่นไพ่ทักษิณ  เกมที่ทักษิณ–ฮุนเซ็นตั้งใจเพียงแค่จะสร้างข่าวให้ประเทศไทยเสียหน้ากลับถูกรัฐบาลไทยใช้เป็นเงื่อนไขรุกฆาตล้มโต๊ะเจรจาในเรื่องผลประโยชน์ที่ตกลงกันไม่ได้  คนที่คิดเกมนี้ให้ทักษิณสมควรโดนตบกะโหลกแรงๆ สามสี่ทีแล้วไล่ให้ไปอยู่เขมรจริงๆ

“ทักษิณที่เป็นนายกฯมา 6 ปี เกิดที่ประเทศไทย โตที่ประเทศไทย”  รักประเทศไทยจริงๆแต่ไม่ยอมเสียภาษีไปทำนุบำรุงประเทศ  โกงประเทศไทยเยอะมาก  ทักษิณทำความชั่วช้าสามานย์ของระบอบทักษิณ ที่มีทั้งทุจริตทุกรูปแบบ ละเมิดสิทธิมนุษยชนเข่นฆ่าผู้คนยัดเยียดข้อหายาเสพติด แทรกแซงควบคุมทุ่มซื้อสื่อให้ศิโรราบ ซุกหุ้นให้คนใช้ แก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง ใช้อำนาจของการเป็นนายกฯให้เมียไปซื้อทรัพย์สินแข่งกับชาวบ้านนั้น แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไทย ว่ามีเงินไม่กี่หมื่นล้านบาทแต่มีเงินฝากหลายแสนล้านบาท ทั้งที่สิงค์โปร สวิตเซอร์แลนด์ ในหลายๆประเทศรวมถึงที่ประเทศอังกฤษก็กว่าแสนล้านบาท ระหว่างที่ครองอำนาจอยู่ 5-6 ปีนั้นทักษิณได้ทำร้ายประเทศไทยและประชาชนคนไทยอย่างหนักบริหารประเทศด้วยการมีผลประโยชน์ทับซ้อนทำให้สามารถเพิ่มพูนทรัพย์สินได้เป็นแสนล้านจากเดิมที่ร่ำรวยอยู่แล้วนับหมื่นๆ ล้านบาท  โฆษณาชวนเชื่อมอมเมาให้สังคม และคนรากหญ้าให้มีค่านิยมผิดๆ ฯลฯ มีแนวคิดเดียวกับระบอบฮุนเซนที่ทำทุกวิถีทางลดบทบาท หรือทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันกษัตริย์  

ทักษิณชื่นชอบในการลงทุนในลักษณะผูกขาดในธุรกิจที่ได้กำไรมหาศาลรวมทั้งธุรกิจด้านพลังงานที่มีอยู่จำนวนมากในเขตเขมรและแน่นอนในเขตพื้นที่ทับซ้อนกับไทยซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้เจรจาไปแล้วหลายรอบก่อนถูกถีบลงจากเก้าอี้เสียก่อนโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ   ว่ากันว่าการตัดสินใจขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทก็เพื่อนำไปลงทุนด้านพลังงานนี่แหละ  แก๊งฮุนเซน-ทักสิน จะไม่หยุดนิ่ง แต่การประสานกับความเคลื่อนไหวของบรรดาไส้ศึกภายในที่มุ่งเอาชนะทางการเมืองอย่างไม่ลืมหูลืมตา เพื่อเขย่าเก้าอี้ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์กำลังจะเริ่มแรงขึ้นๆ ท่ามกลางความสัมพันธ์ไทย-เขมรที่เสื่อมทรามลงอย่างต่อเนื่อง      

ตระกูลชินวัตรขาดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขายนามพระราชทาน “ไทยคม” ให้ต่างชาติเป็นสัญญลักษณ์ให้การแสดงความรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ  ชาวบ้านบางคนได้รับพระราชทานสิ่งของจากในหลวงเขายังเก็บรักษาไว้บนหิ้งพระเพื่อกราบไหว้บูชาแต่กลับขายสิ่งที่ได้รับพระราชทานมา   เมื่อดาวเทียมดวงนี้ตกอยู่ในความควบคุมดูแลของต่างชาติจะคิดว่ายังมีความลับของชาติเหลือให้ขายอีกหรือ   บ่อยครั้งทักษิณแยกไม่ออกว่าอะไรคือผลประโยชน์ของชาติและอะไรคือผลประโยชน์ของตัวเอง     ในสมัยรัฐบาลทักษิณและสืบต่อมาถึงสมัยรัฐบาลหุ่นเชิดได้ทำการดูแลผลประโยชน์ร่วมของฝ่ายเขมรอย่างดีไม่ว่าจะในเรื่องเขตแดนบนบก-ในทะเล, ปราสาทพระวิหาร, ความช่วยเหลือด้านการเงินการพัฒนาในเขมร  ทำถนนหนทาง รวมถึงโอกาสในการบริหารพื้นที่สัมปทานปิโตรเลียมในทะเลมูลค่ามหาศาล เพราะในสมัยรัฐบาลทักษิณได้มีการทำข้อตกลงความเข้าใจร่วมกันปูทางเอาไว้แล้วเพื่อนำไปสู่การจัดสรรผลประโยชน์ในแบบที่เขมรพึงพอใจ

ทักษิณเปิดศึกรุกกดดันไทย จี้เลือกตั้งใหม่ เล่นเกมส์  ขยี้บ้านพังเมืองไทยให้เละ กำลังเร่งแผนฟื้นฟูอำนาจของตัวเองขึ้นมาใหม่อย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใดอีกต่อไปแล้วทุ่มเทเงินทองรวบรวมพลพรรคทั้งจากคนที่ลุ่มหลงรักกับอีกพวกที่เคยชิงชังระบอบทักษิณแต่ด้วยความเกลียดทหารและอำนาจแฝงของเหล่าอำมาตย์  สมบัติก้อนมหาศาลกำลังจะถูกยึดเข้าเป็นของรัฐ ยศและบรรดาศักดิ์กำลังจะถูกถอดถอน ทุกวันนี้แทบไม่มีแผ่นดินให้เหยียบ สังขารก็ร่วงโรยอย่างรวดเร็วเพราะโรคร้ายคุกคาม ผลสุดท้ายชีวิตจะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องคาดเดาให้ยาก  สังขารไม่เที่ยงแท้ จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ยิ่งเร่งสร้างเวรสมคบกับลูกหลานพระยาละแวก จอมทรยศหักหลัง ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ คิดคด สร้างความแตกแยกต่อแผ่นดินเกิด ผลกรรมจะตามทันในอีกไม่นานจากนี้  
      
หากเกมส์แรงเข้าเป้า   ทักษิณสามารถตอกลิ่มให้คนไทยแตกแยกรุนแรงมากขึ้นจนยากจะแก้ไขได้แล้ว   รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็จะไม่มีสมาธิ ยากที่จะบริหารประเทศได้อย่างปกติสุข  ธาตุแท้ของทักษิณนายทุนสามานย์ที่ไร้คุณธรรม จึงไม่มียางอายใดๆ ในการคิดแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวทุกขณะ แล้วพยายามทำให้ค่านิยม โกงบ้างแต่ทำงาน กลายเป็นค่านิยมที่ถูกต้องชอบธรรมของสังคมไทย เช่นเดียวกับค่านิยม บกพร่องโดยสุจริต ที่เป็นความคิดอุบาทว์ที่สุดที่ทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมไร้คุณธรรมด้านได้อายอด-ทำชั่วกลับได้ดี-ทำดีมีคุณธรรมกลับถูกมองว่าพวกหน้าโง่

ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติยศและศักดิ์สิทธิ์ในการอุทิศตนทำงานเพื่อประเทศชาติโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จะต้องได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายกรัฐมนตรีของไทยเป็นตำแหน่งผู้นำประเทศสูงสุดที่สามารถเข้าถึงชั้นความลับข้อมูลขั้นสุดยอดด้านความมั่นคงของชาติทั้งทางทหารที่รับรู้ข้อมูลความลับตำแหน่งกองกำลังและอาวุธทุกอย่างของประเทศที่มีไว้ในการปกปักรักษาแผ่นดินไทย ข้อมูลทางการเงินและเศรษฐกิจที่มีการเก็บรักษาทรัพย์สมบัติของชาติไว้ที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย แผนการพัฒนาประเทศในเชิงลึกในระยะยาว ฯลฯ  ทำให้ผู้คนบนแผ่นดินนี้ยังเต็มใจยกมือไหว้อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเกือบทั้งหมดได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ ยกเว้นอดีตนายกฯอย่างทักษิณและขี้ข้า ชวลิต ยงใจยุทธ สมัคร  สุนทรราชและสมชายกระโปรง วงศ์สวัสดิ์ที่เป็นทาสน้ำเงิน  นอกจากสมัครที่นอนป่วยหนักในโรงพยาบาลแล้ว  เศษเดนคนที่เหลืออยู่กำลังเอาความแค้นส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนตนมาปลุกปั่นประชาชน สร้างปัญหาบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศและปลุกระดมสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นไปทั่วบ้านทั่วเมือง
      
ระหว่างที่ทักษิณคงจะกำลังปลาบปลื้มประโลมใจที่ได้ตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา   คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต  ทักษิณมีอันได้ดิ้นพล่านหลังเดอะไทมส์ตีพิมพ์ข่าวให้สัมภาษณ์ทักษิณที่ล่วงละเมิดสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรง จนต้องทวิตบอกสาวกตาตื่น อ้างสื่ออังกฤษบิดเบือนคำพูดพร้อมออกแถลงการณ์แหลโยนบาปให้สื่อนอกบิดเบือนเสนอข่าวเท็จ สร้างความสับสนให้คนไทยเข้าใจผิด แสร้งสำนึกเสียใจต่อการนำเสนอข่าวของ timesonline ยันมีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ  เมื่อรู้ว่าคนไทยรู้สึกอย่างไรต่อข่าวชิ้นนี้   แม้กระทั่งคนเสื้อแดงก็ตามได้ยินมาว่า รับไม่ได้จริงๆ

ผู้สื่อข่าวของเดอะไทมส์คนนี้ถ้าดูปูมประวัติและงานเขียนของเขาก็น่าจะเป็นคนที่ทักษิณไว้วางใจได้และอยากจะให้ข้อความของตนสื่อออกไปภายนอกเพราะทั้งแนวคิดข้อเขียนของเขาเข้าข้างทักษิณเพราะมีทั้งอคติต่อประเทศไทย สถาบันเบื้องสูงและเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาโดยตลอด   เมื่อนักข่าวก็อคติ คนให้สัมภาษณ์ก็มีความแค้นฝังลึก ข่าวที่เขียนออกมาจึงเต็มไปด้วยอารมณ์แต่ก็บ่งบอกตัวตนของคนทั้งสองอย่างหมดเปลือก

การโยนบาปให้กับนักข่าวเดอะไทมส์ทำให้สำนักข่าวใหญ่นี้รู้ว่าถูกตอบโต้ก็ยิ่งลงรายละเอียดมากขึ้นจากเดิมที่ลงข่าวโดยสรุปเพียงหน้าเดียวก็เอาเวอร์ชันเต็มๆ ทั้งหมด 12 หน้าให้คนเข้าไปอ่านคล้ายจะพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่บิดเบือน   ทักษิณจึงไม่ควรโทษว่านักข่าวของเดอะไทมส์ฝ่ายเดียวแต่ควรโทษตัวเองซึ่งที่ผ่านมาพลาดแล้วพลาดอีก และคราวนี้ต้องเรียกว่า พลาดมหันต์...ที่ได้ขุดหลุมฝังตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว

 “ทักษิณก็เป็นคนไทยน่าจะรู้สึกบ้างว่าสิ่งที่ทำลงไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่" ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้งน้อยเล่มใหม่นายกฯอภิสิทธิ์ถามทักษิณ ทักษิณที่ลืมตัวเหมือนวัวที่ลืมตีน.. ยังคงคิดอยู่ตลอดเวลาว่ายังเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ยังมีอำนาจต่าง ๆ อยู่ในมือทั้งที่คุณถูกถีบลงไปจากเก้าอี้และเตลิดหนีศาล ทั้งๆที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณมากมายจากราชวงศ์ไทย  กลับ“รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งจาก กษัตริย์นโรดมสีหมุนีของเขมรให้เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลเขมร  ...  รู้สึกภูมิใจเหมือนที่นายศุภชัย พานิชภักดิ์ ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ที่ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการอาเซียน” นักโทษหลบหนีคดีอาญาไปเปรียบเทียบกับบุคคลทั้งสองนั้นทั้งสองได้รับการคัดเลือกจากนานาอารยประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์การทั้งสองโดยผ่านการแข่งขันกับคนอื่น ๆ    แต่เพื่อนชั่ว...นิรันดรอย่างฮุนเซนคนเดียวแต่งตั้งทักษิณยังทะลึ่งภูมิใจได้อย่างไร

นายกฯอภิสิทธิ์ให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงและดำเนินการต่อแล้ว   และเมื่อคนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว  ท่านอภิสิทธิ์พบว่ามีข้อความซึ่งไม่ตรงตามข้อเท็จจริง   และอาจไม่เหมาะสมหลายจุด  นายกฯอภิสิทธิ์ถามว่าการจะไปบรรยายพิเศษแก่นักธุรกิจเขมร  300  คนของทักษิณ "ไปจริงหรือเปล่า  พูดจริงหรือ  ให้สัมภาษณ์ตั้งยาวแต่ยังบอกว่าไม่จริงเลย"   การรุกฆาตของไทยต่อเขมร สั่งยกเลิกเอ็มโอยูเขตทับซ้อนทะเลไทย-เขมรทุบหม้อข้าวทักษิณ-ฮุนเซน รู้มาว่าทักษิณวางแผนเข้าพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณด้านใต้ห่างจากหน้าผาที่ตั้งปราสาทพระวิหารประมาณ 300 เมตร ขนาดพื้นที่ 20,000 เฮกตาร์ในรูปแบบเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กที่ฮุนเซนปล่อยเกาะกงให้เช่ายาวนาน 99 ปีเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ทั้งท่าเรือน้ำลึก กาสิโน สนามบินฯลฯ โดยมีรูปแบบการบริหารแบบเขตพิเศษคล้ายกับฮ่องกง
       พื้นที่ส่วนที่อยู่ตรงกลางอ่าวไทยตกลงกันได้ในเบื้องต้นโดยแบ่งปันผลประโยชน์ที่ 50-50 แต่พื้นที่ทางด้านซ้ายและด้านขวาของพื้นที่ทับซ้อนนั้น ฝ่ายเขมรเสนอให้แบ่งผลประโยชน์ในสัดส่วน 90-10 แต่ฝ่ายไทยเห็นควรแบ่งในสัดส่วน 60-40 และการเจรจาสะดุดหยุดลง เมื่อรัฐบาลทักษิณถูกถึบในเดือนก.ย. 49 จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
      
       พื้นที่เขตทับซ้อนทางทะเลไทย-เขมรมีประมาณ 27,960 ตารางกิโลเมตรมีมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญคือก๊าซฯ และน้ำมัน ประมาณการว่ามีปริมาณน้ำมันสำรองมากถึง 2,000 ล้านบาร์เรล และมีปริมาณก๊าซฯ สำรองอีกมากกว่า 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มูลค่ามากกว่า 5 ล้านล้านบาท ซึ่งการสำรวจขุดเจาะยังไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่ารัฐบาลทั้งสองชาติจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันเสียก่อน

นักพนันไทยไม่รู้สึกรู้สากับวิกฤตสัมพันธ์เขมรยังคงแห่ทะลักหอบเงินเข้าถลุงบ่อนฝั่งเขมรเนืองแน่น เห็นพวกนักพนันแล้วน่าจะประกาศปิดพรมแดนให้พวกเวรนี่มันอยู่ในแผ่นดินเขมรสัก 3 ปีอยากเล่นนักก็ให้มันไปเล่นให้หายบ้าไปเลย  เขมรมีบ่อนใหญ่หรือกาสิโน 7 แห่ง ขนาดกลางและเล็ก 25 แห่ง รวมเป็น 32 แห่ง บ่อนใหญ่ 7 แห่งกำไรสุทธิเฉลี่ยแต่ละบ่อนเดือนละ 42-58 ล้านบาทหรือคิดเป็นกำไรเฉลี่ยต่อบ่อนปีละ 500-700 ล้านบาท หากคิดเป็นเงินหมุนเวียนจะอยู่ที่ปีละ 33,000 -39,000 ล้านบาท ขณะที่บ่อนขนาดกลางและขนาดเล็กมีเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 13,000-15,000 ล้านบาทต่อปี มีกำไรเฉลี่ยบ่อนละ 2,600-3,100 ล้านบาทต่อปี    คนไทยนำไปเล่นในบ่อนเขมร ปีละประมาณ 45,000- 55,000 ล้านบาท คิดเป็นกำไรของบ่อนเฉลี่ยปีละ 9,000-11,000 ล้านบาท โดยมีคนไทยเข้าไปเล่นการพนันในเขมรปีละกว่า 2 ล้านคน เล่นในบ่อนใหญ่ ประมาณ 200-400 คนต่อบ่อนต่อวันหากเป็นวันหยุดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เท่าแต่ถ้าเป็นวันหยุดยาวจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10 เท่าของวันธรรมดา

การปลุกเร้าคนไทยให้หลงผิดไปเห็นดีเห็นงามกับการรับตำแหน่งที่ปรึกษาของผู้นำประเทศอื่นโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเกเรนักเลงโตอย่างผู้นำเขมรคนนี้ ที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับประเทศไทยมาโดยตลอด     แล้วอาศัยปากของผู้นำชาติเขมรมาดูหมิ่นศาลไทย และให้ร้ายประเทศบ้านเกิดตัวเองเพียงเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตนหวังอาศัยกองกำลังต่างชาติเข้ามาช่วยให้กลับมามีอำนาจทางการเมืองครั้งใหม่ย่อมคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ กับอดีตนายกฯ ชวลิต กำลังสมคบกัน"ทรยศหักหลังต่อชาติ" ถือเป็นพวกกบฏล้มล้างประเทศด้วยกองกำลังต่างชาติหากจับตัวได้จะต้องถูกลงโทษสถานเดียว ประหารชีวิต และคนที่ทรยศต่อชาติตัวเองได้ มาอยู่เขมรซึ่งไม่ใช่แผ่นดินพ่อ-แผ่นดินแม่ตัวเองเมื่อได้ไออุ่น สักวัน...มีหรือที่มันจะไม่ขี้รดหลังคา


ภาพหอก ทั้ง เคี้ย



08 พฤศจิกายน 2552

รฟท. -----> ปรับปรุงได้แต่ก็อย่าให้อยู่ในมือเสือหิว


ปัญหาวุ่นวายของรฟท.ในยุคที่สร.รฟท.และผู้บริหารล่อกันเละ ทำชาวบ้านโดยเฉพาะ ตจว.เดือดร้อนขนส่งสินค้าป่วนจนขาดตลาด "แทนที่จะหาทางแก้ไขร่วมกันกลับอวดตัวเอาชนะกัน" ไม่ทำหน้าที่บริการตลอด 24 ชั่วโมงตามวัตถุประสงค์ในฐานะรัฐวิสาหกิจกลุ่มขนส่งที่เป็นบริการขั้นพื้นฐานถือเป็นยุคตกต่ำที่สุดที่เกิดจากผู้บริหารและสร.รฟท.   "งานนี้ คนกรุงซีเครียดไปด้วยเพราะสื่อมวลชนรายงานออกจอทุกชั่วโมง"..."สุภา ปิยะจิตติ" ผอ.สคร.หรือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจบอก

เมื่อสว.ถามสาเหตุตกรางที่เขาเต่า  โสภณ ซาเล้งว่าอุบัติเหตุเกิดจาก 2สาเหตุ คือ 1.ปัญหาเรื่องโครงสร้าง 2.ปัญหาเรื่องระบบคนและระบบเครื่องจักร ทั้งนี้ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าหัวรถจักรขบวนรถไฟดังกล่าวมีความเก่าไม่เหมาะจะนำมาใช้งานนั้นข้อเท็จจริงหัวรถจักรดังกล่าวถือเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดมีอายุการใช้งานเพียง 12ปี    ส่วนมาตรการเยียวยาผู้เสียหายนั้นผู้ที่เสียชีวิตได้จ่ายให้คนละ 8หมื่นบาท ส่วนผู้ที่บาดเจ็บจะให้ความช่วยเหลือเต็มที่โดยไม่ได้คำนึงถึงระเบียบหลักเกณฑ์ การปรับปรุงระบบรถไฟนั้นจะต้องแก้ไขทั้งระบบ ไม่เช่นนั้นจะไม่สำเร็จ เพราะปัญหาสะสมมาเป็น 100ปีแล้ว   ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 4คณะเพื่อดูแลปัญหาซึ่งได้แจ้งนายกฯว่าจะใช้เวลา 3สัปดาห์

 ชาวบ้านโวยกระทบรากหญ้า ผู้ว่าฯรฟท.เผยเจ๊งแล้ว41ล้าน  ปธ.หอค้าใต้โวยศก.หยุดชะงัก  นายกฯขนส่งชี้เสียหาย70ล. การเคลื่อนไหวของสร.รฟท.เป็นไปเพื่อรักความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน        ดูสถิติปีที่แล้วเกิดอุบัติเหตุ159ครั้ง เกิดขัดข้องระหว่างทางและต้องจอด196ครั้งและปีนี้เกิดอุบัติเหตุแล้ว88ครั้ง เสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ล่าสุดที่เขาเตาคนตาย7ศพบาดเจ็บจำนวนมาก จะให้สร.รฟท.ทำอย่างไร เกิดอุบัติเหตุรถไฟ พนักงานโดนลงโทษฝ่ายเดียว ฝ่ายบริหารลอยตัว อุบัติเหตุไม่ใช่เกิดจากเวรกรรมแต่เกิดจากความประมาท

พนักงานขับรถไฟจากสถานีบางซื่อพยายามนำขบวนรถ 463 พัทลุง - สุไหงโก-ลกออกจากสถานีหาดใหญ่ เพื่อไปรับผู้โดยสาร 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามคำสั่งของฝ่ายบริหารรฟท.ฯ หลังจากขบวนรถขบวนแรกเคลื่อนตัวจากสถานีได้เพียง 300 เมตรก็ได้วิ่งฝ่าฝืนสัญญาณควบคุม ทำให้ประแจติดค้างส่งผลให้ขบวนรถไฟต้องหยุดทันที เนื่องจากระบบสัญญานเกิดขัดข้องไปด้วยและเกือบพุ่งชนกับขบวนรถลังกาวี-หาดใหญ่ "สาเหตุที่พนักงานขับรถไฟนำขบวนรถฝ่าสัญญานไฟ เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง ทำให้ไม่เข้าใจระบบรางในพื้นที่ ทำให้ประแจติดค้างส่งผลให้ระบบสับเปลี่ยนรางเกิดขัดข้อง"สร.ร.ฟ.ท.แจง    ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เชื่อเหตุคนขับส่วนกลางรถไฟใต้หวิดชนเพราะถูกวางยา  ขู่อีกไม่นานไล่ออกพนง.ประพฤติชั่ว พนักงานที่เข้าข่ายอาจถูกลงโทษจะเป็นระดับแกนนำของสร.ร.ฟ.ท.ที่มีพฤติกรรมการปลุกปั่นบีบบังคับให้พนักงานรายอื่นหยุดงานซึ่งเป็นพนักงานทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ภาคใต้

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติแต่งตั้งพนักงานขับรถไฟ จำนวน 171 อัตรา ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอข้อแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเพื่อขอบรรจุอัตราจ้าง   รัฐบาลใส่เกียร์ห้าลุยเมกะโปรเจกต์ระบบราง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตรียมเดินทางเยือนจีนหารือแผนร่วมลงทุนพัฒนารถไฟสั่งซาเล้งเร่งสรุปข้อมูลชง ครม.เศรษฐกิจภายใน 2 สัปดาห์ก่อนที่จะยืนยันเพื่อขอความสนับสนุนด้านการเงิน 400 ล้านดอลลาร์จากจีนมาใช้ในการพัฒนา   รมว.คมนาคม ยังยืนยันต่อที่ประชุม ครม.โดยระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องให้นายกรัฐมนตรีหรือต้องให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นคนกลางแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของสร.รฟท.เพราะตนเองยังสามารถแก้ไขปัญหาได้ "การเจรจาก็จะต้องเจรจาไป แต่รถไฟจะต้องวิ่งด้วย    พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของ สร.ร.ฟ.ท. แต่จะให้ไปลงนามอะไรก็คงไม่เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาไม่จบ เพราะหากลงนามแล้ว 2-3 เดือนก็มาหยุดงานประท้วงเหมือนที่ผ่านมาเท่ากับปัญหาไม่ได้แก้ไข  ส่วนเรื่องความรับผิดชอบที่เหตุการณ์ยังไม่คลี่คลายนั้นที่ประชุมไม่มีการพูดถึงว่าใครควรออกหรือไม่ควรออกเพราะทุกฝ่ายก็รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองอยู่" โสภณกล่าว

"วันที่ 28 ตุลาคมมีการนัดเจรจาระหว่าง เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น และระดับสูงของรฟท. สิ่งที่สร.รฟท.ดำเนินการเป็นเรื่องความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว จึงขอความเป็นธรรมด้วยและยืนยันว่า พร้อมปฏิบัติหน้าที่หากทุกฝ่ายจริงใจแก้ปัญหา" นายวิรุฬห์ สะแกคุ้มกล่าว

ยิ่งนายอาคม  เอ่งฉ้วนส.ส.ประชาธิปัตย์ออกมาประณามสร.รฟท. ด้วยทัศนคติลบ  ในขณะที่นายถาวร  เสนเนียมคนประชาธิปัตย์ด้วยกันลงไปทำหน้าที่  "ท้าวมาลีวราชเจรจากับสร.รฟท. ที่หาดใหญ่จนเข้าใจกันด้วยทัศนคติบวก   ตกลงกันได้ตอนเช้า  ตกเย็นยุทธนา  ทัพเจริญอยู่ทางนี้สวนควันปืนสั่งไล่ออกคนสร.รฟท. ฝ่ายบริหารร.ฟ.ท.มัวเมาอำนาจไล่ออก 6 พนักงานร.ฟ.ท.ที่รับคำสั่งไล่ออกยืนกรานไม่ได้ขัดขวางการเดินรถไฟพร้อมสู้ตามกระบวนการกฎหมาย   ประกอบด้วย นายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม ประธานสร.ร.ฟ.ท.สาขา นายประชานิวัฒน์ บัวศรี รองประธานและคณะกรรมการอีก 4 คน คือ นายสาโรจน์ รักจันทร์  นายธวัชชัย บุญวิสูตร นายสรวุธ พ่อทองคำ และ  นายนิตินัย ไชยภูมิ ทั้ง 6 คนสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่มีคำสั่งขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพนักงาน รฟท. ประจำสาขาหาดใหญ่อีก 4 คนว่ามีพฤติกรรมที่ขัดขวางการเดินรถไฟหรือไม่หากพบว่ามีความผิดชัดเจนก็จะพิจารณาลงโทษ   กรรมการสร.รฟท.แรงงานอีก 2 คนคือ นายภิญโญ เรือนเพ็ชร พนักงานขับรถ และนายบรรจง บุญเนตร์ ช่างฝีมือ 5 งานซ่อมอุปกรณ์ส่วนล่างรถโดยสาร โดยผู้ว่าร.ฟ.ท.อ้างว่าทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมยั่วยุให้พนักงาน รฟท.หยุดปฏิบัติงานที่สถานีรถไฟบางซื่อเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา   ร.ฟ.ท.สั่งฝ่ายกฎหมายยื่นฟ้อง 2 แกนนำสร.รฟท.ฯอ้างขัดขวางการเดินรถ ยอมรับเค้นหาทุกวิธีเข้าเล่นงาน มั่นใจ กม.แรงงาน ยัดความผิดได้ถึงขั้นไล่ออก เตรียมเรียกเงินสุดโหด 70 ล้านบาท พร้อมไล่ออกพนักงานรวดเดียว 7 คน ยุทธนา ทัพเจริญผู้ว่าการร.ฟ.ท.แจ้นเข้าห้อง "ซาเล้ง" เลียขารายงานผล "ไม่เห็นด้วยที่นายถาวรลงไปเจรจากับสร.รฟท. เพราะอาจมีเงื่อนไขนำไปต่อรองในอนาคต วันนี้ถ้าไม่แก้ปัญหารถไฟทั้งระบบแต่ดึงดันเจรจาให้สมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่ายอนาคตก็จะเกิดปัญขึ้นอีกและหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของรฟท.และจะทำให้เอกชนไม่กล้าเข้ามาลงทุน"

มองซ้าย-มองขวาหาคนผิดไม่ได้มาตั้งสิบกว่าวันพอนายถาวรลงไปทำให้รถไฟใต้วิ่งได้เท่านั้นแหละ นายถาวร  "ผิด"  ทันทีเลย   ส่วนโสภณ ซาเล้ง, และยุทธนาแห่งภูมิใจไทยที่ทำให้รถไฟจอดจมปลักเป็นรถควายจะให้ผิดได้หรือ พี่น้องภาคใต้เหมือนนั่งอยู่ในกองเพลิง  ปัญหา 3 จังหวัดใต้ก็ยังไม่จบไม่สิ้น วันนี้ยังต้องมากระอักเลือดกับวิธีบริหารปัญหารถไฟใต้หยุดวิ่งแบบโง่แล้วอวดอำนาจของรัฐบาลประชาธิปัตย์เข้าอีก   วิธีแก้ปัญหารถไฟสายใต้หยุดวิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้ไม่ถูกต้อง ท่านหน้ามืด-ตามัวอยู่กับการเสพสมพรรคภูมิใจไทยโดยไม่อินังขังขอบต่อความเดือดร้อนชาวบ้านและความพินาศทางเศรษฐกิจเลย  ปัญหาที่มีความเดือดร้อนชาวบ้านเป็นต้นทุนที่รัฐบาลจะซื้อเวลาไม่ได้และมันไม่ใช่เวลาถามหาว่าใครผิด-ใครถูกด้วย   ตัดไฟแต่ต้นลมก่อนแล้วค่อยสอบสวนทวนความ บริหารกันไปตามกฎระเบียบที่มี กว่า 10 วันแล้วที่โสภณ  ซารัมย์-รัฐมนตรี ยุทธนา  ทัพเจริญ-ผู้ว่ายังแก้ปัญหาไม่สำเร็จแล้วและยังเพิ่มปัญหาในปัญหาหนักขึ้น  ใครอยากไปก็เดินจากหาดใหญ่ไป-กลับยะลา-ปัตตานี-นราธิวาสกันเอาเองหรือ  เอาแต่โยนความผิดทั้งหมดไปที่สร.รฟท.ฯว่าเป็นตัวการฝ่ายเดียว  ปัญหาเก่ายังไม่ได้แก้  เอาคนใหม่เข้าไปหักหาญ  แย่งงาน  แย่งหัวรถจักรกันมาเลยอย่างนี้  มันไม่ใช่การแก้ที่เหตุแต่จะเป็นการสุมไฟในเหตุ  คนขับส่วนกลางพลัดถิ่นเข้าไป ไม่รู้ทาง  รางสับ-รางหลีก จะตายจะฉิบหายวายวอดขนาดไหนแล้วใครรับผิดชอบ  ผู้บริหารกับสร.รฟท. ต้องตกลงในการทำงานร่วมกันแล้วนำรถไฟออกวิ่งให้ครบทุกเส้นทางโดยเร็วที่สุด

ปัญหาการบริหารภายในร.ฟ.ท.มีมากมายและเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชันกันอย่างมโหฬารทั้งที่มีทรัพย์สินมีที่ดินในย่านทำเลทองทั่วประเทศมีมูลค่ามหาศาล  ผู้บริหารที่ห่วยแตกร่วมกับนักการเมืองขี้โกงเข้ามาสูบเลือดสูบเนื้อร.ฟ.ท.มีการทุจริตคอรัปชั่นต่อเนื่องกันมาทุกยุคทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน   ดูง่ายๆหลังจากที่ปล่อยให้โสภณ ซาเล้งและยุทธนา ทัพเจริญผู้ว่าฯร.ฟ.ท.แก้ไขปัญหาจากการประท้วงของสร.รฟท.เกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพ  ภาพที่ผู้บริหารรฟท.ฯต้องนำกำลังตำรวจบุกไปชิงหัวรถจักรซึ่งเป็นทรัพย์สินของประชาชนคืนจากสมาชิกสร.รฟท.
รฟท.ที่ยึดหัวรถจักรไว้ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องน่าทุเรศ   สมาชิกสร.รฟท.ฯรฟท.บางส่วนที่เป็นพนักงานขับรถและช่างเครื่องยังคงประท้วงหยุดงานในขณะที่รถจักรบางส่วนก็ยังถูกยึดและสถานการณ์ที่กำลังจะเริ่มตึงเครียดขึ้นทุกขณะ  สมาชิกสร.รฟท.ฯรฟท.ที่หาดใหญ่กลุ่มหนึ่งได้นั่งขวางทางรถไฟไม่ให้วิ่งบริการ

แม้จะมีความพยายามที่จะเจรจาระหว่างฝ่ายผู้บริการร.ฟ.ท.กับตัวแทนสร.รฟท.ฯรฟท.แต่ก็ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงโดยฝ่ายผู้บริหารยืนยันตามนโยบายเมื่อสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้และสถานการณ์ยิ่งยือเยื้อออกไป การบริหารดีแต่ลีลาโวหารอย่างที่เป็นอยู่มันจะลากสถานภาพรัฐบาลถูลู่ถูกังไปได้สักแค่ไหน    หลายคนคงจะหงุดหงิดกับการหยุดเดินรถ  งานนี้มีภาพของผู้ร้ายก็คือสร.รฟท.  แต่อีกมุมหนึ่งการหยุดเดินรถครั้งนี้ของพนักงานและสร.รฟท.การรถไฟฯไม่ใช่การประท้วงในเรื่องการขอเพิ่มสวัสดิการหรือเพิ่มค่าแรงหรือเรียกร้องในเรื่องความเป็นอยู่ของพนักงานแต่อย่างใด แต่เป็นการเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลแก้ปัญหาภายในรฟท.อย่างจริงจังและโปร่งใสไม่ให้นักการเมืองหรือทุนการเมืองสามานย์เข้ามาสูบเลือดอีกต่อไป

สร.รฟท.และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ที่ร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ต้องยอมเจ็บปวด มองกลับไปที่สถานีเขาเต่า หลายคนด่วนสรุปทันทีว่าพนักงานขับรถเป็นคนผิดและถูกลงโทษให้ออก  แต่พูดกันตรงๆ ก็น่าจะใช่  แต่ผู้บริหารไม่ต้องรับผิดชอบใดๆเลยหรือ   รัฐมนตรีไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ  อุบัติเหตุดังกล่าวสะท้อนถึงการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพให้บริการด้วยอุปกรณ์ที่ไร้ประสิทธิภาพและขาดแคลน  เทียบกับต่างประเทศถ้ามีอุบัติเหตุร้ายแรงแบบนี้ผู้บริหารก็ต้องแสดงสปิริตลาออกไปตั้งนานแล้ว

ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเคยสรุปว่า ยุทธนา ทัพเจริญเมื่อครั้งเป็นรองผู้ว่ารฟท.ฯมีปัญหาส่อไปในทางทุจริตกรณีการเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดซันเดย์  กระทั่งมาเป็นผู้ว่าก็ยังถูกระบุว่าใช้อำนาจมิชอบแต่งตั้งคนใกล้ชิดที่เคยถูกให้ออกงานกลับมาเป็นผู้อำนวยการอีก   ยุทธนา ทัพเจริญ
คนเดียวกันนี้เองที่ออกมายอมรับว่าเป็นผู้สั่งให้หยุดรถไฟและทิ้งผู้โดยสารเผชิญชะตากรรมที่สถานีรถไฟละแมในเวลาต่อมา  กว่าเรื่องจะกระจ่าง สร.รฟท.ก็เละเป็นผุยผง เลือดเย็นมากพอหรือไม่เมื่อคิดไปถึงว่าเป็นการป้ายความผิดให้กับพนักงานและสร.รฟท.  เพื่อเป็นข้ออ้างเพื่อแปรรูปรฟท.ที่เคยมีความพยายามมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จเพราะถูกขัดขวางจากกลุ่มสร.รฟท.ฯนั่นเอง

นักการเมืองกับผู้บริหารรฟท.ต่างหากที่เอาประชาชนเป็นตัวประกันพอสร.รฟท.ประท้วงก็อ้างว่าประชาชนจะเดือดร้อน สร.รฟท.เรียกร้องเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยต้องการให้ผู้บริหารทำตามระบบและหลักเกณฑ์เรื่องความปลอดภัย  รถเก่า พนักงานมีน้อย เครื่องวิจิแลนซ์อุปกรณ์ที่ต้องมีแต่ใช้การไม่ได้ แต่ผู้บริหารไม่ทำจนทำให้เดิอุบัติเหตุบ่อยครั้งและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากสร.รฟท.จึงต้องลุกขึ้นมาทำเองพอกันทีกับการนับศพ    แต่พอพนักงานลุกมาเรียกร้องกลับมาหาว่าพนักงานทำให้เกิดความเสียหายและไล่พนักงานออก  สาเหตุที่ผู้บริหารไม่ยอมรับข้อเสนอของสร.รฟท. ก็เพราะการยอมรับเท่ากับว่ายอมรับความล้มเหลวของตัว   เช่นการให้เช่าที่ดินของการรไฟซึ่งมีอยู่ 3 หมื่นกว่าไร่แต่มีรายได้แค่ปีละ 1 พันกว่าล้านบาทขณะที่ที่ดินที่ถูกนักการเมืองโกงไปอย่างที่ดินเขากระโดงกลับไม่มีการทวงคืน  นักการเมืองที่ต้องการเข้ามาหาผลประโยชน์จากรถไฟมักจะตั้งคนที่สั่งได้มาเป็นผู้ว่าฯสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ให้ไล่คนออกก็ไล่ พอเกิดปัญหาขึ้นก็โยนความผิดให้พนักงาน   หลังจากนี้ไปสร.รฟท.จะพยามยามทะลุแนวกั้นเรื่องข้อมูลข่าวสารจะเอาความจริงออกไปสู่ประชาชนให้ได้มากที่สุด    ที่ผ่านมาก็โทษสื่อไม่ได้ เห็นใจพี่น้องสื่อในพื้นที่เห็นสายตาก็รู้ถึงความใสซื่อ  แต่เมื่อให้สัมภาษณ์ไปแล้วกระบวนการที่จะสื่ออกไปก็เป็นเรื่องหนึ้งแต่หลังจากนี้สร.รฟท.ฯจะให้ข้อมูลมากขึ้น

แกนนำสร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ เปิดแถลงยันถูกขาใหญ่กลั่นแกล้ง เตรียมประสาน 43 องค์กร รสก.ต่อสู้เรียกความเป็นธรรม  “ตรงนี้เท่ากับเป็นการจงใจล้มกระบวนการของสร.รฟท.ที่เรียกร้องให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัย   ส่วนการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้นจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณารายละเอียดของคำสั่งดังกล่าว   อย่างไรก็ตามคำสั่งไล่ออกพนักงานทั้ง 6 คนมีการเมืองอยู่เบื้องหลังเชื่อมโยงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม”

โสภณ ซาเล้งเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการคมนาคมสภาผู้แทนราษฎรยืนยันพร้อมรับผิดชอบหากแก้ปัญหานี้ไม่ได้   รฟท.จะมีคำสั่งไล่ออกพนักงานที่เข้าข่ายขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา อีก 18คน มีชื่อนายสาวิทย์ แก้วหวานประธานสร.รฟท.รวมอยู่ด้วย   พนักงานเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ แต่การอุทธรณ์หมายถึงยอมรับว่าผิดจริง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีห่วงปัญหารถไฟบานปลาย นัดผู้บริหาร-สร.รฟท.ฯนั่งคุยแบบเปิดใจ ระบุหากฝ่ายบริหารทิ้งประชาชนที่ อ.ละแม จ.ชุมพร
จริงตามข้อมูลก็ต้องถือว่ามีความผิดแต่จะถึงขั้นไหนต้องพิจารณาอีก  เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาเรื่องรถไฟสายใต้หยุดเดินรถจนกลับมาให้บริการตามปกติแล้วแต่ยังมีเงื่อนความขัดแย้งอยู่จากกรณีการลงโทษพนักงาน    กรณีมีเรื่องร้องเรียนผู้บริหาร กรณีที่อาจมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น  กรณีมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย   รวมถึงแนวทางในการปฏิรูปรฟท.แห่งประเทศไทย

ประธาน สร.ร.ฟ.ท.เตรียมฟ้องศาลแรงงานหลังถูกไล่ออก "ขณะที่ผู้ว่ารฟท.ฯมีคดีติดตัวฉ้อฉล ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลความผิดเยอะแยะมากมายแต่ยังสามารถนั่งบริหารอยู่บนหอคอยงาช้างได้ แต่ขณะที่พนักงานลุกขึ้นมาเรียกร้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเปิดโปงการคอร์รัปชั่นให้สังคมรับรู้ กลับถูกกลั่นแกล้ง จึงถือว่าคำสั่งดังกล่าวมานั้นไม่มีความเป็นธรรมอย่างยิ่ง เราจะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายและจะชี้แจงข้อมูลความเป็นจริงให้เพื่อน พ้อง น้องพี่ ในสร.รฟท.รัฐวิสาหกิจแรงงานฯ และสังคมได้รับรู้ความจริง" นายสาวิทย์กล่าว

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าปัญหาต่างๆ จบแล้ว จากนี้คงต้องกลับไปดูข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ทำไว้กับสร.ร.ฟ.ท. ในการปรับปรุงรถไฟและหัวรถจักรให้ได้มาตรฐานและข้อตกลงอื่นๆ ทั้งนี้ อยากขอบคุณสร.รฟท.ที่ทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้

กรณีส.ส.พรรคประชาธิปปัตย์กล่าวหาพรรคการเมืองใหม่ ก.ม.ม. และกลุ่มพันธมิตรเป็นผู้สนับสนุนการหยุดงานของ สร.ร.ฟ.ท.ว่าจะประกาศตัวเป็นศัตรูหรือไม่ ถ้าอยากเป็นศัตรูควรจะแสดงออกให้ชัดเจนแล้วให้มองเสียงของคนในภาคใต้จะเลือกใครระหว่างก.ม.ม.กับประชาธิปปัตย์ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เป็นการกล่าวหาชุ่ยๆ จงใจดิสเครดิตอย่างโจ่งแจ้ง  พรรคประชาธิปปัตย์ไม่ควรเอาเรื่องปัญหารถไฟมาเล่นเกมทางการเมือง

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างถนนมากกว่าส่งเสริมการคมนาคมขนส่งด้วยระบบราง จากถนน 2 เลน ขยายเป็น 4 เลน 8 เลน และ 10 เลน เป็นทางด่วน เป็นมอเตอร์เวย์ แต่ไม่มีงบประมาณสำหรับการขยายเส้นทางรถไฟใหม่ๆ ปรับปรุงประสิทธิภาพของรถไฟ เหมือนเช่นที่ประเทศต่างๆทั่วโลก  ฏ้ผลประโยชน์จากการตัดถนนมีมากกว่าผลประโยชน์จากการพัฒนารถไฟ

ท่ามกลางความล้าสมัยไม่พัฒนาของรฟท. รัฐบาลนี้ก็ยังมีโครงการลงทุนใหม่ๆ 2 โครงการ โครงการแรกคือ แอร์พอร์ต ลิงค์ที่รัฐบาลทักษิณอนุมัติให้ชวรัตน์และอนุทินในนามบริษัทซิโนภูมิใจไทยก่อสร้าง โดยได้งานมูลค่า60,000 ล้านบาทไปก่อสร้างจนเสร็จแล้วแต่ยังมีปัญหาว่าจะหาใครมาเดินรถ    และล่าสุดสดๆร้อนๆรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-รังสิตกับบางซื่อ-ตลิ่งชันอันเป็นที่มาของเป็นที่มาของแนวทางการปฏิรูปรถไฟแยกรฟท.ออกเป็นบริษัทเดินรถ บริษัทพัฒนาที่ดินและรฟท.ฯเดิมที่ดูแลระบบราง ซึ่งสร.รฟท.ฯเห็นว่านี่คือการแปรรูปที่แยกเอาแต่สินทรัพย์ที่ดีๆออกไปจากรฟท. ไปตั้งเป็นบริษัทซึ่งอาจจะมีการเปิดช่องให้เอกชนเข้ามาบริหารในภายหลัง    รายได้จากการเดินรถคงจะไม่ได้มากมายอะไรแต่ที่มีมูลค่ามหาศาลคือที่ดินของรฟท.โดยเฉพาะที่ดินที่มักกะสัน แยกลาดพร้าว สวนจตุจักร รวมไปถึงตามแนวสองข้างทางรางรถไฟที่ลากยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ตะวันออกไปตะวันตกพาดผ่านพื้นที่ในย่านชุมชนก็ล้วนเป็นทำเลทองทั้งสิ้น   นี่ยังไม่นับที่ดินที่ถูกปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นชุมชนแออัดอยู่ทั่วประเทศอีกไม่รู้เท่าไหร่

สร.รฟท.ตบเท้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าโดยมีพนักงานรถไฟ อ.หาดใหญ่ ที่ถูกไล่ออก 6 คนและนายศิริชัย ไม้งามที่ปรึกษาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เข้าพบด้วย   เสนอนายกฯให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงพัฒนารฟท.ฯเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้โดยสารโดยนายกฯรับจะนำไปหารือกับฝ่ายบริหารร.ฟ.ท.อีกครั้ง   นายกฯยังย้ำว่าไม่มีนโยบายที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจร.ฟ.ท.ดังนั้นแผนที่จะมีนำเสนอเข้ามาในครม.ในสัปดาห์หน้านั้นนายกฯรับปากว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะสร.รฟท.เข้ามาร่วมดูก่อนที่จะนำเข้าครม.   ข้อเสนอให้ปลดยุทธนา ทัพเจริญผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.นั้นนายกฯยังไม่รับปากซื่งสร.รฟท.ก็ต้องรอการตัดสินใจของนายกฯ   ส่วนโทษไล่ออกของพนักงาน 6 คนนายกฯก็จะนำไปดูด้วยตัวเองในข้อกฎหมาย

ท่ามกลางความโกลาหลรัฐบาลตัดสินใจยัดไส้มติแปรรูปรฟท.ฯ เรียบร้อย โดยจะคลอดบริษัทออกมาอย่างน้อย 4 แห่งคือ บริษัทเดินรถโดยสาร บริษัทขนส่งสินค้า บริษัทแอร์พอร์ท ลิงค์และบริษัทบริหารสินทรัพย์รถไฟและกล่าวหาว่าพรรคการเมืองใหม่อยู่เบื้องหลัง   รัฐบาลอ้างว่ารฟท.ฯ ไม่ได้ปรับปรุงมานานสมควรแปรรูปเพื่อลดการขาดทุน 7 หมื่นกว่าล้านบาท และจะช่วยพัฒนาให้รฟท.ฯ ดีขึ้น  ทรัพย์สินรฟท.ฯ มีมากมายโดยเฉพาะที่ดินกว่า 2 แสนไร่ทั่วประเทศและมีราคามหาศาลถึงเกือบ 4 หมื่นไร่มติอย่างนี้ก็หวานปากนักการเมืองกับเอกชนจนได้  ที่ดินของพ่อใครก็ไม่รู้จะหลุดจากคดีก็เพราะการนี้นี่เอง

รฟท.แห่งประเทศไทยมีที่ดินทั้งสิ้น 233,860 ไร่เป็นที่ดินในการใช้การเดินรถ จำนวน 198,674 ไร่และเป็นที่ดินเพื่อหาประโยชน์เชิงพาณิชย์จำนวน 36,302 ไร่      ในจำนวนที่ดินเพื่อการหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ จำนวน 36,302 ไร่ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,826 ไร่, เป็นสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 4,306 ไร่, สายตะวันออกจำนวน 4,952 ไร่, สายใต้ จำนวน 15,186 ไร่      โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีจำนวน 2,826 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธิน 47 ไร่ ย่านมักกะสัน 517 ไร่ บริเวณถนนรัชดาภิเษก บริเวณจตุจักรซึ่งประกอบไปด้วยเจเจมอลล์และตลาดซันเดย์ ย่านแม่น้ำ (ท่าเรือ) บางซ่อน ย่านถนนรามคำแหง (คลองตัน-หัวหมาก) นอกจากนี้ยังมีที่ดินในต่างจังหวัดที่มีมูลค่าสูงในเชิงพาณิชย์อีกหลายแห่ง เช่น หลังสถานีรถไฟหาดใหญ่ บริเวณสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ ฯลฯ   รฟท.แห่งประเทศไทยมีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่ดินเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 36,302 ไร่ มีรายได้เฉลี่ยเพียงแค่ปีละ 1,116 ล้านบาทเฉลี่ยรฟท.แห่งประเทศไทยมีรายได้จากค่าเช่าที่ดินเฉลี่ยไร่ละ 30,742 บาทต่อปี หรือไร่ละ 2,562 บาทต่อเดือนคิดเป็นค่าเช่าแสนจะทุเรศจากฝีมือผู้บริหารชั้นเยี่ยมเฉลี่ยตารางวาละ 6.40 บาทต่อเดือน!

จากการแถลงของ สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ทำให้ทราบว่าตัวเลขที่จะนำมาใช้ในแผนดังกล่าวมีจำนวนถึง 1.1 ล้านล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน 3-5 ปี ใช้งบประมาณ 46,000 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนราง ไม้หมอน อาณัติสัญญาณ และทางข้าม ระยะกลาง 10 ปี ก่อสร้างทางคู่ 3,000 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 33,000 ล้านบาท และระยะยาว ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มูลค่ากว่า 707,000 ล้านบาท

หลังนายกรัฐมนตรีหารือกับสร.รฟท.ได้ร่วมหารือกับโสภณ ซาเล้งและยุทธนา ทัพเจริญแต่ยังไม่ทันได้ข้อยุติก็ต้องออกไปเข้าร่วมประชุมสภาในการเพื่อโหวตกฎหมาย  โสภณ ซาเล้งระบุนายกรัฐมนตรีไม่มีหน้าที่รับอุทธรณ์ นายอภิสิทธิ์ระบุข้อมูลจากทุกฝ่ายที่ได้ฟังไม่ตรงกัน ได้คุยกับสร.รฟท.แล้วและได้รับคำยืนยันว่าไม่เป็นปัญหาเรื่องการเข้าไปวางยาอย่างแน่นอน   สร.รฟท.มีบัญชีมาให้เรียบร้อยว่ารถจักรหมายเลขไหนเป็นอย่างไร ในขณะที่เคยมีการโรยผักชีเรียกคณาจารย์สถาบันดังไปสุ่มตัวอย่างหัวรถจักรที่บางซื่อมาแล้ว  โสภณ ซาเล้งกร้าวยืนยันไล่ออกยื่นคำขาดถ้านายกฯคืนความเป็นธรรมให้พนักงานที่ถูกไล่ออกนายกฯต้องรับผิดชอบถึงความเสียหาย

สร.ขนส่งนานาชาติพร้อมสร.รถไฟหลายประเทศ หนุนสร.รฟท.บี้ผู้บริหารปรับปรุงระบบความปลอดภัยรถไฟไทยพร้อมเรียกร้องนายกฯ ลงแก้ปัญหารถไฟด้วยตัวเองขณะเดียวกันให้รับพนักงานที่ถูกไล่ออกกลับเข้าทำงานโดยด่วนประณามผู้บริหารใช้อำนาจกระทำต่อสมาชิกสร.รฟท.รถไฟเรียกร้องให้หยุดคุกคามพนักงานโดยทันที

ในความไม่พอใจของโสภณจากภูมิใจใครนั่นหมายถึงความไม่พอใจของบิ๊กๆในภูมิใจใครอีกต่อหนึ่งภาพการงัดข้อกันกับกระทรวงคมนาคมที่มีโสภณ ซาเล้งที่ไม่ยอมโอนอ่อนตามข้อเสนอนานัปการของสร.รฟท. จึงดุเดือดมีการขุดเอาแผนปฏิรูปรถไฟขึ้นมาเป็นเงื่อนไขซ่อนแผนลักไก่เพื่อแปรรูปรถไฟไทย แม้ว่าสังคมส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการปฏิรูปหรือปรับปรุงการบริหาร ปรับปรุงองค์กรให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่  ได้เวลาแล้วที่จะปรับปรุงอย่างขนานใหญ่ แต่ก็อย่าให้อยู่ในมือเสือหิว