29 พฤศจิกายน 2551

สร้างรากฐานการบริหารใหม่ให้กับประเทศ




สัตว์นรกยังลอบกัดพันธมิตรฯต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อตี 4 ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดบริเวณประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศสนามบินดอนเมืองประตูที่ 6 ซึ่งเป็นที่ชุมนุมพันธมิตรฯ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยการ์ดพันธมิตรฯได้ควบคุมตัวชายผู้ต้องสงสัยอายุประมาณ 50 ปี ไว้ได้ แต่ชายคนดังกล่าวให้การปฎิเสธ

สัตว์นรกกัดไม่เลิก! ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ ใกล้เวทีภายในทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บรายหลาย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การ์ดพันธมิตรฯรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ไม่หนำใจลอบยิงระเบิดใส่ "เอเอสทีวี" อีก

“ลุงจำลอง” ชี้ชัด “สัตว์นรก” ดิ้นเฮือกสุดท้ายด้วยการยิงบึ้มป่วน “พันธมิตรฯ” 4 จุด หวังสร้างสถานการณ์เพื่อทำให้หลุดจาก “คดียุบพรรค” ย้ำ “วีรชนคนกล้า” ขอให้อดทน-ร่วมป้องกันฐานที่มั่นให้ถึงวันเชือด “รัฐบาลหุ่นเชิด” 2 ธ.ค.นี้ ลั่นเตรียมส่ง “การ์ดพันธมิตรฯ” ประกบ “ทหาร-ตำรวจ” เหตุละเลยไม่ใส่ใจพื้นที่รับผิดชอบรอบทำเนียบฯ

ยูเอ็นได้แถลงว่า เราเป็นผู้ต่อสู้ทางการเมืองที่ปราศจากอาวุธ ไม่ถูกกล่าวหาว่าก่อการร้าย เพราะเราไม่มีอาวุธ การยึดสนามบินไม่ใช่เป็นการยึดโดยผู้ก่อการร้ายทำ การที่เรายึดสุวรรณภูมิ จะปิดแค่ข้างหน้าทั้งนั้นไม่ได้ไปแตะต้องลานบิน รมต.ชุดนี้และนายกฯสมชายไม่สนใจว่าจะแก้ไขปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยพยายามโยนความผิดให้พันธมิตรฯ ถ้าเป็นนายกฯในยุโรปหรือสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ถ้าไม่สามารถป้องกันสนามบินได้ สังเกตไหมทำไมเขาให้เราเข้าไปในสนามบินง่าย ทั้งๆที่มีแผนในการป้องกันสนานบินอยู่แล้วที่จะไม่ให้มีใครเข้าไปยึดสนามบินได้ เพราะเขาต้องการให้เราไปอยู่ตรงนั้นเพื่อเขาจะเอาความผิดให้เรา แล้วให้เขาลาออก ทันทีที่เราเข้าไปยึด รัฐบาลต้องทบทวนแล้วว่า ป้องกันสนามบินไม่ได้ต้องลาออก และลาออกก็เป็นเงื่อนไขให้พันธมิตรฯออกมา แต่ไม่ทำ เพราะทักษิณต้องการทำร้ายประเทศไทย ถ้าสังคมไทยไม่รักษา พลังที่มารวมตัวกันเป็นพันธมิตรฯ แล้วจะเอาประชาชนกลุ่มไหนต่อสู้กับทักษิณในอนาคต เพราะฉะนั้นสังคมไทย ทุกภาคส่วนต้องคิดเรื่องนี้ การที่ท่านไม่ออกแรงกฎดันให้สมชายต้องลงออก และไม่ออกแรงกฎดันให้พรรคพลังประชาชนออกจากรัฐบาล แสดงว่าท่านกำลังยอมจำนนท์กับรัฐบาลที่เป็นนอมินีของทักษิณที่จะทำอะไรได้ตามชอบใจ นักธุรกิจ นักวิชาการ อย่ามัวแต่บ่น อย่ามัวมาตั้งคำถามกับพันธมิตรฯ พีน้องพันธมิตรฯอย่ามัวมาตั้งคำถามกับแกนนำฯ ถ้ามัวมาตั้งคำถามแล้วถามหน่อยว่า เป้าหมายที่คุณก็เห็นด้วยว่าต้องขจัดระบอบทักษิณนั้น ทำไมคุณไม่ร่วมกับยุทธศาสตร์นี้ เพราะแกนนำเมื่อเสร็จภารกิจก็กลับไปเป็นคนธรรมดา ไมได้ต้องการตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น แต่ต้องการให้สังคมไทยเปลี่ยนออกจากการครอบงำของระบอบทักษิณ ถ้าปล่อยไป สมชายออกไป เฉลิมเข้ามา ก็อยู่ในการชักใยของทักษิณ สังคมไทยก็ไม่พ้นปัญหา

ทักษิณไม่มีความรักชาติเลย ไม่มีจิตสาธารณะ ไม่มีความเสียสละ มีแต่ความเคียดแค้นสังคมไทยและสถาบันต่างๆ ทักษิณความผิดปกติในด้านจิตใจ และส.ส.พรรคพลังประชาชนกามีความผิดปกติใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือโดยไม่สนใจว่าประโยชน์ของชาติเสียหายหรือไม่ โดยไม่ยอมในการที่จะยอมรับใดๆ ดื้อดึงอยู่เพราะต้องการหลอกใช้เงินของทักษิณและอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองแบบเห็นแก่ตัวที่สุด ฉะนั้นคนที่ไม่รักชาติไม่ใช่ทักษิณและพจมาน และสมชายเท่านั้น แต่รวมทั้งรมต.ในรัฐบาลด้วย ก็ไม่มีความรักชาติเช่นกัน และไม่ใช่แต่รมต.ในรัฐบาล รวมทั้งส.ส.ในพรรคพลังประชาชน ชาติไทย มัฌชิมาฯ ฯลฯ และไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคใดๆ แม้แต่นายบรรหาร พวกนี้ไม่รักชาติเอาแต่ผลประโยชน์ในตำแหน่งและเงินจากทักษิณเท่านั้น การที่ทักษิณสนับสนุนนปก. ให้ก่อการไม่สงบและฆ่าฟันยิงผู้คน พฤติกรรมของทักษิณแบบนี้เหมือนพฤติกรรมของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ

หอการค้าไทย ชี้ “รัฐบาลสมชาย” ไม่สามารถบริหารประเทศได้แล้ว แนะคืนอำนาจประชาชนสรรหารัฐบาลชุดใหม่เพื่อสร้างรากฐานการบริหารใหม่ให้กับประเทศ อย่าดื้อรั้นซื้อเวลาแลกความเสียหายของประเทศ ด้านสมาชิกหอการค้า ฮึ่มหากรัฐมารยังเพิกเฉยเสียงส่วนใหญ่ เตรียมใช้อารยะขัดขืนไม่จ่ายภาษี ดังนั้นทั้งนักวิชาการ นักสันติวิธีที่เหลือจะต้องจำแนกปัญหาให้ชัดเจนว่าใครเป็นต้นตอของปัญหา ต้นตอของปัญหาก็คือทักษิณสมชาย หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆที่กอดคอกินประเทศไทย จำแนกให้ดี ถ้าจำแนกไม่ดีแล้วทำให้ประเทศไทยพ่ายแพ้ตระกูลชินวัตรท่านลองนึกภาพในอนาคตดูว่าจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นคนที่ทำตัวเป็นกลาง นักธูรกิจ ข้าราชการที่ยังยอมเป็นกลางอยู่และไม่เข้ามาร่วมกับการต่อสู้ครั้งนี้ ขอให้พิจารณาข้อมูลทั้งหมดใหม่ว่า ถ้าท่านไม่ออกมาทำอารยะชัดขืน ไม่ว่าจะด้วยตัวท่านเองหรือร่วมกับพีน้องพันธมิตรฯ และเมื่อทักษิณ ชินวัตร กลับมาท่านจะน้ำตาตกในและกว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่สายถ้าจะต้องออกมาจากบ้านเพื่อมาร่วมกับประชาชนที่เรียกว่าพันธมิตรฯ ท่านจะชอบแกนนำหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ท่านต้องเห็นว่ายุทธศาสตร์ของพันธมิตรฯ คือสร้างการเมืองใหม่ ให้ประเทศไทยหลุดออกจากทักษิณ ชินวัตรและระบอบทักษิณ เราต้องเอาทักษิณออกให้ได้ และต้องปลดเปลื้องระบอบทักษิณออกให้ได้


http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics03&content=113336

ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพโปรดร่วมมือกับพันธมิตรช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลคณะนี้ลาออกโดยเร็ว

"สมชาย(กระโปรง)"ไม่ลาออกการเจรจาโดยตรงจึงเป็นไปได้ยาก ย้ำความเสียหายของบ้านเมืองมาจากความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลทรราช ระบุหากศาลรธน.ตัดสินคดียุบพรรค 2 ธ.ค.นี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2551 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ 2 ประการคือ

1. คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ยับยั้งมิให้สภาเผด็จการทาสระบอบทักษิณแก้ไข เพื่อฟอกความผิดให้ตัวเองและพวกพ้อง
2. ขับไล่รัฐบาลทรราชฆาตกร ที่ทำตัวเป็นหุ่นเชิดให้กับนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องและวงศาคณาญาติ สนับสนุนและอยู่เบื้องหลังการเข่นฆ่าประชาชน ใช้สื่อมวลชนของรัฐโกหกหลอกประชาชน สนับสนุนการทำลายกระบวนการยุติธรรม ใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินอย่างไม่โปร่งใสจนประเทศชาติใกล้จะล่มจม สนับสนุนและอุ้มชูบริวารและพวกพ้องที่ดูหมิ่นและอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำความผิดต่อจริยธรรม

พันธมิตรใช้สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ และปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 63 เพื่อทำหน้าที่ของชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้

อย่างไรก็ตามภายใต้ “สิทธิในการชุมนุม” และ “การทำหน้าที่ของชนชาวไทย” ตามรัฐธรรมนูญนั้น หาได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดนี้ไม่ ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีการจัดตั้งอันธพาลของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมสมรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจ ให้มีการใช้อาวุธสงครามประเภทระเบิดยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมใจกลางพระนคร จำนวนกว่า 10 ครั้ง เป็นผลให้ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาได้มีประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ได้เสียชีวิตแล้วรวมทั้งสิ้น 4 คน บาดเจ็บอีกจำนวนหลายร้อยคนและพิการอีกจำนวนมาก ตลอดจนใช้อาวุธสงครามประเภทปืนและระเบิดยิงเข้าใส่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี หลายครั้งเพื่อหวังทำลายการถ่ายทอดสดการชุมนุม โดยที่รัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด หาได้แสดงความรับผิดชอบแต่ประการใด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 กรณีการสลายผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา ภายใต้กรรมาธิการวุฒิสภา 3 คณะ ซึ่งมีผลสรุปอย่างชัดเจนตรงกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการทำให้เกิดการสังหารและทำร้ายประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมพันธมิตร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข

ทั้งนี้ พันธมิตรกราบขออภัยมายังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินการในครั้งนี้ แต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อหยุดอำนาจของรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดให้ได้อย่างถึงที่สุด

พันธมิตรขอเรียกร้องต่อพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพร่วมมือกับพันธมิตรช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลคณะนี้ลาออกโดยเร็วที่สุด ขจัดเภทภัยของสังคมไทย นำประเทศไทยที่ดีงามด้วยจริยธรรมกลับคืนมาสู่สังคมโดยเร็วที่สุด








28 พฤศจิกายน 2551

รัฐบาลข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนโดย



ยิ่งการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกับอำนาจรัฐเถื่อนๆเข้มข้นมากเท่าใด อันธพาลในฝ่ายรัฐบาลก็ยิ่งก่อกวนหนัก ออกฤทธิ์โดยไม่เลือกวิธีใช้
เหตุการณ์ยิงกระหน่ำเอเอสทีวีกลางดึกเมื่อคืนเป็นตัวอย่าง!
ตีหนึ่งจวนตีสอง ขณะที่ ‘บาส’รัฐวัฒิ มิตรมาก ผู้ประกาศข่าวของASTVกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ในสตูดิโอ พลันนั้นก็มีเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวราวกับหนังสงครามบู๊ล้างผลาญ ห่ากระสุนทะลุกระจกเข้ามาในห้องส่ง บาสต้องรีบหลบเอาตัวรอดออกไปอย่างหวุดหวิด นาทีตายนาทีเป็นของผู้ประกาศข่าวASTV นี้ ผู้จัดการออนไลน์ได้นำภาพนี้ให้ดูแล้ว ใครเห็นภาพก็คงตั้งคำถาม ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้? นี่มันประเทศอิรัก หรือ อัฟกานิสสถาน ที่มีสงครามกลางเมือง? (ดูได้จากข่าว... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000140767 )

ในอดีตรัฐบาลข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนโดยใช้วิธีการแทรกแซงด้วยการเข้าไปขอร้องให้ปิดคอลัมน์ที่โจมตีรัฐบาลได้หรือไม่และถ้าขอร้องไม่ได้ เขาจะส่งป.ป.ง.เข้าไปตรวจสอบรายการบัญชีของหนังสือพิมพ์ แทรกแซงรายการวิทยุโดยเฉพาะนายบุญยอด สุขถิ่นไทยทำให้พี่น้องประชาชนเห็นใจจึงลงคะแนนเสียงให้นายบุญยอดชนะการเลือกตั้งมาแล้ว 2 รอบ คนทำสื่อมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1.เจ้าของหนังสือหรือนายทุนหนังสือพิมพ์ 2.บรรณาธิการอาวุโส ซึ่งคอยกรองข่าวที่นักข่าวส่งเข้าไปโดยเฉพาะข่าวกรองจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. ว่า นายตี๋ที่มือขวาขาดแต่มือซ้ายที่ถือกุญแจกลับบอกว่าเป็นลูกระเบิดนี่คือบทบาทการกรองข่าวของบรรณาธิการอาวุโส ส่วนกลุ่มที่ 3.คือ ผู้สื่อข่าวซึ่งเชื่อถือได้มากที่สุด เพราะเวลาที่เราแถลงข่าวผู้สื่อข่าวเหล่านั้นก็จะส่งข่าวเข้าไปในสำนักพิมพ์แต่บรรณาธิการที่รัยข่าวกลับพลิกข่าวและบิดเบือน ฉะนั้นนายทุนกับนักการเมืองจึงต้องซื้อบรรณาธิการเอาไว้แล้วคบไว้เป็นเพื่อน เมื่อสื่อมวลชนถูกแยกออกจากกัน เวลาเขาซื้อเขาจะซื้อเจ้าของหนังสือพิมพ์เป็นอันดับแรกฉะนั้นจะมีเจ้าของหนังสืออยู่ 3 สำนักพิมพ์ ปรากฏว่าเป็นหนังสือพิมพ์หัวสี 2 สำนักพิมพ์โดยจะมีหนังสือพิมพ์ที่อ้างว่ามีคุณภาพอยู่ 1 สำนักพิมพ์ ซึ่งคนเหล่านี้ชอบเข้าไปพบผู้มีอำนาจหรือเชิญผู้มีอำนาจไปกินข้าวที่กองบรรณาธิการเพื่อสร้างภาพ ดังนั้นสื่อพวกนี้จึงสร้างภาพว่า คนรวยแล้วไม่โกง แต่วันนี้เรารู้กันแล้วว่า คนรวยโกงหรือไม่ สื่อเหล่านี้จึงเป็นสื่อเทียม บรรณาธิการของหนังสือบางฉบับเชียร์นักการเมืองคนที่ให้เงินจนคล้ายๆ ว่านักการเมืองคนที่ถูกเชียร์กลายเป็นเทพเจ้ารวมทั้งโชว์คำขวัญว่ารวยแล้วไม่โกง บรรณาธิการของหนังสือบางฉบับที่สนิทสนมกับคนเดือนตุลาฯ และสนิทกับคนของระบอบทักษิณซึ่งไปเอาภาพของกษัตริย์เนปาลมาออกวารสารรายสัปดาห์ แล้วบอกว่าเป็นกรณีศึกษาซึ่งคล้ายๆ กับจะเตือนประเทศไทย

เรื่องกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับการ์ดพันธมิตรฯ ตนมองว่าการพูดไปในตอนนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็อาจมีอีกฝ่ายมองว่าเป็นการพูดเพื่อแก้ตัว ดังนั้นตนจึงอยากให้ใช้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียวันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฏออกมาอยู่ดี แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น อยากบอกสังคมว่า ในเรื่องกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับการ์ดพันธมิตรฯ นั้น อยากให้ทุกคนอย่ามองประเด็นข่าวเพียงด้านเดียว ต้องมองให้รอบด้าน เมื่อได้รับข่าวจากสื่อใดๆ ก็ตาม จะต้องใช้สติปัญญาพิจารณาประกอบกับเหตุผลให้รอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อ เพราะก็ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันก็ยังมีสื่อบางสื่อที่อาจเต้าข่าวหรือเสนอข่าวที่บิดเบือนได้เช่นกัน
“พี่สัน” ชายร่างใหญ่ ท่าทางใจดีผู้นี้ คือเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ที่เดินทางจากสุพรรณบุรี มาทำหน้าที่การ์ดอาสาในการชุมนุมพันธมิตรฯ เดินทางไปกลับทุกวัน มากว่า 6 เดือนแล้ว

ช่วงแรกก็พูดกันมากนะคะ ว่าอย่าไปเลย มันอันตราย ไม่กลัวหรือยังไง เรื่องอย่างนี้ปล่อยเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ดีกว่า หนูก็จะอธิบายให้เขาฟังว่า การมาชุมนุมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายสื่อนำเสนอไป แล้วก็อย่างที่บอกนะคะ หนูคิดว่าเรื่องบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาแบ่งว่าเป็นหน้าที่ของใครของเด็กหรือของผู้ใหญ่ เราทุกคนสามารถช่วยประเทศชาติได้
“น้องอาย” สาวน้อยหน้าใสผู้นี้ คือลูกสาวของ “พี่อ้อย” การ์ดอาสาที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้านหลังเวที เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์

ผมอยากให้ทุกคน ฟังข่าวอย่างใจเป็นธรรม เพราะข่าวหลายอย่างของการ์ดพันธมิตรฯ ที่บางสื่อเสนอออกไปนั้น ไม่ใช่ความจริงเสมอไป อยากให้สังคมเปิดใจรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย อย่ามองแค่ภาพลักษณ์บางอย่างภายนอก อย่าเชื่อแค่การฟังข่าวด้านเดียว หรือเพียงค่ำที่คนเล่าลือกันเท่านั้น
“หนึ่ง” ชายวัย 33 ปี อาชีพขายเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ เป็นการ์ดอาสาที่ร่วมรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา มีเพียง 4 วันที่เขาลาไปทำภารกิจส่วนตัว

ในวันนี้เมื่อตนเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองมาถึงสภาวะที่สุกงอม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดื้อดึงไม่ยอมลาออกจำตำแหน่งเสียทีทั้งที่นายสมชาย ในวันนี้เป็นเพียงนายกรัฐมนตรีซากศพ ที่ตายไปแล้ว แต่มีผู้อยู่เบื่องหลังอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คอยจับศพให้เคลื่อนไหวไปมาตามความต้องการของตัวเองเท่านั้น วันนี้ตนจึงต้องออกมาเปิดหน้าชก เพื่อให้การต่อสู้ครั้งนี้จบลงเสียที เพียงแค่ตนขึ้นเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 2 ครั้ง สื่อมวลชน โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ก็นำภาพของตนที่ปราศรัย ไปออกอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งสาเหตุที่ทำเช่นนั้น ไม่ใช่เพราะอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ตน แต่เป็นเพราะสถานีแห่งนั้นคงต้องการให้บรรดา นปช.ได้จำหน้าตนได้มากกว่า ก่อนหน้านี้ ขณะที่ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งผู้สื่อข่าว ตนแสดงตัวอย่างชัดเจนที่จะเรียกร้องความถูกต้องให้แก่ประชาชน เช่นการสัมภาษณ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ว่า "ระหว่างชีวิตเลือดเนื้อของประชาชน กับนายกเฮงซวย จะเลือกฝ่ายไหน" หรือแม้แต่ซักถามอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่าถ้าคุณมีกรมประชาสัมพันธ์ ถ้าคุณมีจานดาวเทียม แต่คุณยังไม่สามารถสร้างความสามัคคีปรองดองให้กับคนในชาติได้ คุณยังปล่อยให้พวกเสื้อแดงมาใช้เวทีของกรมประชาสัมพันธ์มาสร้างความแตกแยกให้กับคนในบ้านในเมืองตลอดเวลานั้น คุณไม่เอาจานดาวเทียมไปตากปลาเค็มเสียเลยล่ะ" ซึ่งตนคิดว่านี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ตนได้รับการจับตามองเป็นพิเศษจากสื่ออย่างเอ็นบีที และคนในกลุ่ม นปช. ตนไม่เคยหายไปไหน ยังอยู่ร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ มาโดยตลอดเหมือนเมื่อครั้งการต่อสู้ขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อปี 2547 แม้ครั้งนั้นคนในฟากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเคยมาติดต่อให้ตนไปเป็นดำเนินรายการในส่วนของเขาให้ โดยให้ค่าจ้างสูงถึงเดือนละ 1.5 ล้านบาท แต่ตนก็ไม่ไป เพราะตนคิดว่าตนรวยแล้ว หากเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีตราครุฑอยู่ เงินของตนก็มีเหมือนกัน ตนพอใจแล้วในสิ่งที่ตนมีอยู่ จึงไม่มีความคิดอยากได้เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีก และจนถึงวันนี้ความคิดของตนก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไป
นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส สำนักข่าวเอพี ได้กล่าวไว้

สื่อมวลชนวันนี้จึงมีทั้งเป็นผู้เสนอข่าวความจริง และเสนอข่าวเท็จเราต้องแยกให้ออกโดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ซึ่งสื่อโทรทัศน์เทียมที่ชัดเจนที่สุดก็คือรายการความจริงวันนี้ ฉะนั้นสื่อที่ดีที่สุดคือสื่อที่เสนอความจริงแล้วร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม สื่อที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคือ สื่อโทรทัศน์ นายเสถียร จันทิมาธร บรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์ บรรณาธิการอำนวยการหนังสือพิมพ์ข่าวสด และคอลัมนิสต์ที่เขียนในหน้า 3 ของหนังสือพิมพ์มติชนรายวันทำหน้าที่เสมือนการโฆษณาชวนเชื่อให้กับระบอบทักษิณ ขณะเดียวกันจะโจมตีฝ่ายที่ที่คิดเห็นตรงข้ามอยู่ตลอดเวลาและที่ผ่านมาเคยนำจดหมายที่จาบจ้วงสมเด็จพระสังฆราชจนเกิดความไม่พอใจให้สังคมทำให้หนังสือพิมพ์มติชนต้องลงโทษตัวเองปิดตัว 3 วัน แล้วตั้งกรรมการสอบสวน นายเสถียร แต่ปรากฏว่า ไม่มีความผิด มติชนสุดสัปดาห์ที่นายเสถียรดูแล เช่น ฉบับวันที่ 15 มิ.ย.50 ที่ลงเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในประเทศเนปาลโดยยกเอากรณีการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศนั้นมาเป็นกรณีศึกษาซึ่งมีเจตนาชี้นำสังคมและโฆษณาชวนเชื่อหรือก่อนหน้านั้นมติชนสุดสัปดาห์ฉบับวันที่ 1 มิ.ย.2549 ที่แก้ต่างเรื่องของปฏิญญาฟินแลนด์ว่าแค่ไปเที่ยวไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ นายเสถียรยังเขียนบทความโดยใช้นามปากกาอีกหลายชื่อเพื่อให้ดูว่ามีคนหลายคนแต่มีความเห็นไปในทำนองเดียวกัน บทบาทของนายเสถียรคือพวกซ้ายเก่าที่อกหักและยังเชื่อในอุดมการณ์สังคมนิยมในเรื่องของความเท่าเทียมกันในสังคม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการที่ออกแบบมาล่วงหน้าเพื่อสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง

27 พฤศจิกายน 2551

สงครามกลางเมือง

วันนี้ในดินแดนที่ได้ชื่อว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความโอบอ้อมอารี ผู้คนเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เกิดปรากฏการณ์บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เกิดเหตุมิคสัญญีไปทั่วทั้งแผ่นดิน คนไทยจงใจเข่นฆ่ากันเองราวกับว่าเห็นคนมิใช่คน ความระแวงเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้าท่ามกลางการปลุกระดมให้มีการต่อต้านพันธมิตร พันธมิตรซึ่งรับหน้าเสื่อเป็นผู้ดำเนินการต่อสู้ทุกรูปแบบกับตัวแทนระบอบทักษิณมีการปะทะระหว่างพันธมิตรกับนปช.แบบซึ่งๆ หน้าอย่างน้อย 2 ครั้ง การลอบยิงระเบิดหลายครั้งตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีการปะทะกันการฆ่ากันระหว่างคนไทยต่างกลุ่มทั้งที่ กทม.และที่เชียงใหม่ ทำไมเหตุอุบาวท์ชาติทมิฬเช่นนี้จึงเกิดขึ้นได้บนแผ่นดินไทย มีเหตุการณ์นองเลือดเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบอบทักษิณที่มีกองทัพ นปช.นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์อดีตคนหมิ่นในหลวงที่กลับเนรคุณพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษผู้ซึ่งช่วยให้พ้นคุก 4 ปีเข้าไปยิงปืนใส่สถานีวิทยุวิหคเรดิโอวานนี้ได้มีตำรวจเป็นคนชี้เป้าและให้ นปก.เข้ามาระดมยิงทั้งปืน โดยอาวุธปืนที่ใช้เป็น .38 และ .357 ของตำรวจทั้งสิ้นทั้งระเบิดเป็นร้อยๆ ลูกเหมือนสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นที่เชียงใหม่โดยมีตำรวจยืนดูอย่างสะใจ เกือบทั้งจังหวัดรวมทั้งข้าราชการส่วนใหญ่ล่วนเป็นคนเสื้อแดงข้าราชการพวกนี้ได้รับเงินเดือนพิเศษจากลอนดอนอีกคนละ 50,000 บาท มีรัฐบาลเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อย่างนกรู้ซึ่งนักข่าว CNN ก็ได้นำส่งภาพนี้เพื่อประณามเรียบร้อยแล้ว กองทัพ นปช.จองเวร ASTV ไม่เลิกเมื่อค่ำคืน 28 พ.ย.โดยยิงระเบิดเอ็ม 79 พร้อมปืนกลมือ ใส่ตึกบ้านเจ้าพระยา กระจกสตูดิโอแตกยับ ผู้ประกาศหลบกระสุน รอดหวุดหวิด คาดคนร้ายมาทางเรือ เป้าระเบิดอยู่ที่จานดาวเทียมบนหลังคาตึก แต่ถูกตาข่ายดักที่ชั้น 4 จึงระเบิดขึ้นก่อน กระจกห้องทำงานชั้น 4 แตกเล็กน้อย มีเสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง ตามด้วยด้วยเสียงปืนหลายนัด ที่ด้านหลังสำนักงานเอเอสทีวี อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.เสียงระเบิดดังอย่างรุนแรง จนพนักงานเกิดความแตกตื่นวิ่งหาที่หลบกันจ้าละหวั่น mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Shooting attack astv_281108.wmv เหตุการณ์นองเลือดนี้ไม่ใช่กรณีแรกและไม่ได้จำกัดวงเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังลามปามถึงเชียงใหม่ คนเสื้อแดงชาวเหนือได้ออกมาเข่นฆ่าคนเสื้อเหลืองคนบ้านเดียวกันอย่างเหี้ยมโหด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าที่ปากน้ำ ที่อุดร ที่นครราชสีมา รวมถึงอีกหลายจังหวัดในภูมิภาคต่างๆ ก็จะมี "นองเลือด" ตามกันมาไม่ช้าแน่ ประชาชนต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่ แถมยังเป็นพวกเดียวกับคนร้าย อาชญากรมอีก เพียงเพราะผลประโยชน์เท่านั้น ประชาชนไม่รู้จะพึ่งใคร นอกจากตัวเอง ต้องสู้และปกป้องชีวิตของตัวเอง ประชาชนต้องออกมาเรียกร้อง ขับไล่รัฐบาลชั่วช้าออกไป

ไม่ใช่เพียงพันธมิตรฯ เท่านั้นที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรอกเราเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มีความรักต่อสถาบันสูงสุดทั้ง 3 เหมือนๆ กัน หากแต่ความต่างอยู่ที่รักแต่ปากโดยการนิ่งเฉยมองดูสิ่งเลวร้ายกัดกร่อนประเทศไปเรื่อยๆ กับรักด้วยการกระทำที่พยายามจะลงมือแก้ไขปัญหาเพื่อขจัดคนปล้นชาติออกไป เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องของชาติบ้านเมืองในอนาคต การต่อสู้ของพันธมิตรในจังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดโปงขบวนการล้มเจ้า ล้มล้างพระมหากษัตริย์ มาโดยตลอด การที่จะชนะทักษิณให้ได้เราต้องยึดภาคเหนือตอนบนไว้ให้ได้ทั้งหมด พวกเราจึงพร้อมที่จะอยู่ในพื้นที่สีแดง เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ต่อเพื่อพระองค์ท่าน เราไม่กลัว แม้ตอนนี้มันประกาศให้ทุกคนตามไล่ล่า การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นเดียวกับการชุมนุมในกรุงเทพฯที่เราปักหลักสู้มา 6 เดือนก็เพื่อต่อต้านพวกเสื้อแดงที่มีเป้าหมายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ นำโดยชมรมคนรักทักษิณ หรือกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นั่นเองคนพวกนี้ได้เปิดยุทธการโจมตีพระราชินีและราชวงศ์รวมถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มีการซ่องสุมบ่อนทำลายสถาบัน มีแผนเผาพระราชฐานมาแล้วถึง 2 ครั้งอยู่ๆ มีไฟไหม้ป่าจนลามเป็นเขตพระราชฐาน อีกเหตุการณ์ที่พระตำหนักดอยตุง เชียงราย ก็เช่นกันขณะเดียวกัน เป็นที่รวมของพวกที่ต้องการทำลายสถาบัน เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน รัฐธรรมนูญฉบับหมอเหวงก็เขียนที่เชียงใหม่ คนพวกนี้มีแผนที่จะยกเชียงใหม่ให้เป็นเมืองหลวงแทนกรุงเทพมหานคร โดยมีการรื้อถอนบ้านเรือนจำนวนมากเพื่อขยายถนน มีเงินจำนวนกว่า 5 บัญชีอยู่ต่างประเทศ ไว้โอนให้ ส.ส.ไทยรักไทย ผ่านธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด นายสุชาติ นาคบางไทร ที่กล่าวจาบจ้วงก็อยู่ในกระบวนการนี้ เช่นกัน

ทักษิณต้องการอำนาจรัฐคืน พรรคร่วมรัฐบาลก็มองไม่เห็นภัยสงครามแสดงความก้าวร้าว และจัดประชุมที่เชียงใหม่ทำให้เชียงใหม่เป็นสัญลักษณ์ของเขตแดนนายสมชาย ทักษิณและกลุ่มตัวแทนที่ไม่สามารถสำนึกถึงความชอบธรรมที่แท้จริงในสังคมสั่งสมปัญหาต่างๆมากมายจนสถานการณ์ยุ่งเหยิงซับซ้อนไม่รู้เหตุและไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรและไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ สักแต่ว่ามีอำนาจรัฐก็จะยึดอำนาจนี้ไว้โดยไม่คำนึงถึงหลักรัฐศาสตร์ว่าด้วยเสียงข้างน้อยเสียงข้างมาก และความชอบธรรมที่แท้จริง พรรคการเมืองเฉพาะกิจอีก 5 พรรคเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งกระสันอำนาจ สมชายนั่นเองที่เอาแต่อ้างอยู่ฝ่ายเดียวตามใบสี่งจากทรราชว่าตนเองเป็นนายกฯ ที่มาตามระบอบประชาธิปไตยจึงต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่นายสมชายไม่เคยฉุกคิดบ้างเลยหรือว่าถ้าเป็นนายกฯ ต่อไปแล้ว บ้านเมืองต้องบรรลัยวอดวาย เสียหาย เสียโอกาส เมื่อนักการเมืองอย่างนายสมชายและพวกไม่ยอมสำเหนียก ปฏิบัติการยุติการใช้อำนาจรัฐเถื่อนก็คงจะไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ หากมหาวิทยาลัย สถาบันอุดมศึกษา สถาบันการศึกษาทั้งหลายคงประกาศยุติการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้ออกมาร่วมกับประชาชนเพื่อฟันฝ่าปัญหาวิกฤติชาติ หากนักการเมืองที่จะสั่งบรรดาทหารหาญทุกเหล่าทัพให้ไปสลายการชุมนุมแต่ทหารปฏิเสธการรับคำสั่งแต่กลับไปยืนควบคุมดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม จับตัวมันผู้ออกคำสั่งนั้นไปดำเนินคดีฐานพยายามฆ่าประชาชน ที่แล้วๆมาประชาธิปไตยของไทยเราใช้กันมาแบบผิด ๆ โดยนักการเมืองที่แสวงหาผลประโยชน์ ข้าราชการที่บ้าอำนาจ นายทุนที่เห็นแก่ตัว ที่ประชุมพูดกันเรื่องนี้หรือป่าว เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องนักเรียนยกพวกตีกันนะครับ จะเอาหัสหน้าสถานศึกษามาคุยกันหามาตรการแล้วก็จบข่าว ถึงเวลาก็เวียนมาตีกันใหม่ ทำยังไงก็ไม่สงบหรอกครับ ตราบใดที่มองเห็นชั่วเป็นดี มองเห็นผิดเป็นถูก มองดำเป็นขาว อย่างมากก็แก้ปัญหาเอาตัวรอดไปวัน ๆ แบบระบบราชการที่รักชาติโดยไม่ทำอะไรนอกจากนั่งน้ำลายไหลไปวัน ๆ ทุกวันนี้นักการเมืองเหล่านี้ทำตัวเป็นข้ารับใช้ทรราชนักโทษหนีคุกผู้มีพฤติกรรมจาบจ้วงกดดันอำนาจของสถาบันเบื้องสูงทำทุกอย่างเพื่อรับใช้ผลประโยชน์ทางการเมืองไม่เว้นแม้แต่ฆ่าประชาชนและขายอำนาจอธิปไตยของชาติ รับใช้ทรราช ใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของทักษิณและตนเองมากกว่าจะทำประโยชน์แก่ส่วนรวม หากบรรดาภาคธุรกิจเอกชนทั้งหลายร่วมกับประชาชนพร้อมใจกันปฏิเสธอำนาจรัฐโจรที่เข่นฆ่าและทำร้ายประชาชน ชะลอจ่ายภาษีจนกว่าโจรการเมืองจะพ้นจากอำนาจรัฐไปก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ช่วยรักษาประเทศชาติส่วนรวมมิให้โจรการเมืองนำเงินภาษีแผ่นดินไปทำร้ายชาติและรับใช้ผลประโยชน์ส่วนตัวของนักโทษหนีคุกได้อีกต่อไป

หากการระดมสมองผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว อธิการบดีมหาวิทยาลัย และผู้นำองค์กรอิสระต่างๆ เช่น ตรวจเงินแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้นมีวัตถุประสงค์ของการประชุมก็เพื่อจะหาทางแก้วิกฤตซึ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆได้มีการลงมติ 2 อย่าง คือ (1) ให้นายกรัฐมนตรียุบสภาฯ จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ (2) ให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสลายการชุมนุมประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ผบ.ทบ.ท่านบ่นว่าผิดหวังและเครียดมากลตรีอุดมเดช ทส.ของ ผบ.ทบ.ที่เชิญมาอย่างกะทันหันให้ไปร่วมประชุมเลยท่านดูแล้วแน่ใจว่ามีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าไม่เชื่อลองไปถาม ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์อาจารย์ของท่านดูเอง แล้วท่านผบ.ก็เล่าว่า มันจะมีประโยชน์อะไรที่เอาคนอย่างพล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้วและตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารประชาชน นักธุรกิจบ้าผลประโยชน์ไม่รู้จักคำว่าเสียสละ มีแต่จะเอาได้กับได้ กับบรรดาอธิบดีปลัดกระทรวงอำนาจนิยมสายเหยี่ยวซึ่งสามิภักดิ์ และรอคอยการกลับมาของอำนาจเก่า มติที่ได้จากที่ประชุมดูแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากจะแสดงความอ่อนด้อยไม่เข้าใจปัญหาของผู้จัดหรือไม่ก็ความไม่จริงใจต้องการสร้างปมให้ปัญหาหนักขึ้น ในขณะนี้สังคมทหารเองก็ไม่ต่างจากหน่วยราชการอื่นที่รับผลประโยชน์จากทรราช ทหารไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมืองในปัจจุบัน ทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็ยังไปตีกอล์ฟ ไปเฮฮากันตามปกติ เวลามีชุมนุมใหญ่ ในกรมกองมันจะจัดให้มีประชุมทุกวัน เพื่อสกัดไม่ให้ทหารที่มีอุดมการณ์ไปชุมนุม แล้วพวกเขาก็ตื่นเต้นที่จะเตรียมเดินสวนสนาม พวกทหารได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่สนใจว่าใครจะจาบจ้วงในหลวง การกระทำของพันธมิตรมันเหมือนการหักหน้าพวกเขาให้สังคมเห็นว่า พวกเขาสามารถแสดงขีดความสามารถในการปกป้องในหลวงได้อย่างเดียวและวันเดียวด้วยการให้คำปฏิญาณในวันสวนสนาม เสียงดังฟังชัด แต่พอพูดจบทุกอย่างก็หายไปอยู่ในสมองในส่วนของการท่องจำ หากกองทัพจำต้องยอมรัฐบาลเถื่อนในบางครั้งบางกรณีแต่ถ้าหากเมื่อใดกองทัพจัดฉากสมคบกับรัฐบาลเถื่อนอ้างความชอบธรรมผิดๆ กองทัพจะเป็นผู้หนึ่งที่สังคมไทยไม่ควรให้อภัย

พลันที่มีประกาศพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินโดยกำหนดพื้นที่ชัดเจนที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ โดยให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่สนามบินดอนเมือง และให้ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ทำไม รัฐบาลจึงเลือกใช้นายตำรวจทั้ง 2 นาย ประวัติและผลงานของทั้ง 2 บุคคล จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า "ตำรวจ"หรือ"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"จะเลือกใคร ระหว่างประชาชน กับทรราช พล.ต.ท.ฉลอง สนใจนรต.รุ่น 26 ขณะนั้นครองยศพล.ต.ต.ไปเป็นรองผบช.ภาค 7 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันตก ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นแหล่งที่ส่องสุมมือปืนมากที่สุดในประเทศ ทำงานสนองทักษิณปราบฝ่ายตรงข้าม แถมโกวิท วัฒนะยังปูนบำเหน็จให้ครองยศพล.ต.ท. ดำรงตำแหน่งผบช.ภ. 1 และได้รับการแต่งตั้งให้ควบคุมสถานการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เหตุการณ์ทุบตีประชาชนจากฝีมือตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าไปปิดหมายศาล ผลงานชิ้นโบแดงในครั้งนั้น ส่งผลให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้วนรต.รุ่น 26ที่มีชื่อไปเป็น ผบช.ก.กลับมาดัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และตัวเองขึ้นเถลิงเก้าอี้ ผบช.น.เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา!! แต่ผลงานอันอัปยศได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประชาชนเลือดตกยางออก และเสียชีวิต ในครั้งนี้ จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะพิสูจน์ตัวตนของพล.ต.ท.ฉลอง และพล.ต.ท.สุชาติว่า เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตัวจริง หรือเป็นผู้คอยพิทักษ์บัลลังก์ให้กับเพื่อนรัก ที่ตกอยู่ในสถานะนักโทษ หลบหนีคดีของศาลไทย

ความแตกแยกที่มีอารมณ์แค้นอย่างชัดเจนยากที่จะเจรจายุติการสู้รบได้หากมีการปะทะกันจนเป็นสงครามกลางเมือง คนเคราะห์ร้ายคือประชาชนผู้บริสุทธิ์เดินถนนม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมคนคนเดียวสามารถทำลายชาติได้รุนแรงถึงเพียงนี้ โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของตัวเองและของชาติ แต่ขอเพียงแสดงความพาลเกเรชนิดใครจะตายก็ช่างมัน หรือสงครามระหว่างคนไทยเกิดขึ้นก็ช่างมัน

http://naewna.com/news.asp?ID=133980 1
http://naewna.com/news.asp?ID=134513 2
http://naewna.com/news.asp?ID=135083 3
http://naewna.com/news.asp?ID=135766 4
http://naewna.com/news.asp?ID=133422 5
http://naewna.com/news.asp?ID=135765 6

บทเรียนราคาแพง


ณ นาทีนี้ต้องยอมรับว่า รัฐบาลน้องเขยทักษิณชุดนี้สูญสิ้นความชอบธรรมที่จะปกครองประเทศแล้วจริงๆ ที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นข้ออ้างรักษาประชาธิปไตยแบบสิ้นคิดนำไปสู่การสิ้นชาติ จริงอยู่การมาจากการเลือกตั้งเป็นเงื่อนไขสำคัญอันหนึ่งแต่ก็ไม่ใช่เงื่อนไขเดียว รัฐบาลจะต้องทำหน้าที่อย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญจะต้องไม่ทำตัวเป็นฆาตกร มือเปื้อนเลือด เข่นฆ่าประชาชนหรือปล่อยให้มีการฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็นเช่นนี้ ความชอบธรรมของรัฐบาลนั้น นอกจากฉันทานุมัติของประชาชนแล้วยังจะต้องมีพฤติกรรมการใช้อำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ชอบธรรม เคารพรัฐธรรมนูญ และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวมด้วย รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยการโกง ทุจริตจนถึงขั้นว่ากำลังถูกดำเนินคดียุบพรรคการเมืองอยู่ ไม่กระเหี้ยนกระหือรือจะแก้ไขล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเองและพรรคพวกอย่างนี้

พันธมิตรฯ จะไม่ถอนกำลังออกจากทำเนียบฯและยังยืนยันข้อเรียกร้องให้นายกลาออกเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงินมหาศาลในการเลือกตั้งครั้งใหม่ พันธมิตรฯ คาดไว้แล้วว่ารัฐบาลจะไม่ยุบสภา ขณะเดียวกันการเร่งการชุมนุมเป็นการทำให้สงครามครั้งสุดท้ายแบบม้วนเดียวจบไม่มีม้วนต่อไปให้สำเร็จโดยเร็ว ถ้าทำเต็มที่แล้วสู้ไม่ได้จะเก็บของกลับบ้าน การไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นผลในเชิงสัญลักษณ์ 2 ประการเพราะ

1) สนามบินสุวรรณภูมิ นับว่าเป็นอนุสาวรีย์เครื่องเตือนใจถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬารของระบอบทักษิณ
2) ไม่ปรารถนาให้นายสมชายกลับเข้ามารักษาและสืบทอดอำนาจของระบอบทักษิณต่อไป

การไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิมีผลที่เกิดขึ้นตามมาอย่างมากและเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก การชุมนุมของเราไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างใดแต่เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เป็นมาตรการหนึ่งในการเรียกร้องรัฐบาลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ เรายืนยันเพื่อปักหลักชุมนุมสุวรรณภูมิต่อเนื่องจนกว่ารัฐบาลจะเลิกดันทุรังยกเลิกแนวคิดแก้รธน.และ"สมชาย"จะลาออก ตามที่เราได้เรียกร้องไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญและรับฐาลหุ่นเชิดต้องลาออกไป นี่เป็นข้อเรียกร้องหลักของเรา และขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมต่อสู้ เราสู้มาได้ขนาดนี้ได้ก็เพราะการทำหน้าที่โดยที่ไม่มีการกดดันหรือบีบคั้นกันเองแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการยึดพื้นที่ 3 จุด"ทำเนียบ-สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง"ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จแต่คนพวกนี้ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่แสดงความรับผิดชอบ รัฐบาลทำเพื่อตัวเขาและพวกพ้องของเขาเท่านั้น จึงต่างกันโดยสิ้นเชิง

• เพี้้ยนหนัก “เสธ.แดง” ขู่ลูกสาว “ตายห่าก็ช่างมัน”
• เปิดตัว “ขัตติยา สวัสดิผล” ลูกพันธมิตรฯ - พ่อนปช.
• “พระพยอม” ยืนยัน ยกวัดสวนแก้วให้จัดรายการ “ความเท็จวันนี้”
• “ตำรวจไม่คิดทำร้ายประชาชน” โกหกคำโตจาก “เบื๊อก” พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว
• คอลัมนิสต์ไทยรัฐเตือน ปชช.ถ้าทักษิณชนะจะเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ
• พันธมิตรฯ เร่งชนะเบ็ดเสร็จ ปิด"ดอนเมือง"โดยสิ้นเชิง
• ปิดสุวรรณภูมิทอท.ทิ้งผู้โดยสาร
• ฟ้องด้วยภาพ “โจรกากี-ถ่อยเสื้อแดง” โอละพ่อ แก๊งนรกเดียวกัน!! http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000140301
• ปิดสุวรรณภูมิขีดเส้นสมชายต้องออกทันที
• บันทึก “สมชาย” เหยียบคาวเลือดเข้าเชียงใหม่ กลุ่มทหารเสือฯ ประกาศไม่ทำพิธีศพพ่อจนกว่า พธม.ชนะ
• ตร.ฮือล้อมทำเนียบฯ ! “จำลอง”คุมเข้ม-วอน ปชช.ลุกฮือตลบหลัง
• สุดถ่อย! เสื้อแดงยิงพ่อเจ้าของ “วิหคเรดิโอ” เชียงใหม่ดับต่อหน้าตำรวจ
• ด่วน! ตร.ปล่อยถ่อยเสื้อแดงยิงพ่อเจ้าของ"วิหคเรดิโอ"เชียงใหม่ดับ
• สัตว์นรก"ขวัญชัย"ปลุกคนเสื้อแดงอุดรแห่ถอนเงินฝากแบงก์กรุงเทพฯ อ้างหนุนพันธมิตรฯ
• ทักษิณซ่องสุ่มกำลัง 2 ฝ่าย 'ทหาร-เสื้อแดง'รอวันแตกหัก-ชี้'อนุพงษ์'ไม่ปฏิวัติกลัวเสียรู้ 'แม้ว'
• "จำลอง"ย้ำพันธมิตรฯ ปักหลัก"สุวรรณภูมิ"ระดมปิดดอนเมืองเพิ่ม-เชื่อวันนี้จบ!
• “เสื้อแดง”เชียงใหม่สวมวิญญาณสัตว์กระทืบ 2 จนท.ศาลกลางสนามบินรับขวัญสมชายกลับเชียงใหม่
• “อนุพงษ์” นำทีมจี้ “สมชาย” ยุบสภา-พันธมิตรฯ ถอนพ้นสุวรรณภูมิ
• 'สมชาย'ด้านไม่ออก-ไม่ยุบ ขู่งัดไม้เด็ดจัดการพันธมิตร
• พธม.ยัน'สมชาย'ต้องออก'อนุพงษ์'มุกแป้กจี้ยุบสภาไร้ผล
• มือป่วนเน็ตมั่วไม่เลิก! ฟอร์เวิร์ดเมลสร้างกระแส “พันธมิตรฯ” จุดไฟรุนแรง
• สื่อนอกชี้ไทยจ่อปากเหวรัฐประหาร-แหล่งข่าวแฉนปช.เตรียมจุดไฟสงคราม
• อิตาลีตั้งทีมฉุกเฉินช่วยนักท่องเที่ยว-ผู้ดีวอนไทยแก้ปัญหาสันติวิธี
• รัฐบาลทั่วโลกเตือนมิให้เดินทางมาไทย-อยู่ห่างสุวรรณภูมิ
• ผู้ดีเร่งช่วยผู้โดยสารติดค้าง ชาวอังกฤษยันชุมนุมสันติ
• ยกฟ้องพันธมิตรฯ ศาลชี้แถลงการณ์แฉ “ผีทักษิณ” หนีอาญาแผ่นดินไม่หมิ่น!
• ‘อนุพงษ์’ เด้งเชือกตอบคำถาม

เราจะจับตาทหาร-รัฐบาล ใครจะชิงหวะเช็กบิลก่อนกัน โดยมีทางออกผ่าทางตันคลี่คลายวิกฤติความแตกแยกในบ้านเมืองด้วยการตั้งรัฐบาลที่เป็นกลางเข้ามาบริหารประเทศชั่วคราวด้วยการงดใช้มาตรา 171 (2) ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพื่อเปิดทางให้มีการทาบทามบุคคลภายนอกที่เป็นกลางซึ่งมีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ยอมรับแต่ไม่ได้เป็นสส.เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเข้ามาบริหารประเทศเพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ให้เข้าที่เข้าทาง ซึ่งเมื่อเสร็จภารกิจแล้วจึงคืนอำนาจสู่ประชาชน อันน่าจะเป็นทางออกที่ยุติความแตกแยกและทำให้บ้านเมืองสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ

วันหนึ่งแนวร่วมของกลุ่มการเมืองทั้งสองฝ่าย จะต้องปะทะกันจนได้ โดยหมดทางเลี่ยง “นปช.” หรือ “ม็อบถ่อยเสื้อแดง” ผู้จงรักภักดีต่อทักษิณออกมาดักรอตามเส้นทางต่างๆ ทำการยั่วยุจนในที่สุดก็มีการปะทะกันขึ้น ไม่เพียงแต่มีการขว้างปา ชกต่อย แต่ยังมีการยิงหนังสติ๊กและยิงปืน และมีการเผาจักรยานยนต์ รถแท็กซี่เสียหายวอดวายไปหลายคันในกรุง ทำตัวใหญ่คับจังหวัดเชียงใหม่บุกเข้าปิดล้อมสถานีวิหคเรดิโอที่ถ่ายทอดเหตุการชุมนุมของพันธมิตรฯ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะรุมทำร้ายบิดาของแกนนำกลุ่มทหารเสือฯ และใช้อาวุธปืนยิงซ้ำจนเสียชีวิตคาที่พร้อมกับใช้มีดฟันแขนเกือบขาดต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฉยโดยไม่ทำอะไรเลย เมื่อนักข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่งพยายามเข้าถ่ายทำเหตุการณ์ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จังหวัดเชียงใหม่ยังพูดหน้าตาเฉยว่า “เขยิบหน่อยสิ หน้าจะได้เข้ากล้อง” ในขณะเกิดเหตุดังกล่าว

ที่ผ่านมาทักษิณพลาดส่วนเสียในทางลับมีมากกว่าและมั่นใจในอำนาจรัฐของตนโดยใช้ทุนการเมืองจากการระดมเงินของคนอื่นเรียกได้ว่า"เล่นไพ่ด้วยเงินคนอื่น" ดังนั้นการเตรียมการกลับมาในครั้งนี้นั้นเป็นการเปิดเกมรุกยุทธศาสตร์แบบตรงไปตรงมามากขึ้นตรงที่ทักษิณจะเริ่มออกมาพูดเองโดยไม่ผ่านใครอีกต่อไป เป็นการพุ่งเป้าเพื่อความอยู่รอดในทางการเมืองและความอยู่รอดส่วนตัว กลับมาคุมเกมเพื่อมีอิทธิพลในกระบวนการต่างๆ ทั้งทางทหาร ตำรวจและความยุติธรรมให้ได้" ดังนั้นบรรดาแม่ทัพชุดใหม่จะมีภาพความเป็นชินวัตรมากที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาความสับสนในอำนาจ และเพื่อสะท้อนภาพคุณทักษิณให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาเพราะคนสกุลชินวัตรไม่ว่าชื่อไหนก็นับว่าตรงไปตรงมายิ่งกว่าสุนทรเวชหรือแม้แต่วงศ์สวัสดิ์ ส่วนหนึ่งที่พจมารนั้นตัดสินใจหย่าขาดจากทักษิณนอกจากเรื่องธุรกิจแล้วก็อาจจะก้าวสู่การเมืองในช่วงต่อมา ยิ่งถ้ามีการแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จก่อนยุบสภาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ก็จะแหวกหลุมศพการเมืองกลับมายืนแถวหน้าแทนบรรดาลูกเมียที่มีอยู่พร้อมกับศักยภาพและความเข้มข้นในการเดินเกมจะช่วยทักษิณให้ได้กลับมาเร็วขึ้น ทักษิณไม่เคยสนใจถึงประเทศและประชาชนเลย พฤติกรรมของเขาคือทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง โดยอาศัยความเป็นนักการตลาดตัวยงบวกกับการเป็นนักโฆษณาชวนเชื่อเช่นเดียวกับฮิตเลอร์ สร้างความแตกแยกให้กับประชาชนโดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเสียหายทำให้คนไทยแบ่งกลุ่มเป็นศัตรูกันเพียงเพื่อให้สังคมไทยตกอยู่ภายใต้การนำของเขาที่มักจะอวดอ้างเป็นประจำตัวเขาเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาของประเทศได้ทั้งๆที่เป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติและสถาบันที่คนไทยทุกคนเคารพและเทิดทูน แต่วันนี้ทักษิณตัดสินใจสู้ไม่ถอยก็เป็นสิทธิเพียงแต่ว่าถ้าการต่อสู้ของทักษิณประสบชัยชนะก็หมายถึงโครงสร้างประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงไปตามที่ทักษิณกำหนด สถาบันและองค์กรหลักๆของชาติทักษิณก็จะจัดเองใหม่หมด ถ้าทักษิณกลับมาเขาไม่ได้อยากเป็นแค่ประธานาธิบดีหรอกเขาหวังมากกว่านั้นเพราะการเป็นประธานาธิบดีจะอยู่ได้แค่วาระเท่านั้นแต่เขาส่งต่อกับเครือญาติ ให้ญาติ ๆ เป็นใหญ่เป็นโต ขึ้นมาคุมประเทศ ครองอำนาจเบ็ดเสร็จทุกอย่างโดยการ 'ซื้อ' ทุกอย่างที่ขวางหน้าและถอนทุนและเอากำไรด้วยการนำเอางบประมาณดึงมาเป็นของตนเองและธุรกิจของตนเอง กดขี่ข่มเหงคนที่มีความคิดเห็นต่างทุกวิถีทางใช้ทั้งความรุนแรงและการลอบทำร้ายพร้อมกับแก้ไขกฎหมายทุกฉบับตั้งแต่กฎหมายตัวเล็กจะกฎหมายรัฐธรรมนูญให้เอื้อประโยชน์กับตนเองทุกอย่าง จากนั้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศไทยไปสู่สาธารณรัฐแล้วตั้งตระกูลของมันเป็นเจ้าแทนที่ระบบกษัตริย์ในปัจจุบัน อีกไม่นานรุ่นลูกเราก็คงได้ผู้นำเจ้าของประเทศเป็นโอ๊ค เวลาน้องสาวทั้ง 2 ไปไหน ก็คงโดนปิดถนนให้ผ่านสะดวก ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น

พี่น้องชาวไทยที่รักท่านเลือกข้างหรือยัง เพื่อนๆอีกหลายคนพร้อมแล้วที่จะสละชีพเพื่อปกป้อง ชาติ ศาสน กษัตรืย์และราชบัลลังค์ เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การเข้าสู่สนามรบกับการตายในสนามรบคือเกียรติของเรา แผ่นดินนี้มันผู้ใดจะแบ่งแยกไม่ได้ เราในเมื่อทำดีที่สุดแล้วออกมาปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่โดนหาว่าทำลายชาติ บ้า มาก่อความวุ่นวาย ถ้าเปลี่ยนแปลงไมได้เราก็ไปหาตั้งประเทศใหม่กันเป็นประเทศของเราเองที่วางรากฐานการเมืองใหม่ที่ปราศจากนักการเมืองชั่ว ๆ พวกนี้ และจะทำให้เป็นประเทศที่ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น ต้องปล่อยวางบ้างเสียบ้างในเมื่อทำถึงที่สุดแล้วน่าจะภูมิใจที่ดีที่สุดแล้วในฐานะคนไทยที่แท้จริงถ้าแพ้เราก็คงต้องย้ายสำมะโนครัวหนีมันก็ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อคนไทยที่ไม่รู้สึกรู้สากับความเป็นไปของประเทศก็ปล่อยวางเถอะถึงวันนั้นถ้ามันล้มล้างระบอบกษัตริย์ก็ได้สะใจกับคนไทยกลุ่มนี้ที่ปิดหูปิดตา ไม่สนใจหาความจริง ก็ปล่อยให้เป็นขี้ข้าระบอบทุนนิยมเผด็จการ อดอยาก ลำบากต่อไปชั่วลูกหลานเพียงเพราะพวกเค้าเลือกเองที่จะรับกรรมแบบนี้ให้ได้รู้สำนึกเองในวันที่สายไปแล้วจะได้จำไปจนวันตายในบทเรียนราคาแพงนี้

26 พฤศจิกายน 2551

“เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ศิลปินแห่งชาติ และกวีซีไรต์บรรเลงเพลงขลุ่ยพร้อมขับขานบทกวี

“เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ศิลปินแห่งชาติ และกวีซีไรต์บรรเลงเพลงขลุ่ยพร้อมขับขานบทกวี



สถานการณ์วันนี้แปลกประหลาดมากๆ มีบ้านหลังหนึ่งมีขโมยกำลังเลาะรอบบ้าน บางตัวเข้ามาในบ้านแล้วหมาเห่า หมาบ้านเราเห่า เจ้าของบ้านกลับมารำคาญเสียงเห่า เจ้าของบ้านกลับมาด่าหมาแทนที่จะด่าขโมย จนกระทั่งหมาโดนตีโดนเตะ เจ้าของบ้านกลับมาเกลียดหมา มองไม่เห็นขโมย มันเกิดอะไรขึ้น สถานการณ์อย่างนี้

ขโมยนั้นมันคุกคามบ้านเรา ตั้งแต่มีโจรอยู่ข้างนอกบ้านและมีหัวขโมยแก้งขโมยอยู่ในบ้าน แล้วก็ยังมีนักตีชิงวิ่งราวและก็มีนักย่องเบาอีก เราเป็นเจ้าของบ้านหรือเปล่า แล้วก็มาเกลียดหมา หมามันอาจจะขี้เรื้อน เยี่ยวรดรุ่มร่ามไปบ้าง แต่หมามันเห่าขโมย ครับ และหมาพวกนี้มันจะตายหรือมันจะอยู่ก็ไม่รู้แต่มันจะได้ปลอกคอหรือ มันไม่ได้หวังปลอกคอมันก็ยังเป็นหมาอยู่

ชัยชนะไม่ได้ชี้ขาดในสนามรบ ชัยชนะชี้ขาดด้วยความเป็นธรรมและความถูกต้อง ผมเขียนหนังสือ เล่นดนตรี ตั้งแต่ 14 ตุลามาจนถึงวันนี้ ผมไม่เคยเลือกข้างผิดเลยครับ ไม่มีการตื่นตัวทางการเมืองครั้งไหนจะยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ มันเป็นปรากฏการณ์การต่อสู้ระหว่าง 2 กลุ่ม คือ
1.ผู้ตื่นตัวทางการเมือง
2.ผู้หลับใหลทางการเมือง
ผู้หลับใหลทางการเมืองนั่นแหละเป็นเหยื่อทางการเมืองผมจึงบอกว่าไม่ประหลาดใจเลยที่ขโมย ผู้ตีชิงวิ่งราว นักย่องเบาทางการเมือง

(ผู้หลับใหลทางการเมือง)พวกนี้เป็นเหยื่อทางการเมืองทั้งนั้น

ปัญญาชนคนชั้นกลาง ยังใบ้เบื้อ
คนรากหญ้าเป็นเหยื่อทุกหย่อมหญ้า
เผด็จการ เบ็ดเสร็จ เผด็จสภา
ปล้นประชาธิปไตยไปทุกครั้ง


มีคำถามง่ายๆ ว่า เราสู้นี้เพื่อใคร สู้เพื่อพวกแกนนำพันธมิตรฯ หรือ เปล่าเลย ถ้าสู้เพื่อพวกแกนนำพันธมิตรฯ ผมไม่สู้ครับ เราสู้เพื่อใคร ถามตัวเองให้ดี นั่นแหละคือชัยชนะ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเขาสู้เพื่อใคร เขาสู้เพื่อคนคนเดียว ใช่ไหมครับ ขณะที่เราสู้เพื่อคนเป็นแสนเป็นล้าน คนของประเทศนี้ ชัยชนะอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง เหมือนที่บอกว่า เราเป็นหมาเห่าขโมย เราไม่ได้สู้เพื่อปลอกคอหมา ใช่ไหมครับ เรื่องราวนี้จบไปแล้ว เราก็ยังเป็นหมา ที่คอยจะเฝ้ายาม คอยจะเห่าขโมยอยู่นั่นแหละ พวกเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยเปลี่ยนสีแปรธาตุ

24 พฤศจิกายน 2551

ถ้าแพ้ก็ยกประเทศให้เขาไปเลย



แท็กซี่ นปก.ขว้างท่อนเหล็กใส่พันธมิตร


กลุ่มคนโพกผ้าแดงมีไม้และก้อนหินเป้นอาวุธคอยดักทำร้ายพันธมิตรฯ และคนใส่เสื้อเหลืองที่เดินทางผ่าน บริเวณถนนวิภาวดี ซอย 3 ระหว่างการเดินทางไปยังดอนเมือง (ภาพถ่ายจากอาคารสูงแห่งหนึ่งย่านถนนวิภาวดี)
http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2008/11/24/entry-2


สื่อมวลชนผู้เคยทำหน้าที่ตรวจสอบอำนาจรัฐ และยืนหยัดข้างประชาชน ก็แปลสภาพเป็นกระบอกเสียงรัฐบาล ปกป้องความผิด อภิบาลคนชั่ว ป้ายสีคนดี หมดยุคของหมาเฝ้าบ้านไปเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่ “หมาล่าแบงค์” เท่านั้นแหละ ไอ้ครั้นจะหวังพึ่งคนมีสีให้หยุดยั้งอำนาจชั่ว พี่ทั่นก็ได้แต่ยืนตะเบ๊ะหน้าตั้ง หลังตรง ไม่พูดไม่จา คาดว่าถ้าไม่อมสาก ก็คงจะอมแบงค์ไปเรียบร้อยเช่นกัน แต่ที่น่าเศร้าใจที่สุดเห็นจะเป็นคนในชาติบางคนที่ยังไม่ตื่น ไม่ว่าใครจะทำผิดซักแค่ไหน ศาลยุติธรรมจะตัดสินใจอย่างไร ก็ยังคิดไปได้ว่าเป็นการใส่ร้าย เห็นแล้วก็เหนื่อย ไม่อยากจะด่าว่า “โง่” เป็น “ควาย” เพราะความจริงแล้ว “โง่ ยิ่งกว่า ควาย” ซะอีก พวกที่ประกาศว่าเป็นกลางหรือพวกนักวิชาการก็คือพวกที่สนับสนุนการถอนรากถอนโคนหลักการดังกล่าวโดยที่ตัวเองอาจจะไม่ (มีสมอง) ฉุกคิด ... โดยการแสดงการยอมรับโดยดีว่าหากมีใครกดดันประกาศจะพวกยกมาตีกลุ่มผู้ที่จะแสดงออกทางความเห็นต่างกับรัฐบาล..ก็ต้องไม่ไปข้องแวะ การต่อสู้ด้วยวิธียืดเยื้อยาวนานกว่า 6 เดือน ได้ให้บทเรียนอย่างสำคัญแก่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แล้วว่า เหตุและผลหรือแม้กระทั่งคุณธรรม จริยธรรม เอาชนะคนหน้าด้านไม่ได้ นาทีนี้ เราจะหวังพึ่งใครไม่ได้อีกแล้ว เพราะอำนาจทั้งปวงได้ถูกแบงค์ยัดห่ากันไปเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่อำนาจประชาชนนี่แหละที่ยังสถิตอยู่ในมือกับตีนของเราทุกคน
ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงได้โปรดคุ้มครองคนที่ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องราชบัลลังก์ ให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง และได้โปรดประทานสติปัญญาให้แก่ผู้คนที่ยังหลงผิด ได้รับรู้ความจริงเสียที ก่อนที่ชาติจะฉิบหายไปกว่านี้ ถ้าหยุดไม่สำเร็จหมายถึงแพ้...ทำให้นึกถึงคำประชดประชันที่คุ้นหู ‘ถ้าแพ้ก็ยกประเทศให้เขาไปเลย’ ขึ้นมาทันที จากนี้ไปคงจะได้เห็นคนอื่นๆ อีกหลายคนที่จะต้องได้รับผลกรรมจากการเห็นดีเห็นงามกับการเลือกข้างอยู่กับอดีตนายกฯ ทักษิณ และไม่ยอมถอนตัวถึงแม้กาลเวลาที่ผ่านไปได้พิสูจน์แล้วว่า การกระทำของอดีตผู้นำประเทศผู้นี้ที่ใครต่อใครบอกว่าเป็นคนดีนั้น บัดนี้ปรากฏแล้วไม่ดีจริง และแถมได้รับความเดือดร้อนเพราะการกระทำที่ว่านี้แล้วอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการต้องถูกต่างประเทศประกาศยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศ และมีแนวโน้มว่าโลกจะแคบลงเรื่อยๆ ตามกระบวนการยุติธรรมที่จะออกมาว่ามีความผิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นในระหว่าง 23-26 พฤศจิกายน,บวกลบ, เป็นวันบ่งชี้ว่าสังคมเราจะเดินไปทางไหน