27 พฤศจิกายน 2551

สงครามกลางเมือง

วันนี้ในดินแดนที่ได้ชื่อว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความโอบอ้อมอารี ผู้คนเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เกิดปรากฏการณ์บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เกิดเหตุมิคสัญญีไปทั่วทั้งแผ่นดิน คนไทยจงใจเข่นฆ่ากันเองราวกับว่าเห็นคนมิใช่คน ความระแวงเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้าท่ามกลางการปลุกระดมให้มีการต่อต้านพันธมิตร พันธมิตรซึ่งรับหน้าเสื่อเป็นผู้ดำเนินการต่อสู้ทุกรูปแบบกับตัวแทนระบอบทักษิณมีการปะทะระหว่างพันธมิตรกับนปช.แบบซึ่งๆ หน้าอย่างน้อย 2 ครั้ง การลอบยิงระเบิดหลายครั้งตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีการปะทะกันการฆ่ากันระหว่างคนไทยต่างกลุ่มทั้งที่ กทม.และที่เชียงใหม่ ทำไมเหตุอุบาวท์ชาติทมิฬเช่นนี้จึงเกิดขึ้นได้บนแผ่นดินไทย มีเหตุการณ์นองเลือดเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบอบทักษิณที่มีกองทัพ นปช.นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์อดีตคนหมิ่นในหลวงที่กลับเนรคุณพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษผู้ซึ่งช่วยให้พ้นคุก 4 ปีเข้าไปยิงปืนใส่สถานีวิทยุวิหคเรดิโอวานนี้ได้มีตำรวจเป็นคนชี้เป้าและให้ นปก.เข้ามาระดมยิงทั้งปืน โดยอาวุธปืนที่ใช้เป็น .38 และ .357 ของตำรวจทั้งสิ้นทั้งระเบิดเป็นร้อยๆ ลูกเหมือนสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นที่เชียงใหม่โดยมีตำรวจยืนดูอย่างสะใจ เกือบทั้งจังหวัดรวมทั้งข้าราชการส่วนใหญ่ล่วนเป็นคนเสื้อแดงข้าราชการพวกนี้ได้รับเงินเดือนพิเศษจากลอนดอนอีกคนละ 50,000 บาท มีรัฐบาลเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อย่างนกรู้ซึ่งนักข่าว CNN ก็ได้นำส่งภาพนี้เพื่อประณามเรียบร้อยแล้ว กองทัพ นปช.จองเวร ASTV ไม่เลิกเมื่อค่ำคืน 28 พ.ย.โดยยิงระเบิดเอ็ม 79 พร้อมปืนกลมือ ใส่ตึกบ้านเจ้าพระยา กระจกสตูดิโอแตกยับ ผู้ประกาศหลบกระสุน รอดหวุดหวิด คาดคนร้ายมาทางเรือ เป้าระเบิดอยู่ที่จานดาวเทียมบนหลังคาตึก แต่ถูกตาข่ายดักที่ชั้น 4 จึงระเบิดขึ้นก่อน กระจกห้องทำงานชั้น 4 แตกเล็กน้อย มีเสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง ตามด้วยด้วยเสียงปืนหลายนัด ที่ด้านหลังสำนักงานเอเอสทีวี อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.เสียงระเบิดดังอย่างรุนแรง จนพนักงานเกิดความแตกตื่นวิ่งหาที่หลบกันจ้าละหวั่น mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Shooting attack astv_281108.wmv เหตุการณ์นองเลือดนี้ไม่ใช่กรณีแรกและไม่ได้จำกัดวงเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังลามปามถึงเชียงใหม่ คนเสื้อแดงชาวเหนือได้ออกมาเข่นฆ่าคนเสื้อเหลืองคนบ้านเดียวกันอย่างเหี้ยมโหด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าที่ปากน้ำ ที่อุดร ที่นครราชสีมา รวมถึงอีกหลายจังหวัดในภูมิภาคต่างๆ ก็จะมี "นองเลือด" ตามกันมาไม่ช้าแน่ ประชาชนต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่ แถมยังเป็นพวกเดียวกับคนร้าย อาชญากรมอีก เพียงเพราะผลประโยชน์เท่านั้น ประชาชนไม่รู้จะพึ่งใคร นอกจากตัวเอง ต้องสู้และปกป้องชีวิตของตัวเอง ประชาชนต้องออกมาเรียกร้อง ขับไล่รัฐบาลชั่วช้าออกไป

ไม่ใช่เพียงพันธมิตรฯ เท่านั้นที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หรอกเราเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มีความรักต่อสถาบันสูงสุดทั้ง 3 เหมือนๆ กัน หากแต่ความต่างอยู่ที่รักแต่ปากโดยการนิ่งเฉยมองดูสิ่งเลวร้ายกัดกร่อนประเทศไปเรื่อยๆ กับรักด้วยการกระทำที่พยายามจะลงมือแก้ไขปัญหาเพื่อขจัดคนปล้นชาติออกไป เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องของชาติบ้านเมืองในอนาคต การต่อสู้ของพันธมิตรในจังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดโปงขบวนการล้มเจ้า ล้มล้างพระมหากษัตริย์ มาโดยตลอด การที่จะชนะทักษิณให้ได้เราต้องยึดภาคเหนือตอนบนไว้ให้ได้ทั้งหมด พวกเราจึงพร้อมที่จะอยู่ในพื้นที่สีแดง เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ต่อเพื่อพระองค์ท่าน เราไม่กลัว แม้ตอนนี้มันประกาศให้ทุกคนตามไล่ล่า การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นเดียวกับการชุมนุมในกรุงเทพฯที่เราปักหลักสู้มา 6 เดือนก็เพื่อต่อต้านพวกเสื้อแดงที่มีเป้าหมายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ นำโดยชมรมคนรักทักษิณ หรือกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นั่นเองคนพวกนี้ได้เปิดยุทธการโจมตีพระราชินีและราชวงศ์รวมถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มีการซ่องสุมบ่อนทำลายสถาบัน มีแผนเผาพระราชฐานมาแล้วถึง 2 ครั้งอยู่ๆ มีไฟไหม้ป่าจนลามเป็นเขตพระราชฐาน อีกเหตุการณ์ที่พระตำหนักดอยตุง เชียงราย ก็เช่นกันขณะเดียวกัน เป็นที่รวมของพวกที่ต้องการทำลายสถาบัน เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน รัฐธรรมนูญฉบับหมอเหวงก็เขียนที่เชียงใหม่ คนพวกนี้มีแผนที่จะยกเชียงใหม่ให้เป็นเมืองหลวงแทนกรุงเทพมหานคร โดยมีการรื้อถอนบ้านเรือนจำนวนมากเพื่อขยายถนน มีเงินจำนวนกว่า 5 บัญชีอยู่ต่างประเทศ ไว้โอนให้ ส.ส.ไทยรักไทย ผ่านธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด นายสุชาติ นาคบางไทร ที่กล่าวจาบจ้วงก็อยู่ในกระบวนการนี้ เช่นกัน

ทักษิณต้องการอำนาจรัฐคืน พรรคร่วมรัฐบาลก็มองไม่เห็นภัยสงครามแสดงความก้าวร้าว และจัดประชุมที่เชียงใหม่ทำให้เชียงใหม่เป็นสัญลักษณ์ของเขตแดนนายสมชาย ทักษิณและกลุ่มตัวแทนที่ไม่สามารถสำนึกถึงความชอบธรรมที่แท้จริงในสังคมสั่งสมปัญหาต่างๆมากมายจนสถานการณ์ยุ่งเหยิงซับซ้อนไม่รู้เหตุและไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรและไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ สักแต่ว่ามีอำนาจรัฐก็จะยึดอำนาจนี้ไว้โดยไม่คำนึงถึงหลักรัฐศาสตร์ว่าด้วยเสียงข้างน้อยเสียงข้างมาก และความชอบธรรมที่แท้จริง พรรคการเมืองเฉพาะกิจอีก 5 พรรคเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งกระสันอำนาจ สมชายนั่นเองที่เอาแต่อ้างอยู่ฝ่ายเดียวตามใบสี่งจากทรราชว่าตนเองเป็นนายกฯ ที่มาตามระบอบประชาธิปไตยจึงต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่นายสมชายไม่เคยฉุกคิดบ้างเลยหรือว่าถ้าเป็นนายกฯ ต่อไปแล้ว บ้านเมืองต้องบรรลัยวอดวาย เสียหาย เสียโอกาส เมื่อนักการเมืองอย่างนายสมชายและพวกไม่ยอมสำเหนียก ปฏิบัติการยุติการใช้อำนาจรัฐเถื่อนก็คงจะไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ หากมหาวิทยาลัย สถาบันอุดมศึกษา สถาบันการศึกษาทั้งหลายคงประกาศยุติการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้ออกมาร่วมกับประชาชนเพื่อฟันฝ่าปัญหาวิกฤติชาติ หากนักการเมืองที่จะสั่งบรรดาทหารหาญทุกเหล่าทัพให้ไปสลายการชุมนุมแต่ทหารปฏิเสธการรับคำสั่งแต่กลับไปยืนควบคุมดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม จับตัวมันผู้ออกคำสั่งนั้นไปดำเนินคดีฐานพยายามฆ่าประชาชน ที่แล้วๆมาประชาธิปไตยของไทยเราใช้กันมาแบบผิด ๆ โดยนักการเมืองที่แสวงหาผลประโยชน์ ข้าราชการที่บ้าอำนาจ นายทุนที่เห็นแก่ตัว ที่ประชุมพูดกันเรื่องนี้หรือป่าว เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องนักเรียนยกพวกตีกันนะครับ จะเอาหัสหน้าสถานศึกษามาคุยกันหามาตรการแล้วก็จบข่าว ถึงเวลาก็เวียนมาตีกันใหม่ ทำยังไงก็ไม่สงบหรอกครับ ตราบใดที่มองเห็นชั่วเป็นดี มองเห็นผิดเป็นถูก มองดำเป็นขาว อย่างมากก็แก้ปัญหาเอาตัวรอดไปวัน ๆ แบบระบบราชการที่รักชาติโดยไม่ทำอะไรนอกจากนั่งน้ำลายไหลไปวัน ๆ ทุกวันนี้นักการเมืองเหล่านี้ทำตัวเป็นข้ารับใช้ทรราชนักโทษหนีคุกผู้มีพฤติกรรมจาบจ้วงกดดันอำนาจของสถาบันเบื้องสูงทำทุกอย่างเพื่อรับใช้ผลประโยชน์ทางการเมืองไม่เว้นแม้แต่ฆ่าประชาชนและขายอำนาจอธิปไตยของชาติ รับใช้ทรราช ใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของทักษิณและตนเองมากกว่าจะทำประโยชน์แก่ส่วนรวม หากบรรดาภาคธุรกิจเอกชนทั้งหลายร่วมกับประชาชนพร้อมใจกันปฏิเสธอำนาจรัฐโจรที่เข่นฆ่าและทำร้ายประชาชน ชะลอจ่ายภาษีจนกว่าโจรการเมืองจะพ้นจากอำนาจรัฐไปก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ช่วยรักษาประเทศชาติส่วนรวมมิให้โจรการเมืองนำเงินภาษีแผ่นดินไปทำร้ายชาติและรับใช้ผลประโยชน์ส่วนตัวของนักโทษหนีคุกได้อีกต่อไป

หากการระดมสมองผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว อธิการบดีมหาวิทยาลัย และผู้นำองค์กรอิสระต่างๆ เช่น ตรวจเงินแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้นมีวัตถุประสงค์ของการประชุมก็เพื่อจะหาทางแก้วิกฤตซึ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆได้มีการลงมติ 2 อย่าง คือ (1) ให้นายกรัฐมนตรียุบสภาฯ จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ (2) ให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสลายการชุมนุมประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ผบ.ทบ.ท่านบ่นว่าผิดหวังและเครียดมากลตรีอุดมเดช ทส.ของ ผบ.ทบ.ที่เชิญมาอย่างกะทันหันให้ไปร่วมประชุมเลยท่านดูแล้วแน่ใจว่ามีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าไม่เชื่อลองไปถาม ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์อาจารย์ของท่านดูเอง แล้วท่านผบ.ก็เล่าว่า มันจะมีประโยชน์อะไรที่เอาคนอย่างพล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้วและตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารประชาชน นักธุรกิจบ้าผลประโยชน์ไม่รู้จักคำว่าเสียสละ มีแต่จะเอาได้กับได้ กับบรรดาอธิบดีปลัดกระทรวงอำนาจนิยมสายเหยี่ยวซึ่งสามิภักดิ์ และรอคอยการกลับมาของอำนาจเก่า มติที่ได้จากที่ประชุมดูแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากจะแสดงความอ่อนด้อยไม่เข้าใจปัญหาของผู้จัดหรือไม่ก็ความไม่จริงใจต้องการสร้างปมให้ปัญหาหนักขึ้น ในขณะนี้สังคมทหารเองก็ไม่ต่างจากหน่วยราชการอื่นที่รับผลประโยชน์จากทรราช ทหารไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมืองในปัจจุบัน ทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็ยังไปตีกอล์ฟ ไปเฮฮากันตามปกติ เวลามีชุมนุมใหญ่ ในกรมกองมันจะจัดให้มีประชุมทุกวัน เพื่อสกัดไม่ให้ทหารที่มีอุดมการณ์ไปชุมนุม แล้วพวกเขาก็ตื่นเต้นที่จะเตรียมเดินสวนสนาม พวกทหารได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่สนใจว่าใครจะจาบจ้วงในหลวง การกระทำของพันธมิตรมันเหมือนการหักหน้าพวกเขาให้สังคมเห็นว่า พวกเขาสามารถแสดงขีดความสามารถในการปกป้องในหลวงได้อย่างเดียวและวันเดียวด้วยการให้คำปฏิญาณในวันสวนสนาม เสียงดังฟังชัด แต่พอพูดจบทุกอย่างก็หายไปอยู่ในสมองในส่วนของการท่องจำ หากกองทัพจำต้องยอมรัฐบาลเถื่อนในบางครั้งบางกรณีแต่ถ้าหากเมื่อใดกองทัพจัดฉากสมคบกับรัฐบาลเถื่อนอ้างความชอบธรรมผิดๆ กองทัพจะเป็นผู้หนึ่งที่สังคมไทยไม่ควรให้อภัย

พลันที่มีประกาศพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินโดยกำหนดพื้นที่ชัดเจนที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ โดยให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่สนามบินดอนเมือง และให้ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ทำไม รัฐบาลจึงเลือกใช้นายตำรวจทั้ง 2 นาย ประวัติและผลงานของทั้ง 2 บุคคล จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า "ตำรวจ"หรือ"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"จะเลือกใคร ระหว่างประชาชน กับทรราช พล.ต.ท.ฉลอง สนใจนรต.รุ่น 26 ขณะนั้นครองยศพล.ต.ต.ไปเป็นรองผบช.ภาค 7 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันตก ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นแหล่งที่ส่องสุมมือปืนมากที่สุดในประเทศ ทำงานสนองทักษิณปราบฝ่ายตรงข้าม แถมโกวิท วัฒนะยังปูนบำเหน็จให้ครองยศพล.ต.ท. ดำรงตำแหน่งผบช.ภ. 1 และได้รับการแต่งตั้งให้ควบคุมสถานการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เหตุการณ์ทุบตีประชาชนจากฝีมือตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าไปปิดหมายศาล ผลงานชิ้นโบแดงในครั้งนั้น ส่งผลให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้วนรต.รุ่น 26ที่มีชื่อไปเป็น ผบช.ก.กลับมาดัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และตัวเองขึ้นเถลิงเก้าอี้ ผบช.น.เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา!! แต่ผลงานอันอัปยศได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประชาชนเลือดตกยางออก และเสียชีวิต ในครั้งนี้ จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะพิสูจน์ตัวตนของพล.ต.ท.ฉลอง และพล.ต.ท.สุชาติว่า เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตัวจริง หรือเป็นผู้คอยพิทักษ์บัลลังก์ให้กับเพื่อนรัก ที่ตกอยู่ในสถานะนักโทษ หลบหนีคดีของศาลไทย

ความแตกแยกที่มีอารมณ์แค้นอย่างชัดเจนยากที่จะเจรจายุติการสู้รบได้หากมีการปะทะกันจนเป็นสงครามกลางเมือง คนเคราะห์ร้ายคือประชาชนผู้บริสุทธิ์เดินถนนม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมคนคนเดียวสามารถทำลายชาติได้รุนแรงถึงเพียงนี้ โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของตัวเองและของชาติ แต่ขอเพียงแสดงความพาลเกเรชนิดใครจะตายก็ช่างมัน หรือสงครามระหว่างคนไทยเกิดขึ้นก็ช่างมัน

http://naewna.com/news.asp?ID=133980 1
http://naewna.com/news.asp?ID=134513 2
http://naewna.com/news.asp?ID=135083 3
http://naewna.com/news.asp?ID=135766 4
http://naewna.com/news.asp?ID=133422 5
http://naewna.com/news.asp?ID=135765 6

ไม่มีความคิดเห็น: