เพื่อบรรลุถึงการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยการเผยแพร่ให้ความรู้ที่แท้จริงแก่ส่วนรวม
12 พฤษภาคม 2553
ยุบสภา ถามกูบ้างดิ
ตั้งแต่เดือนธ.ค.51 จนถึงวันเกิดเหตุรุนแรง 10 เม.ย. 53 15 เดือนเศษ ที่ฯพณฯ ขึ้นมาเป็นรัฐบาลทั้งหลายบกพร่องเรื่องการข่าวด้านความมั่นคงของชาติอย่างมากหรือไม่ก็ช่างเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ติดปลักของคำว่า " ไม่มีเขา เราก็ไม่มีหาง " อึปส์ "ถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล" ในวันนี้ ประสบการณ์เมษาเลือด 52 ไม่ได้สอนไม่ได้สั่งครั้งใหญ่ให้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รีบดับไฟเสียแต่ต้นลม กลับปล่อยให้พิษสงอันร้ายกาจของระบอบตักขี้งอกงามแล้วยังปล่อยให้ขบวนการล้มเจ้าเติบใหญ่ ปล่อยให้วิทยุชุมชนที่จาบจ้วงสถาบันขยายตัว
เพียงเพราะว่าเสื้อแดงที่มีความจัญไรเป็นสรณะได้เริ่มต้นออกมาประท้วง ชุมนุมกันอย่างสันติ มหิงสาเพียงเพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลและตักขี้ของตนเสียผลประโยชน์ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของระบบศาลยุติธรรมไปเต็มๆ เมื่อพรรคแดงแพ้โหวตในสภาเกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ตักขี้ก็เลยไม่สามารถแทรกแซงอำนาจศาลได้ อำนาจรัฐมันช่างหอมหวานเสียจริง แก๊งค์อันฑะพาลพวกนี้จึงพยายามจะแย่งชิงอำนาจรัฐ โดยแบ่งออกเป็นการจ่อสู้ทั้งในและนอกสภา กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาต้านรัฐบาลที่กำลังทำหน้าที่ ปกป้องอำนาจตุลาการ จัดการกับนักการเมืองโกงชาติโกงแผ่นดิน โดยแก๊งค์นี้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีการยุบสภา ชุมนุมสุมหัวกันไปตามอำเภอใจ เที่ยวไปเกะกะระราน ไปคุกคามผู้อื่น เกลี้ยกล่อมและกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว พยายามจะยกระดับความรุนแรงและความเสียหายต่อบ้านเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ มีกองกำลังติดอาวุธชุดดำลงมือปฏิบัติการใช้อาวุธสงครามร้ายแรงซึ่งยิงทั้งทหารและยิงคนเสื้อแดงด้วยกันเอง ด้วยแนวโค่นอำมาตย์ พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน สถาปนารัฐไทยใหม่ พอแกนนำเสื้อแดงนึกอะไรไม่ออกก็อ้างว่าทีพันธมิตรยังปิดสนามบินได้ เพราะฉะนั้นคนเสื้อแดงก็ต้องทำอะไรได้เหมือนกันและเป็นข้ออ้างลึกๆ ในความรู้สึกของคนเสื้อแดงจำนวนมาก โดยแกนนำเสื้อแดงนำความเท็จมาปลุกระดมชาวบ้านให้เกิดความโกรธแค้น ชิงชัง หรือขาดสติยั่งคิด ในลักษณะว่าเสื้อเหลืองทำอะไรก็ไม่ผิด
ข้อเท็จจริงแวดล้อมและข้อเท็จจริงภายในกระบวนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯและนปช.แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แกนนำเสื้อแดงสิ้นคิดใช้ข้ออ้างแบบแผ่นเสียงตกว่าพันธมิตรปิดสนามบินไม่เห็นมีความผิดอะไร เป็นข้ออ้างปัญญาอ่อน ไร้วุฒิภาวะและขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมอย่างน่ารังเกียจที่สุด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลที่จะช่วยคนโกง มีคดีความที่ต้องรับผิดชอบต่อการไปชุมนุมของตน แกนนำที่ถูกระบุชื่อในข้อกล่าวหาทุกคนได้เดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว กรณีที่บุกรุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีแนวร่วมพันธมิตรฯที่กระทำการต้องเข้าไปนอนในคุกเกือบหนึ่งร้อยคนและต้องหาเงินหาทองมาเป็นใช้ประกันตัวออกมาสู้คดี ในระหว่างการชุมนุมโดยสงบทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ อันธพาลคนเสื้อแดงของฝ่ายรัฐบาลและอาวุธสงครามต่างก็ได้มอบความรุนแรงให้แก่ผู้ชุมนุมของพันธมิตรฯ หลายครั้ง ถูกฆ่า ถูกทำร้าย ถูกสลายการชุมนุม
สำหรับแกนนำคนเสื้อแดงแล้ว "การยุบสภาเป็นแค่หมากตาแรก" ความต้องการซ่อนเร้นอื่นคือความพยายามที่จะผลักดันให้เกิดรัฐไทยใหม่หลังการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งใหญ่นั้นล้วนแล้วแต่โยงไปเกี่ยวข้องกับตักขี้ กินชะมัดทั้งสิ้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตักขี้เองไม่เคยออกมาปฏิเสธความเกี่ยวพันกับขบวนการเหล่านี้ ตักขี้ทำแค่ยืนยันว่าตนยังจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์แต่ไม่เคยออกมาชี้แจง ยิ่งหากวิเคราะห์คำว่าสงครามชนชั้น สงครามประชาชนกับการหลุดคำว่าปฏิวัติฝรั่งเศส ราชวงศ์โรมานอฟและ "ปฏิวัติบอลเชวิคของรัสเซีย"ออกมาเป็นระยะๆ จากแกนนำของ นปช. จากแนวคิดที่หลงเหลือจากอดีตพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ล้าสมัยและเป็นเผด็จการไม่น้อยไปกว่าระบบปัจจุบันด้วยการจับมือกับทุนนิยมสุดขั้วและนักฉวยโอกาสทางการเมืองย่อมจะไม่อาจจะกระทำได้เป็นอันขาด ประเทศไทยเป็นของทุกคนใครก็ตามอย่าได้อ้างจะสร้างรัฐใหม่เพียงเพื่อจะกลับมามีอำนาจทางการเมือง
ความพ่ายแพ้ทางการเมืองที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของแกนนำคนเสื้อแดงจึงกลายเป็นตัวเปิดช่องให้กับบรรดากองกำลังไม่ทราบฝ่ายและทราบฝ่ายทั้งหลาย พวกฮาร์ดดอร์ เถื่อน ถ่อย ดิบและหยาบ เข้ามากำหนดเกมมากขึ้นเรื่อยๆ การป้องกัน ควบคุมหรือการรับมือกับกลุ่มคนเหล่านี้มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องอดทน รอคอยกันไปอีก ไหนๆก็รอมาตั้ง 2 เดือนกว่าแล้วสังคมไทยต้องเผชิญปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหลายคนรู้สึกหดหู่ อึดอัด ไม่รู้เมื่อไรจะจบเสียที มาตรการกดดันต่างๆของรัฐบาลในการไล่ตะเพิดเสนียดแดงให้พ้นไปจากสี่แยกราชประสงค์ที่กินเวลานานหลายสัปดาห์แล้วยังไม่มีความสำเร็จใดๆอันเป็นรูปธรรมเลยแม้แต่เรื่องเดียว ปัญหาคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ไม่กี่พันคนที่รัฐบาลยังคิดไม่ตกว่าจะจัดการอย่างไรดี...นอกจากการปิดล้อมกดดันกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผู้รับผิดชอบอย่างจ่าเฉย ผู้การนิ่ง นายพลใจเย็นต่างก็รอคำสั่งจากผู้นำแหย จากหัวหน้ายามป๊อกแป๊กที่พร่ำแต่บอกว่า “ไม่ใช้กำลังสลาย” จะทำตามมาตรฐานโลก จากเบาไปหาหนัก หัวหน้ายามคงกลัวมือเปรอะ กลัวว่าผู้ก่อการร้ายตายหรือบาดเจ็บ แล้วปล่อยให้ชาวบ้านถูกกระทำ โดนย่ำยี พวกรับเคราะห์ถูกลูกหลงในบริเวณนั้นก็ให้ถือว่าเป็นเหยื่อที่ต้องยอมรับสภาพกันไป "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" เวลาชาวไทยส่วนมากขอบอกหัวหน้ายามป๊อกแป๊กว่า " ยามคุณถูกถีบตกเก้าอี้คุณก็แก้ปัญหาไปเองก็แล้วกัน " ก็ในเมื่อลูกชายยามไปกิ๊กกับลูกสาวหัวหน้าโจรกบถก่อการร้ายนี่ ทำอย่างไรได้เล่า
ในภาวะคับขันแบบนี้กลุ่มอำนาจใหม่ที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินยังมีความพยายามหลอกล่อให้พันธมิตรฯออกมาตามเกมส์ชั่วออกมาปะทะ ออกมาต่อต้านกองกำลังก่อการร้ายเสื้อแดงด้วยความหวังที่จะให้มีสถานการณ์การปะทะและความรุนแรงเพี่อที่จะนำไปสู่การนิรโทษกรรมทุกฝ่ายในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือกวาดล้างอุปสรรคทางการเมืองทุกฝ่ายให้สิ้นซาก กระทั่งวันนี้ตำรวจสีน้ำเงินอย่างสมยศ พุ่มพันธ์ม่วงได้ชงเรื่องให้ปทีปลงนามออกหมายจับ36 แกนนำพันธมิตรฯ อีกครั้งในคดีชุมนุมสนามบินทั้งๆที่มีการออกหมายเรียกไปรายงานตัวแต่ทุกคนก็ไป ไปเพื่อปฏิเสธที่จะรับทราบข้อกล่าวหาก่อการร้ายมาแล้ว นี่เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยไม่เข้าก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 135/1 ด้วยเพราะพันธมิตรฯรู้ทันเกมของกลุ่มอำนาจใหม่ในวันนี้จึงเปลี่ยนมาเป็นการปล่อยการชุมนุมของคนเสื้อแดงให้ยืดเยื้อ สร้างความรุนแรงและความเสียหายต่อบ้านเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ ใส่เกียร์ว่าง เพื่อกระชับอำนาจ สั่งสมเงินทองและเปลี่ยนฐานอำนาจรัฐใหม่ ยิ่งมีอนาธิปไตยโดยกลุ่มคนเสื้อแดงเกิดขึ้นนานวันเท่าใดนายกฯอภิสิทธิ์ก็ยิ่งแพ้ไข้ไปเท่านั้น
ภายใต้บรรยากาศในยุค อันธพาลครองเมืองเช่นนี้ชาวบ้านก็คอยเงี่ยหูฟังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการจัดการวิกฤติอย่างไร กลไกรัฐใกล้ล่มสลาย สภาพบ้านเมืองจ่ออยู่ปากเหวแห่งความเป็นอนาธิปไตย เมื่อเสื้อแดงกร่างคับประเทศ ตั้งด่านตรวจ รีดไถชาวบ้าน ไม่ชอบใจใครก็ลากออกมาซ้อม ยกระดับเป็นกบฏและกองกำลังก่อการร้าย ยึดกลางเมืองเป็นป้อมบัญชาการ สร้างโรงงานน้ำแข็งกลางเมือง จับชาวบ้านที่ถูกหลอกมาเอาไว้เป็นตัวประกันในโรงน้ำแข็งกลางถนนราชประสงค์แกนนำจิกหัวด่า ในแต่ละจังหวัดแกนนำคนเสื้อแดงพร้อมที่จะบุกเผาบ้าน เผาเมืองให้ฉิบหายวายวอดได้ทุกเมื่อ ฆ่าทหารกันสดๆ คาสี่แยกคอกวัว ลอบยิงวัดพระแก้ว ระเบิดคลังน้ำมัน บุกเข้ายึดโรงพยาบาลและหยามเหยียดหมิ่นเกียรติสถาบันเบื้องสูงทุกวัน มีการขยายเครือข่ายจาบจ้วงสถาบันอย่างรุนแรงตามสื่อต่างๆ กว้างขวางขึ้น ทั้งในประเทศและที่ต่างประเทศ มีการทำแผ่นซีดี.ตัดต่ออย่างสกปรกนับล้านแผ่น แจกจ่ายไปทั่ว เช่น บริเวณ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดลำลูกกา ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น และอีกหลายๆจังหวัดในภูมิภาค หลายแห่งมีจ่าฉิวมะเขือเทศกับจ่าไม่เฉยมะเขือเทศเป็นผู้แจกกระจายไปในหมู่คนที่ขาดข้อมูลข่าวสารและความรู้ที่ถูกต้อง ยิ่งนับวันความเลวยิ่งเพิ่มสูงขึ้นจนไร้ขีดจำกัดและก็ไม่เคยมีครั้งใดที่ผู้สมควรรับผิดชอบบ้านเมืองจะเพิกเฉยได้ขนาดนี้ คนเสื้อแดงกระหายเลือดรุมทำร้ายทหารและชาวบ้านบาดเจ็บคาโรงพยาบาล ได้ยกระดับความเถื่อนจนประชาสังคมขยะแขยงสุดทน รวมตัวกันลุกขึ้นต่อต้านกันทั้งบ้าน-ทั้งเมือง กบฏตักขี้เลยกลายสภาพเป็นโจรกบถแผ่นดินที่โดดเดี่ยวไม่มีใครอยากให้อยู่ร่วมแผ่นดิน แรกๆก็เข้าใจว่ายึดราชประสงค์เท่ากับจับกรุงเทพฯเป็นตัวประกัน แต่ที่ไหนได้พวกตัวเองกลับกลายเป็นถูกตำรวจ-ทหารรวมทั้งประชาชนปิดกั้นจะขยับขยายออกไปทางไหนก็ไม่ได้เหมือนควายติดคอก
แต่อยู่ๆเรดแมปเพื่อความปรองดอง 5 ข้อ-เลือกตั้ง 14 พ.ย.ของนายกฯอภิสิทธิ์ก็ได้ไหลโจ๊กออกมาโดยอ้างว่าเป็นการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มองค์กร คณะบุคคลต่างๆได้เสนอความเห็นทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาว่าจะเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองแบบยั่งยืน ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะถูกกดดันถูกตำหนิรอบทิศจนเบลอหรือเพราะป้อมกห.ที่เคยวิ่งหนีคนเสื้อแดงจนหางจุกมาแล้วและหัวหน้ายามอย่างป๊อกแป๊กที่ซื้อเวลามาตลอดภายใต้เสื้อสีน้ำเงินที่ใช้กลยุทธ์เลี้ยงไข้คนเสื้อแดงเอาไว้ฆ่านายกฯอภิสิทธิ์ ผู้คนหลายๆฝ่ายรวมทั้งพวกนักการเมืองเขี้ยวลากดินออกมามั่วนิ่มเละเทะจนนายกฯอภิสิทธิ์โดนไปหลายดอกกว่าจะตั้งหลักได้ การออกมาแจงต่อสังคม สมาชิกพรรค วุฒิสภา สื่อ ต่างๆ และอื่นๆทั้งยังขีดเส้นตายม็อบแดงตัดสินใจรับหรือไม่รับข้อเสนอรัฐบาลโดยหากรับการเลือกตั้งจะเกิดปลายปี แต่ถ้าหากไม่ตอบสนองรัฐจะเดินหน้าต่อไป ความผิดอาญาต้องดำเนินการตามกม.ไม่ให้นิรโทษกรรมความผิดไม่ว่าเรื่องก่อการร้ายหรือจาบจ้วงสถาบัน
ขนาดรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังเคยกล่าวแสดงความกังวลด้วยว่า “ผมไม่มั่นใจว่าระหว่างการหาเสียงจะยังมีความรุนแรงอยู่อีกหรือไม่โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่ความขัดแย้งกระจายอยู่ทั่วไป หากทีมหาเสียงของประชาธิปัตย์ไปปราศรัยที่จังหวัดอุบลราชธานีอาจจะมีระเบิดเอ็ม 79 มาเป็นเวทีทำให้คนของพรรคตายคาไมโครโฟนก็เป็นได้และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมจะขอสละสิทธิ์ไม่ลงเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องขอดูท่าทีแกนนำคนเสื้อแดงก่อนว่านอกจากจะรับโรดแมปของนายกฯ และจะให้การรับประกันได้หรือไม่ว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงระหว่างการหาเสียงอีก นอกจากนี้คนที่มีหมายจับจะต้องยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย”
เรดแหม็บๆ ทำให้สติกเกอร์“ยุบสภา ถามกูบ้างดิ”ของกลุ่มคนหลากสีต้องไร้ค่าหลังจากที่ได้รณรงค์กันอย่างหนัก หลังรัฐบาลประกาศปรองดองกับโจรกลุ่มก่อการร้ายล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ยอมจำนนกับการบีบคั้นกดดันของกลุ่มผู้ก่อการร้ายเหมือนตกลงเจรจาซื้อขายสินค้าประเทศชาติโดยที่ไม่เคยถามความรู้สึกของประชาชน ยอมจำนนให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงเลื่อนการยุบสภาและเลือกตั้งให้เร็วขึ้น แกนนำคนเสื้อแดงสายพิราบได้ยอมรับเรดแหม็บๆปรองดองแต่วาดลีลาอยู่หลายวันมาแล้วกว่าจะถอนสมอ แล้วเป็นไงการแอบไปคุยนอกรอบ ยอมรับอำนาจถ่อย คุยกับโจร หน้าแหกไปเป็นแถวๆเมื่อไม่มีสัจจะในหมู่โจรอยู่แล้ว บรรดาแกนนำฮาร์ดดอร์เถื่อน ถ่อย ดิบและหยาบบอกไปดิ มรึงตาย จะให้เลิกการชุมนุมที่ราชประสงค์ได้อย่างไรก็ในเมื่อยังไม่บรรลุเป้าหมายอะไรเลยสักอย่างสำหรับตักขี้ชาวมอนเตรเนโกรตัวนั้น ดังนั้นบรรดาแกนนำฮาร์ดดอร์จะปล่อยให้โล่ห์ไพร่แดงกลับบ้านไปทำไร่ไถนามือเปล่าๆไม่ได้ ต้องเก็บกวาดขยะในราชประสงค์ไปด้วยเอ้อม่ายช่ายต้องอยู่ต่อไป เป็นตัวประกันและเป็นเหยื่อ ที่จะล่อหรือกดดันให้รัฐบาลเข้ามาสลายการชุมนุมเพราะตักขี้อยากเล่มเกม 10 เมษายนอีกครั้งหนึ่งดีกว่าอยู่เปล่าๆ ทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศให้ย่อยยับ สร้างความแตกแยกในประเทศ เปลี่ยนแปลงการปกครองให้มากเข้าไว้แล้วคนจัญไรจาได้กลับมา
ในเรดแหม็บๆของนายกฯอภิสิทธิ์หากบรรลุข้อตกลงจะเป็นการกวาดขยะซุกไว้ใต้พรม หากไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายนำประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเป็นส่วนในข้อต่อสู้ทางการเมือง ผู้จาบจ้วงนั่นโดนเล่นแน่นอนแล้วฝ่ายที่ออกมาปกป้องเล่า โทรทัศน์และวิทยุชุมชนฝ่ายเสื้อแดงที่หยุดไปแล้วตามพรก.และพรบ.ก็จะถูกเปิดขึ้นมาปั่นบ้านป่วนเมืองอีกครั้ง ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสแวะเวียนเข้าไปดูก็ไม่สามารถดูต่อเนื่องได้เกิน 5 นาทีสักครั้ง ส่วนรายการที่สามารถสืบค้นความจริงได้และไม่สามารถปรองดองความดีกับความชั่วได้เช่นของอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อาจารย์เสรี วงษ์มณฑา แทนคุณ จิตต์อิสระ สันติสุข มะโรงศรี และ ฯลฯ ต้องถูกถอดหรือลดเวลาลงด้วยหรือรวมทั้งเอเอสทีวีต้องลดสีจากขาวเป็นเทาหรือดำไปด้วยเลยหรือไม่เพราะการต่อสู้กับความชั่วร้ายในสังคมเป็นอุดมการณ์ของเอเอสทีวี ถ้านายกฯอภิสิทธิ์ตามใจพรรคร่วมรัฐบาลที่มีนักการเมืองที่คิดจะนิรโทษกรรมให้ตัวเองกับพวกพ้นผิด พันธมิตรฯ เสื้อเหลือง เสื้อหลากสี ไม่สามารถรับแนวคิดนี้ได้ ประชาชนต้องมีต่อต้านรัฐบาลอย่างแน่นอน แผนการปฏิรูปประเทศและการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายกฯอภิสิทธิ์ก็ยังเป็นวุ้นจับต้องไม่ได้ไร้รูปธรรมอยู่เลย
ทันทีที่มีเสียงต่อต้านจากพันธมิตรฯ พรรคประชาธิปัติย์ก็ได้ระบุว่าพันธมิตรฯ คือกลุ่มการเมืองที่ไม่อยากเห็นความสงบสุขภายในบ้านเมือง มีคนกล่าวหาว่าพันธมิตรฯกระหายเลือด มีการกล่าวหาพล.ต.จำลองว่ากระหายเลือดเลิกถือศีลหันมาถือสาก มีสาวกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาแสดงความคิดเห็นโจมตีทันทีทันใด ใครที่ดูแล้วไม่ใช้สติก็จะมองว่าพันธมิตรฯชั่วร้ายเห็นแก่ตัว พล.ต.จำลองบอกให้สลายโดยการปิดล้อม 100% ไม่ให้ใครเข้า ตัดน้ำ ตัดไฟ ไม่เห็นว่าจะมีคนตายแล้วมือใครจะมาเปื้อนเลือดที่ตรงไหนกัน ก็ในเมื่อไอ้หัวหน้ายามไม่ทำงานดังนั้นม.ทภ.1ที่มีหน้าที่ตรงต่อภาคกลางก็สามารถประกาศกฏอัยการศึกได้ เรื่องมันจะได้จบๆไปถ้ามาดูกึ๋นม.ทภ.1 อาจจะไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อเลยก็ได้ พอนายกฯโดนแฉว่ามีข่าวรั่วไหลว่ามีการล้มมวยเจรจาลับกันโดยกลุ่มคนรอบๆตัวนายกฯอภิสิทธิ์ในช่วงที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ถูกคุกคามกอรปกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่กกต.ตัดสินยุบพรรคมีแนวโน้มสูงในห้วงเวลาไล่กับการเลือกตั้ง 14 พ.ย.ที่ว่าไว้ การต่อรองก็แกว่งไปแกว่งมา
ถ้านายกฯอภิสิทธิ์ที่แสดงออกว่านายกฯเองกำลังเป็นตัวกลางของปัญหาของคนสองกลุ่มในสังคม เป็นกลางในความขัดแย้งจึงไม่ได้จัดการกับปัญหาต่างๆ ปล่อยให้กำนันเทือกและกลุ่มอำนาจใหม่ใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศตอนนี้ ก็จึงสมควรแล้วที่นายกฯอภิสิทธิ์รับไม่ได้ที่จะต้องโดนปลดทางอากาศจากการยุบพรรคก่อนยุบสภาอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งในการทำเรดแหม็บๆขึ้นมา แต่ถ้ากกต.ลงมติให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์เพราะว่าเขาน้อยใจว่าพรรคนี้เป็นรัฐบาลแท้ๆ แต่พวกเขายังถูกขู่ฆ่าขนาดนี้ ไม่มีการมาดูแลชีวิตและทรัพย์สินของเขาเลยแม้แต่น้อย ประชาธิปัตย์ก็สมควรยุบมันไปเลยดีกว่า สงสารประเทศโคตรๆที่คนที่มีหน้าที่คิดกันได้แค่นี้
อาจจะเป็นไปได้ว่ารัฐบาลได้แสดงออกถึงความพยายามแยกปลาออกจากน้ำอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่อย่างไรๆประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย การประกาศเงื่อนไขเวลาการยุบสภาออกมาเช่นนี้ย่อมจะทำให้ข้าราชการและกลไกรัฐทั้งหมดใส่เกียร์ว่างเพื่อรักษาตัวรอดและอาจฝักใฝ่นักการเมืองที่จะเข้าสู่อำนาจรัฐมากขึ้น ข้าราชการคนใดอยากจะทำงานที่อาจจะกระทบนักการเมืองอย่างเต็มที่จึงย่อมใส่เกียร์ว่างไปเกือบทั้งหมดโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นที่อยู่ภายใต้อำนาจทางการเมือง คดีการก่อการร้ายและคดีล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เมื่อมีความเกี่ยวพันทางการเมืองก็พอคาดเดาได้ว่าจะไม่มีวันคืบหน้า หากเหล่าข้าราชการโดยเฉพาะกองทัพและตำรวจใส่เกียร์ว่างก็จะทำให้รัฐบาลอยู่ในสภาพเหมือนเป็ดง่อยที่กลายเป็นรัฐล้มเหลวนับถอยหลังรอวันพ้นจากอำนาจเท่านั้น ในระยะเวลาอันสั้นแค่ 4 เดือนครึ่งเรดแหม็บๆเป็นการผูกมัดตัวเองและผิดพลาดอย่างมหันต์ เช่นนี้แล้วนักการเมืองคนไหนจะมาสนใจที่จะมาปฏิรูปประเทศ แก้ไขปัญหาของชาติ สื่อในเครือคนเสื้อแดงทั้งหมด ทั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เว็บไซต์
วิทยุชุมชน สื่อสิ่งพิมพ์ก็จะหวนกลับมาปั้นน้ำเป็นตัวปลุกระดมประชาชนให้หลงเชื่อมากขึ้น สถานการณ์จะรุนแรง อำมหิต และเหี้ยมโหด ยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า นักการเมืองทุกฝ่ายแก้ไขกติกา รัฐธรรมนูญ และกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองกันเอง ระหว่างนี้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีได้เต็มปีและยังสามารถจัดสรรงบประมาณไว้กินไว้ใช้ในปีหน้าได้อีกด้วย
การปฏิรูปประเทศไทยไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าเลือก14 พ.ย.53 จริง แสดงว่ารัฐบาลต้องยุบสภาก่อนหน้านั้นรัฐบาลชุดนี้ต้องการผ่านการโยกย้าย-แต่งตั้งข้าราชการประจำปีไปให้ได้ รัฐบาลจะได้มีโอกาสตั้งคนที่ไว้ใจมาอยู่ในสองตำแหน่งนี้ทั้งตำรวจมีผลกับการเลือกตั้งมากๆ ในแง่ของการตั้งด่านตรวจการซื้อเสียง และการจับกุมการซื้อ-ขายเสียง ย้ายผู้ว่าฯย้ายนายอำเภอ ย้ายตำรวจ ย้ายข้าราชการ จัดงบประมาณลงพื้นที่ เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง กะจะใช้ทั้งอำนาจรัฐ และอำนาจเงินเอาชนะพรรคเพื่อไทยให้ได้มากที่สุด ความรุนแรงต่างๆ ระเบิด การวินาศกรรม จะสิ้นสุดจริงๆหรือ? การรวมตัวประท้วงขับไล่ ก่อให้เกิดความเกลียดชังกันจะหมดไปจริงหรือ? พรรคการเมืองต่างๆจะสามารถหาเสียงได้ในทุกพื้นที่โดยไม่มีคนมาก่อกวนได้จริงๆหรือ? ในเมื่อความจริง และความยุติธรรมต่างๆยังไม่ปรากฎ ความรักจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืดเยื้อยาวนาน คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการต่างๆที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามมาด้วยการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ทำให้กลุ่มอำนาจใหม่ได้ทีกระชับอำนาจ ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหารก็ย่อมจะต้องถูกครอบงำภายใต้อิทธิพลของกลุ่มอำนาจใหม่ ที่จริงแล้วการประกาศยุบสภาในครั้งนี้คือการซื้อเวลาเพื่อเตรียมเผชิญสถานการณ์ความรุนแรงยิ่งกว่านี้หลายเท่าหลังการยุบสภาคือการสถานปนารัฐไทยใหม่ดีๆนี่เอง
วันนี้เมืองไทยกำลังเผชิญกับสงครามจิตวิทยาครั้งใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตักขี้และบริวารใช้ทุกคนและทุกอย่างเป็นอาวุธ ใช้อย่างมีแผน ใช้กับคนทุกชั้นในสังคมและไม่จำกัดรูปแบบ ไม่มีกติกา ไม่เคารพกฎเกณฑ์ หลักศีลธรรมหรือจริยธรรมอย่างใดทั้งสิ้น เขาใช้สื่อทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง กว้างขวางและไม่หยุดยั้ง ใช้ทั้งสิ่งพิมพ์ ใบปลิว เครื่องขยายเสียง วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต และปากต่อปาก ทำการแพร่ข้อมูลข่าวสารโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม ไม่ว่าเป็นความจริงหรือเป็นเท็จขอให้เสียหายแก่ฝ่ายตรงกันข้ามได้เป็นพอ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการในพระองค์อื่นๆสถาบันพระมหากษัตริย์จึงถูกลบหลู่จาบจ้วง ใส่ความและให้ร้ายอย่างต่อเนื่องโดยรัฐธรรมนูญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงมีพระราชอำนาจและไม่ทรงอยู่ในฐานะที่จะระงับวิกฤตการณ์ใดๆ เว้นเสียแต่เมื่อวิกฤตการณ์นั้นถึงขั้นที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่จะใช้บังคับได้เท่านั้นจึงจะมีพระบรมราชวินิจฉัยได้ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การที่ศูนย์อิเหลี่ยเฉื่อยแฉะหรือศอฉ.ได้นำแผนผังโครงข่ายจาบจ้วงสถาบันที่ได้จัดทำกันอย่างเร่งรีบมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชนแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด ผู้ที่ไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการล้มเจ้าอย่างใกล้ชิดมาก่อน เส้นสายระโยงระยางบนกระดาษแผ่นเดียวใบนี้ ไม่ทำให้เข้าใจ เห็นภาพว่า ใครเป็นใคร ใครทำอะไร ส่วนผู้ที่เกาะติดสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ก็รู้ซึ้ง รู้ลึก รู้มากกว่าข้อมูลที่ศอฉ.นำมาเผยแพร่หลายเท่า แต่กระนั้นมันก็ยังทำให้คนบางคนตุ๊กแกบางตัวต้องร้องออกมา ในขบวนการล้มเจ้านี้มีความเคลื่อนไหวที่สลับซับซ้อน ทั้งปิดลับและเปิดเผย หลายระดับ หลายรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ บนดินและใต้ดิน มีทั้งที่ขึ้นเวทีอย่างเปิดเผยจาบจ้วงด้วยภาษาไพร่ มีทั้งที่แฝงมาในรูปวิชาการ แอบอิงอยู่กับทฤษฎี ปรัชญาความคิด บิดบังเจตนาอันแท้จริง ความคิดที่ไม่เคยเปลี่ยนบวกกับความต้องการที่ไม่เคยพอเป็นแรงผลักดันให้แสดงพฤติกรรมจาบจ้วง เหิมเกริม
จะดีไม่น้อยหากแผนผังโครงข่ายล้มเจ้าฉบับศอฉ.จะสร้างประโยชน์มากกว่าถ้าหากผู้ที่มีหน้าที่จัดทำจะแสวงหาข้อมูลเพื่อจัดทำคำบรรยายประกอบว่า ใครเป็นใคร ใครทำอะไร เพื่อใคร และมีคำอธิบายถึงภูมิหลังทางความคิด ผลประโยชน์ที่พึ่งพาอาศัยกัน ทั้งรัฐบาลและกองทัพซึ่งมีภาระหน้าที่พิทักษ์ราชบัลลังก์จะต้องตั้งใจจริงและทุ่มเทให้มากกว่านี้ ต้องระดมทรัพยากรที่มีอยู่และที่ต้องแสวงหาเพิ่มเติม เพื่อต่อสู้ทางความคิดและสร้างความรับรู้ที่ถูกต้อง ให้กับประชาชนจึงจะเป้นหลักประกันความมั่นคงของสถาบันได้
อย่างอดีตนายกฯหน้าปลาตีนชวลิต ยงใจยุทธที่ถูกประเสริฐ ทรัพย์สุนทรครอบไว้นั้นได้ชูและเผยแพร่คำว่าสภาเปรซิเดียมมานานมากแล้วที่มีเป้าหมายคล้ายคลึงกับความหมายของคำว่าปฏิญญาฟินแลนด์ที่ต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์มีบทบาทเสมอเป็นเพียงสัญลักษณ์ อดีตนายกฯหน้าปลาตีนคนเดียวกันนี้ยังเคยเสนอแนวคิดที่กระทบต่อสถาบันมาหลายต่อหลายครั้ง หนึ่งในลูกศิษย์ของประเสริฐ ทรัพย์สุนทรก็คือชูพงษ์ ถี่ถ้วนที่เป็นที่ปรึกษาของนิตยสารเสียงตักขี้ที่ผลิตรายการทางออกประเทศไทยที่มีเนื้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ซึ่งนอกจากเผยแพร่ทางเว็บไซต์แล้วยังถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล สุเทพเทือกเคยให้สัมภาษณ์ว่า “พ.ต.ท.ตักขี้คิดจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี” และอภิปรายซ้ำในสภาจนกระทั่งมีการฟ้องร้องต่อศาลซึ่งศาลก็ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาบอกว่า “การต่อสู้ของคนเสื้อแดงไม่ต้องการระบอบประธานาธิบดีหรือประชาธิปไตยที่มีนายทหารนอกราชการบงการการเมืองอยู่ตลอดเวลาแต่เราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก เบลเยียม” ด้วย
ในการปราศัยบนเวทีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์มีเจตนาที่จะทำให้สังคมเข้าใจว่าคนที่อยู่เหนือจากท่านผู้หญิงจรุงจิตต์คือผู้ที่สั่งการใช่หรือไม่ในสั่งการกดดันหัวหน้ายามป๊อกแป๊กให้สลายการชุมนุม “ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ” ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์นั้นคือ นางสนองพระโอษฐ์และรองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อดีตนายกฯหน้าปลาตีนก็ยิ่งทำให้คนไทยผู้จงรักภักดีเกิดความไม่สบายใจเป็นที่สุดจากการพ่นลมว่า “มีความพยายามของพวกเราที่จะไปกราบพระบาทด้วยตัวของพวกเราเองมาโดยตลอดเพียงแต่ว่าได้ทราบว่าพระอาการยังไม่ค่อยดี แต่วันนี้ทราบว่าท่านทรงพระสำราญขึ้นแล้วก็อาจจะมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม” ความเหิมเกริมของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการขอเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นหากแต่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันพวกเขายังแสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีเจตจำนงเพื่อโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
อย่างเช่นวารสารเสียงตักขี้เกี่ยวกับไพ่ 3 ใบว่า "ไพร่ตาสุดท้าย" และ "อำมาตย์อัสดง" หมายถึงใคร ? มากกว่าครึ่งของคณะผู้ผลิตวารสารนี้และคอลัมนิสต์ทุกคนเป็นสส. ไพร่เพื่อทักจึงแสดงว่ามีเป้าประสงค์ชัดแจ้งทางการเมืองในแนวทางเดียวกันด้วย (ทั้งหมดจึงได้มากระทำการร่วมกันให้กับตักขี้ที่แบ็คอัพอยู่ข้างหลัง) มีบรรณาธิการบริหารชื่อสมยศ พฤกษาเกษมสุขต้องหมายจับคดีหมิ่นฯ
นักเขียนประจำอย่างอีเพ็ญจักรภพ เพ็ญขา สส.หัวล้านสุรพงษ์ โตแล้วไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สหายจรัล ดิษฐาอภิชัยคอมฯหลงยุค สส.พลโทมะ โพธิ์งามที่เคยสาบานต่อหน้าธงไชยเฉลิมพลมาแล้ว สส.สุนัข จนหัวหงอกหมดแล้ว สส.สงวน พงษ์มณี สุธาชัย ยิ้มประเสริฐคอมฯหลงยุค อาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐอีกหลายตัวเช่นสุดา รังกุพันธ์ ธเนศ เจริญเมือง, จารุพรรณ กุลดิลกเมียสส.ไพร่ มีชูพงษ์ ถี่ถ้วน, สุรชัย แซ่ด่านวัฒนานุสรณ์คอมฯหลงยุค, หัวขวดวีระ มุสาไปวันๆ, สุทิน คลังแสง, สุวิทย์ ทองนวลเป็นที่ปรึกษา มีสุธรรม แสงประทุมคอมฯหลงยุคเป็นประธานบริหาร ส่วนในกองบรรณาธิการก็อีเพ็ญ, โฆษกจิรายุ ห่วงแค่ทรัพย์, จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ, ไชยวัฒน์ ตระการรัตนสันต์ ใช้กฤษฎา ใจสุวรรณ์, ชาคริต คงงามเป็นฝ่ายศิลปกรรม ฝ่ายสมาชิกก็มีเบญจา หอมหวาน, กับชรินรัตน์ อิงพงษ์พันธ์หลอกล่อชาวบ้านธนาธิป ชุมเกษียณเป็นช่างภาพ
การตัดสินใจรับตำแหน่งประธานไพร่เพื่อทักก็ยืนยันว่าอดีตนายกฯหน้าปลาตีน นช.ตักขี้แห่งมอนเตรเนโกร กลุ่มคนเสื้อแดงและไพร่เพื่อทักอยู่ในครอกเดียวกันมีความคิดเหมือนกันจนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษถึงกับกล่าวเตือนอดีตนายกฯหน้าปลาตีนว่า“ขอให้ไตร่ตรองให้รอบคอบเพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการกระทำที่เป็นการทรยศต่อชาติ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)