14 พฤศจิกายน 2551

เหตุการณ์ระเบิดทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้น / Late Bomb incidents in PAD's site

นายกฤตโชค จินดาพลที่อ้างตนว่าเป็นที่ปรึกษาของพล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์อดีตประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากองทัพไทยและเป็นนักวิชาการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้นำหลักฐานภาพถ่ายความเสียหายบนอาคารสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (ก.พ.) ที่ถูกแรงระเบิดในวันที่ 7 พ.ย.เวลา 03.00 น. ซึ่งประกอบด้วย

1) ภาพหลังคาพังไม้ที่ถูกแรงอัดระเบิดพร้อม
2) ภาพถ่ายชิ้นส่วนสเก็ดระเบิดชนิด M 5 ที่เป็นระเบิดเสียงและสเก็ดระเบิดชนิด M 79 ให้สื่อมวลชนดู

หลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อเช้าวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีการกล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯเป็นคนที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมาตนจึงเข้ามาฟังการปราศรัยในที่ชุมนุมและตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุระเบิดรายวันที่เกิดขึ้นในที่ชุมนุมต่อมาวันที่ 10 พ.ย. เวลา 03.30 น.ก็ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้งในพื้นที่ชุมนุมซึ่งห่างจากเวทีปราศรัยประมาณ 10 เมตร โดยเสียงดังมาจากบริเวณดาดฟ้าของตึก ก.พ. ตนจึงได้ขอรปภ.ของตึกขึ้นไปตรวจสอบบริเวณดาดฟ้าที่อยู่บนชั้น 4 พบว่ามีรอยเท้าคล้ายรองเท้าคอมแบ็ต โค้ก 2 กระป๋อง และขี้บุหรี่ที่เพิ่งดูดใหม่ๆ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของพันธิมตรฯ แน่นอน

วันที่ 11 พ.ย. ผมได้เข้าพบกับผู้ใหญ่ในก.พ. ท่านได้มอบภาพถ่ายความเสียหายบนตึกก.พ.วันที่ 7 พ.ย. ที่ผมนำมาให้สื่อดูเป็นสเก็ตระเบิดเสียงชนิด M 5 ที่ซ้อมยิง มีรัศมียิงได้ระยะไกลถึง 100 เมตรและสเก็ดระเบิดชนิด M 79 อันเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ตกบริเวณเต็นท์หน้าเวทีทำเนียบฯในวันที่ 10 พ.ย.โดยยิงจากที่สูงโดยใช้ปืนยิงชนิดเดียวกันและผู้ที่จะยิงปืนชนิดนี้ได้ ต้องเป็นหน่วยตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) หน่วยอรินทราช และ ทหาร แต่ผมไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นหน่วยใดแต่กระสุนที่ใช้เป็นอาวุธสงครามผมจึงเป็นห่วงผู้ชุมนุมที่ไม่รู้เรื่องและหากระเบิดครั้งล่าสุดที่ยิงมาไม่ติดเต็นท์ต้องมีคนตาย ไม่น้อยกว่า 1 – 2 คน

เหตุการณ์ระเบิดทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดชนิดเดียวกันที่ทำให้น้องโบว์ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิตซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับนายทหารคนหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวที่พร่ำว่าจะดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯซึ่งเรื่องนี้ได้ทำหนังสือรายงานการเกิดเหตุไปที่หน่วยงานกอ.รมน. แม่ทัพภาคที่ 1 และ สน.ดุสิตแล้ว

Kritchoke jindapol, works for Nation Security Center, showed his photos about PAD get bombed on Nov 7th. He informed orally M79 and M5 were used. On Nov 7th, he visited the PAD meeting place and followed up. The weapons' owner should be only related powered offices, e.g. police station, 191, and soldier. The weapons are the same as what police used and Angkana was killed on Oct 7th.

11 พฤศจิกายน 2551

เหตุการณ์ที่ถูกก่อกวน และลอบทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง

Updated on Loikrathong day --
**"เสธ.แดง"พูดเหมือนลงมือระเบิดเอง

ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเหตุระเบิดบริเวณสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เมื่อกลางดึกวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า เหตุระเบิดเมื่อเวลา 03.30 น.นั้น ตนบอกแล้วว่า เคยแจ้งเตือนและจะคอยรายงานข่าวสารให้พันธมิตรฯทราบ เรื่องแรกต้องขอบคุณลูกๆ ที่พาพ่อแม่ออกจากพื้นที่พันธมิตรฯ ภาพเมื่อคืนเห็นได้ว่า คนที่โดนเป็นสาวกของพระโพธิรักษ์ เป็นคนของสันติอโศกทั้งนั้น ส่วนคนที่โดนเริ่มเป็นผู้หญิงเริ่มเป็นประชาชน เพราะนักรบศรีวิชัยเป็นการ์ด เอาตัวรอดไปอยู่ในหลุมในบังเกอร์ หนีไปนอนนอกทำเนียบฯกันหมด

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ความจริงผู้ชุมนุมที่เวทีพันธมิตรฯมีไม่ถึง 20 คน แต่เอาภาพตัดต่อ ทำให้ตัดภาพเห็นเป็น 100 คนจะเห็นได้จากภาพตอนที่ระเบิดลงแล้ววิ่งหนีกันมีคนไม่ถึง 20 คน ต่อไปขอให้พันธมิตรฯเห็นว่า แม้แต่สารวัตรทหาร (สห.) ซึ่งเป็นทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะกองทัพบกใส่เสื้อเกราะลายพรางทุกคน ส่วนนักรบศรีวิชัย อยู่ในบังเกอร์ ส่วนสารวัตรทหารที่ไปรักษาการอยู่รอบพื้นที่ 200 เมตร ก็ใส่เสื้อเกราะ เห็นได้ว่าไม่มีความปลอดภัยอะไรเลยในที่นั้น ทำให้โดนลูกยาวยิงเข้าไป

"เสธ.แดง ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายให้ออกไปจากทำเนียบรัฐบาลก่อนวันที่ 14 พ.ย.ซึ่งมีงานรัฐพิธีระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.โดยขอให้ยอมจำนนปราศจากเงื่อนไข รีบส่งมอบทำเนียบฯให้กับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมโน รอง ผบช.น.แล้วให้ พล.ต.ต.อำนวย ติดต่อเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯมาตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ตั้งแต่สิ่งของสมัยรัชกาลที่ 3, 4 และ 5 ที่ระลึกจากประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีต่างๆ มอบให้รัฐบาล แม้กระทั่งเก้าอี้ของรัชกาลที่ 5 ที่ขาหัก ต้องเสียทรัพย์สิน เพราะพันธมิตรฯมีเงินบริจาคมากมาย หลังวันที่ 14 พ.ย.จะประกาศหยุดยิง แต่หลังวันที่ 19 พ.ย.นี้งานราชพิธีเสร็จสิ้นการทอดกฐินหลวงจะเกิดขึ้น กองกำลังไม่ทราบฝ่าย แก๊ง 47 โรนิน ซามูไรไร้สังกัดจะทอดกฐินหลวงเกิดขึ้นแน่นอน เพราะพันธมิตรฯขาดความชอบธรรม" พล.ต.ขัตติยะกล่าวเหมือนกับว่าเป็นคนวางแผนป่วนเมืองเสียเอง

**ตำรวจมั่วชี้ระเกิดเกิดขึ้นภายในทำเนียบ

เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.รุ่งเพชร เมธี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ได้นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเก็บหลักฐานวัตถุระเบิด โดยได้ตัดเต็นท์ผ้าใบ ซึ่งมีรอยไหม้จากวัตถุระเบิดเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเก็บชิ้นส่วนโทรทัศน์ที่ถูกสะเก็ดระเบิด นำไปตรวจสอบ

พ.ต.ท.รุ่งเพชร กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงไม่รู้ผลจะต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว คงต้องอาศัยเวลาสักพักหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงายอีกว่า หลังจากที่ใช้เวลาตรวจประมาณ 30 นาที กลุ่มเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้เดินทางออกจากนอกทำเนียบฯ โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯบางคนได้เข้าไปขอร้องกับเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวให้ทำงานตรงไปตรงมา และขอให้ทำความจริงให้ปรากฏ

ขณะที่ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ผู้เชี่ยวชาญจากกองกำกับการพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบจากภาพถ่าย ยืนยันว่าไม่ใช่ระเบิดชนิด M 79 ตามที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ อดีตคณะกรรมการที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทยระบุ เพราะหากเป็น M 79 ต้องรุนแรงมากกว่านี้ และจากการวิเคราะห์เชื่อว่าระเบิดเกิดจากภายในไม่ใช่ด้านนอกทำเนียบรัฐบาล

-------------------------------------------------------------------------------

ที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมกันอยู่นี้นั้น พันธมิตรฯทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญเพราะตามรัฐธรรมนูญระบุว่าบุคคลมีหน้ารักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ซึ่งพันธมิตรฯมีหน้าที่อันชอบธรรมตามกฎหมาย 100% แต่พันธมิตรฯต้องขับไล่รัฐบาลที่มาจากการโกงเลือกตั้งและมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะนั่นคือกลุ่มที่อาศัยการเมืองเก่าเข้ามาสร้างอำนาจ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ฉะนั้นการเมืองใหม่จะต้องให้คนดีขึ้นมาปกครองชาติบ้านเมืองซึ่งถือเป็นสาระสำคัญใหม่โดยยึดถือเอาพระบรมราโชวาทเป็นที่ตั้ง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผ่านเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้เท่ากับในหลวงและสมเด็จพระบรมราชินีนารถ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจึงได้รับการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีโดยจะเห็นได้จากนโยบายที่ทำขึ้นมานั้นสอดคล้องกับพระราชดำริซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะไม่ให้คนชั่วเข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศในอนาคตอย่างแน่นอนการเมืองใหม่เป็นสิ่งที่ประเทศของพันธมิตรฯต้องการ พันธมิตรฯต้องการการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และการนำเอาจริยธรรมดีๆของคนไทยที่เคยมีกลับมา ฉะนั้นพันธมิตรฯต้องดูแลพระมหากษัตริย์และแผ่นดินไทยดังนี้แล้วถ้ารักประเทศไทย ชูชาติไทยก็ขอให้ออกมาร่วมมือกันอย่างจริงจัง อย่ารีรออะไรอยู่ถ้าไม่อยากให้ประเทศต้องตกเป็นของทรราช สามานย์ พันธมิตรฯต้องเพิ่มแนวร่วมเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นรูปธรรมมีทางออกที่ชัดเจนมีการนำเสนอที่ชัดเจน ขอให้มั่นใจในการต่อสู้ อย่าได้ประมาทมีสติรอบคอบพันธมิตรฯกำลังต่อสู้กับความไม่รู้ของประชาชน พันธมิตรฯต้องสงวนจุดต่างเพื่อนำพาให้ถึงจุดมุ่งหมายที่ใหญ่ขึ้น การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นได้อย่างไรหากรัฐธรรมนูมฉบับปัจจุบันไม่ได้อำนวยให้นายกฯมาจากคนนอก รัฐบาลแห่งชาติสามารถจัดตั้งได้อย่างไร ใครจะเป็นผู้นำ เวลานี้ดูไม่ออกหรือว่าเวลานี้มันเป็นเรื่องความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องการเมืองและการชุมนุมที่ปักหลักมานานกว่า 160 วันว่าพันธมิตรฯสู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และถ้าไม่โง่จนเกินไปก็น่าจะรู้ว่าพวกเสื้อแดงมันทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์แถมยังมีการไปสนับสนุนการสานเสวนาเสียอีก พันธมิตรฯไม่ดันทุรัง แต่พันธมิตรฯมีเหตุผล ไม่ใช่ทำตามอารมณ์ หรือทำตามใครซึ่งไม่มีเหตุผลและพันธมิตรฯรักการเจรจาแต่ต้องเจรจากับฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงซึ่งการตกลงเจรจรานั้นสามารถทำได้ 3 วิธี คือ ใครที่ตั้งตนเป็นคนกลางก็ได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลและพันธมิตรฯ หรือวิธีที่ 2 รัฐบาลเจรจาโดยตรง และวิธีที่ 3 ตั้งใครมาก้อได้ ที่มีอำนาจตัดสินใจแทนรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรฯไม่ใช่ คนดื้อรั้น พันธมิตรฯรักการเจรจามานานแล้วแต่พันธมิตรฯต้องการเจรจากันผู้เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น การที่คณะสานเสวนาจะกราบเรียนให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรี มาเป็นประธานนั้นคาดการณ์เอาว่า พล.อ.เปรมไม่รับแน่นอน เหตุผลง่ายๆ เพราะว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ท้าย นปก.ที่ได้เอาคนไปบุกหน้าบ้านท่านเมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 ตั้งเวทีด่าท่าน 6 ชั่วโมงอย่างสาดเสียเทเสียซึ่งปัจจุบันนี้แกนนำนปก.ยังออกรายการทางเอ็นบีทีอยู่ทุกวันกับยังมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาลอีหหลายต่อหลายคน แล้ววันนี้จะให้ท่านเป็นประธานแล้วท่านจะรับได้อย่างไร อีกประการหนึ่งท่านเป็นถึงประธานองคมนตรี จะให้ท่านลดตัวลงมาเป็นประธานสานเสวนาได้อย่างไร

ในภาวะอันตึงเครียดเช่นนี้ พันธมิตรฯไม่อยากเห็นพี่น้องบาดเจ็บล้มตายอีำกอันเป็นรูปแบบการก่อการร้ายที่ชัดเจน ดังนั้นพันธมิตรฯต้องป้องกันตัวเองจะหวังพึ่งใครไม่ได้แล้วเพราะทหารและตำรวจเป็นพวกไอ้หน้าเหลี่ยมหมด พันธมิตรฯจะต้องจัดกองกำลังอารักขาที่มั่น ต้องช่วยเหลือกันและกัน ออกสอดแนม ใช้เรดาร์ กล้องวงจรปิด ทุกรูปแบบ ระบอบทักษิณทำลายความเชื่อดีๆของคนไทยลงไปแล้ว วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคณะถือว่าหมดสภาพลงไปเรื่อยๆเพราะประเทศไหนๆเขารู้มาโดยตลอดว่าอะไรเป็นอะไร ดังนั้นระบอบทักษิณจะต้องพังลงอย่างแน่นอน และเมื่อพันธมิตรฯชนะแล้วพันธมิตรฯจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ระบอบเก่าๆ กลับมาเพราะคนชั่วเหล่านั้นจ้องที่จะเข้ามาอยู่แล้ว ดังนั้นพันธมิตรฯต้องเข้มแข็งและไม่ทะเลาะกันเพราะไม่เช่นนั้นคนชั่วก็จะเข้ามาได้ ตัวปัญหาในขณะนี้อยู่ที่รัฐบาลในระบอบทักษิณถ้าออกไปทุกอย่างก็จะจบกลับบอกว่าตัวเองจะรักษาประชาธิปไตยทั้งๆ ที่การกระทำเป็นการทำลายนี่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหานอกจากการใช้เงินแล้ว ยังมีความพยายามไปปั่นหัวฟรีทีวี ที่ไม่ได้รายงานความจริง ถึงแม้จะพยายามทำออกมาให้เห็นทั้ง 2 ด้าน แต่ให้ความสำคัญกับ นปก.มากกว่า ช่วงที่ผ่านมามีการระดมผลคนเสื้อแดงได้มาหลายหมื่นคนแต่ก็ยังไม่ความพยายามต่อเนื่องไม่สิ้นสุดเพื่อเรียกร้องให้ทักษิณไม่ต้องติดคุกและต้องการให้ได้รับการนิรโทษกรรมส่วนกรณีที่มีความขัดแย้งกันเองเกิดขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุระเบิด หรือเหตุถูกลอบยิง อย่าเพิ่งไปทำลายหลักฐานรอบๆ จุดเกิดเหตุ เพราะต้องวิเคราะห์ว่าระเบิด หรือการกระสุนปืนที่ยิงเข้ามานั้น มาจากทิศทางไหน นั่นจะทำให้พันธมิตรฯจับคนที่ลงมือก่อเหตุได้ นอกจากนี้ยังมีคนร้ายบางส่วนที่พันธมิตรฯจับได้ตามคู
น้ำรอบทำเนียบฯ เป็นการพยายามเข้ามาข่มขู่ คุกคามผู้ชุมนุมให้หวาดกลัว แม้ว่าจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก็ยังสามารถเข้ามาได้ เชื่อว่าบุคคลที่ทำน่าจะมีความเชื่อมโยงกับคนที่เคยวางระเบิดบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ หรือสะพานอรทัย จนถึงขั้นเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม และคงจะได้รับค่าจ้างที่สูงมากขึ้นตามไปด้วย
การที่อำนวยโฆษกตำรวจที่บอกว่าพันธมิตรฯเหยียบกันขาขาดกันเอง แจ็กที่ขาขาดนั้นขาดมาก่อนแล้วพันธมิตรฯต้องไปเอารูปถ่ายมายืนยันว่าไม่ได้ขาดมาก่อน มาขาดตอนโดนระเบิด ไม่ว่าเรื่องแขนขาดของตี๋แล้วบอกว่ายังกำระเบิดอยู่เตรียมที่จะขว้างอยู่ มันสร้างสถานการณ์มาตลอดและมันคงมุ่งหน้าทำลายความชอบธรรมพันธมิตรฯต่อไป นับจากที่พันธมิตรฯได้รื้อเวทีปราศรัยบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์เหลือไว้เพียงแนวกั้นเป็นยางรถยนต์และแผงเหล็กได้กลายเป็นการเปิดช่องให้มีการลอบทำร้ายและก่อกวนการชุมนุมของพันธมิตรฯ มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. วันแรกที่มีการเปิดเส้นทางจราจรบริเวณสะพานมัฆวาน ในช่วงบ่ายขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ กำลังรื้อเต็นท์ ได้มีคนร้ายขว้างประทัดยักษ์ออกจากรถตู้สีขาวเข้าใส่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ต่อมา 30 ต.ค. เวลา 03.20 น.คนร้ายขว้างระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวาน ทำให้การ์ดได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 คน บาดเจ็บรุนแรงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระ 6 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน และจนถึงขณะนี้ยังคงอยู่ในห้องไอซียู 1 คน และในเวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายได้ปีนแนวกั้นของตำรวจด้านหลังบช.น.แล้วยิงปืนเข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ บริเวณใกล้สี่แยกมิสกวัน จนต้องมีการตอบโต้ และในตอนเช้าพบชายชุดดำนอนเสียชีวิตอยู่ข้างกำแพง บชน.โดยในวันเดียวกันนั้นคนร้ายได้ปาระบาดเข้าใส่บ้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญด้วย จากนั้นเมื่อ 31 ต.ค. เวลาประมาณ 02.00 น.คนร้ายนั่งรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน 4444 โยนระเบิดควันใกล้สะพานมัฆวานฯ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจอ้างว่าเป็นแค่ประทัดเล็กๆไม่มีการปาระเบิด และเชื่อว่าเป็นการก่อกวน

2 พ.ย.เวลาประมาณ 02.00 น.กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ขับรถเก๋งเข้ามายังบริเวณสะพานมัฆวาน และชูนิ้วกลางให้การ์ดพันธมิตรฯ แล้วยิงปืนเข้าใส่ หลังจากนั้นพยายามขับรถหนีแต่ถูกสกัดจับไว้ได้ 4 พ.ย.เวลาประมาณ 02.00 น.มีเสียงระเบิดบริเวณเชิงสะพานอรทัย ห่างจากแผงเหล็กกั้นบริเวณชุมนุมของพันธมิตรฯ เพียง 3 เมตร 7 พ.ย. เวลาประมาณ 01.00 น.เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านฝั่งหน้าตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และบริเวณถนนเรียบคลองผดุงกรุงเกษม เวลาประมาณ 04.00 น.มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณถนนข้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดกับ โรงเรียนเบญจมบพิตร ต่อมา มีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด บริเวณถนนอีกด้านของคลองตรงข้ามกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ พันธมิตรฯได้เตรียมการหลายอย่างให้การชุมนุมปลอดภัยและสงบ แต่ที่ผ่านมาก็มีความพยายามตลอดเวลาในการก่อกวนซึ่งเมื่อวานพันธมิตรฯตรวจสอบและจับได้ 1 คนรีดจนได้ข้อมูลเยอะมากและสารภาพมาหมดว่าใครจ้างมาเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นบอกให้รู้ว่านี่คือบ้านป่าเมืองเถื่อนภายใต้รัฐบาลโจรและรับใช้โจร เขาไม่ทำอะไร คิดเพียงช่วยพี่เมียของเขาทุกอย่าง วันที่ 8 พ.ย. เวลา 04.40 น.เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดเข้าใส่เต็นท์นอนในที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ บริเวณเต็นท์นอนนักรบอิสระ 9 ของนักรบศรีวิชัยซึ่งอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรีเยื้องเวทีชุมนุมประมาณ 250 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 10 ซม. กว้าง 20 ซม. และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 รายมีการระบุว่ามีการขัดแย้งกันภายในกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้ามีการขัดแย้งกันจริงๆ ก็ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ เพราะจะทำไปเพื่ออะไรไม่เกิดประโยชน์ต่อพันธมิตรฯเลย คนที่มีความขัดแย้งกับพันธมิตรฯมีเพียงฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น หลังจากที่เกิดเหตุก็ได้มีบุคคล 2 คนได้อ้างตัวว่าเป็นหน่วยงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กรอ.มน.) เข้ามาขอสอบปากคำผู้บาดเจ็บแต่เมื่อพันธมิตรฯ ขอตรวจสอบว่ามาจากหน่วยงานดังกล่าวจริงหรือไม่บุคคลทั้ง 2 กลับรีบหนีไป วันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สามเสน เพิ่งจับกุมนายธนิตและนายวัฒนาพบของกลางระเบิดน้อยหน่า 3 ลูก ระเบิดปิงปอง 22 ลูก กระสุนปืนลูกซอง 4 นัด หนังสติ๊ก 2 อัน ลูกแก้วและหัวนอต จำนวนกว่า 20 ลูก มีดพกยาวประมาณ 10 นิ้วผ้าพันคอสีเหลืองที่เขียนว่า "กู้ชาติ" บัตรเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เขียนว่า "กองทัพธรรม" เลขที่ ช.153 จ.32 ที่เขาระบุว่าการ์ดกองทัพธรรมเป็นความพยายามที่จะโยงให้เห็นว่า กองทัพธรรมซึ่งเกียวกับพล.ต.จำลองทั้งที่คนจากกองทัพธรรมส่วนมากกินแต่ผัก เรื่องอาวุธพวกนี้ไม่ต้องพูด ไม่มี กลับบอกว่าการ์ดกองทัพธรรมพกระเบิดตั้ง 8 ลูก มันน่าเชื่อแค่ไหน ที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ทำตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด บางทีที่เกิดเหตุอาจเป็นบางกลุ่มที่แฝงตัวเข้ามาทำให้เกิดความวุ่นวายแล้วอ้างว่าเป็นการ์ดพันธมิตรฯเสมอ กรณีดังกล่าวพันธมิตรฯไม่ได้ปัดความรับผิดชอบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่การ์ดของพันธมิตรฯ แต่พันธมิตรฯมีหลักฐานชัดเจนว่าได้ให้ออกจากการเป็นการ์ดไปแล้วก่อนหน้านี้กว่า 10 วันแล้ว ที่เขาทำอย่างนี้เพราะอะไรก็เพราะว่าเคยมาเขวี้ยงมาขว้างระเบิดเอาเอ็ม 79 มายิงพันธมิตรฯที่อรทัย มาแอบมาขว้างที่สะพานมัฆวาน มาแอบมาโยนใกล้ๆ ทำเนียบภายในนี้ ก็เลยต้องแก้เขินว่าพวกพันธมิตรฯ กองทัพธรรมก็มีระเบิด มีตั้ง 8 ลูกแต่มันจับได้ สองวันก่อน 10 พ.ย. ที่หน้าบ้านพิษณุโลก รองสวป.สน.นางเลิ้งพร้อมสายตรวจ 10 นายออกตั้งด่านฯพบรถแท็กซี่สีเขียว-เหลืองมุ่งหน้าจากทางแยกยมราชมุ่งตรงมายังจุดตรวจ เจ้าหน้าที่สังเกตว่าคนขับมีท่าทีพิรุธจึงขอดูใบขับขี่และพบว่าข้างประตูฝั่งคนขับพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก มีดพับ 1 เล่ม ท่อนเหล็กกลมยาวประมาณ 80 ซ.ม. 1 อัน และบัตรอาสาสมัครการ์ดพันธมิตร 9 ใบซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากว่าคนหนึ่งคนจะต้องมีบัตรประจำตัวมากขนาดนั้น ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกันขณะที่ตำรวจร่วมกับสารวัตรทหาร (สห.) ตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณปากซอยลิขิตถนนศรีอยุธยาพบรถกระบะอีซูซุขับมาอย่างมีพิรุธ เนื่องจากมีชายวัยรุ่นหลายคนอยู่ในรถจึงขอตรวจค้น ผู้ขับขี่พร้อมเพื่อนโดยสารมาในรถ 7 คนพบว่ามีอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระ บอกพร้อมเครื่องกระสุน .38 อีก 13 นัด อาวุธมีด 2 เล่ม สายคาดเอว 1 เส้น และผ้าคาดศีรษะมีข้อความ"กู้ชาติ" 1 ผืนซ่อนอยู่ เช้านี้ 11 พ.ย. เมื่อเวลา 03.25 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณเต็นท์ของพันธมิตรฯซึ่งห่างจากเวทีปราศรัยเพียง 50 เมตร เท่านั้น พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรสุข อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ลักษณะของระเบิด น่าจะเป็นเครื่องยิงระเบิดวิถีโค้งโดยมีระยะยิง 150 เมตรซึ่งถูกยิงมาตกลงกลางหลังคาเต็นท์ โดยระเบิดลูกดังกล่าวตกลงมาตรงที่มีคนนอนยู่พอดี ต่อมาเวลา 04.30 น.รายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยพร้อมอาวุธสงครามได้ที่ซอยลิขิต สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้พร้อมอาวุธปืน บีบีกัน ซึ่งใช้ในเกมเพ้นท์บอล ดังนั้นพล.อ.ปฐมพงษ์เสนอแกนนำพันธมิตรฯ ให้เขียนรายงานสรุปสถานการณ์เพื่อมอบให้กับ ผบ.ทบ.เกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นเกิดขึ้นเหมือนกันทุกวัน โดยตนจะยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเชื่อมโยงกับทหารบางคนและที่ยังเกิดเหตุร้ายขึ้นมาได้อีกนั้นย่อมสะท้อนถึงความอ่อนแอของหน่วยงานของตำรวจและทหารต่อจากนี้ไป ทางการจะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.ซึ่งมีอำนาจทาง กอร.มน. ซึ่งสามารถใช้มาตรการเข้าไปดูแลสถานการณ์ได้ดีมากกว่านี้ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่ถูกก่อกวน และลอบทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว ขณะที่นายทหารนอกแถวบางคนยังข่มขู่จะมีการยิงระเบิดเข้าใส่ที่ชุมนุมพันธมิตรฯ อยู่ทุกวัน ตำรวจบิดเบือนกล่าวหาพันธมิตรฯ ไม่ยอมเปิดเส้นทางเสด็จ ทั้งที่พันธมิตรฯได้ประกาศนานแล้วว่าจะเปิดช่วง 14
-19 พ.ย.เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม แต่ตำรวจไม่ยอมฟังเหตุผลอ้างต้องเปิดก่อน 1 สัปดาห์อ้างว่าเพื่อให้มีเวลาปรับภูมิทัศน์ แถมปล่อย"นรกป่วนกรุง"ปาระเบิดใส่นับครั้งไม่ถ้วน ล่าสุดมีการเปลี่ยนเส้นทางเสด็จแล้วมีข่าวว่าจะมีการใช้เส้นทางเสด็จทางด้านถนนหลาน
หลวงแล้ว และตำรวจก็น่าจะรู้แล้ว แล้วยังมาให้ข่าวว่าพันธมิตรฯ ไม่ยอมเปิดเส้นทางอีกกลับยังออกข่าวใส่ร้ายพันธมิตรฯ อีก ถ้าพันธมิตรฯกลายเป็นเหยื่อ นปก.ใครจะรับผิดชอบชีวิตพันธมิตรฯ เพราะตำรวจมีแต่ช่วยให้ชีวิตพันธมิตรฯแย่ลง
โปรดอย่าลืมว่า...ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ตุลา หรือที่ผ่านมายังไม่ได้รับการเยียวยาและเหลียวแล หากแต่ปาหี่ในคณะกรรมการตรวจที่ก่อตั้งเพื่อลดแรงเสียดทานในสังคมที่มีแนวโน้มว่าจะแห้วหาตัวคนสั่งการไม่ได้ นับไม่ถ้วนที่พันธมิตรฯต้องเจ็บช้ำน้ำใจเพราะผู้พิทักษ์สันติราษฎร ที่ไม่ได้คงไว้ทั้ง "สันติ" และ พิทักษ์ "ราษฎร" เพราะยังคงถูกลอบกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า การรายงานข่าวที่บิดเบือนของสื่อ เพื่อเอื้อคุณประโยชน์ให้กับรัฐบาล และความคั่งแค้น ที่ไม่สามารถพึ่งพาทหารหาญเมื่อยามถูกรังแก ไม่รู้ว่าพันธมิตรฯจะอโหสิอหิงสาได้อีกนานสักเท่าไหร่ หากจะมีสักวันสักวันพันธมิตรฯจับอาวุธกับลุกขึ้นสู้ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็คือผบ.เหล่าทัพทั้งหลายที่นิ่งดูดายไม่แก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นทั้งๆที่ยังสามารถกระทำได้ พันธมิตรฯรู้ดีว่าการปฏิวัติส่งผลเสียให้กับชาติแต่จะมีใครได้วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าหรือเปล่า พันธมิตรฯไม่ได้เรียกร้องให้ท่านทำการปฎิวัติรัฐประหารพร้อมทั้งคาดหวังว่าจะมีใครสามารถลุกขึ้นทำอะไรก็ได้ที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ไขวิกฤติชาติครั้งนี้

10 พฤศจิกายน 2551

nov 14-16, 08 - national mourning

“เวรกรรมมีจริง ไม่ต้องรอชาติหน้า” - People has to take his/her responsiblity on what he/she did

ขนาดถูกรัฐประหารไปผ่านมา 2 ปีกว่าข่าวของนทช.ทักษิณไม่เคยหายไปจากหน้า 1 หนังสือพิมพ์หน้าจอโทรทัศน์และหน้าปัดวิทยุเลย  ช่วงที่นทช.ทักษิณกำลังเดินสายหาเสียงครั้งแรกไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมของนทช.ทักษิณอดืตนายกฯที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะกลายเป็นคนไร้แผ่นดินอยู่เปรียบเหมือนพลุไฟในเทศกาลยี่เป็งที่ถูกจุดขึ้นจนสว่างไสว ไม่เฉพาะประเทศไทยแต่ดังขจรขจายไปทั่วโลกแต่น่าเสียดายที่ไม่นานแสงไฟก็ดับลง ในช่วงของการพลัดถิ่น ทักษิณใช้เวลาส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร เขายื่นขอลี้ภัยซื้อบ้านในเซอร์เรย์และซื้อทีมฟุตบอลแต่ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับการติดคุกหากเดินทางกลับไทย ขณะเดียวกันมหาเศรษฐีโทรคมนาคมยังใช้เวลาบ่อยครั้งในฮ่องกง การจัดโชว์คอนเสิร์ตการเมืองในวันดังกล่าวประสบความล้มเหลวและเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่นทช.ทักษิณ นอกจากเป็นการผิดหลักกฎแห่งกรรมจัดเป็นมิจฉาทิฐิอย่างหนึ่งแล้วยังเป็นการกระทบต่อระบอบนิติรัฐและขื่อแปของบ้านเมืองอย่างรุนแรงอีกทั้งยังเป็นการเปิดเผยโฉมหน้าที่ทายท้าต่อฟ้าดินและทำให้คนไทยส่วนใหญ่ซึ่งจะมีวิบากกรรมที่ร้ายแรงถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นอนันตริยกรรมต่อแผ่นดิน    เมื่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นไม่อาจทำได้เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติห้ามไม่ให้ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของคนเพียงคนเดียวหรือคณะเดียว    เช่นนั้นจึงเหลือหนทางอาศัยพลังของประชาชนซึ่งคนไทยกำลังเข้าใจว่านี่คือการประกาศทำสงครามประชาชนเพื่อพลิกดินคว่ำฟ้าหวังกลับเข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นอนันตริยกรรมอย่างหนักและไม่มีหนทางที่จะเกิดความสำเร็จได้เลย 

2 years after flowers coup d'etat in 06, Prisoner Thaksin has never get losen his news in several media. The most favorite priminister gets big vote like a firework which is burned lightenned shortly around the world and went into the dark.  He almost spent his life in UK and sometimes in HK. However his last concert made him in danger and tells Thais his thinking.
      
ล่าสุดกรณีรัฐบาลอังกฤษสั่งเลิกวีซ่าเข้าประเทศของนทช.ทักษิณและพจมารภริยาที่ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ชัดแจ้งว่านทช.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน พำนักอยู่ประเทศใดแต่กรณีรัฐบาลอังกฤษซึ่งถือเป็นประเทศแม่บทของการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ให้โอกาสนักการเมืองมากมายจึงได้ประกาศความชัดเจนออกมาด้วยการถอนวีซ่าเข้าประเทศเป็นเรื่องที่น่าคิดมากเราเคยได้ยินข่าวอดีตผู้นำของหลายประเทศทั้งมีประวัติโกงกินคอร์รัปชั่น ทั้งเป็นพวกจอมเผด็จการ หนีมาลี้ภัยอยู่อังกฤษมากมายแต่ไม่เคยมีข่าวว่าถูกถอนวีซ่า   วีซ่า (Visa) คือ ใบอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ   ดังนั้นการจะออกวีซ่าหรือระงับวีซ่าหรือยกเลิกวีซ่าที่ให้แก่บุคคลใดๆ จึงเป็นอำนาจเต็มของรัฐบาลประเทศเจ้าของวีซ่า การจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศเป็นอำนาจอธิปไตยพื้นฐานของทางการแห่งประเทศนั้นๆ และทางการอังกฤษไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลในการตัดสินใจของตนเองประกอบกับใครก็ไม่สามารถจะไปฟ้องร้องต่อรัฐบาลอังกฤษได้  หากทางการอังกฤษทำการเพิกถอนวีซ่าของนทช.ทักษิณและพจมารในขณะที่บุคคลทั้งสองยังอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษก็จะคงเกิดความยุ่งยากในขั้นตอนกระบวนการอย่างมากหากส่งกลับประเทศไทยก็เท่ากับส่งกลับมาติดคุกถ้าส่งตัวไปประเทศอื่นซึ่งหากเป็นประเทศที่ทำให้ทางการไทยลำบากทางการอังกฤษจึงเลือกเพิกถอนวีซ่า นทช.ทักษิณในช่วงจังหวะเวลานี้    พิจารณาดูแล้วกันว่าขนาดประเทศอังกฤษกลับไม่ต้อนรับนทช.ทักษิณ แล้วและอังกฤษคงจะไม่พิจารณายกเลิกเพื่อหักหน้าตัวเอง  อาการของพวกชนบทกำลังอยู่ในอาการมึนงงสงสัยว่าทำไมคนที่เขานิยมชื่นชอบถึงจ่อที่จะติดคุกฉะนั้นถ้าใครไปให้ข้อมูลให้พวกเขาหายสงสัยเขาก็จะลุกขึ้นสู้เพื่อ ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ร่วมกัน    ฉะนั้นนักการเมืองสัมภเวสีคนนี้มีแนวโน้มจะไปอยู่ตามตะเข็บชายแดนเหมือนนายพอลพต, เฮงสัมรินอดีตผู้นำกัมพูชาเคยทำเพื่อสงครามประชาชนรูปแบบใหม่กำลังจะเกิดการแย่งชิงประชาชนภาคชนบทเพราะถ้าใครแย่งชิงได้มากกว่าฝ่ายนั้นก็จะได้รับชัยชนะ ถึงขนาดนี้แล้วบรรดาสมุนทาสของทักษิณที่เคยเชื่อตามนายที่ชอบอ้างว่าประเทศอังกฤษเป็นแม่แบบพ่อพิมพ์ประชาธิปไตยน่าจะได้สติว่าประเทศที่เป็นพ่อแบบแม่พิมพ์ประชาธิปไตยเขารับไม่ได้กับพฤติกรรมของคนอย่างทักษิณและมีวุฒิปัญญาพอที่จะเลิกเป็นอเวไนยสัตว์ทางการเมือง คำทำนายและคำสาปแช่งของคนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินที่ว่า "คนโกงจะไม่มีแผ่นดินอยู่" ใกล้เป็นความจริงขึ้นทุกวันแล้ว 

The Visa cancellation cause he and his wife get in trouble. even England the template of Democracy, expressed itself with its own fullright to do that. The operation done during Thaksin's absent, made it easy to prevent its possible problems.  Thais who were pretended by him are in confusion now why his p.m. get cancelled his Visa. There is some thinking about Thaksin, he would probably make his guerilla bands on Thailand border in several places. However This is warning to his roots, to understand that almost Thais can not accept Thaksin's action(s) today.  There are several fortune forecasts about Thaksin, he is possible to have no land for even living.

มีคำถามว่าแล้วนทช.ทักษิณ จะไปอยู่ไหน    จึงมีความเป็นไปได้ที่นทช.ทักษิณอาจเดินทางไปจีนหรือฟิลิปปินส์  ฟิลิปปินส์รายงานว่าเป็นเพียง “ข่าวลือ”ว่านทช.ทักษิณซึ่งกำลังหาที่พักอาศัยใหม่นี้    การที่นายกฯสมชายเยือนฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้จึงทำให้ “ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้” ที่นทช.ทักษิณจะมาที่กรุงมะนิลา นอกจากนั้นฟิลิปปินส์ก็จะไม่ใช่เป็นทางเลือกที่ฉลาดที่นทช.คนนี้จะใช้เป็นที่ลี้ภัยเนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นเพื่อนบ้านและก็เป็นพันธมิตรของประเทศไทย   เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสูดและกระทรวงต่างประเทศตาบอดดังนั้นอธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศระบุว่าการดำเนินการต่างตอบแทนในกรณีประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นเรื่องทำได้ยากเพราะเป็นการขอความร่วมมือ     ส่วนนายสมชาย วงศ์สวาทนายกฯและรมว.กลาโหมปฏิเสธที่จะกล่าวถึงประเด็นดังกล่าวและบอกอีกว่าที่ไปฟิลิปปินส์ในช่วงนี้ก็เพราะผู้นำประเทศใดว่างวันไหนตรงกันก็เดินทางไปไม่เกี่ยวกับการที่นทช.ทักษิณจะไปและปฏิเสธจะตอบคำถามว่าจะพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางทางการทูต(พาสปอร์ตเล่มแดง) ของนทช.ทักษิณหรือไม่อย่างไร    พฤติกรรมที่เพิกเฉยของนายสมชายและรัฐบาลหุ่นเชิดของเขาเป็นเรื่องที่ “น่าอับอาย-วิปริตที่สุด” อังกฤษที่รัฐบาลมีอิสระในการตัดสินใจว่าจะให้ใครเข้าหรือไม่เข้าประเทศจะให้ใครลี้ภัยหรือไม่ก็ได้ยังมีท่าทีเช่นนี้ต่อนักโทษหนีคดีของไทยในขณะที่รัฐบาลไทยกลับไม่ทำอะไร  รัฐบาลหุ่นเชิดสมชายก็ยังดื้อตาใสดึงเกมอุ้ม"นายใหญ่ผู้นำตัวจริง"โดยไม่ยอมยกเลิกพาสปอร์ตแดงหรือพาสปอร์ตการทูตของนักโทษหนีคดีคนนี้กลับปล่อยให้เป็นสัมภเวสีทางการเมืองเที่ยวเรร่อนสร้างความเสียหายแก่ประเทศไทยได้อย่างอิสระเสรีทั้งๆที่เป็นผู้ร้ายข้ามแดน  

The question is so where does he live? It is possible that he would probably live in Philipine or China. However Philipines's Foreign Affair office infroms his flee difficulty in Philipine. Philipine is one of ASEAN's members with a lot of treaties. Somchai, his brother in law, ignores about his trip to Philipine is official and Thaksin's passports' removal. International acted on Thailand's ignorance, so what is the bad government.

พรรคประชาธิปัตย์จึงโต้อัยการล่าตัวแม้วง่ายขึ้นถือว่าเป็นเรื่องโชคดีของประเทศไทยที่จะมีโอกาสเริ่มต้นขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนในประเทศอื่นๆ   ปชป.คิดว่าต่อจากนี้นทช.ทักษิณจะหนีอย่างหัวซุกหัวซุนเพราะกรรมตามทันเห็นชัดมาก นทช.ทักษิณเริ่มก่อกรรมทำเข็ญกับประเทศชาติตั้งแต่ปี 2544 จะต้องทรมานทางใจอีกนานที่สำคัญจะสำนึกผิดรับโทษและก่อกรรมดีกับประเทศชาติหรือไม่เท่านั้นหากยอมกลับตัวเป็นคนดีสังคมไทยก็พร้อมให้อภัยแม้หลายคนจะบอกให้เข้าใจหมาจนตรอกแต่ตนคิดว่านี่เป็นคนไม่ใช่หมาต้องมีจิตสำนึกรู้ดีรู้ผิดรู้ชอบแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นถ้านทช.ทักษิณแก้ไขได้จึงจะมีโอกาสตายบนแผ่นดินไทย แต่จากนิสัยของนทช.ทักษิณอาจดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในทางรุนแรงมากขึ้น  นายสมชายเองไม่ควรทำตัวซื่อบื้อ  ไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชัง  ทางการไทยควรยกเลิกพาสปอร์ตของทักษิณทั้งหมดคงเหลือไว้เพียงแค่การเป็นพลเมืองไทยเท่านั้น  นายสัก กอแสงเรืองอดีตโฆษกคตส.กล่าวว่าหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการต้องคอยจับตาว่านทช.ทักษิณอยู่ที่ไหน  จะต้องขอความร่วมมือไปยังทูตทุกประเทศให้ช่วยกันสอดส่องติดตามและการตรวจสอบการเดินทางผ่านสายการบินก็สามารถทำได้ด้วยว่าเดินทางไปไหนบ้าง  อัยการออกมาระบุว่ามีสองช่องทางที่ทำได้คือช่องทางการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาและเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหมายศาลและควรจะออกมาร่วมมือกับอัยการไม่ใช่โยนกันไปมา หากรัฐบาลหรือตำรวจให้ความสนใจเรื่องนี้ก็สามารถที่จะตั้งรางวัลนำจับได้ที่ผ่านมาตำรวจยังตั้งรางวัลบ่อยครั้งจึงเป็นเรื่องของตำรวจและรัฐบาลว่าจะมีการตังรางวัลนำจับในกรณีนี้หรือไม่  นายเตช บุนนาคอดีตรมว.ต่างประเทศกล่าวถึงกรณีรัฐบาลอังกฤษยกเลิกวีซ่าของนทช.ทักษิณและพจมารว่าจะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและอังกฤษเพราะถือเป็นระเบียบทางการทูตตามปกติที่สามารถจะกระทำได้   ทราบว่าขณะนี้คู่ไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศอังกฤษแล้วแต่ได้เดินทางไปที่ประเทศจีน   

The democratic party teaches Department of Public Prosecution, this incident helps Thailand to ask other countries for getting extraditions. The party knows that Thaksin flees wihtout control from now on. He started originating Thailand's fired operations since 2001. If he recalled, he might be able to die in Thailand, else he can not. Thailand should removed all of his passports, but Thai government does nothing. Sak Kosaengruang asks Department of Public Prosecution for taking its eyes on Thaksin's moves on treaty and compensation basis. The compensation is expense for person(s) who lets the department catch Thaksin. Tej Bunnag informs Thaksin is now in China.
 
       นทช.ทักษิณให้สัมภาษณ์รอยเตอร์สภายหลังถูกรัฐบาลอังกฤษยกเลิกวีซ่าว่า ตนเองจะเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน ไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผยในเร็วๆ นี้ แต่ปฏิเสธว่าจุดหมายปลายทางดังกล่าวไม่ใช่กรุงมะนิลาพร้อมทั้งได้ประกาศกร้าวว่า จะขอกลับมาต่อสู้กับศัตรูทางการเมืองของตนเองอย่างแน่นอนอีกด้วย “ผมจะโทรศัพท์พูดกับประชาชนผู้ที่รัก และเชื่อมั่นในตัวผม ผมจะพูดยาวกว่าเดิม และคงต้องเปิดเผยชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะพวกเขาต้อนผมเข้ามุม”    ผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ทั้งหลายจงหยุดเถิดเพื่อความสงบเย็นของสังคมประเทศชาติตลอดจนตนเองและครอบครัว หาไม่แล้วคงประสบวิบากกรรมดังที่หลวงตามหาบัวเคยกล่าวไว้ว่า จะหมดสิ้นทั้งตำแหน่ง ทั้งทรัพย์สินและชีวิตนั่นแล.


However Thaksin seems not to able to recall his faults, interviewed by Rueters. He would be in some places( knows widely UAE ). He also is agressive, promotes him to fight his political enemies. Luangta Mahabua ( Great north eastern monk ) who asked respect-to-Luangta-Mahabua people to vote him before he stepped into primeminister in 2001, asked him to stop his recently and fortuned he would lose his position, assets and live. Seem that he is falling in to his hole soon.