11 ธันวาคม 2552

บ้านเมืองดีไม่มีขาย ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยน้ำลายหรือฟอร์เวิร์ดเมล์




8 โมงเช้าท่านเคยร้องเพลงชาติไหม
6 โมงเย็นท่านเคยร้องเพลงชาติอีกครั้งไหม
ท่านร้องเพลงชาติครั้งสุดท้ายเมื่อใด
7 ตุลาตอนตำรวจยิงระเบิดใส่ประชาชน ท่านได้ไปร่วมเหตุการณ์หรือไม่
193 วัน ท่านไปร่วมชุมนุมบ้างไหม
13 เมษาสงกรานต์เลือด ท่านเคยไปร่วมเผาบ้านเผาเมืองหรือไม่
ท่านอยู่ในเเก็งค์ริบบิ้นขาวติงต๊องหรือไม่
ท่านเคยเข้าไปชมเวปจาบจ้วงเบื้องสูงหรือไม่

ถ้าท่านไม่เคยทำหรือไม่เคยร่วมเหตุการณ์เหล่านี้ กรุณาเงียบเเละศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนดีกว่าหรือไม่ ก่อนที่จะมาตีความเอาเองเรื่องการแตกความสามัคคีของคนไทยหากท่านไม่รู้ปัญหาและอย่าเอาปัญญาอันน้อยนิดมาโชว์เพื่อจะบอกว่ารักสถาบัน อยากให้คนไทยรักกันไม่แบ่งข้าง และกรุณาหยุดสร้างเมล์์ลวง เมล์์กลวงอีกต่อไปเลย  เอาเวลาไปทำธุรกิจ ไปดูแลครอบครัว หรือไปหาข้อมูลให้ได้มากกว่านี้จะดีกว่าและไม่ต้องสะเออะมาตีความว่าพระองค์ท่านคิดอย่างไรกับประชาชนและสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้เพราะพระองค์ท่านอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของประชาชนคนไทยทุกคน   ท่านมีสิทธิ์เลือกสี เลือกข้าง เพียงแต่การเลือกครั้งนี้คือการเลือกข้างการทำความดีหรือการเลือกข้างการทำความชั่ว

การที่ท่านอยู่ตรงกลางแล้วไม่ทำอะไรปล่อยให้ประเทศเป็นไปแบบนี้แล้วลอยหน้าลอยตาบอกให้คนไทยรักกันโดยไม่มีสาเหตุท่านก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ปิดอนุสาวรีย์ตอนเดือนเมษาแล้วบอกว่าทำเพื่อประชาธิปไตย   ระหว่างความดีและความชั่วเราจำเป็นต้องเลือกหรือไม่   ท่านที่มีแนวคิดแบบกลวงๆอาจเข้าใจว่าอยู่กลางๆดีกว่า ใครจะทำดีหรือทำเลวก็ช่างมัน มองไปไม่พ้นหัวแม่เท้าของตน ขอให้ตนเองไม่เดือดร้อนก็เป็นพอ มันก็ไม่ผิดหรอก คนเราต่างคนก็ต่างจิตใจ แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งคือการกล่าวหาว่าคนที่เลือกข้างของความดีเป็นคนไม่ดี    เพราะคนดีนั้นย่อมทำแต่สิ่งที่ดีงามต่อสังคมและถึงแม้ว่าคนดีเหล่านั้นตั้งเสียสละชีวิตหรืออวัยวะก็ตามซึ่งจะยังประโยชน์ให้แก่ทุกๆท่านรวมทั้งผู้ที่หลงผิดทั้งหลายด้วย     ตัวอย่างเช่นถ้าหากศาลฏีกายึดทรัพย์ของตักขี้ กินชะมัดจากการขายชินขอบให้เตมาเสก 76,000 กว่าล้านบาทให้เป็นของแผ่นดิน ไม่มีคนเสื้อเหลืองคนใดได้รับผลประโยชน์โดยตรงเลย แต่พี่น้องชาวไทยทุกคนโดยส่วนรวมได้ประโยชน์ด้วยการให้ทรัพย์นั้นตกเป็นของแผ่นดิน

ฟอร์เวิร์ดเมล์์หลายตัวเช่นคุณเห็นอะไร? เมล์นี้เริ่มต้นด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันเสด็จฯออกมาสักการะพระอนุสาวรีย์พระชนกและพระชนนีภายในโรงพยาบาลศิริราชเป็นการเสด็จฯ ออกมาให้พสกนิกรได้เห็นหลังมีข่าวลืออัปมงคลโดยชุมชนเสื้อแดง   เมล์นี้ย้ำว่าผู้เขียนเขารู้สึกได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระทัยในความแตกแยกของคนไทยและคนไทยกำลังถูกมอมเมาด้วยเงิน คำสัญญาที่ว่างเปล่า ไม่จริงใจ สับสน ด้วยข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าวเท็จจากสื่อ จนแตกแยกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบ 200 ปี   จากที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขสันติ กลับมาต้องเลือกข้าง เลือกสี โกรธแค้นชิงชังกับคนที่คิดไม่ตรงกัน ก้าวร้าวใส่กัน เรียกร้องสิทธิเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่รู้จักหน้าที่ของการเกิดมาเป็นคนไทย จนประเทศเพื่อนบ้านได้รับประโยชน์จากความแตกแยก และนานาอารยประเทศเห็นประเทศไทยเป็น Failed State หรือรัฐที่ล้มเหลว และสิ่งที่ล้มเหลวที่สุดคือ การสร้างความสามัคคีในหมู่คนไทย   ผู้เขียนเมล์นี้ ย้ำว่า พระมหากษัตริย์ทรงใช้เวลากว่า 60 ปีในการสร้างความสามัคคี ความภูมิใจในชาติ และเอกลักษณ์ให้โลกรู้ แต่เราคนไทยใช้เวลาเพียง 2- 3 ปีเท่านั้นเองด้วยทิฏฐิ โทสะ โมหะ สร้างความบาดหมางต่อกันและทวีความรุนแรงมากขึ้น   เมล์นี้จบลงด้วยการเรียกร้องให้คนไทยรักสามัคคี เพื่อพระเจ้าอยู่หัวและลูกหลานของเราทั้งมวล

คนที่อ่านเมล์นี้มักจะเห็นด้วยกับผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ ขอบคุณมากที่ทำเมล์นี้ขึ้นมา แต่เมื่อได้อ่านไปอ่านมาหลายๆรอบแล้ว ในฐานะที่ผู้เขียนดูเหมือนว่ามีความรู้สูง มีฐานะดีในสังคมไทยคนหนึ่ง แต่ผู้เขียนเมล์นี้ควรต้องศึกษาให้ถ่องแท้ด้วยว่า ทำไมเราคนไทยวันนี้จึงต้องสามัคคีเลือกข้าง ทำไมเราต้องเลือกที่จะประกาศตนชัดเจนลงไปว่าเราจะอยู่เคียงข้างฝ่าพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศ์ทุกพระองค์เพื่อผดุงไว้ซึ่งสถาบันสูงสุดอันเป็นที่เคารพรักบูชาของเราทั้งปวง ดังนั้นก่อนการเขียนท่านผู้เขียนจึงควรจะต้องศึกษาให้ลึกลงไปในปัญหาการแบ่งสีเลือกข้างแล้วจะได้ไม่พูดลอยๆ เพราะสีสันเหล่านี้มีที่มาที่ไป ใครต่อใครอีกหลายคนยังแยกแยะไม่ออกหรือว่าสีเหลืองและสีแดงมีความแตกต่างกันที่ไหน     คนอย่างพวกท่านคนที่ทำหน้าซื่อ ไร้เดียงสา ใช้ถ้อยคำหรูหรา ทำให้ดูว่าสูงส่ง วางตนเหนือปัญหา เหนือผู้คนในสังคมแต่กลับนิ่งเฉยในวันที่นักการเมืองโกงบ้านกินเมืองวันที่ตักขี้ กินชะมัดสถาปนาอำนาจอัปรีย์และคิดการณ์ใหญ่ต่อราชวงศ์  คนอย่างพวกท่านมีเยอะ คนที่พูดว่า รักในหลวงต้องสามัคคี สงบ สันติ อย่าแบ่งสี หยุดเลือกข้าง มารักกัน แล้วอย่างไรต่อ  

ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้   คนดีมีความรู้มีความสามารถจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจและต่อต้านระบอบสามานย์นี้หรอกหรือ  หรือว่าการอยู่เฉยๆ ดูเขารุมโทรมประเทศชาติและจาบจ้วงสถาบันเป็นความสามัคคี สงบ สันติ สีขาว ถ้าจะมีสุขก็คงเป็นคนอย่างพวกท่านในระหว่างที่พี่น้องร่วมชาติถูกเอารัดเอาเปรียบมาตลอด  คนที่วางตัวเป็นกลางเป็นคนเช่นไรในสถานการณ์วิกฤตอย่างนี้และเราจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ รวมถึงว่าเราจะทำอย่างไรกับนักการเมืองห่วยๆ ในสภาฯ   ถ้าพวกท่านอยากเห็นบ้านเมืองคุณธรรมเพื่อลูกหลานของพวกท่าน พวกท่านก็ต้องมาร่วมกันสู้เพราะบ้านเมืองดีไม่มีขายและไม่สามารถสร้างขึ้นด้วยน้ำลายหรือฟอร์เวิร์ดเมล์    จากฟอร์เวิร์ดเมล์นี้ทำให้เรารู้ว่าบางทีเราต้องช่วยให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงกับคนอย่างพวกท่านมากขึ้นไปกว่านี้อีกเพราะคนที่เราเห็นอาจไม่ฉลาดอย่างที่เราคิดหรือคนที่เราคิดว่าไม่น่าจะใช่แต่กลับตรงข้าม    การพูดเรื่องความรัก ความสามัคคีของคนในชาติต่อหน้าคอมพิวเตอร์ส่งแต่ฟอร์เวิร์ดเมล์หรูๆ จะช่วยอะไรได้   สื่อของเรา ASTV พูดแต่ความจริงเพราะเราเป็นสื่อที่เลือกเสนอความจริง เราไม่กลัวที่จะเลือกข้าง ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ไม่เคยเสียดายหากต้องเสียสละชีวิตเป็นราชพลี เพื่อพิสูจน์ความจริงในฐานะสื่อมวลชนที่เลือกข้างความถูกต้องนั้นจะช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งทำอย่างที่พวกท่านทำ   ท่านจะฉลาดพอที่จะทราบความระยำตำบอนเหล่านี้บ้างหรือไม่

ผู้ที่คิดผู้ที่เขียนเช่นฟอร์เวิร์ดเมล์นี้รู้ไหมเสื้อแดงเกิดมาจากตักขี้ กินชะมัดและพวก  คนพวกนี้ทำวิทยุ เว็บไซต์ ปราศรัยจาบจ้วงในหลวง พวกเขาเผาบ้านเผาเมือง ล้มการประชุมอาเซียน พัทยาไล่ฆ่านายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ทำลายเศรษฐกิจของเราจนย่อยยับ เพื่อตักขี้ กินชะมัดได้พ้นคดีโกงชาติ และเอาเงิน 76,000 ล้านบาทของเขากลับคืนไป เสื้อแดงเกิดมาเพื่อทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อตักขี้ กินชะมัดและครอบครัว   การชุมนุมทั้งหมดของคนเสื้อแดงมีแต่มุ่งเน้นที่จะช่วยตักขี้ กินชะมัดคนเดียว มีการก่อจลาจลในเดือนเมษายน ข่มขู่ว่าระเบิดรถก๊าซ (มีถ่ายทอดสดให้ชมตลอด) มีการยกพลบุกมาทำร้ายพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวาน (รูปเสื้อแดงชูมีดและดาบปรากฏในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ) มีการก่อกวนการเสวนาที่ ม. ธรรมศาสตร์ โดยการด่าทอ ขว้างปาข้าวของ และโชว์อวัยวะเพศ (มีสื่อมวลชนถ่ายรูปไว้ด้วย) และอื่นๆอีกมากมาย พฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในการชุมนุมของพันธมิตรฯเลยทั้งๆที่พันธมิตรฯชุมนุมยาวนานกว่าและมีจำนวนคนมากกว่า

เมื่อเกือบสิบปีก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาคดีซุกหุ้นในปี 2544-45 ที่ศาลบอกว่าไม่ซุกนี่ทำลายความศรัทธาของประชาชนไปอย่างมาก  ในรอบหลายปีที่ผ่านมาตำรวจกลับกลายเป็นสิ่งปฏิปักษ์ องค์กรปฏิปักษ์ของประชาชนทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ให้กับคนชั่วครองเมือง รัฐตำรวจจึงเป็นรัฐตำรวจที่น่ารังเกียจที่สุดโดยเฉพาะตำรวจชั่วเหล่านั้นที่สุมตัวอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   ตำรวจชั่วเหล่านี้มีเพียงไม่กี่ตนสามารถทำให้วงการตำรวจคนดีๆ ที่มีอยู่จำนวนมากมัวหมองและชั่วร้ายไปหมด ระบอบทุนนิยมสามานย์ที่ชั่วร้ายที่สุดในปี 2548 ที่ออกฤทธิ์ 2549 ที่ออกลาย 2550 ที่อยู่ในอาการฟักตัว 2551 ที่อยู่ในอาการออกอาละวาด และทุนสามานย์ในปี 2551 มันได้รุกรานสถาบันสูงสุดของชาติอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน   การโจมตีสถาบันหลักของชาติที่เรียกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ฐานที่มั่นสุดท้ายของสังคมไทยและสังคมไทยรู้สึกทนไม่ได้ อดทนไม่ได้จึงลุกขึ้นสู้มาตลอดจนถึงวันนี้

เราแตกแยกกันเพราะสังคมไทยเติบโตพิกลพิการ     ตักขี้ กินชะมัดสามารถจับกิเลสนี้ได้อยู่หมัดคนส่วนใหญ่ถูกหล่อหลอมให้เห็นเงินเป็นใหญ่มากกว่าความดีงาม  และตักขี้เอาเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจใต้โต๊ะฟาดหัวลงไปจนกลายเป็นความแตก และแยกเรามาจนถึงทุกวันนี้   ในรอบหลายปีมานี้บ้านเมืองไม่เจริญอย่างที่ควร เพราะนักการเมือง ทหาร ข้าราชการ ตำรวจ ล้วนแต่ไม่ทำหน้าที่ ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ตรงไปตรงมาแต่เราแตกแยก รบราฆ่าฟันกัน ไม่สงบ ไม่มีสันติ เพราะเงินตักขี้ กินชะมัดที่โกงไปจากคนไทย เงินที่ระบอบตักขี้ กินชะมัดดูดไปจากประชาชน ถูกแจกจ่ายไปยังข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง นักธุรกิจฉ้อฉล ครู และพระ จนกลายเป็นอาณาจักรแห่งคนพาลสันดานหยาบที่ไม่รู้จักถูกผิด ไม่สามารถแยกสีขาว-ดำ แถมช่วยกันบั้นทอนเสถียรภาพของสถาบันสูงสุดจนเป็นที่มาของกรณีล้มเจ้าเพื่อสถาปนารัฐไทยใหม่ที่ปกครองโดยประธานาธิบดีอย่างตักขี้ กินชะมัด

พวกท่านรู้หรือไม่ว่า

1/ สื่อมวลชนถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพของโดยอำนาจรัฐตำรวจของตักขี้ กินชะมัด   ผู้คนหลากหลายอาชีพ ผู้บริสุทธิ์มากมาย สื่อมวลชนและชาวไร่ ชาวนาถูกคุกคามจนหมดอาชีพหรือถึงขั้นหมดลมหายใจจากการบริหารงานของรัฐบาลสมัยตักขี้ กินชะมัด ในวันที่พวกเราลุกขึ้นสู้เพื่อในหลวง ต่อต้านเว็บไซต์สามานย์เราก็ยังยืนหยัดหลังชนกันแล้วประกาศว่ากูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อยโน่น

2/ เนวินชื่อพม่าหน้าเขมรอดีตทาสตักขี้ กินชะมัดเป็นคนริเริ่มเสื้อน้ำเงินและสื่อเทียมที่จ้องโจมตีเสื้อเหลืองและด่าเสื้อแดงแต่ไม่จัดการกับตักขี้ กินชะมัดจนกลายเป็นรัฐล้มเหลวอย่างที่พวกท่านว่าไว้ในเมล์นี้  พวกท่านรู้หรือไม่ว่าเราแตกแยกเพราะความโลภในเงินของตักขี้ กินชะมัดและสื่อโสโครกที่หิวเงินจนไม่มีความรับผิดชอบแล้วละทิ้งอุดมการณ์

3/ ขณะที่สื่อกระแสหลักยังเต็มไปด้วยรายการบันเทิงมอมเมา  พวกท่านเรียนอะไรมา? มีชีวิตอยู่แบบไหน? จึงไม่รู้สึกรู้สมเลยว่าตักขี้ กินชะมัดทำตั้งแต่กินชาติ ทำลายนิติรัฐ นิติธรรม แทรกแซงองค์กรอิสระ เผด็จการรัฐสภา ตั้งรัฐตำรวจ ละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนด้วยความอหังการและละเมิดสิทธิประชาชนจนมีหลายพันชีวิตหายไปอย่างไร้ร่องรอย  

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรานั้นเป็นสีเหลือง  เราเกิดขึ้นเพราะต้องการล้มระบอบตักขี้ กินชะมัด เราใส่เสื้อสีเหลืองเพราะเราต้องการบ้านเมืองที่ดีงามของเรากลับคืนมาเพราะเราไม่เคยสงบสุขสันติอย่างแท้จริงมาเลยในตลอดหลายสิบปีมานี้ เราสู้คราวนี้ไม่เพียงล้มอำนาจบาตรใหญ่ของตักขี้ กินชะมัดเท่านั้น แต่จะขุดรากถอนโคนโค่นระบอบเฮงซวยในบ้านนี้เมืองนี้และจัดบ้านของเราให้เรียบร้อยเหมือนคนอื่นเขา  เราต้องการบ้านเมืองคุณธรรม เศรษฐกิจพอเพียง การบริหารชาติที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่ใช่รัฐบาลหน้าตาพิกลพิการ โกงกินไม่ต่างจากตักขี้ กินชะมัดแล้วอ้างว่า จงรักภักดีแต่ลับหลังก็ล่าคอมมิชชันจากโครงการรัฐอย่างมูมมาม  ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นการเมืองใหม่  ใช่เราเป็นสีเหลืองเพราะเราลุกขึ้นมาสู้เพื่อกู้ชาติและรวมพลังคนไทยสู้เพื่อในหลวง โดยมีศัตรูของเราคือระบอบทักษิณที่ตักขี้ กินชะมัดสร้างขึ้นซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ทุจริตอำนาจและงบประมาณอีกทั้งยังปลุกปั่นเพื่อนร่วมชาติให้ชิงชังสับสนในสถาบันสูงสุด และชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน เป็นคนเลวอย่างที่ไม่มีคนไทยคนใดเคยทำได้และเคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย พวกเราจึงต้องต้องทำทุกทางเพื่อลากคอมันมาลงโทษตามกฎหมายให้จงได้
      
พันธมิตรฯต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม ต่อสู้กับการคอรัปชั่นของรัฐบาล ไม่เคยไปแสดงตนเป็นอันธพาลรังแกใครเลย มีแต่ใช้จำนวนคนไปปิดสถานที่ต่างๆเพื่อกดดันในรัฐบาลไม่แทรกแทรงหรือกีดกันระบบยุติธรรมของประเทศ พันธมิตรฯสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ให้การเมืองภาคประชาชนที่ขจัดทุนสามานย์ ไม่ยอมให้นักการเมืองชั่วชี้นำประเทศได้สำเร็จ พิสูจน์ธรรมะย่อมชนะอธรรม ในบรรดาคุณค่าที่มีอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ศฤงคาร และการตื่นตัวของประชาชนตั้งแต่เหตุการณ์ที่ผมได้ร่วมต่อสู้มา 2516 - 2551 ไม่มีคุณค่าใดเท่ากับการลุกขึ้นสู้ของประชาชนในครั้งนี้เลย
การลุกขึ้นสู้แบบประชาชาติ ทุกชนชั้นตั้งแต่คนชั้นกลาง คนชั้นล่าง คนชั้นสูงที่เรียกรวมๆ ว่าเป็นลักษณะประชาชาติมีครั้งเดียวในโลกนี้และในประเทศนี้ที่รวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย มีเจตจำนงอันเดียวกันเพื่ป้องป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปรากฏการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนี้เป็นปรากฏการณ์ครั้งเดียวในโลกนี้    สามารถเติบใหญ่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว   ทั่วโลกสิ้นข้อสงสัย  แม้จะกระทำการบกพร่องหรืออาจผิดกฎหมายไปบ้าง   แต่ประชาชนทั่วโลก และประชาชนไทยนับสิบล้าน นับยี่สิบล้าน นับหกสิบล้านคนเชื่อว่าพันธมิตรฯมีเจตจำนงดีต่อชาติ การเมืองภาคประชาชนนี้สามารถที่จะจัดการให้คนชั่วโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ติดคุกได้ไม่น้อยกว่า 3 คนและ 3 คนล้มตามๆ กันอย่างสิ้นท่าและน่าเวทนายิ่ง  ประเทศของเราเราปล่อยให้คนชั่วมาครองเมืองมาเนิ่นนาน   เราไม่มีเวลาให้นักการเมืองชั่วพวกนี้มาชี้นำประเทศอีกต่อไป

 สิ่งที่พันธมิตรเรียกร้องคือขอให้คดีต่างๆของตักขี้ กินชะมัดได้ถูกตัดสินตรงไปตรงมาตามระบบยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็น เราไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านั้นเลยแต่ที่ต้องไปกดดันเพราะรัฐบาลนอมินี่เหล่านั้นมันแทรกแซงระบบยุติธรรมหนิ พยายามจะใช้รธน.ปี 40 ที่ไม่มีม. 309 และอีกหลายมาตรา เพื่อไม่ให้มีคตส. เพื่อไม่ให้องคฺ์กรอิสระเป็นอิสระมายึดทรัพย์สินของชาติที่ได้โกงไป เรื่องพวกนี้ท่านสามารถหาอ่านได้จาก หนังสือรัฐธรรมนูญตายแล้ว ของนายคณิณ บุญสุวรรณอดีตสสร.40 อดีตสว.น้ำดี และปัจจับันเป็นหนึ่งในแก๊งค์เสื้อแดง  ดูอย่างคดีที่ดีเอสไอฟ้องตักขี้ กินชะมัดเกี่ยวกับการปกปิดหุ้นเอสซีเป็นตัวอย่างเพราะคดีนั้นถูกจัดการให้มีการปิดคดีไปเรียบร้อยโดยไม่ส่งฟ้องศาลหลังจากย้ายคุณสุนัย  มโนมัยอุดมออกไปแล้วเอาทวี สอดส่องเข้ามาแทน  เป็นทวีผู้ได้ชื่อว่าเป็นชู้กับนางสาวยิ่งลัก กินชะมัดน้องสาวของตักขี้ที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนทนโท่    ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ไปให้การต่อศาลฏีกาอย่างชัดแจ้งว่าตักขี้ กินชะมัดปกปิดการถือหุ้นในคดียึดทรัพย์ของตน  

การสลายการชุมนุมในวันที่สมชายกระโปรงเข้าแถลงนโยบายที่รัฐสภาทำให้ประชาชนเสียชีวิต ขาขาด แขนขาด ลูกตาหลุด เนื้อสมองเสียหายและมีบาดแผลเหวะหวะตามร่างกายหลายร้อยคน   ประชาชนถูกกระทำด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่รัฐนอกคอกถูกลอบยิง ลอบทำร้ายตลอดการชุมนุมอันยืดเยื้อและยาวนาน พวกเขาหลายต่อหลายคนต้องมาบาดเจ็บ ล้มตาย พิการ    แต่ไม่ว่าจะเป็นคาร์บ๊องส์ ละครน้ำเน่าเรื่องศิวรักษ์ การโจมตีการชุมนุม 193 วันของพันธมิตรด้วยอาวุธหนักดับ แผนสังหารสนธิ หรือเอ็ม 79 เพื่อหยุดพันธมิตรฯที่ผ่านๆ มา    การที่เศษ.แดงออกมาพ่นน้ำลายเรื่องอะไรเป็นจริงตามนั้นทุกที  จนเชื่อได้ว่าเศษ.แดงตนนี้นี่เองที่อยู่เบื้องหลังความเสียหารทั้งของประเทศ กองทัพ และประชาชน    กองทัพทั้งกองทัพจะนั่งนิ่งเฉยเรื่องเศษ.แดง หรือทนถูกตบหน้าด้วยมือพัลลภได้อีกก็ให้มันรู้ไป เพราะประชาชนเริ่มทนไม่ไหวแล้วกับกองทัพที่ป้อแป้ ป๊อกแป๊ก ไม่เป็นโล้เป็นพายอย่างนี้

ครั้นรัฐบาลประชาธิปัตย์กุมอำนาจบริหารอยู่ทำให้คดีความต่างๆเดินหน้าได้บ้าง เราเสื้อเหลืองพันธมิตรฯก็หยุดเคลื่อนไหวปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามครรลอง    หลายคนกล่าวหาว่าพันธมิตรฯปิดสนามบินทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งๆที่คนสั่งปิดเป็นคู่เขยของวีระ มุสาไปวันๆคนยอดกตัญญูเข้าไส้คนนั้น  บอร์ดการท่าฯตำหนิแต่ไม่เห็นมันจะมีบทลงโทษอะไร   สื่อมวลชนกลางกลวงเคยลงข่าวแบบนี้บ้างหรือไม่     ตอนนี้ก็มีการฟ้องร้องเสื้อเหลืองพันธมิตรฯหลายๆเรื่องอยู่แล้วทั้งด้านแพ่งและอาญา 102 คดีที่ทุกอย่างอยู่ในระบบยุติธรรมแล้ว ผู้สื่อข่าวก็พยายามถามคุณอภิสิทธิ์ ท่านคะ
คดีพวกพันธมิตรฯ ท่านจะทำยังไง ท่านคะ ทำไมไม่มีความคืบหน้า  โถ....โง่ซะไม่มี คุณรู้ไหมพันธมิตรฯ ถูกฟ้องไป 102 คดีแล้ว  บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ฟ้องพล.ต.จำลอง ศรีเมืองกับพวกรวม 12 คนทั้งที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ พล.ต.จำลองเตรียมหมาเอาไว้ให้ยึดแล้ว 2,000 ตัว มีขี้เรื้อนอยู่ตัวหนึ่งไปรักษาเอาเอง
      
ยิ่งเมื่อได้อมาอ่านเมล์ของพวกท่านแล้วฮึด  ฮึดเพื่อสู้กับตักขี้ กินชะมัด ฮึดเพื่อสู้กับความเสแสร้งแกล้งดีของคนชั้นสูงในสังคมไทยบางกลุ่ม  สู้เพื่อในหลวงและสู้เพื่อให้ได้บ้านเมืองคุณธรรมกลับคืนมาอย่างเป็นรูปธรรม  หลังจากเมื่อวาน (10 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ ได้มีการจัดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อแสดงเจตนารมณ์เรียกร้องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ปี 2540 รวมถึงต้องการถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาแต่สิ่งที่ตักขี้ กินชะมัดอดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะนายใหญ่กลุ่มคนเสื้อแดงกระทำกลับเป็นพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยพูดไว้ว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงเป็นอย่างยิ่ง     จากคำพูดตักขี้ กินชะมัดในวิดีโอลึงก์เมื่อวานได้มีการพูดจากระทบกระเทียบชิ่งถึงสถาบันและจาบจ้วงพระเจ้าแผ่นดินไม่ว่าจะเป็น 2 ประโยคเด็ด “ประชาธิปไตยตามใจพ่อ” หรือบอกประเทศไทย “ราษฎรถูกปกครองตามใจชอบ” นี่ก็ถือได้ว่าเป็นใบเสร็จอีกในที่ประกันได้ว่าแท้จริงแล้วตักขี้ กินชะมัดมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือไม่  แต่ทั้งมติชนและไทยรัฐกลับตัดข้อความที่แตะเบื้องสูงออกเฉยเลย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยรัฐเกลาข้อความเสียจนฟังดูนิ่มมากแล้วอย่างนี้พวกรากหญ้าและกลางกลวงมันก็ไม่มีทางหูตาสว่าง











10 ธันวาคม 2552

เศษ.แดง



 ในความเป็นจริง... กองทัพไทยมีทหารดีจำนวนมากเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายทหารดีเหล่านั้นกลับต้องได้รับความเสียหายไปกับพฤติกรรมและภาพลักษณ์ที่ชั่วร้ายของทหารเลวบางคนหากเพียงกองทัพยังปล่อยปละละเลยให้ทหารเลวพวกนั้นแสดงท่าทีจองหองพองขนอยู่ต่อไป ในความลำพองของทหารเลวเป็นการบั่นทอนกำลังใจของทหารดี  กลายเป็นว่าคนทำชั่วแล้วไม่ได้รับผลแห่งความชั่วส่วนคนทำดีก็ไม่ได้รับการส่งเสริม    ในอดีตทหารไทยได้ชื่อว่ามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีได้รับการยกย่องศรัทธา ยอมรับนับถือก็เพราะความมีวินัยเข้มแข็ง มีระเบียบกฎเกณฑ์และกฎหมายควบคุมเด็ดขาดอีกทั้งมีธรรมเนียมการปกครองดูแลกันเองอย่างเข้มงวด ทหารเลวนอกรีตจึงไม่มีที่อยู่ที่ยืนหรือถูกจัดการเด็ดขาด    ถ้าลูกน้องไปทำชั่วทำเลวคนเป็นนายก็ต้องจัดการเพราะหากปล่อยไว้ย่อมเสมือนเป็นการประจานตัวนายนั่นเอง   พฤติกรรมของลูกน้องสะท้อนเกียรติศักดิ์ศรี-หน้าตาของคนเป็นนาย

ขณะนี้กองทัพมีทหารนอกรีตจำนวนหนึ่งเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน ภักดีกับระบอบทักษิณยิ่งกว่าจอมทัพไทยและอาจอาศัยสถานการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมืองออกลงมือปฏิบัติการล้มล้างช่วงชิงอำนาจรัฐ ก่อการเพื่อผลประโยชน์ของทักษิณและพวกด้วยพฤติการณ์อาจเข้าข่ายกบฎต่อราชอาณาจักรไทย ไม่เพียงเท่านั้นเศษ.แดง สวัสดิผลผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกออกมาให้ข่าวเชิงปลุกปั่นเรื่องทหารพรานอ้างว่ารวมตัวกันเป็นการ์ดนปช. แถมข่มขู่ผู้บัญชาการเหล่าทัพในทำนองว่า หากนปช.เสื้อแดงชุมนุมอย่าได้เอาทหารออกมาปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์มิฉะนั้น จะยิงกันตาย    เมื่อผู้บัญชาการกองทัพบกออกมาปฏิเสธข่าว ปรามคำพูดของผู้ทรงวุฒิกองทัพบก เศษ.แดงกลับแสดงท่าทีแข็งกร้าว กระด้างกระเดื่อง ตอบโต้ ต่อปากต่อคำแถมข่มขู่ผู้บังคับบัญชาอย่างรุนแรง

ถึงขั้นว่า "... ป๊อกลืมเพื่อนแล้ว ลืมผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาผม กูทำอะไรให้มึง กูนี่แหละออกมาช่วยมึงคนเดียวทั้งกองทัพ มาใช้อำนาจมิชอบแบบนี้ ก็ให้อยู่แต่ในกองทัพบก อย่าออกมาก็แล้วกัน ไม่ได้ขู่นายแต่ถ้าทำผมแบบนั้น ก็ไม่ใช่นายผม..."    ถ้าเป็นในอดีตผู้นำกองทัพเข้มแข็งไม่มีทหารเลวคะนองปาก แสดงท่าทีโอหัง ลอยหน้าลอยตา ทำตัวกร่างถึงเพียงนี้อย่างเด็ดขาด พฤติการณ์ถ่อยของทหารเลวแบบนี้อาจจะขัดต่อกฎหมายอาญาทหารหรือวินัยทหารในประเด็นใด หรือไม่ เพียงใด

มาตรา 16 ผู้ใดเป็นทหารและมันบังอาจเกลี้ยกล่อมคนให้ไปเข้าเป็นพวกราชศัตรู ท่านว่าโทษมันถึงต้องประหารชีวิตหรือมิฉะนั้นให้จำคุกมันไว้ ตลอดชีวิต
ข้อความต่อไปนี้มาจากประมวลกฎหมายอาญาทหารที่ปรากฏใน http://www.rta.mi.th/51224u/E3.html ผู้ใดเปนทหาร แลมันบังอาจเกลี้ยกล่อมคนให้เไปเข้าเป็นพวกราชสัตรู ท่านว่าโทษมันถึงต้องประหารชีวิต หรือมิฉนั้นให้จำคุกมันไว้จนตลอดชีวิต

มาตรา 17 ผู้ใดท่านใช้ให้เป็นนายทหารบังคับกองทหารใหญ่น้อย ป้อม ค่าย เรือรบ หรือสถานที่อย่างใดๆ ของทหารของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้ายังมิทันสิ้นกำลังและสามารถที่มันจะป้องกันและต่อสู้ข้าศึกมันยอมแพ้ยกกองทหาร ป้อม ค่าย เรือรบ หรือสถานที่นั้นๆ ให้แก่ราชศัตรูเสียไซร้ ท่านว่าโทษมันถึงประหารชีวิตหรือจำคุกจนตลอดชีวิตหรือมิฉะนั้นให้จำคุกมันไว้ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป จนถึงยี่สิบปี
มาตรา 18 ผู้ใดยุยงหรือข่มขืนใจหรือสมคบกันเพื่อยุยงหรือข่มขืนใจให้ผู้บังคับกองทหารใหญ่น้อย ป้อม ค่าย เรือรบหรือสถานที่อย่างใดๆ ของทหารของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยอมแพ้แก่ราชศัตรู
ท่านว่าโทษของมันถึงประหารชีวิตหรือจำคุกจนตลอดชีวิตหรือมิฉะนั้นให้จำคุกมันไว้ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี

ราชศัตรูนั้นหมายรวมถึงบรรดาคนมีอาวุธที่แสดงความขัดแข็งต่ออำนาจผู้ใหญ่หรือที่เป็นขบถหรือเป็นโจรสลัดหรือที่ก่อการจลาจล   การเข้าข้างกองกำลังเถื่อนหรือเกลี้ยกล่อมให้กองทัพไทยอ่อนข้อหรือยอมแพ้แก่พวกเสื้อแดงหรือสมคบกับนักการเมืองเขมรร่วมกับนักโทษผู้ปลุกปั่นล้มล้างอำนาจรัฐบาลไทยซึ่งแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับราชอาณาจักรไทยจะเข้าข่ายข้างต้น หรือไม่

มาตรา 31 ผู้ใดเป็นทหารและมันขัดขืนมิกระทำตามคำสั่งอย่างใดๆ โดยมันแสดงความขัดขืนด้วยกิริยาหรือวาจาองอาจต่อหน้าหมู่ทหารถืออาวุธด้วยไซร้ ท่านว่ามันมีความผิดต้องระวางโทษตามสมควรแก่เหตุดังจะว่าต่อไปนี้  ถ้ามันได้กระทำความผิดนั้นต่อหน้าราชศัตรู ท่านให้ลงอาญา มันเป็นสามสถาน คือ สถานหนึ่งให้ประหารชีวิต สถานหนึ่งให้จำคุกจนตลอดชีวิต สถานหนึ่งให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี / ถ้ามันมิได้กระทำความผิดนั้นต่อหน้าราชศัตรู แต่ได้กระทำใน เวลาสงคราม หรือในเขตซึ่งอยู่ในอำนาจกฎอัยการศึก ท่านให้ลงอาญาจำคุก มันตั้งแต่สามปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี / ถ้ามันได้กระทำความผิดนั้นในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่ว่ามาแล้ว ท่านให้ลงอาญาจำคุกมันไม่เกินกว่าสิบปี
มาตรา 41 ผู้ใดเป็นทหาร และมันบังอาจแสดงความอาฆาต มาทร้ายต่อผู้บังคับบัญชา หรือต่อทหารที่เป็นใหญ่เหนือมัน หรือมันหมิ่นประมาท ใส่ความ หรือโฆษณาความหมิ่นประมาทอย่างใด ๆ ก็ดี ท่านว่ามันมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินกว่าสามปี

5 มาตรานี้ยกมาจากบทความและเพิ่มเติมโดยอ่านจาก http://www.kodmhai.com/m4/m4-10/H27/m13-52.html

วินัยทหารคือการที่ทหารต้องประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร  ประพฤติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ระเบียบ และแบบธรรมเนียมอื่นใดของทหาร ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตามก็ถือว่ากระทำ
ผิดวินัยทหารเช่น ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยงหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน / ไม่รักษาระเบียบการเคารพระหว่างผู้ใหญ่ผู้น้อย /  ไม่รักษามรรยาทให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมของทหาร / ก่อให้แตกความสามัคคีในคณะทหาร / เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ / กล่าวคำเท็จ / ใช้กิริยาวาจาไม่สมควรหรือประพฤติไม่สมควร ฯลฯ

ผู้บังคับบัญชาทหารมีอำนาจหน้าที่ต่อผู้ที่กระทำผิดวินัยทหารดังนี้  ใช้อาวุธเพื่อปราบปรามทหารที่ก่อการกำเริบหรือบังคับทหารที่ละทิ้งหน้าที่ให้กลับเข้าประจำหน้าที่ / ลงทัณฑ์ / ปลดจากประจำการ / ถอดยศ  ผู้นำเหล่าทัพไทยในยุคนี้จะป๊อกแป๊กปวกเปียกป้อแป้ได้แค่ไหนหรือจะจัดการกำราบทหารเลวด้วยวิธีไหน

สรุปจาก บทความกวนน้ำให้ใส ตอน ใคร... จะกำราบทหารเลว? โดยสารส้ม วันที่ 9/12/2009


วัดใจ! “บิ๊กป้อม” ฟัน “เสธ.แดง” เจอช่องจับขึ้นศาลทหาร โฆษกกองทัพบก เผยสรุปผลการตั้งคณะกรรมการสอบ “เสธ.แดง”ถึงมือกลาโหมแล้ว ชี้กรอบการพิจารณา หนีไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตและให้สัมภาษณ์ทำลายภาพพจน์กองทัพ แต่ยังไม่อาจเปิดเผยได้ สุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ “ประวิตร” ยันแม้ระเบียบจะไม่เปิดช่องให้เอาผิดทางวินัยทหารชั้นนายพล แต่หากทำผิดซ้ำซากก็อาจดำเนินคดีโทษทางอาญาของศาลทหารได้ ...อ่านต่อ...

09 ธันวาคม 2552

คนกับโรงงานจะอยู่ด้วยกันได้โดย...


พูดกันมากและพูดมาหลายเดือนแล้วด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มาบตาพุด   คนกับโรงงานจะอยู่ด้วยกันได้โดยจะต้องบริหาร-จัดการ  จัดความสมดุลในสิ่งร่วมให้ลงตัวโดยไม่ให้สิ่งหนึ่งไปทำลายอีกสิ่งหนึ่งได้  เมื่อเริ่มตั้งโรงงานห่างไกลมนุษย์มนาอยู่ในป่า-ในดงคนก็ตามไปอยู่กับโรงงานที่อยู่ห่างไกลชุมชนไปอยู่กันมากๆเข้า  มันก็เกิดสังคมหย่อม กลายเป็น สังคมขยายและชุมชนเมืองในเขตโรงงานอุตสาหกรรมในที่สุด  กฎหมายเกิดไล่หลังตามมาออกมาเหมาะกับกาลหนึ่ง-เวลาหนึ่ง-สภาพหนึ่งเท่านั้น  แต่พอนานไประบบโรงงาน  ระบบเครื่องจักรก็เก่าแก่เสื่อมสภาพไป  ทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ  ความไม่พร้อมรับมือกับการบังคับใช้กฎหมาย นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่กับภาคอุตสาหกรรม  ครั้นเมื่อเกิดภาวะไม่สมดุลทำให้การขยายตัวทางอุตสาหกรรมเป็นการการทำลายสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านก็เริ่มต่อต้านการขยายตัว  ชาวบ้านและคณะกรรมการต่างๆเพื่อสังคมยึดรัฐธรรมนูญมาตรา  67  วรรค  2  จึงได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางและร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับ 76 โครงการเจ้าปัญหาไว้ก่อนที่จะมีคำพิพากษา

ด้วยเหตุผลทั้งทางกฎหมาย  ทั้งทางสังคม  ทั้งทางปฏิบัติที่เป็นจริงและทั้งทางข้อเท็จจริง  ที่ทั้งฝ่ายศาล  ฝ่ายผู้ร้อง  และฝ่ายผู้ถูกร้องได้นำมาแสดงและพิจารณาบนผลประโยชน์ร่วมกันเป็นมาตรฐานการยกระดับคุณภาพสังคม   ภายหลังการยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลางคำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อลดแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจและข้อกังวลของนักลงทุน   นักลงทุนต่างชาติทั้งหลายชอบบอกว่าการระงับ 76 โครงการทำให้เสียโอกาสการลงทุน  สังคมโลกเรียกร้องเรื่องลดมลพิษ  เรื่องลดภาวะโลกร้อน คำสั่งศาลปกครองกลางถือได้ว่าเป็นการจุดประการเพื่อตั้งหลักที่จะเริ่มต้นพัฒนาสู่ความเติบโตทางธุรกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยเราอย่างมีแบบแผนสู่มาตรฐานสังคมในอนาคต     เมื่อมีปัญหาใดเกิดขึ้น  ภาครัฐก็ดี  ภาคอุตสาหกรรมก็ดี  ภาคสังคมก็ดี  ทั้งหมดนั้นต้องมีสัมพันธ์ซึ่งกันและกันควรถือว่าจะต้องช่วยกันหาทางออกและอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล    เมื่อมีการอนุญาต 76 โครงการนี้ไปแล้ว  มีการลงทุนไปแล้วและเมื่อมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกรอบปฏิบัติตามมา  นั่นก็คือมีทั้งส่วนสังคม  ส่วนอุตสาหกรรม  ส่วนกฎหมาย  ที่ต้องคำนึงและยึดถือเป็นกรอบในการดำเนินไป  ช่วยกันหาทางออกของปัญหาที่พอใจ-รับได้กันทุกฝ่ายไปเสนอต่อศาล เพื่อประโยชน์ที่เป็นธรรมสูงสุดกับทุกฝ่าย

กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมนำข้อมูลการแก้ไขปัญหามาบตาพุดในช่วงที่ผ่านมาเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองที่มีนายอานันท์ ปันยารชุนอันเป็นยาสามัญประจำบ้านมาเป็นประธาน (กรรมการ 4 ฝ่ายทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคธุรกิจ-ภาควิชาการเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ได้รับการยอมรับจากสังคมเป็นอย่างดี) นัดประชุมนัดแรกไปเมื่อกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา  หลังการยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้นไม่นานนางสุรินทร์ ขมหงส์หรือป้าเตี้ยซึ่งเป็นหนึ่งในพยายคดีฟ้องศาลปกครองเสียชีวิตลงโดยมีการระบุสาเหตุการตายเนื่องจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันนั้น ขณะนี้เครือข่ายประชาชนฯนำเส้นผมจากเซลล์ประสาทของป้าเตี้ยส่งสถาบันมิยามาตะ ประเทศญี่ปุ่นให้ตรวจสอบโดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาทเพื่อที่จะทราบผลการตรวจวิเคราะห์สาเหตุการตายของป้าเตี้ยภายใน 2 เดือนว่าสาเหตุการตายมาจากผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรื่องฝนกรดหรือไม่    

ส่วนภาครัฐเองก็ดูตั้งอก-ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาภาวะสิ่งแวดล้อมที่มาบตาพุดมากขึ้น  ส่งรองนายกฯ  กอร์ปศักดิ์  สภาวสุ  ลงไปรับฟังปัญหาในพื้นที่ในนามคณะทำงานการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนมาบตาพุดและการติดตามผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุด  คณะทำงานได้เปิดเสรีและมีชาวบ้านตัวแทนจากหมู่บ้านต่างๆที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากเข้าร่วมรับฟัง  ในการประชุมได้รับฟังการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนพื้นที่มาบตาพุด  เรื่องขยะ เรื่องการรักษาการเจ็บป่วย  และโดยเฉพาะเรื่องการขยายเขตน้ำประปาครอบคลุมพื้นที่มาบตาพุด-บ้านฉาง อย่างไรก็ดีชาวบ้านต้องจริงจังต่อการตรวจสอบในการใช้งบประมาณ    อย่างเช่นโครงการไทยเข้มแข็งที่นำมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมาบตาพุด อ.เมืองระยองจะต้องติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างถึงที่สุดโดยคณะกรรมการภาคประชาชนเพราะที่ผ่านมามีการคอร์รัปชัน

2  ธันวาคมที่มาบตาพุดก็มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง ศาลปกครองสูงสุดสั่ง  11  โครงการมาบตาพุดเดินหน้าต่อได้  อีก 65 โครงการเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงทั้งโครงการประเภทปิโตรเคมี  ท่อส่ง  เหล็ก  โรงไฟฟ้า  ท่าเทียบเรือ   และโรงบำบัดของเสียให้ระงับไว้ก่อนตามคำสั่งเดิม    เปิดช่องทำตามมาตรา 67 วรรค 2 เมื่อใดก็ยื่นเรื่องขอออกจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในภายหลังได้  คณะกรรมการ  4  ฝ่ายจะดูตามโครงสร้างเพื่อให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ  2550  มาตรา  67  วรรค  2  เป็นหลักเช่นเดิม  "ภายใน  2  สัปดาห์จะประชุมใหญ่เพื่ออนุมัติหลักเกณฑ์ประเมินอีไอเอและเอชไอเอก่อนเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอนุมัติ   รวมถึงโครงสร้างเรื่ององค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมด้วย   แต่การดำเนินการต่างๆคงต้องใช้เวลาโดยเฉพาะการสรรหาบุคคลมาเป็นองค์กรอิสระที่ต้องโปร่งใสและไม่เป็นที่กังขาของทุกภาคส่วน"  นายอานันท์ระบุ

หลังศาลปกครองสูงสุดยังไม่อนุญาตให้อีก 65 โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดดำเนินการต่อนั้นคาดสร้างความเสียหายในด้านการลงทุนประมาณ 90,000-100,000 ล้านบาท หรือประมาณ 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพราะบางโครงการได้ดำเนินการถึงขั้นใกล้เปิดโครงการรวมถึงจ้างแรงงานไว้แล้ว   หอการค้าไทย นักลงทุน และภาคเอกชนต่างก็อยากให้ภาครัฐและส่วนที่เกี่ยวข้องควรจะเร่งสร้างความชัดเจนโดยเร็ว   อยากให้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายเร่งพิจารณาหลักเกณฑ์การลงทุนที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนออกมาโดยเร็ว    การนิคมอุตสาหกรรมเพิ่งจะมาหาแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและจะทำหนังสือถึงผู้ประกอบการดังกล่าวให้ระงับการก่อสร้างโครงการและการเดินเครื่องเชิงพานิชย์ตามคำสั่งศาล ที่ผ่านมา กนอ.ไม่มีอำนาจสั่งการ หากเอกชนจะฟ้องศาลสามารถทำได้ว่ายืนยันการทำตามกฎหมายมาตรา 67 วรรค 2 มาตลอดโดยเฉพาะการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่เมื่อมีกฎหมายรัฐธรรมนูญ 50 ออกมาโดยที่ยังไม่มีกฎหมายลูก  กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องทำผลกระทบต่อสุขภาพ (HIA) รวมทั้งการตั้งองค์กรอิสระตรวจสอบการลงทุน ขณะนี้ผู้ประกอบการก็ยังต้องรอกฎหมายลูกที่ยังไม่ออกมาต่อไปผู้ประกอบการจึงไม่สามารถดำเนินการต่อได้

คณะกรรมการ 4 ฝ่ายฯ จะลงพื้นที่เทศบาลมาบตาพุดรวมถึงนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและชุมชนใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบโดยจะมีประชาชนในเขตเทศบาลนครระยอง ต.ตะพง ต.เชิงเนิน ต.บ้านแลงและต.นาขวัญ นำโดย นายสุทธิ อัชฌาศัยแกนนำเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการ 4 ฝ่ายฯร่วมชี้แจงปัญหา   นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกรณีปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดได้ข้อสรุปว่าคณะกรรมการ 4 ฝ่ายกำหนดการออกระเบียบที่จะมารองรับมาตรา 67 วรรค 2 ให้เป็นช่องทางให้ทุกโครงการที่ยังเป็นปัญหาทำตามขั้นตอนช่องทางนี้จนเสร็จสิ้นจะได้ไปยื่นขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งระงับโครงการ  รัฐบาลควรเร่งกำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว   รัฐมีหน้าที่แจ้งให้ภาคเอกชนทราบถึงคำสั่งศาลและให้เอกชนเคารพคำสั่งศาล    รัฐมีหน้าที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการบริหารจัดการหรือจำกัดความเสียหาย  ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)บ้าง   กระนั้นนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไปบ้างแล้วจากความชัดเจนที่เกิดขึ้น  

ปัญหาสารพิษรั่ว ตั้งแต่กรณีท่าเรือแหลมฉบังเมื่อสัปดาห์ก่อนยังเป็นเรื่องเป็นราวไม่จบ   ต่อมาชาวบ้านร่วมกันทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติที่บริเวณศาลากลุ่มประมงเรือเล็กตากวน-อ่าวประดู่ขณะนั้นมีลมพัดเอากลิ่นเหม็นคล้ายก๊าซ ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียน หลายคน จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล  จากการเกิดก๊าซรั่วของเรือขนส่งสินค้า  บริเวณท่าเรือบริษัทมาบตาพุดแท็งค์เทอร์มินอล จำกัดเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา วันนี้ชาวบ้านรวม10 คนได้เข้าแจ้งความขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับบริษัทเจ้าของเรือในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแล้ว

ภาคเอกชนยังแจ้งกนอ.ที่จะจัดส่งคำสั่งศาลให้ผู้ประกอบการทุกโครงการด้วยว่าจะทำหนังสือยื่นต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้พิจารณาทบทวนโครงการที่ถูกระงับไปนั้นใหม่ เนื่องจากมีโครงการที่ผ่านอีไอเอแล้วตามกฎหมายเก่า 20-30 โครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้น่าจะดำเนินโครงการต่อไปได้เหมือน 11 โครงการที่ศาลอนุญาตโดยผู้ประกอบการจะทำตามเอชไอเอและอีไอเออย่างเข้มข้น