26 ธันวาคม 2552

ไม่มีคำว่าพอสำหรับคนโลภ


เด็ดดอกไม้รายทาง
       โดย...อัญชะลี ไพรีรัก
      
       ช้อบ...ชอบที่ “พี่บัณฑิต” ผู้ดำเนินรายการหนึ่งในทีมข่าวยามเช้าริมเจ้าพระยา ASTV ให้คำจำกัดความ ถึงแนวทางการต่อสู้ที่ผลุบๆ โผล่ๆ ของ “จักภพ เพ็ญแข”ว่า “เป็นคล้ายๆ กับกองกำลังปลดปล่อยพยัคฆ์ทมิฬอีเพ็ญ”
      
       ความว่า พี่บัณฑิต เจ้าของวาทะตลกร้ายเอามาจาก “กองกำลังปลดปล่อยพยัคฆ์ทมิฬอีแลม” ของศรีลังกาที่มุ่งมั่นจะแบ่งแยกรัฐทมิฬออกจากศรีลังกา ด้วยการใช้วิธีระเบิดพลีชีพ แต่ของเขาทำเพื่อเผ่าพันธุ์ ส่วน”อีเพ็ญ”ทำเพื่อ “คุณพ่อทักษิณ” ต่างกันลิบลับดุจฟ้ากับเหว
      
       สัปดาห์นี้ก็คงต้องวนเวียนพูดถึงแต่ความวุ่นวายของชาติบ้านเมืองที่มาพร้อมกับการก่อกำเนิดและเติบโตของระบอบนายใหญ่ เจ้าของเชื้อชั่วไม่มีวันยอมตายง่ายๆ แม้จะเพลี่ยงพล้ำ ถูกปฏิวัติรัฐประหารไปเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่ใช่ว่าคนอย่างจอมโจรหน้าเหลี่ยมซึ่งโกงแผ่นดินรวยล้นฟ้ามหาสมุทรจะยอมพังพาบลงไปอย่างง่ายดาย
      
       หลังจากไปผจญชีวิตรุ่มรวยอักโขในอังกฤษพักใหญ่ ความดิ้นรนหาเรื่องซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของโจรปล้นชาติรายนี้ ทำให้เขาติดกับดักความโลภของตัวเอง จนเป็นเหตุให้ต้องระเหเร่ร่อนลี้ภัยประเทศโน้นที- ประเทศนี้ที อยู่ไม่เป็นสุข แถมเมื่อไปที่ไหนก็รังแต่จะสร้างความวิบัติฉิบหายให้กับคนที่นั่นไม่เว้นแต่ละที่
      
       ดูอย่าง “ดูไบ”เป็นต้น แว่วมาว่าตอนนี้ให้ที่พักพิงกับโจรใจเขมรไปอย่างแกนๆ ด้วยเหตุที่ทำมาค้าขายใหญ่โตด้วยกันมาเก่าก่อน จะไล่เปิดไปเสียก็ใช่ที่ เพราะที่เป็นอยู่ก็เจ๊งวอดวายไปมิใช่น้อย แต่จะให้อยู่แล้วปล่อยให้ทรราชหน้าเหลี่ยม เปลี่ยนทะเลทรายเป็นฐานที่มั่นกองกำลังเสื้อแดงพลัดถิ่นอยู่อย่างเคย ก็เห็นทีจะเดือดร้อนอู่ข้าวอู่น้ำ ที่พี่น้องในอาบูดาบี พี่ใหญ่แห่งสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ไม่ค่อยพออกพอใจ ร่ำๆ จะตัดขาดอยู่รอนๆ
      
       ยิ่งตอนนี้ออกจากพนมเปญมาซุกปีกดูไบอีกแล้ว ชีคผู้ครองนครดูไบเลยสั่งแกมขอร้องให้ทำตัวเงียบเชียบอยู่ในคฤหาสน์เลขที่ 10 บนถนนเลขที่ 10 หลังแรกของแยกเข้าซอย 10 ตอนนี้ทักษิณเลยบ้า ร้อน – หนาว สลับกันไปมาเหมือน เลือดจะไปลมจะมา
      
       หันรีหันขวางอยู่พักใหญ่ เลยถามเมีย ทะเบียนหย่าว่า เอาไง เมียใหญ่ ตอบว่า เอาไง เอากัน ไม่งั้น หมดตูดแน่ เพราะ สุรเกียรติขึ้นให้การมัดตัว คดียึดทรัพย์ พร้อมหลักฐานครบครัน ชนิดที่ดิ้นไม่หลุดยิ่งกว่าแร้วดักสัตว์ พอดีพอร้ายจะติดคุกหัวโต หรือ ตายในต่างแดน ทั้งโคตรเหง้าศักราช
      
       สมน้ำหน้า...จำได้ไหมเคยชี้หน้าบริภาษ “ญาติข้างเมีย” ของเขาว่าอย่างไรในวันโดนรัฐประหารที่นิวยอร์กนะ วันนี้เห็นแล้วใช่ไหมว่า สุรเกียรติ์ของขึ้น เพราะด่าเมียก็แทบทนไม่ได้แล้ว ยังลามปามผรุสวาจาใส่ญาติข้างเมีย มีหรือจะทนอยู่ด้วยได้...หลังสุรเกียรติลงจากศาล...ชีวิตนายใหญ่ก็เปลี่ยนไปไม่หวนกลับ
      
       ทั้งกลัวติดคุก ทั้งกลัวถูกยึดทรัพย์ เลยฝากคำสั่งครั้งสุดท้ายก่อนถลาไปดูไบว่า “หลังปีใหม่ เผาบ้าน-เผาเมืองและเผา ASTV”
      
       ใครจะเถียงเชิญเรียงหน้าออกมา เพราะวิทยุชุมชนเสื้อแดงแฝงนัดหมาย ออกอากาศเจื้อยแจ้วว่า เจอกันแน่ๆ หลังปีใหม่ งานนี้นายใหญ่ให้เหตุผลหลังทุ่มหมดหน้าตักว่า “เพราะไอ้หนูดีลพลาด ” …ความเดิมที่ว่าจะแบ่งรางวัลให้ครึ่งหนึ่งถ้าพากลับบ้าน เป็นอันจบเห่กัน หลังมีคนดียื่นหน้า “ฟ้อง” ว่า ลับหลังทีไร นายใหญ่ “ด่าเจ้า”มันปากทีนั้น แถมทวงบุญคุณไม่จบไม่สิ้น “คนฟัง” นึกโมโหโกรธาเลยปั้นปึ่งไม่แยแส จะเป็นจะตายก็ช่าง ทีนี้ละตัวใครตัวมัน
      
       ส่วนเจ้เพ็ญ กล้ามใหญ่อดีตสมาชิก “สราญรมย์” ตัวจริงเสียงจริง ตอนนี้เดินตากลมหนาวตัวปลิวอยู่กับอ้ายยงยุทธ ที่พนมเปญ เพื่อรอการกลับมาของนายใหญ่อีกหนในปีหน้า ส่วนจะได้กลับพนมเปญอีกรอบหรือเปล่ายังสงสัย!!!
      
       เวลานี้หัวขบวนใหญ่ที่บ่อนปอยเปต แดนดินถิ่นสวรรค์ของผีพนัน โอดครวญน่าสงสารว่า “ฉิบหาย” หลังจากทักษิณเหยียบกัมพูชาในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ ยอดผีพนันลดฮวบฮาบด้วยกลัวการเมืองลุกเป็นไฟ ร้อนถึงเสี่ยพัด สุภาภา มือขวาฮุนเซนต้องแอบกระซิบ “ไม่ไหวแล้วนาย...ขืนอุ้มต่อไปเราตายแน่”
      
       ขณะที่ สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ร่อนสารขอแรงจากเขมรพลัดถิ่นให้ลุกขึ้นสู้กับเผด็จการฮุนเซนอีกระลอก ... ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็มีเฉย แต่วันนี้ลูกเขมรลุกฮือ แรงกระเพื่อมขนาดนี้มีหรือเสือเฒ่าอย่างฮุนเซนจะไม่รู้
      
       แถมอดีตกษัตริย์กัมพูชาเจ้าสีหนุ ก็ออกแรงหนุนเขมรในต่างแดนให้โค่นฮุนเซนอีกแรง เพื่อปกปักรักษาราชบัลลังค์ให้เจ้าสีหมุนี ผู้บุตรชายยอดดวงใจ หลังจากถูกฮุนเซนบีบมานานแสนนาน
      
       ศึกนอกศึกในสุมไฟจวนเจียนจะพังมิพังแหล่ งานนี้ฮุนเซนเลยขยิบตาให้หน่วยงานใต้ดิน ดักฟังสายโทรศัพท์ให้พล่านไปหมด ใครพูดอะไรกับใครต้องระวังตัวลีบตัวแบน แค่พอจับได้ความว่า เขมรหน้าไหนเขม่นอำนาจฮุนเซน เป็นต้องโดนกองกำลังติดอาวุธของลูกชายไปจัดการทันที
      
       เรื่องนี้มีให้เห็นทุกวัน หากแต่หนังสือพิมพ์ชั้นนำของเขมรอย่างรัศมีกำพูเจียไม่เคยรายงาน ส่วนคนในบ่อนเขารู้หมด หดหัวกันเป็นแถว ด้วยเกรงบ่อนใหญ่ลงทุนเยอะจะโดนกลืนด้วยกองกำลังติดอาวุธ ที่กฎหมายใดๆในกัมพูชาก็ไม่อาจเอื้อมมือไปถึง เพราะ ฮุนเซน คือ กัมพูชา และ กัมพูชา คือ ฮุนเซน
      
       การเมืองในพนมเปญเกือบจับไข้ และ ไฟนอกที่ฮุนเซนถือมาเผาบ้านตัวเองก็กำลังลุกลาม ด้วยเสื้อแดงที่แฝงเข้าไปทำทีเยี่ยมนายใหญ่ ณ คฤหาสน์หรูย่านวงเวียนวิมานเอกราช ใกล้ๆพระราชวังเขมรินทร์ กลับออกมาไม่ครบ!!!
      
       ที่เหลือจึงมีทหารใจเขมร สถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้านักรบชุดดำ เวียนไปฝึกปรืออาวุธยุทโธปกรณ์กันเอิกเกริกหวังว่าจะยาตราทัพกับเจ้เพ็ญ หลังปีใหม่ โดยอาศัยรอดตาทหารไทยมาตามตะเข็บชายแดนเพื่อผนึกกำลังกับนักรบรับจ้างเสื้อแดง ที่ภาคอีสาน...แหมถ้าไม่ได้สนิทกับพ่อกำนัน เรื่องลับๆอย่างนี้ไม่รู้เลยนะเนี่ย!!!
      
       เพราะเขาลือกันทั่วกรุงพนมเปญแล้วว่า เร็วๆ นี้กองกำลังเขมรไม่ทราบฝ่ายจะประสมกำลังกับกองทัพเสื้อแดง แล้วบุกตลุยทำ “สงครามประชาชน” เพื่อนายใหญ่ หุ้นส่วนบ่อน้ำมัน และ เพื่อชิงพระวิหารมาเชยชม
      
       ส่วนพวกแก๊งค์รับจ้างจัดม๊อบเสื้อแดง ตอนนี้รุ่มร้อนหนัก เกรงฤทธิ์เจ้เพ็ญ เพราะกลัวเจ้กับจิ๋วจะพลาดแล้วไม่มีแผ่นดินอยู่ยกทีม เลยหอบเงินฝากเมียและแม่ที่ต่างจังหวัดเป็นทิวแถว ทางโน้นก็ใช้กันจนผิดสังเกต ระวังเถอะ...ไอ้ที่เคยคิดว่าจะเหลือๆพอเลี้ยงชีพตลอดชีวิต เดี๋ยวจะหมดตัวไปตามๆกัน สู้อุตส่าห์ “อมเงินม๊อบ”มา ดันพังเพราะ เมียเล่นไพ่ และ แม่เล่นหวยตั้งวงแชร์... จะหาว่าไม่เตือน
      
       ส่วนเอกสารที่ว่าลับ สงสัยจะไม่ง่ายเหมือนให้ของลับบนเวทีเสื้อแดงแล้วกระมัง เพราะ รัฐบาลเขารู้ตัวแล้วว่าอ้าย-อี หน้าไหนสวมบทปอบหยิบขายชาติ ใครสนใจไปเยี่ยมหน้าไปหาดูที่กระทรวงการต่างประเทศยุคนี้ได้
      
       เพราะเห็นกันหลัดๆ ว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จฯอยู่ดีๆ ดันเกิดผีเข้าหรือไรไม่รู้ จู่ๆ ทำตัวเป็นไส้ศึก มือบอนหยิบเอกสารที่เจ้าของเขาให้ทำก๊อปปี้ เอาไปเสนอหน้าค้ากำไรเกินควรกับนายใหญ่ ทีนี้คงกลัวติ้งเหล่ตลบหลังเอาหน้าไปเหมือนเคย งานนี้เลยใช้เมียยื่นมือไปรับรางวัลเอง ติ้งเหล่เลยแฉลงใต้ดินเสียงามหน้าละพ่อคุณ
      
       แล้วไม่ต้องกังวลใจว่าจะไปไหนรอด สายข่าวในกระทรวงต่างประเทศกระซิบติ่งหูว่า ให้ดู บัญชีโยกย้ายกลางปีหน้า ใครอยู่ ใครไป ใครกระเด็น...นั่นละปอบหยิบขายชาติ ภาคพิศดารละ …เอ้าพี่กษิต สู้ สู้
      
       ปิดท้ายด้วยข่าวเมีย โจรปล้นชาติ...อย่าคิดนะว่าจะอยู่เป็นสุข สนุกสบาย หน้าชื่นอกตรมละสิไม่ว่า เพราะเวลานี้ไปไหนมาไหนคนเขามองจ้องหน้าราวจะกินเลือดกินเนื้อ
      
       ยิ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีเมียทูตต่างประเทศคนไหนกล้าไปกินข้าวด้วยแล้ว เกรงจะโดนคนไทยเล่นงานตายคาพรมแดงเหมือนเมียทูตอเมริกา ที่ถูกทั้งผัวและหน่วยงานรุมด่าบักโกรก
      
       ส่วนขาไพ่วงเก่าก็ค่อยๆถอนตัวออกไปทีละคนสองคนหลังจากผัวดูไบตัวดี “จาบจ้วง”ในไทมส์ ออนไลน์
      
       ล่าสุดไฮโซที่เคยเดินตามไปดูหมอด้วยกัน ก็ตีกรรเชียงหนีเพราะกลัวภัยมาถึงตัว เนื่องจากปั่นหุ้นและฟอกเงินเหมือนๆกัน
      
       วันนี้เลยนั่งถอดไพ่ แกมถอดใจ เดียวดายใต้เงากรรม...รอวันเวลาแห่งการชดใช้ที่ใกล้มาถึงเพียงคืบเท่านั่น ...แต่เดี๋ยว...ลูกชายคนโปรด...คืนสู่วงการอีกแล้วใช่ไหม...พ่อ-แม่ บ้านนี้ช่างรังแกลูกเสียจริงๆ จะงกเงิน บ้าอำนาจถึงไหน ถึงได้ปล่อยลูกชายคนเดียวไม่เป็นผู้เป็นคนอย่างนี้
      
       ดูเอาเถิดทรัพย์สมบัติมหาศาลที่โกงมาได้ มีเท่าไรอีกหน่อยคงหมดตัว เพราะถึงไม่ใช่ลูกติดยา-บ้าผู้ชายเผาผลาญ ก็ต้องโดนบริวารปอกลอก
      
       งานใหญ่กำลังเรียงหน้าเข้ามา ฉากจบกำลังจะเริ่มต้น หลังปีใหม่คงได้เห็นดีกัน ส่วนพวกเลือกข้างที่ทำตัวเหมือนคนควานหารองเท้าอีกข้างไม่ยอมเจอนะ ก็ให้หากันต่อไป
      
       เพราะข้างคนดีเขาพร้อมสู้เพื่อชาติเต็มพิกัดแล้ว


21 ธันวาคม 2552

"ถ้าจะทา เลือดนั้นคือเลือดกบฏ"


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทไว้เมื่อวันที่  5 ธันวาคม  52  นี้ว่าบ้านเมืองของเรามีความเจริญ  มั่นคง  เป็นปกติสุข  สำเร็จผลเป็นจริงไปได้ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติมุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง  ด้วยสติ  รู้ตัว  ด้วยปัญญา  รู้ผิด  และด้วยความสุจริต  จริงใจ  โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น  ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง  แล้วทำตั้งจิต  ตั้งใจ  ให้เที่ยงตรงหนักแน่น  ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ มีความเจริญ  มั่นคง  ยั่งยืนไป  กรรมของประเทศในเวลานี้เกิดจากกรรมของคน ไอ้ที่ประเทศชาติเราต้องมาเป็นอย่างนี้ก็เพราะการกระทำของคนในชาติ  ฉะนั้นถ้าจะแก้กรรมของแผ่นดินก็สามารถแก้ได้โดยการแก้ที่การกระทำของคนอันเป็นประชาชนพลเมืองไทยนั่น เพราะว่าปัญหาบ้านเมืองทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องกองทัพนักกีฬาไทย  ถูกกองทัพนักกีฬาเวียดนามคว้าเหรียญทองแซงหน้า  หรือกองทัพเวียดนามซื้อเรือดำน้ำตัดหน้ากองทัพไทยแต่อย่างใด  แต่ไม่ว่าจะเป็นการเมือง  เศรษฐกิจ  สังคมล้วนเกิดจากผู้มีหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญๆมิได้สนใจรักษาความซื่อสัตย์และความตรงไปตรงมาต่อหน้าที่ตามกระบวนการที่ถูกต้องและตามครรลองของกฎหมายที่เรียกว่า"ธรรมาภิบาล"

ด้วยภูมิรัฐศาสตร์ที่สุดแสนจะโชคดีเอามากๆ  เราคงไม่ถึงกับต้องไปดิ้นรน  ทะเยอทะยานอะไรกันมากมาย อุปนิสัยและสันดานดั้งเดิมของไทยเราเองมีความสุขสบายจนกระทั่งไม่ต้องเดือดร้อนลำเค็ญ  ไม่ต้องถูกแรงกดดัน  คุกคามเหมือนบ้านอื่นเมืองอื่นอันกลายเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้คนไทยมักจะหันมากัดกันเองเสียจนเคยตัว หนักเข้าๆต้องเรียกว่ากัดไม่ปล่อย  ไม่ไล่ไม่เลิกแถมยังไปลากคนอื่นเข้ามากัดคนในชาติเดียวกันเสียด้วย     หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปถึงแม้นบอลไทยจะได้ไปบอลโลกหรือถึงแม้นกองทัพไทยจะสั่งซื้อจรวดนิวเคลียร์เข้ามาประจำการก็ตาม  แต่สุดท้ายคงหนีไม่พ้นที่จะต้องสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดินไม่วันใดก็วันหนึ่ง

หากส.ส.ตระหนักในอำนาจหน้าที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช้ภาษีของประชาชนแต่ไม่ได้สนใจทำหน้าที่ในสภา  ไม่เป็นเครื่องมือของต่างชาติในการบั่นทอนความมั่นคงของรัฐ  ไม่ทำหน้าที่การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างหมิ่นเหม่และสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ยึดผลประโยชน์ของนายจ้างที่ตนไปรับงานซ้ำซ้อนมาเป็นใหญ่

หากกกต.องค์กรอิสระแห่งความหวังของประชาธิปไตยยุคใหม่  ให้ความสำคัญกับอำนาจของประชาชนเป็นใหญ่  ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา  โปร่งใส   ตรงไปตรงมาตามหลักการของการพิจารณา  ไม่กระทำการทำลับๆ  ล่อๆ ให้เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง

หากข้าราชการพลเรือน  ทหาร  ตำรวจตลอดจนข้าราชการบริพารได้ดำเนินบทบาทหน้าที่ของตนเองโดยยึดมั่นต่อคำสัตย์ปฏิญาณที่จะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์  สุจริต ใส่ใจในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง  ตรงไปตรงมา ก็จะไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น การวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง  การมีทหารเลวนอกแถวด่าทอประจานผู้ใหญ่ในกองทัพ  ไม่มีเอกสารลับของทางการออกมาสู่มือทรพี  

หากรัฐบาลทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมากฎหมาย  และตามนโยบาย นำพารัฐนาวา  สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน  ใช้อำนาจบริหารงบประมาณอย่างโปร่งใส

หากนักเรียนทุนอานันทมหิดลได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับทุนไปร่ำไปเรียนสูงส่งเกินกว่าสามาญชนทั่วไปจะได้รับ  ได้กลับมาสร้างความเจริญตามเส้นตามทางที่ได้ร่ำเรียนมา เพื่อนำมาสร้างคุณูปการให้สังคมอย่าไปเอาอย่างขุนหลวงนัยนาวิวาทกัมพุชชาติพาณิชยชั่วที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้จากทุนการศึกษาหลวงไปในการนำประเทศไปขายให้เขมรในปี 51 ที่ผ่านมา

หากสื่อต่างๆในปัจจุบันให้ข่าวสารบ้านเมืองผ่านทางหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ได้ใช้สติ-สัมปชัญญะและแยกแยะเรื่องราวด้วยปัญญาตามรู้บ้านเมืองอันเป็นส่วนรวม  ไม่สร้างอันตรายจากข่าวลวงและข่าวบิดเบือนเพราะสื่อทุกวันนี้เหมือนกระดาษซับ ซับทุกอย่าง  ซับทั้งขี้  ทั้งเยี่ยว ทั้งสารพิษ  ทั้งสารคุณภาพ  ซับอะไรมาได้ก็สาดออกไปแบบดิบๆตามสื่อที่ตนถืออยู่อย่างนั้นทั้งหมดโดยไม่มีการสังเคราะห์  ผู้บริโภคจึงตกอยู่ในลักษณะสำลักข่าวสารเจือพิษ

การผนึกกำลังกันระหว่างชาวเขมรบางคน ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านพรมแดนติดกัน กับ นักการเมืองชาวไทยใจเขมรบางกลุ่มบางรายแห่งพรรคเพื่อทุยหรือเพื่อเขมรก็มิอาจสรุปได้มีส่วนทำให้การเมืองในประเทศกับการเมืองระหว่างประเทศกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันได้และพยายามสาดแข้งออกอาวุธใส่ไทยไม่เว้นวันโดยไม่คิดลดราวาศอกเอา  อะไรที่ขบวนการพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดเสียประโยชน์  ก็หาว่ารัฐบาลไทยใช้  2  มาตรฐาน  แล้วทีอย่างในการจับกุมคนขนอาวุธร้ายเข้าประเทศโดยรัฐบาลไทยใช้มาตรฐานเดียว    กลับออกมาด่าว่า  ถามทำไมไม่ใช้มาตรฐานที่  2

พรรคเพื่อทุยถอนตัว ตัดสินใจเลือกที่จะไม่เดินตามแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เบื้องต้น 6 ประเด็นตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯเสนอ  เพื่อทุยพยายามยัดเยียดฐธรรมนูญ 40 ให้กลับมาใช้โดยจะแก้ไขหลักการให้เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 27 มิถุนายน 2475 ที่บอกว่าอำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย  ลืมร่างรัฐธรรมนูญฉบับคปพร.ของนพ.โหวงเหวง เลวเกินจินตนาการและจะรั้น ดิษฐาอภิชัยที่ลอกรัฐธรรมนูญ 40 มาทั้งหมดยกเว้นบทเฉพาะกาลมาตรา 314  (ม.292/รธน.50) ที่รับรองการคงอยู่ของคณะองคมนตรี  สามเกลอหัวดอของคนเสื้อแดงเคยเปิดประเด็นว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 24 วรรคสองที่กำหนดให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราว ณ สถานการณ์หนึ่งที่เป็นรอยต่อ ความคิดแบบฮุนเซนโมเดลนี้แสดงว่าคนไทยใจเขมรพวกนี้มีความคิดในหมู่คนเสื้อแดงบางส่วนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์จริง เพื่อกฎมณเฑียรบาลต้องไม่สูงกว่ารัฐธรรมนูญและลดพระราชอำนาจให้เหลือในระดับที่ไม่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย   แม้ประเด็นเหล่านี้จะยังไม่ได้เป็นฉันทมติของคนเสื้อแดงทั้งหมดและไม่อาจสรุปได้ว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดคิดไปไกลขนาดนี้เลยหรือไม่แต่ก็ดูเหมือนจะต้องการให้ 1) ไม่ต้องมีองคมนตรีหรืออย่างน้อยถ้าจะมีองคมนตรีก็ต้องไม่ใช่โดยการแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย   2) การขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเพราะในอดีตเพียงแค่แจ้งรัฐสภาเพื่อรับทราบเท่านั้น    3) การสืบราชสันตติวงศ์ต้องไม่เป็นการใช้พระราชอำนาจโดยเฉพาะของพระมหากษัตริย์    4) พระมหากษัตริย์ไม่อาจมีพระราชดำรัสสดๆโดยพระองค์เองต่อสาธารณะได้

วันนี้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดเริ่มแสดงอาการแกว่ง อยู่กับที่ไม่เป็นสุขจนต้องดิ้นพล่าน  พล่านถึงขั้นที่ว่าให้ระดมเกจิอาจารย์พระสายวิปัสนาไปสอนนั่งสมาธิสงบจิตสงบใจถึงดูไบ แต่ก็ไม่อาจช่วยหยุดใจที่ฟุ้งซ่านของพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดได้ การที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดที่เที่ยวตะลอนไปตะลอนมาหลายประเทศก็พอบ่งบอกได้ว่ามีความสงบทางจิตติดลบเลยอยู่ไม่ติด  อันนี้ต้องยกให้เป็นผลงานของกษิต ภิรมย์ที่มีภารกิจกำจัดบุคคลที่หนีคดีและเป็นภัยรุนแรงต่อความมั่นคงของชาติ

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่สะดวกที่จะให้ใช้นครดูไบเป็นฐานการเมืองแล้วจึงเป็นเหตุให้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดต้องเผ่นหนีจากถิ่นพำนักแห่งนี้และคิดจะย้ายฐานไปที่รัสเซียหรือประเทศยุโรปตะวันออก โดยอาศัยมือดีลมาเฟียรัสเซีย Oleg Yevidokimenko ที่เคยดีลธุรกิจในอังกฤษด้วยกันมาก่อนหาที่ทางให้ซุกหัว  แต่เมื่อพิจารณาแล้วรัสเซียหรือประเทศยุโรปตะวันออกคงเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับภาวะที่ต้องการเปิดศึกป่วนบ้านเกิดเมืองนอนของตน    ไปๆ-มาๆแล้วกระบวนการเช่นนี้ ชักจะดูเป็นกิจการและยิ่งชัดเจนขึ้นทุกทียิ่งในช่วงหน้าข้าว-หน้าเหล้าหรือช่วงใกล้จะมีข่าวการยึดทรัพย์ในอีกไม่นานไม่ช้า ก็ไอ้เงินที่ว่าขนาดขายก๋วยเตี๋ยวยังโดนสรรพากรมานั่งนับชามเพื่อเก็บภาษีแล้วทำไมขายหุ้นถึงไม่เสียภาษี  กระบวนการที่ว่านี้ก็ดูจะยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือยิ่งขึ้นเท่านั้น   อะไรๆจะไหลมารวมตัวกันอย่างเป็นระบบเป็นกิจการเช่นนี้  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดก็เลยต้องหาที่ใหม่เพื่อเปิดเกมรุกก่อนถึงเงื่อนเวลาอันตรายคดียึดทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้าน ใช้เขมรเป็นกองบัญชาการหลัก เล่นไพ่ใบสุดท้าย  ชนะ-ได้ครองเมือง แต่ถ้าแพ้-กบฏแผ่นดิน  ยืมมือผู้นำเพื่อนบ้านใช้เมืองต่างๆให้เคลื่อนไหวได้สะดวก   สาวกคนเสื้อแดงจะได้ไปเยี่ยมและไถเพื่อแจกเงินและสั่งงานได้สะดวก  ขณะเดียวกันสาวกได้แอบจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ   กลุ่มนปช.ได้จัดตั้งอบรมคนเสื้อแดงมาแล้วหลายรุ่นโดยให้ความรู้แบบผิดๆ ฝึกการใช้อาวุธ เดินเกมใต้ดิน ตั้งกองกำลังส่วนตัวไว้พร้อมสู้กับทางการไทย  ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแผนการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในประเทศเพื่อนบ้าน   ด้วยจิตที่ฟุ้งซ่านคิดระแวงไปต่างๆ นานาของพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดและถ้ามากๆ เข้า หรือเดินเกมสะเปะสะปะสักวันพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดอาจถึงขั้น จิตแตก-จิตดับได้โดยเฉพาะเมื่อแผนการโฉดที่วางไว้ ต้องล้มเหลวลง  ไอ้ที่ต้องเร่งต้องรีบจะต้องกลับไทยเพราะพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดต้องใกล้แพทย์เฉพาะทางโดยด่วนนั่นเอง

นี่มันหน้าอะไร ฤดูอะไรกันในห้วงเวลาที่รัฐบาลอภิสิทธิ์อ่อนแอ   ทหาร-ข้าราชการ-ตำรวจไร้เอกภาพและเสื่อมลงทุกวัน    พรรคเพื่อทุย นปช. สาวกคนเสื้อแดงถูกปลุกขวัญ-กำลังใจได้ที่แล้ว  ไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่ผู้นำสมคบกับอาชญากรแผ่นดินของอีกประเทศถึงขนาดยกประเทศให้เป็นฐานบัญชาการชิงเมือง   เพียงต้องการให้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดพ้นผิดหวนกลับมามีอำนาจคนหนักแผ่นดินกลุ่มนี้ตั้งใจจะทำสงครามแตกหักทั้งในสภาและนอกสภามีเป้าหมายหลักให้รัฐบาลเลือกตั้งใหม่   มุ่งหวังให้เกิดการจลาจลเพื่อเปลี่ยนแปลงการเมือง  ให้คนเสื้อแดงชุมนุมเป็นเรือนแสน ป่วนบ้านเมืองโดยหวังให้เกิดการจลาจล  ทั้งๆที่การต่อสู้ของคนเสื้อแดงไม่มีความชอบธรรม     สั่ง  ส.ส.ลาออกกดดันยุบสภา  ใช้สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรเป็นแรงกดดันอีกทางหนึ่ง  โหรฟันธงแล้วว่า  ครานี้...ชนะแน่  การร่วมมือ  ร่วมตีน  แยกกันเดิน  รวมกันตีน  หรือแยกอาณาเขตแดนแต่หันมารวมตัวกันรุมกระทืบประเทศไทย  รัฐบาลไทย  ระบบยุติธรรมไทย  กองทัพไทยหรือแม้กระทั่งการสร้างข้อเปรียบเทียบระหว่างสถาบันบางสถาบัน  ฯลฯ     หากไม่สามารถเอาชนะได้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดอาจต้องประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในเขมรเพราะมีฮุนเซนตนเดียวเท่านั้นที่ยอมให้ทำเช่นนั้นได้ เหมือนเราอยู่บ้านดีๆ แล้วมีหมาจรจัดมาคำรามนอกประตูรั้วบ้าน สลับกับการเห่าหอน(คลิ๊กอ่านคำเต็ม)  ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นหน้าหนาวไม่ใช่หน้าฝนแต่การที่ฝนตกชะขี้หมูในแต่ละก้อน  จะไหลไปซึมซับน้ำในแหล่งใดๆก็แล้วแต่จนก่อให้เกิดความเลวในระดับสามารถไหลมารวมตัวกันได้เช่นนี้  โอกาสที่จะเผชิญกับความวิบัติ  ความจัญไรจนต้องฉิบหาย  วายวอด  ลงไปทั้งเล้าก็ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ  

ทุกครั้งมีการส่งสัญญาณอาจจะเกิดความรุนแรงกับประเทศก็มักมีการข่าวที่พูดถึงการเจรจาขึ้นมา  เอาความรุนแรงมาขึ้นเพื่อที่จะใช้เป็นอำนาจในการต่อรอง  คิดในลักษณะนักต่อรองเพื่อผลประโยชน์ หากพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดโทร.มาคุยสุรยุทธ์ขิงแก่จะคุยไหม  จะมาเจรจาเรื่องอะไรกันยืนยันจุดยืนเดิมว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดต้องยอมรับระบบกฎหมายไทยและเมื่อไรที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดยอมรับระบบกฎหมายไทยสังคมก็ให้อภัย  แต่ยิ่งพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดมีข้อแม้ว่า  1)ต้องไม่ติดคุก  2)ต้องไม่ดำเนินคดีความใดๆทั้งสิ้นและ 3)ต้องคืนเงินทั้งหมดให้แม้ว่าเงินนั้นจะได้ไปโดยไม่ถูกด้วยกฎหมายก็คงจะเป็นไปไม่ได้  นายไชยันต์   ไชยพรอาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่าจุดยืนของนายกฯอภิสิทธิ์ก็คงไม่ต่างกับพล.อ.สุรยุทธ์ ขิงแก่ที่ขึ้นอยู่กับว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดจะโทร.มาหรือไม่   ถ้าคุยกันรู้เรื่องเช่นเจรจากันว่าจะกลับมารับโทษและขอพระราชทานอภัยโทษและจะคุ้มครองความปลอดภัยให้ได้ไหมเป็นต้น  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดรู้เงื่อนไขหมดทุกอย่างแล้วแต่จะทำหรือไม่   เพราะไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดอยากจะเหนื่อยและทนทุกข์ทรมานไปอีกนานแค่ไหน
     "หากจะเจรจาให้ยกคดีความให้  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดเลย  พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดก็ต้องไปอยู่เขมรเพราะที่นั่นเขาตัดสินและยกคดีกันเอง   ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ไปอยู่ให้โลกเขาร่ำลือว่าเราตัดสินกันไปและยกกันเองอย่างนี้โดยไม่มีเหตุผลที่จะใช้กำลังเข้าข่มขู่กันก็ขอให้พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดไปทำที่กัมพูชา"  นายไชยันต์กล่าวในทำนองนี้

ป๋าเปลวแกปักทวนทับธงแล้วว่า ที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดโฆษณามกราจะทำสงครามชิงประเทศบวกกับที่บรรดาโหราออกมาประสานเสียงต้นปีหน้าเลือดทาแผ่นดินนั้น  "ถ้าจะทา  เลือดนั้นคือเลือดกบฏ" อย่างเก่งก็ทนกันถึงแค่พฤษภาปี 53  ปีนี้-จะเป็นปีที่ประเทศไทยจะได้โชคลาภใหญ่จากต่างชาติ-ต่างภาษาและมีมาให้ฮือฮากันแบบฟลุกๆชนิดปุบปับฉับพลัน  สำคัญแต่ว่าเมื่อถึงกลางปีหน้าไม่รู้ใครอาจต้องรอให้มีคนมาเคาะฝาโลงเรียกให้กินข้าวจึงจะได้กิน(คลิ๊กอ่านคำเต็ม)

"วันนี้เสื้อแดงต้องรวมพลังกันไล่เผด็จการประชาธิปไตยเพราะบ้านเมืองวันนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตย   ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่ว่ายังไม่มีประสบการณ์   ทำงานล้มเหลว  บ้านเมืองเสียหายหมด  เศรษฐกิจย่ำแย่  ประชาชนเดือดร้อน   ถ้าอยู่ต่อไปบ้านเมืองก็ล่มจม   ถึงเวลาที่พวกเราต้องทวงคืนประชาธิปไตย   ต้องขอแรงพี่น้องเสื้อแดงกันอีกครั้งต้องไปกันให้มากที่สุด   บอกให้พวกคนที่มีอำนาจสั่งการให้รู้ว่าพวกเราประชาชนไม่พอใจ   จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้บ้านเมืองจะพัง   พวกเราอยากเห็นการพัฒนา   ยืนยันกับพี่น้องประชาธิปไตย   ถ้าผมกลับมาได้เห็นแน่   ผมจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ   ทำให้ลูกหลานมีความสุขก้าวหน้า วันนี้พี่น้องต้องช่วยกัน   ถ้าทำสำเร็จตัวผมก็เป็นแค่ของแถมแล้วผมจะให้ประชาธิปไตยที่แท้จริง  ปีใหม่นี้พี่น้องจะได้พ้นทุกข์  ปีใหม่นี้เอาผมผูกโบใส่กล่องเป็นของขวัญปีใหม่"      พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดกล่าวทิ้งท้าย

ตัวเองก็เลยมาไกลตั้งนานแล้วโอกาสจะใช้เขมรเป็นหลังพิงดำเนินสงครามประชาชน  ก่อการจลาจลแยกเมือง  แยกประเทศ   เพียงแค่จุดเริ่มต้นก็มองไม่เห็นเงื่อนไขใดๆที่จะหยิบยกมาอ้างอิงเพื่อให้เกิดความสมเหตุสมผลหรือเพื่อให้เกิดความชอบธรรมเอาเลยแม้แต่น้อย



18 ธันวาคม 2552

การบินไทย ถูกลักจนหมดฟ้า : พุกกะณะสุต




วัลลภ พุกกะณะสุตผู้บริหารระดับสูงของบมจ.การบินไทยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวด้วยการใช้อภิสิทธิ์ในการบินในชั้นเฟิร์สคลาสสำหรับตัวเองและภรรยาขนกระเป๋าส่วนตัวกว่า 40 ใบ น้ำหนักกว่า 600 กิโลกรัมขึ้นเครื่องโดยไม่เสียภาษีนำเข้า  สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเคยได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวทั้งจากพนักงานและบัตรสนเท่ห์  คณะทำงานสอบสวนกรณีข่าวอื้อฉาวดังกล่าวจึงได้ทำการตรวจสอบและพบความจริง  คนภายในการบินไทยช่วยปกปิดความดีของทั้งวัลลภและจารุวรรณ พุกกะณะสุต  พนักงานทุกคนก็รู้สึก และ ต้องออกมาส่งข้อมูลมาให้ว่าน้ำหนักกระเป๋าของคนดีทั้งคู่ที่ชั่งจริง 520 กิโลกรัมแต่มีการรายงานเพียงแค่ 170 กิโลกรัม ส่วนกระเป๋าอีกประมาณ 10 ใบไปฝากให้กับพฤทธิ์ บุปผาคำรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ให้ช่วยถือกลับมาให้โดยน้ำหนักชั่งจริงสูงถึง 113 กิโลกรัม แต่บันทึกไว้เพียง 51 กิโลกรัมเท่านั้น  เจ้าหน้าที่บริษัทการบินไทยที่ญี่ปุ่นต่อหน้าผู้บริหารก็มีการเกรงใจจึงลงน้ำหนักไว้น้อยกว่าที่เป็นจริงแต่เมื่อเครื่องใกล้ออกเดินทางจึงมีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเนื่องจากถ้าไม่แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเครื่องบินก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้  ผู้โดยสารทั่วไปสามารถขนส่งกระเป๋าได้ไม่เกิน 40 กิโลกรัม หรือเต็มที่ไม่เกิน 45  กิโลกรัมเท่านั้นในชั้นเฟิร์สคลาส ในชั้นประหยัดขนส่งได้ไม่เกินคนละ 20 กิโลกรัม และในชั้นธุรกิจประมาณ 25-35 กิโลกรัม  กระเป๋าดังกล่าวถูกลำเลียงไปไว้ในส่วนกระเป๋าหาย (Lost and Found) และถูกขนออกนอกสนามบินโดยไม่ผ่านการเสียภาษี  พฤทธิ์ บุปผาคำรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ที่ช่วยวัลลภและภรรยาขนสัมภาระนั้นเดิมทีมีกำหนดการต้องเดินทางไปประชุมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแต่กลับเดินทางมาช่วยขนกระเป๋าดังกล่าวแทน แถมตั๋วดังกล่าวที่พฤทธิ์ใช้เป็นประเภทตั๋วสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งบริษัทการบินไทยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้หมดไม่ว่าจะเป็น ค่าตั๋ว ค่าเบี้ยเลี้ยง รวมถึงค่าโรงแรมด้วย   วัลลภออกมาอ้างและออกมาต่อสู้ข้อกล่าวหาด้วยการห่มจีวรออกมาสู้ว่า "ผู้ใหญ่ฝากสัมภาระมาถวายพระวัดปากน้ำภาษีเจริญ" ประธานบอร์ดที่ชื่ออำพน กิตติอำพนสามารถออกมาป้องวัลลภ พุกกะณะสุตได้อย่างไม่ต้องคิด "...เท่าที่ทราบมานั้นไม่ใช่ของหนีภาษี แต่เป็นของฝากกันเข้ามา..."

อำพน กิตติอำพนเป็นถึงเลขาธิการ สภาพัฒน์และประธานบอร์ดการบินไทย พูดอย่างนี้ได้อย่างไรหรือเป็นเพราะพูดเช่นนี้จึงได้เป็นเลขาสภาพัฒน์และประธานบอร์ดการบินไทย   และเป็นเพราะการบินไทยได้มีประธานบอร์ดแบบนี้ ถึงได้พินาศแบบนี้ มีการศึกษาระดับสูงขนาดนี้ มีหน้าที่สำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ผู้บริหารควรจะมี ไม่มีความสำนึกเรื่องความถูกต้อง หน้าที่ คุณธรรม จริยธรรม คนแบบนี้ขี้ขลาดไม่กล้าหาญ ไม่รับผิดชอบ ปกปิดความจริง ส่งเสริมความไม่ถูกต้อง ไม่คิดถึงสังคมรวม  ชาติต้องการความสามารของคนที่มีความสามารถแต่ก็ไม่ใช่แค่นั้นคุณธรรมความดีและจริยธรรมต้องมีติดตัวเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ขาดไม่ได้  การออกมาพูดแบบนี้ของกบถ้าไม่คิดมากก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดก็เหมือนกับจะออกตัวว่าเป็นเรื่องที่นายปิยะสวัสด์ ชงขึ้นมา ไม่รู้ว่าต้องเกรงอกเกรงใจอะไรกันนักหนากับวัลลภ หรือว่าไก่เห็นตีงู งูเห็นนมกบ

การที่ผู้บริหารระดับสูงคนนี้ของการบินไทยขนของยังไม่จ่ายค่าขนส่งแถมยังหนีภาษีเพื่อเอามาขายในร้านของภรรยาที่อยู่แถวซอยละลายทรัพย์มาซูเมะร้านเลขที่ 117  ทั้งๆที่การบินไทยมีผลการดำเนินการขาดทุนอีกทั้งพนักงานก็ไม่ได้โบนัสและไม่ได้ขึ้นเงินเดือนและคนทั่วไปซื้อตั๋วแสนแพงน้ำหนักกระเป๋าเกินนิดหน่อยก็ต้องถูกปรับไม่ค่อยอะลุ้มอะล่วย   ผู้บริหารกลับมีพฤติกรรมสวนทางปืนที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ได้ประกาศไว้ตอนเข้ารับตำแหน่ง  เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดครั้งแรก วัลลภคนนี้ได้ใช้อำนาจการเป็นบอร์ดบริษัทขนสัมภาระน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดสร้างความวุ่นวายให้กับพนักงานอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นนายสถานีนาริตะ พนักงานระดับล่างและตม.บางคนอย่างเช่นหวานที่เพิ่งจะมีภรรยาเป็นพนง.การบินไทยหมาดๆ  ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่ต้องมาให้ความร่วมมือในการรับผิดชอบกระเป๋าที่ไม่ต้องผ่านไปยังสายพานลำเลียงกระเป๋าแต่มีการจัดการให้ไปเข้าระบบ Lost and Found (LL) หรือแผนกกระเป๋าหาย ซึ่งเลี่ยงภาษีได้ทั้งหมด หากไม่ร่วมในขบวนการก็จะถูกสั่งย้าย

พฤติกรรมดังกล่าวของผู้บริหารคนนี้และคนใกล้ชิดมีมานานแล้วจนกระทั่งพนักงานของบริษัทที่โตเกียวอดรนทนไม่ไหวอีกแล้วจึงต้องแจ้งเรื่องมายังกรรมการผู้จัดการใหญ่  พนักงานของการบินไทยที่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นรำคาญและพยายามรายงานมายังบริษัทแม่มา 2 ปีแล้วว่าผู้บริหารคนดังกล่าวพร้อมภรรยามีพฤติกรรมแบบนี้ผลาญงบประมาณของบริษัทไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว จากเดิมที่การบินไทยขายตั๋วโดยสารในประเทศผ่านระบบ Royal แต่มีการปรับแก้สัญญาให้ต้องสั่งซื้อผ่านอามาดิอุสแบบผูกขาด ระบบการจองตั๋ว E-Ticket ผ่านระบบอามาดิอุสทำให้มีเม็ดเงินตกหล่นถึง 2,000 ล้านบาทก็มีผู้บริหารคนนี้เกี่ยวข้องอยู่ด้วย  สุดท้ายก็มีพนักงานผู้กล้าหาญไม่ยอมจำนนต่ออำนาจเถื่อนไม่สามารถทนนิ่งให้เหลือบและเห็บตัวใหญ่กัดกินและดูดเลือดบริษัทได้ต่อไปจึงนำข้อมูลลับเปิดเผยต่อสาธารณะจนกลายเป็นเรื่องลือลั่น  .บุคคลพวกนี้ได้ใช้เงินของการบินไทยในการไปรับรองหรือเอาไปใช้จ่ายเพื่อตัวเองและมาอยู่ที่โตเกียวบ่อยๆ ร่วมกับภรรยาของเขา ภรรยาได้ทำธุรกิจร่วมกับนางพิมพ์ใจ มัตสุโมโตเป็นบุคคลที่มีร้านอาหารไทยและมีซูเปอร์มาเก็ตและขายตั๋วที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยเมียของเขาพร้อมกับพิมพ์ใจสามารถขนกระเป๋าน้ำหนักเกินเท่าไหร่ก็ได้ในทุกครั้งที่มีการเดินทาง   แล้วพิมพ์ใจสามารถซื้อตั๋วที่ถูกที่สุดในชั้นอีโคโนมีแต่แล้วก็สามารถอัพไปนั่งชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจได้แล้วสามารถขนสัมภาระน้ำหนักเกินได้  เอาเงินเอาทองไปใช้อย่างไรทำให้ทางสตาฟท้องถิ่นขาดเงินที่จะเอาไปใช้เลี้ยงรับรองดูแล ทั้งๆ ที่สาขาโตเกียวเคยทำรายได้สูงที่สุดให้กับการบินไทยมาแล้ว แต่ปัจจุบันนี้ตกพินาศเลย.     “การที่บุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ได้กลับเข้ามามีอำนาจเป็นบอร์ดบริษัทและยังเป็นถึงประธานบอร์ดบริหารที่มีอำนาจมาก เป็นคนที่บริหารงานในช่วงที่การบินไทยยังไม่มี ดีดี.ตัวจริง ผลประกอบไตรมาส 3 จึงออกมาขาดทุนถึง 5,200 ล้านบาทและยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่เปิดบินเส้นทาง โจฮันเนสเบอร์ก และนิวยอร์ก แบบขาดทุนย่อยยับทั้งยังร่วมกันกระบวนการจัดซื้อแอร์บัส A340ด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

ตั้งแต่เปิดให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ-นิวยอร์กเป็นระยะเวลา 3 ปี ผลการดำเนินงานการบินไทย "ขาดทุน" ถึงปีละ 1,000-3,000 ล้านรวมระยะเวลา 3 ปีมีการขาดทุนสะสมจากเส้นทางนี้เกือบ 7,000 ล้านผู้บริหารคนนี้คิดได้อย่างไร  โอแม่เจ้า การบินไทยเตรียมจะเปิดให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ-นิวยอร์กอีกครั้งหลังจากได้ทำการยกเลิกไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.51 เหตุผลเพราะการบินไทยไม่สามารถขายเครื่องบินแอร์บัส A340-500 กับ A340-600 ที่ใช้บริการในเส้นทางดังกล่าวได้เป็นไอเดียวัลลภ พุกกะณะสุต น่าสงสัยว่าที่ผ่านมายังประสบปัญหาต้นทุนการดำเนินงานเสียหายไม่หนักพอโดยเฉพาะต้นทุนรายจ่ายน้ำมัน

หลังเกิดเรื่องดังกล่าว สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ยื่นหนังสือต่อนายกฯอภิสิทธิ์ นายกรณ์ จาติกวณิชรมต.คลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่การบินไทย โสภณ ซาเล้งร.ม.ต.คมนาคมในฐานะผู้กำกับดูแลและอำพน กิตติอำพนประธานคณะกรรมการการบินไทยเพื่อให้จัดการเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะบอร์ดคนดังกล่าวขาดจริยธรรมมีการใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติมิชอบและยังมีพฤติกรรมส่อไปในทางกระทำผิดกฎหมาย   วัลลภในฐานะประธานกรรมการบริหารควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พนักงานและฝ่ายบริหารในการทำตามกฎเกณฑ์ที่ถูกต้องโปร่งใสและรักษาประโยชน์ของบริษัท  สิ้นหิริโอตตัปปะสิ้นเชิง  จงใจ ทั้งๆที่รู้ว่าผิดก็ยังทำ

การบินไทยเป็นของคนไทย การบินไทยมิใช่บริษัทส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นทรัพย์สินของประเทศของคนไทยทั้งหมดเนื่องจากเวลาไปเจรจาสิทธิทางการบินนั้นบริษัทการบินไทยก็ต้องอาศัยชื่อของประเทศไทย สิทธิของคนไทยทั้งประเทศไปเจรจา   แต่ไหนแต่ไรการบินไทยไม่เคยใด้ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ หรือ ผู้ที่มีความสามารถที่จะทำงานได้เข้ามาทำงานให้องค์กรเลย  นักการเมืองและนักธุรกิจใจสกปรกรวมถึงทหารบางกลุ่มเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบมาโดยตลอด    ชอบเอาพวกคนขายพริกไทย อัยการสูงสุดที่มาตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัยมาใช้งานแล้วกรรมการของการบินไทยโยนเศษเนื้อให้เยอะๆพวกมันจะได้ซื่อสัตว์ จงรักภักดี คนพวกนี้จึงมุ่งมั่นที่จะกัดกิน ทำลายล้างการบินไทย  ต้องถูกกัดถูกแทะจนถึงแกนใน  การบินไทยได้ถูกคนกลุ่มหนึ่งตั้งแต่บอร์ด ฝ่ายบริหารและพนักงาน(ยังไม่รวมนักการเมือง)รุมทึ้งกันมานานราวกับเป็นสมบัติส่วนตัว ใครจะทำอะไรกันตามใจชอบ ไม่ว่าขนของน้ำหนักเกินเกินสิทธิเศษที่ได้รับในฐานะพนักงาน/ฝ่ายบริหารหรือบอร์ด   อัพเกรดที่นั่งให้แก่พรรคพวกของตนเองฯลฯการกระทำเช่นนี้ทำให้การบินไทยเสียหายอย่างมาก อย่าชะล่าใจแม้จะว่าสอบผ่านเน(วิน)แล้วจะอยู่ยงคงกระพัน  ทำไมผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยรวมถึงกระทรวงการคลังและผู้ถือหุ้นใหญ่การบินไทยจึงปล่อยให้ฝูงผีปีศาจและฝูงเหลือบฝูงเห็บรุมดูดเลือด รุมโกงกินและรุมประทุษร้ายการบินไทยได้ถึงเพียงนี้หรือคิดแค่เพียงว่าการได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในองค์กรเป็นการได้โอกาสเข้ามากอบโกยและโกงกิน ทั้งๆที่ผู้โดยสารทั้งไทยและเทศต่างรับรู้ตรงกันว่าราคาตั๋วของการบินไทยนั้นแพงแสนแพง แพงกว่าสายการบินอื่นจนน่าตกใจ

การตัดสินของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบินไทยสรุปออกมาว่า ประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) การบินไทยและภรรยา  ใช้สิทธิตั๋วพิเศษ  ขนกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินกว่ากำหนด  ไม่มีการแจ้งขอตามขั้นตอนและไม่มีหลักฐานในการได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจ  ในขั้นตอนการโหลดสัมภาระและการนำสัมภาระออกจากสนามบินแสดงให้เห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม การที่วัลลภให้สัมภาษณ์ว่าการขนกระเป๋าน้ำหนักเกิน คนการบินไทยถือเป็นเรื่องปกติ ทำให้สหภาพฯและพนักงานการบินไทยทุกคนมองว่าวัลลภไม่ควรนั่งเป็นบอร์ดต่อไปเพราะทำให้ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย  นายกรณ์ จาติกวณิชรมต.คลังรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและอยากให้บอร์ดดำเนินการทางใดทางหนึ่งต่อไป   ที่ผ่านมาการบินไทยกำหนดให้พนักงานทำอะไร ไม่ทำอะไร    ในยามที่บริษัทมีวิกฤตเมื่อพบพฤติกรรมของกรรมการที่กระทำไม่ชอบเองแล้วฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตัดสินใจว่าควรจะดำเนินการอย่างไร

เพียงวัลลภออกมาจ่ายค่าขนสัมภาระเกินก็จบนับเป็นการตัดสินที่ขัดใจเจ้าของภาษีที่การบินไทยจับจ่ายไปในการทุจริตเชิงนโยบายเป็นอย่างยิ่ง  คณะกรรมการที่ลูบหน้าไปก็ปะจมูกน่าจะย้อนกลับไปดูถึงพฤติกรรมของวัลลภและผู้ที่เกี่ยวข้องตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมารวมทั้งการนำงบจากตรงโน้นตรงนี้ที่การบินไทยในโตเกียวต้องถูกนำไปใช้ไปจ่ายโดยมิชอบเพราะผู้บริหารคนนี้อีกทั้งยังมีการอัพเกรดตั๋วของนางพิมพ์ใจที่แทบทุกครั้งพนักงานการบินไทยในท้องถิ่นต้องถูกวัลลภตำหนิหรือบีบเค้นให้คนๆนี้ได้สำเร็จความใคร่ในการอัพเกรดตั๋วเพื่อความสะดวกสบายของตัวเองถ่ายเดียวโดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบใดๆต่อผู้อื่นหรือการบินไทย  

ตั๊น ภิรมย์ภักดีที่ได้นำปฏิทินวาบหวิวของเบียร์ลีโอไปแจกในทำเนียบ  ฮือฮาไปทั้งบ้านทั้งเมือง  จะโดยมารยาหญิง จะโดยการโฆษณาแฝง ขึ้นหน้า 1 โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาสักบาทหรือจะอะไรก็ตาม  แม้การกระทำครั้งนี้จะเป็นความพลาดพลั้งเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวด้วยการลาออกจากตำแหน่งข้าราชการการเมือง   หญิงสาว อายุ 24 การศึกษาดีแต่ไม่เพียงเท่านั้น เธอมีดี ดีกว่า หน้าหนาไม่เท่า ชายอกสามศอกสูงวัยใจปลาสร้อยรุ่นปู่ของน้องตั๊นอย่างวัลลภ  ยิ่งวัลลภออกมาบอกว่านี่เป็นเพียงแค่ข้อกล่าวหาจึงไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆรวมทั้งการลาออกเพราะที่ผ่านมาสส. สว.หลายคนก็ไม่เป็นต้องลาออก ทุกวันนี้บางคนยังนั่งอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆเสียอีก ก็ยิ่งสะท้อนจิตสำนึกของทั้งวัลลภและตระกูลของเขาที่เลี้ยงลูกๆของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่วัลลภตนเดียวเท่านั้นที่เปิดเผยตัวตนให้สังคมเป็นอย่างชัดเจน นิพัทธ์อดีตปลัดคลังบอร์ดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เพิ่งจะโดนศาลตัดสินคดีทุจริตรับเงินสินบนที่ดินรถไฟฟ้าบีทีเอสและยังถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ชดใช้เงินให้กับธนาคารออมสินจำนวน  500  ล้านบาทสมัยเป็นประธานธนาคารออมสินแล้วนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นธนาคารกรุงเทพพาณิชยการจนเกิดความเสียหาย คนในตระกูลนี้รับราชการจนมีตำแหน่งสูงๆหลายคน ดังนั้นกรณีวัลลภนั้นคงจะยากที่จะเรียกร้องให้เขาสำนึกได้แล้วลาออกไปเอง

ไม่ใช่แค่ให้ออกจากบอร์ดการบินไทยเท่านั้นรัฐบาลต้องดำเนินคดีตามกฏหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าเข้าประเทศโดยไม่เสียภาษี ต้องดำเนินคดีตามกฏหมายสรรพากรข้อหาหลบเลี่ยงภาษีรายได้ทั้งผังทั้งเมีย ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ปปช และปปท ข้อหาคอรัปชั่น หากไม่ดำเนินการทางกฏหมาย นายกรณ์จะต้องมีความผิดในฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียนประธานคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยและผู้ถือหุ้นบมจ.การบินไทยได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯอภิสิทธิ์ให้ดำเนินการตรวจสอบวัลลภ พุกกะณะสุตที่มีผิด มาตรา 6 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดชอบพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปีหรือตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 40,000บาท หรือประหารชีวิต

นางแจ่มศรี  สุกโชติรัตน์  ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบมจ.การบินไทยในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุสหภาพฯ  เตรียมทำหนังสือถึงบอร์ดเพื่อขอให้สอบสวนนายวัลลภด้วยเพราะที่ผ่านมาไม่มีบอร์ดรายใดกล้าขนสัมภาระจำนวนมากเกินกว่าที่ระเบียบปฏิบัติกำหนดไว้
     "ยืนยันว่าคนการบินไทยไม่เคยมีใครมีอำนาจขนสัมภาระได้ถึง  520  กิโลกรัม  การที่นายวัลลภให้สัมภาษณ์ว่าการขนกระเป๋าน้ำหนักเกินของคนการบินไทยถือเป็นเรื่องปกติทำให้สหภาพฯ  และพนักงานการบินไทยทุกคนมองว่า  นายวัลลภไม่ควรนั่งเป็นบอร์ดต่อไปเพราะทำให้ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย"  นางแจ่มศรีกล่าว สหภาพฯได้เรียกร้องให้พนักงานการบินไทยแต่งชุดดำส่วนพนักงานที่แต่งเครื่องแบบก็ใช้วิธีการนำผ้าดำมาผูกที่แขนแทนเพื่อแสดงออกและเรียกร้องให้บอร์ดและฝ่ายบริหารบริษัทการบินไทยกล้าตัดสินใจในการดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้องในการรักษาผลประโยชน์และชื่อเสียงของบริษัทในวันนี้ 18 ธ.ค. 52 ก่อนการประชุมบอร์ด

โสภณ ซาเล้งได้ออกมาจี้ต่อมสำนึกวัลลภต้องเคลียร์ตัวเองโดยยอมรับการตรวจสอบในกรณีอื้อฉาวนี้ ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องพิสูจน์ตัวเอง เราเรียกร้องให้ใครต่อใครปฏิบัติตามกฎและรัดเข็มขัด  ผู้บริหารต้องเป็นแบบอย่างและต้องมีความเท่าเทียมกันไม่มีการเลือกปฏิบัติ

บอร์ดการบินไทยมีมติตั้งกรรมการสอบวัลลภโดยให้เวลาตรวจสอบ 3 สัปดาห์ใน 2 ประเด็นว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ ทำให้การบินไทยต้องสูญเสียรายได้จากการเสียโอกาสจากการขนส่งสินค้าทางคาร์โก้ประมาณ 200,000 บาทหรือไม่ ซื้อเวลาไปได้อีก 3 สัปดาห์หรือที่ไม่กล้าไล่ออกวัลลภเพราะทำกันทั้งบอร์ดเหมือนกัน สหภาพแรงงานรัฐวิสากิจจึงได้เรียกร้องให้วัลลภ พุกกะณะสุตลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อคณะกรรมการแต่หากว่าหากตั้งผลที่คณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบพฤติกรรมมีผลสรุปออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจสหภาพฯ จะมีมาตรการบางออกมาอย่างแน่นอน ขออนุโมทนาบุญอย่างแรงที่นำผลไม้ 40 กระเป๋าไปถวายพระที่ท่านบอกว่าไม่ได้รับก็ตาม


 “การบินไทย ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล หรือหลักการกำกับดูแลที่ดีอันประกอบด้วย การยึดมั่นในความถูกต้อง ความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ จริยธรรม ฯลฯ โดยมุ่งปลูกฝังหลักดังกล่าวในสำนึกและพฤติกรรมของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน

การยึดมั่นในความถูกต้อง หมายความรวมถึง ความซื่อสัตย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ในการปฏิบัติหน้าที่ และการไม่ยอมให้เกิดความไม่สุจริตหรือความไม่ถูกต้องชอบธรรมเกิดขึ้นในส่วนที่ตนรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ หมายความรวมถึงคณะกรรมการบริษัทฯ ผู้บริหาร และพนักงานต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ของตนและชี้แจงอธิบายการตัดสินใจและการกระทำของตนต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเฉพาะต่อผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน

จริยธรรม หมายความรวมถึงการมีจิตสำนึกและพฤติกรรมที่ดีตามกรอบจริยธรรมธุรกิจและจรรยาบรรณที่ดีในการประกอบธุรกิจโดยมีความซื่อสัตย์ต่อตำแหน่งหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหาร”

17 ธันวาคม 2552

คนไทยทุกคนมีความสุขที่ได้เห็นฮุนเซนมีความทุกข์


ว่าจะ ไม่ จะไม่แล้วเชียว จำไม จัมมัย คนประเภทไหนกันพอฝนตกทีมั๊นก็ไหลมารวมกัน ยอมเป็นไส้ศึกให้คนขายชาติและฮุนเซนใช้งาน คอยรับลูก-รับสัญญาณคนใจรันมาบ่อนทำลายประเทศชาติตัวเองให้เรือหาย  ฮุนเซนชอบบอกว่าไม่เคยมีปัญหากับประเทศไทยหรือคนไทยแต่มีปัญหากับผู้นำบางคนในรัฐบาลนี้ซึ่งก็คือนายอภิสิทธิ์และนายกษิต แต่จะมีใครบอกฮุนเซนบ้างไหมนี่ว่าคนไทยทุกคนมีความสุขที่ได้เห็นฮุนเซนมีความทุกข์ ขอบอก!  ไอ้การที่จะให้ให้นายอภิสิทธิ์ลาออกหรือยุบสภานั่นมันหน้าที่ของเราชาวไทยทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนจัญไรหนักแผ่นดินอย่างพวก ...

เมื่อศาลในพนมเปญพิพากษาจำคุกคนไทยศิวรักษ์  ชุติพงษ์ 7 ปีและปรับ 10 ล้านเรียลมีข้อน่าสังเกตว่าไม่เคยปรากฏว่ากำหนดการการบินเข้า-ออกเขมรถือเป็นความลับมาก่อน  สมาชิกสหประชาชาติทุกประเทศไม่มีใครบ้าบัญญัติกฎหมายระบุถึงการเดินทางเข้า-ออกประเทศของบุคคลสำคัญเป็นความลับในราชการ  เขมรก็คงฉาวทั่วโลกและอาจถูกขับออกจากสหประชาชาติได้ง่ายๆ  ในคำพิพากษามีแค่คำกล่าวกว้างๆ อย่างเลื่อนลอย  อัยการและทนายจำเลยจะต้องนำสืบให้ศาลทราบว่าการได้มาซึ่งข้อมูลเป็นภัยต่อความมั่นคงของเขมรอย่างไร   ทนายคนใหม่ของศิวรักษ์ทำแค่ตามความต้องการของผู้มีอำนาจรัฐในระบอบเผด็จการของเขมร   ความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยแต่ต้นถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง   รัฐบาลเขมรได้ข้อมูลมากล่าวโทษศิวรักษ์โดยทางมิชอบด้วยการดักฟังโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของรัฐสภาไทยและองค์กรเอกชนที่ทำงานส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในไทยไม่ควรนิ่งเฉยในเรื่องนี้   ในคำพิพากษาศาลเขมรมีข้อความอยู่ท่อนหนึ่งที่น่าสนใจ "พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นคนของรัฐบาลเขมร ดังนั้นจึงย่อมต้องมีพันธะคุ้มครองชีวิต"

วิงวอนให้ศิวรักษ์ตั้งสติก่อนสตาร์ทด้วยเหตุและผลลองคิดก่อนจะไปแสดงอาการโมโหโกธาใครต่อใคร ไม่มีใครว่าศิวรักษ์ต้องรู้เห็นเป็นใจในการจัดฉาก น่าเห็นใจและน่าสงสารอย่างยิ่งที่ศิวรักษ์ก็ต้องมาเป็นเหมือนบรรดาวีดีโอคลิปแอบถ่าย  นักวิชาการและชาวบ้านหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ไว้ตั้งหลายประเด็น  ศิวรักษ์จะนึกสงสัยหรือไม่ว่าทำไมแม่ของตนจึงไม่ยอมประกันตัวศิวรักษ์ไม่ต้องนอนอยู่ในที่คุมขังระหว่างการต่อสู้คดีกระทรวงการต่างประเทศของไทยพยายามดำเนินการให้แล้วด้วย  ถ้าคุณเป็นพ่อ-แม่แล้วลูกถูกจับในเขมรคุณจะรีบประกันตัวลูกหรือไม่  ทำไมรัฐมนตรีของเขมรต้องมาต้อนรับดูแลพาคุณไปเยี่ยมลูกในเรือนจำ ทำไมผู้นำเขมรจับได้ว่ามีสายลับที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของเขมรจัดงานต้อนรับอดีตผู้นำประเทศของสายลับและจัดพิธีส่งตัวกลับให้ยิ่งใหญ่    คุณควรมีท่าทีเช่นไรกับคนที่คิดทำร้ายนายใหญ่ของคุณ  ทำไมคุณถึงจะต้องยินดีและเต็มใจช่วยเหลือคนที่คิดทำร้ายนายใหญ่ของคุณให้พ้นคดีอย่างเต็มที่

แรกที่ศิวรักษ์ถูกเขมรจับนางสิมารักษ์ ณ นครพนมเปญแม่ของจารชนคร่ำครวญว่าลูกชายเป็นหอบหืดและเกรงว่าจะหยุดหายใจตายเสียในคุกเขมร พ่อของจารชนที่เสียชีวิตไหลตายเพราะโรคนี้เช่นกัน  แม่ของจารชนผู้นี้ร่ำร้องให้นายตักขี้ กินชะมัดใช้ความสัมพันธ์ที่สนิทแน่นแฟ้นเป็นพิเศษกับสมเสร็จฮุนเซนช่วยเหลือให้ปล่อยตัวนายจารชนศิวรักษ์  ด้วยความช่วยเหลือของ ส.ส.และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยแม่ของจารชนผู้นี้ได้รับการประสานให้ไปพบจารชนแพะได้ ฮุนเซนส่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกไปคอยดูแลต้อนรับแม่ของจารชนเป็นอย่างดี แม่ของจารชนเริ่มร้องกับพรรคเพื่อทุยจะไปเขมรๆโดยไม่ต้องการพึ่งพาความช่วยเหลือของกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่แม่ของจารชนตำหนิว่าทำงานล่าช้า อ้างว่าเพราะเกรงใจกระทรวงการต่างประเทศของไทยก็เลยมาแถ ลงว่าเลยจะให้พรรคเพื่อทุยช่วยเหลือแทนและขอบคุณฮุนเซนที่ได้จับลูกจารชนอย่างศิวรักษ์ไว้อีก    แต่พอรัฐบาลไทยจะยื่นขอประกันตัวจารชนคนนี้ออกมาก็ปรากฏผู้เป็นแม่กลับขอให้รัฐบาลไทยถอนประกันโดยไม่เกรงว่าลูกชายจะหยุดหายใจหรือเสียชีวิตในคุกแค่ต้องการขอพระราชทานอภัยโทษเพียงอย่างเดียวระหว่างรอผลคำตัดสินคดีโดยไม่ยื่นอุทธรณ์  ทั้งพรรคเพื่อทุย พลพรรคเสื้อแดง อดีตนายกฯหน้าปลาตีนและนายตักขี้ กินชะมัดต่างดูแลแม่ของจารชนอย่างดีเยี่ยม  ออกข่าวใหญ่โต  ผู้เป็นแม่ได้ขอเปลี่ยนตัวทนายความมาเป็นทนายที่ตนเองก็ไม่เคยพบ   แทนทนายที่รัฐบาลไทยช่วยจัดหาทนายสิทธิมนุษยชนระดับแนวหน้าในเขมรซึ่งมีความกล้าต่อกรกับฮุนเซนอย่างนายเกา โสภา และออกค่าใช้จ่ายให้ด้วยอีกต่างหาก   ทั้งสิมารักษ์และโฆษกพรรคเพื่อทุยจึงให้สัมภาษณ์เหมือนล่วงรู้คำพิพากษาล่วงหน้าก่อนคำตัดสินของศาลหลายวันและได้เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ  แม่วิศวกรไทยระบุว่าจากนี้คงไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้ว อยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากนายตักขี้ กินชะมัด อดีตนายกฯหน้าปลาตีนรวมทั้งพรรคเพื่อทุยให้ช่วยศิวรักษ์ให้ได้รับอิสรภาพในเร็ววันโดยขอให้ดำเนินเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้ จู่ๆพอศิวรักษ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษทั้งแม่ของจารชนและโฆษกพรรคเพื่อทุยกลับไปยื่นหนังสือกับสถานทูตเขมรในประเทศไทยไม่ทัน แถมฮุนเซนส่งมอบตัวจารชนให้กับแม่ด้วยตนเองแถมยังให้ทำงานที่เดิมได้อีก  แถมยังทำพิธีปล่อยศิวรักษ์เหมือนพิธีปล่อย-ไถ่ชีวิตโค-กระบือตามงานวัดไม่ผิดเพี้ยน แม่ของจารชนยังออกมายืนยันไม่ขอรับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเรียกร้องให้เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตไทยในเขมรออกมารับผิดชอบอีก

หากนายกรัฐมนตรีอย่างฮุนเซนเป็นคนมีเหตุมีผล ไม่กลับกลอก นางสิมารักษ์ เป็นคนรักลูก ห่วงลูก  พลพรรคเพื่อทุยเป็นผู้จงรักภักดีกับนายตักขี้และมีเหตุมีผล   อดีตนายกฯหน้าปลาตีนอดีตผบ.ทบ. ผู้รักชาติบ้านเมืองไม่เลอะเทอะและนายตักขี้ กินชะมัดก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีผู้หวังดีต่อประเทศไทย คนไทยตาแดงๆอย่างเราก็จะเห็นว่าเหตุการณ์ข้างต้นนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ยกเว้นแต่ว่าทั้งหมดที่เห็นและเป็นไปมีบทมีตอน ให้ตัวละครหลักคือสิมารักษ์ ณ นครพนมเปญเป็นตัวหลักในการเดินเรื่อง นพดล ปัสสาวะ 'เด็ดพี่พร้อมพงศ์เป็นตัวประกอบหลักเพื่อเสริมบทและแย่งซีนชิงบทกันเอง   มีฮุนเซน - อดีตนายกฯหน้าปลาตีน - นายตักขี้ กินชะมัดเป็นตัวประกอบและผู้ผลิตรายการอยู่หลังฉากโดยความช่วยเหลือของอีแดง ซาลาเปาที่ลึกซึ้งกับสามารถฯต้นสังกัดของ cats   ทั้งหมดทำให้ลูกชายของนาง ณ นครพนมเปญติดคุกฟรีหลายวันแถมมีประวัติอาชญากรรมติดตัวไปตลอดชีวิต  ทั้งๆที่พ่อของศิวรักษ์เคยมีบุญคุณกับนายตักขี้ กินชะมัดสมัยที่ยังวิ่งขายหนังในต่างจังหวัด นายตักขี้ กินชะมัดทำเช็คเด้งเป็นว่าเล่นแต่สุวิทย์กลับช่วยหานายทุนมาต่อลมหายใจให้นายตักขี้ กินชะมัดโดยที่ไม่เคยทวงบุญคุณ

ส่วนใหญ่พนักงานไทยที่ทำงานใน CATS จะมีอายุ 50 ปีขึ้น  ศิวรักษ์เป็นเพียงพนักงานในระดับหัวหน้างานที่มีอายุน้อยที่สุดแค่ 30 ต้นๆ แข็งแรง เล่นแบดมินตันและชอบย่ำราตรี ศิวรักษ์จึงโดนเลือกที่จะเป็นเหยื่อโดยที่ตัวเองอาจจะไม่รู้หรือรู้เรื่องเกมการเมืองครั้งนี้   ชาวบ้านเขารู้กันทั่วว่าสิมารักษ์ ณ นครพนมเปญเป็นแกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา  ดังนั้นชื่อของสิมารักษ์ต้องอยู่ในแถวหน้าอยู่ในมือของผู้บริหารพรรค   ตั้งแต่วันแรกที่ศิวรักษ์โดนจับ จนถึงวันนี้นางแสดงหลายบทบาทแต่ละตอน ตั้งแต่แม่ที่รักลูกจนถึงบทนางมารร้ายที่ยอมให้ลูกชายติดคุก  สามารถกับชินขอบแข่งขันกันมานาน  นานจนสามารถรู้ว่าคงไม่สามารถสู้กับเหลี่ยมทางธุรกิจและอำนาจของนายตักขี้ กินชะมัดจึงไม่แข่งขันในธุรกิจ หลบไปรับสัมปทานจากรัฐบาลในงานที่ชินขอบไม่ถนัด   ส่วนในเขมรนั้นใครก็ตามที่ต้องการได้สัมปทานต้องเข้าถึงตัวผู้นำ มีความสามารถในการจ่ายเงินใต้โต๊ะอย่างมหาศาล   โดยในช่วงที่สามารถฯได้สัมปทานงานควบคุมการจราจรทางอากาศในเขมรดป็นจังหวะที่นายตักขี้ กินชะมัดกำลังมีปัญหากับรัฐบาลฮุนเซน  สามารถจึงได้สัมปทาน  ฮุนเซนก็รู้ว่าการบริหารการจราจรทางอากาศสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล ทำไมจะต้องให้รายได้ส่วนนี้ตกอยู่ในมือคนอื่นและหาทางที่จะยึดสัมปทานงานจราจรทางอากาศคืนแล้วจะให้ลูกสาวเข้าดำเนินการแทน  รายได้อันมหาศาลต่อเดือนย่อมทำให้ฮุนเซนน้ำลายไหลย้อยได้โดยง่าย  ส่วนสามารถเองก็ยังมีธุรกิจอื่นพอเลี้ยงตัวต่อไปได้อีกจึงจำต้องยอม ยอมเข้าร่วมการเล่นละคร ยอมเสียพนักงานเพื่อความอยู่รอด

นาง ณ นครพนมเปญมีความซื่อสัตย์และความจริงใจอย่างน่าชื่นชม แต่ถ้าความซื่อสัตย์และความจริงใจนั้น  นาง ณ นครพนมเปญเปลี่ยนจากนายตักขี้ กินชะมัดและจิ๋วอดีตนายกฯหน้าปลาตีนมาเป็นประเทศไทยแล้วเมื่อนั้นประเทศไทยคงเบาตัวขึ้นอีกเยอะ  ลูกชายไม่ได้ผิด  แต่แม่คนนี้ไม่เคยแสดงความเชื่อมั่นในสิ่งถูก - ไม่เคยแสดงความจริงใจที่จะพยายามพิสูจน์ - อ้างความรักของแม่ที่มีต่อลูกขึ้นเหนือความผิด-ถูก-ศักดิ์ศรี - ยอมทุกอย่าง  อะไร-แบบไหนได้ทั้งนั้น  เพียงขอให้ลูกพ้นคุกเป็นใช้ได้ -   ใครเลยจะเชื่อว่าชีวิตจริงคนเราจะถูกนำมาล้อเล่นสามารถสร้างเป็นละคร(ลวงโลก)ทั้งผู้สร้างและผู้แสดงเล่นไม่สมบทบาทอย่างแรง  สิมารักษ์ ณ นครพนมเปญระบุใครจะเอาลูกชายไปเป็นตัวประกันเพื่อแลกข้อเสนออะไรบางอย่างทั้งย้ำชัดถ้อยชัดคำว่า “เอาลูกไปติดคุกเพื่ออะไรแค่คิดก็ถือว่าเลวสุดๆแล้ว"  ในระหว่างที่ละครเรื่องนี้ค่อยๆดำเนินและพัฒนาเนื้อเรื่องอย่างต่อเนื่องแล้วสิ่งที่ดูจะผิดหูผิดตาซึ่งเสมือนเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่หากใครมองข้ามก็จะมองไม่เห็นจุดผิดสังเกตตรงนี้  ยอดคุณแม่ทาเล็บ - ทาตาด้วยสีที่เข้ากับเสื้อผ้าทุกชุดเลยนี่ขนาดลูกติดคุกอยู่เห็นๆ  ความสวยสะพรั่งและไฮโซโก้หรูที่แม่ของจารชนซึ่งเป็นครูชำนาญการณ์พิเศษวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมาปรากฏเด่นชัดขึ้นทุกวันผ่านทางเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์หรือแม้กระทั่งเครื่องประดับที่ล้วนแล้วแต่มียี่ห้อและเป็นของแบรนด์เนมชื่อดังจากต่างประเทศ  ข่าวว่านี่เพิ่งจะถอยแคมรี่ป้ายแดงมาใหม่ไม่นานมานี้เอง คงเอาชีวิตลูกติดคุก 32 วันไปแลกมานั่นเองไอ้ที่หลุดนั่นไม่ได้พ้นผิดแต่เพราะได้รับการอภัยโทษ  ความผิดติดตัวลูกไปทั้งชีวิตยังไง่อยู่อีก ลูกชายนอนคุกเขมรเป็นเดือนๆแล้วออกมาหน้าตาผ่องใส แก้มยุ้ยเป็นพวงเชียว

16 พย. 2009 ชุดสไบเฉียง   เธอคือแม่พิมพ์ของชาติ
17 พย. 2009 ชุดลายจุดพร้อมมือถือ   เธอมาในมาดเซลขายประกันที่เร่งปิดยอดเป็นการด่วน
1 ธค. 2009 ชุดชมพูคว้านคอ    เธอมาในชุดงานหมั้นก่อนวิวาห์เป็นที่เสน่หาของคู่หมั้นยิ่งนัก
7 ธค. 2009 ชุดดำทมึน    เธอเปลี่ยนบทมาเป็นเจ้าแม่แห่งหนังฮ่องกงที่ต้องเร่งรีบขึ้นเครื่องบินไปดูงานในต่างประเทศ
8 ธค. 2009 ชุดม่วงลายดอก    เธอเปลี่ยนเป็นบทแม่ที่แสนอาภัพที่ลูกน้อยถึงคราวเคราะห์ช่างน่าสงสารยิ่งนัก
11 ธค. ถึงปัจจุบัน ชุดพร้อมเครื่องประดับแบรนด์เนม    เธอได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ

'เด็ดพี่โฆษกพรรคเพื่อทุยไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศเรียกร้องในคุณกษิตและนายคำรบแสดงความรับผิดชอบโดยให้ลาออกจากตำแหน่งสอดรับกับที่นาง ณ นครพนมเปญที่พุ่งเป้าไปที่นายคำรบ "ถ้านายคำรบไม่โทรศัพท์ไปหาลูกชายเขา  นายศิวรักษ์ก็ต้องไม่มีวันนี้" คล้ายต้องการประจานว่าประเทศไทยโจรกรรมข้อมูลลับผ่านนายคำรบฉะนั้นทั้งนายคำรบก็ดี  คุณกษิตก็ดีต้องรับผิดชอบ    คุณกษิตก็อย่าอยู่เฉยๆสมควรลงโทษให้นายคำรบขึ้นเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิมในประเทศเกรดเอแล้วอย่าเอาเขาไปวางในประเทศถ่อยๆแบบนั้นอีก   เข้าใจอะไรผิดกันหรือเปล่านี่ว่าไม่แปลกเลยเลยที่นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชยจะโทรสอบถามตารางการบินกับศิวรักษ์   ถ้าเลขานุการทูตเอกบกพร่องต่อภาระหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ-ประชาชนไทยที่ไม่เอาใจใส่ปล่อยปละให้นายตักขี้ กินชะมัดเข้าเขมรแล้วมีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานทั้งภาพ-ทั้งข่าวไปทั่วโลกโครมๆอย่างนี้ต่างหากที่'เด็ดพี่พร้อมพงศ์ควรทำหนังสือยื่นให้กระทรวงการต่างประเทศรีบไล่นายคำรบออกไปเลย    ส่วน'เด็ดพี่(ทิ้งไป)นั้นรอรับการตรวจได้เลยเพราะการได้ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดยพรรคเพื่อทุยจากการดักฟังโทรศัพท์ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งของไทยและของเขมร ยิ่งนายตักขี้ กินชะมัดออกพูดเองว่ารู้เรื่องโทรศัพท์ เข้า-ออก สถานทูตไทยในเขมร  รัฐบาลไทยจะต้องมีการตรวจสอบต่อไปเพราะเรื่องดักฟังการสนทนาโทรศัพท์ของสถานทูตไทยถือว่าละเมิดอธิปไตยของไทย

" ดังนั้นเหตุที่เขมรยุติคดีนี้และมีการให้อภัยโทษอย่างเร็วนั้น ผมตั้งข้อสังเกตว่าเขมรต้องรีบจบเรื่องดังกล่าวเพราะกลัวว่าฝ่ายไทยจะจุดประเด็นเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ขึ้นมาโจมตีซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายที่ดักฟังข้อมูลในสถานทูตประเทศอื่น" อดีตผอ.กอง 2 ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กล่าว

นาง ณ นครพนมเปญยังแถย้ำไม่รู้จักนายตักขี้ กินชะมัดมาก่อนและศิวรักษ์เองก็ไม่สบายใจที่พ่อโดนคุ้ย มีแต่คนชื่นชมที่ผัวเธอเคยช่วยนายตักขี้ กินชะมัดเรื่องธุรกิจแล้วยังถูกนายตักขี้ กินชะมัดมันเบี้ยวหนี้  รู้ทั้งรู้ว่าลูกต้องมานอนคุกแล้วลำบากทำไมไม่ประกันตัวลูกชายเล่าตัว   ส่วนเรื่องอดีตนายกฯหน้าปลาตีนที่เธอบอกว่าไม่รู้จัก แต่อ้ายส.ส.เพื่อทุยมันบอกว่าเธอเคยช่วยงานการเมืองอดีตนายกฯหน้าปลาตีนไม่ใช่หรือ

สมรังสีผู้นำฝ่ายค้านที่กำลังลี้ภัยฮวยเซ็งในต่างประเทศระบุว่าฮุนเซนกำลังเล่นกับไฟเพิ่มความตึงเครียดยั่วยุไทย  เหตุการณ์การจับกุมศิวรักษ์เป็นTheater Playsที่เตรียมทุกอย่างไว้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบหวังคะแนนนิยมของทั้งฮุนเซนเองกับพรรคเพื่อทุย "ท่านกำลังพูดว่า การจับกุมกับการอภัยโทษเป็นการสมรู้ร่วมคิดกัน?" พิธีกรสโรชาถาม

สส.พรรคเพื่อทุยแบไต๋ส่งสัญญาณว่าเขมรขอคืนดีในความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเขมร  ในเมื่อกษัตริย์เขมรยังใจกว้างพระราชทานอภัยโทษให้แล้วทำไมพระมหากษัตริย์ไทยถึงไม่นิรโทษกรรมให้กับนักโทษชายหนีคดีบ้างเล่า  การที่พรรคเพื่อทุยและคนเสื้อแดงพยายามเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือนายใหญ่ทุกวิถีทางเพื่อให้พ้นคดีทุจริตนั้น  ทั้งดูองค์ประกอบและพฤติกรรมการกระทำของผู้ที่จะร้องขอทำเรื่องขออภัยโทษ หากนักโทษผู้นั้นยังไม่สำนึกในความผิดที่ทำขึ้นและยังคงจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ปลุกปั่นให้คนในชาติเกิดความแตกแยกสามัคคี ก็คงจะไม่มีใครที่คิดจะขอพระราชทานอภัยโทษให้กระมัง

"ณ เมืองลุง" ได้เขียนเรื่อง "ความจริงที่เราควรรู้ว่าทักษิณมาเขมรทำไม" ลงในบล็อกโอเคเนชั่น http://www.oknation.net/blog/kongplod แค่ต้องการชี้ให้เห็นว่าหากเรานำเรื่องราวทั้งหมดมาปะติดปะต่อกัน การมาของนายตักขี้ กินชะมัดเป็นฮีโร่มาทำพิธีปล่อยเต่า ... เอ้อ ... ปล่อยตัวศิวรักษ์เองที่เขมร    คนอย่างนี้  คนผู้ซึ่งได้ไปอยู่ที่ไหน...ฉิบหายที่นั่นไม่น่าจะคิดเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว มันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่นอน  หรือนายตักขี้ กินชะมัดไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ไม่มีที่ไป เพราะพื้นที่ให้เคลื่อนไหวก็เหลือน้อยเหลือเกิน  คงจะมีเพียงแต่ เพื่อนชั่ว.........นิรันดรอย่างฮุนเซนนี่เองที่ยังพอจะพึ่งพาได้

เป้าหมายสำคัญที่แท้จริงมีอยู่ 2 ประการ คือ บ่อนทำลายรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศของไทย และ ชูภาพ นักโทษชายหนีคุกอย่างนายตักขี้ กินชะมัดและพรรคเพื่อทุยให้เป็นฮีโร่  เป็นการมุ่งเป้าที่แยบยลกะจะยิงนัดเดียวได้นกทั้งท้องฟ้า ปรากฏว่า ไอ้การดักฟังโทรศัพท์การสนทนาของ 2 หนุ่มสุดซวยนั่นเป็นการจารกรรมเสียเอง และยังเป็นการทำผิดกฎหมายทั้งระหว่างประเทศและในประเทศอีก   เจ้าตัวที่ถูกดักเองก็รู้แต่แทนที่พรรคเพื่อทุย ศิวรักษ์ และ สิมารักษ์ ณ นครพนมเปญจะคำนึงถึงความเป็นคนไทยซึ่งแทนที่จะต้องปกป้องเกียรติภูมิชื่อเสียงของแผ่นดินเกิดของตัวเองกลับจะมาขยายผลให้เรื่องบานปลายและเบี่ยงเบนประเด็น  เพื่อทำลายบ้านตัวเอง   คณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนฯเองก็แร้ง...แรง ทำตัวเป็นคนในรัฐสภาเขมรเสียอย่างนั้น สงสัยว่านายคำรบกระทำการเองจริงหรือไม่หรือมีไอ้โม่งที่ไหนสั่งการหรือไม่และไอ้โม่งที่ว่ากินเงินหลวงอยู่หรือไม่หรือเป็นคนนอกราชการ     ทั้งคนในพรรคเพื่อทุย แพะ คนในกรรมาธิการ และ แม่แพะ ณ นครพนมเปญพวกนี้สมควรถูกตราหน้าว่าพวกกายเป็นไทยแต่ใจเป็นเขมรซึ่งคนที่ทำได้แม้กระทั่งชักศึกเข้ามาเผาบ้านตัวเองเช่นนี้ต้องใช้คำว่าชั่วเกินจินตนาการ

การแก้ไขปัญหาให้ได้ผลนั้น-ต้องแก้ที่ต้นเหตุ     ต้นตอของปัญหาความสัมพันธ์ไทย-เขมรมาจากการที่ผู้นำรัฐบาลเขมรเป็นฝ่ายที่เลือกดำเนินการแทรกแซงกิจการภายในของไทยและดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมของไทยซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2552 ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในประเทศไทยและต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

11 ธันวาคม 2552

บ้านเมืองดีไม่มีขาย ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยน้ำลายหรือฟอร์เวิร์ดเมล์




8 โมงเช้าท่านเคยร้องเพลงชาติไหม
6 โมงเย็นท่านเคยร้องเพลงชาติอีกครั้งไหม
ท่านร้องเพลงชาติครั้งสุดท้ายเมื่อใด
7 ตุลาตอนตำรวจยิงระเบิดใส่ประชาชน ท่านได้ไปร่วมเหตุการณ์หรือไม่
193 วัน ท่านไปร่วมชุมนุมบ้างไหม
13 เมษาสงกรานต์เลือด ท่านเคยไปร่วมเผาบ้านเผาเมืองหรือไม่
ท่านอยู่ในเเก็งค์ริบบิ้นขาวติงต๊องหรือไม่
ท่านเคยเข้าไปชมเวปจาบจ้วงเบื้องสูงหรือไม่

ถ้าท่านไม่เคยทำหรือไม่เคยร่วมเหตุการณ์เหล่านี้ กรุณาเงียบเเละศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนดีกว่าหรือไม่ ก่อนที่จะมาตีความเอาเองเรื่องการแตกความสามัคคีของคนไทยหากท่านไม่รู้ปัญหาและอย่าเอาปัญญาอันน้อยนิดมาโชว์เพื่อจะบอกว่ารักสถาบัน อยากให้คนไทยรักกันไม่แบ่งข้าง และกรุณาหยุดสร้างเมล์์ลวง เมล์์กลวงอีกต่อไปเลย  เอาเวลาไปทำธุรกิจ ไปดูแลครอบครัว หรือไปหาข้อมูลให้ได้มากกว่านี้จะดีกว่าและไม่ต้องสะเออะมาตีความว่าพระองค์ท่านคิดอย่างไรกับประชาชนและสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้เพราะพระองค์ท่านอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของประชาชนคนไทยทุกคน   ท่านมีสิทธิ์เลือกสี เลือกข้าง เพียงแต่การเลือกครั้งนี้คือการเลือกข้างการทำความดีหรือการเลือกข้างการทำความชั่ว

การที่ท่านอยู่ตรงกลางแล้วไม่ทำอะไรปล่อยให้ประเทศเป็นไปแบบนี้แล้วลอยหน้าลอยตาบอกให้คนไทยรักกันโดยไม่มีสาเหตุท่านก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ปิดอนุสาวรีย์ตอนเดือนเมษาแล้วบอกว่าทำเพื่อประชาธิปไตย   ระหว่างความดีและความชั่วเราจำเป็นต้องเลือกหรือไม่   ท่านที่มีแนวคิดแบบกลวงๆอาจเข้าใจว่าอยู่กลางๆดีกว่า ใครจะทำดีหรือทำเลวก็ช่างมัน มองไปไม่พ้นหัวแม่เท้าของตน ขอให้ตนเองไม่เดือดร้อนก็เป็นพอ มันก็ไม่ผิดหรอก คนเราต่างคนก็ต่างจิตใจ แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งคือการกล่าวหาว่าคนที่เลือกข้างของความดีเป็นคนไม่ดี    เพราะคนดีนั้นย่อมทำแต่สิ่งที่ดีงามต่อสังคมและถึงแม้ว่าคนดีเหล่านั้นตั้งเสียสละชีวิตหรืออวัยวะก็ตามซึ่งจะยังประโยชน์ให้แก่ทุกๆท่านรวมทั้งผู้ที่หลงผิดทั้งหลายด้วย     ตัวอย่างเช่นถ้าหากศาลฏีกายึดทรัพย์ของตักขี้ กินชะมัดจากการขายชินขอบให้เตมาเสก 76,000 กว่าล้านบาทให้เป็นของแผ่นดิน ไม่มีคนเสื้อเหลืองคนใดได้รับผลประโยชน์โดยตรงเลย แต่พี่น้องชาวไทยทุกคนโดยส่วนรวมได้ประโยชน์ด้วยการให้ทรัพย์นั้นตกเป็นของแผ่นดิน

ฟอร์เวิร์ดเมล์์หลายตัวเช่นคุณเห็นอะไร? เมล์นี้เริ่มต้นด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันเสด็จฯออกมาสักการะพระอนุสาวรีย์พระชนกและพระชนนีภายในโรงพยาบาลศิริราชเป็นการเสด็จฯ ออกมาให้พสกนิกรได้เห็นหลังมีข่าวลืออัปมงคลโดยชุมชนเสื้อแดง   เมล์นี้ย้ำว่าผู้เขียนเขารู้สึกได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระทัยในความแตกแยกของคนไทยและคนไทยกำลังถูกมอมเมาด้วยเงิน คำสัญญาที่ว่างเปล่า ไม่จริงใจ สับสน ด้วยข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าวเท็จจากสื่อ จนแตกแยกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบ 200 ปี   จากที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขสันติ กลับมาต้องเลือกข้าง เลือกสี โกรธแค้นชิงชังกับคนที่คิดไม่ตรงกัน ก้าวร้าวใส่กัน เรียกร้องสิทธิเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่รู้จักหน้าที่ของการเกิดมาเป็นคนไทย จนประเทศเพื่อนบ้านได้รับประโยชน์จากความแตกแยก และนานาอารยประเทศเห็นประเทศไทยเป็น Failed State หรือรัฐที่ล้มเหลว และสิ่งที่ล้มเหลวที่สุดคือ การสร้างความสามัคคีในหมู่คนไทย   ผู้เขียนเมล์นี้ ย้ำว่า พระมหากษัตริย์ทรงใช้เวลากว่า 60 ปีในการสร้างความสามัคคี ความภูมิใจในชาติ และเอกลักษณ์ให้โลกรู้ แต่เราคนไทยใช้เวลาเพียง 2- 3 ปีเท่านั้นเองด้วยทิฏฐิ โทสะ โมหะ สร้างความบาดหมางต่อกันและทวีความรุนแรงมากขึ้น   เมล์นี้จบลงด้วยการเรียกร้องให้คนไทยรักสามัคคี เพื่อพระเจ้าอยู่หัวและลูกหลานของเราทั้งมวล

คนที่อ่านเมล์นี้มักจะเห็นด้วยกับผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ ขอบคุณมากที่ทำเมล์นี้ขึ้นมา แต่เมื่อได้อ่านไปอ่านมาหลายๆรอบแล้ว ในฐานะที่ผู้เขียนดูเหมือนว่ามีความรู้สูง มีฐานะดีในสังคมไทยคนหนึ่ง แต่ผู้เขียนเมล์นี้ควรต้องศึกษาให้ถ่องแท้ด้วยว่า ทำไมเราคนไทยวันนี้จึงต้องสามัคคีเลือกข้าง ทำไมเราต้องเลือกที่จะประกาศตนชัดเจนลงไปว่าเราจะอยู่เคียงข้างฝ่าพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศ์ทุกพระองค์เพื่อผดุงไว้ซึ่งสถาบันสูงสุดอันเป็นที่เคารพรักบูชาของเราทั้งปวง ดังนั้นก่อนการเขียนท่านผู้เขียนจึงควรจะต้องศึกษาให้ลึกลงไปในปัญหาการแบ่งสีเลือกข้างแล้วจะได้ไม่พูดลอยๆ เพราะสีสันเหล่านี้มีที่มาที่ไป ใครต่อใครอีกหลายคนยังแยกแยะไม่ออกหรือว่าสีเหลืองและสีแดงมีความแตกต่างกันที่ไหน     คนอย่างพวกท่านคนที่ทำหน้าซื่อ ไร้เดียงสา ใช้ถ้อยคำหรูหรา ทำให้ดูว่าสูงส่ง วางตนเหนือปัญหา เหนือผู้คนในสังคมแต่กลับนิ่งเฉยในวันที่นักการเมืองโกงบ้านกินเมืองวันที่ตักขี้ กินชะมัดสถาปนาอำนาจอัปรีย์และคิดการณ์ใหญ่ต่อราชวงศ์  คนอย่างพวกท่านมีเยอะ คนที่พูดว่า รักในหลวงต้องสามัคคี สงบ สันติ อย่าแบ่งสี หยุดเลือกข้าง มารักกัน แล้วอย่างไรต่อ  

ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้   คนดีมีความรู้มีความสามารถจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจและต่อต้านระบอบสามานย์นี้หรอกหรือ  หรือว่าการอยู่เฉยๆ ดูเขารุมโทรมประเทศชาติและจาบจ้วงสถาบันเป็นความสามัคคี สงบ สันติ สีขาว ถ้าจะมีสุขก็คงเป็นคนอย่างพวกท่านในระหว่างที่พี่น้องร่วมชาติถูกเอารัดเอาเปรียบมาตลอด  คนที่วางตัวเป็นกลางเป็นคนเช่นไรในสถานการณ์วิกฤตอย่างนี้และเราจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ รวมถึงว่าเราจะทำอย่างไรกับนักการเมืองห่วยๆ ในสภาฯ   ถ้าพวกท่านอยากเห็นบ้านเมืองคุณธรรมเพื่อลูกหลานของพวกท่าน พวกท่านก็ต้องมาร่วมกันสู้เพราะบ้านเมืองดีไม่มีขายและไม่สามารถสร้างขึ้นด้วยน้ำลายหรือฟอร์เวิร์ดเมล์    จากฟอร์เวิร์ดเมล์นี้ทำให้เรารู้ว่าบางทีเราต้องช่วยให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงกับคนอย่างพวกท่านมากขึ้นไปกว่านี้อีกเพราะคนที่เราเห็นอาจไม่ฉลาดอย่างที่เราคิดหรือคนที่เราคิดว่าไม่น่าจะใช่แต่กลับตรงข้าม    การพูดเรื่องความรัก ความสามัคคีของคนในชาติต่อหน้าคอมพิวเตอร์ส่งแต่ฟอร์เวิร์ดเมล์หรูๆ จะช่วยอะไรได้   สื่อของเรา ASTV พูดแต่ความจริงเพราะเราเป็นสื่อที่เลือกเสนอความจริง เราไม่กลัวที่จะเลือกข้าง ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ไม่เคยเสียดายหากต้องเสียสละชีวิตเป็นราชพลี เพื่อพิสูจน์ความจริงในฐานะสื่อมวลชนที่เลือกข้างความถูกต้องนั้นจะช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งทำอย่างที่พวกท่านทำ   ท่านจะฉลาดพอที่จะทราบความระยำตำบอนเหล่านี้บ้างหรือไม่

ผู้ที่คิดผู้ที่เขียนเช่นฟอร์เวิร์ดเมล์นี้รู้ไหมเสื้อแดงเกิดมาจากตักขี้ กินชะมัดและพวก  คนพวกนี้ทำวิทยุ เว็บไซต์ ปราศรัยจาบจ้วงในหลวง พวกเขาเผาบ้านเผาเมือง ล้มการประชุมอาเซียน พัทยาไล่ฆ่านายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ทำลายเศรษฐกิจของเราจนย่อยยับ เพื่อตักขี้ กินชะมัดได้พ้นคดีโกงชาติ และเอาเงิน 76,000 ล้านบาทของเขากลับคืนไป เสื้อแดงเกิดมาเพื่อทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อตักขี้ กินชะมัดและครอบครัว   การชุมนุมทั้งหมดของคนเสื้อแดงมีแต่มุ่งเน้นที่จะช่วยตักขี้ กินชะมัดคนเดียว มีการก่อจลาจลในเดือนเมษายน ข่มขู่ว่าระเบิดรถก๊าซ (มีถ่ายทอดสดให้ชมตลอด) มีการยกพลบุกมาทำร้ายพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวาน (รูปเสื้อแดงชูมีดและดาบปรากฏในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ) มีการก่อกวนการเสวนาที่ ม. ธรรมศาสตร์ โดยการด่าทอ ขว้างปาข้าวของ และโชว์อวัยวะเพศ (มีสื่อมวลชนถ่ายรูปไว้ด้วย) และอื่นๆอีกมากมาย พฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในการชุมนุมของพันธมิตรฯเลยทั้งๆที่พันธมิตรฯชุมนุมยาวนานกว่าและมีจำนวนคนมากกว่า

เมื่อเกือบสิบปีก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาคดีซุกหุ้นในปี 2544-45 ที่ศาลบอกว่าไม่ซุกนี่ทำลายความศรัทธาของประชาชนไปอย่างมาก  ในรอบหลายปีที่ผ่านมาตำรวจกลับกลายเป็นสิ่งปฏิปักษ์ องค์กรปฏิปักษ์ของประชาชนทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ให้กับคนชั่วครองเมือง รัฐตำรวจจึงเป็นรัฐตำรวจที่น่ารังเกียจที่สุดโดยเฉพาะตำรวจชั่วเหล่านั้นที่สุมตัวอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   ตำรวจชั่วเหล่านี้มีเพียงไม่กี่ตนสามารถทำให้วงการตำรวจคนดีๆ ที่มีอยู่จำนวนมากมัวหมองและชั่วร้ายไปหมด ระบอบทุนนิยมสามานย์ที่ชั่วร้ายที่สุดในปี 2548 ที่ออกฤทธิ์ 2549 ที่ออกลาย 2550 ที่อยู่ในอาการฟักตัว 2551 ที่อยู่ในอาการออกอาละวาด และทุนสามานย์ในปี 2551 มันได้รุกรานสถาบันสูงสุดของชาติอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน   การโจมตีสถาบันหลักของชาติที่เรียกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ฐานที่มั่นสุดท้ายของสังคมไทยและสังคมไทยรู้สึกทนไม่ได้ อดทนไม่ได้จึงลุกขึ้นสู้มาตลอดจนถึงวันนี้

เราแตกแยกกันเพราะสังคมไทยเติบโตพิกลพิการ     ตักขี้ กินชะมัดสามารถจับกิเลสนี้ได้อยู่หมัดคนส่วนใหญ่ถูกหล่อหลอมให้เห็นเงินเป็นใหญ่มากกว่าความดีงาม  และตักขี้เอาเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจใต้โต๊ะฟาดหัวลงไปจนกลายเป็นความแตก และแยกเรามาจนถึงทุกวันนี้   ในรอบหลายปีมานี้บ้านเมืองไม่เจริญอย่างที่ควร เพราะนักการเมือง ทหาร ข้าราชการ ตำรวจ ล้วนแต่ไม่ทำหน้าที่ ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ตรงไปตรงมาแต่เราแตกแยก รบราฆ่าฟันกัน ไม่สงบ ไม่มีสันติ เพราะเงินตักขี้ กินชะมัดที่โกงไปจากคนไทย เงินที่ระบอบตักขี้ กินชะมัดดูดไปจากประชาชน ถูกแจกจ่ายไปยังข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง นักธุรกิจฉ้อฉล ครู และพระ จนกลายเป็นอาณาจักรแห่งคนพาลสันดานหยาบที่ไม่รู้จักถูกผิด ไม่สามารถแยกสีขาว-ดำ แถมช่วยกันบั้นทอนเสถียรภาพของสถาบันสูงสุดจนเป็นที่มาของกรณีล้มเจ้าเพื่อสถาปนารัฐไทยใหม่ที่ปกครองโดยประธานาธิบดีอย่างตักขี้ กินชะมัด

พวกท่านรู้หรือไม่ว่า

1/ สื่อมวลชนถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพของโดยอำนาจรัฐตำรวจของตักขี้ กินชะมัด   ผู้คนหลากหลายอาชีพ ผู้บริสุทธิ์มากมาย สื่อมวลชนและชาวไร่ ชาวนาถูกคุกคามจนหมดอาชีพหรือถึงขั้นหมดลมหายใจจากการบริหารงานของรัฐบาลสมัยตักขี้ กินชะมัด ในวันที่พวกเราลุกขึ้นสู้เพื่อในหลวง ต่อต้านเว็บไซต์สามานย์เราก็ยังยืนหยัดหลังชนกันแล้วประกาศว่ากูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อยโน่น

2/ เนวินชื่อพม่าหน้าเขมรอดีตทาสตักขี้ กินชะมัดเป็นคนริเริ่มเสื้อน้ำเงินและสื่อเทียมที่จ้องโจมตีเสื้อเหลืองและด่าเสื้อแดงแต่ไม่จัดการกับตักขี้ กินชะมัดจนกลายเป็นรัฐล้มเหลวอย่างที่พวกท่านว่าไว้ในเมล์นี้  พวกท่านรู้หรือไม่ว่าเราแตกแยกเพราะความโลภในเงินของตักขี้ กินชะมัดและสื่อโสโครกที่หิวเงินจนไม่มีความรับผิดชอบแล้วละทิ้งอุดมการณ์

3/ ขณะที่สื่อกระแสหลักยังเต็มไปด้วยรายการบันเทิงมอมเมา  พวกท่านเรียนอะไรมา? มีชีวิตอยู่แบบไหน? จึงไม่รู้สึกรู้สมเลยว่าตักขี้ กินชะมัดทำตั้งแต่กินชาติ ทำลายนิติรัฐ นิติธรรม แทรกแซงองค์กรอิสระ เผด็จการรัฐสภา ตั้งรัฐตำรวจ ละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนด้วยความอหังการและละเมิดสิทธิประชาชนจนมีหลายพันชีวิตหายไปอย่างไร้ร่องรอย  

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรานั้นเป็นสีเหลือง  เราเกิดขึ้นเพราะต้องการล้มระบอบตักขี้ กินชะมัด เราใส่เสื้อสีเหลืองเพราะเราต้องการบ้านเมืองที่ดีงามของเรากลับคืนมาเพราะเราไม่เคยสงบสุขสันติอย่างแท้จริงมาเลยในตลอดหลายสิบปีมานี้ เราสู้คราวนี้ไม่เพียงล้มอำนาจบาตรใหญ่ของตักขี้ กินชะมัดเท่านั้น แต่จะขุดรากถอนโคนโค่นระบอบเฮงซวยในบ้านนี้เมืองนี้และจัดบ้านของเราให้เรียบร้อยเหมือนคนอื่นเขา  เราต้องการบ้านเมืองคุณธรรม เศรษฐกิจพอเพียง การบริหารชาติที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่ใช่รัฐบาลหน้าตาพิกลพิการ โกงกินไม่ต่างจากตักขี้ กินชะมัดแล้วอ้างว่า จงรักภักดีแต่ลับหลังก็ล่าคอมมิชชันจากโครงการรัฐอย่างมูมมาม  ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นการเมืองใหม่  ใช่เราเป็นสีเหลืองเพราะเราลุกขึ้นมาสู้เพื่อกู้ชาติและรวมพลังคนไทยสู้เพื่อในหลวง โดยมีศัตรูของเราคือระบอบทักษิณที่ตักขี้ กินชะมัดสร้างขึ้นซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ทุจริตอำนาจและงบประมาณอีกทั้งยังปลุกปั่นเพื่อนร่วมชาติให้ชิงชังสับสนในสถาบันสูงสุด และชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน เป็นคนเลวอย่างที่ไม่มีคนไทยคนใดเคยทำได้และเคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย พวกเราจึงต้องต้องทำทุกทางเพื่อลากคอมันมาลงโทษตามกฎหมายให้จงได้
      
พันธมิตรฯต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม ต่อสู้กับการคอรัปชั่นของรัฐบาล ไม่เคยไปแสดงตนเป็นอันธพาลรังแกใครเลย มีแต่ใช้จำนวนคนไปปิดสถานที่ต่างๆเพื่อกดดันในรัฐบาลไม่แทรกแทรงหรือกีดกันระบบยุติธรรมของประเทศ พันธมิตรฯสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ให้การเมืองภาคประชาชนที่ขจัดทุนสามานย์ ไม่ยอมให้นักการเมืองชั่วชี้นำประเทศได้สำเร็จ พิสูจน์ธรรมะย่อมชนะอธรรม ในบรรดาคุณค่าที่มีอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ศฤงคาร และการตื่นตัวของประชาชนตั้งแต่เหตุการณ์ที่ผมได้ร่วมต่อสู้มา 2516 - 2551 ไม่มีคุณค่าใดเท่ากับการลุกขึ้นสู้ของประชาชนในครั้งนี้เลย
การลุกขึ้นสู้แบบประชาชาติ ทุกชนชั้นตั้งแต่คนชั้นกลาง คนชั้นล่าง คนชั้นสูงที่เรียกรวมๆ ว่าเป็นลักษณะประชาชาติมีครั้งเดียวในโลกนี้และในประเทศนี้ที่รวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย มีเจตจำนงอันเดียวกันเพื่ป้องป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปรากฏการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนี้เป็นปรากฏการณ์ครั้งเดียวในโลกนี้    สามารถเติบใหญ่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว   ทั่วโลกสิ้นข้อสงสัย  แม้จะกระทำการบกพร่องหรืออาจผิดกฎหมายไปบ้าง   แต่ประชาชนทั่วโลก และประชาชนไทยนับสิบล้าน นับยี่สิบล้าน นับหกสิบล้านคนเชื่อว่าพันธมิตรฯมีเจตจำนงดีต่อชาติ การเมืองภาคประชาชนนี้สามารถที่จะจัดการให้คนชั่วโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ติดคุกได้ไม่น้อยกว่า 3 คนและ 3 คนล้มตามๆ กันอย่างสิ้นท่าและน่าเวทนายิ่ง  ประเทศของเราเราปล่อยให้คนชั่วมาครองเมืองมาเนิ่นนาน   เราไม่มีเวลาให้นักการเมืองชั่วพวกนี้มาชี้นำประเทศอีกต่อไป

 สิ่งที่พันธมิตรเรียกร้องคือขอให้คดีต่างๆของตักขี้ กินชะมัดได้ถูกตัดสินตรงไปตรงมาตามระบบยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็น เราไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านั้นเลยแต่ที่ต้องไปกดดันเพราะรัฐบาลนอมินี่เหล่านั้นมันแทรกแซงระบบยุติธรรมหนิ พยายามจะใช้รธน.ปี 40 ที่ไม่มีม. 309 และอีกหลายมาตรา เพื่อไม่ให้มีคตส. เพื่อไม่ให้องคฺ์กรอิสระเป็นอิสระมายึดทรัพย์สินของชาติที่ได้โกงไป เรื่องพวกนี้ท่านสามารถหาอ่านได้จาก หนังสือรัฐธรรมนูญตายแล้ว ของนายคณิณ บุญสุวรรณอดีตสสร.40 อดีตสว.น้ำดี และปัจจับันเป็นหนึ่งในแก๊งค์เสื้อแดง  ดูอย่างคดีที่ดีเอสไอฟ้องตักขี้ กินชะมัดเกี่ยวกับการปกปิดหุ้นเอสซีเป็นตัวอย่างเพราะคดีนั้นถูกจัดการให้มีการปิดคดีไปเรียบร้อยโดยไม่ส่งฟ้องศาลหลังจากย้ายคุณสุนัย  มโนมัยอุดมออกไปแล้วเอาทวี สอดส่องเข้ามาแทน  เป็นทวีผู้ได้ชื่อว่าเป็นชู้กับนางสาวยิ่งลัก กินชะมัดน้องสาวของตักขี้ที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนทนโท่    ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ไปให้การต่อศาลฏีกาอย่างชัดแจ้งว่าตักขี้ กินชะมัดปกปิดการถือหุ้นในคดียึดทรัพย์ของตน  

การสลายการชุมนุมในวันที่สมชายกระโปรงเข้าแถลงนโยบายที่รัฐสภาทำให้ประชาชนเสียชีวิต ขาขาด แขนขาด ลูกตาหลุด เนื้อสมองเสียหายและมีบาดแผลเหวะหวะตามร่างกายหลายร้อยคน   ประชาชนถูกกระทำด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่รัฐนอกคอกถูกลอบยิง ลอบทำร้ายตลอดการชุมนุมอันยืดเยื้อและยาวนาน พวกเขาหลายต่อหลายคนต้องมาบาดเจ็บ ล้มตาย พิการ    แต่ไม่ว่าจะเป็นคาร์บ๊องส์ ละครน้ำเน่าเรื่องศิวรักษ์ การโจมตีการชุมนุม 193 วันของพันธมิตรด้วยอาวุธหนักดับ แผนสังหารสนธิ หรือเอ็ม 79 เพื่อหยุดพันธมิตรฯที่ผ่านๆ มา    การที่เศษ.แดงออกมาพ่นน้ำลายเรื่องอะไรเป็นจริงตามนั้นทุกที  จนเชื่อได้ว่าเศษ.แดงตนนี้นี่เองที่อยู่เบื้องหลังความเสียหารทั้งของประเทศ กองทัพ และประชาชน    กองทัพทั้งกองทัพจะนั่งนิ่งเฉยเรื่องเศษ.แดง หรือทนถูกตบหน้าด้วยมือพัลลภได้อีกก็ให้มันรู้ไป เพราะประชาชนเริ่มทนไม่ไหวแล้วกับกองทัพที่ป้อแป้ ป๊อกแป๊ก ไม่เป็นโล้เป็นพายอย่างนี้

ครั้นรัฐบาลประชาธิปัตย์กุมอำนาจบริหารอยู่ทำให้คดีความต่างๆเดินหน้าได้บ้าง เราเสื้อเหลืองพันธมิตรฯก็หยุดเคลื่อนไหวปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามครรลอง    หลายคนกล่าวหาว่าพันธมิตรฯปิดสนามบินทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งๆที่คนสั่งปิดเป็นคู่เขยของวีระ มุสาไปวันๆคนยอดกตัญญูเข้าไส้คนนั้น  บอร์ดการท่าฯตำหนิแต่ไม่เห็นมันจะมีบทลงโทษอะไร   สื่อมวลชนกลางกลวงเคยลงข่าวแบบนี้บ้างหรือไม่     ตอนนี้ก็มีการฟ้องร้องเสื้อเหลืองพันธมิตรฯหลายๆเรื่องอยู่แล้วทั้งด้านแพ่งและอาญา 102 คดีที่ทุกอย่างอยู่ในระบบยุติธรรมแล้ว ผู้สื่อข่าวก็พยายามถามคุณอภิสิทธิ์ ท่านคะ
คดีพวกพันธมิตรฯ ท่านจะทำยังไง ท่านคะ ทำไมไม่มีความคืบหน้า  โถ....โง่ซะไม่มี คุณรู้ไหมพันธมิตรฯ ถูกฟ้องไป 102 คดีแล้ว  บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ฟ้องพล.ต.จำลอง ศรีเมืองกับพวกรวม 12 คนทั้งที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ พล.ต.จำลองเตรียมหมาเอาไว้ให้ยึดแล้ว 2,000 ตัว มีขี้เรื้อนอยู่ตัวหนึ่งไปรักษาเอาเอง
      
ยิ่งเมื่อได้อมาอ่านเมล์ของพวกท่านแล้วฮึด  ฮึดเพื่อสู้กับตักขี้ กินชะมัด ฮึดเพื่อสู้กับความเสแสร้งแกล้งดีของคนชั้นสูงในสังคมไทยบางกลุ่ม  สู้เพื่อในหลวงและสู้เพื่อให้ได้บ้านเมืองคุณธรรมกลับคืนมาอย่างเป็นรูปธรรม  หลังจากเมื่อวาน (10 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ ได้มีการจัดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อแสดงเจตนารมณ์เรียกร้องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ปี 2540 รวมถึงต้องการถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาแต่สิ่งที่ตักขี้ กินชะมัดอดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะนายใหญ่กลุ่มคนเสื้อแดงกระทำกลับเป็นพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยพูดไว้ว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงเป็นอย่างยิ่ง     จากคำพูดตักขี้ กินชะมัดในวิดีโอลึงก์เมื่อวานได้มีการพูดจากระทบกระเทียบชิ่งถึงสถาบันและจาบจ้วงพระเจ้าแผ่นดินไม่ว่าจะเป็น 2 ประโยคเด็ด “ประชาธิปไตยตามใจพ่อ” หรือบอกประเทศไทย “ราษฎรถูกปกครองตามใจชอบ” นี่ก็ถือได้ว่าเป็นใบเสร็จอีกในที่ประกันได้ว่าแท้จริงแล้วตักขี้ กินชะมัดมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือไม่  แต่ทั้งมติชนและไทยรัฐกลับตัดข้อความที่แตะเบื้องสูงออกเฉยเลย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยรัฐเกลาข้อความเสียจนฟังดูนิ่มมากแล้วอย่างนี้พวกรากหญ้าและกลางกลวงมันก็ไม่มีทางหูตาสว่าง











10 ธันวาคม 2552

เศษ.แดง



 ในความเป็นจริง... กองทัพไทยมีทหารดีจำนวนมากเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายทหารดีเหล่านั้นกลับต้องได้รับความเสียหายไปกับพฤติกรรมและภาพลักษณ์ที่ชั่วร้ายของทหารเลวบางคนหากเพียงกองทัพยังปล่อยปละละเลยให้ทหารเลวพวกนั้นแสดงท่าทีจองหองพองขนอยู่ต่อไป ในความลำพองของทหารเลวเป็นการบั่นทอนกำลังใจของทหารดี  กลายเป็นว่าคนทำชั่วแล้วไม่ได้รับผลแห่งความชั่วส่วนคนทำดีก็ไม่ได้รับการส่งเสริม    ในอดีตทหารไทยได้ชื่อว่ามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีได้รับการยกย่องศรัทธา ยอมรับนับถือก็เพราะความมีวินัยเข้มแข็ง มีระเบียบกฎเกณฑ์และกฎหมายควบคุมเด็ดขาดอีกทั้งมีธรรมเนียมการปกครองดูแลกันเองอย่างเข้มงวด ทหารเลวนอกรีตจึงไม่มีที่อยู่ที่ยืนหรือถูกจัดการเด็ดขาด    ถ้าลูกน้องไปทำชั่วทำเลวคนเป็นนายก็ต้องจัดการเพราะหากปล่อยไว้ย่อมเสมือนเป็นการประจานตัวนายนั่นเอง   พฤติกรรมของลูกน้องสะท้อนเกียรติศักดิ์ศรี-หน้าตาของคนเป็นนาย

ขณะนี้กองทัพมีทหารนอกรีตจำนวนหนึ่งเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน ภักดีกับระบอบทักษิณยิ่งกว่าจอมทัพไทยและอาจอาศัยสถานการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมืองออกลงมือปฏิบัติการล้มล้างช่วงชิงอำนาจรัฐ ก่อการเพื่อผลประโยชน์ของทักษิณและพวกด้วยพฤติการณ์อาจเข้าข่ายกบฎต่อราชอาณาจักรไทย ไม่เพียงเท่านั้นเศษ.แดง สวัสดิผลผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกออกมาให้ข่าวเชิงปลุกปั่นเรื่องทหารพรานอ้างว่ารวมตัวกันเป็นการ์ดนปช. แถมข่มขู่ผู้บัญชาการเหล่าทัพในทำนองว่า หากนปช.เสื้อแดงชุมนุมอย่าได้เอาทหารออกมาปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์มิฉะนั้น จะยิงกันตาย    เมื่อผู้บัญชาการกองทัพบกออกมาปฏิเสธข่าว ปรามคำพูดของผู้ทรงวุฒิกองทัพบก เศษ.แดงกลับแสดงท่าทีแข็งกร้าว กระด้างกระเดื่อง ตอบโต้ ต่อปากต่อคำแถมข่มขู่ผู้บังคับบัญชาอย่างรุนแรง

ถึงขั้นว่า "... ป๊อกลืมเพื่อนแล้ว ลืมผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาผม กูทำอะไรให้มึง กูนี่แหละออกมาช่วยมึงคนเดียวทั้งกองทัพ มาใช้อำนาจมิชอบแบบนี้ ก็ให้อยู่แต่ในกองทัพบก อย่าออกมาก็แล้วกัน ไม่ได้ขู่นายแต่ถ้าทำผมแบบนั้น ก็ไม่ใช่นายผม..."    ถ้าเป็นในอดีตผู้นำกองทัพเข้มแข็งไม่มีทหารเลวคะนองปาก แสดงท่าทีโอหัง ลอยหน้าลอยตา ทำตัวกร่างถึงเพียงนี้อย่างเด็ดขาด พฤติการณ์ถ่อยของทหารเลวแบบนี้อาจจะขัดต่อกฎหมายอาญาทหารหรือวินัยทหารในประเด็นใด หรือไม่ เพียงใด

มาตรา 16 ผู้ใดเป็นทหารและมันบังอาจเกลี้ยกล่อมคนให้ไปเข้าเป็นพวกราชศัตรู ท่านว่าโทษมันถึงต้องประหารชีวิตหรือมิฉะนั้นให้จำคุกมันไว้ ตลอดชีวิต
ข้อความต่อไปนี้มาจากประมวลกฎหมายอาญาทหารที่ปรากฏใน http://www.rta.mi.th/51224u/E3.html ผู้ใดเปนทหาร แลมันบังอาจเกลี้ยกล่อมคนให้เไปเข้าเป็นพวกราชสัตรู ท่านว่าโทษมันถึงต้องประหารชีวิต หรือมิฉนั้นให้จำคุกมันไว้จนตลอดชีวิต

มาตรา 17 ผู้ใดท่านใช้ให้เป็นนายทหารบังคับกองทหารใหญ่น้อย ป้อม ค่าย เรือรบ หรือสถานที่อย่างใดๆ ของทหารของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้ายังมิทันสิ้นกำลังและสามารถที่มันจะป้องกันและต่อสู้ข้าศึกมันยอมแพ้ยกกองทหาร ป้อม ค่าย เรือรบ หรือสถานที่นั้นๆ ให้แก่ราชศัตรูเสียไซร้ ท่านว่าโทษมันถึงประหารชีวิตหรือจำคุกจนตลอดชีวิตหรือมิฉะนั้นให้จำคุกมันไว้ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป จนถึงยี่สิบปี
มาตรา 18 ผู้ใดยุยงหรือข่มขืนใจหรือสมคบกันเพื่อยุยงหรือข่มขืนใจให้ผู้บังคับกองทหารใหญ่น้อย ป้อม ค่าย เรือรบหรือสถานที่อย่างใดๆ ของทหารของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยอมแพ้แก่ราชศัตรู
ท่านว่าโทษของมันถึงประหารชีวิตหรือจำคุกจนตลอดชีวิตหรือมิฉะนั้นให้จำคุกมันไว้ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี

ราชศัตรูนั้นหมายรวมถึงบรรดาคนมีอาวุธที่แสดงความขัดแข็งต่ออำนาจผู้ใหญ่หรือที่เป็นขบถหรือเป็นโจรสลัดหรือที่ก่อการจลาจล   การเข้าข้างกองกำลังเถื่อนหรือเกลี้ยกล่อมให้กองทัพไทยอ่อนข้อหรือยอมแพ้แก่พวกเสื้อแดงหรือสมคบกับนักการเมืองเขมรร่วมกับนักโทษผู้ปลุกปั่นล้มล้างอำนาจรัฐบาลไทยซึ่งแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับราชอาณาจักรไทยจะเข้าข่ายข้างต้น หรือไม่

มาตรา 31 ผู้ใดเป็นทหารและมันขัดขืนมิกระทำตามคำสั่งอย่างใดๆ โดยมันแสดงความขัดขืนด้วยกิริยาหรือวาจาองอาจต่อหน้าหมู่ทหารถืออาวุธด้วยไซร้ ท่านว่ามันมีความผิดต้องระวางโทษตามสมควรแก่เหตุดังจะว่าต่อไปนี้  ถ้ามันได้กระทำความผิดนั้นต่อหน้าราชศัตรู ท่านให้ลงอาญา มันเป็นสามสถาน คือ สถานหนึ่งให้ประหารชีวิต สถานหนึ่งให้จำคุกจนตลอดชีวิต สถานหนึ่งให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี / ถ้ามันมิได้กระทำความผิดนั้นต่อหน้าราชศัตรู แต่ได้กระทำใน เวลาสงคราม หรือในเขตซึ่งอยู่ในอำนาจกฎอัยการศึก ท่านให้ลงอาญาจำคุก มันตั้งแต่สามปีขึ้นไปจนถึงยี่สิบปี / ถ้ามันได้กระทำความผิดนั้นในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่ว่ามาแล้ว ท่านให้ลงอาญาจำคุกมันไม่เกินกว่าสิบปี
มาตรา 41 ผู้ใดเป็นทหาร และมันบังอาจแสดงความอาฆาต มาทร้ายต่อผู้บังคับบัญชา หรือต่อทหารที่เป็นใหญ่เหนือมัน หรือมันหมิ่นประมาท ใส่ความ หรือโฆษณาความหมิ่นประมาทอย่างใด ๆ ก็ดี ท่านว่ามันมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินกว่าสามปี

5 มาตรานี้ยกมาจากบทความและเพิ่มเติมโดยอ่านจาก http://www.kodmhai.com/m4/m4-10/H27/m13-52.html

วินัยทหารคือการที่ทหารต้องประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร  ประพฤติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ระเบียบ และแบบธรรมเนียมอื่นใดของทหาร ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตามก็ถือว่ากระทำ
ผิดวินัยทหารเช่น ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยงหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน / ไม่รักษาระเบียบการเคารพระหว่างผู้ใหญ่ผู้น้อย /  ไม่รักษามรรยาทให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมของทหาร / ก่อให้แตกความสามัคคีในคณะทหาร / เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ / กล่าวคำเท็จ / ใช้กิริยาวาจาไม่สมควรหรือประพฤติไม่สมควร ฯลฯ

ผู้บังคับบัญชาทหารมีอำนาจหน้าที่ต่อผู้ที่กระทำผิดวินัยทหารดังนี้  ใช้อาวุธเพื่อปราบปรามทหารที่ก่อการกำเริบหรือบังคับทหารที่ละทิ้งหน้าที่ให้กลับเข้าประจำหน้าที่ / ลงทัณฑ์ / ปลดจากประจำการ / ถอดยศ  ผู้นำเหล่าทัพไทยในยุคนี้จะป๊อกแป๊กปวกเปียกป้อแป้ได้แค่ไหนหรือจะจัดการกำราบทหารเลวด้วยวิธีไหน

สรุปจาก บทความกวนน้ำให้ใส ตอน ใคร... จะกำราบทหารเลว? โดยสารส้ม วันที่ 9/12/2009


วัดใจ! “บิ๊กป้อม” ฟัน “เสธ.แดง” เจอช่องจับขึ้นศาลทหาร โฆษกกองทัพบก เผยสรุปผลการตั้งคณะกรรมการสอบ “เสธ.แดง”ถึงมือกลาโหมแล้ว ชี้กรอบการพิจารณา หนีไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตและให้สัมภาษณ์ทำลายภาพพจน์กองทัพ แต่ยังไม่อาจเปิดเผยได้ สุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ “ประวิตร” ยันแม้ระเบียบจะไม่เปิดช่องให้เอาผิดทางวินัยทหารชั้นนายพล แต่หากทำผิดซ้ำซากก็อาจดำเนินคดีโทษทางอาญาของศาลทหารได้ ...อ่านต่อ...

09 ธันวาคม 2552

คนกับโรงงานจะอยู่ด้วยกันได้โดย...


พูดกันมากและพูดมาหลายเดือนแล้วด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มาบตาพุด   คนกับโรงงานจะอยู่ด้วยกันได้โดยจะต้องบริหาร-จัดการ  จัดความสมดุลในสิ่งร่วมให้ลงตัวโดยไม่ให้สิ่งหนึ่งไปทำลายอีกสิ่งหนึ่งได้  เมื่อเริ่มตั้งโรงงานห่างไกลมนุษย์มนาอยู่ในป่า-ในดงคนก็ตามไปอยู่กับโรงงานที่อยู่ห่างไกลชุมชนไปอยู่กันมากๆเข้า  มันก็เกิดสังคมหย่อม กลายเป็น สังคมขยายและชุมชนเมืองในเขตโรงงานอุตสาหกรรมในที่สุด  กฎหมายเกิดไล่หลังตามมาออกมาเหมาะกับกาลหนึ่ง-เวลาหนึ่ง-สภาพหนึ่งเท่านั้น  แต่พอนานไประบบโรงงาน  ระบบเครื่องจักรก็เก่าแก่เสื่อมสภาพไป  ทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ  ความไม่พร้อมรับมือกับการบังคับใช้กฎหมาย นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่กับภาคอุตสาหกรรม  ครั้นเมื่อเกิดภาวะไม่สมดุลทำให้การขยายตัวทางอุตสาหกรรมเป็นการการทำลายสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านก็เริ่มต่อต้านการขยายตัว  ชาวบ้านและคณะกรรมการต่างๆเพื่อสังคมยึดรัฐธรรมนูญมาตรา  67  วรรค  2  จึงได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางและร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับ 76 โครงการเจ้าปัญหาไว้ก่อนที่จะมีคำพิพากษา

ด้วยเหตุผลทั้งทางกฎหมาย  ทั้งทางสังคม  ทั้งทางปฏิบัติที่เป็นจริงและทั้งทางข้อเท็จจริง  ที่ทั้งฝ่ายศาล  ฝ่ายผู้ร้อง  และฝ่ายผู้ถูกร้องได้นำมาแสดงและพิจารณาบนผลประโยชน์ร่วมกันเป็นมาตรฐานการยกระดับคุณภาพสังคม   ภายหลังการยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลางคำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อลดแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจและข้อกังวลของนักลงทุน   นักลงทุนต่างชาติทั้งหลายชอบบอกว่าการระงับ 76 โครงการทำให้เสียโอกาสการลงทุน  สังคมโลกเรียกร้องเรื่องลดมลพิษ  เรื่องลดภาวะโลกร้อน คำสั่งศาลปกครองกลางถือได้ว่าเป็นการจุดประการเพื่อตั้งหลักที่จะเริ่มต้นพัฒนาสู่ความเติบโตทางธุรกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยเราอย่างมีแบบแผนสู่มาตรฐานสังคมในอนาคต     เมื่อมีปัญหาใดเกิดขึ้น  ภาครัฐก็ดี  ภาคอุตสาหกรรมก็ดี  ภาคสังคมก็ดี  ทั้งหมดนั้นต้องมีสัมพันธ์ซึ่งกันและกันควรถือว่าจะต้องช่วยกันหาทางออกและอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล    เมื่อมีการอนุญาต 76 โครงการนี้ไปแล้ว  มีการลงทุนไปแล้วและเมื่อมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกรอบปฏิบัติตามมา  นั่นก็คือมีทั้งส่วนสังคม  ส่วนอุตสาหกรรม  ส่วนกฎหมาย  ที่ต้องคำนึงและยึดถือเป็นกรอบในการดำเนินไป  ช่วยกันหาทางออกของปัญหาที่พอใจ-รับได้กันทุกฝ่ายไปเสนอต่อศาล เพื่อประโยชน์ที่เป็นธรรมสูงสุดกับทุกฝ่าย

กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมนำข้อมูลการแก้ไขปัญหามาบตาพุดในช่วงที่ผ่านมาเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองที่มีนายอานันท์ ปันยารชุนอันเป็นยาสามัญประจำบ้านมาเป็นประธาน (กรรมการ 4 ฝ่ายทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคธุรกิจ-ภาควิชาการเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ได้รับการยอมรับจากสังคมเป็นอย่างดี) นัดประชุมนัดแรกไปเมื่อกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา  หลังการยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้นไม่นานนางสุรินทร์ ขมหงส์หรือป้าเตี้ยซึ่งเป็นหนึ่งในพยายคดีฟ้องศาลปกครองเสียชีวิตลงโดยมีการระบุสาเหตุการตายเนื่องจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันนั้น ขณะนี้เครือข่ายประชาชนฯนำเส้นผมจากเซลล์ประสาทของป้าเตี้ยส่งสถาบันมิยามาตะ ประเทศญี่ปุ่นให้ตรวจสอบโดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาทเพื่อที่จะทราบผลการตรวจวิเคราะห์สาเหตุการตายของป้าเตี้ยภายใน 2 เดือนว่าสาเหตุการตายมาจากผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรื่องฝนกรดหรือไม่    

ส่วนภาครัฐเองก็ดูตั้งอก-ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาภาวะสิ่งแวดล้อมที่มาบตาพุดมากขึ้น  ส่งรองนายกฯ  กอร์ปศักดิ์  สภาวสุ  ลงไปรับฟังปัญหาในพื้นที่ในนามคณะทำงานการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนมาบตาพุดและการติดตามผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุด  คณะทำงานได้เปิดเสรีและมีชาวบ้านตัวแทนจากหมู่บ้านต่างๆที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากเข้าร่วมรับฟัง  ในการประชุมได้รับฟังการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนพื้นที่มาบตาพุด  เรื่องขยะ เรื่องการรักษาการเจ็บป่วย  และโดยเฉพาะเรื่องการขยายเขตน้ำประปาครอบคลุมพื้นที่มาบตาพุด-บ้านฉาง อย่างไรก็ดีชาวบ้านต้องจริงจังต่อการตรวจสอบในการใช้งบประมาณ    อย่างเช่นโครงการไทยเข้มแข็งที่นำมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมาบตาพุด อ.เมืองระยองจะต้องติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างถึงที่สุดโดยคณะกรรมการภาคประชาชนเพราะที่ผ่านมามีการคอร์รัปชัน

2  ธันวาคมที่มาบตาพุดก็มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง ศาลปกครองสูงสุดสั่ง  11  โครงการมาบตาพุดเดินหน้าต่อได้  อีก 65 โครงการเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงทั้งโครงการประเภทปิโตรเคมี  ท่อส่ง  เหล็ก  โรงไฟฟ้า  ท่าเทียบเรือ   และโรงบำบัดของเสียให้ระงับไว้ก่อนตามคำสั่งเดิม    เปิดช่องทำตามมาตรา 67 วรรค 2 เมื่อใดก็ยื่นเรื่องขอออกจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในภายหลังได้  คณะกรรมการ  4  ฝ่ายจะดูตามโครงสร้างเพื่อให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ  2550  มาตรา  67  วรรค  2  เป็นหลักเช่นเดิม  "ภายใน  2  สัปดาห์จะประชุมใหญ่เพื่ออนุมัติหลักเกณฑ์ประเมินอีไอเอและเอชไอเอก่อนเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอนุมัติ   รวมถึงโครงสร้างเรื่ององค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมด้วย   แต่การดำเนินการต่างๆคงต้องใช้เวลาโดยเฉพาะการสรรหาบุคคลมาเป็นองค์กรอิสระที่ต้องโปร่งใสและไม่เป็นที่กังขาของทุกภาคส่วน"  นายอานันท์ระบุ

หลังศาลปกครองสูงสุดยังไม่อนุญาตให้อีก 65 โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดดำเนินการต่อนั้นคาดสร้างความเสียหายในด้านการลงทุนประมาณ 90,000-100,000 ล้านบาท หรือประมาณ 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพราะบางโครงการได้ดำเนินการถึงขั้นใกล้เปิดโครงการรวมถึงจ้างแรงงานไว้แล้ว   หอการค้าไทย นักลงทุน และภาคเอกชนต่างก็อยากให้ภาครัฐและส่วนที่เกี่ยวข้องควรจะเร่งสร้างความชัดเจนโดยเร็ว   อยากให้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายเร่งพิจารณาหลักเกณฑ์การลงทุนที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนออกมาโดยเร็ว    การนิคมอุตสาหกรรมเพิ่งจะมาหาแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและจะทำหนังสือถึงผู้ประกอบการดังกล่าวให้ระงับการก่อสร้างโครงการและการเดินเครื่องเชิงพานิชย์ตามคำสั่งศาล ที่ผ่านมา กนอ.ไม่มีอำนาจสั่งการ หากเอกชนจะฟ้องศาลสามารถทำได้ว่ายืนยันการทำตามกฎหมายมาตรา 67 วรรค 2 มาตลอดโดยเฉพาะการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่เมื่อมีกฎหมายรัฐธรรมนูญ 50 ออกมาโดยที่ยังไม่มีกฎหมายลูก  กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องทำผลกระทบต่อสุขภาพ (HIA) รวมทั้งการตั้งองค์กรอิสระตรวจสอบการลงทุน ขณะนี้ผู้ประกอบการก็ยังต้องรอกฎหมายลูกที่ยังไม่ออกมาต่อไปผู้ประกอบการจึงไม่สามารถดำเนินการต่อได้

คณะกรรมการ 4 ฝ่ายฯ จะลงพื้นที่เทศบาลมาบตาพุดรวมถึงนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและชุมชนใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบโดยจะมีประชาชนในเขตเทศบาลนครระยอง ต.ตะพง ต.เชิงเนิน ต.บ้านแลงและต.นาขวัญ นำโดย นายสุทธิ อัชฌาศัยแกนนำเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการ 4 ฝ่ายฯร่วมชี้แจงปัญหา   นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกรณีปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดได้ข้อสรุปว่าคณะกรรมการ 4 ฝ่ายกำหนดการออกระเบียบที่จะมารองรับมาตรา 67 วรรค 2 ให้เป็นช่องทางให้ทุกโครงการที่ยังเป็นปัญหาทำตามขั้นตอนช่องทางนี้จนเสร็จสิ้นจะได้ไปยื่นขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งระงับโครงการ  รัฐบาลควรเร่งกำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว   รัฐมีหน้าที่แจ้งให้ภาคเอกชนทราบถึงคำสั่งศาลและให้เอกชนเคารพคำสั่งศาล    รัฐมีหน้าที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการบริหารจัดการหรือจำกัดความเสียหาย  ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)บ้าง   กระนั้นนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไปบ้างแล้วจากความชัดเจนที่เกิดขึ้น  

ปัญหาสารพิษรั่ว ตั้งแต่กรณีท่าเรือแหลมฉบังเมื่อสัปดาห์ก่อนยังเป็นเรื่องเป็นราวไม่จบ   ต่อมาชาวบ้านร่วมกันทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติที่บริเวณศาลากลุ่มประมงเรือเล็กตากวน-อ่าวประดู่ขณะนั้นมีลมพัดเอากลิ่นเหม็นคล้ายก๊าซ ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียน หลายคน จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล  จากการเกิดก๊าซรั่วของเรือขนส่งสินค้า  บริเวณท่าเรือบริษัทมาบตาพุดแท็งค์เทอร์มินอล จำกัดเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา วันนี้ชาวบ้านรวม10 คนได้เข้าแจ้งความขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับบริษัทเจ้าของเรือในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแล้ว

ภาคเอกชนยังแจ้งกนอ.ที่จะจัดส่งคำสั่งศาลให้ผู้ประกอบการทุกโครงการด้วยว่าจะทำหนังสือยื่นต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้พิจารณาทบทวนโครงการที่ถูกระงับไปนั้นใหม่ เนื่องจากมีโครงการที่ผ่านอีไอเอแล้วตามกฎหมายเก่า 20-30 โครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้น่าจะดำเนินโครงการต่อไปได้เหมือน 11 โครงการที่ศาลอนุญาตโดยผู้ประกอบการจะทำตามเอชไอเอและอีไอเออย่างเข้มข้น



03 ธันวาคม 2552

ยุทธศาสตร์สื่อสารโทรคมนาคมระบบ 3จี


ภายหลังการออกมายืนยันของก.ไอซีทีแจงยุทธศาสตร์สื่อสารโทรคมนาคมระบบ 3จีเพื่อยุติความสับสน  ทีโอทีต้องเดินหน้าพัฒนาโครข่าย 3จีตามแผนต่อไปเพื่อไม่ให้เสียโอกาส  ทีโอทีได้เปิดให้บริการระบบ 3จีได้เป็นครั้งแรกในวันนี้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล   ทั้งทีโอทีและกสท.จะต้องตรวจสอบสัญญาสัมปทานเดิมที่ทำไว้กับคู่สัญญาเพื่อกำหนดแนวทางการแปรสัญญาสัมปทานก่อนการออกใบอนุญาติในระบบ 3จีต่อไป  แผนการดำเนินการเพื่อให้บริการ 3จี ทั่วประเทศของทีโอทีนั้นได้ผ่านความเห็นชอบจากจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและอยู่ระหว่างปรับปรุงให้ตรงกับระเบียบพัสดุของทีโอทีที่ได้จัดทำเงื่อนไขการประมูลฉบับภาษาอังกฤษก็ได้ดำเนินการเสร็จแล้วเช่นกัน   โดยต้องทำประชาพิจารณ์ต่อไป

การออกใบอนุญาติ 3จีอาจจะทำให้ลูกค้าเก่าที่เปลี่ยนจาก 2จี เป็น 3จี รัฐจะเสียผลประโยชน์หรือไม่  แน่นอนว่ารายได้ค่าสัมปทานผลประโยชน์ที่รัฐพึงได้รับจะลดลง  ธุรกิจโทรคมนาคมไร้สายเป็นธุรกิจที่นำคลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดิน ผลประโยชน์เข้ารัฐจึงต้องเป็นธรรม   หน่วยงานอิสระอย่างกทช.รับหน้าที่กำกับดูแลการประกอบธุรกิจโทรคมนาคมไม่ให้เกิดการผูกขาดหรือเกิดความไม่เป็นธรรม     ที่พยายามจะเป็นผู้ดำเนินการประมูลยังไม่มีคำตอบ    ธุรกิจสื่อสารไร้สายในไทยมีเอกชนเป็นผู้ดำเนินการเกือบทั้งหมดโดยได้รับสัญญาสัมปทานกับรัฐผ่านไม่ทีโอทีก็กสท.  ผู้ได้รับสัญญาสัมปทานเมื่อสร้างเสร็จแล้วต้องโอนทุกอย่างให้กับรัฐ บริษัทเอกชนเป็นเพียงผู้ดำเนินการ  เมื่อมีรายได้ก็ต้องนำรายได้นั้นมาแบ่งให้กับภาครัฐ สิ่งก่อสร้างและอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นสมบัติของหลวงทั้งสิ้น สัญญาสัมปทานเหล่านี้ได้ลงนามข้อตกลงกันมานานแล้ว แก้ไขสัญญาก็หลายครั้งตั้งแต่การแก้ไขในทางเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการแก้ไขสัญญาที่รัฐเสียเปรียบ    เกิดข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาตั้งมากตั้งมาย  กระทั่งระหว่างทีโอทีและกสท.ก็อุตส่าห์ยังมีคดีฟ้องร้องกันเองด้วย การแก้ไขสัญญาหลายครั้งหลายหนเป็นการแก้ไขที่ผิดกฎหมายแต่หน่วยงานทั้งทีโอทีและกสท.กลับละเลยปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาแล้วกว่าสองปี    การประมูลงาน 3จีจะส่งผลกับแผนธุรกิจเดิม หากมีการย้ายฐานลูกค้าแบ่งรายได้ให้กับรัฐตามสัญญาเก่าไปอยู่ภายใต้บริษัท 3จี คู่สัญญากลุ่มนี้ก็ไม่ต้องแบ่งรายได้ให้รัฐอีกต่อไปหรือถ้าต้องแบ่งคู่สัญญาก็คงแบ่งในอัตราที่ต่ำกว่าเดิมมากเนื่องจากการโอนย้ายลูกค้า 2จี ของบริษัทที่จ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐเดิมเคยจ่ายร้อยละ 20-25 ไปใช้บริการ 3จี ของบริษัทที่แบ่งรายได้ให้กทช.ที่ออกแบบไว้แค่ร้อยละ 6.5    แม้ว่าคู่สัญญาที่ไปทำ 3จีจะต้องจ่ายค่าใบอนุญาตก็ยังสุดคุ้ม  

ทั้งๆที่กทช.แจ้งให้ที่ประชุมครม.ทราบแล้วว่าการขยายโครงข่าย 3จี ทีโอทีไม่เกี่ยวข้องกับการประมูลใบอนุญาต 3จี ของกทช. อีกทั้งการแปรสัญญากับการประมูลใบอนุญาต 3จีเป็นคนละเรื่องกัน ไม่ควรนำมาผูกกัน  ที่ประชุมครม.ต้นพย.ได้มีมติให้ทีโอทีชะลอการลงทุนสร้างโครงข่าย 3จีในต่างจังหวัดออกไปก่อน  เพราะมติเดิมๆของครม.มีมติให้ทีโอทีลงทุนและเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายแต่ขณะนี้ทีโอทีไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดให้บริการแบบขายปลีกหรือจะขายส่ง   หากลงทุนไปแล้วได้รับผลกระทบก็ถือว่ามีความเสี่ยงจากการลงทุนดังนั้นก็ต้องไปทำให้รอบคอบรับความเสี่ยง   มันก็จริงที่การลงทุนมโหฬารเพื่อให้รัฐบาลค้ำเงินกู้และไม่มีแผนดำเนินการแน่นอนว่าจะได้กำไรเท่าไร  ทีโอทีสามารถเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3 จีได้เพราะเป็นการปรับปรุงโครงข่ายเดิมที่ให้บริการอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นคนละส่วนกัน

ภาครัฐน่าจะไปเร่งการแปรสัญญาควบคู่ไปกับการประมูลใบอนุญาต 3จี ไม่ใช่รอให้มีการแปรสัญญาให้เสร็จก่อน   สร้างความเชื่อว่าที่มีการดึงมาดึงไปนี้มีกระบวนการตกลงเกี้ยเซี๊ยะไปเรียบร้อยแล้ว มีประโยชน์บางส่วนตกไปยังเพื่อแผ่นดิน   ตัวแทนทุนการเมืองที่ดูแลสภาพัฒน์ฯ มีแนวโน้มที่จะเตะสกัดแผนธุรกิจของทีโอทีให้ล่าช้า  ยิ่งทีโอทีวางโครงข่าย 3จีล่าช้าจะเป็นประโยชน์กับบริษัทที่ยังไม่มีใบอนุญาตฯ  ในการประมูลใบอนุญาต 4 ใบที่กทช.จะแจกต่อไปมีจะเสียงคัดค้านและความเห็นจากกลุ่มต่าง ๆ มากมายทั้งจากนักวิชาการ องค์กรผู้บริโภค หน่วยงานของรัฐ นักการเมือง เพราะมันอาจจะเอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการในปัจจุบัน  ก่อให้เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับรัฐและสาธารณะ  ขาดการวางกรอบมาตรการในการคุ้มครองผลประโยชน์ของสาธารณะและผู้บริโภค  หากกทช.ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการประมูล ผู้ให้บริการหลัก 3 รายใหญ่จะได้ประโยชน์โดยตรง   รับประโยชน์จากส่วนต่างของระบบสัมปทานจำนวนมหาศาล การประมูลเพียง 4 ใบอนุญาตคลื่นฯ 3จีไม่เอื้อให้มีการแข่งขันในการประมูลอย่างแท้จริง   หากผู้ได้รับอนุญาตไม่สามารถให้บริการได้ตามเงื่อนไขกทช.ก็ควรจะมีมาตรการลงโทษที่เป็นจริงและเป็นมาตรการ มีกำหนดเพดานราคาขั้นสูง  ควบคุมให้ผู้ได้รับอนุญาตลงทุนและใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันเพื่อป้องกันปัญหาทางเทคนิคในอนาคตและยังได้เรียนรู้ร่วมกันอีกด้วย   กทช.ไม่น่าจะตั้งราคาแบบลดแลกแจกแถมราคาตั้งต้นที่ต่ำมากคือ ใบละ 4,600 ล้านบาทสำหรับ 10 MHz และ 5,200 ล้านบาท สำหรับ 15 MHz จ่ายตอนเริ่มต้นเพียงครั้งเดียว   การให้บริการสาธารณะด้าน 3จี รัฐจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนส่วนมากมากกว่าจะคำนึงถึงผู้ประกอบการ

ก่อนที่การเมืองจะทำให้ 3จี ของทีโอทีซ้ำรอยเฉาตายซ้ำอดีตไทยโมบาย ทีโอทีได้ส่งร่างข้อตกลงมาให้กสท.ใช้โครงข่ายโทรศัพท์มือถือร่วมกัน หวังชิงความได้เปรียบ 3จีก่อนกทช.เปิดประมูล ทีโอทีไม่ต้องไปหาทำเลติดตั้งสถานีฐาน   กสท.จะลดต้นทุนได้ทันที  ทีโอทีไปลงทุนเพิ่มในพื้นที่เป็นจุดบอดที่กสท.ไม่มีสถานีฐาน แล้วเปลี่ยนมาให้กสท.เช่าลดต้นทุนได้อีก  ทั้ง 2 ไม่ได้มองเฉพาะองค์กรแต่มองถึงการสร้างความเข้มแข็งร่วมกันในธุรกิจ


30 พฤศจิกายน 2552

ข้าว่าแล้ว...ว่าไม่ว่าเอ็งไปอยู่ที่ไหน...เป็นต้องฉิบหายที่นั่นแน่ๆ


ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แถลงถึงหนังสือ “ขบวนการล้มเจ้า” ของสำนักพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการว่า หนังสือนี้เป็นวัสดุที่ผิดกฎหมายเพราะทำลายความดีงามทุกอย่างในสังคมไทย โดยในหนังสือเล่มนี้กล่าวหาที่เป็นเท็จและใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอีกหลายคนว่าเป็นขบวนอยู่เบื้องหลังการล้มเจ้า ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตั้งทีมทนายมาดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด เพราะมีหลายเรื่องที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่จงรักภักดี ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้องหลายคดี รวมทั้งเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ที่ศาลสั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้อง ก็ยังเอามาลงในนี้อีก ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นประมาท ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถปล่อยให้สื่อและบางคนนำความเท็จมาทำลาย เราจะดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในอีก 2-3 วัน
“พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับทราบเรื่องนี้และเสียใจอย่างยิ่งที่มีการตีพิมพ์หนังสือแล้วเอาความเท็จมาขาย ท่านยืนยันว่าทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวมีความจงรักภักดี ทั้งๆ ที่เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความปรองดอง จึงอยากขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเอาหนังสือนี้ออกจากร้านหนังสือ เพราะไม่ควรเอาความเท็จมาขาย หรือหากินบนความทุกข์ของคนอื่น” นายนพดลกล่าว
นายนพดลยังกล่าวว่า สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณขณะนี้ได้เดินทางไปแถบยุโรปเพื่อไปพบกับผู้นำแถบประเทศเหล่านั้นและหาโอกาสการค้าและการลงทุน อย่างไรก็ตามนายนพดลไม่ได้ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปประเทศใด
**บก.ASTV ชี้เป็นหน้าที่ของสื่อ
ด้านนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน กล่าวว่า หนังสือขบวนการล้มเจ้าโดยหลักการถือเป็นการทำหน้าที่และใช้สิทธิตามเสรีภาพของสื่อของผู้จัดการภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องสถาบันสูงสุดของชาติ เพราะเนื้อหาทั้งหมดเรียบเรียงจากเอกสารและหลักฐานตามที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้พูดจาจวบจ้วง และมีพฤติการณ์ก้าวล่วงเบื้องสูง ซึ่งใครๆ ก็ทราบเพียงแต่ไม่มีสื่อใดกล้าที่นำเสนออย่างตรงไปตรงมา
ทั้งหมดในหนังสือเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดของนักโทษชายทักษิณ เมื่อถูกจับได้ก็อ้างนู่นอ้างนี่แต่พฤติกรรมและคำพูดสวนทาง ขณะที่ต้องโทษก็หลบหนีไปต่างประเทศ พูดจาให้ร้ายและดูถูกดูหมิ่นศาล ถือว่าไม่เคารพต่อกระบวนการยุติธรรมภายใต้พระปรมาภิไธย แต่เวลาตัวเองได้ประโยชน์ก็จะขอพึ่งศาล ไม่มีความสำนึก ประเทศมีปัญหาก็เพราะนายคนนี้คนเดียว” นายตุลย์ กล่าว
สำหรับ หนังสือขบวนการล้มเจ้า เป็นผลงานของกองบรรณาธิการผู้จัดการ เนื้อหาเป็นการอธิบายและวิเคราะห์พฤติกรรมของนักโทษชายทักษิณ และ พวกที่ผ่านมา โดยกระทำกันเป็นขบวนการ มีทั้งกลุ่มทุน กลุ่มนักการเมือง นักเคลื่อนไหว สื่อและนักวิชาการ ที่กระทำการจวบจ้วงสถาบันเบื้องสูงมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุดทั้งที่ผ่านสื่อ การไฮด์ปาร์กและเว็บไซต์ ซึ่งก็สอดคล้องเหตุการณ์การปล่อยข่าวอัปมงคลโจมตีตลาดหุ้นเมื่อไม่นานมานี้ ประกอบกับคำให้สัมภาษณ์ของตัวนักโทษชายทักษิณต่อหนังสือพิมพ์ไทมส์ออนไลน์ล่าสุดก็พิสูจน์ให้เห็นได้ชัด
หนังสือเล่มนี้เริ่มวางแผงจำหน่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสร้างปรากฎการณ์ร้อนแรงเป็นหนังสือที่ขายดีขึ้นอันดับหนึ่งในร้านหนังสือชั้นนำภายในเวลาไม่กี่วัน ทั้งนี้ ผู้สนใจหนังสือ"ขบวนการล้มเจ้า"สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั่นนำทั่วไป อาทิ ซีเอ็ดบุ๊ค หรือ ติดต่อสั่งจองได้ที่ เอเอสทีวี คอลเซ็นเตอร์ โทร.0-2633-5353

กระทรวงการต่างประเทศได้ออกมายอมรับว่าทักษิณได้ใช้ชื่อใหม่ในพาสปอร์ตว่า TAKKI SHINEGRA ทำให้ประสานเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำความชั่วมากเสียจนชื่อ-นามสกุลตัวเองยังใช้ไม่ได้เลย สันนิษฐานว่าตอนคิดนามสกุลสงสัยเหลือบไปเห็นซองไวอากร้าพอดี ชินเนกร้าจึงน่าจะเป็นเป็นการสมาสกันของชินวัตรและไวอากร้า ผู้ที่ติดตามข่าวบางคนบอกว่าชื่อนั่นไม่เหมาะน่าจะเป็นชื่อ SADNAROK CHINGMHAKERD จึงจะเหมาะสมกว่า บ้างก็ว่า LIA-PI น่าจะดี หรือไม่ก็เป็นชื่อไทยต้องชื่อนี้พันตะกวดโตทุจศีล กินชะมัด แต่ก็ในเมื่อเขาชอบชื่อตักขี้ ชินไวอากร้าก็คงต้องตามใจเขา กระทรวงก็เหลือเกินช่างไร้น้ำยา แค่นี้ก็ไม่มีปัญญา พวกซากเดน 111 ศพ, สส.สัตว์..ส่วนพรรคเพื่อแม้ว และอดีต สส.พรรคไทยไม่เคยรักไทย, ทหารแก่ไร้สติมันยังเก่งกว่าอีกจัดทัวร์ไปขอตังค์กันหรึ่มๆ ขนาดนักร้องเสียงแหบนมใหญ่ยังได้หลุยวิตตองและแหวนเพชรกลับบ้านกลับซ่องตั้งเยอะตั้งแยะ

เมื่อวันก่อนอัยการได้นำเจ้าหน้าที่ระดับสูงทีโอทีขึ้นไต่สวนคดียึดทรัพย์ "ทักษิณ" 7.6 หมื่นล้านเนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติและใช้อำนาจหน้าที่ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯเอื้อประโยชน์ธุรกิจส่วนตัว ทั้ง 4 ปากจากทีโอทีระบุ AIS แก้สัญญาลดส่วนแบ่งรายได้บริการโทรศัพท์ระบบบัตรเติมเงิน AIS ปี 44 จนทีโอทีขาดรายได้โดยคำนวณจากข้อมูลที่ปรึกษาทางการเงินจากหลายบริษัทและได้เสนอรายงานให้กับคณะกรรมการของทีโอทีพิจารณาให้เก็บรายได้จากบริการระบบบัตรเติมเงินอัตราร้อยละ 22 ซึ่งขณะนั้นปี 2544 ยังไม่มีสัญญาการเก็บรายได้จากระบบ Prepaid จึงเทียบเคียงอัตรากับการเก็บระบบค่าบริการแบบจ่ายรายเดือน ในขณะนั้นที่จัดเก็บในอัตราก้าวหน้าร้อยละ 25 แต่ AIS เสนอขอลดเหลืออัตราร้อยละ 20 ซึ่งภายหลังมีการอนุมัติให้เรียกเก็บอัตราร้อยละ 20 ได้ตามที่ขอแก้ไขสัญญาเรื่องลดส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการในระบบบัตรเติมเงิน ทำให้ AIS ได้รับผลประโยชน์แต่ทีโอทีต้องขาดรายได้ ภายหลังไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจึงกำหนดไต่สวนอดีตคตส.ท่านบรรเจิดต่อกรณีเอื้อประโยชน์ธุรกิจและพวกพ้อง - ท่านสักต่อกรณีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า - ท่านกล้านรงค์ต่อกรณีประเด็นการซุกหุ้น - ท่านจารุวรรณต่อกรณีประเด็นการอายัดทรัพย์ - และท่านนามปธ.คตส.มาสรุปปิดท้ายภาพรวมในวันที่ 1 และ 3 ธ.ค.นี้ และศาลนัดไต่สวนสุรเกียรติ์ต่อกรณีการปล่อยกู้ของเอ็กซิมแบงก์วันที่ 15 ธ.ค.ปิดท้ายก่อนที่จะได้ตัดสินต่อไป

ผู้บริหาร SAMART แบไต๋ออกแถลงการณ์โต้ข่าวลือที่ว่าลูกสาวฮุนเซนเข้ายึดสัมปทาน CATS ก็หุ้นใหญ่ตอนนี้มันซาลาเปาสีแดงน้องสาวของตักขี้นี่เอง ไม่ใช่ใคร ขาเล็ก ขาน้อยที่ไหนเลย มันฮั้วกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งฉาก ทั้งบท มีการไปเยือน มีการจับตัวประกัน ให้แม่ของศิวรักษ์สรรเสริญนายตักขี้ ศิวรักษ์ลูกชายของแกนนำสีแดงอิสานต้องถูกจับเป็นตัวประกัน เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ดูเหมือนเป็นขั้นเป็นตอน มีระบบระเบียบ รอเวลาสร้างพระเอกที่แค่รอเวลา ไปเจรจา กลับมาแบบ die hard อนิจจาหนังเรื่องนี้ ไม่ทำเงิน ไม่ทำกล่อง ทำให้คนขายชาติถูกสวนกลับด้วยกระแสรักชาติ พระเอกก็ยังไม่ได้ออกรอบเสียที ก็เลยต้องส่งให้คนเขียนบทแก้ไข เปลี่ยนบทนิดๆหน่อยๆ นี่ขนาดเคยหากินกับหนังมาด้วยกันแต่แสดงไม่เนียนเลย พ่อของศิวรักษ์เคยส่งหนังให้นายตักขี้เมื่อครั้งนายตักขี้ทำโลงหนังในเชียงใหม่ เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของนายตักขี้ที่ไม่เคยทวงหนี้นายตักขี้เลย ทั้งๆที่นายตักขี้เนรคุณจ่ายเช็คติดสปริงให้พ่อของศิวรักษ์ประจำ ซึ่งเขาก็โชคดีที่ตายไปก่อนด้วยโรคเดียวกับที่ลูกชายของเขาเป็นอยู่ นายตักขี้กลับปล่อยให้หลานต้องไปตกระกำลำบากในคุกเขมร ตั้งแต่นายตักขี้ยังไม่บินออกจากเขมร แล้วออกมาทำทีว่าจะช่วยก็ได้ ถ้ารัฐบาลร้องขอ ฝ่ายแม่ก็สุดยอดทำเป็นโวยวายว่าลูกจะตายได้ถ้าช่วยไม่ทัน พอนายตักขี้พ่นออกมาก็สรรเสริญนายตักขี้เสียเป็นวรรคเป็นเวร ดั้นเผลอเสื้อแดงตกพื้นจนชาวบ้านเค้ารู้แกว ทำให้เรื่องคาราคาซังมาถึงบัดนี้ อ่านรายงานความคืบหน้าได้ที่ลิงค์นี้ได้เลย โว “แม่ศิวรักษ์” อ้อนให้ “นายใหญ่-พ่อใหญ่” ช่วยลูกด่วน อ้าง “บัวแก้ว” แก้ปัญหาล่าช้า

ความคิดเห็นที่ 87

คุณป้าสิมาลักษณ์ขา...ที่นี่เมืองไทยนะคะไม่ใช่เมืองเขมร เกมเด็กๆแบบนี้พวกหนูรู้ไม่ทันก็แย่แล้วค่ะ เมืองเขมรแค่เอาดาราละครไทยเป็นแพะหน่อยคนของเขาก็เชื่อตามกันจนเกิดเรื่องเกิดราวเผานู่นเผานี่ เช่นเผาสถานทูตไทยเป็นต้น

แต่ที่นี่เมืองไทยนะคะคุณป้าพวกหนูกินข้าวไม่ได้กินหญ้านะคะ ละครแบบนี้หมูจะแย่ถ้าเป็นคนเขมรอาจจะตามไม่ทันหรืออาจจะตามทันแต่คุณลุงฮวยเซงก็อาจบังคับให้ทำเป็นโง่ก็ได้นะคะ

คุณป้าลองคิดดูนะคะถ้าคนไทยตามไม่ทันเชื่อตามเกมที่เล่นนะคะ "ป่านนี้นายทักษิณก็คงยึดประเทศไทยแล้วตั้งตนเป็นอัครมหาเดโชบ้าบอคอแตกเหมือนฮวยเซงไปนานแล้วอ่ะค่ะ ไม่ระหกระเหิรไปกินเนื้ออูฐที่ดูไบแบบนี้หรอกนะคะ อ๊ะ!!ได้ข่าวว่าดูไบกะลังจะเฉดอีกแล้วด้วยนะคะ คุณป้าทางที่ดีอยู่ห่างๆไว้จะดีกว่านะคะจะได้ไม่เปลืองตัวไปมากกว่านี้น่ะค่ะ" หนูรักประเทศไทยค่ะ

แทนที่จะยอมจำนนกลับดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด พลีชาติเพื่อชีพ เพ้อฝันคิดการใหญ่อีกรอบ นายตักขี้จึงเลือกเข้าเขมร รับเป็นที่ปรึกษาท้าทายอำนาจของประเทศไทย ให้เขมรจับตัวประกันชาวไทย ปล่อยข่าวให้สำนักข่าวโลกให้ร้าย-จาบจ้วงสถาบันอย่างหนัก เกมนอกสภาก็ให้คนเสื้อแดงที่มีหลายกลุ่มหลายๆเป้าหมายเคลื่อนทัพใหญ่นาฬิกาปลุกจำนวนนับแสนออกมาป่วนเมือง ชุมนุมในวันที่ 28 พ.ย. ใช้กำลังปิดล้อมสถานที่สำคัญ และดาวกระจายสร้างความปั่นป่วนทั่วกรุงเทพ งานนี้น่าจะมีรายการเลือดตกยางออก แหล่งข่าวทางการทหารและตำรวจให้ข้อมูลตรงกันว่าดิบ เถื่อนและถ่อยในทุกมิติ เพื่อเป็นการให้เห็นว่ารัฐบาลไทยไม่มีน้ำยา กดดันลูกพรรคที่โลเลทั้งยังจะดูดคนจากพรรคอื่น กดดันนายกฯให้ยุบสภา กดดันบีบให้ “กรรมการ” ออกมาหย่าศึก แล้วนายตักขี้อาจจะล้มล้างสถาบันการปกครองทุกสถาบันไปในคราวนี้เลย ข้างหลังฉากพวกนี้นายตักขี้กลับต่อสายคุยกับผู้มีอำนาจเพื่อต่อรองไม่ต้องรับโทษหรือขอนิรโทษกรรมจากกรรมการในภายหลังได้และทวงทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทคืน นักโทษหนีคดี จะ มี สิทธิอะไรมาต่อรองกันเล่านี่

ด้วยการเดินเกมพลาดแบบง่ายๆ และ หลุดเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง หน้ากากถูกกระชากออกมาก่อนกำหนด ภาพพจน์ติดลบแบบดิ่งเหว สองแรงบวกให้กระแสตีกลับ ถูกชาวบ้านชี้หน้าด่าว่านายตักขี้เป็นคนขายชาติ-ทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เสียงก่นด่าที่ดังกระหึ่มจากรอบทิศทาง ดังกึกก้องขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พลังคนเสื้อแดงเริ่มฝ่อ ยิ่งการฝืนชุมนุมในช่วงงานมหามงคลเพื่อชนฟ้า จะยิ่งทำให้เกิดภาพของนายตักขี้ยิ่งติดลบ มีแต่เสียงบ่นรำคาญ ดังขึ้นๆเรื่อยๆ ทำให้นายตักขี้ต้องถอยกรูดอย่างกะทันหัน เจ้ามูลเมืองนำทัพแล้วต้องมาล่มปากอ่าวเสียอย่างนี้แล้ว ประชาชนร้อยละ 67.49 รู้สึกโล่งใจ สบายใจ เนื่องจากใกล้จะถึงวันสำคัญที่คนไทยทั้งชาติเฝ้ารอ ปีนี้คงเป็นปีที่สูญเปล่าของนายตักขี้อีกปีหนึ่งเป็นแค่ข่าวแต่ไม่ได้อะไรที่เป็นคุณกับตัวเลย ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแล้ว กำลังใจของประชาชนเริ่มกลับมา รัฐบาลกำลังจะสบายตัว เดือนธันวาคมเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทย แต่สำหรับนายตักขี้น่าจะเป็นช่วงแห่งความทุกข์แน่ๆ

เพิ่งจะรู้ว่าทำไมดูไบถึงเอาอกเอาใจนายตักขี้เหลือเกิน มันใช้ดูไบเป็นฐานสั่งการป่วนประเทศไทยกี่ครั้งก็เฉย กระนั้นต่อไปนี้นายตักขี้จะนิ่งๆ นั่งสมาธิที่ดูไบก็เห็นทีจะลำบาก ฟองสบู่ที่นั่นกำลังแตก เศรษฐกิจกำลังเจ๊ง ผู้มีอำนาจที่นั่นคงจะยอมให้นายตักขี้ใช้เป็นฐานก่อกวนประเทศไทยอีกนานตราบเท่าที่นายตักขี้จะยอมจ่ายหนักๆ เพราะข่าวใหญ่ช็อคโลก"ต้มยำอูฐ"เรื่องการล่มสลายทางเศรษฐกิจของรัฐดูไบที่ขอพักการชำระหนี้ เศรษฐกิจ เครดิตย่อยยับ อภิมหาเศรษฐีของโลกอย่างดูไบกลายเป็นยาจกชักดาบไปในพริบตา ไส้ในกี่ขดๆของนครรัฐอันสุดแสนจะทะเยอทะยานแห่งนี้ ได้ถูกนำมาหั่น ชำแหละตามสื่อเรียบร้อยแล้ว ฟองสบู่ดูไบแตกฐานที่มั่นทางธุรกิจและฐานบัญชาการทางการเมืองของนายตักขี้ก็สั่นคลอน สงสัยแต่ว่าทำไม ทำไม ดูไบ ไม่เรียกใช้นายตักขี้ ที่ปรึกษานายกฯเขมรผู้มากสามารถในด้านการสูบและดูดเงินเหนือมนุษย์ สามารถวางแผนให้ทำให้คนไทย 60 ล้านคนหายจน สามารถคืนหนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด

นายตักขี้ยุรยาตรไปอังกฤษเพียงแค่ไม่กี่ปี สโมสรฟุตบอลอายุยาวนานนับร้อยๆ ปีแทบจะฉิบหายวายป่วงเกือบล้มละลาย แฟนบอลหันมาตีกันเอง นายตักขี้ไปยังเมืองเขมร ชาวเขมรก็ลุกขึ้นมาฟาดปากกันในสภากาแฟด้วยเรื่องของนายตักขี้ ชาวเขมรยังถูกแบ่งเป็นต้านเวียดกับต้านไทยก็เพราะนายตักขี้เป็นเหตุเหมือนกับที่เราชาวไทยด้วยกันเองก็แบ่งเสื้อเหลือง-เสื้อแดงในบ้านเราทุกวันนี้บ้านเมืองเสียหายนับแสนล้าน ความสามารถในการทำลายล้างของนายตักขี้รุนแรงมาก เพราะ สามารถนำเอาความฉิบหาย วายป่วงไปสู่พื้นที่ต่างๆ ที่เคยเป็นแหล่งพักพิง พึ่งพา ไล่มาตั้งแต่อังกฤษ เขมร ตลอดไปจนถึงดูไบ ผู้คนผู้ได้เคยสัมผัส ผูกพัน ใกล้ชิดส่วนใหญ่ต้องประสบความทุกข์ ความเดือดร้อน ปราศจากความสุขไปเป็นแถวๆ เชื่อว่าวันนี้ฮุนเซนก็กำลังหนาวๆร้อนๆอยู่เหมือนกัน

เงิน ตัวเดียวเท่านั้น