20 พฤษภาคม 2553

เตรียมรับมือกับสงครามก่อการร้ายเต็มรูปแบบ



การที่ตักขี้ กินชะมัดไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ได้ใช้แกนนำไพร่แดงกบถให้ชีวิตของชาวบ้าน ธุรกิจและความสงบเรียบร้อยในบ้านในเมืองเป็นตัวประกัน    ไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่พยายามให้ไพร่ระดับขี้ข้าราคาถูกจนถึงระดับไม่มีราคามาสร้างความสูญเสีย-สร้างเงื่อนไขให้เกิดการแทรกแซงขององค์กรระหว่างประเทศให้ได้  ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการปิดล้อม ตั้งด่านรอบๆ บริเวณชุมนุมตีกรอบเป็นเหลี่ยมๆ รอบการปะทะ การยิงต่อสู้และความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยกองกำลังติดอาวุธออกมาลอบโจมตีและก่อความไม่สงบนั้นล้วนแต่เกิดขึ้นรอบนอกจุดที่มีการชุมนุมอยู่ ราตรียิ่งทอดยาว ก็ยิ่งให้หนาวและฝันร้าย ประชาคมโลกทิ้งน้ำหนักไปทางกลุ่มกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่อย่างตักขี้  ตัวหัวหน้ากบถเองก็นั่งกระดิกตีน ต่อสาย-สั่งการมาจากมอนเตเนโกรบ้าง ดูไบบ้าง  มันแค่ต้องการให้บ้านเมืองวิบัติหายนะสนองความคลั่งแค้นและเพื่อความสะใจ  ยิ่งไอ้พวกไพร่เหวงๆไปร้องแรกกับ UN ที่ตักขี้เคยบอกว่าคุณอย่ามาห่วง ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม  ผู้หลักผู้ใหญ่และรัฐบาลเองก็นั่งกันไม่ติด

เมื่อตื่นเช้าวันใหม่คนกรุงที่เริ่มชินกับไพร่แดงกบถ ชินกับการเอาตัวรอดในสถานการณ์ร้อนแรงและชินกับอาการเข็มขัดสั้นนนนนนของนายกฯ  คนกรุงต้องลดเสียงโวยวายและค่อยๆยอมจำนนกับการมีม็อบไพร่แดงกบถ-ทหาร-ตำรวจอยู่กลางเมือง หลายคนต้องหาทางแก้ปัญหาให้กับกิจการของตัว  จนมีการประเมินกันว่าการสร้างความเสียหาย จราจล สงครามกลางเมืองจะเป็นเงื่อนไข กดดันและบีบบังคับให้สถาบันเบื้องสูงต้องลงมาไกล่เกลี่ยอย่างเหตุการณ์เมื่อครั้ง 15 ปีที่ผ่าน    ในระหว่างที่พรรคร่วมรัฐบาลจะลอยตัวปล่อยนายกฯอภิสิทธิ์ให้ต้องเผชิญภาวะสุ่มเสี่ยงด้านความมั่นคงในขณะที่มือของนายกฯอภิสิทธิ์มีแต่ไอติมที่นายกฯอภิสิทธิ์กินกับแก็งค์ไอติมที่ราบฯ11 กองทัพสีน้ำเงินของจิ๋กโก๋ซอยรางน้ำก็กอบโกยโครงการอภิมหาโปรโจคท์ไปนิ่มๆเนียน พรรคร่วมฯอื่นๆก็คอยเสียบตรงโน้นแหย่ตรงนี้

พวกบริษัททนาย บริษัทที่ปรึกษาคงแนะนำแผนดึง UN เข้ามา ให้ไอ้พวกไพร่เหวงๆชักน้ำเข้าลึก หวังจะต้อนรัฐไทยปัจจุบันให้ตกเป็นจำเลยต่อชาวโลก   สุดท้ายศูนย์อิเหลื่อยเฉื่อยแฉะ ศฮฉ.ได้ออกมาประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนว่ามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายปะปนอยู่ในฝูงผู้ชุมนุมสันติ-มหิงสาจริงและการก่อวินาศกรรม การซุ่มสังหารนายทหาร การวินาศกรรมและปฏิบัติการต่อต้านกำลังรัฐนี่มันครบองค์ประกอบของการเป็นปฏิบัติการผู้ก่อการร้ายชัดแจ๋วแหววววว แจ่มชัดว่ามีพตท.ตักขี้ กินชะมัดเป็นหัวหน้าก่อการร้าย  มันเจ๋ง มันเลว มันถ่อยยยย มันเลวกว่า บินลาดินมหาศาลนัก  ทำไมเล่าก็บิน ลาดินจะชั่ว จะดี มันก็ไม่เคยแม้แต่จะคิดทำลายและทำร้ายประเทศของตัวเอง

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมที่ปรึกษากฎหมาย เชี่ยวชาญในการสร้างแรงกดดันทางการเมืองในเวทีสากลเพื่อให้เป็นคุณกับลูกค้า  มันมาฝังตัวอยู่หลังเวทีเป็นระยะๆและเรียกร้องรัฐบาลด้วยข้อเรียกร้องที่สอดรับกับข้อเรียกร้องของแกนนำกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่  มันไม่รู้หรือว่าคนจ้างมันเป็นนักโทษที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและถูกยึดทรัพย์เพราะโกง โกงแม่...มันทั้งโคตร  คนพรรค์เดียวกันมันก็คงไม่เข้าใจ ลองอ่านดู Who Really Is Robert Amsterdam   พอบัน คี มูนออกมาตอบรับการยืนยันว่า เข้าใจสถานการณ์ หวังไทยสงบเร็ว เป็นเรื่องภายในประเทศถึงรัฐบาลก็เล่นเอาพวกกบถแดงไปไม่เป็นกันเป็นแถว

พวกไพร่หางแถวที่เป็นส.ส.-ส.ว.-นักวิชาเกินการบางคน ชายหัวโล้นจีวรแดง  สื่ิอมวลชนบางสื่อเสนอข่าวที่ไม่เป็นกลาง ( CNN ยังเข้าข่ายนี้เลย ) องค์กรบางองค์กร พวกสันติวิธีและพวกริบบิ้นขาว ชอบนักชอบหนาออกมาล่าแต้ม แกล้งไม่รู้หรือซื่อบื่อจนไม่รู้ความจริง เล่นบทละครสองหน้า ทำเป็นเข้าข้างประชาชน ห่วงใยประชาชน ชอบออกมาเรียกร้องไร้แก่นสาร กดดันนายกฯอภิสิทธิ์  คอยแต่บอกว่ารัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ อย่าใช้ความรุนแรง ใช้วิธีเจรจา ไอ้พวกที่สะเหร่อหนักก็แนะให้รัฐบาลยุบสภา-ลาออกไปเลยแล้วปัญหาจะจบ   ทำไมไม่มองถึงต้นเหตุบ้างว่าใครคือตัวสร้างปัญหาและใครคือฝ่ายใช้ความรุนแรงแต่ทำไมไม่พูด-ไม่บอกว่าต้นปัญหาคือพวกกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่อย่างตักขี้   นักสิทธิมนุษยชนอย่าง อม----รา กับนักวิชาเกินชื่อโคระทมอย่างนี้เป็นตัวอย่างที่ดี

ก่อนหน้านี้นายกฯอภิสิทธิ์ได้ปล่อยให้เหตุการณ์นี้ยืดเยื้อยาวนานมาตลอดเพียงเพราะว่าถูกใส่ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงจนมีความกังวลในการสูญเสีย   กอรปกับข้าราชการ  ทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ จำนวนมากที่ใส่เกียร์ว่างเพราะความที่อิทธิพลของจิ๋กโก๋ซอยรางน้ำทำให้ไม่มีการล้วงควักเนื้อเน่าออกไป  เจ้าหน้าที่รัฐพวกนี้เห็นแก่ตัวระมัดระวังความกระทบกระเทือนต่ออนาคตตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้สำนึกตัวว่าเป็นผู้รับสนองพระเดชพระคุณทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมาตลอด เป็นถึงนายพล นายพันก็มิได้สำเหนียก  ก็ในเมื่อหัวมันสั่นตัวมันก็เสียวผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้โอกาสใส่เกียร์ว่างตาม

การตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาหาร ตัดตอนท่อน้ำเลี้ยง ปิดล้อมผู้ชุมนุม สะกัดการชุมนุมไม่ให้มีมาเพิ่มเติม และสกัดการเคลื่อนย้ายอาวุธสงคราม   ได้พิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์สามารถทำลายกับดักของตัวเอง เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้สำเร็จมีประสิทธิภาพมากจริงๆ เป็นงานเป็นการ   ต่อเมื่อเสธ.แดงถูกเด็ดหัวไปขบวนการไพร่แดงกบถก็ระส่ำ พอรัฐบาลเริ่มกระชับพื้นที่  (แถวบ้านไม่ได้เรียกอย่างนี้ แต่เรียกว่าสลายการชุมนุม )  กองกำลังถ่อยก็ถอยไม่เป็นท่า บางส่วนต้องทิ้งอาวุธไว้ที่ด้านสวนลุม  การเข้าสลายการชุมนุมสร้างความกดดันต่อแกนนำกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่กอรปกับกองกำลังถ่อยข่มขู่แกนนำกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ด้วยต้องการจะเก็บแกนนำทีละตัวๆ  สุดท้ายแกนนำกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ก็ยอมถ่อยและถอย มามอบตัวในที่สุด  ส่วนแกนนำกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ฮาร์ดดอร์ก็หนีคดีตามคาด  กระนั้นแกนนำกบถของไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ขึ้นเวที ปราศรัยไม่ยอมแพ้แต่ต้องยอมจำนน ขอหยุดความตาย( ที่จะเกิดกับพวกมัน ไม่ใช่กับชาวบ้านที่พวกมันหลอกมา ) แล้วจะกลับมาอีก   นี่มันแค่หยุดไม่ใช่ยอมแพ้

นับจากนี้ก็ให้รัฐบาลและคนไทยเตรียมรับมือกับสงครามก่อการร้ายเต็มรูปแบบ แม้ว่าผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธแต่ก่อนที่จะออกจากราชประสงค์ใครก็ไม่รู้เอามาใส่ถุงเงาะเอาไว้ให้  นี่เป็นการสนับสนุนการปลิ้นปล้อนในโรงน้ำแข็ง บนเวที ว่าผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ-ไม่มีใครตาย, แต่ทหารมีปืน-ประชาชนตาย จราจลได้เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพและลามไปสู่ต่างจังหวัด การก่อการร้ายพวกนี้ได้ถูกออกแบบเอาไว้ไม่ใช้แค่อารมณ์เอามัน  ถ้าจะเป็นอารมณ์นี้ก็อยู่ที่ไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่อย่างตักขี้กินชะมัดเท่านั้นเองไม่ใช่ใคร  เผาศาลากลางจังหวัดใน อุดรธานี อุบลราชธานีและขอนแก่น มีที่ขอนแก่นที่เดียวที่มีสวน  ที่นั่นแห่ศพที่ถูกการ์ดผู้ว่าฯยิงตายรอบเมือง ร้องห่มร้องไห้กระจองอแง ตอนทำเขา มันไม่คิดพอโดนเขาทำบ้างร้องเป็นหมาถูกเหยียบหาง คืนเดียวเผาทิ้ง 31 จุด สยาม-เซ็นทรัลเวิล์ด-บิ๊กซีราชดำริและอื่นๆ วันที่น่ากลัวที่สุดยังมาไม่ถึง

ที่สุดศาลอาญาอนุมัติหมายจับตักขี้ กินชะมัดกับพวกรวม 10 คนในข้อหาก่อการร้ายแล้ว  พวกกบถไพร่แดงต้องเผาเซ็นทรัลเวิลด์เพราะเป็นจุดที่สั่งสม ซุกซ่อนอาวุธ ที่นับได้ว่าเป็นคลังแสงอาวุธสงครามจำนวนมากน้องๆคลังแสงของกองทัพเลยทีเดียว  พวกมันไม่สามารถผ่องถ่ายออกมาก่อนหน้านี้จากการกระชับวงล้อมของศูนย์อิเหลื่อยเฉื่อยแฉะและไม่สามารถขนออกมาให้ทันตอนประกาศสลาย  การเผาก็ไม่ใช่ง่ายๆไพร่กลุ่มวางเพลิงนั้นต้องกลับมาเผาซ้ำเพิ่มเติมหลังจากที่มีข่าวว่าเซ็นทรัลเวิลด์ยังไม่ถล่ม เลือกเผาอาคารในเชิงยุทธศาสตร์ให้ส่งผลต่อทั้ง GDP และอาคารใหญ่ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสูง การเผาโน่นเผานี่ต่อไปเรื่อยๆก็เพียงแค่บั่นทอนกำลังการดับเพลิงของรัฐเท่านั้น   สำหรับการปล้นธนาคาร ร้านค้าก็เป็นการยืนยันว่านี่เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่มีสันดานเป็นโจรร่วมด้วยช่วยกันกับภิกษุสันดานกา ก็แค่นั้น

หลายๆความคิดพรั่งพรูออกมาในโลกไซเบอร์ว่าให้ไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่มันเลือกระหว่างเผาบ้านมันกับยึดบ้านมันขายทอดตลาดเพื่อเอามาจ่ายชดเชยให้คนที่โดนมันเผาบ้าน แค่เราจ้างขี้ยาไปเผาบ้านตระกูลชินวัตร วงษ์สวัสดิ์ ดามาพงษ์, ตึกชิน 1-3, บ้านเคยอยู่ อู่เคยปี้จนมีไอ้ลูกระยำ 3 ตัวนั่นอย่างบ้านจันทร์ส่องหมากับเสพเฮาส์หลังใหม่ที่หลังตึกชิน 1 ของมันถึงแม้ราคามันไม่มากเท่าตึกเซนทรัลเวิลด์แต่ก็คงทำให้มันช้ำใจตายได้เหมือนกันในราคาจ้างวานที่ถูกแสนถูก  ถูกกว่าไพ่รสถุลหลายๆคนที่มันจ้างมาเสียอีก

ที่น่าแปลกคือการบุกขึ้นไปเผาสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่เลือกข้างและมีพิธีกรหรือผู้จัดฯที่เลือกข้างไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ชัดเจนนี่สิ  ไอ้ที่ไม่แปลกคือมันทำเป็นอยู่อย่างเดียวว่ากระบวนการที่เผาและวิธีการมีความคล้ายคลึงกันหมดทุกแห่ง มีวิธีการทำลายอย่างเป็นระบบ สงสัยคนเผาคงจบจากโรงเรียนสอนก่อการร้ายอย่างโรงเรียนแดงทั้งแผ่นดินของธิดา โตแล้วไม่ได้การ  สอนกันดีนักเรื่องชั่วๆนี่นะไอ้การรวมตัว การสลายตัว  กลยุทธ์ การปิดถนน เผาล้อยางเป็นม่านกำบัง  ปฏิบัติการในลักษณะสงครามจรยุทธ์

หลังจากนี้จะเริ่มมี สส.ฝ่ายค้าน สว.บางส่วน สื่ิอมวลชนบางสื่อ องค์กรบางองค์กร จะเริ่มกดดันนายกฯอภิสิทธิ์อีกครั้งและถึงคราวจะต้องทำความสะอาดประเทศไทยขนานใหญ่  พวกโจรในคราบมะเขือเทศ แตงโม นักโกงเมือง  อาจารย์มหาวิทยบรรลัย โล้นจีวรแดง นักเต้าข่าว โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์
สิ่งพิมพ์และเว็ปไซท์สารเลว  ถ้านายกฯอภิสิทธิ์ยังไม่ถอดใจไปเสียก่อนคนไทยทั้งหมดจะต้องช่วยกัน ปราบปราม จำกัดคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ จากนั้นจึงเริ่มปรับรูปแบบเศรษฐกิจ สังคม การเกษตร การศึกษา ศาสนา ขนานใหญ่เพื่อการพึ่งตนเองให้มากที่สุด  ช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่สุดในโลกของพวกเรา

ขอแนะนำไพร่แดงที่กาฬสินธุ์กลุ่มที่เอาบัตรปชช.คืนไม่ขอเป็นคนไทยให้เดินทางออกนอกประเทศ เดินทางหาพ่อให้เจอ หาไม่ยากนักหรอก ไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่มีตาเดินหมากที่เริ่มเหลือน้อยลงเต็มที หลังจากแหล่งพำนักพักพิงที่ต่างประเทศค่อยๆ ทะยอยตัดตาเดิน ยุติการให้ทีพักพิง โดยเริ่มจากอังกฤษ สู่ดูไบ และสุดท้ายประเทศล่าสุดอย่างมอนเตเนโกได้ประกาศอย่างเป็นนัย

ส่วนน้องไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ที่ชื่อพาย่อยยับ กินชะมัดที่ออกมาโวยว่าศอฉ.ห้ามทำธุรกรรมการเงิน ละเมิดสิทธิมนุษยชน นั้นไปสร้างเครดิตก่อนทั้งผัวทั้งเมีย  ก็มันเพิ่งถูกฟ้องล้มละลายแพ้คดีมาเมื่อวานนี้เองมันจะเอาอะไรมาให้เบิกกัน

ต้องนี่สิ แกนนำเสื้อแดง ตัวจริง

ยามนี้ก็ต้องขอบคุณนายกฯ ผบ.ทบ. ทหาร ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ตั้งใจจริงในการทำงานครั้งนี้อย่างสุด

16 พฤษภาคม 2553

ทำ ม า ก ล า ย


เมื่อ 2516 วัดพระธรรมกายเคยเป็นวัดที่มีความอบอุ่นมีคุณยายจันทร์ ขนนกยูงเป็นโยมอุปฐากหลัก บอกว่าวัดนี้ต้องมีพระประจำอยู่มากที่สุดไม่เกิน 20 รูป ให้มักน้อย-สันโดษ มีการปลูกสวนผักไว้รับประทาน อย่าไปขยายอะไรให้มันมาก ปฏิบัติธรรมกันโดยจะไม่ต้องรบกวนญาติโยม และไม่ทำอะไรอย่างอื่นนั่งสมาธิกัน  ระบบการเงินก็โปร่งใส  ต่อมาเจ้าอาวาสจากหลวงพี่ไชยบูลย์ ธัมมชโยพระราชภาวนาวิสุทธิ์ก็เป็นหลวงพ่อผู้นิยมผัดเผ็ดปลาช่อนขี้เมาครองจีวรป่านสวิสมาโดยตลอด  ระบบการเงินอยู่ที่ไชยบูลย์คนเดียว  เมื่อมีความสะดวกต่างๆ เพิ่มขึ้น โทรศัพท์เข้ามาพระจึงเริ่มมีการสั่งงานกันทางโทรศัพท์ ความใกล้ชิดของพระสงฆ์ในวัดก็ลดน้อยลงสวนทางกับความสัมพันธ์กับญาติโยมภายนอกโดยเฉพาะนักธุรกิจเข้ามามีบทบาทมากขึ้นๆ เรื่อยๆ    จุดเปลี่ยนสำคัญของวัดพระธรรมกายเริ่มต้นขึ้นด้วยการตั้งบริษัทดูแวคในปี 2525  รวบรวมเอาเงินทุนจากญาติโยมหลายคนและเริ่มมีการซื้อที่ดินเพื่อขยายวัดไปอีก 1000 ไร่จนกระทั่งเป็น 2600 ไร่และเท่านั้นยังไม่พอได้มีการซื้อที่อีกมากมายที่ต่างจังหวัด  ความเปลี่ยนแปลงเริ่มมากขึ้นมากขึ้นคุณยายจันทร์เริ่มเสื่อมสังขารไปจนสุดท้ายคุณยายจันทร์ก็กลายเป็นแค่สัญญลักษณ์  ทุกขังอัตตา พองหนอ อืดหนอ เผาไปแล้วหนอ   เจ้าอาวาสก็เปลี่ยนไปมากจนน่ากลัว  หลายปีต่อมาธุรกิจอะไรๆหลายอย่างของวัดพระธรรมกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ค้าที่ดิน โครงการตะวันธรรมและอีกสารพัด  รวมทั้งเวนคืนที่บริเวณล้อมรอบวัดด้วยเงินของราชการปลูกป่าให้วัดเป็นไข่แดง เงินทำบุญที่หลั่งไหลเข้าวัดธรรมกายได้จัดสรรให้ถูกลูกศิษย์บางคนยืมไปทำธุรกิจกันครึกโครม     พระลูกวัดทุ่มเททำงานให้วัดอย่างหนัก ทั้งๆที่ไม่เข้าทางปฏิปทาที่ต้องการให้พระได้ปฏิบัติธรรมกันอย่างเต็มที่ตามความตั้งใจของโยมจันทร์ ขนนกยูง   จนวันหนึ่งพระชิดชัย ชิโตซึ่งจบวิศวบัณฑิตจากจุฬาฯทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำทุ่มเทเพื่อวัดอย่างสุดตัวเริ่มมีอาการทางจิตจนพระหลายรูปพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องส่งท่านไปโรงพยาบาล  วัดที่ฝึกจิตกลับมีพระที่มีอาการทางจิตไปรักษาอาการทางจิตในโรงพยาบาล  สุดท้ายท่านก็คิดมากกินยาตายแล้วจึงมีผู้ไปพบศพในวันอังคารเช้าที่กุฏิตั้งแต่เย็นวันจันทร์  

ที่วัดธรรมกายเวลานี้ดูลักษณะทั่วไปไม่เห็นเหมือนวัดเลย ไม่มีโบสถ์  ไม่มีช่อฟ้า ไม่มีใบระกา ไม่มีใบเสมา  จะมีก็แต่โดมทองมราถูกใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์เท่านั้น  หลักการทำบุญทั่วไปใครมีมากทำมากมีน้อยทำน้อย  ไม่มีก็ทำได้ทำด้วยใจ  แต่ที่นี่ทุกคนที่มาแทบจะทุ่มทำแข่งกันเลยคนละแสนสองแสน บางคนทำเป็นล้านก็มีสิ้นเนื้อประดาตัวไปมากมาย บ้านแตกสาแหรกขาดไปก็เยอะ พวกเขาที่ทำบุญกันด้วยแก่นแท้ที่ต้องการการวอนขอรอรับผลตอบแทน ต้องการไปนิพพาน วัดธรรมกายนำหลวงพ่อสดวัดปากน้ำท่านมาอ้างเป็นพุทธพาณิชย์มากกว่าการปฏิบัติ   ไชยบูลย์ ธัมมชโยเองก็พฤติกรรมไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมี กุมอำนาจทั้งการบริหาร การเงิน พาณิชยกรรมในกิจการอสังหาริมทรัพย์ เคยมีรายงานว่ากลุ่มธุรกรรมนี้ยังเคยโจมตีเงินสกุลต่างในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาแล้วยังไปเกี่ยวพันกับแชร์ชม้อย  รวมทั้งเกี่ยวพันกับการปั่นหุ้นของเสี่ยสอง วัชรศรีโรจน์ด้วย  ใกล้ชิดสนิทแนบแน่นกับสีกาหลายคนรวมถึงสาวน้อยที่ธัมมชโยฟูมฟักทะนุถนอมส่งเสียให้เรียนหนังสือจนจบเกษตรศาสตร์ ยังไม่รวมถึงเด็กสาวในโครงการพรหมจรรย์อภิญญาที่แต่ละคนอื๋มตรงสเป๊กไชยบูลย์ ธัมมชโยทั้งสิ้น  จะมีเด็กพรหมจรรย์เหล่านี้อีกจำนวนเท่าไหรที่แวดล้อมไชยบูลย์ ธัมมชโยอยู่ในเวลานี้  ไชยบูลย์ ธัมมชโยชอบสั่งอาหารเมนูเด็ดจากภัตตาคารชั้นเยี่ยม  อบผิวด้วยสมุนไพรหรือใช้สบู่ยี่ห้อแพงหูฉี่จากต่างประเทศ ใช้ชีวิตหรูหราในคฤหาสนถ์  พุทธัง เอาตังค์ ใส่ตู้นะจ๊ะ ธัมมัง เอาตังค์ ใส่ตู้นะจ๊ะ สังฆัง เอาตังค์ ใส่ตู้นะจ๊ะ

เมื่อปี 2541 พระอดิศักดิ์ วิริสโกอดีตพระลูกวัดได้ออกมากล่าวหาไชยบูลย์ ธัมมชโยว่ายักยอกเงินและที่ดินที่บรรดาญาติโยมบริจาคให้วัดและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ใกล้ชิดสีกาและอวดอุตริมนุสธรรม ยิ่งเมื่อกรมที่ดินได้สำรวจพบว่าไชยบูลย์ ธัมมชโยได้ไปมีชื่อเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินและบริษัทที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายกว่า 400 แปลง เนื้อที่กว่า 2 พันไร่ในหลายๆจังหวัดเช่นที่พิจิตร เพชรบูรณ์และเชียงใหม่ มหาเถรสมาคมจึงตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีข้อสรุปว่าเป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหา  คำวินิจฉัยของเจ้าคณะภาค 1 พระพรหมโมลีที่ได้รับมอบหมายในการนี้ระบุว่าให้ไชยบูลย์ ธัมมชโยปรับปรุงคำสอนของวัดพระธรรมกายที่ว่านิพพานเป็นอนัตตาไม่ใช่อัตตาอย่างที่เป็นอยู่และยุติการเรี่ยไรเงินนอกวัด  สมเด็จพระสังฆราชฯ สกลมหาสังฆปรินายกจึ่งได้มีพระลิขิตให้ธัมมชโยคืนที่ดินและทรัพย์สิน  แต่โล้นไชยบูลย์ ธัมมชโยยังไม่ยอมแถมยังหันไปสวมเสื้อยืดสีส้มห่มคลุมทับด้วยจีวรป่านสวิสเสียอย่างนั้น  ดังนั้นกรมการศาสนาจึงได้เข้าแจ้งความต่อกองปราบปราม  อดีตทนายความของวัดและประชาชนที่เคยเลื่อมใสได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงเงิน 35 ล้านซ้ำอีกรวมเป็นคดีความทั้งหมด 5 คดี

ในระหว่างที่คดีได้เดินไปอัยการเจ้าของสำนวนเธียรชัย เปรมศิรินิรันดร์อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้มีมติให้ฟ้องไชยบูลย์  พลันก็มีอัยการสูงชะลูดบอกคุณเธียรชัยให้ถอนฟ้องพร้อมระบุว่านายกฯขอมาในปี 2549 เกือบ 7 ปี ของการดำเนินคดีจู่ๆอัยการซึ่งเป็นโจทก์ก็ขอถอนฟ้องจำเลยไปดื้อๆ  นับว่าเป็นการตัดโอกาสของไชยบูลย์ธรรมชโยในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมได้เห็น   เอ นายกฯในสมัยนั้นเป็นใครกัน   หลังจากนั้นไชยบูลย์ธรรมชโยจึงได้คายสมบัติกลับสู่วัดแบบเนียนๆ เงียบๆ  อัยการอ้างว่าไชยบูลย์ธรรมชโยกับพวกได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาตรงตามพระไตรปิฎกและนโยบายของคณะสงฆ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วไปและยังช่วยเหลือหน่วยงานราชการในด้านกิจการของศาสนามาก  หากดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองต่อไปอาจก่อให้เกิดความแตกแยกในศาสนจักรและไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

คดีฉ้อโกงทรัพย์วัดพระธรรมกายนี้ องค์กรสงฆ์ควรออกมาอธิบายให้ชัดเพราะถ้าพระถูกกล่าวหาอาบัตปาราชิกขาดจากความเป็นพระ แล้วจะอ้างคุณงามความดีในภายหลังได้หรือ การจะเห็นพระติดคุกสักรูปมันก็จุกอกแทงหัวใจชาวพุทธอยู่นา แต่การที่อธิบดีกรมการศาสนา ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถระสมาคมซึ่งอัยการได้แอบอ้างถึงในการยื่นถอนฟ้องทั่ง 3 ตำแหน่งควรแสดงบัญชีทรัพย์สินการคืนทรัพย์สมบัติที่ไชยบูลย์ธรรมชโยได้อมไปแล้วกลับคืนสู่วัดให้ชัดเจนเพื่อให้สังคมได้หายข้อสงสัย

ก่อนหน้าที่อัยการจะถอนฟ้องคงศักดิ์ วันทนารมต.มหาดไทยในสมัยนั้นได้ใช้สถานที่วัดพระธรรมกาย จัดงาน “รวมใจทุกศาสนา พัฒนาท้องถิ่นไทย ถวายองค์ราชา ครองราช์ย์ 60 ปี “ พอมาถึงวันนี้พฤษภาคม 2553  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และสมาคมพุทธศาสตร์สากลเกิดอยากจะยกระดับมาตรฐานศีลธรรมเชิงบูรณาการ จะอบรมเยาวชนจำนวนถึง 10 ล้านคน พร้อมกับข้าราชการครู ผู้บริหารการศึกษา ผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น อีกเป็นจำนวนถึง 7 แสนคน และสถานศึกษาอีก 30,000 แห่ง ทั่วประเทศดูเผินๆก็เหมือนว่ามันจะดี  แต่นี่กำลังจะกลายเป็นการสร้างรากฐานของการทำกรุงวาติกันให้เกิดแก่ศาสนาพุทธของเราในบ้านไทยเมืองพุทธของเรานี่เอง  ด้วยอนาคตของชาติเป็นล้านๆคน ทรัพยากรมนุษย์กำลังจะถูกทำลาย  ด้วยเงินภาษีอากรของคนทั้งชาติทั้งที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายสม่ำเสมอและไม่เคยแม้แต่จะมองวัดนี้มาก่อนเลยก็ตาม เลขาสพฐ.เวลานี้เป็นศิษย์เอกตัวจริงเสียงจริงของไชยบูลย์ ธัมมชโย  หากข้าราชการไม่สามารถสำนึก สำเหนียกถึงความผิดปรกติของไชยบูลย์ ธัมมชโย  ยังไม่สามารถสำนึกสำเหนียกต่อพุทธพาณิชยกรรมที่ไชยบูลย์ ธัมมชโยได้กระทำ  มันผู้นั้นก็ไม่น่าจะได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของประเทศแบบนี้ ขออนุโมทนาบุญกับท่าน ส.ศิวรักษ์

ประเทศไทยในวันนี้ประกอบด้วยเสาหลักของชาติสามเสาใหญ่ๆคือชาติ  ศาสนา และพระมหากษัตริย์  ชัดเจนว่าบ้านเมืองเราต้องมาตกอยู่ในภาวะวิกฤตด้วยกองทัพเสื้อแดงพร้อมกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายแต่ทราบคนสั่งการที่เป็นอดีตนายกฯหน้าปลาตีนแอบใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยการรับจอบจากตักขี้กินชะมัด สมแล้วที่ศูนย์อิเหลี่ยเฉื่อยแฉะสั่งอายัดธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับท่อน้ำเลี้ยงกองทัพเสื้อแดงพวกนั้น   ตักขี้กินชะมัดชาวมอนเตรเนโกรคนนี้ยังมีสหายคอมฯอกหักคอยบั่นทอนความแข็งแรงของพระราชวงศ์จักรีของเราอยู่อย่างไม่ท้อแท้   ในวันนี้ที่ศูนย์อิเหลี่ยเฉื่อยแฉะรูดซิป พอชุดฟิตได้ออกมาออกกำลังแถววัดพระธรรมกายทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แทนตำรวจมะเขือเทศอย่างเข้มแข็งขมักเขม่นในบริเวณหน้าวัดฯนั้นต้องมีอันมาแตกกระเจิงแอบหนีไปเข้าวัดซุกตัวเงียบอยู่ในนั้น   ตอนนี้ประชาชนที่หลงผิดส่วนหนึ่งกำลังอยู่ในพื้นที่ภายใต้ภาวะฉุกเฉินร่วมกับบรรดาลูกศิษย์มหาศาลของวัดนี้ที่มีอลัชีปกครองอยู่ โดยมีการบงการจากทรราชตักขี้อู่เบื้องหลัง