16 พฤษภาคม 2553

ทำ ม า ก ล า ย


เมื่อ 2516 วัดพระธรรมกายเคยเป็นวัดที่มีความอบอุ่นมีคุณยายจันทร์ ขนนกยูงเป็นโยมอุปฐากหลัก บอกว่าวัดนี้ต้องมีพระประจำอยู่มากที่สุดไม่เกิน 20 รูป ให้มักน้อย-สันโดษ มีการปลูกสวนผักไว้รับประทาน อย่าไปขยายอะไรให้มันมาก ปฏิบัติธรรมกันโดยจะไม่ต้องรบกวนญาติโยม และไม่ทำอะไรอย่างอื่นนั่งสมาธิกัน  ระบบการเงินก็โปร่งใส  ต่อมาเจ้าอาวาสจากหลวงพี่ไชยบูลย์ ธัมมชโยพระราชภาวนาวิสุทธิ์ก็เป็นหลวงพ่อผู้นิยมผัดเผ็ดปลาช่อนขี้เมาครองจีวรป่านสวิสมาโดยตลอด  ระบบการเงินอยู่ที่ไชยบูลย์คนเดียว  เมื่อมีความสะดวกต่างๆ เพิ่มขึ้น โทรศัพท์เข้ามาพระจึงเริ่มมีการสั่งงานกันทางโทรศัพท์ ความใกล้ชิดของพระสงฆ์ในวัดก็ลดน้อยลงสวนทางกับความสัมพันธ์กับญาติโยมภายนอกโดยเฉพาะนักธุรกิจเข้ามามีบทบาทมากขึ้นๆ เรื่อยๆ    จุดเปลี่ยนสำคัญของวัดพระธรรมกายเริ่มต้นขึ้นด้วยการตั้งบริษัทดูแวคในปี 2525  รวบรวมเอาเงินทุนจากญาติโยมหลายคนและเริ่มมีการซื้อที่ดินเพื่อขยายวัดไปอีก 1000 ไร่จนกระทั่งเป็น 2600 ไร่และเท่านั้นยังไม่พอได้มีการซื้อที่อีกมากมายที่ต่างจังหวัด  ความเปลี่ยนแปลงเริ่มมากขึ้นมากขึ้นคุณยายจันทร์เริ่มเสื่อมสังขารไปจนสุดท้ายคุณยายจันทร์ก็กลายเป็นแค่สัญญลักษณ์  ทุกขังอัตตา พองหนอ อืดหนอ เผาไปแล้วหนอ   เจ้าอาวาสก็เปลี่ยนไปมากจนน่ากลัว  หลายปีต่อมาธุรกิจอะไรๆหลายอย่างของวัดพระธรรมกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ค้าที่ดิน โครงการตะวันธรรมและอีกสารพัด  รวมทั้งเวนคืนที่บริเวณล้อมรอบวัดด้วยเงินของราชการปลูกป่าให้วัดเป็นไข่แดง เงินทำบุญที่หลั่งไหลเข้าวัดธรรมกายได้จัดสรรให้ถูกลูกศิษย์บางคนยืมไปทำธุรกิจกันครึกโครม     พระลูกวัดทุ่มเททำงานให้วัดอย่างหนัก ทั้งๆที่ไม่เข้าทางปฏิปทาที่ต้องการให้พระได้ปฏิบัติธรรมกันอย่างเต็มที่ตามความตั้งใจของโยมจันทร์ ขนนกยูง   จนวันหนึ่งพระชิดชัย ชิโตซึ่งจบวิศวบัณฑิตจากจุฬาฯทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำทุ่มเทเพื่อวัดอย่างสุดตัวเริ่มมีอาการทางจิตจนพระหลายรูปพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องส่งท่านไปโรงพยาบาล  วัดที่ฝึกจิตกลับมีพระที่มีอาการทางจิตไปรักษาอาการทางจิตในโรงพยาบาล  สุดท้ายท่านก็คิดมากกินยาตายแล้วจึงมีผู้ไปพบศพในวันอังคารเช้าที่กุฏิตั้งแต่เย็นวันจันทร์  

ที่วัดธรรมกายเวลานี้ดูลักษณะทั่วไปไม่เห็นเหมือนวัดเลย ไม่มีโบสถ์  ไม่มีช่อฟ้า ไม่มีใบระกา ไม่มีใบเสมา  จะมีก็แต่โดมทองมราถูกใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์เท่านั้น  หลักการทำบุญทั่วไปใครมีมากทำมากมีน้อยทำน้อย  ไม่มีก็ทำได้ทำด้วยใจ  แต่ที่นี่ทุกคนที่มาแทบจะทุ่มทำแข่งกันเลยคนละแสนสองแสน บางคนทำเป็นล้านก็มีสิ้นเนื้อประดาตัวไปมากมาย บ้านแตกสาแหรกขาดไปก็เยอะ พวกเขาที่ทำบุญกันด้วยแก่นแท้ที่ต้องการการวอนขอรอรับผลตอบแทน ต้องการไปนิพพาน วัดธรรมกายนำหลวงพ่อสดวัดปากน้ำท่านมาอ้างเป็นพุทธพาณิชย์มากกว่าการปฏิบัติ   ไชยบูลย์ ธัมมชโยเองก็พฤติกรรมไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมี กุมอำนาจทั้งการบริหาร การเงิน พาณิชยกรรมในกิจการอสังหาริมทรัพย์ เคยมีรายงานว่ากลุ่มธุรกรรมนี้ยังเคยโจมตีเงินสกุลต่างในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาแล้วยังไปเกี่ยวพันกับแชร์ชม้อย  รวมทั้งเกี่ยวพันกับการปั่นหุ้นของเสี่ยสอง วัชรศรีโรจน์ด้วย  ใกล้ชิดสนิทแนบแน่นกับสีกาหลายคนรวมถึงสาวน้อยที่ธัมมชโยฟูมฟักทะนุถนอมส่งเสียให้เรียนหนังสือจนจบเกษตรศาสตร์ ยังไม่รวมถึงเด็กสาวในโครงการพรหมจรรย์อภิญญาที่แต่ละคนอื๋มตรงสเป๊กไชยบูลย์ ธัมมชโยทั้งสิ้น  จะมีเด็กพรหมจรรย์เหล่านี้อีกจำนวนเท่าไหรที่แวดล้อมไชยบูลย์ ธัมมชโยอยู่ในเวลานี้  ไชยบูลย์ ธัมมชโยชอบสั่งอาหารเมนูเด็ดจากภัตตาคารชั้นเยี่ยม  อบผิวด้วยสมุนไพรหรือใช้สบู่ยี่ห้อแพงหูฉี่จากต่างประเทศ ใช้ชีวิตหรูหราในคฤหาสนถ์  พุทธัง เอาตังค์ ใส่ตู้นะจ๊ะ ธัมมัง เอาตังค์ ใส่ตู้นะจ๊ะ สังฆัง เอาตังค์ ใส่ตู้นะจ๊ะ

เมื่อปี 2541 พระอดิศักดิ์ วิริสโกอดีตพระลูกวัดได้ออกมากล่าวหาไชยบูลย์ ธัมมชโยว่ายักยอกเงินและที่ดินที่บรรดาญาติโยมบริจาคให้วัดและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ใกล้ชิดสีกาและอวดอุตริมนุสธรรม ยิ่งเมื่อกรมที่ดินได้สำรวจพบว่าไชยบูลย์ ธัมมชโยได้ไปมีชื่อเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินและบริษัทที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายกว่า 400 แปลง เนื้อที่กว่า 2 พันไร่ในหลายๆจังหวัดเช่นที่พิจิตร เพชรบูรณ์และเชียงใหม่ มหาเถรสมาคมจึงตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีข้อสรุปว่าเป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหา  คำวินิจฉัยของเจ้าคณะภาค 1 พระพรหมโมลีที่ได้รับมอบหมายในการนี้ระบุว่าให้ไชยบูลย์ ธัมมชโยปรับปรุงคำสอนของวัดพระธรรมกายที่ว่านิพพานเป็นอนัตตาไม่ใช่อัตตาอย่างที่เป็นอยู่และยุติการเรี่ยไรเงินนอกวัด  สมเด็จพระสังฆราชฯ สกลมหาสังฆปรินายกจึ่งได้มีพระลิขิตให้ธัมมชโยคืนที่ดินและทรัพย์สิน  แต่โล้นไชยบูลย์ ธัมมชโยยังไม่ยอมแถมยังหันไปสวมเสื้อยืดสีส้มห่มคลุมทับด้วยจีวรป่านสวิสเสียอย่างนั้น  ดังนั้นกรมการศาสนาจึงได้เข้าแจ้งความต่อกองปราบปราม  อดีตทนายความของวัดและประชาชนที่เคยเลื่อมใสได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงเงิน 35 ล้านซ้ำอีกรวมเป็นคดีความทั้งหมด 5 คดี

ในระหว่างที่คดีได้เดินไปอัยการเจ้าของสำนวนเธียรชัย เปรมศิรินิรันดร์อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้มีมติให้ฟ้องไชยบูลย์  พลันก็มีอัยการสูงชะลูดบอกคุณเธียรชัยให้ถอนฟ้องพร้อมระบุว่านายกฯขอมาในปี 2549 เกือบ 7 ปี ของการดำเนินคดีจู่ๆอัยการซึ่งเป็นโจทก์ก็ขอถอนฟ้องจำเลยไปดื้อๆ  นับว่าเป็นการตัดโอกาสของไชยบูลย์ธรรมชโยในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมได้เห็น   เอ นายกฯในสมัยนั้นเป็นใครกัน   หลังจากนั้นไชยบูลย์ธรรมชโยจึงได้คายสมบัติกลับสู่วัดแบบเนียนๆ เงียบๆ  อัยการอ้างว่าไชยบูลย์ธรรมชโยกับพวกได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาตรงตามพระไตรปิฎกและนโยบายของคณะสงฆ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วไปและยังช่วยเหลือหน่วยงานราชการในด้านกิจการของศาสนามาก  หากดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองต่อไปอาจก่อให้เกิดความแตกแยกในศาสนจักรและไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

คดีฉ้อโกงทรัพย์วัดพระธรรมกายนี้ องค์กรสงฆ์ควรออกมาอธิบายให้ชัดเพราะถ้าพระถูกกล่าวหาอาบัตปาราชิกขาดจากความเป็นพระ แล้วจะอ้างคุณงามความดีในภายหลังได้หรือ การจะเห็นพระติดคุกสักรูปมันก็จุกอกแทงหัวใจชาวพุทธอยู่นา แต่การที่อธิบดีกรมการศาสนา ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถระสมาคมซึ่งอัยการได้แอบอ้างถึงในการยื่นถอนฟ้องทั่ง 3 ตำแหน่งควรแสดงบัญชีทรัพย์สินการคืนทรัพย์สมบัติที่ไชยบูลย์ธรรมชโยได้อมไปแล้วกลับคืนสู่วัดให้ชัดเจนเพื่อให้สังคมได้หายข้อสงสัย

ก่อนหน้าที่อัยการจะถอนฟ้องคงศักดิ์ วันทนารมต.มหาดไทยในสมัยนั้นได้ใช้สถานที่วัดพระธรรมกาย จัดงาน “รวมใจทุกศาสนา พัฒนาท้องถิ่นไทย ถวายองค์ราชา ครองราช์ย์ 60 ปี “ พอมาถึงวันนี้พฤษภาคม 2553  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และสมาคมพุทธศาสตร์สากลเกิดอยากจะยกระดับมาตรฐานศีลธรรมเชิงบูรณาการ จะอบรมเยาวชนจำนวนถึง 10 ล้านคน พร้อมกับข้าราชการครู ผู้บริหารการศึกษา ผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น อีกเป็นจำนวนถึง 7 แสนคน และสถานศึกษาอีก 30,000 แห่ง ทั่วประเทศดูเผินๆก็เหมือนว่ามันจะดี  แต่นี่กำลังจะกลายเป็นการสร้างรากฐานของการทำกรุงวาติกันให้เกิดแก่ศาสนาพุทธของเราในบ้านไทยเมืองพุทธของเรานี่เอง  ด้วยอนาคตของชาติเป็นล้านๆคน ทรัพยากรมนุษย์กำลังจะถูกทำลาย  ด้วยเงินภาษีอากรของคนทั้งชาติทั้งที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายสม่ำเสมอและไม่เคยแม้แต่จะมองวัดนี้มาก่อนเลยก็ตาม เลขาสพฐ.เวลานี้เป็นศิษย์เอกตัวจริงเสียงจริงของไชยบูลย์ ธัมมชโย  หากข้าราชการไม่สามารถสำนึก สำเหนียกถึงความผิดปรกติของไชยบูลย์ ธัมมชโย  ยังไม่สามารถสำนึกสำเหนียกต่อพุทธพาณิชยกรรมที่ไชยบูลย์ ธัมมชโยได้กระทำ  มันผู้นั้นก็ไม่น่าจะได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของประเทศแบบนี้ ขออนุโมทนาบุญกับท่าน ส.ศิวรักษ์

ประเทศไทยในวันนี้ประกอบด้วยเสาหลักของชาติสามเสาใหญ่ๆคือชาติ  ศาสนา และพระมหากษัตริย์  ชัดเจนว่าบ้านเมืองเราต้องมาตกอยู่ในภาวะวิกฤตด้วยกองทัพเสื้อแดงพร้อมกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายแต่ทราบคนสั่งการที่เป็นอดีตนายกฯหน้าปลาตีนแอบใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยการรับจอบจากตักขี้กินชะมัด สมแล้วที่ศูนย์อิเหลี่ยเฉื่อยแฉะสั่งอายัดธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับท่อน้ำเลี้ยงกองทัพเสื้อแดงพวกนั้น   ตักขี้กินชะมัดชาวมอนเตรเนโกรคนนี้ยังมีสหายคอมฯอกหักคอยบั่นทอนความแข็งแรงของพระราชวงศ์จักรีของเราอยู่อย่างไม่ท้อแท้   ในวันนี้ที่ศูนย์อิเหลี่ยเฉื่อยแฉะรูดซิป พอชุดฟิตได้ออกมาออกกำลังแถววัดพระธรรมกายทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แทนตำรวจมะเขือเทศอย่างเข้มแข็งขมักเขม่นในบริเวณหน้าวัดฯนั้นต้องมีอันมาแตกกระเจิงแอบหนีไปเข้าวัดซุกตัวเงียบอยู่ในนั้น   ตอนนี้ประชาชนที่หลงผิดส่วนหนึ่งกำลังอยู่ในพื้นที่ภายใต้ภาวะฉุกเฉินร่วมกับบรรดาลูกศิษย์มหาศาลของวัดนี้ที่มีอลัชีปกครองอยู่ โดยมีการบงการจากทรราชตักขี้อู่เบื้องหลัง

ไม่มีความคิดเห็น: