10 มีนาคม 2553

น่าสงสาร พวกเสื้อแดงถูกหลอก

การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่อม.4/2551 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีที่อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯ -มติเอกฉันท์ คตส.มีอำนาจตรวจสอบโดยชอบ-มติเอกฉันท์ ปกปิดอำพรางหุ้น-มีนอมินี-มติเอกฉันท์ แปลงสัมปทานฯ เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก แก้ไขสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก ปล่อยเงินกู้พม่าเอื้อประโยชน์ชินฯ-มติเสียงข้างมาก ยึดคืนเงินปล้นชาติ 4.6 หมื่นล้าน! - มติเสียงข้างมาก รวยแล้วยังปล้นชาติ-ปล้นประชาชน ศาลพิจารณาตามบัญชีทรัพย์สินที่อายัดไว้ในชั้นคตส.ของพ.ต.ท.ตักขี้ คุณหญิงพจมาร พานทองแท้ พิณทองทา ยิ่งลักษณ์และนายบรรณพจน์มีจำนวนเพียงพอที่จะบังคับคดีได้หากไม่เพียงพอก็ให้บังคับจากทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาที่คตส.อายัดไว้แล้วและมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดผู้ถูกกล่าวหาอื่นนอกเหนือจากคนที่ถูกระบุที่คตส.มีคำสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์แล้วรวมทั้งผู้คัดค้านรายอื่นด้วย กว่า 5 ชั่วโมงที่ศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำตัดสินโดยชี้ให้เห็นที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่มต้นจนจบอธิบายถึงการฉ้อฉล การทุจริตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเรียกได้ว่า “ประจานความชั่ว” เห็นไส้เป็นพุงว่ามีใส้กี่ขดกี่ขดได้เห็นกันหมด แต่กระนั้นก็ยังใจดีมีเงินทอน3หมื่นล. ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยฟังความชั่วหมกเม็ดของใครคนใดคนเดียวเต็มๆยาวนานหลายชั่วโมงแบบนี้เลย




ระหว่างที่พ.ต.ท.ตักขี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังได้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปและบริษัทในเครือ หลังจากที่ พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดได้ให้ญาติและพวกพ้องขึ้นเบิกความคัดค้านการยึดทรัพย์ ถึงคำให้การใดๆที่เป็นผลร้ายต่อบุพการีลูกๆทั้งสามก็ยังแสนดีไม่อยากให้การใดๆอีกแล้วในฐานะลูกกตัญญู ทนายตักขี้กินตัวทำงานให้ตักขี้ด้วยเงินเป็นร้อยๆล้านก็ยังแพ้ความจริงอยู่ดี ตักขี้แพ้ก็เพราะตักขี้ไม่มีสิ่งที่สำคัญนั่นคือความจริง กล้าให้การเท็จต่อศาลสถิตยุติธรรมกันทั้งบ้าน แม่ขี้งกมักมากขายของที่ได้มาฟรีๆให้ลูกด้วยมูลค่าเท็จถึง 3,000 ล้านบาทจึงไม่ใช่โอนที่ทุนอย่างที่ให้การเพราะราคาทุนของแม่เพียง 1,500 ล้านบาทเท่านั้นจะอ้างว่าเป็นการขายปกติได้อย่างไร พี่โอ๊คเองก็ซื้อของจากแม่ก่อนรับโอนหุ้นชินคอร์ปฯ 1 วันทำให้ต้องแบกหนี้ปลอม 3,000 ล้านบาท หากไม่ใช่ทำรายการเพื่อการปรับโครงสร้างการถือหุ้นแทน ยอดของขวัญวันเกิดในโอกาสอายุครบ 20 ปี พี่เอมกับน้องอิ๊งทำไมๆไม่มีของขวัญวันเกิด ลุงบรรพจน์ก็ได้หุ้นมาโดยไม่มีหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นชินคอร์ป มีแม่ขี้งกเป็นผู้ออกเงินชำระทุกบาททุกสตางค์ อายิ่งลักษณ์ที่ซื้อตามกำลังความสามารถที่คาดว่าชำระหนี้ได้และตามแต่พ่อแม้ว งานนี้ก็เพื่อไม่ให้ถือหุ้นกันคนละมากกว่า 25.00% ตามกฏหมาย



ยอดเงินที่อายัดได้จริงๆ คือตัวเลข 66,762,927,024.25 ไม่ใช่ 7.6 หมื่นล้านบาทอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ ยอดดังกล่าวไม่ใช่ตัวเลขสุทธิที่แท้จริงหลายบัญชีก็กระจายออกไปเป็นเงินเล็กเงินน้อยตามบัญชีของลูกของเมีย ของญาติๆ ของขี้ข้า ในบริษัทต่างๆที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในเครือข่ายที่คนในครอบครัวกินชะมัด-ดามาพงศ์ เงินจำนวน 46,373 ล้านบาทนั้นคือจำนวนที่ศาลฎีกาฯ เห็นว่าตักขี้ได้มาโดยมิชอบเข้าลักษณะของการร่ำรวยผิดปกติเท่านั้น เอาเปรียบคู่แข่งทั้งวิธีการบนโต๊ะและใต้โต๊ะ มิใช่เรื่องของการเรียกค่าเสียหายไม่เป็นการชดใช้ต่อการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ประชาชน ผู้บริโภค ระบบแข่งขันในกิจการโทรคมนาคมตลอดจนกิจการดาวเทียมของชาติไทยอย่างรุนแรงมหาศาล ตักขี้ปล้นชาติ โกงไทย ทำร้ายประเทศอย่างอำมหิตเพียงเพื่อให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์ไปส่วนหนึ่ง ประเทศชาติส่วนรวมเสียหายไปด้วยมูลค่าที่มากกว่าที่ตักขี้ได้ไปเสียอีก ตอนนี้สันนิษฐานได้ว่าทักษิณยังมีเงินเหลืออีกมากไม่ต่ำกว่าสองแสนล้านซ่อนอยู่ใน กุหลาบแก้ว ASPEN และ CEDAR



คนที่ชอบบบบบบบบ-คิดว่าผู้บริหารประเทศ “โกงบ้างก็ได้ แต่ขอให้ทำงาน” น่าจะต้องคิดใหม่ การเอื้อประโยชน์แก่ชินคอร์ปฯ ของตักขี้ทำให้ตักขี้ได้รับผลประโยชน์ไปโดยมิชอบ ส่วนหนึ่งแฝงฝังอยู่ในมูลค่าหุ้นและผลประกอบการของชินคอร์ปฯ ผู้บริหารประเทศและหน่วยงานองค์กรอิสระจึงควรต้องพิจารณาลงโทษทางอาญากับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกระทำความผิดกับตักขี้ หน่วยงานของรัฐ ทศท. และรัฐบาล ควรฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแก้ไขสัญญาที่เคยถูกแก้ไขบิดเบือนในสมัยตักขี้ให้กลับมามีสภาพดังเดิม



ห้วงเวลาที่นายสุนัย มโนมัยอุดมดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีดีเอสไออยู่ได้สืบสวนทางลึกเพื่อมาตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลของการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นจนสามารถส่งสำนวนดังกล่าวให้แก่อัยการเพื่อให้อัยการดำเนินการสั่งฟ้องคดี แต่น่าเสียดายที่อัยการในขณะนั้นมีชัยเกษม นิติสิริคุมบังเหียนยังนั่งตำแหน่งอัยการสูงสุดอยู่ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี ซึ่งอ้างว่ากฎหมายไม่เข้าข่ายความผิดและดีเอสไอที่มีทวี สอดส่องมาเบียดท่านสุนัยตกเก้าอี้ไปจึงตามน้ำ ไม่มีความเห็นแย้งต่ออัยการ หุ้นเอสซี แอสเสทที่วิ่งวนไปมาอยู่กับบริษัทนอมินีของพ.ต.ท.ตักขี้สุดท้ายแล้วก็กลับวนไปอยู่กลับคนในครอบครัวกินชะมัดในช่วงกลางปี 2549 ก่อนที่เทขายให้กลุ่มเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ของสิงคโปร์ทำให้ได้กำไรจากการขายหุ้นมากมายแต่กลับไม่ได้มีการเสียภาษีแต่อย่างใด เป็นการเอาอัฐยายซื้อขนมยาย ส่วนเหล่าบรรดากรรมการในบริษัท บรรดาลูกและเครือญาติน่าจะถูกดำเนินคดีอาญาฐานปกปิดรายการทรัพย์สินและสนับสนุนการกระทำความผิด เบิกความอันเป็นเท็จต่อศาล ทั้งอัยการและดีเอสไอในเวลานั้นน่าจะต้องเจอม.157 ป.อาญาฐานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต



ท่านสุนัย มโนมัยอุดมผู้พิพากษาที่เขาได้รับมอบหมายให้ไปกวาดบ้านดีเอสไอ หลังพ.ต.ท.ตักขี้หมดอำนาจลง สร้างผลงานยกระดับองค์กรดีเอสไอให้เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายพิเศษที่ปราศจากการรับใช้พวกนักการเมืองชั่วอย่างแท้จริง ตอนนั้นอิทธิพล โสขุมาผู้พิพากษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับท่านสุนัย มโนมัยอุดมอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในขณะนั้นเมื่อเดินทางกลับจากราชการต่างประเทศ ดีที่ท่านสุนัยได้อยู๋ภายใต้การอารักขาของทัพฟ้าที่การข่าวดีและได้ช่วยปกป้องคนดีของชาติไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่ตำรวจเลวจะได้เข้าจับกุมท่านสุนัยเมื่อก้าวลงถึงพื้นดินประเทศไทย วันนี้ท่านสุนัยได้คืนถิ่นศาลสถิตยุติธรรมแล้วเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของเบื้องพระยุคลบาท



ครั้นเมื่อถูกศาลสูงสุดของประเทศพิพากษาว่ากระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบ ต้องคืนให้แผ่นดิน แทนที่จะขอโทษประชาชนทั้งแผ่นดิน กลับเล่นตีฝีปากไพล่ไปขอโทษลูกเมียของตัวเองเสียนี่ ไม่สำเหนียก และสำนึก ไม่ได้รับรู้แก่นสาระ ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มูลแห่งความผิดและผลแห่งความเสียหายที่ตนเองกระทำต่อแผ่นดินดังที่ปรากฏแจ่มชัดอยู่ในคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ตักขี้คลุ้มคลั่ง ขาดสติ ตีโพยตีพายในเรื่องความไม่ยุติธรรม สั่งให้ขี้ข้าก่อจลาจล-พลิกขั้ว-ยั่วรัฐประหาร-บี้ยุบ ปชป. วิทยุชุมชนก็รับลูกเริ่มปลุกระดมให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แอบระดมผ่านส.ส.อีกด้วย หากมีเหตุรุนแรงหรือวินาศกรรมในหัวเมือง แดงสามเกลอสู้แล้วรวยและตักขี้จะออกมาโบ้ยว่าไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดงตามฟอร์มแต่อุณหภูมิโดยรวมจะสูงขึ้นและเริ่มเข้าสู่ภาวะน้ำขุ่น ในวันเลือดแดงทั้งแผ่นดินรากหญ้ากระอักเลือดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากจากการสั่งฆ่ากันเองของตักขี้ แต่ครอบครัวนักโทษหนีคุกเผ่นออกต่างประเทศปล่อยให้คนเสื้อแดงเสี่ยงตาย รอกลับมาหลังจากที่รากหญ้าถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว คนจนจะได้หมดไปจากแผ่นดินตามความตั้งใจของตักขี้สมใจนึก



น่าสงสารพวกเสื้อแดงถูกหลอกให้ยอมตายแทนตักขี้และถูกหลอกให้บริจาคเงินที่หามาได้อย่างยากแค้นให้เศรษฐีสามแสนล้านอย่างตักขี้ทั้งๆที่หน่วยกองกำลังใต้ดินของตักขี้วางแผนระเบิดหรือยิง M 79

หรือปาระเบิด M67 ฆ่าเสื้อแดงกันเองแม้กระทั่งแกนนำเสื้อแดงแล้วเอาศพแห่เป็นการจุดชนวนมิคสัญญีเพื่อเศรษฐีกว่า 3 แสนล้านซึ่งมีแต่อุดมกินไม่มีอุดมการณ์ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเสื้อแดงจะได้อะไรนอกจากถูกตราหน้าว่าเป็นพวกหนักแผ่นดิน เป็นคนทรยศชาติ เป็นคนทำลายชาติ เพราะเสียค่าโง่หลงไปช่วยเศรษฐีขี้โกงที่ถูกก่นด่าทั้งตระกูลว่า “โคตรโกง โกงทั้งโคตร” ครอบครัวหนึ่งเท่านั้นเอง



ในเส้นทางสู่การทำสงครามครั้งสุดท้ายนั้น 3 กลุ่มอำนาจที่ทรงพลังและทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศจะกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการขับเคลื่อนอย่างไร ทั้งกลุ่มอำมาตย์ กลุ่มคนเสื้อแดงและตักขี้ กินชะมัด รวมทั้งกลุ่มอำนาจใหม่ใส่เสื้อสีน้ำเงินที่มีกองกำลังผสมจากกลุ่มบูรพาพยัคฆ์และพลพรรคที่นำโดยยี้ห้อยบุรีรัมย์และกำนันบ้านนอกจากเมืองหอยใหญ่รวมทั้งการชิงไหวชิงพริบแก้ทั้งเกมรุกและเกมรับของรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ แม้ทุกอย่างจะเป็นใจให้รัฐบาลแต่การทำอะไรอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจำเป็นที่จะต้องมีสถานการณ์พิเศษที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนด้วยและยิ่งได้ไปแฉเรื่องไม้ล้างป่าช้า GT200 ยิ่งทำให้เอกภาพในการควบคุมสถานการณ์บัดซบที่ตักขี้ยัดเยียดให้ประเทศส่งผลให้รัฐบาลกระชับได้เอกภาพที่ดียิ่งขึ้น



เวลานี้เป็นห้วงเวลาที่กลุ่มอำนาจใหม่เขามีความสุขที่สุดเพราะสามารถยืนดูเสือ 2 ตัวห้ำหั่นเข้าใส่กันได้อย่างสบายใจขณะที่ตัวเองก็สามารถเก็บผลประโยชน์ได้เรื่อยๆ เนื่องจากไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงพร้อมอาศัยช่องว่างที่เกิดขึ้นเร่งสะสมเสบียงกรังกันอย่างมูมมาม เช่น ถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายอำมาตย์หรือฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ พวกเขาก็จะสามารถเข้ามาสอดแทรกช่วงชิงสถานการณ์กลายเป็นได้ทั้งตาอยู่ในการดูดส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมสังกัดหรือสามารถขยับขยายสถานะตัวเองให้ก้าวขึ้นไปเป็นป๋าเปรมคนใหม่คนที่ 2 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก สังคมจึงไม่อาจมองข้ามเกมที่จะถูกสรรค์สร้างออกมาจากกลุ่มเสื้อน้ำเงินได้เลยแม้แต่น้อย





















09 มีนาคม 2553

บ้านดีต้องเริ่มที่ตัวพ่อ




ในความคิดของผู้คนไม่ว่ายุคสมัยใดล้วนให้คุณค่าต่อสิ่งที่อยู่เบื้องบนหรือสิ่งที่ลงมาจากเบื้องบนหรือท้องฟ้าจนหลายครั้งเป็นการลดค่าของสิ่งที่อยู่ต่ำทั้งบนดินและใต้ดิน ครุฑเป็นทั้งตราแผ่นดินและสัญลักษณ์พระเจ้าแผ่นดินของเราจึงมีที่มาที่สื่อความหมายสูงส่ง ครุฑสื่อสัญลักษณ์ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นตราประจำแผ่นดินของประเทศไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หมายถึงตาชั่งของกระทรวงยุติธรรม เป็นทั้งตราแผ่นดินและสัญลักษณ์พระเจ้าแผ่นดินของเราจึงมีที่มาที่สื่อความหมายสูงส่ง การนำครุฑพ่าห์มาใช้สำหรับคนไทยทั่วไปจึงมีน้อยมากหรือถ้ามีก็ทำด้วยความระมัดระวัง



จากภาพปกนิตยสาร Voice of Taksin ที่ทำเป็นรูปครุฑพ่าห์ปิดหน้าที่พาดหัวว่า... “ปิดหน้าปล้น” ต้องการกระทบชิ่งถึงคนที่ทั้งแผ่นดินให้ความเคารพเทิดทูนรวมใต้ภาพสัญลักษณ์ของสถาบันสูงสุดของชาติ พาดหัวรองประกอบอีกด้วยว่า... “บ้านจะดีต้องเริ่มที่พ่อ” ใครจะคิดอย่างไรไม่ทราบแต่คนไทยทั่วไปไม่อาจคิดเป็นอื่นได้




นิตยสาร Voice of Taksin ที่มีสมยศ พฤกษาเกษมสุขแกนนำนปช.รุ่นที่ 2 และแกนนำกลุ่ม 24 มิ.ย. เป็นบรรณาธิการบริหาร ต้องออกมาแหลว่าจากภาพครุฑที่มีผึ้งทำรังเป็นภาพเมื่อวันที่16ก.ค.51 ในช่วงที่ศาลอาญามีคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ปฯจำคุกพจมารและบรรณพจน์ อันเป็นช่วงเดียวกับที่มีขนมหล่นศาลสองล้านบาท คนที่ทำเสียงตักขี้ - Voice of Taksin คงไม่ใช่คนไทยทั่วไป พอเข้าไปดูที่บทความ

‘บ้านจะดีต้องเริ่มที่พ่อ’ นั้น ก็พบว่าเป็นบทความทางจิตวิทยาของสถาบันครอบครัวโดยพ่อต้องเป็นแบบอย่างที่ดี หากพ่อมีพฤติกรรม2มาตรฐานจะทำให้ลูกก้าวร้าวและก่อปัญหาให้สังคมได้และเนื้อหาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับภาพบนปกเลย ดร.ชนาธิป ศิริปัญญาวงศ์ ในคอลัมน์ Family Secret ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตครอบครัวไว้อย่างน่าสนใจว่า

“พ่อบางคนทำผิดซ้ำซาก บางทีไม่คิดด้วยซ้ำว่าที่ตัวเองทำนั้นผิด แต่ปากพร่ำสอนลูกว่าอย่าทำผิด เช่น ตัวเองสูบบุหรี่พ่นควันปุ๋ยๆ ต่อหน้าลูก แต่ปากพร่ำพูดว่า 'อย่าสูบบุหรี่นะลูก มันไม่ดี' พ่อบางคนใช้ทรัพย์สินเงินทองซื้อหาความสุขอย่างเกินขอบเขต แต่กลับบอกลูกว่า 'คนเราต้องประหยัดนะลูก อย่าใช้จ่ายเงินจนเกินตัว' พ่อบางคนร่ำรวยมั่งคั่งจากการทุจริตเบียดบังเงินทองคนอื่น ได้ทรัพย์สินเงินทองมาด้วยพฤติกรรมหลอกลวงปลิ้นปล้อน แต่กลับพร่ำสอนลูกว่า 'คนเราต้องทำงานหนัก ต้องเป็นคนดีของสังคม ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมนะลูก' ลูกที่พ่อพฤติกรรมอย่างนี้ก็ได้แต่หวานอมขมกลืน ก้าวเดินสู่โลกภายนอกได้ไม่สง่าผ่าเผย …”



ตักขี้ – พจมารหนีศาลคดีที่ดินรัชดาฯ ไปจีนโดยอ้างว่าจะไปปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในฐานะประธานการจัดงานกิจกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีนโดยยื่นคำขออนุญาตต่อศาลว่าจะต้องไปรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ที่เสด็จฯ เยือนจีน แต่พอตักขี้-พจมารออกไปพร้อมกระเป๋าเดินทางอีกคนละสิบๆ ใบพร้อมๆกับเงินมากพอที่จะถูกยึดที่อังกฤษและป่วนบ้านเผาเมืองอยู่ในเวลานี้ ผัว-เมียคู่นี้ก็หายลับและไปโผล่ด่าศาลไทยฉอดๆ สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกทางการอังกฤษปฏิเสธวีซ่าแถมยังถูกอายัดเงินในบัญชี 1.4 แสนล้านบาทที่อังกฤษและเจอข้อหาฟอกเงินจากการซื้อ-ขายทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเอาเงินทั้งหมดมาจากแหล่งใดบ้าง ทางการไทยก็ได้ออกหมายจับสร้างความอับอายและเคียดแค้นให้กับตักขี้และพจมารไม่ใช่น้อยเพราะภายหลังรูปคู่ของเขาและเธอถูกพ่อค้าหัวใสนำมาพิมพ์เป็นพรมเช็ดเท้าขายดิบขายดี ยิ่งตอนนี้ยิ่งน่าอายไปถึงชั่วลูกชั่วหลานเมื่อมีมือดีดอดนำขึ้นไปประกาศขายผ่านทางเว็บอีเบย์ราคาเสนอ 0.99 เหรียญแต่ไม่ขยับเลย



ครั้นศาลตัดสินจำคุกในคดีที่ดินก็ตะแบงด่าศาลอย่างนั้นอย่างนี้มาตลอด หลังจากที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดได้ให้ญาติและพวกพ้องขึ้นเบิกความคัดค้านการยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทแล้วดูเหมือนว่าหนทางแห่งการชนะคดีจะริบหรี่ลงทุกวัน คำแถลงปิดคดียังระบุไว้อย่างชัดเจนว่าระหว่างที่พ.ต.ท.ตักขี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังได้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปและบริษัทในเครืออีก 5 กรณี ไม่มีใครเชื่อว่าศาลท่านจะไม่ยึดทรัพย์ตักขี้ ตักขี้เองปากบอกไม่ห่วงคดียึดทรัพย์แต่ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเล่นทวีตหามรุ่งหามค่ำหวงเงิน 7.6 หมื่นล้าน



ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่อม.4/2551 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีที่อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯ -มติเอกฉันท์ คตส.มีอำนาจตรวจสอบโดยชอบ-มติเอกฉันท์ ปกปิดอำพรางหุ้น-มีนอมินี-มติเอกฉันท์ แปลงสัมปทานฯ เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก แก้ไขสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก ปล่อยเงินกู้พม่าเอื้อประโยชน์ชินฯ-มติเสียงข้างมาก ยึดคืนเงินปล้นชาติ 4.6 หมื่นล้าน! - มติเสียงข้างมาก รวยแล้วยังปล้นชาติ-ปล้นประชาชน ศาลพิจารณาตามบัญชีทรัพย์สินที่อายัดไว้ในชั้นคตส.ของพ.ต.ท.ตักขี้ คุณหญิงพจมาร พานทองแท้ พิณทองทา ยิ่งลักษณ์และนายบรรณพจน์มีจำนวนเพียงพอที่จะบังคับคดีได้หากไม่เพียงพอก็ให้บังคับจากทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาที่คตส.อายัดไว้แล้วและมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดผู้ถูกกล่าวหาอื่นนอกเหนือจากคนที่ถูกระบุที่คตส.มีคำสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์แล้วรวมทั้งผู้คัดค้านรายอื่นด้วย กว่า 5 ชั่วโมงที่ศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำตัดสินโดยชี้ให้เห็นที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่มต้นจนจบอธิบายถึงการฉ้อฉล การทุจริตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเรียกได้ว่า “ประจานความชั่ว” เห็นไส้เป็นพุงว่ามีใส้กี่ขดกี่ขดได้เห็นกันหมด แต่กระนั้นก็ยังใจดีมีเงินทอน3หมื่นล. ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยฟังความชั่วหมกเม็ดของใครคนใดคนเดียวเต็มๆยาวนานหลายชั่วโมงแบบนี้เลย กระบวนการยึดทรัพย์คงต้องใช้เวลาถึง 30 วัน เงินสดที่อายัดไว้ก็ยังไม่ครบตามมูลค่าที่ศาลระบุ ยึดเข้าเป็นเงินของแผ่นดินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท สรรพากรได้อายัดไว้แล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท แล้วจะเอาที่ไหนไปคืนมันอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท



ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองท่านใช้ระบบไต่สวน ศาลทำหน้าที่ค้นหาความจริงจากพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่าย หากยังไม่สิ้นสงสัยก็จะเรียกพยาน หลักฐานมาสืบเพิมเติมได้ จำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหาต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์หักล้างข้อกล่าวหาให้ศาลสิ้นสงสัย ตั้งแต่ต้นจนจบตักขี้กับคุณหญิงพจมารและลูกๆ ไม่สามารถพิสูจน์หักล้างข้อกล่าวหาของคตส.ได้เลย มีแต่ข้ออ้างลอยๆว่า ไม่รู้ ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่ผิดปกติ วันนี้ที่ตักขี้แพ้ก็เพราะตักขี้ไม่มีสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือความจริง หลักฐานชิ้นสำคัญบางชิ้นที่มัดตัวตักขี้ว่าซุกหุ้นจริงก็มาจากฝ่ายตักขี้เองนั่นแหละ เผลอไผล ปล่อยให้หลุดมาถึงมือคตส.เพราะพฤติกรรมที่ซุกซ่อน อำพราง มากมายเหลือเกิน ซุกซ่อนกันมานานหลายปีโยกย้ายถ่ายโอนกันหลายรอบจนคนที่มีหน้าที่ดูแลเอกสาร ก็จำไม่ได้ว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ ส่งไปให้คตส.ดูหมด แต่ละประเด็นที่ทั้งตุลาการศาลท่านเค้นรอบคอบด้วยดุลยนิติธรรมออกมาเป็นคำตัดสิน อ่านให้ได้ฟังกันจะจะ ชัดๆ แยกแยะทีละประเด็น ให้เห็น-ให้ฟัง-ให้เข้าใจ กันไปทีละเปลาะ ฟังแล้วเข้าใจ-เห็นชัด มันโกงชาติ โกงประชาชนเอาไปเป็นของตัวมันกับครอบครัวมันชนิดไร้ข้อโต้แย้ง ไร้ข้อกังขาใดๆ ในการตัดสินของศาล



คนเสื้อแดงนั่งฟังคำพิพากษา กอดรูปตักขี้ แล้วร้องห่มร้องไห้เหมือนญาติกำลังตาย ทั้งๆที่ศาลท่านก็ชี้แจงความผิดต่างๆตั้งครึ่งค่อนวัน คนทั้งโลกเขาก็รู้ถึงความดีที่ตักขี้สร้างสรรค์ไว้กันทั้งนั้น คนเสื้อแดงเหล่านั้นทุกคนล้วนมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าน้อยกว่าที่ตักขี้และครอบครัวมีอยู่ทั้งสิ้น บางคนก็แทบจะไม่มีกิน ถูกเขาฉ้อราษฎร์บังหลวงแท้ๆ ยังอุตส่าห์ไปสงสาร สงสารเศรษฐีโกงชาติปล้นชาติไปงุบงิบไว้อีกนับแสนล้านอีก ตักขี้เอาลูกเอาเมียบังหน้า เอาตัวเองหลบอยู่ข้างหลัง



"...วันนี้ผมแต่งชุดดำผูกไทดำไว้ทุกข์ ผมขออนุญาตไว้ทุกข์ให้กับความดื้อของตัวเองที่ดื้อไม่ยอมเชื่อคุณหญิงกับลูกๆ ที่คัดค้านว่าไม่ให้ผมเข้าการเมืองเพราะเขาบอกว่าชีวิตการเมืองมันวุ่นวายสับสน เราเป็นเศรษฐีอยู่แล้วสบายๆ ใช้ชีวิตแบบเศรษฐีดีกว่า อย่าไปสนใจเล่นการเมืองเลย... ...ดื้อกับคุณหญิง ดื้อกับลูก พ่อขอโทษด้วยนะลูกที่ดื้อเลยทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนทุกวันนี้.... ...ที่ว่าผมโกงเป็นการกล่าวหาทั้งนั้น คุณหญิงสอนลูกมาดี พวกเราไม่มีความจำเป็นดิ้นรนโกงบ้านเมือง..."



"Rest in peacet, don't worry. We will be in hell together forever regardless what's happening loog rak"

นอนตายตาหลับนะลูกรักเราจะลงนรกพร้อมกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

รักลูก รักเมีย รักกิ๊ก

จากพ่อ ตักขี้



คนที่เคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี พยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกหนี หลบเร้น และซุกซ่อน ใช้ช่องโหว่ ช่องว่างหาทางบิดเบี้ยวจากความเป็นจริง เพื่อให้เสียภาษีให้น้อยที่สุดหรือหากเป็นไปได้ไม่เสียภาษีเลย อยู่ห้องแอร์ นั่งจิบไวน์ สมองลื่นไหล คิดการโกงได้ทุกบาททุกสตางค์ คิดโกงให้คนทั้งตระกูล คิดโกงชาติโกงแผ่นดิน ไม่เว้นแม้กระทั่งที่ดินกลางเมืองอย่างที่ดินย่านรัชดา มันสมองขี้โกง คิดได้ไม่หยุดไม่หย่อน โกงกินรวบ เป็นยิ่งกว่าสลากกินแบ่งฯ สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ตักขี้นั้นมีการเจรจาโดยเอาผลประโยชน์ประเทศไปเป็นเครื่องต่อรอง ไม่ว่าประเทศไหนที่ทำเอฟทีเอกับไทยก็ล้วนแล้วแต่เอาสินค้าการเกษตรมาแลกกับดาวเทียมไอพีสตาร์ ชาวไร่ชาวนาหมดเนื้อหมดตัว ต้องเปลี่ยนอาชีพ ต้องจำนำจำนองที่ทางทำมาหากิน ต้องเข้ามาเป็นกรรมกรในเมืองหลวงก็มาก ในขณะที่มันรวยเอารวยเอา จนกระทั่งเงินทองของชาวบ้านทั้งประเทศมากองรวมกันมั๊นก็ยังได้ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของไอ้ที่ตักขี้ได้กอบโกยไปจากประเทศ



การรณรงค์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 ในมาตรา 309 ที่รับรองให้อำนาจคตส.ไปทำงานไต่สวนจึงเป็นการปิดทองหลังพระที่แท้จริงเพราะด้วยเงื่อนไขในช่วงรัฐบาลหุ่นเชิดสมัคร สุนทรราชหรือสมชายกระโปรง วงสัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจรัฐหรือจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ตักขี้ กินชะมัดสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอนแต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะความเสียสละของ พธม.

เป็นการง่ายที่อาจารย์อาจมอย่างเกษียรหรือใครก็ตามจะมองว่าพธม.เป็นผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินหรือปิดสนามบินแล้วไม่ผิดเป็นการเลือกปฏิบัติในภายหลังเป็นคนถือมีดเลือดโทรมกายเหมือนกันโดยไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงว่าพธม.ทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ใดทำไมจึงต้องยอมให้เลือดโทรมกายซึ่งพิสูจน์แล้วในภายหลังว่ามิใช่เพื่อประโยชน์ของผู้ใดหากแต่เพื่อสังคมไทยโดยรวม หากไม่มี 193 วันการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ 2550 และขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด นับจาก 25-5-51 ถึง 2-12-51 ผลแห่งคำพิพากษาคงไม่เป็นเช่นนี้แน่



คตน.ชุดที่มีศ.ดร.คณิต ณ นคร(อดีตอัยการสูงสุด) เป็นประธานทำการศึกษาเรื่องนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์แล้วมีผลการศึกษาระบุว่าการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในระหว่างดำเนินนโยบายสงครามยาเสพติดยุคตักขี้เข้าลักษณะเป็น "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" หรือ "Crimes against humanity" อันเป็นความผิดอาญาระหว่างประเทศตามธรรมนูญแห่งกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่ระดับล่างเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของผู้อื่นในฐานความผิดดังกล่าวเท่านั้น แต่เนื่องจากคตน.ไม่มีอำนาจพนักงานสอบสวนทำหน้าที่เพียงศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและเมื่อหมดอายุการทำงานไปแล้ว รัฐบาลยุคต่อมา รัฐบาลสมัครสุนทรราชและรัฐบาลสมชายกระโปรง วงสัตว์ก็ไม่มีใครมอบหมายให้คตน.ได้มีโอกาสทำหน้าที่ต่อไปให้ถึงที่สุด



ที่ผ่านๆมาในอดีตเราไม่เคยเห็นอะไรๆที่ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมได้สร้างได้ทำคุณูปการให้กับประเทศชาติ เห็นแต่ใช้อำนาจตักโน่นตวงนี่เอาประโยชน์โพดผลเข้ากระเป๋าตัว อีกมือหนึ่งก็คอยกอบคอยโกยให้ไอ้ลูกโง่สามคนที่ไม่รู้จักแม้แต่พ่อของตัวเองมาอยู่ใต้ปีกของตัว ไอ้ลูกโง่พวกนี้เที่ยวถามชาวบ้านอยู่เป็นนิจว่า มึงรู้ไหม กูลูกใคร วันนี้ดร.เฉ ลิม อยู่ทำไมได้ใช้แบ็คโฮขุดเปิดปากหลุมฝังตักขี้ ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมส.ส.สัตว์ ส่วนพรรคเพื่อทุยได้ตั้งกระทู้ถามสดถามนายกฯอภิสิทธิ์ในการประชุมสภาถึงความคืบหน้าการสอบสวนเรื่องการฆ่าตัดตอนคดีค้ายาเสพติดของรัฐบาลพ.ต.ท.ตักขี้ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ คืบหน้าไปถึงไหนดำเนินการกับผู้กระทำผิดหรือไม่ ผลดำเนินคดีเป็นอย่างไร "การจะเล่นงานพ.ต.ท.ตักขี้นายกฯต้องนำเรื่องนี้มาสอบเอาตัวพ.ต.ท.ตักขี้มาสอบให้ขึ้นศาลระหว่างประเทศ แล้วรัฐบาลต้องบอกด้วยว่าถ้าตรวจพบว่า 2,500 ศพไม่เกี่ยวกับยาเสพติดจะทำอย่างไรนายกฯต้องเอาพ.ต.ท.ตักขี้เข้าคุกให้ได้ไม่งั้นนายกฯต้องขอโทษพ.ต.ท.ตักขี้หรือไม่ก็หุบปากเรื่องนี้และอยากถามว่ามากล่าวหารัฐบาลพ.ต.ท.ตักขี้แล้วรัฐบาลนี้แก้ปัญหายาเสพติดไปถึงไหน"ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมกล่าว นายกฯ อภิสิทธิ์ น้อมรับข้อเสนอของดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมฉวยโอกาสรื้อคดี ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมเป็นอะไรของแก ???? คงจะเห็นพ.ต.ท.ตักขี้วิดิโอลึงค์บ่นอยากจะไปขึ้นศาลโลกดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมก็เลยพยายามจะจัดให้



ตักขี้วันนี้คุมสติไม่อยู่ ไฟธาตุแตก บ้าไปแล้ว โฟนอิน วิดิโอลึงค์ ผ่านสถานีพีเพิล แชนแนล และวอยซ์ ทีวีแต่ละทีเหมือนจุดไฟเผาตัวเองเพราะสารพัดลมที่ผายออกมาพรั่งพรูออกมาทางปากอย่างไร้สติล้วนแต่เป็นการบิดเบือนคำพิพากษาและข้อเท็จจริงทั้งสิ้น อัจฉริยะกับปัญญาอ่อนก็กางกั้นด้วยเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น"รัฐบุรุษ" และ "ทรราช"ก็เช่นกันตัวเองถูกปล้นหรือกล่าวหาว่าศาลเล่นการเมืองแบบสุดๆศาลตัดสินโดยยอมรับกฎหมายของคณะรัฐประหารและล่าสุดก็ได้เรียกร้องให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลายออกมาร่วมชุมนุมให้ออกมาให้มากที่สุด ปลุกระดมให้ชาวบ้านออกมาต่อสู้โดยแอบพ่วงเอาผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเองและครอบครัวเข้าไปด้วย ทางเดียวที่เหลืออยู่ของตักขี้คือ ใช้คนตายและความวุ่นวาย พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน เสียดายบ้านเสียดายเมืองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งมวลชนคนเสื้อแดงที่จะต้องฝากชะตาชีวิตของตนในมือของคนวิปลาสเพียงคนเดียว นับเป็นความอำมหิตที่ประเทศต้องมาพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้



ศาลฎีกาจับแก้ผ้าจนล่อนจ้อนขนาดนี้แล้ว ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองไม่ผิด ตักขี้สร้างความชอบธรรมด้วยการพูดและยังแสดงถึงความเป็นพ่อที่ดีที่ปกป้องลูก แต่หากฟังอย่างวิเคราะห์ชัดเจนยอมรับแล้วว่าหุ้นเป็นของตัว ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย คราวซุกหุ้นภาคแรกไม่เคยมาร้องแร่แห่กระเชอเลยมีเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญและชื่นชมยินดีแต่เมื่อเป็นคราวของลูกสุดสวาทอย่างโอ๊ค-เอมก็เลยร้อนเป็นเจ้าเข้า เพราะความเป็นจริงมันจริง-จริง-จนไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร ความจริงแบบนี้ตักขี้ไม่เคยนำมาอธิบายชี้แจงอย่างเป็นระบบหรือเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนมืออาชีพได้ซักถามอย่างตรงไปตรงมา เอาแบบเจาะตรงประเด็นถึงแก่นปัญหาอย่างนี้เลย แต่ตักชี้ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ตีฝีปากล่อหลอกด้วยความฝันลมๆ แล้ง คนอย่างตักขี้ไม่เคยคิดว่าตนเองผิด ในห้วงเวลาที่ผ่านมาตักขี้พูดย้ำอยู่เสมอว่า "เขาไม่ผิดแต่กฎหมายเขียนไว้ผิด"



ศาลเลือกไม่แตะต้องประเด็นอื่นนอกจากความร่ำรวยผิดปกติและพุ่งเป้าให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายเพื่อลดข้อถกเถียงในสังคม ฉลาดที่ไม่แตะต้องวินมาร์คเพื่อที่จะนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอื่นๆ ต่อไป คาดการณ์ได้ว่า ดาบสาม ดาบสี่ ดาบห้า ดาบหก ดาบเจ็ด ดาบแปด ดาบเก้า ดาบสิบ...ก็จะติดตามมาเป็นระลอกๆ ตามผลกรรมแต่ละกรรมยังคงมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ไปถึงลูก เมีย ญาติ พี่ น้อง ขี้ข้า คนรับใช้ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจที่รับใช้ระบอบตักขี้นี้ไปอย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน โอ๊ค-เอมยังจ่ายภาษีสรรพากรไม่ครบสามารถอายัดได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ไม่เกี่ยวคดียึดทรัพย์ กว่าทั้งสองคนจะจ่ายชำระภาษีที่ค้างไว้กับกรมสรรพากรครบ 1.2 หมื่นล้านบาท อายุแค่นี้ ทำมาหากินอย่างไรถึงได้รวยเป็นหมื่นล้าน...ต่อให้มันมีเงินเดือนๆละสิบล้านทำงานเท่าอายุพวกมันก็ยังไม่มีเป็นหมื่นล้าน ประธานาธิบดีอเมริกาเป็นประธานาธิบดีสองสมัยซ้อนก็ยังไม่รวยเป็นหมื่นล้าน ...ดาราฮอลลีวู้ดไอ้ที่ดังๆเลยเล่นหนังตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ทำงานหนักกว่าเด็กสองคนนี้พันเท่าก็ยังไม่รวยเป็นหมื่นล้านบาทเพราะภาษีต้องจ่ายทุกเม็ด



ปปช.สั่งเชือดวิเชียร นาคสีนวลและ วิทู รักษ์วนิชพงศ์ชี้ทั้งคู่ร่วมกันลักหลับทศท.แก้ไขสัญญามิชอบเอื้อกินชะมัด ไดเร็คทอรี่ส์ให้ทำการทุจริตพิมพ์สมุดโทรศัพท์ กินชะมัด ไดเร็คทอรี่ส์ได้รับประโยชน์จากการลดค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาทผู้ที่รับผิดชอบกลับให้บริษัทจ่ายเงินเพิ่มให้ทศท.เพียงเล้กน้อย ถูกจับฟันทั้งวินัย-อาญา เรียกคืนหลายร้อยล.วันเดียวกับตักขี้โดนยึดทรัพย์นั่นแล



นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังสั่งให้กรมสรรพากรดำเนินการอายัดบัญชีทรัพย์สิน เพิ่มเติมในบัญชีอื่นๆ นอกเหนือไปจากบัญชีที่อยู่กับธนาคารไทยพาณิชย์ 3.6 พันล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรเคยอายัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อธิบดีกรมสรรพากรยังได้แจ้งว่าสามารถดำเนินการอายัดทรัพย์สินในต่างประเทศได้ด้วย



นายกฯมาร์คให้อัยการนำคดียึดทรัพย์ดูข้อกฎหมายเอาผิดตักขี้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา รัฐบาล องค์การอิสระและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขยายผลแห่งคดียึดทรัพย์เพื่อรักษาประโยชน์ของชาติภายใต้กรอบกฎหมาย ฝ่ายป.ป.ช.ก็เริ่มไต่สวนในเรื่องที่เกี่ยวกับคำพิพากษายึดทรัพย์ตักขี้ ไต่สวนในกรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ แก้ไขสัญญาอัตราจัดเก็บภาษีบัตรเติมเงินโดยมิชอบ แก้ไขสัญญาเชื่อมต่อสัญญาณ หรือ โรมมิ่ง แก่เอไอเอส อนุมัติโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์โดยมิชอบ 3 คดี เป็นการกล่าวหาอดีตรัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวง คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ตักขี้นั้นพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อป.ป.ช. ถึง 15 ครั้งในระหว่างปี 2544-2549



ส่วนเรื่องที่นายกฯมาร์คสามารถทำเองได้เลยเพราะเป็นประธานบีโอไออยู่แล้วไม่ต้องไปสั่งการอะไรอีกก็คือเพิกถอนสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีของโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ที่ขอรับสิทธิ์ในเวลา 8 ปีมูลค่า 16,000 ล้านบาท ขณะนี้ไอพีสตาร์ให้บริการมาแล้ว 6 ปี เหลืออีก 2 ปีจะครบกำหนดการให้สิทธิประโยชน์ ระงับการให้สิทธิประโยชน์ที่เหลือ จะเรียกคืนเงินภาษีที่ยกเว้นให้ไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบีโอไอ ที่ร่วมประชุมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 จะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่



รัฐต้องยกเลิกพ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต 2 ฉบับ พงศ์เทพ เทพกาญจนาเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับไกรสร บารมีอวยชัยอธิบดีกรมบังคับคดีร่างกฏหมายเปิดทางให้บริษัทนอมินีพ.ต.ท.ตักขี้กว้านซื้อที่ดินจำนวนมาก โดยประเด็นนี้ต่อมานำไปสู่การโยกย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดมออกจากอธิบดีดีเอสไอก่อนที่จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นกล่องดวงใจของพ.ต.ท.ตักขี้ในเวลานี้ไม่ใช่เอไอเอสแต่เป็นเอสซีแอสเสท ลูกเมียโดนอาญาในฐานสนับสนุนปกปิดหุ้น รัฐน่าจะต้องฟื้นคดีเอสซี แอสเสทและคนในครอบครัวกินชะมัด-ดามาพงศ์โดนจับตาคดีภาษี คดีปกปิดหุ้น อีกทั้งตระกูล



สุรพงษ์ สืบวงศ์ลีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีและวันมูหะมัดนอร์ มะทาอดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมคงกำลังหาทางหนีที่ไล่จากผลคดีตักขี้ด้วยใจระทึกระทวย



ทั้ง AIS และชินคอร์ปได้ทำความผิด ทั้งในเรื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เทคโนโลยี 2 จี และกรณีขิงดาวเทียมไอพีสตาร์ทำให้เกิดความเสียหายให้กับประเทศชาติมหาศาล ทศท.สูญเสียรายได้ที่ควรจะได้มหาศาล ผู้ประกอบการรายใหม่ถูกกีดกันอย่างไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เทคโนโลยี 3 จีที่กำลังจะเปิดประมูลถ้าบริษัทพวกนี้ยังมีสิทธิเข้ามาร่วมประมูลด้วย และหากได้สัมปทานต่อไปชาติก็ยิ่งจะเสียหายหนักเข้าไปอีกยิ่งถ้ามีการโอนถ่ายลูกค้าที่มีอยู่กว่าหลายสิบล้านเลขหมายเข้ามาในเทคโนโลยี 3 จีก็จะยิ่งสร้างความสับสนอย่างมาก ทั้ง AIS และชินคอร์ปจึงสมควรต้องถูกปรับย้อนหลังและถูกกีดกันในการประมูลเทคโนโลยี 3 จีด้วย



รัฐต้องนำคำพิพากษาของศาลมากระตุ้นเตือนจิตสำนึกของผู้รับผิดชอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการจ้างงาน, สัญญาสัมปทาน, ใบอนุญาตประกอบการต่างๆ และหากมีกรณีใดที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้รัฐเสียหายควรจะได้ทบทวนเสียแต่เนิ่นๆ ให้เป็นบรรทัดฐานสำหรับการดำเนินคดีอื่นๆ ต่อไป



หุ้นกลุ่มชินคอร์ปร่วงกราวรูด เทมาเสกผวาหุ้นกลุ่ม AIS และ SC Assets เน่าคามือ-ธุรกิจไร้อนาคต สมควรต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะนับจากวันนี้ไปอาจจะต้องประสบกับความไม่มั่นใจของคนทั้งแผ่นดินมากขึ้น แถมภาครัฐยังตั้งกรรมการขึ้นมาหลายชุดขยายผลจากคำพิพากษาคงใช้เวลานานและยืดเยื้อซึ่งอาจส่งผลต่อการทำธุรกิจ



ส.ส.พรรคเพื่อทุยถึงขนาดพูดตรงๆถึงยุทธวิธีว่า ตั้งแต่นี้ไปการต่อสู้ในสภาและนอกสภาจะเข้มข้นมากขึ้นและการชุมนุมคราวนี้จะเป็นระบบมากกว่าเมษายน 2552 ซึ่งส.ส.จะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องจิปาถะเช่นความเป็นอยู่ อาหารการกิน ห้องส้วม ห้องน้ำ สถานที่พัก จุดนัดพบ และประกาศให้ส.ส.ในที่ประชุมพรรค นำเสื้อสีแดงคนละ 1,000 ตัวที่สกรีนเป็นรูปพ.ต.ท.ตักขี้ไปแจกในพื้นที่ต่างๆก่อนวันชุมนุม แค่เพียงเท่านี้ก็คงจะชัดพอว่าพรรคเพื่อทุยที่มี ส.ส.ในสภาเกือบครึ่งทำเวรทำกรรมอะไรกับบ้านกับเมือง และ คิดจะทำอะไรต่อบ้านเมือง อ้ายส.ส.จัญไร



หญิงสาวผู้น่าสงสารคนหนึ่งออกมาแก้ตัวกับสังคมโดยผ่านสื่อว่า งงค่ะ ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปเสียภาษี ทำไมหนูไม่ถามพ่อว่าทำไมพ่อจึงโกงชาติ โกงประชาชนแล้วดันเอาชื่อหนูไปใส่ พ่อรักหนูหรือ รักหนูประสาอะไร





โดนัลด์ รัมเฟลด์ได้ตายลงและไปยังสวรรค์ขณะที่เขานั่งลงหน้าเซนต์ปีเตอร์ที่ประตูมุก เขามองเห็นกำแพงขนาดมหึมาเต็มไปด้วยนาฬิกาอยู่เบื้องหลังเขาจึงถามว่า " นาฬิกาพวกนั้น มันคืออะไร "

เซนต์ ปี เตอร์ ตอบ "มันคือ นาฬิกาแห่งการโกหก ทุกๆคนบนโลกจะมีนาฬิกานี้คนละ 1 เรือนเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณโกหก เข็มนาฬิกาของคุณจะเคลื่อนไป"

" โอ.." รัมเฟลด์ กล่าว " นั่นมันนาฬิกาของใครกัน"

" นั่นเป็นของแม่ชีเทเรซ่า เห็นไหม ว่าเข็มนาฬิกาไม่เคยเคลื่อนที่ไปเลยแสดงว่าหล่อนไม่เคยโกหกเลยสักครั้ง"

" เหลือเชื่อจริง ๆ" รัมเฟลด์ ถามต่อ "แล้วนั่นของใครกันล่ะ"

เซนต์ ปี เตอร์ ตอบ " นั่นคือนาฬิกาของอับบราฮัม ลินคอล์นเข็มนาฬิกาเดินไปสองครั้งบอกให้รู้ว่าอับราฮัมพูดโกหกแค่ 2 ครั้งเท่านั้นตลอดชั่วชีวิตของเขา"

" เอ๊ะ แล้วนาฬิกาของตักขี้อยู่ไหนกันล่ะ" รัมเฟลด์ ถามต่อ

" อ๋อ นาฬิกาของตักขี้อยู่ในห้องทำงานของพระผู้เป็นเจ้าน่ะท่านกำลังใช้มันแทนพัดลมเพดาน "





บ้านดีต้องเริ่มที่ตัวพ่อ


ในความคิดของผู้คนไม่ว่ายุคสมัยใดล้วนให้คุณค่าต่อสิ่งที่อยู่เบื้องบนหรือสิ่งที่ลงมาจากเบื้องบนหรือท้องฟ้าจนหลายครั้งเป็นการลดค่าของสิ่งที่อยู่ต่ำทั้งบนดินและใต้ดิน ครุฑเป็นทั้งตราแผ่นดินและสัญลักษณ์พระเจ้าแผ่นดินของเราจึงมีที่มาที่สื่อความหมายสูงส่ง ครุฑสื่อสัญลักษณ์ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นตราประจำแผ่นดินของประเทศไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หมายถึงตาชั่งของกระทรวงยุติธรรม เป็นทั้งตราแผ่นดินและสัญลักษณ์พระเจ้าแผ่นดินของเราจึงมีที่มาที่สื่อความหมายสูงส่ง การนำครุฑพ่าห์มาใช้สำหรับคนไทยทั่วไปจึงมีน้อยมากหรือถ้ามีก็ทำด้วยความระมัดระวัง




จากภาพปกนิตยสาร Voice of Taksin ที่ทำเป็นรูปครุฑพ่าห์ปิดหน้าที่พาดหัวว่า... “ปิดหน้าปล้น” ต้องการกระทบชิ่งถึงคนที่ทั้งแผ่นดินให้ความเคารพเทิดทูนรวมใต้ภาพสัญลักษณ์ของสถาบันสูงสุดของชาติ พาดหัวรองประกอบอีกด้วยว่า... “บ้านจะดีต้องเริ่มที่พ่อ” ใครจะคิดอย่างไรไม่ทราบแต่คนไทยทั่วไปไม่อาจคิดเป็นอื่นได้




นิตยสาร Voice of Taksin ที่มีสมยศ พฤกษาเกษมสุขแกนนำนปช.รุ่นที่ 2 และแกนนำกลุ่ม 24 มิ.ย. เป็นบรรณาธิการบริหาร ต้องออกมาแหลว่าจากภาพครุฑที่มีผึ้งทำรังเป็นภาพเมื่อวันที่16ก.ค.51 ในช่วงที่ศาลอาญามีคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ปฯจำคุกพจมารและบรรณพจน์ อันเป็นช่วงเดียวกับที่มีขนมหล่นศาลสองล้านบาท คนที่ทำเสียงตักขี้ - Voice of Taksin คงไม่ใช่คนไทยทั่วไป พอเข้าไปดูที่บทความ

‘บ้านจะดีต้องเริ่มที่พ่อ’ นั้น ก็พบว่าเป็นบทความทางจิตวิทยาของสถาบันครอบครัวโดยพ่อต้องเป็นแบบอย่างที่ดี หากพ่อมีพฤติกรรม2มาตรฐานจะทำให้ลูกก้าวร้าวและก่อปัญหาให้สังคมได้และเนื้อหาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับภาพบนปกเลย ดร.ชนาธิป ศิริปัญญาวงศ์ ในคอลัมน์ Family Secret ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตครอบครัวไว้อย่างน่าสนใจว่า

“พ่อบางคนทำผิดซ้ำซาก บางทีไม่คิดด้วยซ้ำว่าที่ตัวเองทำนั้นผิด แต่ปากพร่ำสอนลูกว่าอย่าทำผิด เช่น ตัวเองสูบบุหรี่พ่นควันปุ๋ยๆ ต่อหน้าลูก แต่ปากพร่ำพูดว่า 'อย่าสูบบุหรี่นะลูก มันไม่ดี' พ่อบางคนใช้ทรัพย์สินเงินทองซื้อหาความสุขอย่างเกินขอบเขต แต่กลับบอกลูกว่า 'คนเราต้องประหยัดนะลูก อย่าใช้จ่ายเงินจนเกินตัว' พ่อบางคนร่ำรวยมั่งคั่งจากการทุจริตเบียดบังเงินทองคนอื่น ได้ทรัพย์สินเงินทองมาด้วยพฤติกรรมหลอกลวงปลิ้นปล้อน แต่กลับพร่ำสอนลูกว่า 'คนเราต้องทำงานหนัก ต้องเป็นคนดีของสังคม ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมนะลูก' ลูกที่พ่อพฤติกรรมอย่างนี้ก็ได้แต่หวานอมขมกลืน ก้าวเดินสู่โลกภายนอกได้ไม่สง่าผ่าเผย …”



ตักขี้ – พจมารหนีศาลคดีที่ดินรัชดาฯ ไปจีนโดยอ้างว่าจะไปปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในฐานะประธานการจัดงานกิจกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีนโดยยื่นคำขออนุญาตต่อศาลว่าจะต้องไปรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ที่เสด็จฯ เยือนจีน แต่พอตักขี้-พจมารออกไปพร้อมกระเป๋าเดินทางอีกคนละสิบๆ ใบพร้อมๆกับเงินมากพอที่จะถูกยึดที่อังกฤษและป่วนบ้านเผาเมืองอยู่ในเวลานี้ ผัว-เมียคู่นี้ก็หายลับและไปโผล่ด่าศาลไทยฉอดๆ สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกทางการอังกฤษปฏิเสธวีซ่าแถมยังถูกอายัดเงินในบัญชี 1.4 แสนล้านบาทที่อังกฤษและเจอข้อหาฟอกเงินจากการซื้อ-ขายทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเอาเงินทั้งหมดมาจากแหล่งใดบ้าง ทางการไทยก็ได้ออกหมายจับสร้างความอับอายและเคียดแค้นให้กับตักขี้และพจมารไม่ใช่น้อยเพราะภายหลังรูปคู่ของเขาและเธอถูกพ่อค้าหัวใสนำมาพิมพ์เป็นพรมเช็ดเท้าขายดิบขายดี ยิ่งตอนนี้ยิ่งน่าอายไปถึงชั่วลูกชั่วหลานเมื่อมีมือดีดอดนำขึ้นไปประกาศขายผ่านทางเว็บอีเบย์ราคาเสนอ 0.99 เหรียญแต่ไม่ขยับเลย

ครั้นศาลตัดสินจำคุกในคดีที่ดินก็ตะแบงด่าศาลอย่างนั้นอย่างนี้มาตลอด หลังจากที่พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดได้ให้ญาติและพวกพ้องขึ้นเบิกความคัดค้านการยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทแล้วดูเหมือนว่าหนทางแห่งการชนะคดีจะริบหรี่ลงทุกวัน คำแถลงปิดคดียังระบุไว้อย่างชัดเจนว่าระหว่างที่พ.ต.ท.ตักขี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังได้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปและบริษัทในเครืออีก 5 กรณี ไม่มีใครเชื่อว่าศาลท่านจะไม่ยึดทรัพย์ตักขี้ ตักขี้เองปากบอกไม่ห่วงคดียึดทรัพย์แต่ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเล่นทวีตหามรุ่งหามค่ำหวงเงิน 7.6 หมื่นล้าน


ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่อม.4/2551 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีที่อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯ -มติเอกฉันท์ คตส.มีอำนาจตรวจสอบโดยชอบ-มติเอกฉันท์ ปกปิดอำพรางหุ้น-มีนอมินี-มติเอกฉันท์ แปลงสัมปทานฯ เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก แก้ไขสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก ปล่อยเงินกู้พม่าเอื้อประโยชน์ชินฯ-มติเสียงข้างมาก ยึดคืนเงินปล้นชาติ 4.6 หมื่นล้าน! - มติเสียงข้างมาก รวยแล้วยังปล้นชาติ-ปล้นประชาชน ศาลพิจารณาตามบัญชีทรัพย์สินที่อายัดไว้ในชั้นคตส.ของพ.ต.ท.ตักขี้ คุณหญิงพจมาร พานทองแท้ พิณทองทา ยิ่งลักษณ์และนายบรรณพจน์มีจำนวนเพียงพอที่จะบังคับคดีได้หากไม่เพียงพอก็ให้บังคับจากทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาที่คตส.อายัดไว้แล้วและมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดผู้ถูกกล่าวหาอื่นนอกเหนือจากคนที่ถูกระบุที่คตส.มีคำสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์แล้วรวมทั้งผู้คัดค้านรายอื่นด้วย กว่า 5 ชั่วโมงที่ศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำตัดสินโดยชี้ให้เห็นที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่มต้นจนจบอธิบายถึงการฉ้อฉล การทุจริตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเรียกได้ว่า “ประจานความชั่ว” เห็นไส้เป็นพุงว่ามีใส้กี่ขดกี่ขดได้เห็นกันหมด แต่กระนั้นก็ยังใจดีมีเงินทอน3หมื่นล. ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยฟังความชั่วหมกเม็ดของใครคนใดคนเดียวเต็มๆยาวนานหลายชั่วโมงแบบนี้เลย กระบวนการยึดทรัพย์คงต้องใช้เวลาถึง 30 วัน เงินสดที่อายัดไว้ก็ยังไม่ครบตามมูลค่าที่ศาลระบุ ยึดเข้าเป็นเงินของแผ่นดินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท สรรพากรได้อายัดไว้แล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท แล้วจะเอาที่ไหนไปคืนมันอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท



ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองท่านใช้ระบบไต่สวน ศาลทำหน้าที่ค้นหาความจริงจากพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่าย หากยังไม่สิ้นสงสัยก็จะเรียกพยาน หลักฐานมาสืบเพิมเติมได้ จำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหาต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์หักล้างข้อกล่าวหาให้ศาลสิ้นสงสัย ตั้งแต่ต้นจนจบตักขี้กับคุณหญิงพจมารและลูกๆ ไม่สามารถพิสูจน์หักล้างข้อกล่าวหาของคตส.ได้เลย มีแต่ข้ออ้างลอยๆว่า ไม่รู้ ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่ผิดปกติ วันนี้ที่ตักขี้แพ้ก็เพราะตักขี้ไม่มีสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือความจริง หลักฐานชิ้นสำคัญบางชิ้นที่มัดตัวตักขี้ว่าซุกหุ้นจริงก็มาจากฝ่ายตักขี้เองนั่นแหละ เผลอไผล ปล่อยให้หลุดมาถึงมือคตส.เพราะพฤติกรรมที่ซุกซ่อน อำพราง มากมายเหลือเกิน ซุกซ่อนกันมานานหลายปีโยกย้ายถ่ายโอนกันหลายรอบจนคนที่มีหน้าที่ดูแลเอกสาร ก็จำไม่ได้ว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ ส่งไปให้คตส.ดูหมด แต่ละประเด็นที่ทั้งตุลาการศาลท่านเค้นรอบคอบด้วยดุลยนิติธรรมออกมาเป็นคำตัดสิน อ่านให้ได้ฟังกันจะจะ ชัดๆ แยกแยะทีละประเด็น ให้เห็น-ให้ฟัง-ให้เข้าใจ กันไปทีละเปลาะ ฟังแล้วเข้าใจ-เห็นชัด มันโกงชาติ โกงประชาชนเอาไปเป็นของตัวมันกับครอบครัวมันชนิดไร้ข้อโต้แย้ง ไร้ข้อกังขาใดๆ ในการตัดสินของศาล



คนเสื้อแดงนั่งฟังคำพิพากษา กอดรูปตักขี้ แล้วร้องห่มร้องไห้เหมือนญาติกำลังตาย ทั้งๆที่ศาลท่านก็ชี้แจงความผิดต่างๆตั้งครึ่งค่อนวัน คนทั้งโลกเขาก็รู้ถึงความดีที่ตักขี้สร้างสรรค์ไว้กันทั้งนั้น คนเสื้อแดงเหล่านั้นทุกคนล้วนมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าน้อยกว่าที่ตักขี้และครอบครัวมีอยู่ทั้งสิ้น บางคนก็แทบจะไม่มีกิน ถูกเขาฉ้อราษฎร์บังหลวงแท้ๆ ยังอุตส่าห์ไปสงสาร สงสารเศรษฐีโกงชาติปล้นชาติไปงุบงิบไว้อีกนับแสนล้านอีก ตักขี้เอาลูกเอาเมียบังหน้า เอาตัวเองหลบอยู่ข้างหลัง



"...วันนี้ผมแต่งชุดดำผูกไทดำไว้ทุกข์ ผมขออนุญาตไว้ทุกข์ให้กับความดื้อของตัวเองที่ดื้อไม่ยอมเชื่อคุณหญิงกับลูกๆ ที่คัดค้านว่าไม่ให้ผมเข้าการเมืองเพราะเขาบอกว่าชีวิตการเมืองมันวุ่นวายสับสน เราเป็นเศรษฐีอยู่แล้วสบายๆ ใช้ชีวิตแบบเศรษฐีดีกว่า อย่าไปสนใจเล่นการเมืองเลย... ...ดื้อกับคุณหญิง ดื้อกับลูก พ่อขอโทษด้วยนะลูกที่ดื้อเลยทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนทุกวันนี้.... ...ที่ว่าผมโกงเป็นการกล่าวหาทั้งนั้น คุณหญิงสอนลูกมาดี พวกเราไม่มีความจำเป็นดิ้นรนโกงบ้านเมือง..."



"Rest in peacet, don't worry. We will be in hell together forever regardless what's happening loog rak"

นอนตายตาหลับนะลูกรักเราจะลงนรกพร้อมกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

รักลูก รักเมีย รักกิ๊ก

จากพ่อ ตักขี้



คนที่เคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี พยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกหนี หลบเร้น และซุกซ่อน ใช้ช่องโหว่ ช่องว่างหาทางบิดเบี้ยวจากความเป็นจริง เพื่อให้เสียภาษีให้น้อยที่สุดหรือหากเป็นไปได้ไม่เสียภาษีเลย อยู่ห้องแอร์ นั่งจิบไวน์ สมองลื่นไหล คิดการโกงได้ทุกบาททุกสตางค์ คิดโกงให้คนทั้งตระกูล คิดโกงชาติโกงแผ่นดิน ไม่เว้นแม้กระทั่งที่ดินกลางเมืองอย่างที่ดินย่านรัชดา มันสมองขี้โกง คิดได้ไม่หยุดไม่หย่อน โกงกินรวบ เป็นยิ่งกว่าสลากกินแบ่งฯ สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ตักขี้นั้นมีการเจรจาโดยเอาผลประโยชน์ประเทศไปเป็นเครื่องต่อรอง ไม่ว่าประเทศไหนที่ทำเอฟทีเอกับไทยก็ล้วนแล้วแต่เอาสินค้าการเกษตรมาแลกกับดาวเทียมไอพีสตาร์ ชาวไร่ชาวนาหมดเนื้อหมดตัว ต้องเปลี่ยนอาชีพ ต้องจำนำจำนองที่ทางทำมาหากิน ต้องเข้ามาเป็นกรรมกรในเมืองหลวงก็มาก ในขณะที่มันรวยเอารวยเอา จนกระทั่งเงินทองของชาวบ้านทั้งประเทศมากองรวมกันมั๊นก็ยังได้ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของไอ้ที่ตักขี้ได้กอบโกยไปจากประเทศ



การรณรงค์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 ในมาตรา 309 ที่รับรองให้อำนาจคตส.ไปทำงานไต่สวนจึงเป็นการปิดทองหลังพระที่แท้จริงเพราะด้วยเงื่อนไขในช่วงรัฐบาลหุ่นเชิดสมัคร สุนทรราชหรือสมชายกระโปรง วงสัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจรัฐหรือจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ตักขี้ กินชะมัดสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอนแต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะความเสียสละของ พธม.

เป็นการง่ายที่อาจารย์อาจมอย่างเกษียรหรือใครก็ตามจะมองว่าพธม.เป็นผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินหรือปิดสนามบินแล้วไม่ผิดเป็นการเลือกปฏิบัติในภายหลังเป็นคนถือมีดเลือดโทรมกายเหมือนกันโดยไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงว่าพธม.ทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ใดทำไมจึงต้องยอมให้เลือดโทรมกายซึ่งพิสูจน์แล้วในภายหลังว่ามิใช่เพื่อประโยชน์ของผู้ใดหากแต่เพื่อสังคมไทยโดยรวม หากไม่มี 193 วันการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ 2550 และขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด นับจาก 25-5-51 ถึง 2-12-51 ผลแห่งคำพิพากษาคงไม่เป็นเช่นนี้แน่



คตน.ชุดที่มีศ.ดร.คณิต ณ นคร(อดีตอัยการสูงสุด) เป็นประธานทำการศึกษาเรื่องนี้แล้วเสร็จสมบูรณ์แล้วมีผลการศึกษาระบุว่าการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในระหว่างดำเนินนโยบายสงครามยาเสพติดยุคตักขี้เข้าลักษณะเป็น "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" หรือ "Crimes against humanity" อันเป็นความผิดอาญาระหว่างประเทศตามธรรมนูญแห่งกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่ระดับล่างเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของผู้อื่นในฐานความผิดดังกล่าวเท่านั้น แต่เนื่องจากคตน.ไม่มีอำนาจพนักงานสอบสวนทำหน้าที่เพียงศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและเมื่อหมดอายุการทำงานไปแล้ว รัฐบาลยุคต่อมา รัฐบาลสมัครสุนทรราชและรัฐบาลสมชายกระโปรง วงสัตว์ก็ไม่มีใครมอบหมายให้คตน.ได้มีโอกาสทำหน้าที่ต่อไปให้ถึงที่สุด



ที่ผ่านๆมาในอดีตเราไม่เคยเห็นอะไรๆที่ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมได้สร้างได้ทำคุณูปการให้กับประเทศชาติ เห็นแต่ใช้อำนาจตักโน่นตวงนี่เอาประโยชน์โพดผลเข้ากระเป๋าตัว อีกมือหนึ่งก็คอยกอบคอยโกยให้ไอ้ลูกโง่สามคนที่ไม่รู้จักแม้แต่พ่อของตัวเองมาอยู่ใต้ปีกของตัว ไอ้ลูกโง่พวกนี้เที่ยวถามชาวบ้านอยู่เป็นนิจว่า มึงรู้ไหม กูลูกใคร วันนี้ดร.เฉ ลิม อยู่ทำไมได้ใช้แบ็คโฮขุดเปิดปากหลุมฝังตักขี้ ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมส.ส.สัตว์ ส่วนพรรคเพื่อทุยได้ตั้งกระทู้ถามสดถามนายกฯอภิสิทธิ์ในการประชุมสภาถึงความคืบหน้าการสอบสวนเรื่องการฆ่าตัดตอนคดีค้ายาเสพติดของรัฐบาลพ.ต.ท.ตักขี้ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ คืบหน้าไปถึงไหนดำเนินการกับผู้กระทำผิดหรือไม่ ผลดำเนินคดีเป็นอย่างไร "การจะเล่นงานพ.ต.ท.ตักขี้นายกฯต้องนำเรื่องนี้มาสอบเอาตัวพ.ต.ท.ตักขี้มาสอบให้ขึ้นศาลระหว่างประเทศ แล้วรัฐบาลต้องบอกด้วยว่าถ้าตรวจพบว่า 2,500 ศพไม่เกี่ยวกับยาเสพติดจะทำอย่างไรนายกฯต้องเอาพ.ต.ท.ตักขี้เข้าคุกให้ได้ไม่งั้นนายกฯต้องขอโทษพ.ต.ท.ตักขี้หรือไม่ก็หุบปากเรื่องนี้และอยากถามว่ามากล่าวหารัฐบาลพ.ต.ท.ตักขี้แล้วรัฐบาลนี้แก้ปัญหายาเสพติดไปถึงไหน"ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมกล่าว นายกฯ อภิสิทธิ์ น้อมรับข้อเสนอของดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมฉวยโอกาสรื้อคดี ดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมเป็นอะไรของแก ???? คงจะเห็นพ.ต.ท.ตักขี้วิดิโอลึงค์บ่นอยากจะไปขึ้นศาลโลกดร.เยส โน โคคาโคล่า เฉ ลิม อยู่ทำไมก็เลยพยายามจะจัดให้



ตักขี้วันนี้คุมสติไม่อยู่ ไฟธาตุแตก บ้าไปแล้ว โฟนอิน วิดิโอลึงค์ ผ่านสถานีพีเพิล แชนแนล และวอยซ์ ทีวีแต่ละทีเหมือนจุดไฟเผาตัวเองเพราะสารพัดลมที่ผายออกมาพรั่งพรูออกมาทางปากอย่างไร้สติล้วนแต่เป็นการบิดเบือนคำพิพากษาและข้อเท็จจริงทั้งสิ้น อัจฉริยะกับปัญญาอ่อนก็กางกั้นด้วยเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น"รัฐบุรุษ" และ "ทรราช"ก็เช่นกันตัวเองถูกปล้นหรือกล่าวหาว่าศาลเล่นการเมืองแบบสุดๆศาลตัดสินโดยยอมรับกฎหมายของคณะรัฐประหารและล่าสุดก็ได้เรียกร้องให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลายออกมาร่วมชุมนุมให้ออกมาให้มากที่สุด ปลุกระดมให้ชาวบ้านออกมาต่อสู้โดยแอบพ่วงเอาผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเองและครอบครัวเข้าไปด้วย ทางเดียวที่เหลืออยู่ของตักขี้คือ ใช้คนตายและความวุ่นวาย พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน เสียดายบ้านเสียดายเมืองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งมวลชนคนเสื้อแดงที่จะต้องฝากชะตาชีวิตของตนในมือของคนวิปลาสเพียงคนเดียว นับเป็นความอำมหิตที่ประเทศต้องมาพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้



ศาลฎีกาจับแก้ผ้าจนล่อนจ้อนขนาดนี้แล้ว ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองไม่ผิด ตักขี้สร้างความชอบธรรมด้วยการพูดและยังแสดงถึงความเป็นพ่อที่ดีที่ปกป้องลูก แต่หากฟังอย่างวิเคราะห์ชัดเจนยอมรับแล้วว่าหุ้นเป็นของตัว ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย คราวซุกหุ้นภาคแรกไม่เคยมาร้องแร่แห่กระเชอเลยมีเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญและชื่นชมยินดีแต่เมื่อเป็นคราวของลูกสุดสวาทอย่างโอ๊ค-เอมก็เลยร้อนเป็นเจ้าเข้า เพราะความเป็นจริงมันจริง-จริง-จนไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร ความจริงแบบนี้ตักขี้ไม่เคยนำมาอธิบายชี้แจงอย่างเป็นระบบหรือเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนมืออาชีพได้ซักถามอย่างตรงไปตรงมา เอาแบบเจาะตรงประเด็นถึงแก่นปัญหาอย่างนี้เลย แต่ตักชี้ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ตีฝีปากล่อหลอกด้วยความฝันลมๆ แล้ง คนอย่างตักขี้ไม่เคยคิดว่าตนเองผิด ในห้วงเวลาที่ผ่านมาตักขี้พูดย้ำอยู่เสมอว่า "เขาไม่ผิดแต่กฎหมายเขียนไว้ผิด"



ศาลเลือกไม่แตะต้องประเด็นอื่นนอกจากความร่ำรวยผิดปกติและพุ่งเป้าให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายเพื่อลดข้อถกเถียงในสังคม ฉลาดที่ไม่แตะต้องวินมาร์คเพื่อที่จะนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอื่นๆ ต่อไป คาดการณ์ได้ว่า ดาบสาม ดาบสี่ ดาบห้า ดาบหก ดาบเจ็ด ดาบแปด ดาบเก้า ดาบสิบ...ก็จะติดตามมาเป็นระลอกๆ ตามผลกรรมแต่ละกรรมยังคงมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ไปถึงลูก เมีย ญาติ พี่ น้อง ขี้ข้า คนรับใช้ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจที่รับใช้ระบอบตักขี้นี้ไปอย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน โอ๊ค-เอมยังจ่ายภาษีสรรพากรไม่ครบสามารถอายัดได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ไม่เกี่ยวคดียึดทรัพย์ กว่าทั้งสองคนจะจ่ายชำระภาษีที่ค้างไว้กับกรมสรรพากรครบ 1.2 หมื่นล้านบาท อายุแค่นี้ ทำมาหากินอย่างไรถึงได้รวยเป็นหมื่นล้าน...ต่อให้มันมีเงินเดือนๆละสิบล้านทำงานเท่าอายุพวกมันก็ยังไม่มีเป็นหมื่นล้าน ประธานาธิบดีอเมริกาเป็นประธานาธิบดีสองสมัยซ้อนก็ยังไม่รวยเป็นหมื่นล้าน ...ดาราฮอลลีวู้ดไอ้ที่ดังๆเลยเล่นหนังตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ทำงานหนักกว่าเด็กสองคนนี้พันเท่าก็ยังไม่รวยเป็นหมื่นล้านบาทเพราะภาษีต้องจ่ายทุกเม็ด



ปปช.สั่งเชือดวิเชียร นาคสีนวลและ วิทู รักษ์วนิชพงศ์ชี้ทั้งคู่ร่วมกันลักหลับทศท.แก้ไขสัญญามิชอบเอื้อกินชะมัด ไดเร็คทอรี่ส์ให้ทำการทุจริตพิมพ์สมุดโทรศัพท์ กินชะมัด ไดเร็คทอรี่ส์ได้รับประโยชน์จากการลดค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาทผู้ที่รับผิดชอบกลับให้บริษัทจ่ายเงินเพิ่มให้ทศท.เพียงเล้กน้อย ถูกจับฟันทั้งวินัย-อาญา เรียกคืนหลายร้อยล.วันเดียวกับตักขี้โดนยึดทรัพย์นั่นแล



นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังสั่งให้กรมสรรพากรดำเนินการอายัดบัญชีทรัพย์สิน เพิ่มเติมในบัญชีอื่นๆ นอกเหนือไปจากบัญชีที่อยู่กับธนาคารไทยพาณิชย์ 3.6 พันล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรเคยอายัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อธิบดีกรมสรรพากรยังได้แจ้งว่าสามารถดำเนินการอายัดทรัพย์สินในต่างประเทศได้ด้วย



นายกฯมาร์คให้อัยการนำคดียึดทรัพย์ดูข้อกฎหมายเอาผิดตักขี้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา รัฐบาล องค์การอิสระและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขยายผลแห่งคดียึดทรัพย์เพื่อรักษาประโยชน์ของชาติภายใต้กรอบกฎหมาย ฝ่ายป.ป.ช.ก็เริ่มไต่สวนในเรื่องที่เกี่ยวกับคำพิพากษายึดทรัพย์ตักขี้ ไต่สวนในกรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ แก้ไขสัญญาอัตราจัดเก็บภาษีบัตรเติมเงินโดยมิชอบ แก้ไขสัญญาเชื่อมต่อสัญญาณ หรือ โรมมิ่ง แก่เอไอเอส อนุมัติโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์โดยมิชอบ 3 คดี เป็นการกล่าวหาอดีตรัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวง คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ตักขี้นั้นพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อป.ป.ช. ถึง 15 ครั้งในระหว่างปี 2544-2549



ส่วนเรื่องที่นายกฯมาร์คสามารถทำเองได้เลยเพราะเป็นประธานบีโอไออยู่แล้วไม่ต้องไปสั่งการอะไรอีกก็คือเพิกถอนสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีของโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ที่ขอรับสิทธิ์ในเวลา 8 ปีมูลค่า 16,000 ล้านบาท ขณะนี้ไอพีสตาร์ให้บริการมาแล้ว 6 ปี เหลืออีก 2 ปีจะครบกำหนดการให้สิทธิประโยชน์ ระงับการให้สิทธิประโยชน์ที่เหลือ จะเรียกคืนเงินภาษีที่ยกเว้นให้ไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบีโอไอ ที่ร่วมประชุมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 จะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่



รัฐต้องยกเลิกพ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต 2 ฉบับ พงศ์เทพ เทพกาญจนาเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับไกรสร บารมีอวยชัยอธิบดีกรมบังคับคดีร่างกฏหมายเปิดทางให้บริษัทนอมินีพ.ต.ท.ตักขี้กว้านซื้อที่ดินจำนวนมาก โดยประเด็นนี้ต่อมานำไปสู่การโยกย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดมออกจากอธิบดีดีเอสไอก่อนที่จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นกล่องดวงใจของพ.ต.ท.ตักขี้ในเวลานี้ไม่ใช่เอไอเอสแต่เป็นเอสซีแอสเสท ลูกเมียโดนอาญาในฐานสนับสนุนปกปิดหุ้น รัฐน่าจะต้องฟื้นคดีเอสซี แอสเสทและคนในครอบครัวกินชะมัด-ดามาพงศ์โดนจับตาคดีภาษี คดีปกปิดหุ้น อีกทั้งตระกูล



สุรพงษ์ สืบวงศ์ลีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีและวันมูหะมัดนอร์ มะทาอดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมคงกำลังหาทางหนีที่ไล่จากผลคดีตักขี้ด้วยใจระทึกระทวย



ทั้ง AIS และชินคอร์ปได้ทำความผิด ทั้งในเรื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เทคโนโลยี 2 จี และกรณีขิงดาวเทียมไอพีสตาร์ทำให้เกิดความเสียหายให้กับประเทศชาติมหาศาล ทศท.สูญเสียรายได้ที่ควรจะได้มหาศาล ผู้ประกอบการรายใหม่ถูกกีดกันอย่างไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เทคโนโลยี 3 จีที่กำลังจะเปิดประมูลถ้าบริษัทพวกนี้ยังมีสิทธิเข้ามาร่วมประมูลด้วย และหากได้สัมปทานต่อไปชาติก็ยิ่งจะเสียหายหนักเข้าไปอีกยิ่งถ้ามีการโอนถ่ายลูกค้าที่มีอยู่กว่าหลายสิบล้านเลขหมายเข้ามาในเทคโนโลยี 3 จีก็จะยิ่งสร้างความสับสนอย่างมาก ทั้ง AIS และชินคอร์ปจึงสมควรต้องถูกปรับย้อนหลังและถูกกีดกันในการประมูลเทคโนโลยี 3 จีด้วย



รัฐต้องนำคำพิพากษาของศาลมากระตุ้นเตือนจิตสำนึกของผู้รับผิดชอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการจ้างงาน, สัญญาสัมปทาน, ใบอนุญาตประกอบการต่างๆ และหากมีกรณีใดที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้รัฐเสียหายควรจะได้ทบทวนเสียแต่เนิ่นๆ ให้เป็นบรรทัดฐานสำหรับการดำเนินคดีอื่นๆ ต่อไป



หุ้นกลุ่มชินคอร์ปร่วงกราวรูด เทมาเสกผวาหุ้นกลุ่ม AIS และ SC Assets เน่าคามือ-ธุรกิจไร้อนาคต สมควรต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะนับจากวันนี้ไปอาจจะต้องประสบกับความไม่มั่นใจของคนทั้งแผ่นดินมากขึ้น แถมภาครัฐยังตั้งกรรมการขึ้นมาหลายชุดขยายผลจากคำพิพากษาคงใช้เวลานานและยืดเยื้อซึ่งอาจส่งผลต่อการทำธุรกิจ



ส.ส.พรรคเพื่อทุยถึงขนาดพูดตรงๆถึงยุทธวิธีว่า ตั้งแต่นี้ไปการต่อสู้ในสภาและนอกสภาจะเข้มข้นมากขึ้นและการชุมนุมคราวนี้จะเป็นระบบมากกว่าเมษายน 2552 ซึ่งส.ส.จะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องจิปาถะเช่นความเป็นอยู่ อาหารการกิน ห้องส้วม ห้องน้ำ สถานที่พัก จุดนัดพบ และประกาศให้ส.ส.ในที่ประชุมพรรค นำเสื้อสีแดงคนละ 1,000 ตัวที่สกรีนเป็นรูปพ.ต.ท.ตักขี้ไปแจกในพื้นที่ต่างๆก่อนวันชุมนุม แค่เพียงเท่านี้ก็คงจะชัดพอว่าพรรคเพื่อทุยที่มี ส.ส.ในสภาเกือบครึ่งทำเวรทำกรรมอะไรกับบ้านกับเมือง และ คิดจะทำอะไรต่อบ้านเมือง อ้ายส.ส.จัญไร



หญิงสาวผู้น่าสงสารคนหนึ่งออกมาแก้ตัวกับสังคมโดยผ่านสื่อว่า งงค่ะ ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปเสียภาษี ทำไมหนูไม่ถามพ่อว่าทำไมพ่อจึงโกงชาติ โกงประชาชนแล้วดันเอาชื่อหนูไปใส่ พ่อรักหนูหรือ รักหนูประสาอะไร





โดนัลด์ รัมเฟลด์ได้ตายลงและไปยังสวรรค์ขณะที่เขานั่งลงหน้าเซนต์ปีเตอร์ที่ประตูมุก เขามองเห็นกำแพงขนาดมหึมาเต็มไปด้วยนาฬิกาอยู่เบื้องหลังเขาจึงถามว่า " นาฬิกาพวกนั้น มันคืออะไร "

เซนต์ ปี เตอร์ ตอบ "มันคือ นาฬิกาแห่งการโกหก ทุกๆคนบนโลกจะมีนาฬิกานี้คนละ 1 เรือนเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณโกหก เข็มนาฬิกาของคุณจะเคลื่อนไป"

" โอ.." รัมเฟลด์ กล่าว " นั่นมันนาฬิกาของใครกัน"

" นั่นเป็นของแม่ชีเทเรซ่า เห็นไหม ว่าเข็มนาฬิกาไม่เคยเคลื่อนที่ไปเลยแสดงว่าหล่อนไม่เคยโกหกเลยสักครั้ง"

" เหลือเชื่อจริง ๆ" รัมเฟลด์ ถามต่อ "แล้วนั่นของใครกันล่ะ"

เซนต์ ปี เตอร์ ตอบ " นั่นคือนาฬิกาของอับบราฮัม ลินคอล์นเข็มนาฬิกาเดินไปสองครั้งบอกให้รู้ว่าอับราฮัมพูดโกหกแค่ 2 ครั้งเท่านั้นตลอดชั่วชีวิตของเขา"

" เอ๊ะ แล้วนาฬิกาของตักขี้อยู่ไหนกันล่ะ" รัมเฟลด์ ถามต่อ

" อ๋อ นาฬิกาของตักขี้อยู่ในห้องทำงานของพระผู้เป็นเจ้าน่ะท่านกำลังใช้มันแทนพัดลมเพดาน "