10 มีนาคม 2553

น่าสงสาร พวกเสื้อแดงถูกหลอก

การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่อม.4/2551 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีที่อยู่ในอำนาจศาลฎีกาฯ -มติเอกฉันท์ คตส.มีอำนาจตรวจสอบโดยชอบ-มติเอกฉันท์ ปกปิดอำพรางหุ้น-มีนอมินี-มติเอกฉันท์ แปลงสัมปทานฯ เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก แก้ไขสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ป-มติเสียงข้างมาก ปล่อยเงินกู้พม่าเอื้อประโยชน์ชินฯ-มติเสียงข้างมาก ยึดคืนเงินปล้นชาติ 4.6 หมื่นล้าน! - มติเสียงข้างมาก รวยแล้วยังปล้นชาติ-ปล้นประชาชน ศาลพิจารณาตามบัญชีทรัพย์สินที่อายัดไว้ในชั้นคตส.ของพ.ต.ท.ตักขี้ คุณหญิงพจมาร พานทองแท้ พิณทองทา ยิ่งลักษณ์และนายบรรณพจน์มีจำนวนเพียงพอที่จะบังคับคดีได้หากไม่เพียงพอก็ให้บังคับจากทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาที่คตส.อายัดไว้แล้วและมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดผู้ถูกกล่าวหาอื่นนอกเหนือจากคนที่ถูกระบุที่คตส.มีคำสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์แล้วรวมทั้งผู้คัดค้านรายอื่นด้วย กว่า 5 ชั่วโมงที่ศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำตัดสินโดยชี้ให้เห็นที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่มต้นจนจบอธิบายถึงการฉ้อฉล การทุจริตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเรียกได้ว่า “ประจานความชั่ว” เห็นไส้เป็นพุงว่ามีใส้กี่ขดกี่ขดได้เห็นกันหมด แต่กระนั้นก็ยังใจดีมีเงินทอน3หมื่นล. ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยฟังความชั่วหมกเม็ดของใครคนใดคนเดียวเต็มๆยาวนานหลายชั่วโมงแบบนี้เลย




ระหว่างที่พ.ต.ท.ตักขี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังได้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทชินคอร์ปและบริษัทในเครือ หลังจากที่ พ.ต.ท.ตักขี้ กินชะมัดได้ให้ญาติและพวกพ้องขึ้นเบิกความคัดค้านการยึดทรัพย์ ถึงคำให้การใดๆที่เป็นผลร้ายต่อบุพการีลูกๆทั้งสามก็ยังแสนดีไม่อยากให้การใดๆอีกแล้วในฐานะลูกกตัญญู ทนายตักขี้กินตัวทำงานให้ตักขี้ด้วยเงินเป็นร้อยๆล้านก็ยังแพ้ความจริงอยู่ดี ตักขี้แพ้ก็เพราะตักขี้ไม่มีสิ่งที่สำคัญนั่นคือความจริง กล้าให้การเท็จต่อศาลสถิตยุติธรรมกันทั้งบ้าน แม่ขี้งกมักมากขายของที่ได้มาฟรีๆให้ลูกด้วยมูลค่าเท็จถึง 3,000 ล้านบาทจึงไม่ใช่โอนที่ทุนอย่างที่ให้การเพราะราคาทุนของแม่เพียง 1,500 ล้านบาทเท่านั้นจะอ้างว่าเป็นการขายปกติได้อย่างไร พี่โอ๊คเองก็ซื้อของจากแม่ก่อนรับโอนหุ้นชินคอร์ปฯ 1 วันทำให้ต้องแบกหนี้ปลอม 3,000 ล้านบาท หากไม่ใช่ทำรายการเพื่อการปรับโครงสร้างการถือหุ้นแทน ยอดของขวัญวันเกิดในโอกาสอายุครบ 20 ปี พี่เอมกับน้องอิ๊งทำไมๆไม่มีของขวัญวันเกิด ลุงบรรพจน์ก็ได้หุ้นมาโดยไม่มีหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นชินคอร์ป มีแม่ขี้งกเป็นผู้ออกเงินชำระทุกบาททุกสตางค์ อายิ่งลักษณ์ที่ซื้อตามกำลังความสามารถที่คาดว่าชำระหนี้ได้และตามแต่พ่อแม้ว งานนี้ก็เพื่อไม่ให้ถือหุ้นกันคนละมากกว่า 25.00% ตามกฏหมาย



ยอดเงินที่อายัดได้จริงๆ คือตัวเลข 66,762,927,024.25 ไม่ใช่ 7.6 หมื่นล้านบาทอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ ยอดดังกล่าวไม่ใช่ตัวเลขสุทธิที่แท้จริงหลายบัญชีก็กระจายออกไปเป็นเงินเล็กเงินน้อยตามบัญชีของลูกของเมีย ของญาติๆ ของขี้ข้า ในบริษัทต่างๆที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในเครือข่ายที่คนในครอบครัวกินชะมัด-ดามาพงศ์ เงินจำนวน 46,373 ล้านบาทนั้นคือจำนวนที่ศาลฎีกาฯ เห็นว่าตักขี้ได้มาโดยมิชอบเข้าลักษณะของการร่ำรวยผิดปกติเท่านั้น เอาเปรียบคู่แข่งทั้งวิธีการบนโต๊ะและใต้โต๊ะ มิใช่เรื่องของการเรียกค่าเสียหายไม่เป็นการชดใช้ต่อการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ประชาชน ผู้บริโภค ระบบแข่งขันในกิจการโทรคมนาคมตลอดจนกิจการดาวเทียมของชาติไทยอย่างรุนแรงมหาศาล ตักขี้ปล้นชาติ โกงไทย ทำร้ายประเทศอย่างอำมหิตเพียงเพื่อให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์ไปส่วนหนึ่ง ประเทศชาติส่วนรวมเสียหายไปด้วยมูลค่าที่มากกว่าที่ตักขี้ได้ไปเสียอีก ตอนนี้สันนิษฐานได้ว่าทักษิณยังมีเงินเหลืออีกมากไม่ต่ำกว่าสองแสนล้านซ่อนอยู่ใน กุหลาบแก้ว ASPEN และ CEDAR



คนที่ชอบบบบบบบบ-คิดว่าผู้บริหารประเทศ “โกงบ้างก็ได้ แต่ขอให้ทำงาน” น่าจะต้องคิดใหม่ การเอื้อประโยชน์แก่ชินคอร์ปฯ ของตักขี้ทำให้ตักขี้ได้รับผลประโยชน์ไปโดยมิชอบ ส่วนหนึ่งแฝงฝังอยู่ในมูลค่าหุ้นและผลประกอบการของชินคอร์ปฯ ผู้บริหารประเทศและหน่วยงานองค์กรอิสระจึงควรต้องพิจารณาลงโทษทางอาญากับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกระทำความผิดกับตักขี้ หน่วยงานของรัฐ ทศท. และรัฐบาล ควรฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแก้ไขสัญญาที่เคยถูกแก้ไขบิดเบือนในสมัยตักขี้ให้กลับมามีสภาพดังเดิม



ห้วงเวลาที่นายสุนัย มโนมัยอุดมดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีดีเอสไออยู่ได้สืบสวนทางลึกเพื่อมาตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลของการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นจนสามารถส่งสำนวนดังกล่าวให้แก่อัยการเพื่อให้อัยการดำเนินการสั่งฟ้องคดี แต่น่าเสียดายที่อัยการในขณะนั้นมีชัยเกษม นิติสิริคุมบังเหียนยังนั่งตำแหน่งอัยการสูงสุดอยู่ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี ซึ่งอ้างว่ากฎหมายไม่เข้าข่ายความผิดและดีเอสไอที่มีทวี สอดส่องมาเบียดท่านสุนัยตกเก้าอี้ไปจึงตามน้ำ ไม่มีความเห็นแย้งต่ออัยการ หุ้นเอสซี แอสเสทที่วิ่งวนไปมาอยู่กับบริษัทนอมินีของพ.ต.ท.ตักขี้สุดท้ายแล้วก็กลับวนไปอยู่กลับคนในครอบครัวกินชะมัดในช่วงกลางปี 2549 ก่อนที่เทขายให้กลุ่มเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ของสิงคโปร์ทำให้ได้กำไรจากการขายหุ้นมากมายแต่กลับไม่ได้มีการเสียภาษีแต่อย่างใด เป็นการเอาอัฐยายซื้อขนมยาย ส่วนเหล่าบรรดากรรมการในบริษัท บรรดาลูกและเครือญาติน่าจะถูกดำเนินคดีอาญาฐานปกปิดรายการทรัพย์สินและสนับสนุนการกระทำความผิด เบิกความอันเป็นเท็จต่อศาล ทั้งอัยการและดีเอสไอในเวลานั้นน่าจะต้องเจอม.157 ป.อาญาฐานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต



ท่านสุนัย มโนมัยอุดมผู้พิพากษาที่เขาได้รับมอบหมายให้ไปกวาดบ้านดีเอสไอ หลังพ.ต.ท.ตักขี้หมดอำนาจลง สร้างผลงานยกระดับองค์กรดีเอสไอให้เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายพิเศษที่ปราศจากการรับใช้พวกนักการเมืองชั่วอย่างแท้จริง ตอนนั้นอิทธิพล โสขุมาผู้พิพากษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับท่านสุนัย มโนมัยอุดมอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในขณะนั้นเมื่อเดินทางกลับจากราชการต่างประเทศ ดีที่ท่านสุนัยได้อยู๋ภายใต้การอารักขาของทัพฟ้าที่การข่าวดีและได้ช่วยปกป้องคนดีของชาติไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่ตำรวจเลวจะได้เข้าจับกุมท่านสุนัยเมื่อก้าวลงถึงพื้นดินประเทศไทย วันนี้ท่านสุนัยได้คืนถิ่นศาลสถิตยุติธรรมแล้วเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของเบื้องพระยุคลบาท



ครั้นเมื่อถูกศาลสูงสุดของประเทศพิพากษาว่ากระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบ ต้องคืนให้แผ่นดิน แทนที่จะขอโทษประชาชนทั้งแผ่นดิน กลับเล่นตีฝีปากไพล่ไปขอโทษลูกเมียของตัวเองเสียนี่ ไม่สำเหนียก และสำนึก ไม่ได้รับรู้แก่นสาระ ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มูลแห่งความผิดและผลแห่งความเสียหายที่ตนเองกระทำต่อแผ่นดินดังที่ปรากฏแจ่มชัดอยู่ในคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ตักขี้คลุ้มคลั่ง ขาดสติ ตีโพยตีพายในเรื่องความไม่ยุติธรรม สั่งให้ขี้ข้าก่อจลาจล-พลิกขั้ว-ยั่วรัฐประหาร-บี้ยุบ ปชป. วิทยุชุมชนก็รับลูกเริ่มปลุกระดมให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แอบระดมผ่านส.ส.อีกด้วย หากมีเหตุรุนแรงหรือวินาศกรรมในหัวเมือง แดงสามเกลอสู้แล้วรวยและตักขี้จะออกมาโบ้ยว่าไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดงตามฟอร์มแต่อุณหภูมิโดยรวมจะสูงขึ้นและเริ่มเข้าสู่ภาวะน้ำขุ่น ในวันเลือดแดงทั้งแผ่นดินรากหญ้ากระอักเลือดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากจากการสั่งฆ่ากันเองของตักขี้ แต่ครอบครัวนักโทษหนีคุกเผ่นออกต่างประเทศปล่อยให้คนเสื้อแดงเสี่ยงตาย รอกลับมาหลังจากที่รากหญ้าถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว คนจนจะได้หมดไปจากแผ่นดินตามความตั้งใจของตักขี้สมใจนึก



น่าสงสารพวกเสื้อแดงถูกหลอกให้ยอมตายแทนตักขี้และถูกหลอกให้บริจาคเงินที่หามาได้อย่างยากแค้นให้เศรษฐีสามแสนล้านอย่างตักขี้ทั้งๆที่หน่วยกองกำลังใต้ดินของตักขี้วางแผนระเบิดหรือยิง M 79

หรือปาระเบิด M67 ฆ่าเสื้อแดงกันเองแม้กระทั่งแกนนำเสื้อแดงแล้วเอาศพแห่เป็นการจุดชนวนมิคสัญญีเพื่อเศรษฐีกว่า 3 แสนล้านซึ่งมีแต่อุดมกินไม่มีอุดมการณ์ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเสื้อแดงจะได้อะไรนอกจากถูกตราหน้าว่าเป็นพวกหนักแผ่นดิน เป็นคนทรยศชาติ เป็นคนทำลายชาติ เพราะเสียค่าโง่หลงไปช่วยเศรษฐีขี้โกงที่ถูกก่นด่าทั้งตระกูลว่า “โคตรโกง โกงทั้งโคตร” ครอบครัวหนึ่งเท่านั้นเอง



ในเส้นทางสู่การทำสงครามครั้งสุดท้ายนั้น 3 กลุ่มอำนาจที่ทรงพลังและทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศจะกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการขับเคลื่อนอย่างไร ทั้งกลุ่มอำมาตย์ กลุ่มคนเสื้อแดงและตักขี้ กินชะมัด รวมทั้งกลุ่มอำนาจใหม่ใส่เสื้อสีน้ำเงินที่มีกองกำลังผสมจากกลุ่มบูรพาพยัคฆ์และพลพรรคที่นำโดยยี้ห้อยบุรีรัมย์และกำนันบ้านนอกจากเมืองหอยใหญ่รวมทั้งการชิงไหวชิงพริบแก้ทั้งเกมรุกและเกมรับของรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ แม้ทุกอย่างจะเป็นใจให้รัฐบาลแต่การทำอะไรอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจำเป็นที่จะต้องมีสถานการณ์พิเศษที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนด้วยและยิ่งได้ไปแฉเรื่องไม้ล้างป่าช้า GT200 ยิ่งทำให้เอกภาพในการควบคุมสถานการณ์บัดซบที่ตักขี้ยัดเยียดให้ประเทศส่งผลให้รัฐบาลกระชับได้เอกภาพที่ดียิ่งขึ้น



เวลานี้เป็นห้วงเวลาที่กลุ่มอำนาจใหม่เขามีความสุขที่สุดเพราะสามารถยืนดูเสือ 2 ตัวห้ำหั่นเข้าใส่กันได้อย่างสบายใจขณะที่ตัวเองก็สามารถเก็บผลประโยชน์ได้เรื่อยๆ เนื่องจากไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงพร้อมอาศัยช่องว่างที่เกิดขึ้นเร่งสะสมเสบียงกรังกันอย่างมูมมาม เช่น ถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายอำมาตย์หรือฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ พวกเขาก็จะสามารถเข้ามาสอดแทรกช่วงชิงสถานการณ์กลายเป็นได้ทั้งตาอยู่ในการดูดส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมสังกัดหรือสามารถขยับขยายสถานะตัวเองให้ก้าวขึ้นไปเป็นป๋าเปรมคนใหม่คนที่ 2 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก สังคมจึงไม่อาจมองข้ามเกมที่จะถูกสรรค์สร้างออกมาจากกลุ่มเสื้อน้ำเงินได้เลยแม้แต่น้อย





















ไม่มีความคิดเห็น: