13 กุมภาพันธ์ 2552

วัตถุอันตราย กพ. 2552

สังคมไทยเป็นสังคมที่ร่มเย็นเพราะพระมหากษัตริย์มาช้านานแล้ว สถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันหลัก ราชวงศ์จักรีทำอะไรมากมายให้แก่ประเทศชาติ ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศและประชาชนของพระองค์มามากมายนับไม่ถ้วน พระองค์ลำบากมามายเพื่อประชาชนของพระองค์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดเลย สถาบันพระมหากษัตริย์นี้จะอยู่คู่กับประเทศไทยที่ยกย่องเชิดชูสถาบันนี้ตลอดไปให้คนทั้งชาติ รวมเป็นหนึ่งใจเดียวกัน ในการดำรงพระราชอำนาจการใช้พระราชอำนาจและการกำหนดพระราโชบายต่างๆมีหลักเกณฑ์เชิงพุทธโดยชอบธรรมทั้งสิ้นเช่นทศพิธราชธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งราชวงศ์จักรีที่ทรงยึดหลักธรรมราชาในการปกครองประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างสมบูรณ์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ว่าราชวงศ์และพระองค์ท่านทำอะไรให้กับประเทศชาติยิ่งใหญ่มหาศาล พระปรีชาสามารถและปรัชญาของพระองค์ได้สร้างความเกรียงไกรต่อสายตาชาวโลกสร้างภาพลักษณ์ชื่อเสียงอันดีงามให้ประเทศไทย ปรากฏการณ์สำคัญยิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราขณะนี้ใครก็ตามที่ไม่เป็นคนหูหนวก ไม่เป็นคนที่ตาบอดหรือไม่ดัดจริตแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวก็ย่อมต้องทราบกันอย่างดีว่าสถาบันสูงสุดของชาติบ้านเมืองกำลังถูกบ่อนทำลายอย่างหนัก ทหาร ตำรวจข้าราชการและประชาชนทุกคนมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เลี้ยงไว้เสียข้าวสุกเปล่าๆปลี้ๆถ้าใครก็ตามไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง ตัวแทนอำนาจเก่าที่ยังตกค้างหลงเหลืออยู่ในทุกวงการให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทั้งในทางลับและเปิดเผยผ่านสื่อสิ่งพิมพ์เว็บไซต์ วิทยุชุมชนและแม้แต่สื่อของรัฐเอง บ้างก็จัดตั้งกลุ่มพูดกันปากต่อปากเพื่อกล่าวหาสถาบัน ประกาศตนอย่างเปิดเผยไม่ยอมรับนับถือ ยุยงให้มีการถอดพระบรมฉายาลักษณ์ออกจากอาคาร ก่อตั้งเป็นกองกำลังข่มขู่คุกคามผู้อยู่ตรงข้าม เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้คนชาวไทยถูกทำให้เกิดความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างที่ไม่เคยปรากฏ ในอดีตประวัติศาสตร์ครั้ง ร.ศ.130 คณะทหารชั้นผู้น้อยกว่า 100 คนเคยคิดการใหญ่ล้มล้างระบบพระมหากษัตริย์จะลอบปลงพระชนม์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯแต่คนที่จะลงมือเกิดกลับใจนับได้ว่าครั้งนั้นเป็นกบฎชุดแรกๆ คนไทยที่รักชาติรักราชบัลลังก์ทั้งหลายต้องรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องจับมือร่วมกันอย่างจริงจังและเหนียวแน่นในการต่อสู้กับพวกกบฏเหล้านี้ ถ้าเราต้องการจะให้เดินหน้าเจิดจ้าก็ต้องยอมเจ็บปวดจากการรื้อสังคมขยะกันจริงๆ จังๆเสียทีมัวแต่อ้อยสร้อยตามน้ำกันไปวันๆ ราชบัลลังก์ สังคม ประเทศชาติและจริยธรรมก็จะดิ่งต่ำใต้นรกลงไปเรื่อยๆ อย่างนี้

ทักษิณเศรษฐีหมื่นล้านมีความชอบธรรมเพราะอ้างเสมอมาจากการเลือกตั้ง การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย(4 วิฯตอนกากบาท) ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เป็นตัวเลือกที่ชดเชยกับความเบื่อระอาต่อความเชื่องช้าและไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ตอนนั้นใครๆ ชื่นชมทักษิณมุ่งหวังว่ารวยแล้วไม่โกงแต่กว่าชาวไทยจะพบความจริงว่าประเทศไทยกำลังถูกทักษิณกินรวบไปคนเดียวระดมเงินทุนแบบไล่แลกแจกแถมในโครงการต่างๆ ทักษิณจึงเป็นราวกับเทพเจ้าองค์ใหม่มาฉุดคนยากคนจนให้ฟื้นขึ้นจากความยากลำบากและมีมีหนี้สินเพิ่มขึ้น หนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลใช้วิธีหว่านเม็ดเงิน ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อเป็นขยะที่ซุกอยู่ใต้พรม เงินของตระกูลชินวัตรและดามาพงษ์มีมูลค่าหุ้น 19,239.08 ล้านบาทใน 3 ปีพบว่าตระกูลชินวัตรมีมูลค่าหุ้นรวมกันถึง 46,810.99 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึง 143% ธุรกิจเครือใน 5 ปีขายได้ 73,000 ล้าน หลังคมช.ยึดอำนาจแล้วให้คตส.ได้ตรวจสอบการทุจริตพบว่ารัฐเสียหายถึงแสนแปดหมื่นล้าน คตส.ขอให้ศาลยึดทรัพย์ทักษิณ76,000 ล้านรัฐบาลอังกฤษยังได้อายัดทรัพย์สินอีก150,000 ล้านบาทที่รัฐบาลต่างๆอายัดไว้รวมกันเป็นเงินถึง 226,000 ล้านเงินของทักษิณไม่ได้หมดแค่นี้ยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่อีก 1.75 หมื่นล้านหลังการเจ๊งการเก็งกำไรไป 1.75 แสนล้านแสดงว่าทักษิณยังมีเงินอยู่ถึง 192,500 ล้านเท่ากับว่าทักษิณเคยมีเงินสูงสุดถึง 418,000 ล้านใน 7 ปี เคยให้สัมภาษณ์ที่ดูไบว่าตัวเองยากจน อยู่อย่างลำบากคนยากคนจนม็อบเสื้อแดงยังอยากจะเรี่ยไรส่งให้มันใช้อีกหรือไม่ 61% ในหุ้นกลุ่มเอสซี แอสเสทที่ได้กว้านซื้อที่ดินแปลงงามจากปรส.ไปถือไว้ในมือด้วยราคาถูกแสนถูกจำนวนมาก นอกเหนือจากธุรกิจสนามกอล์ฟอัลไพน์ โรงแรมเอสซีปาร์ค และมหาวิทยาลัยชิน เงินจำนวนมหาศาลเหล่านั้นมาจากไหน ใคร ๆ ถึงได้ไม่มีความกลัวเกรงใด ๆ ยอมเป็นขี้ข้าทักษิณ นักการเมืองผู้ทรงคุณวุฒิ ข้าราชการ ช่อง 3 ,5 ,7 ,9 , nbt , tpbs , หนังสือพิมพ์ เราชาวไทยต้องขอบคุณสนธิบังที่เริ่มต้นด้วยการตีแสกหน้าทักษิณจนหน้าหงาย สุดท้ายทักษิณจะไม่เหลืออะไร ทั้งเงิน ลูกเมีย อิสรภาพและแม้แต่แผ่นดิน ไม่รู้ว่ามันจะได้นอนหลับสบายดีทุกคืนอยู่อีกหรือไม่ ยื่งเมื่อสูญเสียอำนาจความหวังที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยถูกทำลาย ความแค้นเป็นเหมือนเพลิงเผาผลาญพาลคิดว่าการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ได้รับความเห็นชอบจาก พล.อ.เปรมโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์รับรู้และให้ท้าย คนคนเดียวที่เต็มไปด้วยความแค้นมุ่งหน้าหวนกลับมาแสวงหาอำนาจไปปกครองประเทศเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจคืนมา คงสะใจยิ่งหากสามารถสร้างความเสียหายให้กับมาตุภูมิของมันได้และทำให้หลายคนเสียใจและหลายคนไม่สบายใจ ปลุกระดมมวลชนเพื่อให้ทำสงครามการเมืองกับรัฐเข้าทางกลุ่มอนาธิปไตยไม่ยอมรับระบบการปกครองที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นใจ(รัญ) อึ๊งภากรณ์กินบนเรือนขี้บนหลังคาขี้ขลาดหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปอยู่อังกฤษ ใครบังอาจเหิมเกริมอาจเอื้อมแข่งบารมีกับผู้ที่มีบุญญาธิการขนาดนี้ก็ต้องรับผลกรรมของตัวไป เหล่าทัพย้ำชัดกรณีใจ(รัญ)นี้ว่าบทลงโทษคดีหมิ่นฯยังน้อยเกินไปใครจะมองว่าบทลงโทษนั้นล้าสมัยกองทัพยืนยันว่าจะต้องมีลงโทษแบบนั้น ใครที่มันคิดร้ายต่อพระองค์แม้นแผ่นดินมันก็จะไม่มีอยู่ ใจ(รัญ)ไม่มีความสำนึกว่าชาติพันธุ์ตัวเองเป็นมาอย่างไรได้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาณ มันเองจะรู้ตัวกันไหมว่าหากก่อการครั้งนี้สำเร็จมันก็จะถูกบรรดาพลพรรคซ้ายอกหักเก็บ(ไม่ได้เอาไว้ให้อยู่ยาวๆแต่เป็นการเก็บศพทิ้งต่างหาก)เช่นกันสุดท้ายก็โง่ถูกหลอกใช้อยู่ดี

คนคนนั้นมีพ่อชื่อนายเลิศแม่ชื่อยินดีลูกหลานมากมีกาลีบ้านกาลีเมือง ทักษิณออกใบสั่งถึงเพื่อไทย-นปช.ปิดฉากรัฐบาลโอบามาร์กก่อน 1 พค.ใช้เกมรุกที่ดุดันและเผ็ดร้อนยิ่งกว่าเดิม ทักษิณเองแสดงและเพิ่มบทกร้าวและเกรี้ยวกราดหนักกว่าเดิมแล้วให้ขี้ข้าแล้วลงไปเคลื่อนไหวบนถนนเพราะยิ่งปล่อยให้นานเนิ่นมากเกินไปกำลังพลก็จะอ่อนล้าและลาโรง เค้าลางแห่งความวิบัติกำลังคืบคลานเข้ามามันจึงต้องใช้กลยุทธ์ .บอกกับสมุนว่ายังคงมีเงินเต็มกระเป๋าและจะไม่มีวันลืมบุญคุณ ขาดเหลืออะไรไม่ต้องกังวล.เพราะเสือแม้วหอนอยู่ไม่ไกล นปช.และก๊วนความจริงวันนี้ทวงถามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อจากรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 17 ก.พ.นี้หากประเด็นที่เรียกร้องทั้งหมดไม่เกิดผลเป็นรูปธรรมออกมา ทั้ง 1.ให้ปลดกษิต ภิรมย์ จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ 2.ดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จากกรณียึดทำเนียบรัฐบาล ปิดสนามบินสุวรรณ ภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง 3.แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 โดยใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร. และ 4.ให้อภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี ยุบสภา โดยให้เวลา ดำเนินการ 15 วัน นับตั้งแต่คืนวันที่ 31 ม.ค."แดงทั้งแผ่นดิน" (ที่ไม่น่าจะเกินไปกว่าแมวดิ้นตายของพวกมันในวันนั้น) นปช.และก๊วนความจริงวันนี้เตรียมปักหลักยืดเยื้อหลัง 17 ก.พ.-22 พ.ค.ดึงเกมไปจนกว่าพรรคฝ่ายค้านจะรับไม้เปิดเกมในสภาต่อ "การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงนั้น อาจจะมีทั้งที่เหมือนและต่างไปจากม็อบเสื้อเหลือง"เพื่อย้อนรอยรัฐบาล เพียงแค่การกระทำเยี่ยงอันธพาลของเสื้อแดงที่ผ่านมาเป็นสวะสังคมทำลายศรัทธาคนในระบอบทักษิณไปมากต่อมาก ความเคลื่อนไหวในลักษณะคู่ขนานระหว่างม็อบเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยเตรียมจับมือโจมตีพร้อมกันทั้งในและนอกสภาจริงๆแล้วมีเป้าหมายที่กษิต ภิรมย์เพียงคนเดียวมุ่งหวังจุดประเด็นทางการเมืองเท่านั้นและเป้าประสงค์สุดท้ายยังอยู่ที่เดิมคือการกลับมาเป็นรัฐบาลและทวงคืนทุกสิ่งของนักโทษชาย มันจะสร้างพลังจากภาคประชาชนเสื้อแดงรอซ้ำรัฐบาลหลังพ่ายศึกอภิปรายฯถ้ารัฐบาลพลาดจะมีการใช้แกนนำเครือข่ายกลุ่มร่วมกับหัวคะแนนทำให้มีการขยายตัวอย่างกว้างขวาง เพื่อไทยกำลังถูกหลอกให้ถลำกลับลำไม่ทันน่าจะส่งผลให้เลือกตั้งแล้วเพื่อไทยแพ้ เราเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วพลังม็อบเสื้อแดงอาจไม่มากพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน เพราะรัฐบาลต้องหาทางตัดกำลังม็อบเสื้อแดง เร่งดำเนินการเอาผิดกับบุคคลต่างๆที่ปราศรัยเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง จากการที่ขี้ข้าทักษิณพยายามสร้างข่าวต่างๆทั้งการลอบสังหาร การระงับวีซ่าและทุกข่าวที่เกี่ยวกับทักษิณนั้นเป็นแค่ความตั้งใจที่จะกระตุ้นตลาดในยามที่กระแสเริ่มตก เมื่อนโยบายโลกล้อมประเทศของมันไม่สำเร็จมันจะสู้ทุกรูปแบบ ดึงมวลชนเข้ามาเป็นกำแพงปกป้องมัน บ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวาย ทักษิณกลายเป็นสัมภเวสีที่ลอยแคว้งไปตามกรรมที่ตัวเองก่อไว้ตามที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้เตือนลูกศิษย์คนนี้ที่กลัวคุกจนเกิดอาการจิตตกเพราะไม่ฟังไม่เชื่อและลบหลู่ท่าน .ทักษิณจะไม่มีแผ่นดินให้เหยียบ ทรัพย์สินที่มีอยู่ก็จะหมดไปสิ้น แม้ชีวิตก็ยังรักษาไว้ไม่ได้. มันยังไม่รู้จักสำนึกยังคงสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน

ในสภาเด็กแม้วขุดงบมิยาซาวา-ไอเอ็มเอฟหวังดิสเครดิตรัฐบาลระหว่างอภิปรายงบฯ ที่ผ่านมา 6-7 ปีทักษิณสวาปามคนเดียวกว่า 2 แสนล้านบาทโครงการล้มเหลว 100%เยอะแยะผลาญงบประมาณเพื่อสร้างคะแนนเสียงมาโดยตลอดเด็กแม้วกลับเฉยช่วงสมัครและสมชายกระโปรงก็มายกเว้นค่าน้ำประปา ยกเว้นค่ารถเมล์และอื่นๆอีกเพียงปีเดียวงบกลางถูกใช้ไปอย่างมหาศาล ด้านกรณ์แฉกลับ 3 เดือนกว่าของรัฐบาลสมชายกระโปรงผลาญเงินคงคลัง 1.7 แสนล้าน การเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติที่พรรคเพื่อไทยกำลังเตรียมดำเนินการอยู่ในขณะนี้มีแนวคิดสร้างความสมานฉันท์และความปรองดองแห่งชาติดังกล่าวที่ฟังดูแล้วเหมือนจะดูดีเหมือนกับว่าพรรคจะสนับสนุนแนวทางการสมานฉันท์ แต่ในความเป็นจริงนั้นมันเป็นเพียงแค่แผน ลับ ลวง พรางเพื่อจะฟอกผิดทักษิณและคนในแก้งค์ระบอบทักษิณหรือพรรคไทยรักไทยเดิมเท่านั้นเป็นการท้าทายคำพิพากษาและสูญเสียความน่าเชื่อถือไปนอกจากนี้จะยังทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้งในสังคมอีกด้วย ทุกวันนี้ระดับรากหญ้าก็ยังยากจนค่นแค้นเช่นเดิม ชีวิตไม่ได้มีอะไรดีขึ้น แต่กลุ่มที่ร่ำรวยขึ้นคือกลุ่มตระกูลโคตรโกงและโกงทั้งโคตรส่วนกลุ่มเสื้อแดงที่ออกมาประท้วงนั้นก็ออกมาโดยที่มีพวกหัวโจกหลอกกินเงินจากตระกูลโคตรโกงดังนี้แล้วพลังม็อบเสื้อแดงเลิกหวังได้แล้วว่าอดีตนายกฯ ทักษิณจะนำการต่อสู้ในทิศทางที่จำเป็นสำหรับท่านและอย่าได้ตั้งความหวังกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ขนาดเจ้าของทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้และประธานสโมสรเห็นพ้องต้องกันหลังหารือกับผู้บริหารทีมว่าคงเป็นการไม่เหมาะสมหากจะอนุญาตให้ทักษิณรั้งตำแหน่งสำคัญภายในทีมต่อไปเนื่องจากสถานภาพในปัจจุบัน การเดินทางไปใช้ชีวิตในตะวันออกกลาง จีน และบาฮามาสหลังโดนถอนวีซ่าจากสหราชอาณาจักรเพียงเพื่อหลบเลี่ยงคดีความในประเทศไทยที่ถูกตัดสินจำคุก 2 ปีสร้างความอับอายขายหน้าให้กับสโมสร คลื่นไส้ที่สโมสรยอมให้อาชญากรมีตำแหน่งกิตติมศักดิ์ภายในทีมด้วย

อย่างไรก็ตามในเวลานี้เมื่อมีเกิดกระแสข่าวว่าประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ จีนและญี่ปุ่นอาจจ่อคิวยกเลิกวีซ่าเข้าออกประเทศเช่นเดียวกับอังกฤษนั้น ได้เกิดความเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ของทักษิณที่มักเลือกโฟนอินผ่านสถานีดีทีวีเพื่อเขย่ารัฐบาลบ่อยครั้ง แต่การที่รัฐบาลไทยผ่านการเลือกตั้งและอยู่ในระบอบประชาธิปไตยมาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วการอาศัยพื้นที่ของต่างชาติในการโจมตีรัฐบาลไทยจึงเป็นหลักสากลที่รัฐบาลย่อมไม่อาจให้เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐได้

http://www.oknation.net/blog/indexthai/2008/12/01/entry-1

นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.นช.
.พืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืชพืช

หากนำเอาคำนิยามคำว่า วัตถุอันตราย ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายปี 2535 มาเป็นที่ตั้ง อันได้แก่ วัตถุระเบิดได้, วัตถุไวไฟ, วัตถุออกซิไดซ์, วัตถุเปอร์ออกไซด์, วัตถุมีพิษ, วัตถุที่ทำให้เกิดโรค, วัตถุกัมมันตรังสี, วัตถุที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม, วัตถุกัดกร่อน, วัตถุที่ทำให้เกิดการระคายเคือง, และวัตถุอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใดที่ทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคล-สัตว์-พืช-หรือสิ่งแวดล้อม... คณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศให้ ผลิตภัณฑ์จากชิ้นส่วนพืช ซึ่งไม่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี 13 ชนิด อันได้แก่ 1.สะเดา 2.ตะไคร้หอม 3.ขมิ้นชัน 4.ขิง 5.ข่า 6.ดาวเรือง 7.สาบเสือ 8.กากเมล็ดชา 9.พริก 10.คึ่นช่าย 11.ชุมเห็ดเทศ 12.ตองตึง และ 13.หนอนตายหยาก...ขึ้นทะเบียนเป็น วัตถุอันตราย ที่พอเข้าข่ายนิดๆ ก็เช่นประเภทพริก ที่พอได้แสบปาก แสบคอกันบ้าง ถ้าหากดัน แ-ก เข้าไปมากๆ หรือ สาบเสือ ที่อาจก่อความระคายเคือง ถ้าดันเอาตูดไปทับไปครูด แต่ถ้าหากรู้จักหยิบ รู้จักใช้...มันก็ไม่น่าจะถึงขั้นที่จะกลายเป็น วัตถุอันตราย ใดๆ แม้แต่น้อย... การประกาศขึ้นทะเบียนสมุนไพร 13 ชนิดให้เป็น วัตถุอันตราย นั้น เน้นหนักเฉพาะการนำเอาสมุนไพรเหล่านี้มาแปรรูป ให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้จำกัดแมลง หรือเป็นยาปราบศัตรูพืช วัชพืชเพื่อการค้าเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับการปลูก การจำหน่าย การนำเอามาใช้รักษาโรค หรือการรับประทานแต่อย่างใด
คุณ วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ซึ่งคลุกคลีกับการต่อสู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศไทย เกษตรกรไทยมานานแสนนานสรุปเอาไว้ว่า... "เจตนาของการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ สามารถมองได้หลายมุม หากมองในแง่ดีก็อาจจะเพื่อต้องการควบคุมพืชที่จะนำมาสกัดเพื่อใช้ประโยชน์ ให้มีคุณภาพดี ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และผู้บริโภค แต่ถ้าหากมองอีกมุมหนึ่ง ก็อาจเพื่อต้องการกีดกัน สกัดกั้นการนำเอาสมุนไพรมาสกัดเป็นสารกำจัดวัชพืช และเปิดทางให้กับการใช้สารเคมีทั่วไป ซึ่งไม่แน่ใจว่า...จะเป็นการผลักดันของบรรดากลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ (ชื่อย่อนักการเมืองที่คาดว่าจะมีเอี่ยว -น- / ข้าพเจ้าเติมเอง) ที่แอบแฝงมาหรือไม่ เช่นพวกกลุ่มบรรษัทยาฆ่าแมลง หรือบรรษัทข้ามชาติ..." ??? ??? ???
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรคนก่อน คุณ อดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ ความพยายามที่จะรณรงค์ให้บรรดาเกษตรกรทั่วประเทศ ลด-ละ-เลิก การใช้สารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืช เป็นไปอย่างเอาจริงเอาจังและน่าชื่นชมไม่น้อย เพราะจากสถิติที่ให้ข้อพิสูจน์นับเป็นสิบๆ ปี ยืนยันเอาไว้อย่างชัดเจนว่า...ความไม่คุ้มค่า หรือกระทั่งผลเสีย อันเนื่องมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์จากสารเคมีเพื่อการเกษตร ที่มักจะต้องสั่งตรงมาจากต่างประเทศนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลบวกกับเกษตรกรอย่างเท่าที่ควรจะเป็น การรณรงค์ให้เกษตรกรหันมาใช้พืชสมุนไพร อย่างสะเดา สารสกัดจากอินทรียวัตถุ (สมุนไพร) ไล่แมลง ใช้กากเมล็ดชากำจัดหอยเชอรี่แทนสารพาราไธออนฯ ที่ส่งผลให้ปลาตาย กระทบต่อผู้บริโภค จนต้องห้ามนำเข้ามาแล้ว ใช้ไส้เดือนฝอย แตนเบียน ตัวห้ำเบียน ฯลฯ ปราบศัตรูพืชแต่ละชนิด นอกจากจะทำให้การนำเข้าสารเคมีลดลงไปอย่างฮวบๆ ฮาบๆ ในแต่ละปี ยังเป็นการช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม ช่วยคุ้มครองผู้บริโภค ตลอดไปจนถึงช่วยสนับสนุนทิศทางในการทำการเกษตร แบบเกษตรกรรมธรรมชาติ เกษตรตามทฤษฎีใหม่ หรือเกษตรพอเพียง ฯลฯ ควบคู่ไปด้วย พูดง่ายๆ ว่านอกจากจะเป็นการช่วยเหลือประเทศไทย ช่วยเหลือคนไทย เกษตรกรไทยแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียผลประโยชน์ ที่บรรษัทข้ามชาติ ซึ่งมักจะร่วมมือกับข้าราชการไทยตักตวงเอาจากประเทศและเกษตรกรไทยมาโดยตลอดนั่นเอง... จากบทความของท่านขุนน้อย 12 กุมภาพันธ์ 2552 กองบรรณาธิการไทยโพสต์
สังคมควรตรวจสอบสายสัมพันธ์ของบุคคลทั้ง 3 คนนี้ให้ดีว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของการออกประกาศฉบับดังกล่าว โดยคนแรกเป็นข้าราชการระดับสูงอดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็น ส.ว. มีอักษรนำ คือ "อ" มีความสนิทสนมกับ นักการเมืองภาคอีสาน อักษรนำ "น" และทั้ง 2 คนนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทสารเคมีข้ามชาติ มีอักษรนำคือ "ม" "ห" แหล่งข่าวกล่าว จากบทความรุมจวกขึ้นบัญชี 13 สมุนไพรไทยเป็น "วัตถุอันตราย" เล็งพบนายกฯจี้ตั้งคณะกก.สอบหาต้นตอ -- http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1234404330&grpid=01&catid=04

10 กุมภาพันธ์ 2552

The King Never Smile AS THE ONLY TYRAN IS ALIVE STILL

เมื่อรัฐบาลทักษิณเติบโตขึ้นมากจนรู้สึกว่าตัวเองได้รับความนิยมสูงสุดรัฐบาลทักษิณเองก็ไปเชื่อว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมานั้นเป็นเรื่องจริง - believe in his own propaganda มองข้ามสถาบันอื่นๆ ที่เป็นที่นิยม เคารพ ศรัทธาของประชาชนไป เพราะฉะนั้นความคิดที่บอกว่าระบอบนี้เขาจะทำให้สถาบันเป็นเพียงสัญลักษณ์ก็เริ่มออกมาโดยในช่วงต้นๆ ไม่มีใครเอะใจแม้จะมีหนังสือเรื่อง The King Never Smile ของพอล แฮนด์ลีย์ (Paul Handley) ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเยล สาเหตุที่ทักษิณ ชินวัตรต้องถูกปฏิวัติล้มล้างอำนาจนอกจากพฤติกรรมเหลิงอำนาจและวางตัวไม่เหมาะสมแล้วยังมีสาเหตุหนึ่งมาจากความเชื่อที่ว่าเขาคือพระเจ้าตากสินฯกลับชาติมาเกิดจึงมีการเขียนชื่อ THAKSIN เป็น TAKSIN ระหว่างรัฐบาลทักษิณนั้นได้มีผู้กำกับชื่อดังมีแผนที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่อง "พระเจ้าตากสินฯ" ที่จะให้โอ๊คพานทองแท้แสดง อีกหนึ่งความเชื่อที่ว่าในชาติภพหนึ่งทักษิณก็เคยเกิดเป็นกษัตริย์พม่าซึ่งเคยก่อกรรมกับคนไทยในสมัยอยุธยาไว้จนทำให้ทักษิณต้องไปแก้กรรมที่อยุธยาโยงกับสายสัมพันธ์ที่ดีของทักษิณกับผู้นำทหารพม่าในเชิงประโยชน์ ทั้งการปล่อยเงินกู้ 4 พันล้าน และการทำธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมกับพม่า หรือแม้แต่ข่าวลือในเมืองเหนือถึงพิธีเชือดไก่บนดอยสุเทพที่ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่แล้วใครเป็นคนลงมือทำพิธีแต่ก็มีความพยายามจะโยงกับการแก้เคล็ดไสยศาสตร์ของทักษิณด้วยนั่นเอง กอรปกับเคยมีการเปิดประเด็นโจมตีทักษิณเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไปทำพิธีทำบุญประเทศในวัดพระศรีรัตนศาสดารามและปราสาทพระเทพบิดรซึ่งถูกมองว่าเป็นการปราบดาภิเษก แต่ก็มีอดีตโหรแย้งว่าทักษิณไม่ใช่พระเจ้าตากสินฯ กลับชาติมาเกิดและเชื่อว่าพระองค์ท่านได้กลายเป็นพระสยามเทวาธิราชที่คอยปกป้องดูแลชาติบ้านเมืองแล้ว ไม่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว

การครอบงำสื่อโดยทางตรงและทางอ้อมของระบอบทักษิณในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโดยรวมของประเทศชาติ,สังคมไทย,สถาบันกษัตริย์ อิทธิพลของการประชาสัมพันธ์หรือการทำ Propaganda (โฆษณาชวนเชื่อ) ของทักษิณหลังจากวันที่ 19 กันยายน 2549 มีอิทธิพลบ้างในแง่ของความคิด ในแง่ของความรู้ ในแง่ของข้อมูลที่ได้มา ธรรมดาในสภาพการณ์ปรกติทุกครั้งที่มีการตั้งรัฐบาลหรือมีงานเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อสำนักข่าวต่างประเทศเขียนถึงพระราชกรณียกิจอันงดงามของในหลวง แต่หลังการก่อกำเนิดระบอบทักษิณก็จะมีบางส่วนที่เสริมเนิ้อความบางส่วนอ้างอิงจาก The King Never Smile ใส่เข้าไปในคอลัมน์มากน้อยต่างกันไป เช่นนิตยสารดิอีโคโนมิสต์ ที่แทบจะยกออกมาทั้งหมดเลย วันที่ 6-12 ธ.ค. 2551 มีการเผยแพร่บทความเรื่อง “The king and them” และ “A right royal mess” ยิ่งเมื่อมีการยึดอำนาจ 19 กันยาฯ ก็เริ่มออกมาถล่มทันที เบื้องหลังการยึดอำนาจในประเทศไทยคืออะไรเป็นการปฏิวัติโดยคณะนั้นคณะนี้ เป็นเรื่องแปลกที่ในหลวงทรงรับรองในทันทีและคนที่นำเข้าไปคือพลเอกเปรม ทำไมต้องปฏิวัติ? ก็เพราะว่ารัฐบาลทักษิณเป็นที่นิยมมากในประเทศไทย มันไปเป็นภัยคุกคามต่อสถาบัน ทำให้ความนิยมของสถาบันเสื่อมถอยลง แต่ว่าทั้งหมดสำนักข่าวเหล่านั้นจะตัดตอน จะไม่เขียนว่าทักษิณถูกข้อหาคอร์รัปชันอย่างไร ถูกข้อหาโกงอย่างไร ถูกข้อหาล่วงละเมิดสถาบันอะไรอย่างไร นานเข้า ๆ ได้เขียนถึงการปฏิวัติรัฐประหารและแง่ลบของสถาบัน ที่เดิมๆ นักข่าวต่างประเทศมีอคติต่อสถาบันมองแบบไม่ศรัทธาอยู่แล้ว สำนักข่าวเหล่านี้เขาไม่คิดว่าวิจารณญาณของคนไทยกับคนฝรั่งมันไม่เหมือนกัน การศึกษา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี จึงมีการเอาข้อมูลของระบอบทักษิณที่เป็นเชิงบวกทั้งหมดป้อนเข้าไป

จากกรณีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ ม็อบเสื้อแดงหลายต่อหลายครั้งมีการจงใจกระทำการจาบจ้วงสถาบันทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยมีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ละเลยเพิกเฉยในการละเมิดสถาบัน การนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์มาติดด้านข้างข้อความอภิสิทธิ์ชนโจรมีเพียง ASTV ผู้จัดการรายวัน ไทยโพสต์ และแนวหน้า 3 ฉบับ เท่านั้นที่นำเสนอภาพอภิสิทธิ์ชน โจรและการกระทำจาบจ้วงดังกล่าว ขณะที่หนังสือพิมพ์ไทยหัวสี-หัวขาวดำ อื่นๆ ต่าง “เพลย์เซฟ” ด้วยการแสร้งหลับตาข้างหนึ่ง โดยทำนิ่งเงียบเป็นเป่าสาก - การปราศัยของนางดา ตอ(ตีน)ปิ๊โด่, สหายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำนปช., วีระ มุสาพงษ์จนก่อให้เกิดการจับกุมในข้อหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 - ปล่อยให้มีธงชาติไทยที่มีข้อความพ่อก็ไม่รักแม่ก็ลำเอียงปรากฏในที่ชุมนุมที่สนามศุภฯ - ทำฉากเวทีที่มีรูปไดโนเสาร์สวมแหวนเพชรบลูไดมอนด์ - การปรากฏขึ้นของเว็บไซต์มนุษยดอทคอม (www.manusaya.com) ในปี 2547 โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือ ลิดรอนพระราชอำนาจโดยทำให้สถาบันกษัตริย์ไทยเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ ปัจจุบันเว็บไซต์เหล่านี้มีมากมายเช่นฟ้าเดียวกัน ประชาไท - การสัมนาทั้งนอกและในประเทศของอีเพ็ญ - การเผยแพร่ภาพธงชาติสาธารณรัฐสยามที่ปราศจากแถบสีน้ำเงินในเว็บไซต์บางแห่ง - สื่อวิทยุ วิทยุชุมชนไกลปืนเที่ยง โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ตเกิดเว็บไซต์ที่กล่าวร้ายหรือชักชวนเชิงวิชาการให้การแสดงความคิดเห็นเพื่อต่อต้านสถาบันและมีนิตยสารเชิงอนาธิปไตยเสรีคติที่อุดมด้วยบทความเชิงวิชาการเปรียบเทียบระบอบประชาธิปไตยลักษณะต่างๆ ที่มีในสากลและชี้จุดอ่อนจุดด้อยของสถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศผุดจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน อย่างไม่เกรงกลัวแสงแดดอีกต่อไป - ใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ ( ผมไม่ใช่ “คนไทย” ภูมิใจเป็นจีนปนอังกฤษ สุนัขที่มีบิดาเป็นพยัคฆ์อย่างคุณป๋วย อึ้งภากรณ์ ) อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ผกก.สน.ปทุมวันและพ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวันหลังจากถูกออกหมายเรียกในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 กรณีเขียนหนังสือเรื่อง A Coup for the Rich มีเสื้อแดงประหยัดน้ำเลี้ยงขนป้ายเดิมที่เคยใช้เชียร์จักรภพมาก่อนคอยยกให้กำลังใจ - ใจ อึ๊งภากรณ์เป็นแกนนำคนสำคัญในการรณรงค์ล่ารายชื่อชาวไทยและชาวต่างประเทศ (นิธิ เอียวศรีวงษ์ สุชาดา จักรพิสุทธิ์ ผส. ดร. สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ พล.ต.ต.ฌรงค์ วิทยารัก และอื่นๆ http://www.newskythailand.com/board/index.php?topic=4660.0)เป็นกลุ่มหนึ่งที่ดำเนินการจัดสัมมนาที่คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในหัวข้อเรื่อง“ยุติการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับผู้รักษาประชาธิปไตย” (แก้กันที่ปลายเหตุ http://mblog.manager.co.th/demontee/th-46478/)โดยมีการเชิญชวนให้ลงชื่อให้มีการยุติกฎหมายฉบับนี้ การวิพากษ์วิจารณ์ของผู้สื่อข่าวบีบีซีนายโจนาธาน เฮด (Jonathan Head) และนายแฮรี่ นิโคไลส์ (Harry Nicolaides) ผู้สื่อข่าวและวิทยากรชาวออสเตรเลียที่ถูกพิพากษาจำคุก 6 ปี แต่สารภาพลดครึ่งหนึ่ง การให้ร้ายสถาบันทั้งทางตรงและทางอ้อมทั้งหมดทั้งปวงนั้นเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปีแล้ว และ ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากวันที่ 7 ต.ค.เป็นต้นมาในช่วงพันธมิตรชุมนุมและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์เรียกกันว่าวันตาสว่างแห่งชาติ

ใจ รัญ เอ้ย ใจ อึ๊งภากรณ์กล้าเขียน A Coup for the Rich กล้าวิจารณ์ แต่ไม่กล้ารับผิดไม่กล้าสู้คดีหมิ่นฯ เดินตามรอยทักษิณหนีไปกบดานที่อังกฤษอ้างกลัวถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมแต่กล้าเชิญร่วมลงชื่อ ยุติการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กับผู้รักประชาธิปไตยและให้พวกมันได้ติดคุกไปพร้อมๆกันได้ที่ http://www.thaingo.org/prboard_1/view.php?id=7949 ถ้าเห็นด้วยกรุณาส่งชื่อจริงและนามสกุลจริงมาที่ : giles.lessemajeste@gmail.com เพราะกฎหมายบทนี้ไม่สมควรยกเลิกอย่างยิ่งขนาดมีบทนี้มีไว้เพื่อมิให้ผู้ใดล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และรัชทายาทพวกมันช่างกล้านัก
“การหนีไปของ รศ.ใจ ไม่แฟร์ ในเมื่อ รศ.ใจ มีแถลงการณ์ออกมา แล้วคนที่ร่วมลงรายชื่อก็เห็นด้วย เพราะเชื่อใจว่า รศ.ใจ เป็นนักวิชาการที่บริสุทธิ์ ... " รศ.สมเกียรติ ตั้งนโม คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ร่วมลงชื่อด้วยถึงกับร้องจ๊าก
ทักษิณที่มักจะระบุว่าเขาถูกเลือกใช้กระบวนการยุติความเป็นธรรมแต่กลับยิ่งฟ้องคนโน้นคนนี้ในศาลเมื่อถูกกล่าวถึง ทีอย่างนี้กลับเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมขึ้นมาทันที หรือว่าเราจะต้องรอให้สถาบันปี้ป่นไปกับคำวิจารณ์ วิพากษ์ ให้ร้ายที่พวกมันสร้างสรรค์จรรโลงขึ้นโดยไม่มีมาตรานี้อยู่ พ้นจากนี้มาตราต่อๆไปเกี่ยวกับสถาบันก็จะค่อยๆทะยอยถูกถอดไปจนสถาบันเป็นตรายาง สัญลักษณ์เท่านั้น คนที่จะได้ประโยชน์จากความอ่อนแอในเมืองไทยก็คงหนีไม่พ้นกลุ่มนิยมทักษิณกับชาวต่างประเทศที่ไม่ต้องการเห็นประเทศไทยแข็งแกร่งจึงจ้างนักรบไซเบอร์ นักวิชาการทางสังคมศาสตร์ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วแพร่ความคิดประชาธิปไตยที่มีความซับซ้อนในตัวของมันเองอยู่แล้ว ภาพต้นไม้ใหญ่ต้นระบบทุนนิยมสามานย์มีทักษิณชายผู้น่าอิจฉาที่สุดในโลก (-- http://mblog.manager.co.th/kingkoon/th-49214/) เป็นรากคอยลำเลียงอาหารเลี้ยงลำต้น กิ่ง ก้านและใบลำต้นมีการต่อกิ่ง ทาบกิ่งหลากหลายสายพันธุ์กิ่งพันธุ์นักวิชาการแนวมาร์กฯ ...กิ่งพันธุ์ซ้ายตกขอบหลงยุค...กิ่งพันธุ์กาฝากสอพลอทุกกิ่งพันธุ์มีจุดมุ่งหมายคล้ายกัน...และทำหน้าที่คล้ายกันสังเคราะห์แสงสีแดง...ให้เติบใหญ่ เอ๊ะหรือภาพกบฏ งงๆ อยู่

หมายเหตุ
กบฏหมายถึงประทุษร้ายต่อราชอาณาจักรทรยศต่อความเป็นชาติหรือหวังที่จะทำลายรากฐานของความเป็นชาติ เช่นการคิดล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครองของชาติที่เมื่อหากกระทำการไม่สำเร็จก็เป็นกบฏ เช่น เมื่อใครก็ตามทำรัฐประหารหรือปฏิวัติเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและถูกต่อต้านจนพ่ายแพ้กระทำการไม่สำเร็จก็เป็นกบฏไปทันที หลายครั้งที่คณะทหารร่วมกับนักการเมืองหรือนักการเมืองร่วมกับคณะทหารทำการรัฐประหารโค่นล้มอำนาจฝ่ายบริหารแต่ล้มสภานิติบัญญัติไม่สำเร็จก็กลายเป็นกบฏไป เช่นนี้ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนเกิดเหตุการณ์กบฏ รศ. 130 ที่กลุ่มนายทหารชั้นผู้น้อยร่วมกับพลเรือนคิดประทุษร้ายและล้มล้างระบบกษัตริย์เพราะความน้อยใจและคับแค้นใจเลยคิดกบฏแต่ล้มเหลวและพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเมตตาไม่ได้ใช้พระราชอำนาจตามระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ขจัดศัตรูการเมืองของพระองค์คงให้มีการไต่สวนและลงโทษตามกระบวนกฎหมายในสมัยนั้น