"สมชาย(กระโปรง)"ไม่ลาออกการเจรจาโดยตรงจึงเป็นไปได้ยาก ย้ำความเสียหายของบ้านเมืองมาจากความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลทรราช ระบุหากศาลรธน.ตัดสินคดียุบพรรค 2 ธ.ค.นี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2551 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ 2 ประการคือ
1. คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ยับยั้งมิให้สภาเผด็จการทาสระบอบทักษิณแก้ไข เพื่อฟอกความผิดให้ตัวเองและพวกพ้อง
2. ขับไล่รัฐบาลทรราชฆาตกร ที่ทำตัวเป็นหุ่นเชิดให้กับนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องและวงศาคณาญาติ สนับสนุนและอยู่เบื้องหลังการเข่นฆ่าประชาชน ใช้สื่อมวลชนของรัฐโกหกหลอกประชาชน สนับสนุนการทำลายกระบวนการยุติธรรม ใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินอย่างไม่โปร่งใสจนประเทศชาติใกล้จะล่มจม สนับสนุนและอุ้มชูบริวารและพวกพ้องที่ดูหมิ่นและอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำความผิดต่อจริยธรรม
พันธมิตรใช้สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ และปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 63 เพื่อทำหน้าที่ของชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้
อย่างไรก็ตามภายใต้ “สิทธิในการชุมนุม” และ “การทำหน้าที่ของชนชาวไทย” ตามรัฐธรรมนูญนั้น หาได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดนี้ไม่ ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีการจัดตั้งอันธพาลของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมสมรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจ ให้มีการใช้อาวุธสงครามประเภทระเบิดยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมใจกลางพระนคร จำนวนกว่า 10 ครั้ง เป็นผลให้ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาได้มีประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ได้เสียชีวิตแล้วรวมทั้งสิ้น 4 คน บาดเจ็บอีกจำนวนหลายร้อยคนและพิการอีกจำนวนมาก ตลอดจนใช้อาวุธสงครามประเภทปืนและระเบิดยิงเข้าใส่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี หลายครั้งเพื่อหวังทำลายการถ่ายทอดสดการชุมนุม โดยที่รัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด หาได้แสดงความรับผิดชอบแต่ประการใด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 กรณีการสลายผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา ภายใต้กรรมาธิการวุฒิสภา 3 คณะ ซึ่งมีผลสรุปอย่างชัดเจนตรงกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการทำให้เกิดการสังหารและทำร้ายประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมพันธมิตร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข
ทั้งนี้ พันธมิตรกราบขออภัยมายังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินการในครั้งนี้ แต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อหยุดอำนาจของรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดให้ได้อย่างถึงที่สุด
พันธมิตรขอเรียกร้องต่อพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพร่วมมือกับพันธมิตรช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลคณะนี้ลาออกโดยเร็วที่สุด ขจัดเภทภัยของสังคมไทย นำประเทศไทยที่ดีงามด้วยจริยธรรมกลับคืนมาสู่สังคมโดยเร็วที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น