12 เมษายน 2552

มูลเหตุแห่งวิวาท


วิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้ใด หมู่คณะใด เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และใครเป็นผู้กระพือ ความจริงวันนี้ อันเป็น มูลเหตุแห่งการวิวาท ที่หลวงพ่อผู้ทรงศีลได้เทศนาโปรดนักรบปัญญาชนแห่งกองทัพภาคที่ 3

หนึ่ง. “มีความเป็นผู้มักโกรธ มีความผูกโกรธ” เช่น โกรธผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ โกรธป๋า โกรธ คมช. โกรธพลเอกสุรยุทธ โกรธสองสนธิ โกรธเสื้อเหลือง ฯลฯ

สอง. ”มีความลบหลู่ ตีเสมอ” ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่สำรวมกิริยาวาจา(ใจ) สามหาว “เมตตา”หลวงตาบัว ฯลฯ

สอง. “ความริษยา ในสักการะเป็นต้นของผู้อื่น และความตระหนี่” ทนเด็กวานซืนไปเด่นในเวทีโลกไม่ได้ ภาษาอังกฤษเหนือชั้นฯลฯ

สี่. “ความเป็นผู้โอ้อวด เจ้าเล่ห์ ปกปิด ความชั่วที่ตนทำ” ผมไม่เคยทำผิดอะไร แต่พวกมันช่วยกันใส่ความ มันอิจฉารวมหัวกันเล่นงานผม ผมมันบ้าทำงานไม่ลืมหูลืมตา จนอีกไม่กี่ปีคนไทยก็จะพากันเลิกจนทั้งประเทศอยู่แล้วฯลฯ

ห้า. “ความเป็นผู้มีความปรารถนาลามก เป็นผู้ทุศีลปรารถนาความยกย่องที่ตนไม่มี เป็นความเห็นผิด” เก่งเหมือนปรีดี พนมยงค์ กล้าเหมือนแมนเดลลา ปฏิรูปยิ่งใหญ่ปาน ร. 5 มีประเทศนับไม่ถ้วนคอยให้ไปช่วยแก้ความจน ประเทศเพื่อนบ้าน ทหาร ตำรวจเป็นของพวกเราฯลฯ

หก. “ความเป็นผู้ถือมั่นทิฏฐิของตน” ไม่ยากเลยครับ ผมจะทำให้ประเทศชาติมั่งคั่ง ประชาชนพ้นความยากจนทั่วถึง หากเสียงปืนแตกเพียงหนึ่งนัดเมื่อไร ผมจะกลับมาทันที มานำหน้าพี่น้องกอบกู้เอาประชาธิปไตยที่แท้จริงของเรากลับคืนมาฯลฯ

ปราโมทย์ นาครทรรพ 12 เมษายน 2552 19:55 น.






ไม่มีความคิดเห็น: