11 เมษายน 2552

สัตว์มันจะทำ - animal will do ที่ทักษิณจะเป็นได้ ... ไม่ใช่สัจธรรม

ทักษิณชอบอ้างว่าถูกรัฐประหารกลั่นแกล้งและกระบวนการยุติธรรมกลายเป็นกระบวนการยุติความเป็นธรรมออกให้ประชาชนรับรู้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโต้แย้งใดๆทั้งๆที่ทักษิณก็ยังตอบไม่ได้เลยว่าหลักฐานที่ปรากฏนั้นมีอะไรบ้างที่เป็นเท็จ กลัวติดคุก และกลัวถูกยึดทรัพย์ จึงดิ้นพล่าน ทุกวิถีทาง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว อ้างประชาธิปไตย อ้างต่อต้านรัฐประหาร อำพราง กลบเกลื่อนด้วยคำที่ฟังดูดีน่าทุเรศ... เพราะงาช้างไม่มีวันงอกจากปากสุนัข ทักษิณยุยงประชาชนเสื้อแดงบ่อยๆว่าอย่าไปเชื่อฟังรัฐบาลปลุกปั่นไม่ให้คนเชื่อมั่นในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลพร้อมคุยโวว่าตนเองสามารถแก้ปัญหาความยากจนได้แน่นอนหากไม่ถูกรัฐประหารเสียก่อนและถ้าให้โอกาสตน เจ้ามูมมามทุ่มหมดหน้าตักกันเลยฉิบหายเท่าไหร่เท่ากันเพื่อที่จะไม่ต้องหนีคุกหนีตะราง ล้มความผิดตนที่ได้ก่อไว้ได้ ยืมมือประชาชนด้วยวิธีต่างๆนานาเพื่อให้ออกมาเป็นโล่ห์มนุษย์ให้ตนได้กลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุก ได้ทรัพย์สินอันมหาศาลที่ถูกอายัดไว้กลับคืนและเผลอๆ ก็จะได้เข้าสู่อำนาจอีกครั้ง เส้นทางข้างหน้ามันชักตีบตันเข้าไปทุกทีทักษิณถูกกลืนหายบรรลัยแน่ถ้าขืนปล่อยให้เด็ก 2 คนกินรวบหัวรวบหางไปเรื่อยๆ ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ก็เลยต้องแตกหักทั้งๆที่ในความเป็นจริงทักษิณไม่ติดขี้ตีนอภิสิทธิ์ทั้งในเรื่องบุคลิกและทัศนะบนเวทีโลกอุตส่าห์จ้างพีอาร์ระดับโลกชิงพื้นที่ข่าว ทักษิณเลยเตะตัวเองเป็นหมูเข้าปากหมาให้ลิ่วล้อหลอกแดกได้ระดมพลจากทุกภาคให้ไปล้อมทำเนียบไม่ได้หวังยึดประเทศไทยแต่หวังเตะตัดแข้ง-ตัดขารัฐบาลอภิสิทธิ์ไว้

การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จบไปนั้นโหวตบอกผลการทำงานว่าควรอยู่หรือควรไปไม่ได้เลยเพราะคะแนนเหล่านั้นไม่ได้มาจากดุลยพินิจผลงานก่อนโหวตแต่มาจากอคติส่วนตัว เป็นการอภิปรายอันเป็นกระสุนด้านที่ฝ่ายค้าน-แค้นแพ้ยับเยิน สาธารณชนก็ไม่เอาด้วย อภิสิทธิ์กลับได้คะแนนนิยมของประชาชนมากขึ้นแถมอภิสิทธิ์ยังได้รับการขานรับจากนานาประเทศผิดกับยุคของทักษิณ ทำให้นับวันพรรคเพื่อไทยจะแสดงบทบาทเป็นพรรคฝ่ายแค้นมากกว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านชัดเจนและแข็งกร้าวรุนแรงมากขึ้นทุกขณะโดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับม็อบกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ ภายหลังความพ่ายแพ้อย่างยับเยินในสภาพรรคเพื่อไทยจึงพยายามผลักดันร่างกฏหมายว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรเมื่อเร็วๆนี้ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีเป้าหมายแฝงเร้นทางการเมืองเพื่อฟอกโทษและความผิดคดีทุจริตทั้งหมดของทักษิณโดยมีสาระสำคัญที่กำหนดให้มีการนิรโทษกรรมความผิดทั้งหมดอันเป็นผลพวงของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จนกระทั่งถึงวันที่ 5 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ส่อเจตนาวางแผนนิรโทษกรรมความผิดล่วงหน้าให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงสอดรับกันอย่างแนบแน่น ทำไมต้องเป็นวันที่ 5 พ.ค. ก็เพราะวันนี้ในอดีต เมื่อปี 2493 รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวายและทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" เจตนาของคนเสนอไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะให้ร่างกฎมายนี้เข้าสู่การพิจารณาในสภาอย่างแท้จริงแต่ออกกฏหมายเพื่อฟอกล้างความผิดให้กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยสาระบัญญัติของกฎหมายก็ดีไม่ได้เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าจะทำไปสู่การปรองดองแต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งให้ลุกโชนและลุกลามรุนแรงยิ่งขึ้น ทำลายความศักดิ์สิทธิ์แห่งสถาบันศาลอย่างยับเยิน

ขบวนการเสื้อแดงบริวารทักษิณถึงได้ประกาศล้มล้างรัฐบาลชุดใหม่เน้นย้ำถึงการ สร้างรัฐไทยขึ้นมาใหม่ โดยนายวีระ มุสาไปวันๆเมื่อครั้งที่ประกาศทำสถานีโทรทัศน์ดี-สเตชั่น เมื่อต้นปี 2552 กระบวนการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งที่หนีไปโดนหมายจับทั้งที่ถูกติดคุกไปแล้ว และทั้งที่หลบซ่อนอยู่เบ็ดเสร็จแล้วแสดงออกในทางสาธารณะเป็นหลักฐานทั้งคำพูดทั้งข้อเขียน เบ็ดเสร็จแล้ว 14 เรื่องอ้างอิงได้ตลอดเวลาทุกเรื่องว่าใครพูดอะไร ที่ไหน พูดอย่างไร รวมไปจนถึงแถลงการณ์แดงสยาม ของใจรัญ อึ๊งภากรณ์ ทักษิณที่ใช้พวกนปช.ผนวกกับพวกอนาธิปไตยซึ่งไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์โดยพื้นฐานอยู่แล้วผนวกกับพวกเสียผลประโยชน์หรือพวกที่คิดว่าทักษิณเป็นผู้วิเศษทางธุรกิจ และเศรษฐศาสตร์และพวกที่หลงใหลทักษิณอย่างไร้เหตุผล จากนั้นแกนนำเสื้อแดงทำแนวร่วมอย่างชาญฉลาดได้ทั้งเงินและมวลชนหวังก่อสงครามกลางเมืองขึ้นมาใหม่ คีย์แมนเสื้อแดงที่กำกับม็อบนั้นมี 3 ทีมงานที่คอยประสานงานกันอย่างใกล้ชิดคือ 1.ส่วนเคลื่อนไหว มีแกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตแกนนำพรรคพลังประชาชนและอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษที่ประกอบไปด้วยอดีตนายทหารระดับสูงและกลุ่มคนมีสีที่เลือกข้างเสื้อแดง มาร่วมกันเฉพาะกิจเพื่อให้การเคลื่อนไหวเป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดในทุกวิถีทาง หลอกคนเสื้อแดงที่หลงเข้ามาร่วมกระบวนการนี้มี 3 ส่วน ส่วนหนึ่งได้ประโยชน์จากทักษิณอีกพวกหนึ่งคือพวกที่มาเพราะในหัวไม่มีข้อมูลไม่มีข้อเท็จจริงต่างๆ มีแต่ข้อมูลบิดเบือนที่ยัดเข้าไป ชาวบ้านนั่งรถบัสมาจากต่างจังหวัด นั่งรถปิกอัพมาหัวละ 2 พัน 3 วัน คนขับปิกอัพได้ 1 หมื่นถึงเวลาก็กลับบ้าน ไม่รู้เรื่องอะไร และสุดท้ายคือส่วนที่จัดจ้างมาโดยคนเหล่านี้ลักษณะมาจากชุมชนแออัด กินเหล้าเมายา เอามาเพื่อจงใจหาเรื่องเป็นลักษณะของคนเกเรที่พร้อมหาเรื่องหรือว่าจ้างมา ไม่เคยสนใจอะไรเลยนอกจากเหล้า เบียร์ ซึ่งมีท่าทางที่เหมือนโจรและต้องการที่จะมีเรื่องตลอดเวลาเพราะยุทธวิธีของซ้ายจัดต้องการให้มีเลือด

คงจะมีใครคาดหวังว่า เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นเมื่อเลือดนองแผ่นดินแล้วตัวเองจะได้หมอบกราบเข้าเฝ้าฯหรือนั่งโต๊ะเจรจาต่อรองเพื่อฟอกความผิดของตนหรือไม่ จับเอาความสงบสุขของประเทศชาติเป็นตัวประกันพร้อมๆกับคุกคามกดดันสถาบันเบื้องสูงเพื่อสร้างเงื่อนไขข้อต่อรองชักนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรงในบ้านเมือง ขอทหารไทย (แค่บางส่วน) อย่าช่วยกันกระทืบซ้ำประชาชนช่วยผสมโรงสร้างวิกฤติการเมืองซ้อนวิกฤติเศรษฐกิจโลกถล่มไทยให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจซ้อนวิกฤติ

คนเสื้อแดงพยายามเลียนแบบพันธมิตรฯ โดยเดินเกมทุกทางที่คิดว่าตัวเองจะได้ประโยชน์อย่างเกมตามท้องถนนก็ให้เสื้อแดงออกเดินหน้าเลียนแบบพันธมิตรทุกทาง...ทั้งรูปแบบและการจัดการ มีทั้งทำกับข้าว / บริจาคเงินบนเวที / ขายของ / การ์ดปิดถนน แต่คนเสื้อแดงถ่อยอย่างไรก็ยังถ่อยเหมือนเดิม ความบัดซบ ความเป็นอมนุษย์ยังมีเหมือนเดิมและหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ปลุกระดมเพิ่มดีกรีกันมาอย่างต่อเนื่อง แกนนำที่มักจะพูดจาจาบจ้วงให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงแล้ว ยังมีทั้งข้อความและภาพปรากฏในเชิงหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจนประกาศตัวเป็นศัตรูอย่างเปิดเผยกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นบรรดาองคมนตรี ศาล รัฐบาล และผู้มีอำนาจในกองทัพ ปลุกระดมมวลชน จนสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นชาติอย่างต่อเนื่องจนไม่น่าให้อภัย เร่งเร้ามวลชน เพิ่มความเกลียดชังใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มกำลัง โหมหนักขึ้นจนน่าเป็นห่วงว่าคนเสื้อแดงจะถูกชักนำไปสู่ความรุนแรงได้ทุกเมื่อ

กลุ่มคนเสื้อแดงเองต้องประกาศยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้นต้องมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากขึ้นและจะต้องอยู่นานวันขึ้น ยิ่งนานวันหากไม่ประสบความสำเร็จในการไล่รัฐบาล ความเครียดจะยิ่งกดดันให้ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกแล้วพวกเขาก็จะสลายการชุมนุมอันถือได้ว่าเป็นเดิมพันอันยิ่งใหญ่ของทักษิณเจ้ามูลเมืองที่กำลังปลุกระดมมวลชนกลุ่มเสื้อแดงกำลังตบปากตัวเองซึ่งซ่อนเงื่อนที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์โดยอ้างว่าจะมีการปรับปรุงการครองของประเทศให้เป็นไปตามหลักสากลจนทำให้สถาบันกษัตริย์ กลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่สำคัญเขายังใช้ศัพท์คอมมิวนิสต์แท้ๆ นี่มันทฤษฎีเก่าจากพวกเข้าป่าปลุกผีขึ้นมาขายใหม่ เพราะที่ปรึกษาของ ทักษิณ นั้นเป็นนักทฤษฎีที่ต้องการล้มสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มาคราวนี้ใช้ยุทธศาสตร์ ตีให้น่วม...เพื่อต่อรอง

ชัดเจนแล้วว่าเจตนาของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเจตนาที่ต้องการทำเพื่อคนๆ เดียวที่ทักษิณหลุดออกมาเองที่บอกว่าให้เลิกแล้วต่อกันและมาเริ่มกันใหม่แล้วก็ขอทรัพย์คืน ยกเลิกคดีต่างๆ ที่ยังค้างคากันทุกฝ่ายเป็นการต่อรองเพื่อเสนอทางออกของประเทศของทักษิณที่ลากเอาประเทศเป็นเดิมพันไม่ต่างอะไรจากอันธพาลในระบอบประชาธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง มุ่งโค่นล้มรัฐบาลชุดใหม่โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง หลายฝ่ายมองเห็นตรงกันว่ามีเจตนาหรือเป้าหมายสูงสุดคือทำลายสถาบันอันจะเป็นทางรอดเดียวของทักษิณ คือ การพลิกแผ่นดิน เพื่อล้มกระดาน แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นเป็นไปได้มากที่ฝ่ายรัฐการต้องปฏิบัติการโต้ตอบเพื่อหยุดยั้งแต่บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็อาจทำรุนแรงเกินขอบเขตทั้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และโดยมีเจตนาแอบแฝงอันอาจทำให้ฝ่ายรัฐบาลซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไปด้วยและหรือและอาจถูกอีกฝ่ายนำขึ้นฟ้องร้องดำเนินคดีจนทำให้ฝ่ายรัฐบาลจำเป็นต้องเลือกที่จะต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมในที่สุดทำให้เข้าทางโจร คนเสื้อแดงกำลังตกเป็นเครื่องมือของนักโทษชายทักษิณถ้าคนเสื้อแดงตายบนถนน 100 200 หรือ 1,000 คนก็ไม่มีความหมายสำหรับทักษิณ

ทักษิณแทงหวยไว้ 3 ระดับระดับสุดยอดคือการระดมคนออกมาได้แล้วเปลี่ยนประเทศไทย ปฏิวัติประเทศโดยคนเสื้อแดงที่จ้างมาเป็นรางวัลที่หนึ่ง
แต่ถ้ามีการนองเลือดและปราบปรามการชุมนุมสำเร็จเขาก็มีข้อต่อรองกับต่างประเทศเพื่อขอลี้ภัยการเมืองเท่ากับถูกหวย 2 ตัว และสามารถผ่านวาระเสนอกฎหมายปรองดองที่ ส.ส.ของเขายื่นไว้ก่อนแล้วซึ่งจะมีผลในการนิรโทษกรรมให้การกระทำผิดล่วงหน้าไปถึงวันที่ 5 พ.ค.2552 ที่เขาจะทำให้ทุกอย่างฉิบหายหมดให้คนกลัว แล้วยอมรับกฎหมายนี้ และให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภาโดยเขาหวังว่าทั้งเงิน ทั้งเครือข่าย ทั้งตำรวจที่นายสุเทพไม่ยอมทำอะไรจะสามารถจัดการให้เขาเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง
และสามารถแทรกแซงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบองคมนตรี ทำให้สถาบันกษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์

ทักษิณเคยแจ้งว่า มีเงิน 7.6 หมื่นล้าน แต่เขาไปให้สัมภาษณ์นิตยสารซีอีโอมิดเดิลอิสต์ เมื่อเดือนธันวาคม 2551 ยอมรับว่าอังกฤษอายัดเงินเขาไว้ 4 พันล้านเหรียญ
หรือ 1.5 แสนล้าน เมื่อบวกกับ 7.6 หมื่นล้านที่ถูกอายัด เท่ากับมี 2 แสนกว่าล้านแล้ว แต่ต่อมาหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณขาดทุนจากการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกและการเก็งกำไรราคาน้ำมัน 5,000 ล้านเหรียญ จนเหลือเงินเหลือเพียง 500 ล้านเหรียญ แสดงว่าก่อนนั้นเขามี 5,500 ล้านเหรียญ หรือ 192,500 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จมี 413,000 ล้าน ดังนั้น เงิน 3 แสนล้านบาทที่โผล่มาจากที่เคยแจ้งไว้มาจากไหน ทำธุรกิจอะไรถึงมีรายได้ 4 แสนล้านช่วงปี 44-49 ถ้าไม่ใช่การโกงกินบ้านเมือง ตัวเองยังเจ๊งได้ขนาด 4000 ล้านเหรียญแล้วยังสะเออะมาสำรากเพื่อแยกชาติ แยกประเทศ แยกพี่แยกน้องออกจากกันและกัน

ทักษิณสร้างกระแสข่าวปลุกระดมมวลชน ด่ากราดผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่เว้นแม้แต่สถาบันองคมนตรี สั่งการให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาแสดงบทบาทด้วยการขึ้นเวทีนปช.หรือการสั่งการระดมพลเสื้อแดงในต่างจังหวัดโดยไม่สนใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบรรยากาศการลงทุนที่สูญเสียไป ทักษิณสำราก กระโชกโฮกฮาก ต้องเฉิ่มไวน์มาเป็นขวดๆ ก่อนจะเข้ารายการโฟนอินในแต่ละที ด่าซ้ำๆ ซากๆ โกหกซ้ำๆ ซากๆ ติดสินบนลิ่วล้อกันกลางอากาศเพื่อที่จะให้ช่วยยุคนไทยออกมาฆ่ากันเอง ทำลายกันเอง หรือกระทั่งแยกชาติ แยกประเทศ แยกพี่แยกน้องออกจากกันและกัน ตราบใดที่ยังไม่มีการคืนเงิน 70,000 กว่าล้านบาท และยกโทษให้กับอาชญากรรมที่ตัวเองเป็นผู้ก่อลงไปโดยเบ็ดเสร็จทำให้การออกวิดีโอ ลิงก์ปลุกระดมเสื้อแดงของยอดชายทักษิณนับวันยิ่งดูน่าสมเพชเวทนาหนักขึ้นๆ ทุกทีเพราะต้องหลบซ่อนให้พ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไทย ถูกตีกรอบพื้นที่เดินให้แคบขึ้นเรื่อยๆ โดยนายกษิต ภิรมย์

14 เรื่องจาบจ้วงที่เขาทำมานั้นไม่สามารถที่จะระดมคนขึ้นมาได้คนมาเดือนละครั้งแล้วก็หายไปเดือนละครั้งแล้วก็หายไปในที่สุดยุทธวิธีเขาก็เริ่มเปลี่ยน การโจมตีสถาบันกษัตริย์ถูกพลิกผันเพราะรู้ว่าไม่ได้ผลและกำลังจะทำให้ทหารผู้ใหญ่บางคนเดือดร้อน เขามองว่าการที่เขาปะทะกับสถาบันกษัตริย์โดยตรงนั้นเขาไม่มีวันชนะเพราะฉะนั้นแล้วเป้าก็เลยถูกเปลี่ยนมาที่องคมนตรีและเมื่อเปลี่ยนมาที่องคมนตรีเขาก็เจาะจงองคมนตรีที่รายล้อมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเริ่มด้วยประธานองคมนตรี, สุรยุทธ์ จุลานนท์ การพุ่งเป้าไปที่พล.อ.เปรม นั้นต้องขจัดพล.อ.เปรม เสียก่อนโดยมีไอ้ป๊อกซื้อบื้อที่ไม่ชอบ พล.อ.เปรมและมีข่าวมาว่าจะถูกโยกย้ายไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดยืนดูและปล่อยให้กระบวนการเล่นงาน พล.อ.เปรมให้น่วม

พล.อ.เปรมนักฆ่าแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานั้นท่านเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านไม่เคยโดนคดีอะไรในชีวิต ท่านมีความซื่อสัตย์สุจริต ลำพังแค่เป็นอดีตนายกฯ อดีตผู้บัญชาการทหารบกก็สมควรที่ผู้ใหญ่ในกองทัพบกต้องออกมาปกป้องแล้ว นี่นับประสาอะไรยังเป็นถึงประธานองคมนตรีซึ่งโดยสามัญสำนึกย่อมรู้ว่าเป็นประธานที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อเป็นประธานที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใครจะแยก พล.อ.เปรม ออกมาโจมตีอย่างไรก็ตามมันก็เท่ากับโจมตีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง

น้อยครั้งที่พล.อ.เปรมจะมีโอกาสได้ออกมาเอ่ยปากเป็นคำพูดยาวๆ ยิ่งตอนที่มีตำแหน่งเป็นองคมนตรียิ่งแล้วใหญ่แทบไม่มีอะไรร่วงออกจากปากเอาเลยซักแอะ อย่างมากแค่ใช้สายตาโลมไล้ไล่จากหัวถึงปลายเท้าฝ่ายตรงข้ามก็ขนหัวลุกแล้วสรุปว่าถึงแม้จะถูกกดดัน ข่มขู่ คุกคาม เกณฑ์ลิ่วล้อมายืนด่า หยาบๆ คายๆ ถึงหัวกะไดบ้าน ขว้างอิฐ ขว้างก้อนหินเข้าไปในบ้านโดยที่อัยการดันถือว่าไม่ได้มีอะไรรุนแรง สั่งไม่ฟ้องเสียอีก ตอดไปตอดมา จ้วงจาบ หยาบช้า เอาไว้ในที่ต่างๆ ไม่ว่าในใบปลิว เว็บไซต์หรือกระทั่งออกไปแอบด่าในต่างประเทศต่อเนื่องยาวนานมาโดยตลอดไม่รู้จะกี่ปีต่อกี่ปี จนถึงการออกมาด่าโต้งๆ ผ่านรายการโฟนอินเมื่อไม่กี่วันมานี้ได้ไขข้อข้องใจถึงข้อกล่าวหาโจมตี ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี อย่างมีเหตุมีผล มีสติ ไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ ให้เห็นแม้แต่นิดสมศักดิ์ศรีสมฐานะความเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในสังคมแล้ว "เราเนี่ย...เราถือว่า เราไม่มีศัตรู ไม่มีฝ่ายตรงข้ามกับเรา เพราะเราถือว่า เราจะทำหน้าที่ของเรา เพื่อคนไทยทุกคน แต่บางส่วน เขาอาจเห็นว่า เราเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขา เราก็ไม่ว่าอะไร เขาอยากจะเป็นฝ่ายตรงข้าม ก็เป็น แต่เราไม่เป็นด้วย เราถือว่าเราทำทุกอย่างด้วยความเสมอภาค ไม่มีฝ่ายตรงข้าม..."

การมุ่งทำลายองคมนตรีเป็นการไม่ต้องการให้พระมหากษัตริย์มีคณะบุคคลคอยถวายคำปรึกษาเพื่อให้ทรงรับทราบความเป็นไปของบ้านเมืองต้องการตัดสะพานเชื่อมระหว่างสถาบันกษัตริย์กับประชาชนก็เพื่อลดอำนาจและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ลง การเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม พล.อ.พิจิตร พล.อ.สุรยุทธิ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งลาออกนั้นถือเป็นการตีวัวกระทบคราดเป็นเพียงเป้าหมายลวงเพื่อตรึงมวลชนที่ไร้เดียงสาไม่ให้ถอยออกมาแต่เป้าหมายหลักก็คือโค่นล้มสถาบันแต่เวลานี้เมื่อประเมินสถานการณ์ดูแล้วรู้ว่ายังล้มไม่ได้ก็ต้องเขย่า ลิดรอนให้สั่นสะเทือนไปถึงเบื้องบน พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์องคมนตรีคนที่ 3 ถวายงานรับใช้ในราชสำนักเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวออกมาปรามทักษิณมิให้พาดพิงถึงคณะองคมนตรีและสถาบันในทางเสียหาย บอกกับประชาชนเรื่องทรัพย์สินของทักษิณที่เกาะเคย์แมนประมาณ 3 หมื่นล้านมีนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รับรองเป็นเสียงเดียวกับนายสคิบ บอยซ์ กลับถูกลดความน่าเชื่อถือด้วยการให้นางวิระยา ชวกุลผู้มีปัญหาในเรื่องของการทำโครงการเสื้อสีฟ้าของสมเด็จพระนางเจ้าฯและเป็นผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมานานแล้วแต่ยังเอาไปแอบอ้างวิ่งเต้นติดต่อขอตำแหน่งให้คนนั้นคนนี้ออกมาพูดเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยการจาบจ้วงสถาบัน

ขนาดทักษิณมันเหิมเกริมมันแพร่ภาพวิดีโอลิงค์แยกแผ่นดินล้มล้างสถาบันชัดแจ้งกันไปทั้งบ้าน-ทั้งเมืองขนาดนั้นยังไม่มีใครสามารถทำอะไรทักษิณได้ แต่ปรากฏว่าแค่พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์องคมนตรี ออกมาตั้งข้อสังเกตกับนักข่าวเรื่องความร่ำรวยผิดปกติการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนและการล่วงเกินพระราชอำนาจสมุนในเมืองไทยวิ่งร่าเป็นตัวแทนทักษิณไปแจ้งความจับพล.อ.พิจิตรข้อหาหมิ่นประมาททั้งที่ทักษิณเองด่าระบบศาลด่าระบบกฎหมายว่าไม่มีมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรม ตัวเขาไม่ยอมรับนับถือแต่ตัวทักษิณและสมุนในพรรคเพื่อไทยเองนั่นแหละกลับเป็นฝ่ายฟ้องร้องใช้บริการระบบกฎหมาย ระบบศาล มากกว่าใครเขาเพื่อน

ท่านรัฐมนตรีกษิต ภิรมย์ เป็นคนที่มีจริยธรรมและศีลธรรมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 1 คนในประวัติศาสตร์ที่หาได้ยากมากที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่มีจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม การโต้ตอบวิดีโอลิงก์ของนายกษิต ภิรมย์เหมือนกับคนที่ต้องอดทนรับประทานอาหาร อิตาเลียน มานานแสนนาน...จู่ๆ ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศกษิต ภิรมย์ออกมาซอยพริก หัวหอมสาดน้ำปลาบีบมะนาวมาเล่นกับพวกหยาบ พวกถ่อย พวกพูดคำ โกหกคำแถมชอบแอบมุดหนีอยู่ในรูท่อเป็นประจำเล่นเอานักโทษชายทักษิณที่กำลังปลุกระดม ยุแยง ตะแคงรั่ว ใครต่อใครอยู่เพลินๆถึงกับออกอาการสะดุดกึก ชักจะไปไม่เป็นเอาดื้อๆ พูดไม่ออกได้แต่กลอกหน้า หลุดปากคำว่า บ้า ออกมาได้แค่คำเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นนายกษิตยังได้ส่งเอกสารเวียนเป็นคำพิพากษาของศาลที่ตัดสินให้ทักษิณติดคุก 2 ปี ส่งไปให้ประเทศต่างๆให้เขาทราบก่อนว่าสถานภาพของทักษิณเป็นอย่างไรอาศัยหลักปฏิบัติของการเมืองระหว่างประเทศว่าจะไม่ปล่อยให้บุคคลคนหนึ่งไปใช้อีกประเทศหนึ่งเพื่อโจมตีประเทศแม่ของเขา

การที่วาสนา นาน่วมออกหนังสือลับ ลวง พราง ภาคสองต่อด้วยร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัตออกหนังสือทักษิณ Are you O.Kแล้วซ้ำด้วยหนังสือของโอ๊ค-เอม-อิ๊ง --คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อในงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้นับเป็นสุดยอดการตลาดด้านการรีแบนรนด์สินค้าหน้าเหลี่ยมไอ้ป๊อกซื่อบื้อท่าทีเคร่งเครียดขึงขังยึดอำนาจหักเหลี่ยมโหดของเพื่อนร่วมรุ่นอย่างไม่ปราณีชายเหลี่ยมถูกกลั่นแกล้งจากมือที่มองไม่เห็นมีหมวดเจี๊ยบทหารหญิงที่กระโดดขี่คอกองทัพ ฉีกหน้ากองทัพเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยบอกว่าชายคนนี้น่าสงสารนัก ทำงานหนัก ต้องร่อนเร่พเนจรใช้ชิวิตอยู่บนเครื่องบินที่เอาเงินภาษีเราไปปู้ยื้ปู้ยำเละเทะ ครอบครัวแตกแยก ลูกไปทาง เมียไปทาง ทัพย์สินที่มีถูกเบียดบังอย่างน่าสงสาร ลูกๆของชายผู้น่าสงสารคนนี้จึงเกิดคิดถึงพ่อมากมายออกหนังสือคนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อออกมาให้ชาวบ้านได้รำลึกความหลังถึงพ่อผู้อ่อนโยนและอบอุ่น 3 เล่มนี้กรูขอเรียกว่าหนังสือชุดคนอื่นเรียกนายกฯ เด็ก 3 คนเรียก...พ่อ แต่กรูเรียกมันว่าไอ้ทรราช

ตามกลยุทธ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงวางไว้นับจากวันที่ 26 มีนาคมไปอีกประมาณ 10 วัน 20 วันจะมาบรรจบวันที่ 6 เมษายนวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯปฐมบรมราชจักรีทรงรับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติถ้าจะลากยาวไปถึง 9 และ 10 เมษายนก็สามารถทำได้ต่อมาแกนนำเสื้อแดงจึงวางเป้าหมายเอาไว้เบื้องต้นว่าต้องการเอาชนะให้ได้ภายใน 3 วัน คือ 8-10 เมษายน จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่มีพฤติกรรมก่อกวนยั่วยุให้สังคมปั่นป่วนเพียงเพื่อหวังทำลายความน่าเชื่อถือที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและสถาบันหลักของประเทศ การที่กองทัพแดงบางคนของทักษิณ จาบจ้วงล่วงละเมิด-ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเหิมเกริมเติบโตขึ้นอย่างน่ากลัวขนาดนี้ได้ วันนี้มาถึงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลความมั่นคงก็ไม่ปรากฏว่ามีการจัดการอย่างจริงจังกับเรื่องของคนในระบอบทักษิณตรงกันข้ามล่าสุดยังคิดจะเจรจากับทักษิณด้วยซ้ำจึงมองไม่เห็นทางว่าจะแก้ไขความผิดที่สังคมรอดูได้อย่างไร ก็เพราะรัฐบาลอ่อนแอเกินไป ตำรวจ-ทหาร-หน่วยความมั่นคงอ่อนแอเกินไป ปล่อยให้เงินและคนชั่วมีอำนาจเหนือบ้านเมือง-เหนือคุณงามความดี!

ทักษิณพิสูจน์แล้วว่าทักษิณไม่ได้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่ทักษิณทำเพื่อตัวเขาเอง ทักษิณกำลังหลอกให้พี่น้องเสื้อแดงออกมาตายกันเพื่อตัวเองและในขณะที่ทักษิณบอกให้พี่น้องเสื้อแดงออกมาสู้เพื่อลูกเพื่อหลานในสังคมแต่ทักษิณกลับให้ลูกหลานของตัวเองหนีไปอยู่ต่างประเทศในเวลานี้ทั้ง ลูกสาวคนเล็กก็บินไปประเทศอังกฤษ ส่วนชัยสิทธิ์บินไปไต้หวัน อ้อและลูกสาวคนโต เยาวภา ยิ่งลักษณ์ไปฮ่องกง สมชายกระโปรงกับพานทองแท้ไปดูไบ-อังกฤษ บางคนที่ต้องกลับมาก่อนก็นำน้ำเลี้ยงมาให้กลุ่มคนเสื้อแดง บางคนก็ใหวกเหวกโวยวาย การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้นยิ่งนานวันความเครียดจะยิ่งกดดันให้ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งนานไปจะยิ่งประจานพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงให้สังคมได้เห็น แต่นั่นยังไม่สลักสำคัญเท่าทุกวันนี้ที่มีความห่วงอยู่ว่าคนที่ใกล้วาระสุดท้ายย่อมไม่คิดถึงอะไรนอกจากผลได้ของตัวเองและสามารถทำได้ทุกอย่าง ชาวไทยจึงต้องระวังการก่อสถานการณ์เพื่อความสะใจด้วยหวังให้นำสู่การเปลี่ยนแปลงเพราะมีคนเห็นบรรดาเสธ.มีชื่อต่างๆหลายคนป้วนเปี้ยนอยู่ในม็อบ วันนี้ทักษิณรบด้วยเดิมพัน 73000 ล้านบาทที่ถูกอายัดและการกลับไทยแบบไร้โทษส่วนสามเกลือหัวขวดและคณะนั่นรับจ้างรบด้วยเดิมพันหลอกแดกนายที่เป็นพญา-ขี้ข้าจึงได้ใหญ่คับเมือง แต่ทหารแก่จมูกโหว่-ตาเหลือก ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน ขายตัวและขายข่าวด้วยมูลค่ารองเท้าคู่เดียว

ประชาธิปไตยในรูปแบบของทักษิณถ้าจะเทียบเคียงเห็นรูปธรรมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเช่นในในจีน ในเวียดนาม และในเขมร นั่นเอง ตัวทักษิณคือตัวประชาธิปไตย
อำนาจเบ็ดเสร็จที่ทักษิณใช้ตามอำเภอใจคือตัวระบอบประชาธิปไตยโดยวางเป้าหมายแห่งความมักใหญ่ใฝ่สูงคือ อำนาจเบ็ดเสร็จสูงสุด และความร่ำรวยเหนือระดับโลก ทักษิณเป็นนายกฯ ๕-๖ ปี รวยอันไม่ปรากฏที่มาร่วม ๒ แสนล้านนอกเหนือจากที่แจ้ง ป.ป.ช.ว่าก่อนเล่นการเมืองมี ๒ หมื่นกว่าล้านและที่ขายชินคอร์ปได้มา ๗๖,๐๐๐ ล้าน แต่ทักษิณจะรวยมหาศาลกว่านั้นถ้าสามารถตกลงกับเขมรครอบครองแหล่งก๊าซ-แหล่งน้ำมันในอ่าวไทยตามพื้นที่ทับซ้อนได้สำเร็จ นับแต่ตอนเป็นนายกฯ จนนายสมัคร นายสมชายมาเป็นนายกฯ แทน จะเห็นว่าทักษิณไม่ละความพยายามเดินแผนด้านแหล่งก๊าซ-น้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนไทย-เขมรในอ่าวไทยเลยดูจากปรากฏการณ์ปราสาทพระวิหารที่ล่าสุดเมื่อ 3 เม.ยที่จู่ๆทหารเขมรก็เปิดศึกปะทะฆ่าทหารไทยมองให้ลึกจะเห็นว่ามันไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือเหตุจากความเข้าใจผิดอย่างที่อ้างกันแต่มันเป็นความจงใจและไม่เพียงเท่านั้น เขมรทุ่มงบประมาณกองทัพมโหฬารอย่างไม่เคยมีมาก่อนเป็นข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก

กฎหมายความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร บทบัญญัติมาตรา 120 ผู้ใดคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐต่างประเทศด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐหรือทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปีและมาตรา 121 คนไทยคนใดกระทำการรบต่อประเทศหรือเข้าร่วมเป็นข้าศึกของประเทศต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

แต่ก่อนแต่ไรมานั้นฝ่ายที่จะล้มล้างรัฐบาลหรือสถาบันมีแต่ใช้ใบปลิวหรือสื่อนอกระบบเป็นเครื่องมือโจมตีมาบัดนี้กลับตาลปัตรฝ่ายที่ต่อสู้ปกป้องตอบโต้ขบวนการล้มล้าง
กลับต้องใช้พื้นที่สื่อนอกระบบอย่างเช่นใบปลิวแทนเช่นที่ปรากฏว่ามีใบปลิวแจกจ่ายในบริเวณรัฐสภาตอบโต้ขบวนการของทักษิณและเสื้อแดงปล่อยให้สื่อมวลชนของรัฐขยายผลการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงโดยใช้คนของช่อง 11 วางยารัฐบาลอยู่ตลอดเวลา เมื่อกระแสสังคมเริ่มมากดดันพรรคประชาธิปัตย์หรือคนบางคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นว่ายังอยากจะมีอำนาจต่อไปแล้วก็บอกสังคมว่าต้องไปเจรจา สุเทพบอกว่าอย่างไรต้องไม่ให้ผิดกฎหมาย พูดอีกก็ถูกอีกแหมก็เพราะว่าถ้า ส.ส.ยอมรับกฎหมายปรองดองแห่งชาติมันก็ไม่ผิดกฎหมายสิ ท่านรองนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ มันเป็นไปได้อย่างไรเหมือนกับตำรวจต้องมาเจรจากับโจรจะยกข้อหาที่โจรปล้นฆ่าไปบอกว่าเอาละกลับมาแล้วไม่ผิด ต่อไปนี้หากมีนักโทษหรือผู้ร้ายหลบหนีอาญาแผ่นดินจะมาใช้วิธีจับความสงบสุขของประเทศชาติเป็นตัวประกันหว่านเงิน หว่านผลประโยชน์ ปลุกระดมให้เกิดความแตกแยก วุ่นวายในสังคม เพื่อให้ตนเองไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไม่ได้เด็ดขาด

ปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงการพูดผ่านวิดีโอลิงก์ของทักษิณว่าอย่างที่ทักษิณพูดว่าต้องแตกหักให้ได้ตนไม่เห็นประโยชน์ใดที่จะเกิดขึ้น นอกจากความย่อยยับของประเทศชาติ ถามว่าเราได้อะไรจากเรื่องนี้ ขณะนี้กัมพูชาเขาก็นั่งมองอยู่ ตนเชื่อว่าเขากำลังหัวเราะด้วยซ้ำว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่จะไปสู้เขาได้ เมื่อไรเราจะไปแก้ปัญหาเรื่องพิพาทเขาพระวิหารได้ เรื่องเศรษฐกิจเช่นกันไม่มีโอกาสฟื้นตัวๆได้เลย ผลประทบจริงคือประชาชนโดยรวมแต่เขาไม่ได้กระทบกับเรา ทักษิณเป็นนายกมา 6 ปี ไม่เห็นทำได้อย่างที่พูดเลยคนไทยก็ยังจนอยู่ คนรวยก็มีแต่ทักษิณและพวกพ้องเท่านั้น ทำผิดกฎหมายก็ไม่ยอมขึ้นศาล แล้วมาบอกว่าศาลไม่ยุติธรรม อย่างนี้มาบอกชาวบ้านว่าจะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันคนเชื่อก็กินหญ้าแล้ว

ทั้งๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าส่วนใหญ่ที่ทักษิณพูดนั้น เป็นการโกหก บิดเบือนและแอบแฝงด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่ทำอะไรจิรงๆ จังๆ เลยกระแสของข่าวสารจึงไหลไปในทิศทางที่ทักษิณต้องการข่าวเกี่ยวกับขบวนการโค่นล้มได้ยึดครองพื้นที่สื่อโทรทัศน์ฟรีทีวีทั้งสื่อของกรมประชาสัมพันธ์และสื่อของกองทัพอย่างอิ่มหนำทั้งในรูปแบบของการตัดเอาบางส่วนของวีดีโอลิงค์ทักษิณมาออกอากาศช่วยปลุกระดมโดยที่ไม่มีการให้ข้อมูลความจริงอีกด้านเช่นทักษิณจึงทำทีออกมาเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยแต่ประชาธิปไตยของทักษิณนั้นกลับมีสองมาตรฐาน ทักษิณอ้างว่าตนเป็นตัวแทนของระบอบประชาธิปไตยสื่อก็นำเสนอเท่านั้นโดยที่สื่อไม่มีการตั้งคำถามและช่วงที่ทักษิณบริหารประเทศนั้นมีการกระทำที่ละเมิดประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง


การที่เนวิน ชิดชอบบุรุษผู้ชนะตลอดกาลในทุกยุค-ทุกสมัยออกแถลงการณ์นั้นย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าลึกๆแล้วทักษิณนั้นมีพฤติกรรมเผด็จการ มีแนวคิดล้มล้างสถาบันหรือลิดรอนพระราชอำนาจ มีเจตนาที่จะจาบจ้วงหรือล่วงละเมิดในหลวงทั้งด้วยมิฉะนั้นแล้วนายเนวินจะไม่กล้าออกมาแถลงการณ์ด้วยคำพูดที่ชัดเจนเช่นนั้น มีการเตรียมการบางอย่างเพื่อจะก่อให้เกิดสถานการณ์ อมาตยาธิปไตยนั้นแท้จริงแล้วก็คือทักษิณนั่นเองเพราะตัวเองก็เคยเป็นข้าราชการตำรวจคนใกล้ชิดที่ตัวเองใช้งานนั้นเป็นข้าราชการทั้งสิ้นเช่นพ่อตาก็เป็นข้าราชการตำรวจ น้องเขยก็เป็นอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ชอบดึงคนใหม่ๆมาใช้งานและเมื่อหมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้ง ต่อมาคนเหล่านี้กํถูกคดีความแต่ทุกคนยินดีต่อสู้คดีในประเทศไทยและเป็นจำเลยร่วมกัน มีเพียงทักษิณคนเดียวที่หนีไป

ทักษิณโกรธไอ้ป๊อกซื้อบื้อมาก ในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.51 ประชาชนถูกฆ่าตายไอ้ป๊อกซื้อบื้อกลับอยู่เฉยๆ จู่ๆทักษิณก็กล่าวหาไอ้ป๊อกซื้อบื้อว่าเป็นตัวการบีบพรรคร่วมรัฐบาลให้ย้ายมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เพราะเนวิน ชิดชอบต่อรองทางการเมืองกับทักษิณแต่ไม่สำเร็จ อันเป็นจุดที่ทำให้ทักษิณเริ่มวางแผนสงครามประชาชนเริ่มตั้งแต่ตอนที่นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกและเผอิญเอานายกษิต ภิรมย์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วย งูนั้นเวลาเจอคนปราบงูจะกลัวมาก ส่วนสุเทพสนิทกันมากกับนักโทษชายคนนี้ เมื่อเขาโค่นท่านกษิตไม่ได้และท่านกษิตก็มีความกล้าหาญและปฏิบัติเป็นท่านกษิตพูดชัดว่าทักษิณคือนักโทษ ทักษิณจะมาเรียกร้องอะไรอีกเมื่อท่านกษิตออกมาสวนหมัด ทักษิณก็รู้แล้วว่าถ้าไม่รบเด็ดขาดเขาก็จะไม่มีทางถอยและตกเหวแน่นอน

ตั้งแต่ทักษิณหลุดออกจากขั้วอำนาจปรากฏเกมใต้ดินก็ใช้เครือข่ายที่เคยสวามิภักดิ์และช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาเดินหน้าเจรจาต่อรองทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผยมาตลอด มีความพยายามประนีประนอมจากทักษิณมานานแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งกับ พล.อ.เปรมโดยตรงหรือผ่าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายปีย์ มาลากุลฯบางคนไม่เอาด้วย โดยเฉพาะ พล.อ.เปรมที่ย้ำว่าทางเดียวคือต้องขออภัยโทษแต่ต้องมาติดคุกก่อน เวลาล่าสุดมีการแอบเจรจากับไอ้ป๊อกซื้อบื้อเพื่อขอยกเลิกการอายัดทรัพย์รวมทั้งให้แก้ไขรัฐธรรมนูญและให้ยุบสภา แต่ไอ้ป๊อกซื้อบื้อไม่สามารถตอบสนองให้ได้ทั้งหมดได้ เหตุนี้ถึงต้องสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนเพื่อสร้างความฉิบหายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งหมดนี้ทำเพื่อคนๆ เดียวนี่คือที่มาของเหตุการณ์วันที่ 8-9-10 เมษายนให้ชาวเสื้อแดงพฤติกรรมการชุมนุมทั้งอากัปกิริยาและวาจาสามหาวไร้จิตสำนึกได้ระห่ำกัน เหตุการณ์วันที่ 8 และ 9 เมษายน พ.ศ. 2552 เป็นวันมืด วันอุบาทว์ และวันประกาศสงครามประชนชนของชินวัตรที่ไร้เหตุผลเชิงรัฐศาสตร์และสังคมซึ่งประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะต้องจดจำ
1 ขนาดกล้าทุบรถ กราดเข้าเหมือนเจตนาจะฆ่ากระทั่งนายกฯอภิสิทธิ์ต่อหน้า-ต่อตาตำรวจกลางเมืองพัทยาได้
2 ตำรวจละเว้นฯส่งผลให้บกพร่องต่อหน้าที่ปล่อยให้รถแท็กซี่เพียงไม่กี่คันปิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ไม่ดำเนินการเคลียร์พื้นที่จราจรหรือดำเนินคดีกับพวกแท็กซึ่
3 การออกแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบรวมถึงมาตรการที่จะดำเนินการต่อ
4 บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงกาฬสินธุ์ส่วนใหญ่เป็นบรรดาหัวคะแนนส.ส.เพื่อไทยกาฬสินธุ์มีความพยายามในการปลุกระดมเกณฑ์ชาวบ้านส่งไปป่วนกรุงฯอย่างต่อเนื่องแต่ก็ต้องมาสะดุดจากเครือข่ายเสื้อแดงเริ่มปฏิเสธที่จะเข้าไปสมทบที่กรุงเทพฯเพราะพบว่ามีการอมเงินค่าจ้าง จ่ายไม่เต็มราคา ตัวป่วนแถวหน้าจะต้องจ่าย 2 พันบาทกลับจ่ายเป็นเงินให้เพียง 200 บาทจนเชื่อว่ามีแกนนำอมเงินและหลอกให้ไปตายฟรีอย่างไร้ราคา พี่น้องเสื้อแดงเมืองน้ำดำบางคนตกรถไม่สามารถกลับบ้านได้และเริ่มถอดใจ
5 ม็อบเสื้อแดงได้ยั่วยุให้ใช้ความรุนแรง สนองตัณหาทักษิณ ฉีกหน้าประเทศแล้วด้วยการบุกเข้าไปยังที่จัดการประชุมอาเซียนซัมมิทขู่ว่าจะเล่นงานนายอภิสิทธิ์ เพียงผู้เดียว พวกมันได้เผาบ้านเผาเมืองและปล้นความสุขในวันสงกรานต์ไปจากคนทั้งชาติและปล้นความร่วมมือในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากคนทั้งอาเซียน ๖๐๐ ล้านคนไป
6 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินร้ายแรง คุณปล่อยให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งทำร้ายประเทศได้อย่างไร การประชุมอาเซียนกำลังไปได้ดี หลายประเทศกำลังระดมความคิดช่วยเหลือเศรษฐกิจโลก แต่คุณกลับปล่อยให้ทุกอย่างพังลงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เราไม่ได้อยากให้คุณทำร้ายประชาชนกลุ่มนั้น แค่เพียงหาวิธีสกัดกั้นไม่ให้ทำร้ายประเทศชาติไปมากกว่านี้ แต่สุเทพ พัชรวาทหายไปไหน ทำไมปล่อยให้ทหารและตำรวจที่นั่นนำหน้ากลุ่มเสื้อแดงเข้าไปทำร้ายทำลายประเทศได้ ผู้นำทหารและตำรวจที่นั่นเดินกอดคอกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงระหว่างการประชุมของผู้นำอย่างสนิทสนมนั่นมันแปลว่าอะไร

แม้ครั้งหนึ่งจะเคยยิ่งใหญ่ แต่เมื่อถึงคราวตกต่ำกลับจมไม่ลงไม่ยอมรับสถานะตัวเองไม่พาลแต่จะดิ้นรนอยากกลับไปสู่จุดสูงสุดถึงขนาดยอมจะเหยียบย่างบนซากศพเพื่อนมนุษย์เพื่อกลับมาเป็นใหญ่อันเป็นสัตว์มันจะทำ - animal will do ไม่ใช่สัจธรรมห้ามยังไงก็ไม่ได้ผลสุดท้ายแทนที่จะคืนสู่สามัญธรรมดาๆอาจจะกลายเป็นถึงกาล ตกต่ำเรี่ยดินหรือด่ำดิ่งไปใต้พสุธาเลยก็มี (อุษณีย์ เอกอุษณีษ์9 เมษายน 2552) เป็นไปได้สูงว่าจะมีเพียง 3 อย่าง ที่ทักษิณ ชินวัตรจะเป็นได้หรือได้เป็น หลังวันที่ 8 เมษายน 2552 คือ 1) นักโทษหนีการจับกุมผู้พยายามขอลี้ภัย 2) นักโทษเด็ดขาดในคุก และ 3) กบฏ หรือ ทรราช

ไม่มีความคิดเห็น: