06 เมษายน 2552

ยังจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือ?

แผ่นดินไทย เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เป็นแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์ และ บรรพบุรุษ แลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิต เป็นแผ่นดินที่คนไทยใจคด คิดไม่ซื่อต่อแผ่นดิน และองค์พระมหากษัตริย์ ต้องดับสิ้นด้วยความทุกข์ทรมาน มามากมาย นักต่อนักแล้ว

ในอดีตจะพบว่าทักษิณร่ำรวยขึ้นมาได้ เพราะสัมปทานผูกขาดจากรัฐ ด้วยการอาศัยอำนาจการการปฏิวัติของ รสช.(คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ) ในปี 2534 จนถึงพูดกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้า รสช.ว่าถ้าไม่มีพี่ชายผมคนนี้ ก็คงไม่มีวันนี้ และทักษิณ ยังเคยประกาศว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่เป้าหมายของผม จนต่อมาทักษิณ ได้เข้าสู่การเมือง และใช้อำนาจไม่รู้จักขอบเขตแทรกแซงสื่อ องค์กรอิสระ และทุจริตคอร์รัปชันขนานใหญ่ เป็นการใช้อำนาจเผด็จการทุนนิยมสามานย์ที่อาศัยคราบประชาธิปไตย และยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ชาติ โดยเอาสัมปทานสัมบัติของแผ่นดินขายให้ต่างชาติทั้งที่ตัวเองยังเป็นนายกฯ

จริงๆ แล้วทักษิณมีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเองและครอบครัว รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาทแต่ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลกทั้งๆ ที่ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดที่แจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช.นั้น ถูกอายัดไว้ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียวเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาทักษิณสามารถเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลก ที่อยากจะไป ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมชั้นหนึ่งคืนละหลายแสนบาทไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ทักษิณยังทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาทซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษ ให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้ เท่านั้นยังไม่พอ ทักษิณเพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเองจ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาทจ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัว ด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ.อีก 3 คนไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่า ว่า ทักษิณ ไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้ เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า ไม่ได้ทำธุรกิจ ประกอบอาชีพใดๆ เลยนอกจากทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดในประเทศไทย ทักษิณยังถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ ไว้อีก 140,000 ล้านบาท ทักษิณ ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเอาเงิน 140,000 ล้าบาท มาจากไหน ได้มาด้วยวิธีการอย่างไรและได้มาตั้งแต่เมื่อไร เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมากที่คนต่างชาติคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในประเทศเพียงปีเศษจะทำธุรกิจได้กำไรมีเงินทองมากกว่า 140,000 ล้านบาทหากไม่โกง หรือ กอบโกยมาจากประเทศอื่น เกิดเป็นนายกทั้งทีก็หนีสภา เป็นคนไทยก็หนีภาษี เป็นจำเลยก็หนีศาล เป็นนักโทษก็หนีคุก น่าสมเพชเวทนาเสียจริง

พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ยืนยันว่าไม่รู้สึกหวั่นวิตกภายหลังมีกระแสข่าวว่าทักษิณ ชินวัตร จะฟ้องร้องตนเองฐานหมิ่นประมาทเนื่องจากมั่นใจว่าสิ่งที่ตนเองพูดทั้งเรื่องการที่ทักษิณล่วงเกินพระราชอำนาจและการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนล้วนแล้วแต่เป็นความจริง โดยเฉพาะในประเด็นการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนนั้นตนพร้อมที่จะเชิญนายราล์ฟ บอยซ์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่เป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวกับตนมาร่วมเปิดเผยในรายละเอียดด้วย เงินที่เกาะเคย์แมนทักษิณได้เอาไปใช้สำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศด้วย

มีรายงานแจ้งว่าค่าหัวที่ใช้เป็นค่าจ้างระดมพลให้ออกไปร่วมป่วนเริ่มต้นตั้งแต่หัวละ 300 บาทตามข้อตกลงจะเป็นการขึ้นรถเข้ากรุงจากนั้นก็จะทำการเช็กชื่อ ชูป้ายให้เห็นความเคลื่อนไหวของคนในแต่ละจังหวัดจากนั้นก็ให้กลับซึ่งกลุ่มนี้จะรับไปหัวละ 300 บาทที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีการเริ่มชุมนุมเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ในกลุ่มที่สองหลังจากประกาศแตกหัก บรรดาลิ่วล้อไข่แม้ว จะคัดเอาเฉพาะพวกชาวบ้านที่ตกงาน ติดยาบ้า โดยเฉพาะวัยรุ่นเกเรในแต่ละชุมชนท้องถิ่นเคลื่อนไหวเข้ากรุงพร้อมอาวุธครบมือที่จะต้องปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ ตายเป็นตาย จนกว่าเหตุการณ์จะจบ กลุ่มนี้จะรับไปหัวละ 2 พันบาทต่อวัน รอบนี้มีพลเดินเท้า-มีมอเตอร์ไซด์เป็นทัพม้าเคยออกศึกมาหลายงานแล้วและมีทัพพิสดารขึ้นมาอีกทัพหนึ่งคือทัพปิกอัพเอาแค่สี่ห้าร้อยคันแยกสายกันวิ่งแค่ 30 ก.ม./ชม.จะสามารถปิดการจราจรถนนสายหลักในกรุงเทพฯได้ทันทีเพื่อมาโชว์พาวกันเต็มที่ระหว่าง 8-9 เมษายน ทัพใหญ่รอบนี้ก็มีแต่ปริมาณ ขาดคุณภาพ แถมยังอิดโรยไม่สดจริง ส่วนที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลผู้ชุมนุมบางคนยอมรับว่าตั้งแต่ฝนตกติดๆ กันมาหลายวันทำให้สุขภาพแย่ และเสื้อผ้าก็มีเพียงชุดเดียว จากการสำรวจตามเต๊นแจกยารักษาโรคพบว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่มาขอยาแก้ไข้ ยาพาราเซตามอล เป็นจำนวนมาก รองลงมาเป็นยาแก้ท้องเสีย และยาแก้เจ็บคอ

ถึงจะแหลยังไงอย่างน้อยนางเอกบาร์บี้ก็แค่สร้างความรำคาญเบื่อหน่าย ไม่ได้สร้างความฉิบหายให้กับคนทั้งประเทศเหมือนครอบครัวของ "ซินาอ้า" รายนั้นปล่อยให้ตัวพ่อแหลเรื่องชั่วๆ อย่างเดียวไม่พอ ล่าสุดก็ส่งลูกกระจิ๊บออกมาร่วมด้วยช่วยกระทืบ ไม่ว่าจะเป็น มือมีดชอบกรีดหน้าคนอื่น, คนสวยแต่เจ็บ หรือแม้แต่ "อึ่งอ่างหน้าเบ้" ก็ทำตัวพองออกมาแหลกับเขาด้วย
งานนี้คงคิดว่าจะช่วยกู้ภาพลักษณ์ซินาอ้าได้มากโข ที่ไหนได้ ไอ้สิ่งที่รั่วออกมากลับทำให้ผู้คนเห็นความจริงชัดยิ่งกว่าเดิม ไอ้ที่เคยแยกแยะว่างานนี้เด็กไม่เกี่ยว ที่แท้ก็ “คิดชั่วทำชั่ว” เหมือนกันเด๊ะ นี่แหละที่เขาเรียกว่า “ผลไม้ที่มีพิษ ก็ย่อมมาจากต้นไม้ที่มีพิษ” ของจริงเว้ย!
ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไอ้ต้นไม้สารพัดพิษที่ว่านี้จะล้มตายซากซักที ไอ้ครั้นจะหวังพึ่งพา "นักเรียนนอกรูปหล่อ" ก็คงจะไม่ไหว มัวแต่ยิ้มเล่นบทพระเอกอยู่นั่นแหละ ประเทศชาติจะบรรลัยซะก่อน ว่าแล้วอีซ้อก็ขอใช้วิชามุดจิ๋มดมตูดที่ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ลามกจกเปรตตามหาซินาอ้าซะหน่อย ตึ่ง...ตึง...ตึ้ง...ตึ่ง..ตึ่ง ต๊ะแน่วๆ
จากการสะกดรอยจิ๋มดมกลิ่นเมือกที่ติดตามง่ามขาของ "อีหนูโรบอต" มาเป็นเวลาสองสัปดาห์ทำให้ทราบว่า เวลานี้ซินาอ้าผู้บ้าหม้อได้ยกลำเข้ามาทิ่มอีหนูโรบอตในประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยมีโรงแรมสุดหรูแถวเกาะช้างเป็นที่บัญชาการเซ็กซ์และปลุกปั่นควายสีแดงอยู่เป็นระยะๆ ส่วนคะ...คะ ควาย ส่วนตัวของซินาอ้า อีหนูโรบอตรับหน้าที่คอย ปลุก ปั่น ขย่ม เขย่า แต่เพียงผู้เดียว
ถึงแม้งานนี้ซินาอ้าจะไม่ได้มาเหนือเมฆ (เพราะวีซ่าแม่มไม่ผ่าน) แต่ก็มาเหนือน้ำขี่เรือยอร์ชมาจอดลอยลำอยู่ที่ท่าเรือโรงแรมสุดหรู พอได้การข่าวว่าภัยจะมาถึงตัวก็จะโดดขึ้นเรือบรื้นๆ ไปที่เกาะแห่งหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้าน อย่าถามเลยว่า เป็นเกาะแห่งไหนเดี๋ยวจะกระทบความสัมพันธ์อันเลวร้าย ให้เลวทรามทุเรศยิ่งๆ ขึ้นไป เอาเป็นว่า เกาะที่ว่านี้ เป็นเกาะที่ซินาอ้าสมควรที่จะไปอยู่มากที่สุด และจะดีมากหากจะตายห่าอยู่ที่นั่น ...
พ่อรูปหล่อทราบแล้วเปลี่ยน รู้แล้วอย่าทำเป็นโง่ ขนาดอีซ้อวันๆ เอาแต่มุดรูเยี่ยวยังรู้เลยว่า ซินาอ้ามันอยู่ที่ไหน แล้วคนระดับพ่อรูปหล่อมีเหรอจะไม่รู้ ใกล้แค่รูจมูกซะขนาดนี้ ถ้ายังไม่มีปัญญาทำอะไร อีกหน่อยมันขี้ใส่ปากก็คงจะนึกว่าเป็นคอร์นเฟลกรีบกลืนเอื้อกๆ ลงคอ
เห็นแล้วก็เจ็บปวดใจหวังจะฝากผีฝากไข้ซะหน่อยก็ดั๊นหน่อมแน้ม ถ้าบ้านเมืองมันเป็นแบบนี้จะมีตำรวจไว้รักษากฎทำไม จะมีทหารไว้รักษาชาติทำไม อีกหน่อยคนไทยก็คงไม่แคล้วจับอาวุธมาฆ่ากันเพราะคนๆ เดียว เราโชคดีที่เกิดเป็นคนไทยอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร แต่ดันซวยเกิดมาเจอ “ผู้นำที่เลวเห็นแก่ตัว” กับ “ผู้นำเต่า” ก็เลยฉิบหายแบบนี้แหละ

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000038940

กลุ่มสยามสามัคคีออกแถลงการณ์ ประณามทักษิณล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ บิดเบือนสร้างความสับสนให้กระทบกระเทือนไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพของชาวไทยที่เป็นศูนย์รวมใจจิตใจของชนชาวไทยทั้งชาติ เป็นภัยต่อ ปท.อย่างร้ายแรง “พล.อ.สมเจตน์” เผย นักธุรกิจร่วมลงขันตั้งรางวัลนำจับ ล่าตัว นช.แม้ว 1 ล้าน เพราะเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด หากลากตัวกลับมาได้ทุกอย่างยุติ สมชาย ชี้ทักษิณต้องการก่อสงคราม ปชช.ตั้งเป้า 8 เม.ย.แตกหัก ปลุก ปชช.ต่อต้านการกระทำของคนเสื้อแดง ขณะที่ “คำนูณ” เชื่อยืดเยื้อได้ 3 วัน ก่อนสลาย เที่ยวสงกรานต์ และกลับมาชุมนุมใหม่

กลุ่มสยามสามัคคี ประกอบด้วย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม, พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์, พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ข้าราชการทหารบำนาญ นายสมชาย แสวงการ, นายประสาร มฤคพิทักษ์, นายวรินทร์ เทียมจรัส, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายสาย กังกะเวคิน, น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์, พญ.พรพันธุ์ บุณยรัตนพันธุ์, ดร.นิลวรรณ เพชระบูรณิร ส.ว., ดร.สุจิตรา ธนานันท์ นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายทวี สุรฤทธิกุล นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นพ.พลเดช ปิ่นประทีป อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นพ.สมบูรณ์ ทศบวร แนวร่วมแพทย์ พยาบาลเพื่อประชาธิปไตย นายปริญญา ศิริสารการ นักวิชาการอิสระ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นักสื่อสารมวลชน นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ อดีตนายกสมาคมธุรกิจแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แถลงการณ์ ประณาม “นช.ทักษิณ” ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์

การล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดำเนินการมาต่อเนื่องทั้งทางลับและทางเปิดเผยนับแต่เหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 จากบุคคลบางคนเช่น คอมมิวนิสต์อกหัก และอดีตนักการเมืองที่สูญเสียอำนาจจากเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 มีการสอดประสานการเคลื่อนไหว ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ใบปลิว และวิทยุชุมชน โดยมีกลุ่มเสื้อแดงเป็นฐานกำลัง ผู้กระทำผิด และหลบหนีการจับกุมมีดังนี้นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง นายจักรภพ เพ็ญแข นายชาญวิทย์ จริยากุล นายชูชีพ ชีวิสุทธิ์ นางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล นายบุญยืน ประเสริฐยิ่ง นายวีระ มุสิกพงศ์ นายวราวุธ ฐานังกร นายใจ อึ๊งภากรณ์ คนเหล่านี้ล้วเกี่ยวคดีล่วงละเมิดสถาบัน โดยกลุ่มคนดังกล่าวเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และต่อสู้เผด็จการ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้ถ้อยคำหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายว่า “ต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย ที่สืบทอดกันมานับร้อยปี”

กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้โจมตีศาลและกระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญอย่างเห็นได้ชัด และเรียกร้องให้ประธานองคมนตรีและองคมนตรีลาออก ทั้งที่รัฐธรรมนูญ 2550 ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า “การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย” ซึ่งเป็นไปตามพระราชอำนาจตามกฎหมาย ในขณะที่รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ตัดแปะโดยเหวง โตจิราการไม่มีบทรองรับองคมนตรีเลย ทักษิณอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นเรื่องแกนนำที่ได้กระทำกัน ซึ่งสวนทางกับพฤติการณ์ขณะนี้ เพราะทักษิณเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเอง เพื่อให้เกิดสงครามประชาชนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยล่วงละเมิดสถาบันองคมนตรีอันมีความสัมพันธ์เดียวกันกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นกัน การด่ากราดกล่าวหาองคมนตรีว่าเป็นคณะเผด็จการ ทำลายประเทศ ทำร้ายประชาชน โค่นล้มประชาธิปไตย เป็นการตีวัวกระทบคราดใช่หรือไม่? หากองคมนตรีคือวัวแล้วใครคือคราด?



วันนี้ (6 เม.ย.) ได้มีบุคคลไม่ทราบฝ่ายทำการโปรยใบปลิวจำนวนมากในหลายจุดของเขต อ.เมือง จ.เชียงราย “ทักษิณยังจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือ?”

เชื่อว่าฮุนเซนกำลังร่วมมือกับนักโทษชายทักษิณแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยเพียงเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศไทยและเพื่อแลกกับอะไรก็ไม่รู้ที่ตกลงกัน มันช่างบังเอิญเหมาะเจาะอะไรกันเช่นนี้

ทันทีที่ทักษิณย่างเท้าถึงกัมพูชา ทหารกัมพูชาก็ก่อเหตุปะทะทหารไทยอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและไม่มีสิ่งบอกเหตุใดๆ มาก่อน ทหารไทยต้องพลีชีพ 3 นายและบาดเจ็บอีกหลายนาย อีกหลายนายถูกจับตัวเป็นเชลย ทั้งนี้เพื่อปกป้องดินแดนของประเทศไทยและปกป้องอธิปไตยเหนือแผ่นดินไทย หากเป็นสงครามเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยให้พ้นจากการรุกรานของอริราชศัตรู เราเชื่อว่าทหารทุกคนคงภาคภูมิใจที่ได้เสียสละเพื่อชาติแม้จะต้องสละชีวิตก็ตาม

แต่การปะทะกันครั้งนี้ไม่ใช่เหตุปกติ สาเหตุที่ทำให้ทั้งทหารไทยต้องสูญเสียกลับเป็นความต้องการของอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทยที่พูดอยู่ทุกวันว่า รักแผ่นดินไทย รักประชาชนคนไทย และ จะกลับมาทำประโยชน์เพื่อคนไทยทุกลมหายใจเข้าออกนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการกลับมายึดครองอำนาจเหนือประเทศไทยหลังจากที่ปลุกประดมประชาชนคนเสื้อแดง ทำสงครามโค่นล้มสถาบันองคมนตรี และ สถาบันพระมหากษัตริย์ ได้สำเร็จ การยืมมือกัมพูชาก่อสงครามกับกองทัพไทยเพื่อจะกลับเข้ามามีอำนาจในประเทศไทยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ ทักษิณบรรลุข้อตกลงกับฮุนเซนในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนของทักษิณกับฮุนเซนและประโยชน์ของชาติกัมพูชาในเรื่องบ่อก๊าซกลางทะเลอ่าวไทยมูลค่าหลายแสนล้านบาทที่รัฐบาลกัมพูชาโดยฮุนเซนมีเจตนายึดครองมานานแล้วและเป็นที่มาของข้อพิพาทดินแดนไทย-กัมพูชา ว่าด้วยแนวเขตแดนของปราสาทเขาพระวิหาร

เมื่อข้อตกลงแลกเปลี่ยนระหว่างอำนาจเหนือประเทศไทย กับ ผลประโยชน์ของรัฐบาลกัมพูชา บรรลุผล พร้อมๆ กับ การกำหนดวันดีเดย์ ทำสงครามประชาชนของทักษิณ ถูกประกาศขึ้นว่าเป็นวันที่ 8 เมษายน และ ปิดการเจรจาไม่ว่าจะกับใครทั้งสิ้น ด้วยท่าทีอันแข็งกร้าวของทักษิณ และ แกนนำคนเสื้อแดง การก่อสงครามชายแดนไทย-กัมพูชาครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นกำลังหลักในการรักษาความสงบเรียบร้อยสถานที่สำคัญ ภายในกรุงเทพมหานคร และ ถวายการอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ ต้องถอนกำลังออกจากการปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯ แล้ว ส่งกำลังไปเฝ้าตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และ 2

การที่อนุพงษ์ เผ่าจินดาจะต้องรับศึก 2 ด้าน คือ ศึกด้านกัมพูชาและศึกในกรุงเทพฯอันจะทำให้ทหารไทย ไม่มีความพร้อมที่จะรับศึก 2 ด้าน ในเวลาเดียวกัน การรักษาสถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ ก็จะมีประสิทธิภาพและกำลังอ่อนด้อยลงไปเพื่อเปิดโอกาสให้มวลชนคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวก่อการใหญ่ ยึดอำนาจรัฐ ล้มรัฐบาล ล้มองคมนตรี และ ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ลงได้ในท้ายที่สุด ว่าที่นักโทษชายทักษิณก็จะเข้าในประเทศไทย นำทัพคนเสื้อแดงเข้ายึดกรุงเทพฯ และ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดพร้อมกับประกาศสถาปนารัฐไทยใหม่ที่มีทักษิณเป็นผู้ปกครองและมีแกนนำคนเสื้อแดง เป็นผู้กำหนดรูปแบบและร่างกติกาการปกครองการสถาปนารัฐไทยใหม่

ไม่มีความคิดเห็น: