21 มกราคม 2552

การเมืองใหม่ ปชป. พธม. และ โอกาส

การต่อสู้ของพันธมิตรฯ 193 วัน และก่อนหน้านั้นเป็นปีๆ เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยการขจัดทักษิณออกไป เพราะทักษิณเป็นอุปสรรคต่อการปกครองในระบอบทักษิณที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การต่อสู้ของเราได้ผลหลายต่อหลายอย่างเช่น รัฐบาลทักษิณไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ ทำให้ระบอบทักษิณ อ่อนอำนาจลง ปกป้องชาติ เทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สามารถดำเนินคดีได้หลายคดี สามารถทำให้รัฐมนตรีที่ไม่ดีออกจากตำแหน่ง ก่อกระแสการเมืองใหม่ที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และสุดท้าย สามารถรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศไทยจนรัฐบาลอังกฤษถอนวีซ่า ทำให้ทักษิณถูกตัดสินจำคุก ไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ประชาชนตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากที่สุดเท่าครั้งนี้ ประชาชนได้ความกล้าหาญมีความแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามการต่อสู้ของเรา คนมากมายก็ยังไม่เข้าใจและเราจะไม่เหลือแผ่นดินให้ลูกหลานเลยถ้าเราไม่ออกมาต่อสู้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงเป็นเหตุเป็นผลตามสมควรไม่ใช่สักแต่ว่าเอามันส์

แม้ว่าขณะนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมาเป็น ปชป.ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นคนดี ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ปัญญา มีวิสัยทัศน์ สะอาดและความซื่อสัตย์ โปร่งใสแต่สงสัยว่ามีความกล้าหาญหรือไม่และอย่าลืมว่าในพรรค ปชป.ยังมีนักการเมืองเก่าป่นอยู่ด้วย เหตุที่รัฐบาลและพรรคร่วมทำไม่เนียน ลากตั้งรัฐมนตรีมีแต่พวกร่างทรง-นอมินี-มือใหม่หัดขับดังนั้นความไม่ไว้ใจในตัวรัฐบาล-พรรคร่วมรัฐบาลพุ่งพรวดทะลุเพดาน จนเกิดภาพหลอนกลับมาอีกครั้งว่าจะเป็นภาพนักการเมืองที่เตรียมประแป้งแต่งตัวเข้าสู่มหกรรมรุมทึ้งงบประมาณ-ตักตวงผลประโยชน์หรือไม่ หน้าที่ของนายอภิสิทธิ์จะต้องที่จะต้องทำนักการเมืองในพรรคของตนเองให้สะอาด มีนักการเมืองที่สะอาด เสียสละ แม้ว่าจะเจ็บปวดกับคำพูดของสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่พูดว่าไม่มีเนวินวันนี้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ แต่เขาสู้กับพรรคพลังประชาชนไม่ได้ เนวินจึงได้เปลี่ยนขั้วเพราะรู้ว่าอยู่ไปก็ไปไม่รอด จึงได้มีการเปลี่ยนขั้ว ทั้งๆที่เราไปเหนื่อยเรียกร้องมาร้อยกว่าวันเพียงเพื่อให้พรรคๆ หนึ่งได้กลับมาเป็นรัฐบาลอย่างงั้นหรือ เราเองตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เราไม่เคยนึกว่าคนที่อัปลักษณ์ที่สุดกับคนที่ดีคนหนึ่งจะจับมือกันบริหารประเทศ เราเคยเห็นแต่คนอัปลักษณ์จับมือกันกับพวกแลนตะกวดโกงกินบ้านเมือง แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่านคนที่อัปลักษณ์มาจับมือกับคนที่ดีได้จึงเป็นเรื่องน่าพิศวงมาก แต่เราก็ยังควรจะส่งเสริม ช่วยเหลือ ช่วยชี้แนะให้รัฐบาลทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและเราจะให้กำลังใจกับคนดีๆ ไม่อย่างนั้นจะมีคนดีที่ไหนที่จะกล้าออกมาทำงานเพื่อชาติได้อีก แน่นอนขณะนี้รัฐบาลต้องดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศก่อน ประเทศมีงานและมีปัญหามากมายที่ท่านนายกฯต้องแก้ไข ต้องตัดสินใจ ต้องบริหารเพื่อนำปท.ให้พ้นวิกฤติ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ความแตกแยก ความมั่นคงของชาติและสถาบันฯ เราต้องให้เวลารัฐบาลจัดการเรื่องเศรษฐกิจให้เสร็จก่อนระยะหนึ่ง เมื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจผ่านพ้นไปแล้ว ต้องจัดการความถูกต้องให้เกิดขึ้น

รัฐบาลอภิสิทธิ์ และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ก็รู้ตัวดีว่าถูกจับจ้องทุกฝีก้าว ได้ลดกระแสความคลางแคลงใจและสร้างภาพลักษณ์ให้กับรัฐบาล ด้วยการ “เฉือน-หั่น-ทบทวน-เลื่อนพิจารณา” ในโครงการที่ถูกมองว่าไม่คุ้มค่าสมประโยชน์กับเม็ดเงิน รวมถึงอาจมีการแสวงหาผลประโยชน์แอบแฝง เช่น โครงการจัดเช่ารถเมล์เอ็นจีวีของขสมก.จำนวน 4 พันคัน โครงการจัดทำแหล่งน้ำสำหรับเกษตรกรทั่วประเทศมูลค่า 4 พันล้านบาท ที่มีการประมูลกันเสร็จไปแล้วเมื่อพ.ย.51 เล่นบทตรวจสอบกันเองของรัฐบาล ในการพิจารณาผ่านงบประมาณที่แต่ละพรรค แต่ละกระทรวงชงเข้าคณะรัฐมนตรี หรือโครงการถนนปลอดฝุ่น ของกรมทางหลวง มีหลายโครงการที่รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลเสนอเม็ดเงินไปมากกว่าที่ได้รับ แต่ได้ถูกหั่น-ซอย ออกมาจนได้ตามจำนวนเงินที่พอเหมาะพอควร ก็พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีเสียงตอบรับออกมาค่อนข้างดีกับประชานิยมของอภิสิทธิ์ ต่อลมหายใจให้กับมนุษย์เงินเดือน ยืดอายุวงจรธุรกิจของ เอสเอ็มอี และ โรงงานอุตสาหกรรม ทั้งในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดก็ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า ในขณะนี้มีนักการเมืองที่เคยร่วมกันการโกงชาติอยู่ถึงครึ่งค่อนคณะและยังมีฝ่ายค้านอีกเกือบร้อยเปอร์เซนต์ทีร่วมกันโกงชาติ รัฐบาลต้องตระหนักให้มากว่าคณะ รมต.เหล่านี้(ฝ่ายรัฐบาลเดิม)มีแต่จะหาทางโกงชาติเพื่อความรำร่วยของตนเอง แต่การที่เราจะบีบให้คุณอภิสิทธิเล่นงานกลุ่มเนวิน ถ้ามันโดนบีบจนไม่ถอยไม่ได้แล้วมันกลับไปร่วมกับพวกม็อบเสื้อแดงอีก ทำให้คุณอภิสิทธิอ่อนแอลง เดี๋ยวพวกมันก็กลับมาครองอำนาจอีก พวกเลวๆมันมีอยู่มาก สุดท้ายบ้านเมืองก็คงพังย่อยยับ

แค่ 10 กว่าวันนายกฯอภิสิทธิเข็นผลงานออกมาโชว์มากมาย เน้นเป้าหมายไปที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ล้วนล่อใจสร้างความนิยมโกยคะแนนได้ทั้งสิ้น ทำงานกันแทบไม่ได้หายใจหายคอ จนเข็นผลงานออกมานับไม่ถ้วนเพื่อคนไทยทั้งชาติ เป้าหมาย เพื่อสร้าง "ศรัทธา" ให้กับประชาชน โดยเฉพาะรากหญ้าเสื้อแดง เพื่อให้เห็นความตั้งใจจริง ความมุ่งมั่น ความทุ่มเทเพื่อประชาชนทุกคน เพื่อผลประโยชน์ของชาติและผลงานของรัฐบาล ในเวลาแค่ไม่กี่วันแต่รัฐบาลก็ทำได้ดีมากพอสมควรสามารถดึงมวลชนกลับมาได้เป็นจำนวนมาก สามารถเอากลุ่มเนวินนั้นก็เปรียบเหมือนเอาดาบของศัตรูมาทำลายศัตรู เขามีวิธีสู้ในวิถีทางเพื่อแสดงความแตกต่างให้ประชาชนเสื้อแดงเห็นระหว่างคนดีกับมาร ซึ่งส่งผลให้พวกหัวโจกมันค่อยๆเสื่อมไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว กระแสเสื้อแดงที่ต่อต้านกำลังทำร้ายตัวเอง ทักษิณกำลังจะได้รับผลกรรม ทำให้ประชาชนพวกที่คลั่งทักษิณเห็นธรรมและกลับมาเป็นแนวร่วมกับรัฐบาลเพื่อร่วมพัฒนาชาติ ให้พวกเขาเห็นว่าถ้าไม่มีทักษิณประชาชนเหล่านี้ก็สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ และถ้าทำสำเร็จพวกเขาก็จะลืมทักษิณไปเอง การที่บีบรัฐบาลอภิสิทธิโดยการตีกรอบจนไม่มีทางออกยืดหยุ่นหรือให้เวลา ยิ่งเหมือนเพิ่มจุดอ่อนและสร้างความอ่อนแอให้กับรัฐบาลที่จะทำให้พวกเสื้อแดงเข็มแข็งและมีความชอบธรรมมากขึ้น ไปเข้าทางตืนพวกเสื้อแดงก็จะเสียของ เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะให้มันนิ่งแล้วค่อยๆเชือดไปทีละอย่าง และก็เป็นการเชือดนิ่มๆแบบพรรคร่วมต้องยอมรับอย่างไม่มีปัญหาด้วย ถือว่าเขาเดินหมากอย่างรอบคอบที่สุดแล้ว ก็ในเมื่อระบบยังต้องใช้เสียงข้างมาก ก็ต้องให้เวลาเขาเดินไป อย่าไปบังคับกันมากนักเลย ทุกคนก็รู้ว่าเขาเองก็ถูกกระทำมาเยอะมีหรือเขาจะไม่เจ็บ แต่จะทำอะไรมันต้องมีแผน บางอย่างก็ต้องใช้เวลา แทบทุกหน่วยกรมกองมีแต่สมุนพวกมัน การจะทำอะไรต้องให้นิ่มที่สุด

เราจะปล่อยให้ ปชป.บริหาร กวาดบ้าน ซ่อมบ้านก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ไปสักระยะ รักษาเศรษฐกิจเสียก่อน และก็ค่อยๆไล่ค่อยๆถ่ายน้ำเสียออกไป เราพร้อมให้โอกาสรัฐบาลทำงานไปก่อนอย่างมีเงื่อนไข รัฐบาลต้องทำงานต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น เราเชื่อว่าประชาชนจะรักรัฐบาลอย่างไรเราก็ต้องต้องเปิดใจให้กว้างอยู่บนสภาวะของความเป็นจริงประเทศไทย แต่ไม่ใช่ยอมจำนนแต่ต้องเข้าใจปัญหาไปพร้อมๆกับการทำหน้าที่วิจารณ์ตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ ถ้าดีจริงรัฐบาลก็ต้องไม่กลัวการตรวจสอบ ถ้ากระทำผิดเล็กน้อยก็เตือนหรือติติง ถ้าผิดมากหน่อยก็ตำหนิกันตรงๆแต่ถ้าผิดพลาดร้ายแรงก็พร้อมจะไล่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นแกนนำหรือผุ้ปราศัยบางคนออกมากดดดันบางเรื่อง เรียกร้องบางอย่าง ตำหนิบางสิ่งที่รัฐบาลทำ เราก็ต้องเรียกร้องและกดดันให้รัฐบาลนี้บริหารงานอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และทำให้สงคมสะอาดขึ้น

เราไม่ไว้ใจนักการเมืองไม่ว่าพรรคไหน พันธุ์ไหน เพราะเราเชื่อว่าการเมืองก็คือการมาเจอกันของกลุ่มผลประโยชน์ร่วมกัน หาใช่มาเจอกันเพราะอุดมการณ์ตรงกันอย่างในทฤษฏีรัฐศาสตร์การเมือง รูปแบบการ “โกงกิน” ที่แนบเนียนขึ้น ทั้งทางด้านการโกง การเล่นพรรคเล่นพวก หลายโครงการที่เป็นทั้งเมกะโปรเจกต์ ที่กำลังรอการแบ่งเค้กอยู่เช่น โครงการ 3 จี และจัดหาจัดซื้อโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร งบการพัฒนาท้องถิ่นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น งบล่ำซำ” ที่มีการตัดออกมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีแล้วหน่วยงานต่างๆ เสนอของบเพิ่มกลับไปที่กรรมาธิการงบประมาณ แล้วตั้งงบกลับเข้ามาใหม่ที่งบอุดหนุนในกรมส่งเสริมฯในรูปแบบโครงการต่างๆ การประมูลรถไฟฟ้าอีกหลายเส้นทางรวมมูลค่าเกือบแสนล้านบาท ซึ่งตั้งแต่เริ่มยกร่าง ทีโออาร์ ก็มีข่าวล็อกสเปกเอื้อประโยชน์บางบริษัทกันมาตลอด แถมบริษัทรับเหมาที่เข้าประมูลก็ล้วนมีเส้นสายและเป็นนายทุนให้กับพรรคการเมืองในขั้วรัฐบาลหลายพรรคและให้จับตามองความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงล้างบางรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่ง ที่มีผลประโยชน์จำนวนมาก โดยเฉพาะงบประมูลก่อสร้างและการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การประปาส่วนภูมิภาค รถไฟฟ้ามหานคร การบินไทย เป็นต้น รวมถึงในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม ที่มีผลประโยชน์จำนวนมาก ก็ต้องจับตาไม่กระพริบ หรืออย่างเรื่องการจัดการกับตำรวจที่กระทำผิดในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯนั้นในเมื่อ อภิสิทธิ์ เป็นคนยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง (ตอนเป็นฝ่ายค้าน) และผลการสอบสวนก็ออกมาแล้วและชี้ชัดไปที่ตัวคนที่ต้องรับผิดชอบชัดเจน แต่ตอนนี้รับบาลโดยนายกฯกลับนิ่งเฉยต่อผลสอบนี้ (ที่ยื่นให้สอบเอง) โดยคุณอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า คงต้องรอผลสอบของ ปปช ก่อน (แล้วไปยื่นให้คณะกรรมการสิทธิฯสอบทำไม ถ้าคิดจะไม่สนใจ) เรื่องแบบนี้พันธมิตรมีสิทธิที่จะทวงถาม กดดัน หรือตำหนิ หรือประชาชนจะต้องติดตามว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรจากเรื่องการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จำนวน 16 ล้านไร่ ให้กับประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินนี้บ้าง อย่างกรณีสปก-401 ที่รัฐกำลังออกมาผลักดันอีกครั้ง ทั้งๆที่คราวก่อนความผิดพลาดเรื่องนี้ก็เกิดมาจากรัฐบาล ปชป นี่เองเราออกมาติติง ตักเตือน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส นอกเหนือจากเรื่องเอา ปตท.กลับมาเป็นของรัฐ, ทวงคืนปราสาทพระวิหาร กับยึดพาสปอร์ตของทักษิณทุกเล่ม

เรายังไม่จบภารกิจเพียงแค่สิ้นสุดลงแล้วชั่วคราวเมื่อทักษิณต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศและคดีต่างๆ ของเขาก็ได้ถึงขั้นศาลจนพวกเขาถูกตัดสินจำคุกทั้งตัวเองและภรรยาแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้กัน ตราบใดที่ระบอบทักษิณยังดำรงอยู่เราก็ยังต้องสู้ต่อไปเพื่อให้ได้การเมืองใหม่ที่สะอาดจริงๆ ตลอดเวลา 75 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเราอยู่กับการเมืองเก่าที่มีการทุจริต คอร์รัปชัน ใช้ทหาร ตำรวจ ปราบปรามประชาชนยังมีโอกาสที่ทักษิณและพรรคภูมิใจไทย ที่นำโดยเนวิน ชิดชอบจะกลับมา สุดท้ายคาดว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะต้องมีการหักหลังจากกลุ่มเนวินเกิดขึ้น เพราะกลุ่มเนวินมีประวัติเคยหักหลังทั้งบรรหารและทักษิณมาแล้ว ต่อให้เลือกตั้งใหม่ก็จะมีน้ำเสียไหลกลับเข้ามาอยู่ดีเพราะไม่มีตัวเลือกใหม่ๆเข้ามาเสริมลำพังประชาธิปัตย์อย่างเดียวอยู่กลางอสรพิษทั้งนั้นจะให้สู้กับพรรคทั้งหมด มันไม่ไหวหรอก

การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ตั้งใจทำงาน ไม่มี คอรัปชั่น กำจัดพวกโกง และเมือมีการเลือกตั้งก็ค่อยๆทำให้โปร่งใส นั่นก็ เป็นการเริ่มนำไปสู่การเมืองใหม่แล้ว เราจะรับสภาพไปหานักการเมืองเก่า 480 คนในสภาในแบบที่ผ่านมาได้หรือไม่ ชายชราที่สระแก้ว ร้อยตำรวจเอกที่ฝั่งธน เราจะเอาไหม ประชาชนเราจะต้องพร้อมบินออกจากสุ่ม ไม่อยู่ในกรงครอบของ 480 คนอีกต่อไป เราอยู่กับการเมืองเก่ามานานอยู่กับนายกฯ ชั่วๆ 7-8 ปีทีผ่านมา เราจะไม่ยอมอีกต่อไป พอกันทีกับพวกมึงแล้ว ข้อเรียกร้องของประชาชน เราต้องการองค์กรสู้รบในรัฐสภา พรรคการเมืองของประชาชน แต่เรื่องนี้ละเอียดอ่อน เร็วเกินไปที่จะบอกว่าตั้งได้หรือไม่ได้ มวลชนพื้นฐานกำลังรอการเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหวของประชาชนที่ก้าวรุดหน้าต่อไปเพราะต้องการเดินไปหาดินแดนแห่งความดีงาม การเมืองใหม่ต้องเป็นการเมืองของพี่น้องประชาชนทั้งหมดเป็นเจ้าของมีส่วนร่วม การเมืองใหม่จะไม่ถูกกำหนดโดยคนๆ เดียว เพราะมันจะกลายมีสภาพไม่ต่างจากการเมืองของทักษิณ เราต้องการการเมืองใหม่ เราต้องเป็นเจ้าของร่วมกัน ทุกคนเท่าเทียมกัน เข้มแข็งพอที่จะฝ่าด่านการเมืองเก่า เพื่อเปิดประตูไปสู่ "การเมืองใหม่" อย่างที่พวกเราอยากเห็นได้แน่นอน การเมืองใหม่นั้นมิเพียงแต่เปลี่ยนสันดานนักการเมืองแต่ต้องเปลี่ยนแปลงไปทุกๆเรื่อง การเมืองใหม่ต้องเดินหน้าต่อไปต้องมีการต่อสู้ต่อไป เกาะกลุ่มกันไปให้แน่น รวมตัวจัดตั้งกลุ่ม จัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมาเพื่อที่จะต่อสู้กันต่อไป การเมืองใหม่นั้นจะต้องไม่คดโกง การเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์

การเมืองใหม่ที่ทุกคนอยากได้มันยังเป็นอุดมคติเกินไปอยู่ ต้องค่อยๆสร้างกันไปตอนนี้ก็มีแต่นามธรรม เราน่าจะทำให้มันมีน้ำหนัก มีตัวตนจับต้องได้จริงๆ เราจะต้องตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ให้ดี ความรับผิดชอบ พร้อมรับผิดและชอบต่อผลที่ตัวเองทำด้วย การเมืองใหม่จะต้องปรับกันทั้งระบบตั้งแต่ระบบราชการมาเลยเชียว ไม่ได้ใช้เวลาแป๊บเดียวหรือแค่แก้ไขรัฐธรรมนูญถึงจะทำได้ การเมืองจะดีได้ต้องเริ่มที่ประชาชนดีก่อน ถ้าจริยธรรมและความรู้ของคนในสังคมสูงขึ้นกว่านี้ นักการเมืองชั่วช้าก็ไม่มีทางได้เกิด ให้องค์กรอิสระเกิดและโตอย่างเข้มแข็งกว่านี้ ทำงานรวดเร็วกว่านี้ ระบบศาลก็ต้องรวดเร็วกว่านี้ กฎหมายเด็ดขาดกว่านี้

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมาก สำหรับข้อมูลครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ สำหรับบทความ