ไม่ผิดหรอกที่ใครสักคนและกระทั่งพี่ป้อมที่เป็นถึง รมว.กลาโหมคุมกองทัพมีอำนาจอยู่ในมือแล้วจะนิ่งดูดายได้อย่างไรจะคิดว่าน้องใครใครก็รัก ถึงแม้น้องป๊อดจะนั่งเอาตีนราน้ำไม่เคยคิดจะช่วยอะไรให้บ้านเมืองเลยเพราะแม้แต่จะช่วยตัวเองก็ยังแทบจะทำไม่ได้ ร้อนถึงพี่ชายต้องอุ้มเข้าเอว ออกมาอาละวาดฟาดงวงฟาดงา ถามว่าน้องผมผิดอะไร(ทำไมต้องปลด) แถมยังส่งคนใกล้ชิดออกมาพูดจาทำนองข่มขู่รัฐบาลอีกต่างหาก การที่เลขานุการของพี่ป้อมยังออกมาขู่ว่าถ้าน้องป๊อดเป็นอะไรไปพี่ป้อมจะตอบโต้ทั้งวิธีการในกฎหมายและนอกกฎหมาย ทำนอกกฎหมายคือทำอะไรหรือพี่ป้อม จะยิงใครอีก มันเป็นไปได้อย่างไรรัฐมนตรีซึ่งยืนถวายสัตย์กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีเลขานุการตัวเองบอกว่าจะสู้ในกฎหมายและนอกกฎหมายมีอย่างที่ไหน แต่เมื่อพี่ป้อมยังไม่รู้ว่า “น้องผมผิดอะไร” ก็จะตอบให้ตาสว่าง เอาไอ้ที่ความผิดที่มีผลสำเร็จแล้วก่อน 1) เริ่มจากมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดย “มิชอบ” ทำให้ราชการเสียหายกรณีเป็นประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทผลิตรายการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 18.766 ล้านบาท เข้าข่าย “ฮั้ว” กับเอกชน ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสอดีตผบ.ตร.เคยตั้งคณะกรรมการสอบสวน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.51 แล้วพบว่ามีความผิดจริง 2) จากนั้นจึงได้ทำหนังสือถึงสมัคร สุนทรราชให้ย้ายน้องป๊อดมาช่วยราชการสำนักนายกฯ แต่เรื่องก็ถูกดองไว้จนกระทั่งในยุคของสมชายวงศ์ชายกระโปรงเป็นนายกฯ ก็ได้ใช้เป็นเหตุผลลงนามย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เมื่อ 28 พ.ย.51 แม้ว่าลึกๆแล้วจะมีเรื่องอื่นอีกหลายอย่างก็ตาม แต่นี่คือเครื่องยืนยันความผิดของน้องป๊อด แม้ว่าต่อมา ชวรัตน์ ชาญวีรกูลที่รักษาการรองนายกฯปฏิบัติราชการแทนนายกฯขณะนั้นจะลงนามโยกให้มานั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ดังเดิมแบบมีเงื่อนงำก็ตาม 3) เรื่องที่ปล่อยให้คนเสื้อแดงไม่กี่ร้อยคนทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเมื่อเดือนเมษายนที่พัทยาหรือปล่อยให้มีการทุบรถนายกฯ มุ่งหมายเอาชีวิตกันกลางเมือง อย่างนี้น้องป๊อดในฐานะผบ.ตร.ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ การประชุมสุดยอดผู้นำไม่ใช่ประชุมสุดยอดผู้นำท้องถิ่นแถวบุรีรัมย์นะ 4) เหตุการณ์ที่พัทยาทั้งพี่ป้อมและสุเทพเทือกต่างก็มีความผิดและจะต้องร่วมรับผิดชอบในฐานะผู้นำกองทัพและมีกำลังทหารไปรักษาความสงบด้วย นี่ยังไม่นับเหตุร้ายที่กระทรวงมหาดไทยชาวบ้านร้านช่องเห็นภาพพี่ป้อมสติแตกสั่งให้ทหารติดตามและพลทหารออกไปรับหน้าพวกเสื้อแดงว่า “มึงออกไปๆ” เพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น 5) น้องป๊อดได้มอบหมายสั่งการให้ลูกน้องเป็นผู้รับผิดชอบและปฏิบัติการสลายการชุมนุมในเหตุการณ์ 7 ต.ค. 2551 ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ประชาชนอย่างร้ายแรง เสียชีวิต พิการ ขาขาด แขนขาด ลูกตาหลุด เนื้อสมองเสียหาย และบาดเจ็บอีกจำนวนหลายร้อยคน นึกถึงภาพการระดมยิงแก๊ซน้ำตา กระสุนจริงหรือกระสุนยางก็ไม่รู้เข้าใส่บรรดาผู้ชุมนุมที่มีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่นอนกลิ้งระเนระนาดกลางท้องถนน ในแบบซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่า ซ้ำๆ ซากๆ ถึงขั้นขาขาด แขนขาด หรือกระทั่งชีวิตปลิดปลงลงไปเลยก็มี...ภาพเหตุการณ์เช่นนี้มันก็ควรจะต้องมีผู้รับผิดชอบนั่นแหละคือมันก่อให้เกิดบรรยากาศอันน่าเอน็จอนาถ เทียบไม่ได้กับครั้งการจัดการกับผู้ชุมนุมอีกกลุ่ม ในช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมาซึ่งถึงแม้นจะเต็มไปด้วยความละมุนละม่อม ไม่มีใครต้องบาดเจ็บ ล้มตาย กันแบบหนักหนาสาหัส ยังเลี่ยงไม่พ้นที่จะถูกนำเอามาเป็นประเด็น ไล่บี้ ไล่เช็ด ตั้งกระทู้เอาผิด หรือตัดต่อเทปเสียง เพื่อที่จะหาทางเล่นงานกันให้จงได้ หลังจากการสั่งการให้ตำรวจใช้อาวุธสงครามยิงถล่มและเข่นฆ่าประชาชนเพื่อสลายการชุมนุมอย่างอำหิตมาก ทำทุกอย่างเพียงเพื่อเปิดทางให้ได้เข้าไปเถลิงอำนาจจนไม่เห็นแก่ชีวิตประชาชน ทั้งๆที่น้องโบว์เสียชีวิตจาการออกไปร่วมชุมนุมเพื่อปกป้องประเทศชาติชีวิตประชาชนไม่มีความหมายหรืออย่างไร ประชาชนที่เสียชีวิตจากยิงถล่ม คนที่บาดเจ็บพิการเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานและทำมาหากินไม่ได้ใครจะช่วยเหลือดูแลและชดเชยในสิ่งที่เขาสูญเสีย ลูก-เมียเขาจะทำอย่างไร ศาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องให้ความความเป็นธรรมและชดเชยสิ่งที่ผู้ชุมนุมและญาติพี่น้องของเขาสูญเสียไปด้วย เมื่อ 16 ก.พ.52 พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสตช.ได้ออกมาขอโทษวิชุดา ระดับปัญญาวุฒิแม่น้องโบว์ต่อกรณีกล่าวหาว่าน้องโบว์พกระเบิดไปเอง
‘เจ๊ก’ธัญญา กุลแก้วที่ต้องสูญเสียขาข้างซ้ายจากการสลายการชุมนุมตั้งแต่ถูกยิงด้วยระเบิดจนขาขาดนอนอยู่โรงพยาบาลนานถึง 9 เดือนยังทำมาหากินไม่ได้ กำลังใจดี สภาพร่างกายก็ดีขึ้นใส่ขาเทียมแล้ว กำลังฝึกเดินอยู่แต่ยังไม่คล่องเท่าไร ก็เลยยังทำงานอะไรไม่ได้
ตี๋ - ชิงชัย เจริญอุดมกิจซึ่งต้องเสียแขนข้างขวาที่ใช้ในการสร้างงานศิลปะไปกับการสลายการชุมนุมแม้จะสูญเสียแขนขวาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่เขาใช้ในการวาดรูปขายแต่เขาก็ไม่ท้อถอยสุขภาพตอนนี้ก็แข็งแรงดีทั้งกายและใจ
สุรพล ทวนทองขอโทษตี๋ ชิงชัยที่เคยให้ข่าวตี๋ ชิงชัยพกระเบิดทั้งที่จริงเป็นเพียงพวงกุญแจหนังเมื่อ 9 มิ.ย.ทำให้ตี๋ ชิงชัยได้รับความเสียหาย
รุ่งทิวา ธาตุนิยมตาด้านซ้ายหลุด กะโหลกศีรษะแตก เนื้อสมองบางส่วนสูญหายตั้งแต่ 7 ต.ค.เธอยังไม่ได้กลับบ้านอีกเลย วันนี้มีอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก เคลื่อนไหวแขนซ้ายได้แล้ว เธอได้ดูพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯสักพักหน้าเริ่มแดงกับมีน้ำตาไหลออกมา พูดไม่ได้ ทานอาหารเหลวทางสายยางได้ สมองข้างขวายังปกติ อาจมีปัญหาด้านการรับรู้บ้าง ส่วนสารวัตรจ๊าบที่เดินทางจากบุรีรัมย์เข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถทัวร์ในวันที่ 6 ต.ค.ไม่เคยนิยมความรุนแรง ที่เขาออกมาต่อสู้ร่วมกับพันธมิตรฯ เพราะศรัทธาในแนวทางนี้ พันธมิตรฯทุกคนจะรู้ดีในเรื่องนี้และจะไม่ทำเด็ดขาด ตำรวจดีมักปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ต้องมีเหตุให้ออกหรือลาออกจากหน้าที่อยู่เสมอ สารวัตรจ๊าบเคยถูกตำรวจฟาดด้วยไม้กระบอง3-4 ทีที่ศีรษะระหว่างที่เป็นด่านหน้าบุกทำเนียบ สารวัตรจ๊าบเองเคยบอกคนใกล้ชิดเสมอๆว่ามีนักการเมืองไม่ชอบหน้า ดังนั้นสาเหตุรถจี๊ประเบิดจนเป็นเหตุให้พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรีสารวัตรจ๊าบเสียชีวิตนั้นน่าจะเกิดจากคนยิงปืนเข้าไปไม่ว่าจะเป็น M79 หรือแก๊สน้ำตาซึ่งสามารถเป็นชนวนให้ระเบิดได้ จนป่านนี้ก็ยังจับมือใครดมไม่ได้ ตอนนี้ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดแก่ผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวคือนายสมชายกระโปรง จิ๋วหวานเจี๊ยบ สุชาติ เหมือนแก้วและน้องป๊อดที่สองรายหลังนั้นผิดวินัยร้ายแรงต้องออกจากราชการและมีความผิดทางอาญาฟังรายละเอียดได้ที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น