23 มกราคม 2553

การบินไทยสายการบินแห่งชาติที่บรรพบุรุษไทยสร้างไว้ให้


การบินไทยสายการบินแห่งชาติที่บรรพบุรุษไทยสร้างไว้ให้กับแผ่นดินและคนไทยจะสามารถดำรงคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่   สายการบินแห่งชาติสายนี้เคยเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศและคนไทยมาช้านาน เคยเป็นรัฐวิสาหกิจที่สร้างรายได้ให้กับแผ่นดินจำนวนมากในแต่ละปี เป็นหน้าเป็นตาและเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติมาเป็นเวลาช้านานแต่สิ่งเหล่านี้มันได้สิ้นสลายไปแล้ว ที่เด่นชัดก็คือหมดสิ้นไปตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา    นักการเมืองโคตรโกงได้ถือเอาสายการบินแห่งชาติสายนี้เป็นแหล่งทำมาหากินในการปล้นสะดมชาติและประชาชนยกวงศาคณาญาติและพวกพ้องเข้ามายึดครองครอบงำและปล้นสะดมสายการบินแห่งชาตินี้อย่างครึกโครมและอำมหิตที่สุดทั้งปล้นและฆ่าเจ้าทรัพย์ไปพร้อมกัน
      
ไอ้โจรชุดนั้นตั้งสายการบินแห่งชาติเพิ่มขึ้นมาอีกสายหนึ่งเป็นสายการบินประเภทต้นทุนต่ำแล้วให้อภิสิทธิ์มากหลาย อิงแอบเกาะกินเอาเลือดเนื้อของสายการบินแห่งชาติเดิมไปเป็นของสายการบินแห่งใหม่   ใช้ทรัพยากรอันมีค่าของสายการบินเดิมรวมถึงเส้นทางบินที่มีรายได้ดีถูกผ่องถ่ายไปให้สายการบินใหม่ โอนย้ายทรัพยากรบุคคลที่มีฝีมือไปสายการบินใหม่และเบียดบังเบียดเบียนเพื่อสนับสนุนสายการบินใหม่โดยใช้รายจ่ายของสายการบินเก่าส่งเสริมให้สายการบินใหม่เติบโตมีกำไรอย่างเป็นล่ำเป็นสันและบอนไซสายการบินเก่าให้ผอมโซแห้งเหี่ยวเพื่อให้ล้มละลายตายไปในที่สุดแล้วจากนั้นก้ทำการจนสายการบินใหม่เข้มแข็งเกรียงไกรแล้วก็ผ่องถ่ายขายให้กับต่างชาติเพื่อฆ่าเจ้าทรัพย์   ส่วนทรัพย์ที่ถูกปล้นไปก็คือสายการบินแห่งชาติก็มีการทุจริตฉ้อฉลปล้นสะดมอย่างครึกโครมยิ่งกว่ายุคไอ้เสือนั่น    ตั้งแผนการซื้อเครื่องบินทั้งที่รู้ว่าขาดทุน แต่สร้างตัวเลขเป็นกำไรเพื่ออ้างเป็นเหตุผลในการซื้อเครื่องบินราคาแพงโดยมีเงินใต้โต๊ะตกหล่นแก่นักการเมือง  มีเครื่องบินร้อยพ่อพันแม่ สารพัดยี่ห้อ สารพัดแบบ สารพัดรุ่น การดำรงสต็อกอุปกรณ์อะไหล่จึงมากมายมหาศาลยิ่งกว่าสายการบินใดในโลก เจ๊งนับหมื่นล้านในเวลาแค่ปีเดียวและเกิดผลเสียหายต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้  ก็ในเมื่อกระบวนการจัดซื้อทุกเรื่องทุกระบบทุกรายการแพงลิบลิ่วจากการเรียกเงินใต้โต๊ะเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองในอัตราสูงลิ่วถึง 35-40% การจัดหาทั้งปวงจึงได้ของเลวราคาแพงจนเป็นที่เสื่อมเสียและเป็นที่ครหานินทา  ทุจริตในการเก็งราคาน้ำมันและในการฉ้อฉลจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินจากการจำหน่ายตั๋วในต่างประเทศจนเกิดผลขาดทุนปีละนับหมื่นล้านบาท     นักการเมืองโกงได้ ผู้บริหารก็โกงได้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็โกงได้เกิดลัทธิเอาอย่างในการโกงและปล้นสะดมสายการบินแห่งชาตินี้อย่างคึกคักครึกโครม  มีการเล่นพรรคเล่นพวก สับเปลี่ยนโยกย้ายพนักงานโดยไม่เป็นธรรมอย่างทั่วด้านเพื่อปกปิดข้อมูลและปิดหูปิดตาประชาชนและส่งเสริมสนับสนุนให้พวกพ้องของผู้มีอำนาจเข้าเสวยสุขและครองตำแหน่งที่มีอำนาจอย่างทั่วด้าน

สุดท้ายบิ๊กบินไทยต้องยอมไขก๊อกเพราะถูกกระเป๋าทับ วัลลภ พุกกะณะสุตประธานกรรมการบริหารบริษัทการบินไทยได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากทุกตำแหน่งที่เกี่ยวกับการบินไทยทั้งในตำแหน่งกรรมการ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการสายการบินนกแอร์เหตุเพราะแสดงความกร่างขนกระเป๋าสัมภาระขัดระเบียบการบินไทยจากญี่ปุ่น ไม่เสียภาษีศุลกากร ใส่ตัวเลขน้ำหนักปลอม ถูกร้องเรียนว่ากระทำมาหลายครั้งมาตั้งสองสามปีแล้วจึงได้ถูกตั้งกรรมการสอบสวนกรณีขนสัมภาระน้ำหนักถึง 398 กิโลกรัมเกินพิกัดน้ำหนักตามสิทธิของผู้โดยสารในเที่ยวบินทีจี 677 ญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ  การลาออกของนายวัลลภครั้งนี้เพื่อแสดงสปิริต ความรับผิดชอบ   กระนั้นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจะทำงานต่อไปโดยจะสรุปผลการสอบสวนเสนอต่อบอร์ดเพื่อหาตัวผู้ทำผิด และหาผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น  อย่าให้เป็นเพียงแค่ตัดตอนความรับผิดชอบเลย

ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าวัลลภ พุกกะณะสุต จารุวรรณ พุกกะณะสุต และพิมใจ มัตสุโมโตได้นำสัมภาระมาเช็คอินรวม ( Pool Check-in) ภายใต้รหัส PL 0125 โดยมีสัมภาระ 30 ชิ้น น้ำหนัก 398 กิโลกรัม ขณะที่ได้รับสิทธิ์รวมกันที่ 170 กิโลกรัม จึงมีการขนสัมภาระเกินสิทธิ 228 กิโลกรัม ส่วนพฤทธิ์ บุปผาคำรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์แยกเช็คอินสัมภาระ 10 ชิ้น น้ำหนัก 113 กิโลกรัมจากสิทธิขนสัมภาระ 40 กิโลกรัม เกินสิทธิ์ 73 กิโลกรัมโดยไม่ปรากฏหลักฐานการอนุมัติน้ำหนักสัมภาระตามระเบียบบริษัทฯ   นอกจากนี้ยังพบมีการแก้ไขน้ำหนักสัมภาระภายหลังที่เครื่องบินออกไปแล้วของกลุ่มวัลลภจาก 398 กิโลกรัม เหลือ 198 กิโลกรัม และ 172 กิโลกรัม ส่วนของพฤทธิ์แก้ไขจาก 113 กิโลกรัม เหลือ 63 กิโลกรัม และ 51 กิโลกรัม แต่ยืนยันว่าการขนสัมภาระเกินไม่กระทบต่อความปลอดภัยทางการบินในเที่ยวบินดังกล่าวเนื่องจากยังมีความสามารถรับน้ำหนักเหลืออีกถึง 10,479 กิโลกรัม  บินฟรี ขนฟรี กินฟรี แถมห่อหลับบ้านได้อีกเยอะ ยังสามารถโกงและขนให้ฟรีได้อีก ยังไม่มีใครตาย ยังไม่ได้มีใครเสียหายสักหน่อยนี่นา

คนการบินไทยระดับล่างๆไม่ใช่เป็นคนที่ทำให้การบินไทยเจ๊ง การบินไทยเป็นแหล่งหากินของนักการเมืองจริงๆ  นักการเมืองที่ผลัดกันเข้ามาหาผลประโยชน์ของการบินไทยต่างหากที่ทำให้การบินไทยเสียหาย  รายได้ควรจะได้มากกว่านี้หากไม่โกงกินกัน ซื้อเครื่องบินที่ไม่เคยเหมาะกับเส้นทางการบินของตัว ขอให้ได้เงินใต้โต๊ะ คอมมิชชั่นเป็นพอ  แถมยังส่งพวกผุ้บริหารโง่ๆที่ไม่มีความรู้เรื่องการบินเข้ามาคุมการบินไทยอีก เช่นเนวิน ชิดชอบซากเน่าบ้านเลขที่ 111 แกนนำพรรคภูมิใจไทยซึ่งส่งให้วัลลภเข้าไปเป็นบอร์ดการบินไทย ส่งเข้ามาได้ก็สั่งให้ออกได้  กบ สภาพัฒน์เองก็เถิดข้ามห้วยจากกระทรวงเกษตรมาสภาพัฒน์ได้อย่างไร

แม้ว่าการแสดงความรับผิดชอบและการดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบในแวดวงการเมืองและการบริหารรัฐกิจไทยในช่วงปีที่ผ่านมานั้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  แต่ยังไม่ดีพอ  เลขาฯสภาพัฒน์อำพน กิตติอำพนในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทยแค่คิดเป็นค่าปรับ 20 เหรียญต่อกิโลกรัม วัลลภได้ลาออกไปแล้วก็เลยยกเลิกการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรม เอ้า แล้วไอ้สองปีกว่านั่นมันไม่ต้องรับผิดชอยเหรอ กรณีลักลอบขนสินค้าหนีภาษีศุลกากรเข้าในราชอาณาจักรไทยอีกเล่า    ถ้าจะปรับหรือเรียกค่าเสียหายก็ต้องดำเนินการให้ครบถ้วน  ไม่ต้องหาผู้รับผิดชอบต่อการกระทำความผิดในการแก้ตัวเลขน้ำหนักสัมภาระนี้ด้วยหรือ หากเป็นการสั่งการ จ้างวาน หรือบงการของวัลลภ วัลลภก็ก็ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไร   การบินไทยควรจะเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจสอบกรณีเหล่านี้สู่สาธารณะอย่างครบถ้วนเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้และมั่นใจในการบริหารที่มีธรรมาภิบาลของการบินไทยที่อาศัยสิทธิการบินของประเทศไทย  นอกจากการที่การบินไทยต้องเสียผลประโยชน์แล้วยังอาจกระทบต่อความปลอดภัยการบินของประชาชนในฐานะผู้บริโภค

การประมวลจริยธรรมที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งจะมีผลต่อความผิดด้านจริยธรรม กรณีพนักงานหรือกรรมการการบินไทยกระทำผิดจริยธรรมจะหมายถึงกระทำผิดทางวินัยด้วย การประมวลจริยธรรมใหม่จะกำหนดระเบียบการร้องเรียน ขั้นตอนตรวจสอบและบทลงโทษ ตั้งแต่หักเงินเดือนถึงไล่ออก ซึ่งจะบังคับใช้กับพนักงานทุกระดับ

โค้กญี่ปุ่นสี่ห้าลัง เนื้อโกเบ น้ำแร่ฝรั่งเศสจากผู้รับสัมปทานด้านอาหารการบินไทยอาจจะมอบให้ด้วยเสน่หา หรืออาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝง  ผลไม้ที่เอามาถวายวัดจากแดนไกลก็ไปหลอกพระเอาใบอนุโมทนาบัตรมาแสดง   ความหรูหรา อู้ฟู่ และตัณหาของวัลลภและหรือผู้บริหารระดับรองผู้อำนวยการอาจจะส่งผลให้คนเหล่านั้นได้เกาะกินผลประโยชน์จากการบินไทยไปอีกนาน แต่ถึงแม้วัลลภจะตัดตอนความรับผิดชอบไปแล้ว ก็สมควรที่จะยังต้องรับกรรมที่ตนเองก่อด้วย

การบินไทยจะขอกระทรวงการคลังให้กู้เงินวงเงิน 7.3 พันล้านบาทนำมาปล่อยกู้ต่อให้กับบริษัทเพื่อนำมาจ่ายค่าเครื่องบินแอร์บัส A330-300 ที่จะสั่งซื้อใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินที่กำลังจะปลดระวางในปี 53   แว่วมาว่าเครื่องเก่าพวกนี้เกิดจากการลองของส่งไปซ่อมที่อื่นแล้วไม่สามารถ จึงจำเป็นต้องซื้อมาประจำการใหม่เพื่อเอายอดคอมมิสชันมาชดเชยเงินที่หายไปจากการซ่อมครั้งนี้ด้วย  กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่กลับตีแผนการที่จะให้กระทรวงการคลังกู้เงินจำนวน 7.3 พันล้านบาทให้นั้นกลับมาทำให้แผนล่าช้าออกไปประมาณ 2 เดือน แต่การบินไทยบอกไม่ใช่นัยสำคัญต่อแผนการโดยรวม  แค่แผนสำรอง หากแผนหลักไม่ทันเวลา แผนหลักที่ได้ดำเนินการจัดเตรียมการขอกู้เงินระยะยาวไว้กับสถาบันการเงินและได้รับการยืนยันการให้กู้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอ ECA อนุมัติค้ำประกันการกู้เงินจึงคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด    การบินไทยคาดว่าในปี 2553 จะมีกำไรก่อนหักภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนที่ 4.3 พันล้านบาทในปี 53 นี้และจะต้องดำเนินการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอีก

การบินไทยที่สร้างมาจากภาษีคนไทยแต่คนไทยถ้าไม่รวย นั่งไม่ได้หรอกแพงชิบ  เชื่อว่ากระทรวงการคลังทำถูกต้องแล้ว อย่าได้ยืนมือเข้าไปช่วยเลย  ปล่อยให้บริหารกันเอง การบินไทยก็บอกว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ต้องทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นแต่เวลากู้มาขอเงินภาษีของคนไทยทุกคน ทุกวันนี้ผู้ถือหุ้น 50% นั่งรอรับแต่ผลประโยชน์  รัฐน่าจะได้เอากลับมาเป็นของรัฐอย่างเดิม เป็นสายการบินแห่งชาติ เป็นสายการบินของคนไทยทุกคน เอาคำว่าบริษัทมหาชนออกไป

โสภณ ซาเล้งยังเสนอหน้าโวแก้ปัญหาการบินไทยพ้นขาดทุนจากการไล่จี้ เข้มงวดและมีการตรวจสอบทุกเรื่องรวมถึงนโยบายการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองไปที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายแต่ไม่บอกว่าขอให้ผู้ใช้บริการการท่ฯและสายการบินต่างๆใช้บริการของคิงส์พาวเวอร์ให้มาก จะได้มีเรื่องอ้างเพื่อขออนุมัติขยายสนามบินมากินต่ออีกรอบ

ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย การระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมถึงราคาน้ำมันที่ผันผวนและปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อธุรกิจการบินทั่วโลก อยู่ในภาวะที่ผกผัน ทั่วโลกมีหลายสายการบินที่จะต้องปิดตัวเองลงหรือไม่ก็ต้องรวมกิจการกับสายการบินอื่น  ล่าสุดเป็นข่าวสะเทือนขวัญสะท้านโลกเจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป (JAL) สายการบินรายใหญ่สุดของญี่ปุ่นก็ได้ประสบชะตากรรมประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักและได้ยื่นล้มละลายต่อศาลแล้ว  สำหรับธุรกิจการบินของไทยที่นอกจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวกล่าวแล้วยังมีปัจจัยภายในส่งผลกระทบให้กับสายการบินในประเทศอย่างมาก ปลายปี 52 ที่ผ่านมาสายการบินพีบีแอร์ ได้ขอหยุดการบินเป็นการชั่วคราว ส่วนกลุ่มโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ ทั้งแอร์เอเชียวันทูโก หรือแม้กระทั่งนกแอร์ที่มีบริษัทแม่อย่างการบินไทยคอยอุ้มชูดูแลยังแทบกระอัก   เจแปนแอร์ไลน์เป็นสายการบินแห่งชาติของญี่ปุ่นเป็นเกียรติศักดิ์ศรีของญี่ปุ่นมาเป็นเวลาช้านาน เป็นสายการบินขนาดใหญ่ที่สุดสายหนึ่งของโลก     เป็นสายการบินที่มีเครื่องบินทันสมัยเป็นจำนวนมาก มีการบริหารจัดการที่ทันสมัยและกว้างไกลที่สุดสายการบินหนึ่งของโลก   เป็นสายการบินที่มีสินทรัพย์และมีรายได้แต่ละปีเป็นจำนวนมหาศาลไม่ห่างกันเท่าใดกับงบประมาณรายได้รายจ่ายประจำปีของประเทศไทยแต่สายการบินยักษ์ใหญ่ระดับนี้ก็ได้ขอล้มละลายไปเรียบร้อยแล้ว

"ฐานะทางการเงินของบริษัทขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ดี เพราะได้ผ่านจุดวิกฤติที่สุดไปแล้วเมื่อกลางปี 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่เดือนก.ย.2552 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น และเดือนพ.ย.-ธ.ค.2552 อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 75% ประกอบกับการลดสัดส่วนการขายตั๋วโดยสารในกลุ่มราคาถูกลง ส่งผลทำให้ผลประกอบการในปี 2552 มีกำไรแน่นอนจากช่วง 9 เดือนแรกที่ยังขาดทุน" ดีดีใหม่ไฟแรงอย่างปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ระบุ



ไม่มีความคิดเห็น: