เรื่องราวลี้ลับของสร้อยเพชร ณ ป้อมเพชร์สาวใหญ่ใจถึงซึ่งย้ายชีวิตเข้าบ้านใหม่ในซอยพหลโยธินแล้ว บ้านหรูที่มีกล้องวงจรปิดรอบด้านกว่า 50 ตัวไม่รวมภายในใส่กระจกประตู-หน้าต่างทุกบานอย่างหนากันกระสุน เหตุที่ สร้อยเพชรไม่อยากจะกลับไปใช้นามสกุลพ่อ ดามาพัง ทั้งๆที่สร้อยเพชรเคยกลับไปใช้นามสกุลเดิมของเสมอผู้พ่ออยู่ระยะหนึ่งหลังจากที่ได้หย่าขาดกับไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ตักขี้ กินชะมัดอดีตสามีสุดที่รัก แล้วก็ตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้นามสกุลณ ป้อมเพชร์ของพจนีย์ผู้เป็นแม่ ใจของผู้ที่สืบสกุลณ ป้อมเพชร์ที่แท้จริงเป็นเดือดเป็นร้อนเป็นอันมาก ก็แค่สร้อยเพชรมีความเชื่อทางโหราศาสตร์ว่าหากใช้นามสกุลณ ป้อมเพชร์ที่แม้จะไม่ได้รับการต้อนรับจากผู้คนในสกุลนี้อย่างแท้จริงแต่ก็จะทำให้สร้อยเพชรได้รับความเจริญรุ่งเรืองมีคุณแก่ชีวิตมากกว่าดามาพังของพ่อเป็นอย่างมาก ภายหลังที่ผู้เป็นพ่อหย่าขาดกับพจนีย์ผู้เป็นแม่แล้วก็ไปมีผู้หญิงที่พจมารไม่อาจจะทำใจรับได้อีก สกุลดามาพังมีเทือกเถาเหล่ากอในจังหวัดภาคอีสานในแถบจ.ชัยภูมิ ที่ผู้ร่วมกันใช้จำนวนไม่น้อย บางคนก็ออกไปมีชีวิตต่อสู้เป็นโรบินฮูดในต่างแดนก็มี
นักโทษหนีคดีอาญาโทษติดคุกมีแนวคิดผลักดันเมียถึงใจด้วยการถีบให้มาเล่นการเมืองเพื่อดิ้นรนหวนคืนสู่อำนาจของเครือข่ายระบอบตักขี้ด้วยกระแสนางยักษ์หญิงแห่งรัฐไทยใหม่เอ้ยนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ลูกหลานชาวอีสานหลานสาวพญาแล ไพ่ตาสุดท้ายเกมที่ต้องการหลอกคนอีสาน ทั้งๆที่ในปัจจุบันนี้มีไม่กี่ตระกูลที่เป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากพระยาภักดีชุมพลชาวเวียงจันทน์ผู้สร้างเมืองชัยภูมิและเป็นเจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก ที่แน่ๆไม่ใช่ดามาพังที่สืบสายพระโลหิตเจ้าพ่อพญาแลโดยตรงแน่นอน เพื่อลงสมัครส.ส.ที่เขต 3 อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิโดยใช้จัตุรัสโมเดล ประชานิยมที่มีในชัยภูมิสูงมากและฝังรากลึกมาก คนในสกุลดามาพังมีเป็นจำนวนมากกระจายอยู่ทั้งอำเภอ ในสมัยที่นักโทษหนีคดีอาญาไพร่หมาอำมาตย์ใหญ่ตักขี้ กินชะมัดยังเป็นนายกฯสมัยที่ 2 คนจัตุรัส-ชัยภูมิก็ภูมิในกันนักหนาว่ามีเขยเป็นนายก ว่าที่แม่ทัพใจถึงคนนี้ เด็ดขาด ไม่หูเบา เหนือกว่านักโทษหนีคดีอาญามากจำต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยเหตุสามีซาตานในคราบนักบุญของคนจนรากหญ้าถูกรังแกจนไร้แผ่นดินซุกหัวระหกระเหินเร่ร่อนอยู่ต่างแดน สายดามาพัง ณ หนองโดนที่เมื่อสอบสาแหรกทางผู้เป็นพ่อก็พบว่ามีรากเป็นชาวหนองคายที่ได้ย้ายมาตั้งรกรากที่หนองโคนในอำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ ถึงแม้สร้อยเพชรจะไม่ได้ติดต่อกับญาติสายนี้มาเนิ่นนาน แต่ในการเดินสายหาเสียงเมื่อกันยายน 2543 กับคนที่ใช้นามสกุลดามาพงษ์รวมสามสิบคนสองสามีภรรยาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนในตระกูลและตระกูลชาลีเครือ ที่ทั้งสองมีสายสัมพันธ์แนบแน่นต่อสุชิน ชาลีเครือ การตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งของสร้อยเพชรอาจจะสร้างความสั่นสะเทือนให้สังคมไทยได้บ้าง แต่สร้อยเพชรก็อย่านึกทึกทักเอาเองว่ามีกองกำลังสำคัญอยู่ในย่านนั้นแล้วจะแจ๋วทำชั่วอะไรๆแบบที่เคยทำได้ง่ายๆอีก
ต้นสกุลณ ป้อมเพชร์คือ พระสมุทบุรานุรักษ์ (ขำ)อดีตผู้ว่าราชการเมืองสมุทรปราการผู้ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2456 ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จประทับแรมที่อ่างศิลา บรรพบุรุษของพระสมุทรฯ เป็นคนในบ้านพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯรัชกาลที่ 1 และมีบ้านอยู่บริเวณป้อมเพชร์ บริเวณที่องค์พระพุทธยอดฟ้าฯรัชกาลที่ 1 ได้ทรงอุทิศที่บ้านส่วนใหญ่สร้างเป็นวัดสุวรรณดารารามส่วนปริเวณที่เหลืออยู่ก็ให้ข้าหลวงเดิมตั้งถิ่นฐาน ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงคุ้นเคยกับพระยาไชยวิชิตสิทธิสาตรา (นาค) อันเป็นอดีตผู้รักษากรุงและเป็นบิดาของพระสมุทรฯ ตั้งแต่ครั้งที่พระองค์ดำรงอิสริยยศมกุฎราชกุมาร ทรงผนวชที่วัดบวรนิเวศน์แล้วได้โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงรับบิณฑบาตที่บ้านท่านผู้นี้ นอกจากนั้นพระองค์ยังได้ทรงคุ้นเคยกับท่านผู้หญิงยมราช (ตลับ สุขุม) พี่สาวของพระสมุทรฯ เมื่อครั้งที่พระองค์ยังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ ณ ป้อมเพชร์มีคนสืบสายสกุลที่สำคัญๆ มากมาย อย่างท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงศ์ภริยาของท่านปรีดี พนมยงค์ ต่อมาพระสมุทรฯได้เป็นอธิบดีกรมราชทันฑ์คนแรกของประเทศไทย สาแหรกบรรพบุรุษของพระสมุทรฯ โดยตรงนั้นจึงเป็นณ ป้อมเพชร์ขนานแท้-ดั้งเดิมกับอีกสายเป็นเครือญาติมาจากบรรพบุรุษเดียวกันแต่ต่างแยกไปมีครอบครัวของตัวเองไปรวมไปถึงเครือญาติฝ่ายแม่ ต่อมาพ.ต.อ.พร้อมซึ่งเป็นพ่อของพจนีย์แม่ของสร้อยเพชรได้ไปขออนุญาตใช้นามสกุลณ ป้อมเพชร์จากญาติพี่น้องอันเป็นผู้สืบสกุลณ ป้อมเพชร์สายตรงของพระสมุทรฯและก็ใช้ร่วมกันเรื่อยมา ชัดเจนว่าพจนีย์นั้นสืบสายโลหิตทางพ่อพ.ต.อ.พร้อม ณ ป้อมเพชร์ครั้นเมื่อหย่าแล้วจึงสามารถใช้นามสกุลณ ป้อมเพชร์ได้อย่างถูกต้อง แต่กับสร้อยเพชรนั้นถึงจะเป็นลูกของพจนีย์ก็จริงแต่การสืบสายโลหิตทางพ่อสกุลดามาพังไม่ใช่ณ ป้อมเพชร์เมื่อพิเคราะห์ตามนี้ การที่สร้อยเพชรเลือกใช้นามสกุลณ ป้อมเพชร์แทนดามาพังจะพร้อมถึงชาติถึงสกุลและกฎบัญญัติอันพึงมีพึงทำหรือไม่ มาตรว่าสร้อยเพชรจะอยากเป็นอำมาตย์จนตัวสั่นเพียงใดก็อย่าไปทำอะไรๆต่ำๆให้คนในสกุลณ ป้อมเพชร์เสื่อมเสีย-เดือดร้อนแล้วกัน
สร้อยเพชรอย่านึกว่ามีเซนต์โยเซฟคอนเนกชันที่ยังมีศักยภาพและยังมีพลังที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือตักขี้และสร้อยเพชรได้อีกมากแล้วจะทำอะไรประเทศก็ได้ง่ายๆนะ ถึงสายสัมพันธ์เซนต์โยฯนี้จะพัวพันอยู่ในทุกวงการของประเทศและชื่อสร้อยเพชร ณ ป้อมเพชร์ ดามาพังนางยักษ์หญิงแห่งรัฐไทยใหม่ยังได้รับการยอมรับนับถือและมีสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่น แม้ว่าสร้อยเพชรจะเรียนไม่จบม.ปลายเพราะรีบมี...ก่อนก็ตาม เมื่อศูนย์อิเหลื่อยเฉื่อยแฉะเคาะชื่อของท่อน้ำแดงออกมาหราในสังคม ปรากฏชื่อของพนิดา ปัญจาบุตรและจุฑารัตน์ เมนะเศวตเพื่อนร่วมรุ่นเซนต์โยเซฟเป็นรายชื่อบุคคลที่ทางการตรวจพบว่ามีการเบิกจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อนำไปเป็นท่อน้ำเลี้ยงฝูงไพร่แดงกบถ มือขวาของสร้อยเพชรอย่างพนิตา ปัญจาบุตรนั้นขายอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่แถวสามยอดต่อมาได้ขยายกิจการออกไปด้วยการส่งปลาสวยงาม ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย ชอบเล่นหุ้น ได้นำพาให้สร้อยเพชรเข้าสู่การซื้อขายหุ้นในตลาดจนได้ไปรู้จักคุ้นเคยกับสามีของกาญจนาภา หงษ์เหิน
ครั้นเมื่อกิจการของกินชะมัดมั่นคงขึ้นสร้อยเพชรจึงชักชวนให้กาญจนาภามาทำงานใกล้ชิดด้วยความไว้วางใจ ส่วนมือซ้ายของสร้อยเพชรที่ตีคู่มากับพนิดา ปัญจาบุตรคือดวงฤทัย ซิมตระกูล ได้เป็นผู้ดูแลฝ่ายอาคารและสินทรัพย์ของเครือกินชะมัดแม้จะเคยเกิดการเข้าใจผิดกันในเรื่องการก่อสร้างตึกกินชะมัด ภายหลังเมื่อได้ทำการปรับความเข้าใจกันแล้วดวงฤทัยก็ถูกสร้อยเพชรส่งไปคุมประพฤติของตักขี้ กินชะมัดที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดระยะเวลาที่เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ชีวิตครอบครัวของจุฑารัตน์ เมนะเศวตจะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะแต่เข้ามาใกล้ชิดสร้อยเพชรเพราะมีธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องนอนและการตกแต่งบ้านและได้รับการสนับสนุนจากตักขี้และสร้อยเพชรเช่นเดียวกับพิสมัย จิตวิมลมัณฑนากรมากความสามารถ ดนีย์ ประยงค์เพื่อนผู้มากประสบการณ์ในด้านการเสริมสวยและการทำอาหารได้รับความไว้วางใจให้เป็นช่างแต่งหน้าแต่งผมประจำตัวของสร้อยเพชรทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากตักขี้ให้เปิดทั้งร้านทำผมและร้านอาหารขายบนตึกกินชะมัดและไว้วางใจให้เป็นผู้ถือเงินเพื่อใช้จ่ายในกิจการบางอย่าง เพื่อนอีกผู้หนึ่งซึ่งเคยเป็นฝ่ายบัญชีของโรงแรมชื่อดังย่านราชดำริสรรสุดา กวีกรกำความลับเรื่องส่วนตัวของพจนีย์ ณ ป้อมเพชร์ภายหลังที่หย่าขาดกับพล.ต.ท.เสมอไว้อย่างมิดชิด สลิลลาวัลย์หรือลูกน้ำ ศิริวงศ์ ณ อยุธยาแต่งงานคงศักดิ์ วันทนาหนึ่งในม้าใช้ของตักขี้ พล.อ.อ.ขี้เมา กัญนิจ รัตนชื่นมีสามีเป็นนายตำรวจชื่อสุรนิตย์ พรหมบุตร ดวงฤดี ปานแดงภรรยาของชัยศักดิ์ เนียมกุลรัตน์เศรษฐีบ้านแพ้ว พร้อมสุข สิบเจริญกุลเจ้าของธุรกิจศรีตรังอินดัสตรีที่ว่ากันว่าร่ำรวยอย่างมหาศาลกับการค้าขายยางพาราดิบในสมัยไทยรักไทยกำลังรุ่งเรือง โสภา สูยะนันท์ ที่ครอบครัวร่ำรวยมาจากธุรกิจเครื่องสำอางและมีร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังย่านพระโขนงได้สามีเป็นนายตำรวจได้รับการสนับสนุนให้ไปทำงานใกล้ชิดกับเพรียวพันธ์ โฉมสุดา ภู่ประเสริฐภรรยาของเสถียร โรจนพิเชษฐ์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 9 ก็ชักนำตักขี้และสร้อยเพชรให้เข้าไปซื้อหุ้นโรงพยาบาลพระราม 9 สุนีย์ โรจนวรกุลเพื่อนผู้ร่ำรวยจากการซื้อขายหุ้นให้ตักขี้และสร้อยเพชรอีกคนหนึ่งก็ได้วางมือจากวงการหุ้นมาทำธุรกิจโรงงานผลิตปุ๋ย วิลาสินี พุทธิการันต์อดีตพนักงานการบินไทยหลานรักของฉัตรชัย บุณยอนันต์ซึ่งได้รับการชักชวนให้เข้าไปทำงานที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) จนได้เป็นผู้บริหารที่เป็นกำลังสำคัญ ตรีรัตน์ ตั้งจิตนพ แต่งงานกับทายาทในตระกูลเคียงศิริและเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ชื่อดังชักนำเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆให้เข้ามาทำงานใกล้ชิดกับตักขี้และสร้อยเพชรเป็นแก๊งใหญ่ นวลจันทร์ ธิดา รามพึ่งบุญ ณ อยุธยาที่ลาออกจากธนาคารกรุงเทพไปทำงานเป็นเลขานุการคนสนิทของบรรพตพี่ชายบุญธรรมของสร้อยเพชร วชิราภรณ์ วิสุทธิเวชภรรยาวินิจ วิสุทธิเวชผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี สามีสุดรักของลินดา ปัจตะโชติเป็นนายตำรวจนอกเครื่องแบบที่ควบคุมตัวแกนนำฝูงไพร่แดงกบถในข้อหาผู้ก่อการร้ายไปยังตากอากาศที่มะเขือเทศรีสอร์ทนั่นคือพิชิตชัย ศรียานนท์อดีตนายตำรวจติดตามพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เพื่อนร่วมรุ่นเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ที่สนิทสนมกับสร้อยเพชรเหล่านี้ช่วยเหลือเจือจานเพื่อนให้ได้เผาทำลายประเทศมาสองสามครั้งแล้ว รุ่นนี้ต้องจับขึงพืด มัดมือ มัดตีน หมอนหนุนยกก้น ให้ปากล่างยิ้มจนเห็นลิ้นไก่ ซอยให้เมามันดันให้สุดๆเสร็จเรียบร้อยเอาสากกะเบือที่ตำน้ำพริกยังไม่ได้ล้างแยงให้จมข่มให้มิดงายมันชาดได้แรง
โบราณว่าหมาสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ด้วยนายใหญ่สัมพันธ์กับเจ๊ใหญ่ไม่ใช่เจ้านายกับลูกน้อง ไม่ใช่แค่ทางการเมือง ทั้งคู่ใกล้ชิดและแนบแน่นจนสร้อยเพชรออกอาการเม้งแตกมาแล้ว เจ๊ใหญ่กับสร้อยเพชรใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกัน ในฐานะของแม่ทัพหญิงอย่างเจ๊ใหญ่ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในพื้นที่กรุงเทพ กินใต้โต๊ะแบบเนียน เงียบๆไร้ร่องรอย จับยาก เล่เหลี่ยมแพรวพราว อาศัยว่าหน้าผู้หญิง มารยามากมี ข่าวการตั้งพรรคของเจ๊ใหญ่ใส่แว่นแม่มดที่อัดแน่นไปด้วยลีลาบวกกับความเก๋าในสนามการเมือง ด้วยคอนเนกชันไม่ใช่คอนเนกชันที่ธรรมดาสามารถเชื่อมโยงและต่อตรงถึงชนชั้นนำของสังคมได้เป็นอย่างดีทุนทางการเมือง อู้ฟู้อยู่ไม่น้อย กำลังวางแผนกะให้สองพรรคจับมือตีกระหนาบโอบล้อมหมอผีแห่งเมืองบุรีรัมย์กะให้ราบเป็นหน้ากลองเลย
ถึงแม้ว่างานนี้งูเห่าในแก๊งค์จิ๋กโก๋ซอยรางน้ำหมอผีแห่งเมืองบุรีรัมย์ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อยทั้งๆที่หมอผีได้ฝากงูเห่าน้อยๆเอาไว้ที่พรรคเพื่อเผาไทยไว้ไม่น้อยเพราะนอกจากแผนแยกกันตีของเจ๊ใหญ่กับสร้อยเพชรแล้วหมอผีบุรีรัมย์คนนี้ยังจบเน(รคุณ)อีกต่างหาก เป็นที่รู้กันว่าชาวอีสานนั้นถือเรื่องความกตัญญูเป็นใหญ่ (แต่ทำไมยังไม่เห็นกตัญญูต่อพ่อหลวงที่เรารักเทอดทูน ไม่เห็นความสำคัญของพ่อหลวง กลับมารวมตัวกันเป็นฝูงไพร่แดงกบถเสียเช่นนั้น?!?!?!) เอ้า มีเหรียญนี้กันหรือยัง หือ ฝูงไพร่แดงกบถ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น