16 กรกฎาคม 2553

ฤา ถึงคราวเมืองไทยได้เข้าสู่ยุคถดถอยต่ำสุด




เมื่อวาน (15 ก.ค.) คงเป็นวันดี   ที่วัดพระแก้วหรือวัดพระศรีรัตนศาสดารามยามบ่ายพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรแด่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติบ้านเมือง-ประชาชน ในชื่องานว่า "รวมพลังไทย เทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" ท้องฟ้ากรุงเทพฯครึ้มฟ้าครึ้มฝนตั้งแต่ใกล้เที่ยงแล้ว พอเที่ยงก็เทลงมาพร้อมกับเสียงกัมปนาทแสดงว่าเหล่าเทพทุกชั้นฟ้าลงมาอวยพรให้เราทั้งประเทศ  เขมรยังกลับตัว-กลับใจเลิกจัดงาน "วันโกรธแค้นไทย" ตามที่ตระเตรียมไว้แต่แรก แค่ประกาศยกเลิก MOU 2543 ยกเลิก TOR 2546 และยกเลิกกรอบการเจรจาตามมติรัฐสภาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 แล้วไปประท้วงการกระทำเกินอำนาจในการรุกล้ำอธิปไตยของคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโกตลอดจนผลักดันให้ทหารและชาวกัมพูชาออกจากดินแดนไทยโดยทันที แค่นี้ก็จบไม่ต้องเสียดินแดนเป็นครั้งที่ 15 ดูรายละเอียดได้ที่นี่     ใครคิดร้ายต่อประเทศ-ทำร้ายประเทศไทยก็จงระวังให้จงหนัก

คนไทยทำลูกเก่งแต่เลี้ยงลูกไม่เป็น นักโทษล้นคุก ไอ้ที่อยู่นอกคุกอย่างไอ้ปื๊ดอย่างนี้ ไอ้มาร์คเมืองเหนืออย่างนั้นมันไม่ถึงขั้นต้องรับโทษตามกบิลเมือง แต่มีพฤติกรรมเป็นปัญหาต่อสังคมก็มีอยู่ไม่น้อย   อย่างผู้สมัครเข้าแข่งขันเป็นนักล่าฝัน หยาบคาย ขนาดพ่อแม่อบรมมาอย่างนี้ยังมีปัญหาไม่ย่อย เรื่องร้ายๆสารพันปัญหากำลังถาโถมมาสู่สังคมไทยอันจะทำให้เรากลายเป็นสังคมที่ไร้จริยธรรม มีคนเห็นเงินเป็นใหญ่ ไม่นับถือคุณงามความดี แม้แต่เด็กยังกล้าประกาศเชิญชวนให้ประชาชน “ปลดรูปที่มีทุกบ้าน” และผู้ใหญ่เห็นความเลวเป็นความดัง มองความกักขฬะเป็นยาหอม สักแต่จะดักจับความอื้อฉาวมาทำเงิน พ่อหน้ามลเล่นชกข้ามรุ่นแจกกล้วยมาร์คหล่อใหญ่เสียอย่างนั้น พาลไปด่าด่านักล่าดาวรุ่นพี่อย่างไม่ปรานีปราศรัยแถมยังใช้คำรุนแรงกับแม่บังเกิดเกล้าของตนเองได้อีกต่างหาก เล่นไฮไฟว์บอกแม่ตัวคล้ายๆกับว่าสลิดมากไปแล้วนะอีอ้วน พ่ออาจจะลืมสั่งสอนว่ากล่าว การอิจฉาผู้อื่นนั้นมีแต่ทำให้ตนเองเป็นคนต่ำค่า ยิ่งไปใช้คำรุนแรงกับแม่ตัวยิ่งแล้วใหญ่   ครั้นพอพ่อเจอสื่อผู้พ่อได้กล่าวว่า "ถ้าผมเจอนายกฯ ผมจะกราบขอโทษท่าน" ตบหัวผู้นำประเทศไปฉาดใหญ่แล้วจะมาลูบหลัง ใครๆก็รู้ว่าคุณน่ะแดงตัวเอ้ ง่ายไปแล้วหรือเปล่า   นี่มีเสียงแว่วๆว่าทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 จะมีการแสดงรอบต่อไปเพื่อจัดให้มีการโหวตรับนักล่าฝันคนดังคนนี้กลับเข้าบ้านกะจะโกยทรัพย์อีกรอบหลังกัดฟันคืนเงินรอบก่อนๆให้คนโหวตนักล่าฝันคนนี้ไปแบบหนืดๆจืดๆเพราะอิทธิพลของเฟสบุ๊คไซเบอร์แซงค์ชันแก๊งค์ที่มีต่อทรูต่างหาก แหม เกือบโดนบอยคอตเสียแล้วสินค้าเรา

กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนกลุ่มหนึ่งที่รับรู้ข้อมูลข่าวสารมองเห็นความไม่เป็นธรรมจากการฉ้อฉลของนักการเมือง มีการพูดถึงผลประโยชน์จากงบประมาณของรัฐ แบ่งปันกันในกลุ่มธุรกิจวงศ์วานว่านเครือและกลุ่มคนที่สามิภักดิ์ มองเห็นว่าระบอบที่ไพร่มหาอำมาตย์ใหญ่สร้างไว้กำลังทำลายระบอบประชาธิปไตยด้วยการแทรกแซงองค์กรอิสระ องค์กรนิติบัญญัติ การละเมิดสิทธิมนุษยชน การแทรกแซงสื่อ ฯลฯ คอยจับจ้องตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้นเพื่อขัดขวางการโกงกินคอรัปชัน  ประชาชนจึงเข้าร่วมการชุมนุมโดยอิสระ กระทำการใดๆก็กระทำอย่างเปิดเผย ทั้งตำรวจและทหารก็ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธโดยไม่ได้ห้ามปรามมิให้ไปร่วมชุมนุมแต่อย่างใด ในการชุมนุมของประชาชนจำนวนมากตั้งแต่คนที่ยากจนที่สุดไปถึงคนรวยมากในชื่อของกลุ่มพันธมิตรฯที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมทางการเมือง เรียกร้องหาความถูกต้อง ความเป็นธรรม และความเสมอภาคกันในสังคม มีเจตนาเพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบการบริหารกิจการบ้านเมืองของรัฐบาลในขณะนั้นรวมไปถึงการฉ้อฉลของนักการเมือง โดยใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธประกาศตนทำหน้าที่ในการพิทักษ์ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ซึ่งสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ดังกล่าวได้รับการรับรองและคุ้มครองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ สรุปแบบฟันธงไม่ต้องอ้างงานวิจัยว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของบ้านเมืองทุกวันนี้คือการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมือง

กว่า 193 วันของแกนนำและกลุ่มพันธมิตรฯต้องปักหลักต่อสู้กับรัฐบาลนอมินีของไพร่มหาอำมาตย์ใหญ่อยู่หน้าทำเนียบฯ ทางรัฐบาลขณะนั้นได้ว่าจ้างขบวนการอันธพาลคนเสื้อแดงและกลุ่มกองกำลังคนชั่วใช้อาวุธสงครามลอบสังหารชีวิตกลุ่มพันธมิตรฯบาดเจ็บหรือล้มตายเป็นรายวัน ไม่มีใดรเคยจับคนร้ายมาดมได้แม้แต่รายเดียว  หลังจากน้องเขยเข้าแทนที่นายกฯอายุสั้นเวรกรรมไม่ต้องรอชาติหน้า รัฐบาลใหม่เวลานั้นได้สั่งการให้ตำรวจในเครือข่ายเข่นฆ่าประชาชนที่ชุมนุมกันอย่างสงบ-สันติ-มือเปล่าด้วยอาวุธสงครามนานาชนิดในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพื่อเข้าไปสำเร็จความใคร่ในสภาฯให้จงได้ ต่อมากลุ่มพันธมิตรฯก็ยังถูกยิงถล่มด้วยวิตามินเอ็ม 79 จนถึงแก่ชีวิตไปก็มาก มากจนจำต้องขยับขยายหาที่ที่ปลอดภัยอย่างที่ดอนเมือง ที่ที่ซึ่งน่าจะปลอดภัยและยังเป็นทำเนียบฯสำรองอีกด้วย มั๊นก็ยังตามมาแจกวิตามินเอ็มได้อีก   คราวนั้นที่มั่นสุดท้ายไปรอต้อนรับนายกฯที่ไม่เคยเข้าทำเนียบฯตลอดอายุขัยความเป็นนายกฯอันน้อยนิดซึ่งกำลังเดินทางกลับจากนอกก็คงจะเป็นสุวรรณภูมิ  ครั้นไปถึงสนามบินก็มีอันฑะพาลแดงถ่อยมาก่อกวนพอหอมปากหอมคอ  กลุ่มพันธมิตรฯได้ใช้บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่การชุมนุม ไม่ได้เป็นพื้นที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ลงของเครื่องบินและไม่มีการทำความเสียหายใดๆแก่สนามบิน ไม่ได้กระทำร้ายผู้ใดหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินใดๆ ไม่ได้ประกาศปิดสนามบิน สถานบริการ ร้านค้าในบริเวณนั้นยังดำเนินการได้ตามปกติ  จนคนชั่วช้าต้องปราชัยไปเองหลังคำสั่งศาลยุบพรรคพังประชาชนนั่นเอง

หลังงูเห่าเข้ามัดเนื้อคู่จัดตั้งอย่างประชาธิปัตย์ได้สถาปนาขั้วอำนาจใหม่ขึ้น กลุ่มพันธมิตรฯกลับถูกมองว่าเป็นเสี้ยนหนามทางการเมือง  ผู้บงการ“กองกำลังผสมฟ้า-น้ำเงิน-เขียว” ที่มีความสัมพันธ์กันในขั้วอำนาจใหม่เป็นอย่างดีและแสดงออกให้สังคมได้รู้ว่าไม่แฮปปี้กับคนเสื้อเหลืองอยู่เนืองๆจึงต้องการกำจัดพันธมิตรฯคนเสื้อเหลืองเพราะหากไม่กำจัดก็จะภัยอย่างใหญ่หลวงต่อการกลืนบ้านกินเมือง ทั้งที่จริงๆแล้วต้องการกำจัดทุกสี สลายทุกกลุ่ม เพื่อกำจัดคู่แข่งทางการเมืองทั้งหลาย หลังเสร็จภารกิจขับไล่รัฐบาลตัวแทนไพร่มหาอำมาตย์ใหญ่ ทางตำรวจเรียกให้แกนนำและผู้ที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย เล่นดนตรี ร้องเพลงไปรับทราบข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายสากลครั้งหนึ่งแล้วเพราะไปชุมนุมที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อสองปีก่อน เมื่อครั้ง 16 ก.ค. 52 จบลงด้วยการไปปราศรัยในฐานะ “ผู้ก่อการดี” ท่ามกลางมวลพันธมิตรฯ ที่ไปให้กำลังใจหลายพันคน ผู้ทำคดีเปลี่ยนจากพล.ต.ท.วุฒิ พัวเวสไป  

จึงไม่แปลกที่จะมีความพยายามมาตลอดสมัยรัฐบาลนี้ที่จะโยนบาปให้พันธมิตรฯติดบ่วงข้อหาคดีอาญาร้ายแรง ตำรวจอีแอบสีม่วงที่มีสายสัมพันธ์กับเครือข่าย สีน้ำเงิน สีเขียว และกลุ่มทุนของขั้วอำนาจนี้และอาจจะเป็นตัวจริงที่เตรียมดันสู่เก้าอี้ใหญ่ในรั้วปทุมวันครั้งต่อไปในเร็วๆนี้จึงแอบตามสันดานจัดการปั้นน้ำแข็งอีกหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งได้ยัดข้อหาก่อการร้ายแล้วออกหมายเรียกให้ไปรายงานตัวเป็นรายบุคคล คงไม่อยากฟังการปราศรัยกระมัง   ต่อเมื่อมาย้อนดูการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯแล้วไม่เห็นว่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดก่อการร้ายตามที่กฎหมายกำหนดไว้เลย ไม่มีการสะสมอาวุธไว้ใช้  เป็นการตั้งข้อหาเพื่อให้สำนวนอ่อนจนศาลอาจสั่งไม่ฟ้อง  การขึ้นมาเป็นรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำชุดนี้เป็นผลพวงมาจากการต่อต้านรัฐบาลในระบอบที่ไพร่มหาอำมาตย์ใหญ่วางรากฐานเอาไว้โดยกลุ่มพันธมิตรฯเป็นหัวหอกสำคัญ ถ้าไม่มีพันธมิตรฯก็ไม่มีรัฐบาลชุดนี้  รัฐบาลกลับเห็นดีเห็นงามตามตำรวจอีแอบสีม่วงซึ่งกล่าวหากลุ่มพันธมิตรฯที่เลยเถิดจากความเป็นจริง ต่อไปในวันข้างหน้าเรื่องนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อทั้งตำรวจชุดนี้ รวมถึงนายกรัฐมนตรีที่เห็นดีเห็นงามด้วยกับตำรวจชุดโรงน้ำแข็งชุดนี้เพราะเคราะห์หามยามดีกลุ่มคนพวกนี้อาจต้องเป็นผู้ต้องหาเสียเองในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นไปตามเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลสมคบกับตำรวจสายสีน้ำเงินเหวี่ยงแหจับพันธมิตรฯ ที่ยืนยันไม่ได้ปิดสนามบินเพื่อกดดันให้ยอมรับนโยบายปูดองอันจะนำไปสู่แผนการนิรโทษกรรมทั้งสีเหลืองและสีแดง  รัฐบาลผสมชุดนี้จะลอยตัวเหนือความขัดแย้งและเล่นบทพระเอกในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป  โถ..มาร์คผู้แสนดีกับดาวร้ายเน(รคุณบ้านเมือง)วิน  นักการเมืองบางจำพวกลืมบุญคุณประชาชน ไม่รู้จักหยดเลือด น้ำตา ชีวิตความตายของคนที่ต่อสู้ทั้งปี 2549 และ 2551 และทำให้รัฐบาลชุดนี้มีวันนี้...กลับบอกว่า “ไม่มีเขา เราก็ไม่มีหาง” ไม่มีภูมิใจไทยไม่มีรัฐบาลประชาธิปัตย์แต่ดูเหมือนว่าทั้งเขาและหางไม่มีประชาชนที่บาดเจ็บล้มตายอยู่ในหัวใจแม้เพียงน้อยนิด

วันดีคืนดีผู้มีบทบาทสำคัญในขบวนการเคลื่อนไหวทางความคิดของกลุ่ม "มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน" ที่ไม่สามารถสู้ความจริงในที่โล่งแจ้งได้และทิ้งเมียตัวเองที่อยู่กันมาเป็นสิบๆปีเพื่อไปคว้าเมียเพื่อนมาสืบพันธ์ ผู้ชื่นชอบเขียนงานเขียนในเชิงวิพากษ์ด่าทุกฝ่ายแล้วทำให้คนที่คิดได้อย่างตนดูดีขึ้นมาทันที เป็นตุเป็นตะให้ปะติดปะต่อจนบางครั้งลืมไปว่ามันเป็นเพียงความคิดของคนที่ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นคนที่เป็นคน ดันได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการปฏิรูปฯ ชุดปูดองของรัฐบาลนี้ได้

บทความ "เสื้อเหลืองเป็นใคร และออกมาทำไม" คนที่ออกมาร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวเป็นคนแบบไหน ให้ความสำคัญกับอะไร และต้องการอะไร การเหมาเอาเองว่าคนที่เคลื่อนไหวเป็นชนชั้นกลางอย่างนี้ เป็นคนโหยหาอดีตอย่างนั้น เป็นคนเล่นเส้นอย่างนี้ เป็นคนฟูมฟายอย่างนั้น เสียผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างนี้ ฯลฯ ไม่ได้เอ่ยแม้แต่นิดเดียวว่าไอ้ที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องออกมาชุมนุมขับไล่ไพร่มหาอำมาตย์ใหญ่ก็เพราะปล้นชาติโกงแผ่นดินตรงกันข้ามกับบทความ "บาดแผล 7 ตุลา" ทั้งๆที่ใช้โจทย์เดียวกันแต่กลับสะท้อนชีวิต ความคิด และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตและบ้านเมืองได้อย่างเห็นน้ำเนื้อชีวิตมากกว่าเพราะชนชั้นกลางจำนวนมากมักมีความคิดความหวังว่าทุกฝ่ายคงทำหน้าที่ของตัวเอง ประชาชนจ่ายภาษี นักการเมืองบริหารบ้านเมือง ข้าราชการทำงาน กระบวนการยุติธรรมก็ทำหน้าที่ของตนเอง ระบบกำกับควบคุมดูแลอำนาจรัฐก็คงทำหน้าที่ของตนเองเช่นกัน  แต่ตรงกันข้ามในเมื่อระบบต่างๆ ไม่ทำหน้าที่ คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ พันธมิตรฯจึงต้องออกมาแสดงพลัง "ต้องอยู่กดดันไปเรื่อยๆ ปล่อยให้มันทำร้ายลูกหลานไม่ได้"  ดังนั้น"การเมืองใหม่" จึงเป็นก้าวใหม่ของการเดินออกไปมีส่วนร่วมทางการเมืองด้วยตนเองทำให้ชนชั้นกลางและคนอื่นๆ ในสังคมได้เห็นว่าในโลกความเป็นจริงของการเมืองนั้นทุกคนต้องมีส่วนร่วมลงมือสร้างบ้านเมืองที่ดีกว่าด้วยตนเองต่อเนื่องจากการทำหน้าที่ของกลุ่มพันธมิตรฯ

ไม่มีความคิดเห็น: