เมื่อชักศึกเข้าบ้าน ก็เตรียมการรับศึกได้เลย!
นักการเมืองขายชาติและทรยศชาติดึงดันยกเอาดินแดนไทยอันเป็นอธิปไตยสำคัญของชาติให้สหรัฐเข้ามาใช้เป็นฐานทัพ และยังมีการตกลงก่อสร้างระยะยาวตามที่แถลงไว้เมื่อสามวันก่อนวันก่อนแถลงว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการประสานงานในการก่อสร้างอาคารที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อให้ทหารสหรัฐเข้ามาใช้ แต่วันนี้มาโกหกให้คนไทยฟังว่า สหรัฐมาขอใช้แค่สองเดือน โกหกว่าเขามาใช้เพียงสองเดือน จึงไม่ต้องขอความเห็นชอบต่อสภา ซึ่งขัดแย้งกับที่ได้แถลงไว้ในวันที่รัฐมนตรีต่างประเทศไปพบประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐเป็นคนละเรื่องแล้วยังหน้าด้านโกหกคนไทยว่า สหรัฐมาขอใช้เพื่อตรวจอากาศและบรรเทาสาธารณภัย
ก็ต้องบอกกรอกหูพวกขายชาติเหล่านั้นว่า ไม่ว่าจะยกแผ่นดินไทยให้สหรัฐใช้ทำเป็นฐานทัพเพื่อไปรบราฆ่าฟันกับชาวมุสลิมหรือชาวจีน หรือจะตั้งเป็นร้านอาบอบนวดก็เป็นการให้ใช้แผ่นดินไทยทั้งนั้นการให้ใช้แผ่นดินไทยแบบนี้ไม่ว่าจะใช้กี่วัน รัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไม่มีอำนาจที่จะอนุญาตได้ จะต้องขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาเท่านั้น
ถึงแม้จะอ้างอิงนักกฎหมายที่ไหน เพื่อไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ความเห็นของนักกฎหมายประเภทนั้น ก็เป็นความเห็นแบบเดียวกันกับนักวิชาโกงที่ทำโพลสนับสนุนการขายชาติว่า ”นักการเมืองโกงชาติได้ แต่ขอให้ทำงานบ้าง” ย่อมไม่มีคุณค่าใดๆ ที่คนไทยจะเชื่อถือรับฟังได้เลย การดึงดันไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ ถืออำนาจบาทใหญ่ยกแผ่นดินไทยให้ต่างชาติใช้สอยเช่นนี้จึงเป็นกบฏในราชอาณาจักร เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เป็นการขายแผ่นดินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งมีโทษหนักหลายสถาน หากคณะรัฐมนตรีลงมติว่าให้ใช้ดินแดนไทยได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบต่อรัฐสภา ทั้งนางยิ่งลักษณ์และคณะรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบอย่างเดียวกันด้วย
ยังคงต้องยืนยันว่า การให้ใช้ดินแดนไทยดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการทหาร ซึ่งขณะนี้ก็ก่อหวอดความตึงเครียดทางการทหารขึ้นอย่างกว้างขวาง แล้วประเทศจีน พม่า และลาว ต่างไม่พอใจ และแสดงปฏิกิริยาให้เห็นถ้วนหน้า ขณะนี้จีนส่งกำลังทหารถึง 15 กองพล จากภาคทหารเฉิงตู มาประจำไว้ที่ยูนนานแล้ว ในขณะที่พม่าและลาวก็เตรียมการทางทหารพร้อมๆกัน
จู่ๆกองกำลังว้าแดง 3 กองพัน ก็ยกกำลังมาประชิดชายแดนไทย อ้างว่าเพื่อขับไล่พวกกะเหรี่ยงตามคำสั่งของรัฐบาลพม่า และเมื่อกำลังทหารว้าแดง 3 กองพัน มาอยู่ใกล้ชายแดนไทย กองกำลังผาเมืองก็ต้องเตรียมความพร้อม แผ่นดินที่เคยเป็นสุข ก็คุกรุ่นด้วยเพลิงสงคราม
นักการเมืองมาโกหกประชาชนว่าจีน พม่า และลาว เข้าใจประเทศไทย คำพูดแบบนี้ไม่มีราคาอะไร เหมือนคำพูดว่า “เอาอยู่” นั่นแหละ เอาไปเอามาตอนนี้น้ำท่วมเกือบทุกภาคของประเทศไทยแล้ว แต่ยังคงหลอกลวงคนไทยกันต่อไปว่าน้ำไม่ท่วม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีนได้เดินทางไปกัมพูชาและตกลงร่วมมือกันทางการทหารที่จะสนับสนุนกองทัพกัมพูชาให้เข้มแข็งเกรียงไกร หลังจากที่เคยส่งมอบเครื่องแบบทหาร รองเท้า และยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่งให้ไปก่อนหน้านี้แล้ว นั่นเป็นสถานการณ์ทางด้านจีน ซึ่งเขารู้ดีว่าขณะนี้รัฐบาลไทยหักหลัง ทรยศต่อความเป็นมิตรชัดแจ้งแล้ว คือหักหลังเรื่องข้อตกลงในการจัดการแก้ไขปัญหาน้ำ โดยได้ว่าจ้างเกาหลีมาดำเนินการ แลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนของบันคีมูนในเวทีนานาชาติ หักหลังเรื่องการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยเตรียมจะให้ญี่ปุ่นเข้ามาทำการแทน เท่ากับการทำความตกลงกับรองประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ก็คือ การผายลมใส่ประเทศจีนเท่านั้น
ส่วนทางด้านโลกอิสลาม ก็ให้จับตาดูว่า กำลังจะเกิดปรากฏการณ์ประหลาดๆขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์กำลังทวีความรุนแรงขึ้น จากการลอบฆ่า ลอบสังหารวันละศพ สองศพ ตอนนี้ได้ยกระดับความรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเฉลี่ยวันละ 7-10 คนแล้ว และเริ่มมีการใช้อาวุธร้ายแรงเช่น ปืน 79 ยิงถล่มฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว อำนาจรัฐได้เจือจางลงไปมากขึ้น ใกล้สูญเสียอำนาจปกครองเต็มทีแล้วกำลังมีการเคลื่อนไหวในหมู่พี่น้องมุสลิมตลอดฝั่งทะเลอันดามันในการละหมาดประจำวันศุกร์ และการละหมาดเที่ยงหรือค่ำในวันอื่นๆทั่วทุกมัสยิด ได้พูดจาไต่ถามกันถึงเรื่องประเทศไทยให้สหรัฐเข้ามาใช้ฐานทัพ ซึ่งห้ามใครไม่ให้คิดไม่ได้ว่า นี่คือการสมคบกันเพื่อใช้ถล่มดินแดนอิสลามในตะวันออกกลาง
ประเทศไทยกำลังกลายเป็นหมาหัวเน่าในหมู่ประเทศชาวเอเชีย และเป็นหมาหัวเน่าในหมู่ผู้มีเชื้อสายจีน ไม่ว่าจะเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ตาม รวมทั้งในหมู่พี่น้องมุสลิมทั่วประเทศและทั่วโลก ทั้งกำลังถูกตราหน้าว่า ขายตัวลงเป็นทาส ล้างชาติ ล้างแผ่นดินเพียงเพื่อคนๆเดียวเท่านั้น
คนๆเดียวนั้นในวันนี้เมื่อถูกมองว่าเป็นต้นเหตุ ต้นตอ ของการเผชิญหน้ากับโลกอิสลามและประเทศจีน หากยังมีสติสมบูรณ์ดี สักเวลาหนึ่งก็ย่อมระลึกได้ว่ากำลังตกอยู่ในสภาพที่น่าสยดสยองเพียงใด!
สิริอัญญา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น