02 เมษายน 2552

คนอื่นเรียกนายกฯ เด็ก 3 คนเรียก...พ่อ แต่ใครๆก็เรียกมันว่า ...

โดยข้อเท็จจริงแล้วระบอบประชาธิปไตยแบบทักษิณเป็นประมุขตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นเพียงประชาธิปไตยในความหมายแค่การไปลงคะแนนเลือกตั้ง แต่มีเนื้อแท้เป็นเผด็จการ ซื้อพรรค และประจักษ์ชัดเจนว่า ทักษิณนั้นไม่ยอมรับระบบรัฐสภา ไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญด้วยการแทรกแซงองค์กรอิสระ การตั้งญาติโกโหติกาเข้ารับตำแหน่งต่างๆ การทุจริตคอร์รัปชันเชิงนโยบายแบ่งปันผลประโยชน์ของรัฐในหมู่บริษัทวงศ์วานว่านเครือ รัฐบาลจำเป็นต้องหาวิธีการหยุดยั้ง และส่งสารให้ประชาชนเข้าใจให้ได้ว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้น นอกจากเพื่อช่วยเหลือคนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองหนีคดีแล้ว ทำไมนักโทษชายทักษิณจึงถูกดำเนินคดี เขาโกงชาติโกงแผ่นดินอย่างไร และเป้าหมายที่แท้จริงของพวกแดงอุดมการณ์คืออะไร พฤติกรรมการโจมตีผู้ที่ทำให้ตนเสียประโยชน์ และชื่นชมผู้ที่หยิบยื่นผลประโยชน์ให้กับตนสำหรับตัวนายทักษิณแล้ว มิได้เพิ่งเกิดขึ้นหลัง 19 กันยายน 2549 แต่มันปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนแล้ว ตั้งแต่ปี 2543 ดังจะเห็นได้จากการที่นายทักษิณออกมาชื่นชมตุลาการเสียงข้างมากหลังรอดจากคดีว่า “ทรงความยุติธรรม” และปรักปรำคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ชุดที่มีนายโอภาส อรุณินท์ เป็นประธาน และมีนายกล้าณรงค์ จันทิกเป็นเลขาธิการฯ ว่าเป็นเพียง “องค์กรอิสระที่มีไว้เพื่อไล่คนดี” และยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีคำวินิจฉัยของประธานศาลรัฐธรรมนูญนั้น จากกรณีที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ตีพิมพ์บทความของตน ในชื่อ “คำวินิจฉัยไร้จิตสำนัก” ลงในนสพ.แนวหน้า ฉบับลงวันที่ 28 สิงหาคม 2544 หน้า 3 ว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการมัดตัวระบอบทักษิณเข้ากับข้อหาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คำเบิกความของพยานคนสำคัญฝ่ายจำเลยที่มีการพาดพิงถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนทั้งในแง่ของการวินิจฉัยคดีที่ไม่ยึดหลักกฎหมาย และการอ้างถึงพฤติการณ์ของนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับคดีมีการเสนอผลประโยชน์ให้กับตุลาการบางราย พฤติกรรมที่แสดงออกมาอย่างร้อนรนในวันนี้ สร้างกระแสข่าวปลุกระดมมวลชน ด่ากราดผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่เว้นแม้แต่สถาบันองคมนตรี สั่งการให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาแสดงบทบาทด้วยการขึ้นเวทีนปช.หรือการสั่งการระดมพลเสื้อแดงในต่างจังหวัดโดยไม่สนใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบรรยากาศการลงทุนที่สูญเสียไป คนไทยหลายคนเป็นห่วงเรื่องการปะทะกันที่อาจะเกิดขึ้นที่กำลังเริ่มก่อตัว ต่อจากนี้ไปใครทำผิดหากมีเงินก็สามารถออกมาเดินประท้วงเพื่อล้มความผิดตนที่ได้ก่อไว้ได้ ยืมมือประชาชนด้วยวิธีต่างๆนานาเพื่อให้ออกมาเป็นโล่ห์มนุษย์ให้ตนได้กลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุก ศาลคงหมดความสำคัญ ความยุติธรรมคงไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป สังคมจะเข้าสู่กลียุค กฏหมายจะไม่มีใครสนใจทำตาม สังคมจะอยู่แบบใครใหญ่คนนั้นคือกฏหมาย

วาสนา นาน่วม -- ลับ ลวง พราง ภาคสอง

ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต -- ทักษิณ Are you O.K



การปรากฏขึ้นของหนังสือสามเล่มในงานสัปดาฆ์หนังสือครั้งนี้นับเป็นสุดยอดการตลาดด้านการรีแบนรนด์สินค้าหน้าเหลี่ยม เมื่อวาสนา นาน่วมปล่อยของ"ลับ ลวง พราง ภาคสอง" เปิดตัวหน้าปกรูปไอ้ป๊อกซื่อบื้อท่าทีเคร่งเครียด เน้นสีเขียว ได้เค้าโครงมาจากการขึงขัง ยึดอำนาจหักเหลี่ยมโหดของเพื่อนร่วมรุ่นอย่างไม่ปราณี ถูกกลั่นแกล้งจากมือที่มองไม่เป็น สนพ.นำมาวางข้างๆ"ทักษิณ Are you O.K"ที่หมวดเจี๊ยบทหารหญิงที่กระโดดขี่คอกองทัพ ฉีกหน้ากองทัพเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่มีเค้าโครงเรื่องว่าชานคนนี้น่าสงสารนัก ทำงานหนัก ต้องร่อนเร่พเนจร ครอบครัวแตกแยก ลูกไปทาง เมียไปทาง ทัพย์สินที่มีถูกเบียดบัง ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร แต่อีกไม่กี่วันลูกๆของชายผู้น่าสงสารคนนี้คิดถึงพ่อมากมายเขียนหนังสือ"คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ"รำลึกความหลังถึงพ่อผู้อ่อนโยนและอบอุ่น เฉพาะ 2 เล่มแรกก็ขายดีจัดจ้านจนศูนย์ประชุมแห่งชาติแทบแตกแต่เล่มที่ 3 กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ หนังสือ 3 เล่มนี้กรูขอเรียกว่า หนังสือชุด " คนอื่นเรียกนายกฯ เด็ก 3 คนเรียก...พ่อ แต่ใครๆก็เรียกมันว่าไอ้ทรราช "

ดูมันทำ ในเล่มที่สองมันอยู่บนเครื่องบิน ใช้ชิวิตที่หมวดเจี๊ยบจัดให้กับชายผู้น่าสงสารนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงเอ้ย ดูมัน แล้วหันมาดูตัว มันเอาเงินภาษีเราไปปู้ยื้ปู้ยำเละเทะ หมดไปกับการทำลายประเทศชาติของเรา หนี้ครัวเรือนจากไม่กี่พันเป็นไม่กี่หมื่นแต่สูงถึง 7 เท่าจากเดิมต่อหัวต่อคน

การมุ่งทำลายองคมนตรีเป็นการไม่ต้องการให้พระมหากษัตริย์มีคณะบุคคลคอยถวายคำปรึกษาเพื่อให้ทรงรับทราบความเป็นไปของบ้านเมืองต้องการตัดสะพานเชื่อมระหว่างสถาบันกษัตริย์กับประชาชนก็เพื่อลดอำนาจและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ลง การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้นยิ่งนานวันความเครียดจะยิ่งกดดันให้ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งนานไปจะยิ่งประจานพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงให้สังคมได้เห็น แต่นั่นยังไม่สลักสำคัญเท่าทุกวันนี้ที่มีความห่วงอยู่ว่าคนที่ใกล้วาระสุดท้ายย่อมไม่คิดถึงอะไรนอกจากผลได้ของตัวเองและสามารถทำได้ทุกอย่าง ชาวไทยจึงต้องระวังการก่อสถานการณ์เพื่อความสะใจด้วยหวังให้นำสู่การเปลี่ยนแปลงเพราะมีคนเห็นบรรดาเสธ.มีชื่อต่างๆหลายคนป้วนเปี้ยนอยู่ในม็อบ วันนี้ทักษิณรบด้วยเดิมพัน 73000 ล้านบาทที่ถูกอายัดและการกลับไทยแบบไร้โทษส่วนสามเกลือหัวขวดและคณะนั่นรับจ้างรบด้วยเดิมพันหลอกแดกนายที่เป็นพญา-ขี้ข้าจึงได้ใหญ่คับเมือง แต่ทหารแก่จมูกโหว่-ตาเหลือก ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน ขายตัวและขายข่าวด้วยมูลค่ารองเท้าคู่เดียวแล้วหทารตำรวจกับข้าราชการที่เหลือนั้นเล่า และสุดท้าย เราจะรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไว้อย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น: