04 พฤษภาคม 2552

ฉัตรมงคล

วันฉัตรมงคลก่อนสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยุ่หัวยังคงไม่มีพิธีนี้ มีแต่พิธีที่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่จัดขึ้นเป็นการส่วนตัวเพื่อฉลองเครื่องราชูปโภคและตำแหน่งซึ่งตนรักษามา และจัดให้มีขึ้นในช่วงเดือน 6 กระทั่งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ได้ทรงกระทำพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อ 15 พฤษภาคม 2393 พระองค์ทรงพระราชดำริว่าวันบรมราชาภิเษกเป็นมหามงคลสมัย อย่างไรก็ตามพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริว่าเป็นว่าเป็นการยากที่จะทรงอธิบายความหมายของวันฉัตรมงคลต่อพสกนิกรของพระองค์โดยละเอียดได้จึงทรงโปรดให้เรียกชื่อ ไปตามเก่ากว่างานสมโภชเครื่องราชูปโภคแต่ทำให้วันคล้ายวันราชาภิเษกกล่าวคือในวันนั้น (วันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6 ) แล้วนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทภายในพระบรมมหาราชวัง

วันฉัตรมงคลเป็นวันที่ระลึกในพระราชวโรกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชอาณาจักรไทยโดยสมบูรณ์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเมื่อ 9 มิถุนายน 2489 จากนั้นพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อ จนเมื่อทรงบรรลุนิติภาวะแล้วจึงได้เสด็จนิวัตประเทศไทย รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 พระองค์ได้ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ในวันราชาภิเษกสมรสนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงโปรดเกล้าฯให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากรขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์

ในระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน ปี พ.ศ.2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดบวรนิเวศ มีกำหนด 15 วัน ได้ทรงแต่งตั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็น "ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์" พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ทรงมอบหมายให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ปฏิบัติหน้าที่ "พระมหากษัตริย์" แทนพระองค์ในระหว่างนั้น
ก็ตามราชประเพณี เมื่อสมเด็จพระราชินีปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เคยมีประกาศให้ออกพระนามว่า "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ" ต่อมา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระอภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นับแต่นั้นมา นับว่าเป็น "พระบรมราชินีนาถ" องค์ที่ 2 ของประเทศไทย โดยพระองค์แรกคือ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาเป็น "สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง" โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ทรงแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ขณะพระองค์เสด็จประพาสยุโรป

วันที่ 3 พฤษภาคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมราชบูรพการีซึ่งประดิษฐานเหนือพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 25 รูปสวดพระพุทธมนต์อุทิศถวายแต่พระบรมราชบุพการีเป็นพิธีสงฆ์ สดัปกรณ์พระบรมอัฐิ สมเด็จสวดพระพุทธมนต์แล้วพระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา

วันที่ 4 พฤษภาคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ไปยังพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยในพระบรมมหาราชวัง ในพระราชพิธีสมโภชพระมหาเศวตฉัตร และเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคลเริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคลมีงานเลี้ยงพระและสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัตรประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทุกพระองค์ ซึ่งประดิษฐานที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา จากนั้น สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล จบแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาเทพยดารักษานพปฎลมหาเศวตรฉัตร และเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ พระราชครูวามเทพมุณี หัวหน้าคณะพราหมณ์ อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล จบแล้ว พระสงฆ์ 20 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายอดิเรกถวายพระพรลา ตอนเที่ยงทหารบกและทหารเรือยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัดในวันนี้โดยปรกติจะทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ผู้ที่สร้างคุณงามความดีแก่ประเทศอีกด้วย แต่ในปีนี้ 2552 พระองค์ไม่ทรงโปรดเกล้าพระราชทานให้แก่ผู้ใด

วันที่ 5 พฤษภาคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงประกอบพระราชพิธีฉัตรมงคล เนื่องในวโรกาสครบรอบปีที่ 60 แห่งการบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เปิดปราสาทพระเทพบิดร ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชน ได้ถวายราชสักการะสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น: