ในยามปกติปัญหาเด็กเยาวชนและครอบครัวเป็นเรื่องที่ไม่มีใครใส่ใจจะดำเนินการสร้างความมั่นคงมั่งคั่งอย่างสืบเนื่อง เหตุการณ์น่าเศร้าสลดใจหลายๆเหตุการณ์ที่เด็กๆตลอดถึงนักศึกษาปริญญาเอกกระโดดตึกตายด้วยเหตุต่างๆทั้งการศึกษา ความเครียด ปัญหาการติดเกมคอมพิวเตอร์หรือการแช็ตทางอินเทอร์เน็ตและอื่นๆ วิกฤติเหล่านี้น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเมื่อพิจารณารวมไปถึงกระแสข่าวชีวิตจริงของเด็กชายเคอิโงะ หรือเคโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบชาวพิจิตรด้วยก็ยิ่งตอกย้ำสภาพวิกฤติสังคมที่พัฒนาตามเทคโนโลยีได้เพียงวัตถุแต่ในด้านจิตใจกลับถอยหลังลงคลองอย่างน่าใจหาย นอกจากนั้นยังบ่งชี้ปัญหาสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความยากจน เพราะเมื่อกรณีเคอิโงะตามหาพ่อจบลงก็ปรากฏว่ามีเยาวชนไทยอีกมากเกือบ 10 รายได้ออกมาดำเนินการแบบเดียวกับเคอิโงะน่าจะเป็นประเด็นบทเรียนสอนใจให้หญิงไทยระมัดระวังการมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับหนุ่มต่างชาติ เรื่องเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงซึ่งสะท้อนภาพปัญหาครอบครัวและสังคมไทยที่ขาดที่พึ่งปราศจากสิ่งยึดเหนี่ยวมีความพยายามดิ้นรนหาเสาหลักเพื่อความอยู่รอดโดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะตามมาเป็นสัญญาณเตือนภัยความเปราะบางของระบบครอบครัวไทยที่กำลังท้าทายความสามารถในการบริหารจัดการของรัฐที่ไม่สนใจการเฝ้าระวังป้องกันมิให้สังคมเสื่อมทรามกับการแก้ปัญหาแบบมักง่ายของทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
ในสงครามยาเสพติดยุคทักษิณนั้นมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 2,596 คนเป็นผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 1,164 คนและไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 1,432 คนเท่ากับว่าคนที่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม อำมหิต ผิดมนุษย์มนามากกว่าครึ่งหนึ่งหรือราวๆ 1,400 คนล้วนเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นการฆ่าล่าแต้ม บูชานาย ระบอบทักษิณได้กดดันได้สั่งการเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเร่งรีบจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้วก็เร่งรัดกดดันให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโดยให้ถือเอายอดจำนวนคนตายที่มีชื่ออยู่ในบัญชีของรัฐเป็นปัจจัยวัดผลสำเร็จอย่างหนึ่ง ถ้าลดยอดผู้มีชื่อในบัญชีไม่ได้ตามเป้าก็จะถูกเล่นงาน ถูกย้ายหรือถูกลงโทษ
คนไทยทั่วไปมักเห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ เรื่องของผลประโยชน์และบางทีก็สรุปฟันธงไปเลยว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก การเมืองในปัจจุบันเป็นการเมืองเก่าและล้มเหลว พรรคการเมืองที่มีอยู่ปัจจุบันทำเพื่อชาติและประชาชนหรือไม่ ประเทศไทยวุ่นวายทุกวันนี้เพราะนักการเมืองใช่หรือไม่ ประชาชนไทยฝากความหวังไว้กับ สส. ในสภาได้หรือไม่ ประชาชนถูกทำร้ายและถูกหลอก ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยนักการเมืองหล่าวนี้มากี่ยุคกี่สมัยแล้ว บริหารประเทศเพื่อคนไม่กี่คนเหมือนที่เป็นอยู่มาช้านานแล้วถึงเวลาหรือยังที่คนดีจะช่วยกันเดินหน้าเข้ามาบริหารประเทศ ระบบการเมืองที่ระบอบทักษิณสร้างสมเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นมาถึงปัจจุบันสร้างสมไว้อย่างต่อเนื่อง อาศัยกลไกรัฐสภา เหลี่ยมคูการเคลื่อนไหวทางการเมือง การเงิน ปลิ้นปล้อน หลวกลวง กลับดำให้เป็นขาว ฉวยโอกาสบิดเบือนความจริง ปราศจากคำสัตย์ ใช้ความ รุนแรงกำจัดประชาชนและศัตรูทางการเมือง เห็นแก่ประโยชน์ของตนที่จะใช้วาจาหลอกประชาชนซื่อๆ มาใช้เป็นเหยื่อและไปตายแทนตน ได้สร้างวิบากกรรมให้สังคมไทยอย่างใหญ่หลวง
การที่ทหารสีเขียวบางคนร่วมมือคนชื่อพม่าหน้าเขมรเพื่อก้าวเข้าสู่อำนาจทั้งลับและเปิดเผยในการสร้างกลุ่มการเมืองใหม่และขุมกำลังคนสีน้ำเงินเป็นบันไดก้าวขึ้นยึดครองอำนาจรัฐและมุ่งทำลายคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองอย่างย่ามใจนั้นนับได้ว่าเป็นการสร้างตนและพวกพ้องให้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตในน้ำเน่าของการเมืองเก่าอันเน่าเฟะนั่นเอง เป็นเรื่องตัวใครตัวมันที่จะฝันให้ไกลไปให้ถึง จริงๆแล้วนั้นไม่มีใครเขาอิจฉาริษยาอะไรด้วยเลย ในวันที่พรรคประชาธิปัตย์มีวาสนาจับพลัดจับผลูได้เป็นรัฐบาล แต่ก็มีวิบากกรรมได้เสียงข้างน้อย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ผู้จัดตั้งรัฐบาลยอมจำนนพรรคการเมืองอื่น ต้องพึ่งพาพรรคการเมืองนั้นๆ กระทรวงสำคัญเกรดเอตกไปอยู่ภายใต้การบริหารของพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่คนไทยจะได้เห็นยี้ห้อย ณ อีสานใต้ใหญ่คับฟ้าจนบางคนมองออกว่านายกรัฐมนตรีตัวจริงนั้นมิได้ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหากแต่เป็นชายไทยชื่อพม่าหน้าเขมรคนหนึ่งต่างหาก
ยี้ห้อย ณ อีสานใต้คนนี้กับพรรคพวกกำลังฉวยโอกาสสวาปามเงินงบประมาณชาติด้วยสารพัดโครงการของรัฐอย่างมูมมามโดยมีชาวประชาธิปัตย์บางคนกระทำทั้งหลิ่วตาและให้ท้ายรวมทั้งร่วมกันแบ่งปันกระสุนดินดำเข้ากระเป๋าเพื่อเก็บไว้สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าโดยไม่แยแสต่อการเปิดโปงของสื่อมวลชนและเสียงคัดค้านจากประชาชนคนไทยแม้แต่น้อย แต่สนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ ดันทะลึ่งไปรู้ว่ากลุ่มการเมืองนี้มีการกระทำอะไรบางเรื่องบางราวไม่ถูกต้องเสียงปืนร้อยกว่านัดจึงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมุ่งฆ่าสนธิลิ้มแต่ฟ้ามีตา ต่อมาในท่าทีแข็งขืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงออกต่อพรรคร่วมรัฐบาลเกิดขึ้นหลังจากพรรคภูมิใจไทยืนยันผลักดัน 2 โครงการอภิมหาโปรเจ็คต์โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันและโครงการระบายข้าวและสินค้าเกษตรอื่นในสต๊อคของรัฐเข้าครม. เจ้าของเรื่องทั้งสองมิสามารถไขความกระจ่างได้ กระนั้นตราบใดที่การประสานผลประโยชน์ยังไม่ลงตัวปรากฏการณ์คนการเมืองแตะเบรก-เตะตัดขากันเองจะเกิดขึ้นและคงอยู่เช่นนี้ต่อไป
การระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้มีความไม่โปร่งใสตั้งแต่เริ่มเปิดประมูลและมีการเรียกเงินใต้โต๊ะจากผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลข้าวเป็นจำนวนมากและรัฐบาลกลับต้องขาดทุนจากการระบายข้าวเป็นวงเงินสูงเป็นหมื่นล้าน รับจำนำแพงๆแล้วประมูลขายถูกๆ นักการเมืองที่อนุมัติขายข้าวนั้นมีการเจรจากับผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลเพื่อขอส่วนแบ่งซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติจะอยู่ที่อัตรา 50/50 เท่ากับว่ามีเงินใต้โต๊ะจากการอนุมัติขายข้าวครั้งนี้ตันละไม่ต่ำกว่า 1 พันบาท รวม 2 ล้านตัน ก็ตกประมาณ 2 พันล้านบาท ปรกติกรมการค้าต่างประเทศ (กต.) เป็นผู้มีหน้าที่โดยตรงจึงถูกเลือกมาทำหน้าที่นี้โดยตรงแทนองค์การคลังสินค้า อคส. ที่ถูกวางตัวเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเกษตรเป็นองค์กรที่ยังไม่มีแม้แต่ตัวผู้อำนวยการทำให้นักการเมืองส่งคนของตัวเองเข้ามาบริหารจัดการผลประโยชน์ได้ง่าย แต่ทั้งกต. และอคส.ต่างก็อยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์เช่นกัน จากการคัดค้านการระบายสินค้าเกษตรของกระทรวงพาณิชย์ในครม.โดยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุพิจารณาว่าการจำหน่ายสินค้าเกษตรไม่ควรอยู่ที่องค์การคลังสินค้าที่ถูกเปลี่ยนโดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมาและควรกลับไปวิธีการที่เคยทำในอดีตน่าจะช่วยรักษาผลประโยชน์ได้มากขึ้น อย่างไรก็ดีเราคงต้องชื่นชมคุณกอรปศักดิ์ที่เข้ามาดูแลผลประโยชน์ของรัฐ
กลุ่ม 40 ส.ว.ระบุว่าโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยน ขสมก.จากองค์กรรัฐวิสาหกิจ แปลงสภาพไปสู่การเป็นบริษัทของเอกชนผู้ให้เช่ารถเมล์ ซึ่งตัวเลขงบประมาณก็ผิดปกติชัดเจน โดยข้อมูลจากสันติบาลพบว่ามีผลประโยชน์ ไปตกในกระเป๋าผู้เกี่ยวข้องถึงคันละ 1.5-2 ล้านบาทต่อคัน ขนาดเด็กยังรู้เลยว่าโครงการเช่าครั้งนี้ทำไปไม่มีประโยชน์โครงการนี้ไม่มีอะไรนอกจากเข้ามาถอนทุน คนที่เป็นนอมินีก็ต้องทำตามที่นายสั่ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ขสมก.จะปลดระวางรถจำนวนกี่คันและมีแผนการปลดระวางอย่างไรและผู้ได้รับสัมปทานได้มีการขยายเส้นทางเอง ขสมก.ก็มีสัญญารถร่วมเกี่ยวกับการขยายเส้นทางซึ่งสามารถยกเลิกสัมปทานได้ขสมก.ได้ใส่ใจเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ขสมก.เคยถามกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้หยิบงานนี้ขึ้นมาซึ่งเป็นโครงการทุจริตโดยเจตนามีความผิดทางอาญา เรื่องนี้มีใครคิดจะดำเนินการกับคนกลุ่มนี้หรือไม่เพราะเจตนาเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้เกินความจำเป็น กดรายจ่ายจริงต่อวันต่อคันต่ำติดดิน ปั่นรายรับต่อวันต่อคันเกินจริง ถ้าเป็นธุรกิจของนายซาเล้งใครจะได้ใครจะจ่ายชาวไทยคงไม่เหลียวไปมองมัน แต่นี่เงินที่จะไปผลาญมันเคยอยู่ในกระเป๋าเรานี่
ในเรื่องร้ายๆแต่ก็ยังมีเรื่องที่น่ายินดีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการของร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 96 อันเป็นช่องโหว่เพราะหากคนที่มีความผิดเหล่านี้รู้ช่องกฎหมายและหาทางเลี่ยงด้วยการพยายามดึง ยื้อ ยืดเวลาในการต่อสู้ออกไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็ไปอยู่ในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนจนคดีหมดอายุความกับ 98/1 ที่จะเป็นเครื่องมือสกัดแนวคิดและพฤติกรรมอย่างที่เคยทำของนักการเมือง ข้าราชการและนักธุรกิจเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นนี่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่จะมาช่วยสร้างมาตรฐานทางสังคมให้สูงขึ้นด้วยการควบคุมความโลภของผู้อำนาจในสังคม ให้อยู่ในกรอบหากนักการเมือง ข้าราชการ หรือนักธุรกิจคนใดเชื่อว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่มีความผิด ถูกใส่ร้าย กล่าวหา กลั่นแกล้ง จะต้องกล้าเดินออกมาพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม
ประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพรรคมาตรฐานและมาตรฐานนี้ได้มาเพราะอยู่นานส่วนคุณสมบัติด้านอื่นก็ไม่เห็นประชาธิปัตย์จะมีอะไรวิเศษวิโสเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่นและส.ส.อื่น เขามีกันอย่างไร เป็นกันอย่างไร ประชาธิปัตย์ก็เคยเป็น-เคยมีอย่างนั้นครบทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องคอรัปชั่น เรื่องทุจริตต่อหน้าที่ เรื่องตั้งกลุ่ม-ตั้งแก๊ง แตกพรรค แย่งเก้าอี้ ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยและทหารคือกลุ่มสุดท้ายในการเมืองในระบบเก่าที่จะได้พิสูจน์ว่าประเทศไทยจะมีการเมืองใหม่ภายใต้การเมืองระบบเก่าหรือไม่ 3 ปีเศษแล้วที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ก่อตั้งมาเป็นภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความเลวร้ายของระบอบทักษิณ เป็น 3 ปีเศษที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขับไล่รัฐบาลทักษิณ 1 ชุดผิดหวังกับรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร 1 ชุด แล้วยังต้องมาขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณอีก 2 ชุด193 วันแห่งการต่อสู้ที่ในบางครั้งหลายต่อหลายคนรู้สึกทดท้อเหนื่อยล้าเพราะความยืดเยื้อและวิธีการต่อสู้ แนวทางการต่อสู้ภาคประชาชนโดยพัฒนาปรับแต่งขบวนให้เข้มแข็งมากขึ้นและมากขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลเป็นหูเป็นตาเป็นยามเฝ้าแผ่นดินไม่ให้พวกโจรมันปล้นชาติปล้นเมืองต่อไป
การเมืองใหม่ไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง การยกระดับการต่อสู้ของพันธมิตรฯขึ้นมาอีกรูปแบบหนึ่งด้วยการตั้งพรรคการเมืองสู้ในแบบประชาธิปไตยตัวแทนคือมี ส.ส.ในสภาหรือตลอดจนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยเพื่อจะได้เป็นปากเป็นเสียงเป็นไม้เป็นมือในการขับเคลื่อนกฎหมายและนโยบายให้เป็นรูปธรรมแทนที่จะต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ นับเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกและพรรคเดียวที่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาจากความต้องการของมวลชนที่แท้จริง แต่ก็แน่นอนว่าในชีวิตจริงการทำพรรคการเมืองให้บรรลุเป้าภายใต้ค่านิยม วัฒนธรรมการเมืองเก่าที่ฝังรากลึกไม่ง่ายอย่างที่คิด น่าจะถึงเวลาที่เราชาวไทยทุกคนในสังคมไทยจำเป็นต้องใส่ใจให้ความร่วมมือทุ่มเทแรงกายแรงสมองทุกวิถีทางเพื่อนำพาประเทศชาติให้อยู่รอดพ้นจากทั้งจากวิกฤติเหล่านี้และวิกฤติเศรษฐกิจตกสะเก็ดทั่วโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น