14 กย 52 ด.ร.สมปอง
สุจริตกุลเขียนบทความขึ้น ท่าทีและปฏิบัติการของเขมรและข้อเสนอแนะ
มีข้อเสนอแนะดังนี้
1. เราต้องประท้วง ตอกย้ำ
และยันยันการประท้วงท่าทีอันแข็งกร้าวและปฏิบัติการของเขมรซึ่งเป็นไปในทางตรงกันข้ามกับการเจรจาในแต่ละครั้งในระดับรัฐบาลซึ่งอ้างว่าทุกสิ่งเป็นการกระทำฉันมิตรทั้งการลุกคืบโดยอพยพของชาติเขมรเข้ามาในดินแดนไทยซึ่งไม่ได้ส่อแสดงความเป็นมิตร
รวมทั้งการมอบสัมปทานการสำรวจก๊าซและน้ำมันในอ่าวไทยไปให้บริษัทข้ามชาติ
2. ไทยต้องขึ้นทะเบียนวัดที่ใกล้ปราสาทพระวิหารให้อยู่ในสาระบบวัดไทยในพุทธมณฑลของไทยและจัดให้มีพระสงฆ์ของไทยให้มีประจำวัดไว้ที่นั่น
ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นที่พักพิงของพระสงฆ์ของเขมรซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารเขมรซึ่งพร้อมที่จะสละผ้าเหลืองและปฏิบัติการเป็นทหารได้ทุกเมื่อ
3. การเข้ามาในอาณาเขตไทยโดยคนชาติเขมรแต่ละครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยหรือเป็นทางผ่านโดยควรที่จะประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ที่เขมรสามารถทำได้ก็เพราะไทยอนุญาติทั้งนี้เพื่อแสดงว่าอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนดังกล่าวเป็นของประเทศไทย
4. ไทยต้องขึ้นทะเบียนสำมะโนครัวของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยบนผืนแผ่นดินไทยเป็นการยืนยันการใช้อำนาจอธิปไตยของไทย
การเพิกเฉยปล่อยประละเลยหรือนิ่งเฉยโดยไม่ยอมใช้อำนาจอธิปไตยที่ไทยมีอยู่เป็นการยืนยันให้กับเขมรครอบครองโดยดุษฎี
5. การใช้อำนาจอธิปไตยในพื้นที่ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินไทยหรือน่านน้ำไทยสามารถทำได้โดยจัดกำลังทหารทางบก
ทางทะเล และทางอากาศ ตำรวจและตรวจคนเข้าเมืองรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการปกครองให้ทำการตรวจตราพื้นที่
รวมทั้งการตั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ตลอดจนการตรวจราดตะเวนทั้งทางบก เรือ และอากาศ
6. ปฏิบัติการทางภาคพื้นดินและภาคทางทะเลจะช่วยให้ขจัดข้อแอบอ้างของเขมรซึ่งจะยึดครองผืนแผ่นดินไทยโดยจะครอบตรองอันต่อเนื่องย่างเปิดเผยซึ่งอนาคตอันใกล้จะขยายอาณาเขตกว้างไกลยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องขอให้รับอนุญาตจากไทย
ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงอันเป็นหลักการทั่วไปของกฎหมายระหว่างประเทศ
18 กย 52 เกษมสันต์
จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชปฏิเสธสั่งย้าย นายสุวรรณ
วัฒนพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ
เนื่องจากปล่อยให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกเข้าไปในพื้นที่เพื่อทวงคืนปราสาทพระวิหารแต่อย่างใดโดยยืนยันนายสุวรรณ
ได้ทำเรื่องขอย้ายตัวเองเพราะการทำงานที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรคมากโดยเฉพาะความขัดแย้งกับทหารในพื้นที่นอกจากนี้ยังพบว่ามีความขัดแย้งกับพวกบุกรุกตัดไม้
พวกค้าของเถื่อนซึ่งนายสุวรรณเคยปรับทุกข์และเล่าปัญหาให้ตนฟัง
รศ.ศรีศักร
วัลลิโภดมหนุนวีระ-พันธมิตรฯบุกประชิดชายแดนเขมรพร้อมเตือนทั้งรัฐ-ราษฎร์อย่าหลงประเด็น
คนไทยพูดแต่เขาพระวิหาร แต่ไม่พูดถึงแลนด์สเคปหรืออาณาบริเวณโดยรอบ อาทิ
สระตาวและผามออีแดง ให้ทิ้งเขาพระวิหารทวงคืนแดนดิน 4.6 ตารางเมตรกลับคืนมา
คนไทยโง่ 3 ครั้งถูกฝรั่งหลอกตั้งแต่ ค.ศ.1902
ในยุคที่ฝรั่งเศสล่าอาณานิคมจนกระทั่งฝรั่งเศสเขียนมาให้และเซ็นรับทราบเมื่อปี
ค.ศ.1907 ซึ่งในแผนที่บอกว่า
ให้ใช้สันปันน้ำหมายถึงแนวสันเขาที่น้ำไหลลงฝั่งใดคือประเทศนั้นซึ่งบนสันเขานั้นมีเขาพระวิหารแต่ไม่ใช่แลนด์สเคปหรือพื้นที่แวดล้อมทั้งหมดของเขาพระวิหารนั่นคือฝรั่งหลอกไปครั้งแรก โง่ครั้งที่ 2
คือ คำตัดสินต่อมาที่ศาลโลกตัดสินเขาพระวิหารว่าเป็นของชาติใดสุดท้ายก็ตัดสินว่าเป็นของเขมรเพราะใช้สันปันน้ำทำให้ยุคนั้น
จอมพลสฤษดิ์ ธนารัตต์ถึงบางอ้อว่าถูกฝรั่งหลอกเพราะมั่นใจในศาลโลก
เมื่อรู้ว่าแพ้ก็ขีดเส้น ส่วนที่เสียไป คือ เฉพาะตัวพระวิหารจากนั้นจอมพลสฤษดิ์
จึงได้ทำแนวกัน-รั้วทุกอย่างตามแนวสันปันน้ำ หรือ
ทางลงจากเขาพระวิหารประกาศว่าสักวันจะต้องทวงคืนเขาพระวิหารกลับคืนมาเพราะถูกฝรั่งหลอกและที่สำคัญไม่ยอมรับพื้นที่ซับซ้อนหรือคำว่า
4.6 ตารางเมตร โง่ครั้งที่ 3
คือคำว่ามรดกโลก กรณีนพดล
ปัสสาวะให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกบนเงื่อนไขผลประโยชน์ทับซ้อนสมัยทักษิณ
แล้วฝรั่งก็ยังหลอกปองพล อดิเรกสารให้เป็นหัวเรือหลักในการพัฒนาร่วม 6 ชาติบนที่ดินเขาพระวิหารนี่คือความโง่ นายสุริยะใส
กตะศิลาผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแสดงท่าทีชัดเจนถึงแนวทางปฏิบัติในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาปราสาทพระวิหารและต้องไม่ปล่อยให้เขมรรุกล้ำพื้นที่เข้ามาอีก
ขณะเดียวกันขอให้รัฐบาลดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ด้วย ส่วนทางออกของปัญหานี้นั้น
อยากเสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพเชิญสื่อมวลชน นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์
องค์กรภาคประชาชน และองค์กรอิสระลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง หาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ฝ่ายเขมรได้มีการเตรียมกองกำลังพร้อมอาวุธหนักรับสถานการณ์หากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าไปยังพื้นที่ทับซ้อน
4.6 ตารางกิโลเมตร
ก็จะเปิดฉากยิงทันทีโดยแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กล่าวว่าจนถึงตอนนี้เท่าที่ได้รับรายงานมากลุ่มมวลชนต่างๆ
ที่จะเดินทางเข้าไปในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนนั้นยังไม่มีการเคลื่อนไหวเข้าไปทั้งหมดยังอยู่ภายในพื้นที่ตัวจังหวัดศรีสะเกษ
และอ.กันทรลักษ์ มท.ภ.2ลั่นพร้อมยิงโต้ถ้าเขมรเปิดฉากยิงก่อน
"แต่หากฝั่งเขมรยิงกระสุนข้ามมาฝั่งไทยแล้วอ้างว่าไม่ตั้งใจนั้นทางทหารก็พร้อมจะตอบโต้
เพื่อป้องกันตนเอง
และพร้อมที่จะรักษาอธิปไตยแต่ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น"
19 ก.ย. 52
ผวจ.ศรีสะเกษได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ดูแลสถานการณ์อย่างเต็มกำลังเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะห้ามเจ้าหน้าที่พกอาวุธอย่างเด็ดขาดรวมถึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน
อปพร. ชรบ.
แต่เน้นให้ถือปฏิบัติกับผู้ชุมนุมอย่างอะลุ้มอล่วยและมีการตั้งชุดประสานงานเจรจากับทุกฝ่าย
เพื่อสร้างความเข้าใจให้ถูกต้องและป้องกันการกระทบกระทั่งกัน ขอวิงวอนให้กลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนชาวศรีสะเกษยุติเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น แต่กลับมีการปักป้ายจิตวิทยาประสงค์ให้เกิดความไม่พอใจพันธมิตรฯและแนวร่วมที่มากู้แผ่นดินไทยตามจุดสำคัญๆในจังหวัดหลายจุด
การเคลื่อนไหวของคนไทยรักชาติว่าวัตถุประสงค์ที่กลุ่มคนไทยรักชาติต้องฝ่าด่านชาวบ้านไปผามออีแดงเพื่อต้องการอ่านแถลงการณ์ทวงคืนดินแดนเขาพระวิหารแล้วกลับมาเท่านั้นเป็นเจตนาที่ดีต่อการรักษาประเทศแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมชาวบ้านต้องมาขัดขวางและทำร้ายคนไทยด้วยกันอย่างรุนแรงเป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่และมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ที่ชาวบ้านเหล่านี้ต้องมาทำร้ายคนที่ปกป้องบ้านเมือง
ขบวนเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารจากทั่วประเทศและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เคลื่อนขบวนออกจากชุมชนศีรษะอโศก
อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยรถยนต์ประมาณ 600 คันตามถนนกันทรลักษ์-
เขาพระวิหารมุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารชายแดนไทย-เขมร ต.เสาธงชัย
อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รวมเป็นขบวนรถยาวเหยียดประมาณ 10 กิโลเมตร
หน้าโรงเรียนบ้านภูมิซรอลได้พบกับด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านสกัดอยู่โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ
2,000 นายเข้าแถวเรียงหน้ากระดานพร้อมโล่ตั้งแนวสกัดไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้ขบวนประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารผ่านขึ้นไปกลุ่มขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
มีความพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอผ่านขึ้นไปแต่ว่าไม่เป็นผล ม็อบจัดตั้งกลุ่มชาวบ้านประมาณ 3,000 คน นำโดย วีระยุทธ ดวงแก้ว
กำนันตำบลเสาธงชัยได้ใช้เครื่องขยายเสียงโจมตีขบวนประชาชนทวงคืเขาพระวิหารและกลุ่มพันธมิตรฯ
ว่าเข้ามาสร้างความวุ่นวายในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษและขอให้กลับออกไป ชาวบ้านจาก 5 ตำบลตามแนวชายแดนเขาพระวิหาร ได้รวมตัวตั้งเต๊นฑ์
นั่งขวางถนนบริเวณสะพาน ห่างจากด่านเก็บค่าธรรม อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร 3 ก.ม.และไม่ต้องการให้พันธมิตรฯ
ขึ้นไปบนอุทยานเพราะเกรงว่าจะกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ของทหารทั้ง 2
ฝ่ายและอาจเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่เหมือนปีที่แล้วซึ่งผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือชาวบ้านในพื้นที่ ยืนยันจะใช้ความพยายามในการเจรจากับพันธมิตรฯ
ให้ถึงที่สุดโดยจะใช้ผู้หญิงเป็นทัพหน้าในการเจรจา
ผู้ว่าฯได้เรียกแกนนำพันธมิตรฯและแกนนำชาวบ้านเพื่อเจรจา โดยฝ่ายพันธมิตรฯ
มีคุณวีระ และ พล.อ.ปรีชาพร้อมคณะเข้ามาเป็นตัวแทนเจรจา
จากนั้นระพีได้สั่งให้นายอำเภอกันทรลักษ์ เชิญแกนนำชาวบ้านที่ออกมาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ
แต่กลุ่มชาวบ้านยืนยันจะไม่เจรจาแต่จะขอปักหลักชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ
ให้ถึงที่สุด
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและคณะได้เข้าไปเจรจากับกลุ่มชาวบ้านเพื่อขอให้ชาวบ้านเปิดทางแต่ฝ่ายม็อบกลุ่มชาวบ้านไม่ยอม กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯได้รวมตัวกันและผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่และสามารถฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามาได้จากนั้นม็อบจัดตั้งกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลที่รวมตัวกันอยู่ประมาณ
3,000
คนชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังกำแพงวัดได้ขว้างปาขวดน้ำ ขวดแก้ว ก้อนหิน ไม้ กระบอง
ก้อนอิฐ และก้อนหินรวมทั้งหนังสติ๊กยิงถล่มใส่ และปาประทัดด้วย
ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบรายรวมทั้งนายกิตติ
บุบผชาติช่างภาพถูกยิงด้วยหนังสติ๊กจากกลุ่มวัยรุ่นหมู่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์
จ.ศรีสะเกษ จนได้รับบาดเจ็บบริเวณคางด้านซ้ายแตกเป็นแผลลึกขณะกำลังถ่ายภาพเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างขบวนคนไทยรักชาติทวงคืนแผ่นดินเขาพระวิหารกับชาวบ้านที่ตั้งด่านบริเวณหน้าวัดภูมิซรอล
ได้ตั้งข้อสังเกตในภายหลังว่าตำรวจหน้าที่ไม่เต็มที่ทั้งๆที่มีนับพันนายแต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านไม่เกิน
400
คนเข้ามาปะทะได้อย่างไรทั้งแปลกใจที่คนดีหวังปกป้องบ้านเมืองแต่กลับถูกกลุ่มคนคัดค้านรุมทำร้ายบาดเจ็บจำนวนมากรวมทั้ง
“กิตติ” ที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์นี้ในภายหลังว่าตนได้ร่วมกับคณะสื่อมวลชนและช่างภาพติดตามทำข่าวดังกล่าวกลุ่มต่อต้านจะใช้ผู้หญิงเป็นด่านหน้ายืนขวางแต่จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ซุ่มรออยู่ภายในบริเวณวัดและอีกฟากของถนนรวมถึงบริเวณด้านหลังเต็นท์ถืออาวุธครบมือรอทำร้าย
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ตัวกับกลุ่มชายฉกรรจ์พบว่ามีกลิ่นสุราคละคลุ้ง
มีอาการเมา ทำให้เกิดความคึกคะนองที่จะเข้าไปทำร้ายกลุ่มคนไทยรักชาติ
ต่อมาขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหารสามารถผ่านด่านม็อบจัดตั้งต่อต้านเข้าไปได้แต่กลุ่มม็อบชาวบ้านยังได้ใช้หนังสติ๊ก
ก้อนอิฐ
ก้อนหินยิงถล่มใส่ขบวนรถยนต์ทุกชนิดที่ผ่านบริเวณที่ชาวบ้านรวมตัวกันอยู่ภายในวัดบ้านภูมิซรอลทำให้รถยนต์ของขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหารได้รับความเสียหายหลายคัน
หลังจากผ่านด่านนั้นมาได้แล้วขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหารสามารถผ่านไปถึงที่บริเวณหน้าสถานีควบคุมไฟป่าซึ่งอยู่ห่างจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารประมาณ
500
เมตรและไม่สามารถผ่านไปได้เนื่องจากมีด่านกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารถึง 3 ด่านสกัดกั้นอยู่
สุเทพ เทือกสุบรรณย้ำเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติกับประชาชนอย่างละมุ่นละม่อมโดยยึดเป้าหมายคือการดูแลความปลอดภัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมและจะไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนพื้นที่ที่เป็นปัญหาเพราะกลัวความไม่ปลอดภัยของผู้ชุมนุม
และสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะกับทหารเขมร
นายสุริยะใส กตะศิลาผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวว่าคุณวีระ
สมความคิด แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อทวงคืนพื้นที่ทับซ้อน 4.6
ตารางกิโลเมตรจะสามารถควบคุมสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมได้โดยได้ประสานให้ระมัดระวังมือที่
3 ที่อาจเข้ามาแทรกแซงจนทำให้เหตุการณ์บานปลาย รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจงถึงการดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น
อนุพงษ์
เผ่าจินดาผู้บัญชาการทหารบกได้ให้สัมภาษณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมเรียกร้องอธิปไตยเขาพระวิหารพยายามเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อน
4.6
ตารางกิโลเมตรและผามออีแดงว่าเราปฏิบัติงานตามแนวทาง
กรอบของรัฐบาลจะใช้แนวทางเจรจาแบบทวิภาคีในขั้นดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาจะไม่มีการใช้แนวทางนอกเหนือจากนี้ รักชาติได้
แต่อย่าเข้าไปในพื้นที่หากแอบไปในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ตรวจค้นกับระเบิดจะเป็นอันตรายต่อตนเอง
ซึ่งแนวที่ยันกันอยู่หากเข้ามาเราก็ต้องจับเช่นเดียวกัน หากเราข้ามไปแล้ว
เขาคงต้องจับแล้วคงต้องไปแก้ปัญหากันและเขมรจะแจ้งว่าเราไปบุกรุกพื้นที่เขา
ซึ่งถ้าเราไม่ยอมรับคงไม่ปล่อย แต่ถ้าเรายอมรับว่ารุกล้ำเข้าไป เท่ากับว่า
เรายอมรับจึงไม่เกิดสิ่งดี
เมื่อถามว่าในทางทหารยังถือว่าพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นของไทยใช่หรือไม่ อนุพงษ์กล่าวว่าคนไทยถือว่าเป็นพื้นที่ของเรา
แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นมา 10
กว่าปีแล้วที่เขาเข้ามาแล้วเกิดปัญหาซึ่งหลังจากมีการรุกล้ำเข้ามาและมีการประท้วงกันไป
จากนั้นปี 2543 ตกลงกันว่าจะมีการปักปันเขตแดนและให้ทุกคนหยุดนิ่ง
อย่าไปดัดแปลงปรับปรุงอะไร
นั่นหมายความว่ากองทัพไทยยอมรับแล้วว่าพื้นที่นี้เป็นของไทยและมีการบุกรุกจากเขมรจริง
คุณวีระ สมความคิดและเครือข่ายทั่วประเทศประมาณ 5 พันคนสามารถลุยผ่านด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 จุด
ไปได้เรียบร้อยรวมถึงเหตุการณ์การปะทะกับชาวบ้านในพื้นที่ ก็มีเป็นระยะ
โดยมีการลอบโรยตะปูเรือใบ ขว้างปาขวด ยิงหนังสติก
อีกทั้งขณะนี้กลุ่มพันธมิตรกำลังเคลื่อนขบวนไปยังด่านสกัดของทหารที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานเขาพระวิหารซึ่งเป็นจุดสุดท้ายก่อนจะถึงเขตชายแดนไทย-เขมร
โดยมีทหารปราบจลาจลจำนวนมาก พร้อมโล่ กระบอง ครบมือตั้งจุดสกัดอย่างตรึงเครียด
ห่างจากชายแดนไม่ถึง 3 กม. ผวจ.ศรีสะเกษพร้อมคณะได้เข้าเจรจากับคุณวีระ
สมความคิดแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ด้านวีระยุทธ์
ดวงแก้วกำนันต.เสาธงชัยกล่าวว่าสาเหตุที่ชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวสกัดกลุ่มพันธมิตรฯ
เนื่องจากเห็นว่าวิธีการเรียกร้องไม่ถูกต้อง
คุณวีระ สมความคิดแกนนำขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
ได้พยายามเจรจาแต่ไม่เป็นผล พล.ต.อ.ธานี
สมบูรณ์ทรัพย์รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพน้อยที่ 2 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและได้เชิญ
คุณวีระ สมความคิดแกนนำขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร ผู้ว่าฯ
ศรีสะเกษและตัวแทนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษขึ้นไปเจรจาหารือกันที่บริเวณศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารบริเวณผามออีแดง ทหารไม่อนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรฯขึ้นไปพักค้างคืนบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอ้างว่าบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารประกาศเป็นเขตกฎอัยการศึกจึงห้ามไม่ให้ขึ้นไปพักค้างคืนพันธมิตรฯได้สลายตัวและพากันเดินทางไปยังที่พักที่ศีรษะอโศก
โดยมีกำลังทหารคอยส่งพันธมิตรกลับที่พัก
คนที่ไปมาเล่าให้ฟังว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความต้อนรับดีมากแต่พวกเด็กวัยรุ่นเหลืิอขอซึ่งเมามาแอ็๋ถูกจัดตั้งมาวิ่งไล่ฟัน
โยนค้อน ยิงมาน่ากลัวมาก น่ากลัวกว่าที่ทำเนียบอีก
ตำรวจห้าคนซ้อมคุณลุงคนหนึ่งที่มาจากสระบุรีจนคุณลุงตาแตก
ถูกโล่บดเข้าไปที่จมูกจนดั้งเกือบหัก การนำเสนอข่าวคนไทยตีกันเอง ด้วยปัญหาความขัดแย้งทางความคิด ของสื่อต่างๆ
ตลอดจนพาดหัวข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในวันรุ่งขึ้น 20 กย. 52 เป็นสิ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า
สังคมไทยไม่ปรารถนาที่จะได้ยินได้เห็นหรือต้องการให้สถานการณ์น่าอดสูนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว สื่อฟรีTV ช่อง 3 5 7 9 11 TPBS แต่ละช่องเสนอข่าวบิดเบือนใส่ร้ายขบวนประชาชนทวงคืนเขาพระวิหาร
ไม่เคยที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลทวงดินแดน 4.6
ตารางกิโลเมตรของเรา
ไม่เคยเสนอข้อมูลเรื่องนี้ที่เป็นความจริงเลยมีแต่เสนอข้อมูลเท็จให้คนไทยใจเขมรออกมาโกหกผ่านสื่อพวกนี้อย่างเดียว
สื่อสารมวลชนต่างก็บิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็นอย่างหน้าด้านๆ
ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นมีการสัมภาษณ์แหล่งข่าว(ฝ่ายรัฐบาลตัวเป้งๆ)โดยการถามนำและนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จทั้งแหล่งข่าวผู้ให้โดยมิได้กลั่นกรองให้ครบถ้วนถูกต้องก่อนนำเสนอต่อประชาชน
พิราบเงา (Permalink :
http://www.oknation.net/blog/kenrama8) ได้บรรยายสรุปเหตุการณ์ที่ได้เจอมาในภายหลังไว้ว่า
ในการเดินทางไปเรียกร้องทวงคืนแผ่นดินไทยจากเขมร 4.6
ตารางกิโลเมตรกับพี่น้องที่รักชาติรักแผ่นดินพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นมีการต่อต้านจากกลุ่มคนจัดตั้งจากที่อื่นที่ไม่ใช้คนในพื่นที่โดยใช้อาวุธปืนซุ่มยิงด้วยปืนลูกซองจากป่าข้างทาง
ผลจากการโจมตีครั้งนี้ทำให้ประชาชนที่รักชาติได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งคนโดนยิงเข้าที่สีข้าง โดนหนังสติ๊กยิงเข้าที่ตา รถยนต์และรถบัสใหญ่กระจกแตกหลายคัน
คนที่ได้รับบาดเจ็บได้เจ้าหน้าที่พยาบาลและพี่น้องชาวตำบลภูมิซรอลช้วยเหลือ
หลังจากได้มีการปะทะไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงชาวบ้านภูมิซรอลได้ออกมาจากในบ้าน
พวกเราได้พูดคุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านภูมิซรอลบอกว่ากลุ่มคนที่มาชูป้ายและมาทำร้ายประชาชนที่มาเรียกร้องทวงคืนแผ่นดินไทยกลับคืนมานั้น
ชาวบ้านบอกว่าพวกคนที่อยู่ในวัดไม่ใช่คนภูมิซรอล
พวกนี้พูดภาษาไทยไม่ชัดและมีความก้าวร้าวผิดกับพี่น้องชาวภูมิซรอลที่มีน้ำใจคอยเอาน้ำมาให้พวกเราได้ดื่มกินพอช้วยบรรเทาความหิวและกะหายไปได้อย่างดี พวกเราเข้ากับคนที่ภูมิซรอลได้ดี
จากการได้ดูสื่อ TV หลายช่องได้ออกข่าวที่เป็นเท็จโดยไม่มีความรับผิดชอบโดนนักการเมืองครอบงำ
ในการเจรจาต่อรองเพื่อขึ้นไปที่ผามออีแดงประกาศเจตนาทวงคืนแผ่นดินไทยนั้นโดนเจ้าหน้าที่บล็อกเอาไว้เวลาผ่านไปเริ่อยๆยิ่งแสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าอันตรายก็จะมีมากขึ้นเป็นสองเท่า สองข้างทางเป็นป่าทึบรถไม่สามารถขยับได้รถติดยาวเป็นกิโล
พวกผู้ชายพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายตลอดเวลา
ผมอธิฐานต่อสิ่งศักด์สิทธ์ในใจตลอดขอคืนนี้อย่าได้เกิดอะไรขึ้นขอให้พี่น้องประชาชนปลอดภัย
เวลาผ่านไปจนมืดสนิดทางพี่วีระ ไม่สามารถต่อร้องเพื่อขึ้นเขาได้รัฐบาลประกาศกฏอัยการศึกเป็นอันจบ
พวกเราหันหัวรถกลับที่ละคันมุ่งหน้าไปตั้งหลักพักเอาแรงเพื่อวันพรุ่งนี้ต่อที่ศีรษะอโศก
สำนักข่าวต่างประเทศให้ความสนใจรายงานข่าวออกไปทั่วโลก บีบีซีระบุว่า
ผู้ประท้วงจากกลุ่มพันธมิตรเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันทหารและพลเรือนเขมรออกจากพื้นที่บริเวณใกล้กับปราสาทพระวิหาร
ซึ่งถือว่าเป็นเขตอธิปไตยของไทย
ในขณะที่พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นพื้นที่ขัดแย้งที่ทั้งไทยและเขมรต่างอ้างสิทธิกันอยู่ในเวลานี้
เอเอฟพีระบุว่าภาพจากโทรทัศน์เห็นได้ว่าผู้ประท้วงที่มีไม้เป็นอาวุธพยายามโจมตีเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุมในท้องถิ่นที่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุตึงเครียดขึ้นแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลผลักดันกลับไปได้ในที่สุด
นายกฯ อภิสิทธิ์รับทราบเหตุชาวบ้านปะทะกับมวลชนพันธมิตรฯบริเวณวัดภูมิซรอล
ย้ำสั่งการให้ทหารเข้าไปเจรจาให้ส่งตัวแทนพันธมิตรฯขึ้นไปอ่านแถลงการณ์บริเวณปราสาทพระวิหารหวังให้ยุติชุมนุม
การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนกดดันให้รัฐบาลดำเนินมาตรการที่เด็ดขาดในการทวงดินแดนอาณาเขตของประเทศไทยส่วนหนึ่งของ
4.6
ตารางกิโลเมตรบริเวณปราสาทพระวิหารคืนจากเขมรเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2552 นำโดยคุณวีระ
สมความคิดเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลจะนิ่งนอนใจไม่ได้และจะชี้แจงเพียงเท่าที่ทำมาไม่ได้ คุณคำนูณ
สิทธิสมานในฐานะสมาชิกวุฒิสภาไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-เขมรและกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-เขมรตลอดแนว
คุณคำนูณและคณะได้คัดค้านและมีเสียงโหวตคัดค้านมีเพียง 7 และ 8
เสียงขณะที่เสียงโหวตเห็นด้วยมีถึง 409 และ 406 เสียงตามลำดับในการประชุมสภาร่วมกัน
คุณคำนูณและคณะเชื่อว่ายุทธวิธีการต่อสู้นั้นมีได้หลากหลายและการรับฟังความเห็นที่แตกต่าง
ข้อมูลที่กว้างขวางสลับซับซ้อนพบว่ารัฐบาลไม่พยายามใช้การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนให้เป็นประโยชน์ต่อการเจรจาความเมืองระหว่างประเทศ
จึงได้เสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาศึกษากรณีปัญหาเขตแดนไทย-เขมรโดยตั้งเฉพาะตัวประธานแล้วให้ประธานตั้งกรรมการและกำหนดเงื่อนไขในการทำงานขึ้นมาเองแต่จะไม่มีอำนาจไปกำหนดนโยบายได้แล้วจึงให้เสนอความเห็นต่อรัฐบาลและรัฐสภาอะไรที่เปิดเผยได้ก็เปิดเผยอะไรที่ต้องลับก็ไม่ต้องเปิดเผย
รัฐบาลยังจะต้องเร่งปรับกลไกในกระทรวงการต่างประเทศเพื่อรองรับปัญหาเขตแดนไทย-เขมร
เร่งรวบรวมข้อมูล สร้างผู้เชี่ยวชาญ
ยังต้องเริ่มต้นล็อบบี้นานาชาติรวมถึงการจ้างผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเพื่อการเหล่านี้ด้วย
เราจำเป็นจะต้องมีทีมแบ็คอัพที่สมบูรณ์เพื่อทำภารกิจล็อบบี้ในรูปแบบต่าง ๆ
ด้วย
แม้แต่การเขียนบทความลงในวารสารกฎหมายระดับโลกที่วงการกฎหมายระหว่างประเทศยอมรับเพื่อให้เกิดกระแสผลักดันไปในทางที่เราได้ประโยชน์
หากเรื่องนี้ขึ้นสู่โต๊ะเจรจาระดับพหุภาคหรือกลับไปสู่ศาลโลกอีกครั้ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ให้สัมภาษณ์ขอโทษประชาชนชาวศรีสะเกษและประชาชนชาวไทยทั่วประเทศที่ไม่สามารถคุมสถานการณ์เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้ซึ่งในวันนี้เป็นวันสารทเขมร ผู้ว่าฯออกมาระบุว่านั่นเป็นการแสดงพลังของชาวบ้านในพื้นที่
การดำเนินการและการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของกลุ่มพันธมิตรฯ
ไม่ถูกต้องและชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้องการเห็นความวุ่นวาย
เนื่องจากขณะนี้มีพื้นที่ดังกล่าวมีความสงบอยู่แล้วและมีการให้ข่าวกับสื่อต่างๆ
ซึ่งทำให้ภาพรวมของพันธมิตรฯถูกมองว่าสร้างความรุนแรง
20 กย. 52 ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ
แจงแม้การเคลื่อนไหวเพื่อทวงเขาพระวิหารคืนไม่ใช่มติ 5 แกนนำ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแต่ยืนยันมีจุดยืนเดียวกันและจะไม่ลอยแพเครือข่ายเรียกร้องรัฐบาลประกาศวันเวลาเจราจาให้ชัดเตรียมขยับหารือเพื่อวางแนวทางในการเคลื่อนไหวใหญ่ มีข่าวบางสำนักอ้างคำสัมภาษณ์ของพล.ต.จำลอง
ศรีเมืองและตนทำนองว่าแกนนำจะลอยแพและออกตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณวีระ
สมความคิดและการเคลื่อนไหวครั้งนี้นั้น
นายสุริยะใสระบุไม่เป็นความจริงและไม่มีความขัดแย้งหรือแตกแยกกันอย่างที่ข่าวบางสำนักพยายามเสนอข่าว แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่มติ 5 แกนนำฯ แต่เครือข่ายพันธมิตรฯ
ทั่วประเทศก็มีอิสระในการตัดสินใจเข้าร่วมการเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างเต็มที่และสาเหตุที่คุณวีระ
สมความคิดออกมานำในเรื่องนี้ก็เพราะคุณวีระลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเป็นคนที่สนใจติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษมาก่อน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและชาวบ้านในพื้นที่ว่าหลังจากได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลการชุมนุมและเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง
2 ฝ่ายแล้วพบว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง กลุ่มพันธมิตรฯยอมส่งตัวแทนเข้าไปผามออีแดงเพื่ออ่านคำแถลงการณ์แล้วเดินทางกลับโดยเจ้าหน้าที่พร้อมอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้และยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเจรจาแก้ไขปัญหาชายแดน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่ระหว่างเดินหน้าเจรจาร่วม
2 ฝ่าย เพื่อนำไปสู่การจัดทำเขตแดน นายกฯกล่าวว่า
ตนขอร้องเจ้าหน้าที่แล้วแต่ตำรวจไม่สามารถรับมือคนจำนวนมากได้จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจทำให้เกิดการปะทะกันแล้วมีการบาดเจ็บ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนและฝ่ายความมั่นคงพยายามทำให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ สุดท้ายได้ข้อสรุปว่ากลุ่มที่มาคัดค้านควรเปิดทางและกลุ่มที่จะเข้าไปให้เข้าไปโดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เมื่ออ่านแถลงการณ์
เสร็จแล้วก็เป็นอันจบกิจกรรม
เท่าที่คุยกับรักษาการผบ.ตร.ทราบว่ามีข้อจำกัดตรงเจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างกลุ่มคนสองฝ่ายที่มีจำนวนมากทำให้ไม่สามารถรักษาแนวกันระหว่างพูดคุยไว้ได้ ปัญหาว่าใครไปทำผิด
เจ้าหน้าที่มีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ต้องว่ากันตรงไปตรงมา
คนไทยส่วนใหญ่คงไม่อยากเห็นภาพคนไทยมีปัญหากันเองต่างชาติมองอย่างไร
จึงอยากให้ทุกฝ่ายทบทวนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน
ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีเดินทางไปรับตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดินทางด้วยรถบัสทหารขึ้นไปยังผามออีแดงเพื่ออ่านแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์เรียกร้องทวงคืนดินแดนข้อพิพาทประสาทพระวิหารบนผามออีแดงเวลา
11.00 น.กลุ่มคนไทยรักชาตินำโดยคุณวีระ
สมความคิดประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชันและภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหารพร้อมตัวแทนคนรักชาติ
พร้อมคณะสื่อมวลชน จำนวน 33 คน
จากเดิมที่จะให้ตัวแทนประชาชน 76
จังหวัดได้เดินทางไปยังผามออีแดงเพื่ออ่านแถลงการณ์ทวงคืนดินแดนรอบปราสาทพระวิหารพื้นที่
4.6 ตารางกิโลเมตรใจความสรุปว่า
จะดำเนินการทุกวิถีทางตามกรอบของกฎหมายทวงคืนดินแดนรอบปราสาทพระวิหาร 4.6
ตารางกิโลเมตรพร้อมทั้งจะเอาผิดผู้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดนรอบปราสาทพระวิหาร ขอยืนยันว่าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตประเทศไทย
ตามหลักปักปันเขตแดนที่ประเทศฝรั่งเศสได้ร่างขึ้นขอประท้วงรัฐบาลเขมรที่เอาประชาชนและทหารเข้ามาในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารและขอให้นำประชาชนและทหารเขมรออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว
เครือข่ายประชาชนคนไทยรักชาติไม่ได้รับความสะดวกจากทหารในการขึ้นไปอ่านแถลงการณ์ทวงคืนดินแดนรอบปราสาทเขาพระวิหารโดยอ้างว่าต้องปฏิบัติตามกฎอัยการศึกอย่างเข้มงวดทั้งที่นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางขึ้นไปอ่านแถลงการณ์บนผามออีแดง เครือข่ายประชาชนผู้รักชาติเราไม่ฝ่าฝืนกฎหมายและทหารปฏิบัติตามกฎอัยการศึกอย่างเคร่งครัดแล้วพล.อ.อนุพงษ์
เผ่าจินดาผู้บัญชาการทหารบกก็ไม่มีทางเลือกอื่นต้องปฏิบัติตามกฎหมายเช่นกันและต้องผลักดันประชาชนและทหารเขมรออกจากพื้นที่
4.6 ตารางกิโลเมตรโดยทันที โดยเครือข่ายประชาชนผู้รักชาติจะให้เวลาสักระยะหนึ่งถ้า
ผบ.ทบ.ไม่ทำตามกฎอัยการศึกเครือข่ายประชาชนผู้รักชาติ
จะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมทั้งจะมีมาตรการตอบโต้ต่อไป
แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ตขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
หยุดพฤติกรรมตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จได้แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ชัดเจนว่ากลุ่มชาวบ้านนั้นเป็นกลุ่มมวลชนจัดตั้งของผู้ว่าฯเอง
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ และกลุ่มวัยรุ่นมีอุปกรณ์การต่อต้านครบมือ
โดยเฉพาะป้ายไวนิลที่ประชาชนทั่วไปจะสามารถจัดหามาด้วยตนเองได้ ทุกครั้งที่มีการรวมตัวของกลุ่มประชาชนผู้รักชาติเคลื่อนไหวเพื่อรักษาสิทธิอันชอบธรรมของแผ่นดินแม่เอาไว้
ทุกคนรู้ดีว่า กำลังทำอะไรกันอยู่
ทุกย่างก้าวของเราเดินไปด้วยหลักสงบ สันติ และอหิงสา มีการเจรจากับเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องจัดหากลุ่มมวลชนมาชนเพื่อหวังให้เกิดการปะทะขึ้นทุกครั้งเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง
พฤติกรรมของผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันอ้างความเห็นของชาวบ้านว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความสงบแล้วแต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ถามว่าคนพื้นที่ภาคใต้จะเกี่ยวข้องอะไรต่อกรณีพื้นที่ปราสาทระวิหารด้วยหรือไม่นั้น
หากพูดกันตามหลักความเป็นจริงแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อยนิด
แต่คนภาคใต้มองว่าไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนของภาคใด
เมื่อได้ชื่อว่าประเทศไทยแล้วย่อมยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จะต้องสูญเสียอธิปไตยให้กับประเทศอื่นไป"
สุเทพ เทือกสุบรรณย้ำเหตุปะทะที่เขาพระวิหารต้องดำเนินการตามกฎหมายและไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯที่มักมีความรุนแรงเกิดขึ้นเสมอ คนไทยสามารถเดินทางบนถนนไปไหนมาไหนได้
ไม่ผิดกฎหมายไม่ใช่หรือ ขณะขบวนเขาผ่านไปม๊อบจัดตั้งก็ได้ระดม ยิงหนังสติ๊ก
ขว้างท่อนไม้ อิฐก้อนใหญ่ๆทุ่มใส่รถ
ถามขบวนรถเขาผิดตรงไหนเขาลงมาทำร้ายใครหรือเปล่า เขาไปเพราะเจตนาดีต่างหาก
คนในพื้นที่ก็ไม่ได้อะไรมากแต่มันมีคนนำคนต้นคิดคนยั่วยุเพื่อหวังผลอะไรบางอย่างซึ่งต้องหันคำถามนี้ไปยังผู้ว่าฯกับเนวินว่าขนคนเอาคนนอกมาเป็นม็อบ
เอามาขนมาจากถิ่นไหนทำตัวเป็นกองกำลังดักซุ่มโจมตีเอาผ้าพันหน้าพันตาปิดบังอำพรางถ้าเอาจริงๆๆก็สาวไปถึงตัวและผู้บงการได้ไม่ยาก ส่วนพันธมิตรเท่าทีดูๆ เขาก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรใครอย่างมากก็แค่ทำท่าทำทางขู่
แต่ถ้าเล่นไม่เลิกถึงขั้นบาดเจ็บก็ต้องมีการหาทางป้องกันตัวบ้าง
ถ้ามีคนยกมีดขึ้นจะฟันเทพเทือกแบบในภาพคลิปเทพเทือกจะปล่อยให้เขาฟันไปก่อนพอตายหรือสาหัส
ค่อยไปฟ้องร้องเอาใช่หรือไม่
คุณวีระและคณะได้เดินทางไปที่ สภ.บึงมะลู
อ.กันทรลักษ์และได้นำกลุ่มประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยฯที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับม็อบต่อต้านกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลรวมทั้งนำรถทัวร์และรถยนต์ส่วนตัวที่ได้รับความเสียหายไปแจ้งความ
หลังจากนั้นกลุ่มภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหารได้เริ่มทยอยเดินทางออกจากหมู่บ้านศีรษะอโศกกลับไปยังภูมิลำเนาแล้ว ในเวลาต่อมากำนันตัวแสบแกนนำม็อบเถื่อนวีระยุทธ
ดวงแก้วกำนันตำบลเสาธงชัยนำกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความที่สภ.บึงมะลูในวันนี้เช่นกันเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มกลุ่มประชาชนทวงคืนดินแดนไทย
นายสุริยะใส
กตะศิลาผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวต่อกรณีนี้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความบกพร่องของทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
รัฐบาลกลับนิ่งเฉยและละเลยไม่ใส่ใจแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเขาพระวิหารให้ได้ข้อยุติเรื่องดังกล่าวถูกนำมาเป็นประเด็นบิดเบือนความจริง
ทำให้เกิดเงื่อนไขในการทำให้คนไทยเผชิญหน้าซึ่งกันและกันมีความพยายามจัดตั้งม็อบที่เต็มไปด้วยชายฉกรรจ์มารอดักทำร้ายทางเครือข่ายประชาชนฯ
อย่างจงใจ
รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐก็มีส่วนร่วมรู้เห็นรัฐบาลไม่ควรปฏิเสธความรับผิดชอบ
สิ่งที่คนไทยทุกคนผู้เรียกร้องตามสิทธิและหน้าที่ตามกรอบของรัฐธรรมนูญพึ่งกระทำออกไปปกป้องและรักษาดินแดนประเทศของตนเองไว้ทุกตารางนิ้ว ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นได้ขอสัมภาษณ์ตนซึ่งอยู่นอกพื้นที่คงไม่สามารถให้คำตอบได้ดีกว่าคุณวีระที่เป็นแกนนำลงไปดำเนินการเรื่องนี้ จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของ
พล.ต.จำลองไปซึ่งก็ได้ให้คำตอบในลักษณะที่คล้ายกับตนหลังจากนั้นสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นได้ลงข่าวปล่อยลอยแพคุณวีระ
ตนก็ได้โทรกลับไปหานักข่าวคนดังกล่าวซึ่งก็ได้ตัดสินใจลบข่าวนั้นออกแต่ก็สายไปเสียแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นพาดหัวหน้า 1 ของสื่อมวลชนจากสำนักอื่นๆที่มีข้อมูลผิดพลาดเช่นเดิม
กองกำลังที่มาดักทำร้ายถูกจัดตั้งด้วยชายฉกรรจ์ที่เป็นวัยรุ่นสื่อสารกันด้วยภาษาเขมรเป็นหลักและวันนั้นมีการจัดงานฉลองบริเวณดังกล่าวพอดีจึงมีการดื่มสุราและของมึนเมาทำให้มีการปลุกระดมกันง่ายยิ่งขึ้นง่ายกับการเตรียมแผนให้เกิดความรุนแรงไว้ล่วงหน้าโดยมีบางส่วนที่เป็นพวกเสี้ยมให้เกิดความรุนแรง สื่อนำเสนอข่าวสารบิดเบือนข้อมูล คัดลอกข่าว ไม่มีการตรวจสอบความจริง
บางสื่อยังไม่ยอมแก้ข่าวให้นำไปสู่การเข้าใจผิด
ในการเดินทางไปในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในการลงพื้นที่ครั้งนี้โดยสั่งกำชับให้การ์ดดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีๆไม่ว่าจะไปในนามขององค์กรใดๆก็ตามแต่ในฐานะที่เป็นคนไทยที่รักชาติ
รักแผ่นดินตนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ต้องปกป้องคนกลุ่มดังกล่าวให้ถึงที่สุดดังนั้นขอให้ตัดประเด็นเรื่องปล่อยลอยแพไปได้เลยตนว่าเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นคือการที่คนกลุ่มนี้ไปชุมนุมเพื่อเรียกร้องตามสิทธิกรอบของรัฐธรรมนูญแต่ทำไมรัฐบาลถึงไม่คุ้มครองเรื่องความปลอดภัย
ทั้งๆที่คุณวีระได้ประกาศวันเวลาชัดเจนไว้แล้วว่าจะไปเมื่อไหร่
พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ถิ่นของพรรคประชาธิปัตย์แต่เป็นของพื้นที่พรรคภูมิใจไทย
ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่รัฐจึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในพรรคดังกล่าวจึงอาจเป็นช่องทางทำให้มีการปล่อยปละไม่สนใจเรื่องนี้เท่าที่ควรรวมทั้งมีการฉวยโอกาสทำลายความชอบธรรมพันธมิตรฯด้วย
ในช่วงกลางสัปดาห์นี้จะมีการหารือของเหล่าแกนนำพันธมิตรฯและจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในแนวทางเคลื่อนไหวเพื่อทวงคืนพื้นที่
4.6
ตารางกิโลเมตรดังกล่าวแต่ต้องมีการวางแผนให้รอบคอบและรัดกุมยิ่งขึ้นรวมทั้งประเมินสถานการณ์ต่างๆ
โดยขอรับรองว่าทางแกนนำพันธมิตรฯ ทุกคนไม่ได้นิ่งเฉยกับการเคลื่อนไหวในครั้งนี้
ทักษิณได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์ twitter.com
ถึงเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างชาวบ้านภูมิซรอลกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ไปชุมนุมทวงคืนพื้นที่ทับซ้อน
"ชัดเจนครับม็อบมีเส้นกับม็อบไม่มีเส้น
เหตุเกิดวันเดียวกันแต่คนละที่ให้เห็นความแตกต่างกันจะๆ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง
สันติ หรือการปฏิบัติจากภาครัฐ"
"พอแล้วยังครับ ปิดข่าวหรือบิดเบือนข่าวก็ไม่ช่วยศตวรรษที่ 21 วิธีเดิมยิ่งทำชาติยิ่งช้ำ หันหน้าเข้าหากันน่าจะดีกว่าเพื่อพ่อหลวงและเพื่อประชาชนเรา"
และยังได้เขียนข้อความโต้ตอบกับผู้ใช้เว็บไซต์ twitter.com รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า "weerabhan"
ถึงข้อพิพาทเขาพระวิหารโดยมีใจความว่า
"รู้ไหมว่าเขาพระวิหารเป็นของเขมรเพราะเราแพ้คดีที่ศาลโลกเมื่อสมัยจอมพลสฤษดิ์เป็นนายกฯคุณเสนีย์
ปราโมทย์เป็นทนาย ผมยังเอาค่าขนมบริจาค"
("รู้ไหมครับ
ผมยังให้นพดลแถมแผ่นดินไทยเพิ่มให้อีก แลกกับอะไรเหรอ เรื่องอะไรจะบอก"
อันนี้ผู้เขียนเติมเอง) ต่อมา “weerabhan” ได้โพสต์ตอบว่า "ทราบครับ
แต่ไม่แน่ใจว่าพื้นที่ 4.6
ตารางกิโลเมตรนั้นอยู่ในคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่
ถ้าไม่แล้วพื้นที่ตรงนี้เป็นของใคร?"
หลังจากนั้นทักษิณได้โพสต์ในหน้าทวิตของตัวเองว่า
"ที่ผมกล่าวถึงเขาพระวิหารที่เราแพ้คดีที่ศาลโลกนั้นหมายถึงตัวปราสาทพระวิหาร
ไม่ได้หมายถึงเขาทั้งลูก ผมพูดสั้นไปหน่อยขอโทษทีครับ" อย่างไรก็ตาม “weerabhan” ได้โพสต์ข้อความในหน้าทวิตเตอร์ของตัวเองว่าถูกบล็อกจากการติดตาม"Thaksinlive"เรียบร้อยแล้ว
พร้อมระบุว่า"Thaksinlive" เริ่มบล็อก twittple หลายรายแล้วส่วนมากเป็นคนที่มีความเห็นไม่ตรงกันกับทักษิณ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิดโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า เรื่องนี้คลี่คลายไปแล้วโดยช่วงเช้ากองกำลังสุรนารีจัดรถบัสทหารไปรับตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อเดินทางขึ้นไปประกาศเจตนารมย์บริเวณผามออีแดงและกลุ่มดังกล่าวดำเนินการตามเจตนารมย์เสร็จสิ้นแล้ว ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนเรื่องคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายหากมีผู้กระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีในการปะทะกันระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เต็มที่แล้วส่วนกำลังทหารไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับเขมรเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในบริเวณพื้นที่ของไทยเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะบานปลาย
21 ก.ย. 52 สุเทพ
เทือกได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีที่กลุ่มประชาชนทำร้ายกันที่จ.ศรีษะเกษตามหลักฐานโดยต้องดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่กระทำการ
22 ก.ย. 52 นายกฤช
เทพบำรุงหนึ่งในทีมการ์ดภูเก็ตซึ่งเดินทางไปกับคณะพี่น้องประชาชนผู้รักชาติเพื่อแสดงพลังทวงคืนอธิปไตยเหนือพื้นที่
4.6
ตารางกิโลเมตรเดินทางกลับถึงจังหวัดภูเก็ตแล้วกล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายว่าก่อนวันที่
19 ก.ย.นั้น
ตนได้เดินทางขึ้นไปล่วงหน้าทำให้ได้ฟังผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษพูดผ่านเสียงตามสายตลอดเวลา
โดยมีการกล่าวอ้างว่าจังหวัดศรีสะเกษมีความสงบเรียบร้อยอยู่แล้วและได้เชิญชวนให้ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษออกมารวมตัวแสดงพลังไม่เอาความรุนแรงในพื้นที่ซึ่งไม่คิดว่าการพูดเชิญชวนปลุกระดมของผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษจะนำมาซึ่งความรุนแรง
ทีมการ์ดมีการประชุมประเมินสถานการณ์ค่อนข้างมั่นใจว่าคำพูดของผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเพียงเพื่อให้ประชาชนออกมาแสดงพลังเพียงอย่างเดียวไม่คิดว่าชาวบ้านจะใช้ความรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ
จึงให้ความไว้วางใจ เพราะเห็นว่าเป็นประชาชนคนไทยด้วยกัน ที่สำคัญการเดินทางของพันธมิตรฯ ยึดหลักสงบ
สันติ และอหิงสามีการสั่งห้ามให้ผู้ที่เดินทางร่วมไปในคณะพกพาอาวุธใดๆ
ขึ้นไปอย่างเด็ดขาด เราไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐ
แต่กลับกลายเป็นว่าพอคณะของเราเดินทางไปถึงกลับถูกกลุ่มชาวบ้านออกมารวมตัวต่อต้านและรุมทำร้ายโดยการใช้หนังสติ๊กยิงเข้าใส่
ใช้ท่อนไม้ไล่ทุบตีแบบไม่ยั้ง
กลุ่มชาวบ้านยังยิงหนังสติ๊กใส่รถของคณะพันธมิตรฯ กระจกแตกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ
ต้องหยิบฉวยอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือเพื่อตอบโต้กลุ่มชาวบ้าน
ไม่ให้กลุ่มพี่น้องพันธมิตรฯถูกรุมทำร้ายเพียงฝ่ายเดียว เพราะชาวบ้านที่มารวมตัวกันประมาณ 1,000 คนนั้นมีท่อนไม้ และหนังสติ๊กมาพร้อม ในขณะที่พันธมิตรฯ
ไปแบบมือเปล่า ภาพที่สื่อต่างๆ
นำเสนอเผยแพร่ เป็นภาพช่วงที่พันธมิตรฯ ตอบโต้เพื่อป้องกันตน
แต่ช่วงที่กลุ่มพันธมิตรฯ ถูกกลุ่มชาวบ้านรุมทำร้าย ใช้ท่อนไม้วิ่งไล่ตี สื่อต่างๆ
กลับไม่มีการนำเสนอแต่อย่างใด ประมาณ 2 ชั่วโมง ที่มีการปะทะทีมการ์ดพันธมิตรฯ ประมาณ 300 คน ได้รับบาดเจ็บหลายรายซึ่งส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย “เหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากว่าไม่มีบุคคลใดจัดตั้งมวลชนมาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ
แต่เมื่อเราถูกทำร้ายก็มีความจำเป็นในการป้องกันตัวเราหยิบจับอะไรได้ใกล้ตัวก็ใช้อย่างนั้น” ด้านน.ส.อาภารัตน์
ชาติชุติกำจรแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต
กล่าวถึงกรณีที่สุเทพ เทือกที่ชอบออกมาระบุว่าทุกครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ
รวมตัวชุมนุมต้องเกิดความรุนแรงขึ้นนั้น
ที่จริงความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นเลยหากเจ้าหน้าที่รัฐไม่จัดตั้งมวลชนมาต่อต้าน วลีที่ถูกก็คือ "กลุ่มมวลชนจัดตั้งโดยนักการเมือง ลอบทำร้าย (หรือซุ่มโจมตี)
พันธมิตรที่ไปแสดงเจตนารมย์ทวงคืนพื้นที่รอบๆประสาทพระวิหารจากการบุกรุกอธิปไตยไทยของเขมร"
คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน
วุฒิสภาร่วมกับภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหารจัดสัมมนาเรื่อง
"แสวงหาความจริง แผ่นดินเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร
ตั้งแต่กรกฎาคม 2505-2552" นายคำนูณ สิทธิสมาน
ส.ว.สรรหาในฐานะผู้ดำเนินรายการตั้งข้อสังเกตว่ากรณีพิพาทเขาพระวิหารเมื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจาไม่แน่ใจว่ากระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลจะเสียเปรียบในการเจรจาหรือไม่และหากเรื่องก้าวเลยไปสู่พหุภาคีแล้ว
เรื่องอาจกลับไปสู่ศาลโลกอีกครั้ง
ไทยจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบก็ยังไม่รู้
แต่ตนมองว่าไทยอาจมีโอกาสเสียเปรียบ
เพราะมีเอกสารจำนวนมากที่จะต้องทำความเข้าใจโดยเฉพาะการบันทึกเอ็มโอยู
ที่มีผลให้ไทยต้องยอมรับในแผนที่ไปโดยปริยาย
"การผลักดันชุมชนชาวเขมรออกจากพื้นที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำซึ่งผมเชื่อว่ามีหลายวิธี
1.ให้ประท้วงอย่างเป็นทางการ 2.ใช้กำลังทหารผลักดันเพื่อเพิ่มพลังการเจรจาของทางฝ่ายไทย" ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา
แกนนำกลุ่ม 40
ส.ว.กล่าวว่าเรื่องการเจรจาปักปันเขตแดนนั้น
ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาเจรจาอีกเพราะเรื่องจบมาตั้งแต่ ค.ศ.1907 แล้ว ถ้าปักปันอีก
ไทยต้องเสียดินแดนโดยอาจต้องเสียไปถึงสายน้ำ ภูเขา สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้
เรื่องนี้ควรตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา เพื่อพิสูจน์เขตแดนทั้ง 73 หลักให้ได้ก่อน โดยไม่เกี่ยวกับตัวเขาพระวิหาร โดยให้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องออกจากพื้นที่ แต่หากทางเขมรจะเข้ามาในพื้นที่ต้องมาขึ้นทะเบียนกับทางไทย
และต้องให้ประชาชนทั้ง 2
ฝ่ายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปให้หมด
แล้วไทยจึงจะถอนทหารออกมาถ้าไม่ได้ก็ต้องเพิ่มกำลังทหารเข้าไป นายสมปอง สุจริตกุลคณบดีคณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรนั้น
เป็นของไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศแน่นอนซึ่งยึดหลักตามอนุสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสโดยยึดเขตแดนธรรมชาติเป็นสันปันน้ำเป็นแนวเขตแดนและเขมรเป็นผู้สืบทอดกรรมสิทธิ์ย่อมได้สิทธิเท่ากับฝรั่งเศส
หากมีการยกเลิกอนุสัญญาดังกล่าวประเทศไทยจะได้พระตะบอง
เสียมราฐและศรีโสภณคืนกลับมาซึ่งประเทศไทยได้เปรียบทุกด้าน
"ประเทศไทยได้รับบทเรียนมาจากคดีปราสาทเขาพระวิหาร
ศาลโลกเขาสอนว่าแม้จะเป็นกฎหมายต่างประเทศเราจะเสียเปรียบอย่างไร
ทีหลังต้องอ้าปากบอกชาวโลกต้องออกมาปกป้องสิทธิทุกวิธีทางไม่เช่นนั้นจะสูญเสียดินแดนโดยไม่ได้ทำอะไรเลย
ในการประท้วงเพื่อจะรักษาดินแดน ควรทำด้วยวาจาแต่หากไม่เกิดผล
ต้องทำนอกเหนือจากการประท้วง ด้วยมาตรการอื่นๆ เพื่อเป็นแรงกดดันบีบบังคับให้คนเขมรออกจากพื้นที่ที่เป็นของไทยแต่เรื่องนี้ต้องกำหนดมาตรการเป็นขั้นตอนและต้องดำเนินการเด็ดขาดโดยเร็ว
วันเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เลื่อนชี้มูลความผิดคดีกล่าวหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลสมัคร สุนทรเวชกับพวกรวม 28 คนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีออกมติครม.สนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นวันที่ 29 กันยายน เนื่องจากการพิจารณาเป็นรายบุคคลยังไม่แล้วเสร็จ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.
ในฐานะโฆษกป.ป.ช.แถลงว่าที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้เริ่มพิจารณาคดีนี้ตั้งแต่เวลา 09.00-13.00
น.โดยพิจารณารายละเอียดคดีทั้งหมดทั้งพยานเอกสารหลักฐานรวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
โดยจะดูการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 44 คน
มีการกระทำหรือพฤติการณ์ว่าเจตนาจะปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายอันเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่
และเข้าข่ายถอดถอนได้หรือไม่โดยพิจารณาเป็นรายบุคคล และขณะนี้พิจารณาเสร็จเพียง 12 คน เหลือ 32
คนคณะกรรมการจึงมีมติให้เลื่อนไปพิจารณาต่อในวันที่ 29 กันยายนนี้ก่อนแถลงผลการพิจารณาครั้งเดียวในวันดังกล่าว
ภาพเหตุการณ์กลุ่มชาวบ้านวิ่งเข้าไล่ทำร้าย ฟันแทง ทุบตี ขว้างปาก้อนหิน
ท่อนไม้และระดมยิงหนังสติ๊กถล่มประชาชนขบวนภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหารนำโดย
“คุณวีระ สมความคิด” อย่างป่าเถื่อน บ้าคลั่ง นำไปสู่การปะทะกันรุนแรงของ 2
ฝ่ายบาดเจ็บระนาวท่ามกลางกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 1,000 นายเมื่อบ่ายวันที่ 19
ก.ย.ริมถนนสายกันทรลักษ์-เขาพระวิหารบริเวณหน้าวัดภูมิซรอล ต.เสาธงชัย
อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษที่ผ่านมาได้สร้างคำถามให้กับทุกฝ่ายว่ามันเกิดอะไรขึ้น
คำตอบที่หลั่งไหลมาจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะหน่วยข่าวและฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องล้วนระบุตรงกัน
เป็น “ม็อบจัดตั้ง” และเตรียมการมาอย่างดี วางแผนปฏิบัติการเป็นระบบ มีขั้นตอน
ที่สำคัญเป็นการผสมโรงร่วมกฐินของหลายกลุ่มที่เชื่อมโยงลงตัวด้วยธรรมชาติแห่งผลประโยชน์ทั้งกลุ่มการเมืองแดง-น้ำเงิน, หัวคะแนนคนสำคัญในพื้นที่นี้ของธีระ
ไตรสรณกุลส.ส.พรรคเพื่อไทย , ฝ่ายปกครองยุคผู้ว่าฯ
เด็กเนวิน
ชิดชอบครองเมืองและกลุ่มพ่อค้านายทุน-อำนาจสีเขียวชายแดนเขมรที่หยั่งรากลึกทำมาหากินทั้งค้าขายในทางเปิดเผยและค้าของเถื่อนสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนไทย-เขมรแถบนี้มาช้านาน
พ่อค้าระดับหัวขบวนทำมาหากินอยู่บนอุทยานแห่งชาติที่จะสูญเสียผลประโยชน์อย่างมากจากที่อุทยานฯ
ต้องปิดยาวซึ่งทางการเคยจัดระเบียบขึ้นทะเบียนไว้พ่อค้ากลุ่มนี้มีประมาณ 70 ร้าน กำลังหลักล้วนเป็นกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าอุทยานฯ
เขาพระวิหารและเครือญาติที่เดือดดาลเพราะสูญเสียประโยชน์ส่วนตัวจากการปิดอุทยานฯ
โดยไม่สนใจใยดีว่าประเทศชาติแผ่นดินไทยจะเป็นอย่างไรเข้าทำหน้าที่เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่และฝ่ายตรงข้ามพร้อมป้ายผ้าข้อความขนาดใหญ่ปักหลักต่อต้านแถมมีร้องเสียงตะโกน
“ทักษิณสู้ๆ อภิสิทธิ์ออกไป” โผล่มาเป็นระยะๆ ด้วย
ขณะเดียวกันได้มีกองกำลังชายฉกรรจ์ กลุ่มวัยรุ่น คอยบุกทะลวง
นำอาวุธมีดสปาต้า ท่อนไม้ เข้าไล่ทุบตี ขว้างปาไม้ ก้อนหิน ประสานกับการระดมยิงของ
กองทัพหนังสติ๊ก กว่า 30 คนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นหน่วยจรยุทธ์เข้าซุ่มตามจุดต่างๆ
ยิงถล่มเข้าใส่
ทำร้ายทำลายกลุ่มประชาชนผู้รักชาติหวงแหนแผ่นดินไทยและรถยนต์ที่ติดตามขบวนหยาวเหยียดหลายกิโลเมตรอย่างบ้าคลั่งและมันมือ
การปฏิบัติการเยี่ยงสงครามเช่นนี้ชาวบ้านทั่วไปทำได้อย่างไร
ต้องถามตำรวจเสื้อแดงท้องที่
อ.กันทรลักษ์และตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษที่ยังคงถวายหัวรับใช้ระบอบทักษิณอย่างคงเส้นคงวา
ด้านฝ่ายเสบียงพบว่ามีการระดมกลุ่มแม่บ้านมาช่วยกันทำอาหารจัดเลี้ยงชาวบ้านผู้มาชุมนุมอย่างต่อเนื่องแบบไม่อั้น
ไม่ต่างกับงานบุญกฐินตามต่างจังหวัดที่ทุกคนต้องอิ่มแปล้และเมาขาลากไปตาม ๆ
กัน ฝ่ายปกครองโดยระพี
ผ่องบุพกิจผู้ว่าฯศรีสะเกษที่ได้เรียกประชุมส่งสัญญาณให้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยมาก่อนหน้านั้น ระหว่างนั้นได้มีป้ายต่างขนาดใหญ่ที่กลุ่มม็อบเถื่อนภูมิซรอลนำมาใช้นำมาติดตั้งปลุกระดมโหมกระแสต่อต้านตามข้างถนนชาวไร่ทำนาทั่วไปคงเสกสรรขึ้นมาเองไม่ได้แน่
กำนันตำบลสาธงชัยที่กินดีหมีมาสามารถตะเพิดไล่ผู้ว่าฯลงจากรถปราศรัยและยันยืนไม่ยอมเจรจาด้วยในระหว่างที่ปลัดอำเภอกันทรลักษ์เข้าไปนั่งกินข้าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ผู้ว่าฯ ระพีเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจว่าแค่ละครตบตาหรือไม่ ยิ่งการระดมชาวบ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ธีระ ไตรสรณกุล
ส.ส.เพื่อแม้วหัวโจก"ม็อบ"ตัวเอ้ของจริงถึงขั้นขนคนในสังกัดทั้งนักการเมืองท้องถิ่น
ข้าราชการ และชาวบ้านเข้าร่วมบายศรีสู่ขวัญม็อบเถื่อนด้วยตัวเอง ไม่เว้นข้าราชการจากหลายอำเภอมาร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้ม็อบเถื่อนภูมิซรอลภายในวัดบ้านภูมิซรอลเมื่อ
21 ก.ย.
ได้ยกก้นกันเองว่าเป็นวีรบุรุษชายแดนอันเป็นปรากฏการณ์หางโผล่ที่ตอกย้ำขบวนการร่วมกฐินเฉพาะกิจ
"ต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง วุ่นวาย การสู้รบ
และผลประโยชน์ชายแดนไทย-เขมร แถบนี้ซับซ้อน อ่อนไหว และเป็นปัญหาทับถมกันหลายด้าน
ยากที่คนข้างนอกจะเข้าใจ เข้าถึงได้ลึกซึ้ง... คุณไม่รู้หรอกว่า
แค่ภูมิซรอลหมู่บ้านชายแดนเล็กๆแห่งนี้
พอค่ำมืดชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็พากันเข้าไปในป่า ตอนเช้าก็มีของขาย ไม่รู้เป็นของอะไร
แต่ร่ำรวย มีรถยนต์ รถบรรทุกหลายคัน ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ตื่นเช้าไปไร่ นา
ดิ้นรนทำกินกันไป" ปราชญ์ชาวบ้านภูมิซรอลคนหนึ่งบอกเล่าไว้ ชาวบ้านพื้นเพดั้งเดิมที่บ้านภูมิซรอล ม.2 ต.เสาธงชัย
อ.กันทรลักษณ์นี้เกือบทั้งหมดมีอาชีพทำไร่
ทำนาซึ่งชาวบ้านเหล่านี้ไม่ได้เดือดร้อนกับการชุมนุมทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตารางกิโลเมตร) แต่อย่างใด
แต่กลับเห็นด้วยอย่างยิ่งและหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวงแหนผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วแม้แต่ปราสาทพระวิหารเอง ทุกวันนี้พวกเขายังคงยืนหยัดความเป็นเจ้าของไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ก็เพราะสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยกับการคงอยู่ของภาวะสงครามชายแดนที่ควบคุมพื้นที่เบ็ดเสร็จโดยทหารได้กลายเป็นโอกาสทองของการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของนายทุนและกลุ่มอำนาจสีเขียวชายแดนเพื่อนบ้านแห่งนี้ โดยเฉพาะสมคบกันลักลอบตัดไม้-ค้าไม้พะยูงเถื่อนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากตามป่าชายแดนไทย-เขมรตลอดแนวเทือกเขาพนมรักไล่ตั้งแต่เขต
จ.สุรินทร์-ศรีสะเกษ ไปจนถึงอ.น้ำยืน
จ.อุบลราชธานีส่งขายให้นายทุนไทยผ่านไปยังตลาดต่างประเทศอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
อย่าลืมว่าบ้านภูมิซรอลมีคนต่างถิ่นเข้ามาปักหลักสร้างฐานอยู่เป็นจำนวนมากจากทั้งใน
จ.ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานีซึ่งในกลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายกับฝ่ายเขมรหลายคนมีเมียเป็นชาวเขมร
บางคนมีสามีชาวเขมรสร้างสายสัมพันธ์กันแนบแน่นร้อยโยงกับนายทุนชายแดนรายใหญ่และกลุ่มอำนาจสีเขียวเพื่อนบ้านกอบโกยผลประโยชน์ร่วมกันมานานและนับวันจะขยายเครือข่ายเป็นขบวนการใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ คนใกล้ชิดผู้นำเขมรฮุนโตกับญาติคนสนิทของผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่
4 เขมรที่คุมกำลังตลอดแนวชายแดนด้านนี้เป็นเจ้ามือรายใหญ่รับซื้อและสั่งการลักลอบตัด
ทหารเขมรเองก็เอาเวลาส่วนใหญ่แต่งตัวเป็นพลเรือน พกอาวุธ นำเลื่อยยนต์
ออกหาตัดไม้ในพื้นที่ป่าตามแนวเทือกเขาพนมดงรักทั้งในฝั่งเขมรและเขตแดนไทยโดยไม่เกรงกลัวจะถูกจับหรือถูกยิงเช่นเดียวกับชายแดนเทือกเขาพนมดงรักด้านตรงข้ามปราสาทตาเมือนธมที่ทหารไทยก็ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ตัดต้นไม้ดังกระหึ่มอยู่ห่างตัวปราสาทออกไปราว
1-2 กิโลเมตรแทบทุกวัน
แม้จะมีบาดแผลเล็กๆ
ในประวัติศาสตร์แต่นั่นเป็นเรื่องของอดีตที่ไม่หยิบยกมาให้หมางใจกัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น 2 -3 ปีมานี้คือปัญหาเรื่องที่ดิน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบประสาทพระวิหารซึ่งเขมรส่งคนและทหารของเขาเข้ามายึดครองและกำลังตัดถนนและสร้างถาวรวัตถุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาทวงสิทธิ์ผืนดิน
4.6 ตารางกิโลเมตรดังกล่าวและขับไล่เขมรออกไปจากแผ่นดินไทยตั้งแต่ยุครัฐบาลสมัคร
สุนทรราช
แต่รัฐบาลยุคนั้นก็ยืนยันว่าไทยยังไม่เสียดินแดนและเมื่อพันธมิตรฯ เดินทางไปเพื่อพิสูจน์ความจริง
กลับมีการจัดตั้งชาวบ้านออกมาขัดขวางมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อก.ค. 51
คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ในตอนที่ยังเป็นพรรคฝ่ายค้านก็มีจุดยืนเช่นเดียวกับพันธมิตรฯ เขมรออกมายอมรับเองว่า
ฝ่ายไทยที่หมายถึงยุคสมัยของรัฐบาลทักษิณเป็นฝ่ายที่พยายามโยงกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาพระวิหารเข้ากับผลประโยชน์ทางทะเลในอ่าวไทยระหว่างการเจรจากับฝ่ายเขมรซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่า
คำพูดของพันธมิตรฯ
บนเวทีในระหว่างการชุมนุมนั้นไม่ใช่เรื่องที่เลื่อนลอยหรือกล่าวหารัฐบาลทักษิณ และเมื่อพ้นจากยุครัฐบาลนอมินีของทักษิณแล้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังไม่นิ่งนอนใจที่จะติดตามเรื่องนี้เครือข่ายของคุณวีระ
สมความคิดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้
แต่กลายเป็นว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและกษิต
ภิรมย์กลับมีท่าทีและจุดยืนที่เปลี่ยนไปเฉกเช่นเดียวกับรัฐบาลพลังประชาชนที่ตัวเองเคยวิพากษ์วิจารณ์มาก่อนทั้งในเรื่องนี้และต่อพันธมิตรฯ การณ์กลายเป็นว่าพันธมิตรฯ
กลับถูกรัฐบาลประชาธิปัตย์ตอบโต้ยิ่งกว่ารัฐบาลนอมินีทักษิณ รัฐบาลอภิสิทธิ์และคุณกษิตก็ยังยืนยันว่าไทยเรายังไม่ได้เสียดินแดน
4.6 ตารางกิโลเมตรให้เขมรทั้งๆที่ตอนที่คุณกษิตพร้อมทีมงานเข้าไปดูพื้นที่
4.6
ตารางกิโลเมตรคุณกษิตต้องขออนุญาตทหารเขมรเข้าไป การเดินทางไปเพื่อประกาศสัจจวาจาว่าดินแดนดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยไม่ใช่พื้นที่ของเขมรของคุณวีระและเครือข่ายมวลชนพันธมิตรฯ
กลับต้องเผชิญกับกองกำลังที่จัดตั้งขึ้นมา
พวกเขาไม่คิดว่าการจัดตั้งคนไทยไล่ตีกันเองนั้นจะทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างไรเพียงเพื่อจะกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ
เข้าไปก่อเหตุความรุนแรงไล่ทุบตีชาวบ้าน
ด้วยสำนึกของความเป็นไทยคนไทยด้วยกันควรจะสนับสนุนพันธมิตรฯหรือยกพวกมาไล่ตีพันธมิตรฯ กองกำลังเถื่อนดังกล่าวมีอาวุธปืนมีดไม้
หนังสติ๊ก ระเบิดปิงปองครบมือจะไม่มีวันกล้ากระทำการดังกล่าวเลย
ถ้าไม่มีอำนาจรัฐหนุนหลังและแสดงความป่าเถื่อนต่อหน้านายอำเภอ นายตำรวจ
นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดและสื่อมวลชนจากส่วนกลางจำนวนมาก นอกจากปรากฏหลักฐานด้วยภาพแล้วสื่อมวลชนในพื้นที่ก็รู้ว่ากองกำลังเถื่อนนั้นมาจากไหนแต่ปัญหาก็คือว่ามีสื่อส่วนหนึ่งที่พยายามบิดเบือนให้เห็นว่าถ้าพันธมิตรฯไม่เดินทางไปก็ไม่เกิดความรุนแรงขึ้นที่นั่น ผู้รายงานข่าวหญิงคนหนึ่งของช่อง 11ได้รายงานจากพื้นที่ว่าพันธมิตรฯพยายามบุกเข้าไปทำร้ายชาวบ้านในวัด
ส่วนฝ่ายชาวบ้านขว้างปาขวดน้ำเข้าใส่ทั้งๆที่ภาพข่าวมันขัดแย้งกับที่ตัวเองกำลังรายงาน สรกล
อดุลยานนท์เจ้าของนามปากกาหนุ่มเมืองจันท์ผู้เขียนหนังสือเรื่องทักษิณชินวัตรอัศวินคลื่นลูกที่สามใช้อีกนามปากกาวิหคเหินฟ้าสำรอกว่า
“ชาวบ้านภูมิซรอลก็เหมือนกับชาวบ้าน “ชุมชนนางเลิ้ง” ที่ออกมาปกป้องตัวเองจาก
“ม็อบเสื้อแดง”
เมื่อเหตุการณ์
“สงกรานต์เลือด”
อย่าลืมว่า
“ม็อบเสื้อเหลือง” ไปแล้วก็กลับ แต่คนที่อยู่กับ “ปัญหา” ทุกวัน คือชาวบ้านที่ภูมิซรอล”." เด็กอนุบาลยังสามารถแยกแยะได้ว่าระหว่างอำนาจรัฐจัดตั้งกองกำลังเถื่อนขึ้นมาเพื่อซุ่มทำร้ายกับคนที่เดินทางไปด้วยจิตสำนึกที่รักชาติและป้องกันตัวเองจากการถูกกระทำฝ่ายเดียวใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด แล้วสื่อมวลชนกลุ่มนี้จะสามารถหรือไม่
24 ก.ย. 52
ปรากฏความเคลื่อนไหวบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร
อ.กันทรลักษ์
จ.ศรีสะเกษมีทหารเขมรตรึงกำลังอยู่จำนวนมากและล้วนเป็นทหารเคยสังกัดกองกำลังทหารเขมรแดงโดยมีทหารไทยเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิด วีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย
อ.กันทรลักษ์กล่าวว่าเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มชาวบ้านในเขตต.เสาธงชัยที่บ้านภูมิซรอลทำให้บรรยากาศบริเวณบ้านภูมิซรอลและการค้าขายค่อนข้างเงียบเหงาซบเซาลงกว่าเดิม
การจะฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวบริเวณนี้จะต้องเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้ นายสมาน
ศรีงามแกนนำกลุ่มธรรมยาตราทวงคืนแผ่นดินไทยบริเวณเขาพระวิหารหนึ่งใน 3 ชาวไทยที่สมัคร
สุนทรราชที่กำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเคยเรียกว่าไอ้บ้าสามคนกล่าวว่าจะประชุมแกนนำเพื่อระดมความคิดเห็นเคลื่อนไหวทวงคืนแผ่นดินไทยบริเวณเขาพระวิหารในวันที่
27 กันยายน เวลา 09.00 น.
ที่โรงแรมเกษสิริและจะหาแนวทางสันติวิธีในการขับเคลื่อนไม่ใช้วิธีการรุนแรงเหมือนเหตุการณ์ที่บ้านภูมิซรอลอเมื่อวันที่
19
กันยายนที่ผ่านมาอย่างเด็ดขาด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บคอนเฟอเรนซ์
กรณีกลุ่มเสื้อแดงกล่าวหาว่าระยะเวลา 9
เดือนที่ผ่านมารัฐบาลปล่อยให้เขมรสร้งถนนเข้ามา 2
เส้นโดยอ้างมีหนังสือเตือนจากกองทัพ 9 ครั้ง
แต่รัฐบาลไม่ทำอะไรว่าขอให้ไว้วางใจไม่น่าจะมีปัญหา
อย่างไรก็ตามตัวถนนนั้นก่อสร้างกันมาตั้งแต่ก่อนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งและมีการรายงานจากพื้นที่ขึ้นมา
จากนั้นก็มีการประท้วงจนถึงขณะนี้ก็มีการนำไปสู่กรอบของการจรจาซึ่งรัฐบาลกำลังเสนอต่อสภาในเรื่องที่จะให้ทุกฝ่ายออกจากพื้นที่ สุเทพ เทือกกล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงว่า
การสร้างถนนในพื้นที่พิพาทเกิดขึ้นนานแล้ว
มีถนนก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาบริหารอีก ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงออกมาโจมตีเรื่องนี้ก็ระวังจะเข้าเนื้อตัวเองเพราะพวกเสื้อแดงเคยเป็นรัฐบาลก่อน "พอเราเข้ามาเป็นรัฐบาล
เขาได้ปรับปรุงถนนบางส่วน เช่นมีการเทซีเมนต์ในพื้นที่ลาดชัน
ซึ่งรัฐบาลไทยได้ประท้วงไปแล้วเพราะไม่ถือว่าเป็นถนนของเขมร
ทหารไทยก็อยู่บนถนนนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะมาแสดงความเป็นเจ้าของได้เพราะพื้นที่ตรงนั้นยังเป็นพื้นที่ที่ต้องแก้ไขปัญหาโดยคณะกรรมการปักปันเขตแดนต้องพิสูจน์ว่าส่วนไหนเป็นของใคร" ต่อกรณีที่สื่อมวลชนเขมรรายงานว่าบริษัทเอกชนสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเขมรเริ่มเข้าไปขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
4.6
ตารางกิโลเมตรแล้วว่าเป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้วและยังต้องเกิดอีกเพราะทั้งไทยและเขมรต่างอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตนซึ่งฝ่ายไทยก็ให้สัมปทานบริษัทเอกชนไปหลายบริษัท
ขณะนี้จึงไม่มีบริษัทไหนได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวทางที่ดีคือไทยกับเขมรควรมานั่งปรึกษากันใหม่
พัฒนาพื้นที่ร่วมกันและใช้ประโยชน์ร่วมกัน
สุเทพได้เปิดเผยออกมาเองว่าฝ่ายไทยได้มีการอนุมัติให้บริษัทต่างชาติเข้าไปสำรวจหาพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยหลายบริษัทเช่นเดียวกับทางฝั่งเขมรที่ได้อนุมัติในลักษณะเดียวกันและอ้างว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว
คุณวีระ
สมความคิดแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสาทิตย์
วงศ์หนองเตยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะขอให้นายกษิต ภิรมย์รมว.ต่างประเทศชี้แจงกรณีเขาพระวิหารผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์พร้อมกับคุณวีระว่าให้พูดคุยต่อหน้าคนทั้งประเทศได้เลยตนจะให้นายกษิตได้ถามและตนจะตอบจะได้ไม่ต้องมีอะไรปกปิดกันอีกต่อไป
ถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยืดยื้อนั้นเกิดจากทหารเข้าไปมีส่วนผลประโยชน์ในการค้าบริเวณเขาพระวิหารใช่หรือไม่
คุณวีระกล่าวว่ามีผลประโยชน์โดยเริ่มจากคนในพื้นที่ก่อนจากทหารที่เข้าไปดูแลจากข้าราชการร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นนักการเมืองในจังหวัดศรีสะเกษออกมายังนโยบายระดับชาติ
ฮุนเซนนายกฯเขมรเห็นว่านักการเมืองและข้าราชการไทยตะกละตระกลามจึงให้ประโยชน์แลกเปลี่ยนพวกนี้จึงต้องปกป้องปกปิดให้เขมรมาตลอดเวลาจนกลายเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขแล้ว
ส่วนนักการเมืองที่เกี่ยวข้องมีทั้งนักการเมืองทั้งก่อนหน้าและหลังรัฐบาลของทักษิณ
ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี
ตนไม่ต้องการให้มองเพียงแค่นพดล ปัสสาวะอดีตรมว.ต่างประเทศในรัฐบาลนายสมัคร
สุนทรราชเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากปัญหาเพียงเล็กๆเช่นทหารยศพันเอกเท่านั้น
ต่อมาก็มากขึ้นและเมื่อเจ้านายบอกให้พันเอกคนนี้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเรื่องจึงไปกันใหญ่ เมื่อถามว่ามีการติดต่อกับทางแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่ตลอดใช่หรือไม่ คุณวีระกล่าวว่าตนติดต่อกับทางแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่ตลอดแต่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะให้นายปานเทพ
พัวพงษ์พันธ์ผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นคนกลางติดต่อกับตนอยู่ตลอดเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลต่างๆ
ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร่วมด้วยมาโดยตลอดแต่ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเห็นว่าตนเป็นคนจับเรื่องเขาพระวิหารมาตั้งแต่ต้นจึงให้เครดิตให้รับผิดชอบและเชื่อว่าตนสามารถรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวได้เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ใช้ชื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเนื่องจากตนร่วมกับหลายภาคี
เครือข่าย มีทั้งกลุ่ม
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและภาคีผู้ติดตามสถานการณ์เขาพระวิหารและเครือข่ายประชาชนรักชาติเมื่อปี
2551
จึงใช้ว่าภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์การเสียดินแดนรอบประสาทพระวิหารไม่ใช่เฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อถามว่าสุเทพ
เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงออกมาบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลาแก้ไม่ใช่
1-2 ปีแต่เป็น 10 ปี คุณวีระกล่าวว่าไม่ต้องใช้เวลา
สุเทพห่วงแต่ผลประโยชน์และของพรรคร่วมรัฐบาลคือกลัวเก้าอี้จะหลุด
25 ก.ย. 52 สุเทพ
เทือกออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการให้สัมปทานขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-เขมรว่าเรื่องนี้ไม่มีใครทำอะไรได้
หากยังไม่มีการเจรจาร่วมกันเพราะต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ดังนั้นหากยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าพื้นที่เป็นของใครตนได้เสนอไปแล้วว่าให้ร่วมทุนในการพัฒนาร่วมกันและแบ่งผลประโยชน์กัน
เมื่อถามว่าเตรียมวางแผนที่จะพูดคุยกับฮุนเซนแล้วหรือยัง สุเทพ
เทือกกล่าวว่า
ยังไม่ได้คิดเพราะมีเรื่องอื่นที่จะต้องแก้ไขก่อนและหากนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมาเห็นว่าควรต้องดำเนินการตนก็จะรีบไปทำ
26 ก.ย. 52 น.ส.อาภารัตน์
ชาติชุติกำจรแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ตได้รับจดหมายไม่ระบุชื่อผู้ส่งและที่มา
1
ฉบับเป็นจดหมายที่ผู้ส่งใช้วิธีการพิมพ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
เนื้อหาภายในทั้งหมดเป็นการกล่าวถ้อยคำข่มขู่โจมตีการทำงานและเคลื่อนไหวทางการเมืองในส่วนของพรรคการเมืองใหม่และภาคประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ตด้วยถ้อยคำหยาบคาย
รุนแรง ข่มขู่ตนเอง และนายกฤช เทพบำรุง ทั้ง ๆ
ที่สาเหตุที่นายกฤชออกมาให้ข่าวก็เพียงเพื่อให้สังคมและสาธารณะรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้นว่ากลุ่มพี่น้องพันธมิตรฯ
จากทั่วประเทศที่เดินทางขึ้นไปที่จ.ศรีสะเกษถูกกระทำอย่างไรบ้าง และตนยังได้รับศัพท์หมายเลข 087-4662897
ซึ่งโทรเข้ามาหลังจากที่ตนออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเมื่อ
20 ก.ย.ที่ผ่านมาบุคคลดังกล่าว
ด่าทอ และข่มขู่ตนเองด้วยถ้อยคำลักษณะเนื้อหาคล้ายกับข้อความในจดหมายที่ได้รับ
28 ก.ย. 52
ในการประชุมวุฒิสภาช่วงเปิดให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระและได้มีการหารือว่ากรณีเหตุการณ์ปราสาทพระวิหารเมื่อ
2 สัปดาห์ที่แล้วที่มีคนไทย 2 กลุ่มกระทบกระทั่งกันเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ทำให้คนไทยแตกแยกกันแต่เท่าที่ผ่านมา
1 ปี รัฐบาลก็นิ่งเฉย
ในส.ว.ก็ไม่มีใครรู้เรื่องจริงเรื่องนี้คนไทยต้องร่วมแก้ปัญหาแต่รัฐบาลปล่อยปละละเลย
วันนี้ฝ่ายรัฐต้องอธิบายความให้ประชาชนเข้าใจชัดเจนว่าปัญหาคืออะไรและประชาสัมพันธ์ในวงกว้างถึงวิธีแก้ไข
ไม่ต้องอ้างความมั่นคง
ไม่เช่นนั้นกรณีนี้จะถูกนำไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองอยู่ตลอด
แกนกำกลุ่มธรรมยาตรานำ 3 คนไทยพระคำพอง ชยธัมโม นายวิชาญ ทับซ้อนและนางชนิกานต์ เก่งนอกที่เคยถูกทหาร-ตร.เขมรจับตัวไปจากบริเวณเขาพระวิหารเมื่อ
15
ก.ค.ปีที่แล้วโดยนับตั้งแต่วันที่แจ้งความจนถึงวันนี้เวลาได้ผ่านไปกว่า 1 ปีแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ในคดีนี้เลยได้มาแจ้งความร้องทุกข์จึงได้เข้าแจ้งจับ 3 นายตำรวจสภ.บึงมะลู -
สภ.กันทรลักษ์ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ดำเนินคดีตามกฏหมายแล้วพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้แจ้งทั้ง
3 รายไว้ และจะได้ส่งเรื่องทั้งหมดไปให้สภ.บึงมะลู
ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการต่อไป
ป.ป.ช.เตรียมพิจารณามติครม.สมัครออกแถลงการณ์ร่วมเขาพระวิหารหลังจากที่คณะกรรมการจะต้องพิจารณาในแต่ละบุคคลที่ถูกกล่าวหาซึ่งขณะนี้เหลืออีก
32 คน ชัดเจนว่าจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมอย่างแน่นอนแต่จะเสร็จสมบูรณ์เพียงใดก็แล้วแต่ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีอุปสรรคใดๆ
ฮุน
เซนได้มีคำสั่งในระหว่างเปิดอาคารใหม่ของกระทรวงการท่องเที่ยวหลังจากที่ภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหารได้รวมตัวชุมนุมกันเรียกร้องสิทธิเหนือพื้นที่พิพาทให้ทหารเขมรยิงพลเรือนหรือทหารไทยได้หากบุกรุกเข้ามายังบริเวณพื้นที่พิพาทของเขมรพร้อมขู่จะยกกรณีพิพาทนี้เข้าสู่ที่ประชุมอาเซียนรวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น)หากเขมรถูกไทยรุกราน
"หากพวกเขาเข้ามาอีก พวกเขาจะถูกยิง นี่เป็นคำกล่าวอ้างเพียงฝ่ายเดียวเพราะความปรารถนาที่จะครอบครองพื้นที่ดินแดนเขมร ถ้านายกฯ ของไทยเอาแผนที่มากางต่อหน้า
ผมก็จะฉีกมัน" ฮุน เซนกล่าว พื้นที่ 4.6
ตารางกิโลเมตรของไทยที่ฮุนเซนพูดได้อย่างเต็มปากว่าพื้นที่พิพาทของเขมร
หากความขัดแย้งเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารระหว่างสองประเทศยังคงอยู่ฮุน
เซนอาจมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเขมรเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนแทน ฮุน
เซนกล่าวด้วยว่าจะไม่เจรจากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรใกล้กับปราสาทพระวิหารตราบที่ฝ่ายไทยยังคงใช้แผนที่ที่ฝ่ายไทยเขียนขึ้นเองพร้อมกันนี้ยังกล่าวด้วยว่าความขัดแย้งตามแนวชายแดนเขมร-ไทยมาจากปัญหาการเมืองภายในของไทยเอง
29 ก.ย. 52
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประมาณ 500 คนนำโดยคุณวีระ สมความคิดรวมตัวกันที่หน้าตึกอำนวยการค่ายริมขอบฟ้าเมืองโบราณ
ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการเพื่อประกาศเจตนารมณ์ที่จะปกป้องเขาพระวิหาร
ต่อมาเวลา 15.00
น.ได้เคลื่อนขบวนออกจากค่ายขึ้นไปยังบนเขาพระวิหารจำลองและชักธงชาติไทยขึ้นสู่ปลายเสาอ่านคำแถลงการณ์ภาคีเครือข่ายประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินประกาศจุดยืนที่จะดำเนินการในทุกวิธีทางทีถูกต้องตามกรอบข้อกฎหมายในการที่จะนำเข้าพระวิหารกลับคืนมาพร้อมกับจะนำตัวผู้กระทำความผิดโดยการทำงานโดยมิชอบทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนให้กับเขมรมาดำเนินคดี
จากนั้นได้ทยอยเดินทางลงจากเขาพระวิหารจำลองเพื่อเข้าประชุมเสวนาความจริงความขัดแย้งกรณีเข้าพระวิหารที่มีรศ.ศรีศักร
วัลลิโภดมและคุณวีระ สมความคิดเป็นวิทยากรอันมีการประชุมที่เป็นไปด้วยความสงบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีเขมรประกาศจะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ด้านผบ.ทบ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาระบุทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-เขมรบริเวณปราสาทพระวิหารยังคงตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่และยังคงรักษาความสัมพันธ์ของทหารในพื้นที่ไว้โดยยึดหลักเจรจาตามนโยบายของรัฐบาลหากมีการรุกล้ำด้วยกองกำลังใดๆ
คงจะปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้แล้วและจะดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน นายปณิธาน วัฒนายากร
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีย้ำว่าประเทศไทยยังจะยึดหลักตามข้อตกลงเดิม
ว่าจะไม่มีการใช้กำลัง ซึ่งปัจจุบันนี้มีการลาดตระเวนร่วมกันอยู่
และจากการพบปะกันแต่ละครั้งที่ผ่านมาก็เป็นการพบปะกันในบรรยากาศที่ดี
ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งก็หวังว่าทางเขมรจะยึดแนวทางสันติวิธีเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามนายปณิธานกล่าวว่านายกรัฐมนตรีทราบรายงานข่าวดังกล่าวนั้นตั้งแต่คืนที่ผ่านมาแล้วเช่นกัน แม่ทัพภาคที่ 2
กล่าวว่าทราบท่าทีของเขมรแล้ว หากทางฝั่งเขมรติดอาวุธเข้ามาก็พร้อมตอบโต้
และสถานการณ์เช่นนี้อาจนำไปสู่ความตึงเครียด
แม้ว่าแนวทางที่ปฏิบัติอยู่จะพยายามเจรจาเพื่อลดความตึงเครียด
โดยมีการเจรจาตามจุดที่มีการตรึงกำลัง
เนื่องจากระดับปฏิบัติการของทั้งสองประเทศก็มีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่องเงื่อนไขการปฏิบัติที่แตกต่างกันของทั้งสองประเทศ
เป็นสาเหตุให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะการตัดสินใจในระดับนโยบาย สุเทพ เทือกขอตรวจสอบการให้ข่าวของฮุน
เซนว่าเป็นความจริงหรือไม่และได้ให้กองทัพภาคที่ 2
ดูแลความเรียบร้อยโดยรัฐบาลมีจุดยืนที่จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเมตรเดียว
ป.ป.ช.แถลงมติชี้มูลความผิดคดีกล่าวหาครม.สมัคร สุนทรราชปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ขอให้ดำเนินคดีอาญากับครม.สมัครรวมผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 44 คนขณะที่มีรัฐมนตรีที่ไม่เข้าประชุมและลาประชุม
บางคนที่ได้ลาออกพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว บางคนเพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ
และอยู่ระหว่างรอเข้างาน
จึงเห็นว่าให้คำร้องตกไปและพิจารณาข้อกล่าวหาบุคคลที่เหลือในความผิดทางอาญา
ป.ป.ช.เห็นว่าข้าราชการไม่มีมูลความผิดให้คำร้องตกไป
ประเด็นที่คณะกรรมการป.ป.ช.เสียงข้างมากเห็นว่ามีความผิดนั้นพิจารณาร่วมกับการที่ศาลปกครองเพิกถอนแถลงการณ์ร่วมและกำหนดมาตรการคุ้มครองชั้วคราว
ในคำสั่งดังกล่าวตามคำร้องของนายสุวัตร อภัยภักดิ์และศาลรัฐธรรมนูญที่ 6-7/2551 เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2551 ซึ่งได้วินิจฉัยชี้ขาดคำแถลงร่วมไทย-เขมรว่าเป็นหนังสือที่ต้องได้รับคำเห็นชอบจากรัฐสภาหรือไม่โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้ว่าเป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและแม้แถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นไม่ปรากฏสาระสำคัญชัดเจนว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตก็ตามแต่เมื่อพิจารณาเอกสารรวมถึงแผนที่แนบท้ายที่จัดทำโดยเขมรเพียงฝ่ายเดียวจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแผนที่ดังกล่าวได้อ้างถึงพื้นที่เอ็น
1 เอ็น 2 และเอ็น 3 โดยไม่กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนว่าครอบคลุมพื้นที่เท่าใดซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อผลกระทบในอาณาเขตของประเทศไทยอันเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและอาจทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศในภายภาคหน้าได้ ศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยในคดีหมายเลขดำที่ 984/2551 วันที่ 27 มิ.ย.2551 ว่าแผนที่แนบท้ายที่เขมรจัดทำขึ้นมีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารอย่างชัดเจน
โดยระบุว่าเป็นพื้นที่เอ็น 1
ซึ่งอาจถือได้ว่าประเทศไทยยอมรับเขตแดนรอบพื้นที่ของปราสาทพระวิหารโดยปริยาย
ศาลปกครองกลางยังระบุว่า เครื่องหมายเอ็น 3
ให้มีการจัดเตรียมพื้นที่ดังกล่าวระหว่างรัฐบาลไทยกับเขมรสำหรับการอนุรักษ์
ศาลปกครองกลางเห็นว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจจะมีผลผูกพันประเทศไทยและอาจทำลายน้ำหนักอ้างอิงที่ประเทศไทยยึดถือสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนโดยตลอด
คดีจึงมีมูลว่าการกระทำดังกล่าวอาจจำทำให้มีความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน
รวมถึงผู้ฟ้องคดี ให้ได้รับความเสียหายอันเป็นความเสียหายที่ยากต่อการเยียวยาภายหลัง สรุปได้ว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมรสมัคร
สุนทรราชนายกรัฐมนตรีเป็นประธานซึ่งครม.ได้เห็นชอบตามที่นพดลเสนอมาและในวันที่ 18 มิ.ย.2551
นพดลได้ลงนามในร่างคำแถลงการณ์ดังกล่าวซึ่งดำเนินการลักษณะปิดบังอำพรางอย่างมีมูลเหตุจูงใจอื่นแอบแฝงอยู่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นมี 2 อย่าง 1.ความเสียหายต่อประเทศไทยอาจมีบทเปลี่ยนแปลงโดยคำแถลงการณ์ร่วมที่นพดลลงนามและ
2.ความเสียหายต่อความมั่นคงประเทศที่ถูกกระทบอย่างกว้างขวางโดยแถลงการณ์ร่วมนี้ หลังศาลรัฐธรรมนูญตีความความมุ่งหมายของมาตรา 190
โดยให้รวมถึงหนังสือสัญญา“ที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขต”ของประเทศ
นพดลกระทำไปโดยรู้อยู่แล้วเป็นอย่างดีในความเสียหายดังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึงถือว่าในการปฏิบัติหน้าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจึงผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 157
และหัวหน้ารัฐบาลต้องทราบดีถึงความอ่อนไหวของประเด็นซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะสุ่มเสี่ยงต่อผลกระทบในเรื่องอาณาเขตและวิกฤตการณ์ทางสังคมแต่ยังเป็นฝ่ายขอดำเนินการเพื่อช่วยเหลือฮุน
เซ็นให้นำผลประโยชน์ของประเทศชาติมาใช้เป็นเครื่องมือ จากสถานะของสมัครหัวหน้ารัฐบาลที่ได้รับความไว้พระราชหฤทัยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนับว่าเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่จะมีนักการเมืองไทยคนใดจะมีความคิดเช่นนี้
สมัครจึงมีเจตนาร่วมกระทำผิดร่วมกับนพดลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270
ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆได้ถูกนำมาแจ้งต่อที่ประชุมครม.ในเวลาอันสั้นจึงไม่น่าจะรู้ถึงข้อเท็จจริง
ผู้ถูกกล่าวหาเหล่านี้จึงไม่มีเจตนากระทำความผิดร่วม ทั้งหมดนี้จะจบลงด้วยการดำเนินคดีอาญา
หลังจากการชี้มูลนพดล ปัสสาวะก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์มีแค่เลขานุการเท่านั้น
ที่ออกมาเปิดเผยว่าจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 30 ก.ย. ส่วนทางด้าน สมัคร
สุนทรราชป่วยเป็นโรคมะเร็งอย่างหนักอาการไม่ค่อยดีนักกำลังถูกย้ายจากห้องผู้ป่วยเข้าห้องไอซียู
นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีเห็นว่าที่ฮุนเซนให้สัมภาษณ์เป็นวิธีการพูดให้เป็นข่าว
ยืนยันอย่างเดียวว่าจุดยืนเดียวของไทยคือรักษาดินแดน สิทธิ อธิปไตยของเราและต้องการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีและจะไม่ให้เสียเปรียบในด้านการดำเนินการและกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งๆที่เวลานี้เขมรเปิดฉากชัดเจนแล้วว่า
ไทยเป็นศัตรูแต่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะยังดีแต่พูดว่าไทยยังไม่เสียดินแดน ฮุนเซนคงมองว่าขณะนี้ทางการไทยกลัวสงครามรัฐบาลถึงแสดงท่าทีใช้วิธีการเจรจามากกว่าใช้กำลังทหารซึ่งบุคคลสำคัญระดับประเทศของไทย
ยืนยันว่าหลักการเจรจาเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างสันติทำให้เรื่องราวทุกอย่างจบลงด้วยดี ในเมื่อทางเขมรแสดงท่าทีเช่นนี้แล้วรัฐบาลไทยถึงยังมองว่าการเจรจาเป็นวิธีแก้ปัญหาอยู่อีกหรือห่วงผลประโยชน์นักการเมืองหลายคนของไทยในเขมรจนไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศ
ฮุนเซน กล่าวชื่นชม พล.อ.พล สะเรือนที่ได้ “ฉีกแผนที่” ที่ฝ่ายไทยนำขึ้นวางบนโต๊ะเจรจาในระหว่างการประชุมเจรจาปัญหาชายแดนระหว่างสองฝ่ายที่ผ่านมาที่ไม่เคยมีการเปิดเผยมาก่อน ผู้นำเขมรยังกล่าวอีกว่าตนเองจะฉีกแผนที่ดังกล่าวเช่นกันถ้าหากนายอภิสิทธิ์นำขึ้นวางบนโต๊ะเจรจาในโอกาสข้างหน้า เพื่อบอกให้ฝ่ายไทยรู้ว่า ไม่ควรใช้แผนที่ที่
จัดทำขึ้นเองแต่ฝ่ายเดียวในการเจรจาและยังได้สั่งการมิให้คณะเขมรทุกคณะ
เจรจากับฝ่ายไทยต่อไปหากไทยยังใช้แผนที่ที่ไม่ได้รับการยอมรับและจะเจรจาบนหลักการและใช้แผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า
100 ปีก่อนเท่านั้น
ชายแดนไทย-เขมรด้านเขาพระวิหารจ.ศรีสะเกษตึงเครียดสมใจฮุนเซน
ทหารเขมรเสริมกำลังตลอดแนวรอบเขาพระวิหารนำปืนกลและอาวุธหนักขึ้นมาตั้งฐานและหันปากกระบอกปืนมายังฐานปฏิบัติการทหารไทยพร้อมเผชิญหน้าทหารไทยต่างฝ่ายเตรียมพร้อมเต็มที่ แฉทหารเขมรพร้อมอาวุธครบมือลอบรุกล้ำเขตแดนไทยด้านช่องโดนโปรอยต่อ
อ.ภูสิงห์-ขุนหาญ กลางดึก เกิดปะทะ 5
นาทีก่อนเผ่นหนีกลับไปคาดว่าเป็นกองกำลังที่เกี่ยวข้องกับขนส่งสินค้าของเถื่อนประเภทยาเสพติด
กรณีที่ฮุนเซนขู่จะยิงคนไทยที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหารว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในของเขมรซึ่งทางการไทยจะไม่ก้าวล่วงแต่ท่าทีเช่นนี้เป็นเรื่องปกติของประเทศเล็กกว่าที่มีปัญหากับประเทศใหญ่กว่าก็จะใช้พื้นที่สื่อให้เกิดประโยชน์ เขมรซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพน้อยกว่าไทยจึงใช้สื่อเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองนอกจากนี้ประเทศที่เล็กกว่าก็มักจะใช้โอกาสที่มีการประชุมนานาชาติบ่อยครั้งสร้างวาระขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่สนใจไม่ต่างกับที่อิหร่านทดลองยิงขีปนาวุธระหว่างการประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาตินายปณิธาน
วัฒนากรรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสรุป
ไทยซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่และมีศักยภาพมากกว่าก็ต้องยืนยันจะใช้หลักสันติวิธีและนำปัญหาข้อถกเถียงเข้าสู่การเจรจาคณะกรรมการชายแดนรวมถึงการเจรจาระดับผู้นำประเทศ ในการประชุมยูเอ็นที่ผ่านมานายบัน คี มูนเลขาธิการยูเอ็นก็ได้สอบถามถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรซึ่งนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงและชี้ให้เห็นว่าความขัดแย้งทั้งหลายเกิดขึ้นก่อนที่ยูเนสโกจะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
ดังนั้นไทยจะดำเนินการทุกทางเพื่อชะลอไม่ให้มรดกโลกมีผลเดินหน้าเพราะถ้าปล่อยให้มรดกโลกเดินหน้าจะเกิดปัญหาตามมามากมาย
รายการคนในข่าว(mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Newsmaker_290909.wmv)ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีนายเติมศักดิ์
จารุปราณดำเนินรายการมีคุณวีระ สมความคิดภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหารและร.ต.แซมดิน
เลิศบุศย์ผู้ประสานงานกองทัพธรรมมาร่วมพูดคุยถึงท่าทีของรัฐบาลไทยกับความแข็งกร้าวของเขมร คุณวีระมองท่าทีที่เข็งกร้าวของเขมรว่าเป็นอาการของคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันสลายหลังชาวไทยตื่นตัวรุกคืบทวงคืนเขาวิหารเพราะหากมีการผลักดันให้ชาวเขมรออกไป
โอกาสที่เขาจะนำปราสาทเขาพระวิหารไปจดทะเบียนคงเป็นไปไม่ได้ง่ายๆอีกแล้ว ฮุน
เซนจะถูกการเมืองภายในกดดันอย่างหนักและความลับทั้งหลายจะถูกเปิดเผยว่าคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือตัวฮุน
เซนเองไม่ใช่ชาวบ้านร้านช่องที่ไหน
กรณีที่ฮุนเซนประกาศว่า“พื้นที่ 4.6
ตร.กม.เป็นของเขาพร้อมให้ทหารสริมกำลังเต็มที่หากใครรุกล้ำเขาให้ยิงตอบโต้ทันที” ที่ส่อให้เห็นเจตนาว่าพูดจริง หากนายก สุเทพ
เทือกและนายกษิตบอกว่าไทยยังไม่เสียดินแดนและมั่นใจว่าฮุนเซนพูดขู่ไปอย่างนั้นเองก็อยากให้กอดคอกันเดินเข้าไปในพื้นที่
4.6 ตร.กม.แล้วดูว่าทหารเขมรจะยิงไหม ตามกฏบัตรสหประชาชาติ
ไม่มีข้อห้ามให้ประเทศไม่ให้ใช้กำลังในการป้องกันอธิปไตยของตัวเองและรัฐภาคีก็ไม่มีสิทธิเข้าแทรกแซงด้วยที่จริงรัฐภาคีควรจะเข้าไปปรามเขมรที่เข้ายึดแผ่นดินไทยแล้วยังจะมาขู่ยิงคนไทยอีกต่างหากถึงจะถูก การไปลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมรมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ตั้งแต่สมัยทักษิณเป็นนายกฯ
แล้วตกทอดมายังสมัคร
สุนทรราชที่เป็นนอมินีสานต่อและต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้ฮุนเซนเป็นนายกฯต่อเพราะหากฮุนเซนแพ้เลือกตั้งผลประโยชน์ต่างๆ
ที่ตกลงกันมาต้องชะงักทันที อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าเขมรฉลาดที่ไปดึงเอาประเทศมหาอำนาจเข้ามาร่วมด้วยโดยแลกกับผลประโยชน์เพราะประเทศเหล่านั้นล้วนเป็นประเทศหลักของทูตยูเนสโกที่พยายามรับรองให้เป็นมรดกโลกทั้งสิ้นแม้ว่าจะขัดต่อระเบียบที่ตัวเองร่างมาทั้งสิ้น
ขอประณามยูเนสโกที่หลับหูหลับตาขึ้นทะเบียนเขาวิหารเพราะบริเวณนั้นเต็มไปด้วยกับระเบิดมีทหารทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังกันอยู่
รัฐบาลนี้ที่ปล่อยให้อันธพาลจัดตั้งมาทำร้ายประชาชนชาวไทยที่ทวงอธิปไตยรอบเขาวิหารโดยก่อนหน้าที่ตนจะนำประชาชนเคลื่อนขบวนได้ประกาศออกสื่อว่า
มีผู้ว่าฯ สั่งปิดปั๊มน้ำมัน ปิดโรงแรม กีดกันขบวนที่จะขึ้นไปทวงอธิปไตยรอบเขาวิหารคืน
ตรงนี้รัฐบาลสามารถสั่งผู้ว่าฯ สั่งตำรวจให้รักษาความปลอดภัยได้แต่ไม่ทำ
หากรัฐบาลทำจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเลยและจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้เพราะต้องรู้ความเป็นไปในบ้านเมืองอยู่แล้ว ที่ว่ากลุ่มอันธพาลจัดตั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐจากที่สังเกตระหว่างทางตำรวจจะค้นอาวุธขบวนผู้รักชาติตลอดเส้นทางอย่างระเอียด
แต่ฝ่ายตรงข้ามถือมีดสปาตาร์ยืนข้างตำรวจโดยตำรวจนิ่งเฉยไม่ได้เข้าไปจับกุมแต่อย่างใด
ลำพังคนพวกนี้ไม่มีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุอย่างโจ่งแจ้งถ้าไม่ได้มีการยกไฟเขียวจากรัฐ
จึงทำให้เห็นภาพถืออาวุธ มีด ปีน กลางวันแสกๆ กลางถนนสาธารณะ
อีกอย่างขณะนั้นตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มีมากกว่าคนพวกนี้ตั้งเยอะแต่ปล่อยให้มาทำร้ายประชาชนมือเปล่าแล้วอย่างนี้จะบอกไม่รู้เห็นเป็นใจได้อย่างไร มีทหารบางคนเอารถไปรับชาวเขมรจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม.มาอยู่ที่บ้านภูมิซรอลตั้งแต่วันที่ 18 เพื่อรอดักรอทำร้ายชาวไทยที่จะไปทวงคืนอธิปไตย
ยิ่งฮุนเซ็นมาพูดอย่างนี้ทหารไทยยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวถือว่าเราหมดศักดิ์ศรีแล้วและต่อไปทหารคงไม่ต้องเองงบประมาณไปซื้ออาวุธให้เปลืองภาษีของประชาชนปล่อยให้คนมือเปล่าไปเจรจาดีกว่า
ส่วนที่บอกว่ามีการเหยี่ยดหยามด้วยการฉีกแผนที่ตรงนี้ถือเป็นความตกต่ำในการเจรจาของไทยที่สุด รัฐบาลไทยอ่อนกับเขมรมากเกินไป รัฐบาลต้องชัดเจน รัฐบาลไทยต้องเรียกทูตเขมรเข้าพบแล้วถามว่านายกฯของคุณพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร
ทางเขมรต้องการรบกับไทยใช่หรือไม่หากใช่ก็ไล่ทูตเขมรกลับไปทันทีเลยเพราะอย่างน้อยก็เป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ให้รัฐบาลเขารับรู้ว่าเราก็ไม่ยอม หากเขมรไม่ออกจากพื้นที่พิพาทเราต้องผลักดันให้ออกไปและให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่เขาเอามาสร้างออกไปด้วย
หากจำเป็นต้องแข็งกร้าวกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทวงสิทธิ์ของเรากลับคืนมาก็จำเป็นต้องทำไม่ใช่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างอยู่แบบนี้ตลอดไป
รัฐบาลไทยต้องทำหนังสือยืนยันไปยังคณะกรรมการมรดกโลกว่าตอนนี้เดินหน้าเจรจาไม่ได้แล้วต้องถอนออกไปก่อนเพราะ
1. เราประกาศกฎอัยการศึก 2.พื้นที่นี้ไม่เหมาะที่จะเป็นมรดกโลกเพราะมีแต่กองกำลังทหารอีกอย่างตอนนี้เขมรประกาศว่าจะยิงทุกคนที่เข้าไปดังนั้นจึงไม่สมควรขึ้นเป็นมรดกโลก
ข่าวกรณีเขาวิหารจะปิดหูปิดตาใครไม่ได้อีกแล้วหลังขบวนทวงคืนอธิปไตยรอบเขาวิหารขึ้นไปอ่านแถลงการณ์ที่ผามออีแดงโดยมีนักข่าวต่างประเทศไปทำข่าวจำนวนมากทำให้ทั่วโลกรู้ถึงความไม่ชอบธรรมดังกล่าว
พวกที่ชอบพูดว่าคนที่ไปทวงอธิปไตยเป็นคนคลั่งชาติเป็นพวกที่พูดพล่อย
ไม่ดูความจริง คนที่ไป ไปด้วยสุภาพ
ด้วยความเสียสละ ทั้งเงิน ความสุขส่วนตัวแค่ต้องการไปอ่านแถลงการณ์เท่านั้นและที่เขาไปเสียงเพราะเขากลัวว่าจะเสียดินแดนไปจริงๆ
ที่ปะทะกันนั้นเป็นเพราะเราต้องการป้องกันตัวเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้านิ่งซึ่งถ้าหากคลั่งจริงต้องทำรุนแรงมากกว่านี้ แรกๆสื่อต่างชาติตีความเหตุการณ์วันที่ 19 ว่าขบวนผู้รักชาติ รับงานมาสร้างความวุ่นวาย
การกล่าวหาอย่านี้เป็นการใส่ร้ายไม่เป็นธรรมไม่ต่างจากการใส่ร้าย โยนผิด
เอาคนเดินบนถนนแล้วถูกยิงตายแล้วคุณมาบอกว่าทำไมมาเดินเพ่นพ่านให้ถูกยิง ไม่ได้
ที่ผ่านมาตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณ
ชินวัตรเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันมีการละเลยปัญหาพื้นที่ชายแดนจนปล่อยให้ทางฝ่ายเขมรรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ
เข้ามาตั้งรกราก สร้างอาคารต่างๆมากมายจนยากจะผลักดันออกไป
มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางกลุ่มเข้าไปหาประโยชน์ปล่อยให้มีการเช่าพื้นที่ยอมให้ชาวเขมรเข้ามาใช้ที่ดินจนในที่สุดนำมาสู่ลักษณะการครอบครองปรปักษ์มายึดดินแดนโดยพฤตินัยหน้าตาเฉย
เพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้าของนักการเมืองในรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องบางกลุ่มเท่านั้นทำให้ปัญหาชายแดนไทย-เขมรเกิดความยุ่งยากและคาราคาซังเรื่อยมา
ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา
ส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนตั้งแต่ระดับนโยบายลงมาจนถึงผู้นำกองทัพบางคน ที่ผ่านมามีข้อครหาในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทยที่คาดกันว่ามีแหล่งพลังงานจำนวนมหาศาลซึ่งมีความเกี่ยวพันไปถึงเขตแดนของประเทศด้วย
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่เขาพระวิหาร รัฐบาล
และกองทัพจะเล่นแต่บทเพื่อนที่แสนดีและเพลย์เซฟเกินเหตุด้วยการไม่ขยับตัวทำอะไรเลยไม่ได้อีกต่อไปด้านหนึ่ง
ก็ต้องย้ำถึงอธิปไตยเหนือดินแดน 4.6
ตารางกิโลเมตรด้วยการรีบเคลียร์คนของเขมรให้พ้นพื้นที่ทับซ้อนตามข้อตกลงเสียทีเพื่อไม่ให้กลายเป็นเงื่อนไขการปลุกระดมของคนในประเทศอีก
อีกด้านก็ต้องมีความฉับไวกว่านี้ในการเล่นเกมการเมืองและการทูตในเวทีระหว่างประเทศขืนปล่อยให้กลุ่มการเมืองทั้งในและนอกประเทศ
ขย่มเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
นอกจากรัฐบาลจะรับแรงกดดันไม่ไหวจนอาจพังไปเองแล้วยังเสี่ยงต่อการพลาดพลั้งเสียทีในเวทีนานาชาติ
และอาจตกหลุมพรางเสียดินแดนตรงนี้ไปจริงๆ เข้าสักวัน หลังการลงทุนลงแรงเสี่ยงอันตรายทุกรูปแบบของภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหารได้เข้าไปในพื้นที่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้สร้างแรงกระเพื่อมพอสมควรอย่างน้อยก็ทำให้ทุกฝ่ายได้หันกลับมาให้มาสนใจกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังอีกครั้งอย่างน้อยก็จะทำให้คนไทยที่ไม่รู้ข้อมูลหรือสื่อทุเรศบางกลุ่มที่จงใจบิดเบือนจะได้รู้สึกละอายบ้าง
สิ่งที่ต้องจับตาก็คือการแสดงท่าทีล่าสุดของสุเทพ
เทือกที่จะเดินทางไปเจรจากับฮุนเซนในเร็วๆ นี้
สุเทพ เทือกมีหน้าที่โดยตรงหรือไม่
ครั้งก่อนนั้นก็ได้สร้างความกังขาให้กับสังคมว่าซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ ลดบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่
น่าจับตาว่าทุกครั้งที่เดินทางไปเยือนจะเป็นช่วงที่มีความตึงเครียดเรื่องเขตแดนทุกที เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย หรือไปในฐานะส่วนตัว
ช่วยไม่ได้ที่จะถูกตั้งข้อสงสัยว่าไปเจรจาเพื่อเคลียร์พื้นที่ทับซ้อนหรือผลประโยชน์ทับซ้อนกันแน่เพราะมีโอกาสเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทับซ้อนที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลก่อนๆได้
เราสามารถเชื่อมโยงเหตุและผลหลายๆอย่างได้เช่นเมื่อเขมรสามารถขยับเขตแดนเข้ามาในประเทศไทยได้แล้วก็ย่อมมีผลต่อเส้นเขตแดนตั้งแต่บนบกลงทะเลอ่าวไทยซึ่งจะมีผลกระทบไปถึงพื้นที่ของไทยอีกมากมายอันจะส่งผลร้ายต่อพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยที่มีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล
ประเทศที่มีอำนาจมากกว่าย่อมไม่มีใครเขายอมก้มหัวให้ประเทศที่เล็กกว่า ทำไมประเทศไทยถึงต้องก้มหัวให้เขมร เศรษฐกิจไทยเราใหญ่กว่าเขมรประมาณสัก 50 เท่า
ไทยเรามีเงินมากกว่าเขมร 60 เท่า ถ้าเราปิดด่านการค้า ปิดเที่ยวบิน
(ห้ามบินเข้าเขมร) ถามว่าใครเดือดร้อน แล้วมาชำระประวัติศาสตร์ในระหว่างที่ให้ประกาศดินแดนเขาพระวิหารเป็นเขตเป็นกลางอยู่ในความดูแลของ
UN กอรปกับทำสงครามจิตวิทยาเชิงเศรษฐศาสตร์ในบริบทของเวทีโลก คณวีระ สมฯเคยพูดในรายการว่าทหารที่ไปด้วยพูดให้ฟังว่าสุเทพ
เทือกแทบจะคลานเข้าไปหาฮุนเซนเลยแล้วฮุนเซนก็เข้าไปประคองสุเทพ
เทือกให้ลุกขึ้น ผบ.ทอ.กับคณะเคยพากันบินหางจุกตูดไปหาผบ.ทอ.เขมรมาทีหนึ่งแล้ว นี่สุเทพ เทือกก็จะรีบไปกราบเท้าพ่อเขมรมันอีก
นี่มันอะไรกัน
เพื่อผลประโยชน์ของตัวและพวกพ้องก็พร้อมจะละทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นไทยและยอมขายยอมแลกสมบัติชาติเพื่อพวกตัวและตัวกู ตรงบ่อน้ำมัน นั้นมันของไทยหรือเขมร
แล้วจะไปเจรจากับเขมรให้บริหารร่วมตรงบ่อน้ำมันทำไม
ชาวบ้านขอทำกินในพื้นที่ฟาร์มของสุเทพบ้างได้ไหม
อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของชาติหัดเอามาพูดให้มันหนักแน่นบ้างสิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น