16 กันยายน 2552

คนคลั่งชาติ

การเป็นชาติ-เป็นเผ่าพันธุ์ภายใต้ความเป็นอานารยชนก็คงไม่ต่างอะไรไปจากฝูงสัตว์ธรรมดาๆ นั่นเองที่ต่างฝ่ายต่างก็พร้อมที่จะไล่ล่า ล้างผลาญใครก็ตามที่รุกล้ำเข้ามาเขตแดนของตัวเองโดยไม่คิดจะต่อรอง เจรจา หาทางอยู่ร่วมกันโดยสันติ แม้ว่าจะต้องอาศัยเวลา ความอดทน อดกลั้นมากมายขนาดไหนแต่ก็ด้วยการให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าสันติภาพ บนพื้นฐานของสันติภาพนี่แหละที่จะทำให้มนุษย์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นชาติไหนต่อชาติไหนก็แล้วแต่แตกต่างไปจากสัตว์ธรรมดาๆ โดยทั่วไปและจะทำให้ความรักชาติไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญชาตญาณของฝูงสัตว์เท่านั้นเพราะมันยังหมายรวมถึงความรักในเพื่อนมนุษย์ควบคู่ไปด้วย อารยชนที่เจริญแล้วล้วนแล้วแต่จะใช้วิถีทางที่จะนำพามวลมนุษย์ก้าวไปสู่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนั้นที่เรียกว่าสันติภาพย่อมที่จะหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเงื่อนไขใดๆ อันจะนำไปสู่สงครามระหว่างกันและกันนั้น บ้านเมืองตั้งแต่ครั้งสมัยทวารวดี ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และกรุงเทพฯ ซึ่งมักจะดูแต่หลักฐานทางโบราณคดีและศิลปวัฒนธรรมเป็นสำคัญจึงแลเห็นพัฒนาการของบ้านเมืองและอารยธรรมเป็นห้วงเป็นตอนไป เมื่อจบตอนนี้สมัยนี้ซึ่งผู้คนเป็นคนมอญ เพราะจารึกมีภาษามอญ ก็มาถึงสมัยใหม่ เป็นคนเขมร เพราะมีจารึกเป็นภาษาเขมร แล้วก็มาถึงคนไทยสมัยสุโขทัย ที่มีศิลาจารึกภาษาไทยของพ่อขุนรามคำแหง เป็นต้น การกรำศึกของบรรพบุรุษ สู้รบปรบมือกันมาเพื่อครอบครอง ถือครอง สร้างบ้านแปงเมือง ปกป้อง รักษาแผ่นดินให้ลูกให้หลานได้อยู่อาศัย ความเป็นชนเผ่าและชนชาติเป็นสิ่งที่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างแยกกันไม่ออกเป็นลักษณะที่เป็นขั้นตอนมีพัฒนาการตลอดเวลา พัฒนาการขั้นต่อไปของการสร้างบ้านแปงเมืองก็คือการเกิดของรัฐ ที่มีขั้นตอนจากการเป็นเมือง เป็นนครรัฐ สหพันธรัฐ อาณาจักร และประเทศชาติ อย่างที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน ปรากฏในตำนานประวัติศาสตร์บ้านเมืองในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียงมาแต่โบราณ ความเป็นชนชาติไทยหาใช่จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ใดชาติพันธุ์หนึ่ง หรือเชื้อสายหนึ่งที่สืบทอดกันลงมาด้วยสายเลือด (อย่างที่เรียกว่า “เชื้อชาติ”) แต่อย่างใดไม่หากแต่หมายถึงผู้คนที่หลากหลายชาติพันธุ์แต่เกิดในแผ่นดินเดียวกันเพราะคำว่าชาตินั้นแปลว่าเกิด การรวบรวมชาติ ผลัดกันรุกผลัดกันรับ เช่น ไทยกับพม่า ไทยกับลาว ไทยกับล้านนา ไทยกับล้านช้าง หรืออื่นๆ จนที่สุดก็มีสันติภาพเกิดขึ้นในโลก ผู้คนได้อยู่กันเป็นสัด เป็นส่วน แบ่งสรรพ์ปันส่วนกันเป็นประเทศนั้นประเทศนี้มีอาณาเขตของตนที่แน่นอน จวบจนการกระหายในอำนาจ อย่างในกรณีญี่ปุ่นและสงครามโลกทั้งสองครั้งที่ผ่านมา การล่าอาณานิคมของชาติที่คิดว่าตนเป็นมหาอำนาจต่างเช่นสเปญ อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือ อื่นๆ ล่าสุดก็อิรักที่มีอเมริกาเป็นโจทย์โดยมีข้ออ้างเบื้องหลังเป็นการปล้นน้ำมันจากอิรักเป็นต้น ทำให้หลายๆประเทศต้องแตกกระสานซ่านเซ็นแต่ด้วยพระบรมราชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าทำให้เราไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของใครโดยพระองค์ได้ทรงเลือกที่จะเสียอวัยวะเพื่อสละชีวิตเช่นตัดพื่นที่ส่วนนั้นให้ซาตานในประเทศหนึ่งแล้วตัดส่วนโน้นให้ซาตานในอีกประเทศหนึ่งเป็นต้น อันที่จริงทั้งบรรดาชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนไทยและบรรดาชาวไทยที่อยู่บริเวณชายแดนกัมพูชาก่อนที่จะเกิดความเป็นชาติใดๆ ขึ้นมาต่างก็ล้วนแต่เคยเป็นพี่เป็นน้องหรือเคยเป็นสายเลือดเดียวกันมาด้วยกันทั้งสิ้นแม้นว่าความเป็นชาติจะปรากฏตัวขึ้นมาภายหลังก็ตาม การฉวยเอาความเป็นชาติหรือความรักชาติมาใช้ในการปลุกระดมใครต่อใครได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากนำมาใช้กันแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อไหร่ก็มักจะได้เรื่องเมื่อนั้น อย่างในปีที่แล้วฮุนเซ็นใช้ประเด็นนี้เพื่อให้ตัวเองสามารถได้กลับมาครอบครองกัมพูชาได้อีกครั้งหลังจากที่ต้องเสื่อมความนิยมจากประชาชนเหล่านั้นลงไปเรื่อยๆด้วยการจุดประเด็นพระวิหารและมรดกโลกขึ้นมา ก็ในเมื่อผู้คนทั่วโลกต่างก็ใช้มาตรฐานเดียวกันเพื่อปักปันเขตแดนของกันและกัน เพียงแค่หมาที่บ้านเราเห็นคนเข้ามาใกล้ๆบ้านก็เห่า ส่งสัญญาณให้ผูแปลกหน้านั่นถอยออกจากอาณาบริเวณของตัวเอง ก็ในเมื่อเพื่อนบ้านของเราประสงค์ที่จะเอาศาลพระภูมิของเราในบริเวณบ้านของเราไปเป็นสมบัติของตน เท่านั้นยังไม่พอเพื่อนบ้านของเรากลับไปสมคบกับยามของหมู่บ้านมาบอกว่าศาลพระภูมินั่นจะไม่สวยต้องเอาฐานของศาลพระภูมิมาให้เพื่อนบ้านด้วย แต่ต้นไม้กับหญ้ารอบศาลก็สวยดีเพื่อนบ้านของเราคนนี้ก็เริ่มแอบปีนเข้ามาตบแต่งสวนตรงนั้น เริ่มขยับเริ่มขยายตบแต่งบริเวณมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนบ้านที่น่าเคารพคนนี้ยังชวนเพื่อนๆมาอีกหกคนมาช่วยกันตบแต่งบริเวณศาลพระภูมิอีกด้วยคนพวกนี้สมคบกันบอกว่าเราจะต้องยกบริเวณศาลและสวนที่พวกเขาได้ตบแต่งนั่นให้กับเพื่อนบ้านของเรา เป็นใครก็คงไม่มีใครยอมให้คนพวกนั้นมาเอาไปได้แต่คนใช้ของเราไปยืนบริเวณนั้นแล้วบอกว่าเรายังมีสิทธิ์ในที่บริเวณนั้นอยู่แถมยังมาบอกอีกว่าเมื่อจัดสวนบริเวณศาลนั้นให้เข้ากับสวนบริเวณรั้วที่อยู่ใกล้ศาลนั้นก็คงจะสวยดี แล้วเราเป็นคนอย่างไรที่จะปล่อยให้พื้นที่นั้นต้องเป็นของเพื่อนบ้านไป เจ้าของที่ดินนั้นจะรู้สึกอย่างไร พ่อหลวงของเราจะทุกข์ระทมอย่างไร ทั้งทหารและคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 41 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันกองกำลังและชาวบ้านเขมรได้เร่งก่อสร้างบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆตัวปราสาทพระวิหารที่ยังคงเป็นของไทย ทหารบางคนมีผลประโยชน์ในพื้นที่แถบนั้นยอมทำตัวเป็นคนหูหนวก ตาบอด จากเดิมที่คนเขมรพักในบริเวณรอบๆรั้วลวดหนามของรัฐบาลไทยสมัยหลังการตัดสินใหม่ๆเกิดทำสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นเสียหาย น้ำเน่าไหลลงตามความลาดชันจากสันปันน้ำ ทหารไทยเคยคิดจะทำเขื่อนครั้นคนเขมรรู้ ทางการเขมรจึงได้ทำการประท้วงทหารไทยยังต้องหยุดเลย จากนั้นได้มีทหารไทยยศพันเอกของกองกำลังสุรนารีขณะนั้นสมคบกับนักการเมืองท้องถิ่นสร้างห้องแถวที่บริเวณเชิงบันไดนาคราชเปิดให้ชาวไทยและชาวกัมพูชามาเซ้งและเช่าพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำการค้าห้องละประมาณ 5 หมื่นบาท ใช้วิธีรุกคืบตีหน้ามึนเข้ามาครอบครอง กองกำลังติดอาวุธของเขมรจึงได้ตามเข้าเข้ามาตั้งชุมชนมาสร้างบ้านเรือนและร้านค้าเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีชุมชนก็สร้างวัดบังหน้าโดยทางการของเขมรได้ให้ความสนับสนุนคนเขมรให้ได้ก่อสร้างวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระแล้วทางการของเขมรจึงได้ก่อสร้างถนนจากบ้านโกมุยทำบันไดและกระเช้าหน้าตาเฉยเพื่อขนคนและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากขึ้นมาบนภูมะเขือซึ่งเป็นแผ่นดินไทยและยังปักธงชาติกัมพูชา ในปี 2505 ไทยต้องถอยออกจากบริเวณเขาพระวิหารตามคำตัดสินของศาลโลก ปี 2546 เราจึงได้ถอยครั้งที่ 2 ออกจากบริเวณรอบปราสาทมาอยู่ที่บันไดนาคขั้นที่ 156 หลังจากนั้นก็ถอยครั้งที่ 3 ลงมาอยู่บันไดขั้นที่ 1 เพราะรัฐบาลชาติชั่วในเวลานั้นหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้เขมรบุกรุกเข้ามาจนครั้งที่ 4 เราต้องถอยออกมาบริเวณคูน้ำและครั้งที่ 5 เราต้องถอยออกมาอยู่นอกพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รัฐบาลไทยรัฐบาลสมัครรัฐบาลสมชายร่วมปล้นชาติกับเขมรขายแผนดินให้รัฐบาลเขมรขอยื่นจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว จนก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกันอย่างหนัก ทหารไทยต้องบาดเจ็บล้มตายลงมากมาย การประชุมกันระหว่างไทย-กัมพูชาหลายครั้งและมีข้อตกลงจะเรียกว่าเจบีซี หรือะไรก็แล้วแต่แต่คนกระทรวงการต่างประเทศก็กลัวว่าคนของตัวจะมีความผิด ศิาย์เก่ากต.อย่างคุณเตชและกษิตต้องออกแรงอย่างมากในการจะไม่บอกต่อสังคมว่าการตัดสินของศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุชัดว่าการกระทำของรัฐบาลสองชุดที่ได้ขายชาติไปนั้นเป็นความผิดด้วยความร่วมมืออย่างแข็งขันของข้าราชการประจำทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แถลงการณ์ร่วมสนับสนุนเขมรเป็นโมฆะ ศิษย์เก่าทั้งสองไม่เคยประกาศและกระทำอย่างเป็นทางการวตามคำตัดสินไม่ต้องประกาศยกเลิกก็ได้เพราะมันสิ้นผลแล้ว หลังการพูดคุยกับคุณเตชแล้วฮอร์ได้ตอบกลับว่าแถลงการณ์ร่วมฯนั้นไม่ใช่สนธิสัญญาระหว่าประเทศแต่มันมีคุณค่าอย่างที่มันเป็น แปลชัดๆว่าเรื่องของมรึง กรูใช้เสร็จแล้วเหมือนกัน จากการร้องคัดค้านอย่างแข็งแรงของกลุ่มนักวิชาการ ส.ว. และประชาชนทำให้การแอบสร้างโครงการที่จะรวบป่าทั้งผืนในย่านนั้นเข้ากับการขึ้นทะเบียนร่วมกับเขมรที่มีพื้นที่นับล้านไร่ต้องชะงักลง ไอ้ที่อ้างกันเป็นวรรคเป็นเวรว่าการขึ้นทะเบียนร่วมจะทำให้เศรษฐกิจในย่านนั้นดีขึ้นทันตา เป็นประโยชน์แก่คนทั้งสองชาติ ความฝันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ เวลานี้นอกจากฝ่ายเขมรจะพยายามเรียกร้องพื้นที่ดินบนปราสาทพระวิหาร แล้วมีรายงานว่าเขมรจะยื่นข้อเรียกร้องเอากลุ่มปราสาทตาเมือนธมที่จังหวัดสุรินทร์อีกแห่งหนึ่งด้วยในอนาคตอันใกล้ ความมุ่งหวังในสันติภาพจากการเจรจากับอันธพาลอย่างนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ในการระงับการขึ้นทะเบียนมรดกโลภได้ การเจรจาแทบทุกครั้งจบลงด้วยการถอนทหารของทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่ แต่สิ่งที่ได้คือการขยายตัวของชุมชนในพื้นที่ 4.6 ตารางกม.นั่น พระในวัดก็ล้วนแต่หนุ่มแน่น ทหารเขมรพร้อมอาวุธครบมืออยู่กันเป็นจุดๆ ตามพื้นที่สำคัญๆ คอยคุ้มกันชุมชน ใช่วัดนั่นก็เป็นแค่ฉาก ส่วนทหารไทยต้องปลดอาวุธก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่ของเราเอง รัฐบาลอภิสิทธิ์จะรู้ไหมว่านั่นคือการยอมรับโดยปริยายว่าเรากำลังจะเสียพื้นที่นั้นไป และเป็นการกระทำที่ทำให้ทหารไทยเป็นเชลยโดยภาวะจำยอมเป็นข้ออ้างให้ทหารใหญ่หลายคนบอกว่ามันเป็นนโยบายจากรัฐและก็นั่งกระดิกเท้ารอคำสั่งต่อไป การถอนทหารอย่างเดียวไม่พอต้องเอาชุมชนออกไปด้วยแล้วค่อยเจรจาปักปันเขตแดน กว่าจะเจรจาปักปันเสร็จเมื่อนั้นมนุษยชาติอาจจะสูญสิ้นไปแล้วก็ได้ ส่วนเขมรก็สำเร็จความใคร่ไปแล้ว ได้อย่างที่มันอยากได้ เป็นอย่างที่มันเป็น ด้วยการรุกแบบใช้มวลชนเป็นกันชนและวัฒนธรรมของลูกหลานพระยาละแวก อีกห้าเดือนมันก็จะขึ้นเป็นมรดกโลกแล้วนั่นก็คือทุกอย่างจบ เราเสียดินแดนถาวรและอาจจะเสียมากขึ้น เราไม่มีเวลามากนักแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะรัฐบาล ทหารมันไม่สนใจ เพราะพวกมันมีผลประโยชน์ นักการเมืองกับทหารมันมีผลประโยชน์รวมกัน มันไม่ฆ่าเขมรมันจะหันมาฆ่าคนไทยด้วยกัน เราจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าผู้นำกองทัพเหล่าไหน รมต กลาโหม รองนายก หรือใครๆ แม้แต่สมชายกระโปรง นช.ทักษิณ สมัครสุนทรราช มีแต่คนพวกนี้บินไปหาฮุนเซน เพื่อขอความเมตตาจากฮุนเซนเรื่องผลประโยชน์ ขนาดกองทัพมันดูถูกเหยียดหยามขนาดไหนก็ก้มหน้าก้มตาหางตกกลัวฮุนเซนไม่เมตตา มันจึงเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะผลักดันเขมรออกไป ฝั่งเขมรเองมีอะไร ป่าสงวนของไทยถูกถางลงเพื่อทำถนนสู่พระวิหาร เป็น ถนน คสล. ขนาดรถถังสวนกันสบายเพื่อการส่งเสบียง ยุทโธปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก กระเช้าลอยฟ้าเพื่อพานักท่องเที่ยวขึ้นชม โฮมสเตย์ของฮุนเซ็นพร้อมให้บริการ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่กำลังจะผุดขึ้นมาพร้อมกาสิโนเพื่อบริการนักท่องเที่ยว บริการเหล่านี้มีไว้ให้คนทั้งโลกยกเว้นชาวไทย ชาวไทยที่จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากการขายชาติในครั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา คณะของนายวีระ สมความคิด พร้อมทีมข่าว ASTV NEWS1 ได้เดินทางไปพิสูจน์พื้นที่พิพาทแล้วปรากฏชัดเจนว่าไทยถูกรุกล้ำพื้นที่โดยมีการสร้างบ้านเรือนของชาวกัมพูชาทำให้คนไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่สามารถทนได้ ทั้งที่ต่างเฝ้ารอดูท่าทีของรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ภาพของคณะพิสูจน์ดินแดนไทยที่ASTV NEWS1 นำเสนอไป แต่รัฐบาลยังไม่มีท่าทีจะผลัดกันชาวกัมพูชาออกจากดินแดนของชาติไทย ดังนั้นคนไทยจึงพร้อมใจที่จะทำหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ ขณะที่บรรยากาศที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯ รวมทั้งนักรบศรีวิชัย ได้กระจายคอยดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งขบวนพี่น้องพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางไปถึงที่อุทยานฯ แล้ว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการภายในจังหวัดเพื่อหารือถึงการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมเดินทางไปในพื้นที่เขาพระวิหาร เพื่อผลักดันให้คนกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ของไทยโดยผู้ว่าฯ ศรีสะเกษได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารผลักดันพี่น้องพันธมิตรฯ ที่อยู่ในพื้นที่จากเขตอุทยานออกไป แต่ทางหัวหน้าอุทยานแย้งว่าไม่สามารถทำได้ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษไม่พอใจจึงได้สั่งการให้รองผู้ว่าฯ ไปประสานผู้ประกอบการในจังหวัดศรีสะเกษห้ามให้ความช่วยเหลือ หรือขายสินค้า ทั้งห้ามขายน้ำ ขายน้ำมัน หรือแม้แต่โรงแรม ที่ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษกล้าทำนั้น มีการข่าวว่าเพราะมีคนระดับรองนายกรัฐมนตรีเป็นคนสั่งการอีกทีหนึ่ง “ผมยังยืนยันความตั้งใจที่จะเดินทางไปในพื้นที่เขาพระวิหารและพี่น้องเราทุกคนก็ยังจะไป เพื่อรักษาแผ่นดินของเราเอาไว้ หากมีกลุ่มชาวบ้านที่ถูกจัดตั้งเข้ามาต่อต้านก็จะใช้ความระมัดระวังในการไม่ให้เกิดการปะทะระหว่างคนไทยด้วยกันเองแต่เราขอบอกไว้ก่อนว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายเราก่อนเช่นกันเพราะเราถือว่าได้ทำหน้าที่ของคนไทยในการปกป้องบ้านเมืองตามหน้าที่ของคนไทยอย่างดีที่สุด” นายวีระคนคลั่งชาติระบุ (ที่มา “วีระ” ปูดคนระดับรองนายกฯ สั่งผู้ว่าฯ จัดตั้งคนสกัดพธม.เข้าเขาพระวิหาร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์16 กันยายน 2552 16:17 น.) ร่วมชื่นชมกับกัมพูชาได้ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น: