01 ตุลาคม 2554

ไม่ต้องเปิดบ่อนก็รวยแล้ว!


โสภณ องค์การณ์
30 กันยายน 2554 18:16 น.
       บริหารบ้านเมืองมานาน 2 เดือน รัฐบาลปู โคลนนิ่งยังทำตัวเหมือนเล่นจับปูใส่กระด้ง อะไรๆ ดูไม่ลงตัวสักอย่าง ทั้งนโยบายรถ-บ้านหลังแรก จะลามไปถึงกาสิโนแห่งแรก
      
        งานงาบแหลกนั้นเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากยุครัฐบาล “โกงทั้งโคตร” ขณะนี้นอมินีรุ่น 3 แสดงให้เห็นเจตนารมย์ในการสืบสานปณิธานคอรัปชั่นเชิงนโยบายอย่างจริงจัง อัตราเร่งไม่เกรงใจชาวบ้านคนเสียภาษีให้พวกเสนาบดี อำมาตย์แปลงจากไพร่
      
        สร้างมูลเหตุจูงใจให้คนซื้อรถยนต์ในสภาวะที่น้ำท่วมกว่าครึ่งค่อนประเทศ ชาวบ้านได้รู้ซึ้งว่าพื้นที่ไหนน้ำท่วม จะได้ไม่โดนหลอกไปซื้อบ้านย่านนั้น! แน่นอน โครงการใหญ่ เล็งกวาดเงินจากโครงการเนียนๆ ย่อมต้องป้องกันน้ำท่วมเต็มที่
      
        ถ้าหน่วยงานไหน ปล่อยให้น้ำท่วมโครงการเกี่ยวโยงกับผู้กุมอำนาจรัฐ รับรองโดนเด้ง เพียงแต่ กทม. อยู่ภายไต้การดูแลของ กทม. จะสั่งการเต็มที่ยังไม่ได้ หวังรอตีกินชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ ครั้งต่อไปถ้า กทม. จมน้ำเพราะน้ำเหนือหลากเกินกว่าจะรับมือได้
      
        รัฐบาลทำเป็นเหมือนใส่ใจ ดูแลชาวบ้านที่จมอยู่ในทะเลทุกข์นาน 2 เดือน แทบไม่มีโอกาสทำมาหากิน ต้องเตรียมหาเงินซื้อทรัพย์สินชุดใหม่ เมื่อสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ เสียหายจากการจมน้ำยาวนาน กลายเป็นท่วมบูรณาการนิรันดรไปแล้ว
      
        นายกฯ ปู โคลนนิ่ง กำลังกลายสภาพเป็นปูโพรก รอยเหี่ยวย่นเริ่มปรากฎชัด ความสดใสถดถอย ยังเจื้อยแจ้วเรื่องภาพรวม บูรณาการ คงต้อง...คงต้อง...คงต้อง...ขอเวลาทำงาน ขณะที่รัฐมนตรี ส.ส. กินเงินภาษี ไม่เคยโผล่ไปให้ชาวบ้านได้เห็นหน้า
      
        เสนาบดีและผีโม่แป้งในตำแหน่งต่างๆ แข่งกันเสนอแผน โครงการ ไม่ลืมตาดูสภาพความเป็นจริง ทำให้ชาวบ้านสงสัยว่านายกฯ ปูรู้หรือไม่ว่าทำหน้าที่อะไร
      
        อย่าคิดว่า “หนูไม่รู้” จะช่วยให้เอาตัวรอดตลอดไป ถ้าไม่ไหวพี่เหลี่ยมร้ายคงไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหาย ลดโอกาสในการกระชับอำนาจเพื่อการกอบโกย ...รอบนี้น่าจะเป็นโอกาสสุดท้าย จะเริงร่ากับการผยองอำนาจนานเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการเร่งเปิบ
      
        ความเลอะเทอะเฟอะฟะ ฟ้องให้เห็นการไม่เป็นงาน ทุกวันนี้ต้องหาเรื่อง สร้างประเด็นใหม่มากลบความสิ้นท่า เริ่มต้นด้วยการกู้เงิน 1 หมื่นล้านบาทมาโปะกองทุนน้ำมัน หลังจากทำเป็นใจดี ตัดเงินสมทบเข้ากองทุนให้ผู้ค้าน้ำมันกอบโกยโดยสะดวก
      
        ความเสียหายเกิดระดับหมื่นล้านบาท และยังจะมีเรื่อยๆ รัฐบาลไม่ใส่ใจเพราะไม่ใช่เงินส่วนตัวของรัฐมนตรี และผลสุดท้ายเงินจะไหลไปสู่ผู้ค้าน้ำมัน ผู้ถือหุ้น และตามมาติดๆ คือคำประกาศน่าหัวเราะว่าจะเลิกขายน้ำมันเบนซิน 91 ปีหน้า
      
        ไม่ถามประชาชนสักคำว่ามีรถใช้เบนซิน 91 ตกค้างอยู่ในระบบเท่าไหร่! ถ้าจะให้เดา คงอยากดันให้รถใช้เบนซิน 91 ต้องไปใช้เบนซิน 95 แพงกว่าเดิม เพราะใช้น้ำมันประเภทอื่นไม่ได้ เว้นแต่ต้องปรับไปใช้แก๊ส และเข้าทางพ่อค้าแก๊สอีกเช่นเคย
      
        นี่คือนโยบายตลบตะแลงปลิ้นปล้อน เสนอสิ่งยั่วใจหลอกชาวบ้านให้หลงปลื้มชั่วคราว ก่อนตลบหลัง! ยังมีโครงการลดภาษีบ้าน รถยนต์ แล้วไปรีดเงินภาษีเงินได้ส่วนบุคคลภายไต้นโยบายถอนขนห่าน ไม่สนใจพวกหงส์ ห่านฟ้า เศรษฐีระดับแนวหน้า
      
        เออ! เห็นพวกรัฐมนตรี ส.ส. อำมาตย์แดงมีทรัพย์สินเป็นสิบล้าน ร้อยล้านบาท น่าจะให้แสดงตัวเลขการเสียภาษีเงินได้แต่ละปีว่ามากน้อยเพียงใด! ถ้า ปปช. หรือองค์กรใดยังไม่มีแผนให้โชว์ตัวเลขเงินภาษี ก็น่าจะเริ่มในยุคนี้
      
        เห็นเข้าแถวประกาศต่อต้านทุจริต คอรัปชั่น เป็นข่าวทั้งวัน ไม่ใช่เรอะ!
      
        สภาพบ้านเมืองเหมือนไร้กลไก ส.ส. พรรคเหลี่ยมร้าย ยังคงปลื้มกับผลงานจากการไปไหว้เจ้าของคอกผีโม่แป้ง เหมือนผีบุญมาโปรดสัตว์ด้อยปัญญา! กอดรัด คุกเข่ากราบไหว้ฮุนเซนยิ่งกว่าเป็นบรรพบุรุษมาแต่ปางก่อน หรือเป็นลูกหลานพระยาละแวก
      
        พวกนี้เคยไปสักการะอนุสาวรีย์พระพุทธยอดฟ้า พระนเรศวร พระเจ้าตาก และวีรกษัตริย์อื่นๆ ของไทยบ้างหรือไม่! หรือข้าวไม่มียางกับปลากรอบเขมรทำให้ลืมคุณแผ่นดินเกิด และพื้นที่เพื่อการชุมนุม “สู้แล้วรวย” ตามที่ตัวเลขโชว์ทรัพย์สิน
      
        ประเทศเกิดวิกฤติจากน้ำท่วมหนัก เป็นพื้นที่ของพวกกาเบอร์ให้พรรคเหลี่ยมร้าย รัฐบาลยังไม่รู้สึกเดือดร้อน ทั้งๆ ที่ควรประกาศภาวะฉุกเฉิน ให้ทหารทุกหน่วยนำพาหนะและอุปกรณ์ต่างๆ มารับภารกิจกู้ภัย! หรือไม่ไว้ใจ กลัวทหารสวมรอย
      
        กรุงเทพฯ เป็นไข่แดง รอบนอกนั้นกำลังถูกคุกคามโดยน้ำเหนือไหลบ่ามา ตามสภาพของน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เว้นแต่จะผันออกไปนอกเขตเศรษฐกิจสำคัญ ทำให้พื้นที่รอบนอกต้องรับเป็นผู้เสียสละโดยไม่คุ้มค่า และคนเมืองหลวงไม่รู้สึก
      
        ถ้ากรุงเทพฯ ต้องจมน้ำ เพราะกลไกต่างๆ นั้น “เอาไม่อยู่” คงไม่มีใครประหลาดใจ เพียงแต่ว่าจะนานเพียงใด ระดับของวิกฤติจะสร้างความเสียหายมากน้อยแค่ไหน
      
        เมื่อคนเมืองหลวงยังอยู่ดี รัฐบาลใจเย็น ชาวบ้านก็ไม่ตระหนักถึงความเสี่ยง ความยากลำบาก ถ้ากรุงเทพฯ อยู่ใต้น้ำเพียง 1 เมตรในบริเวณกว้าง! จะเป็นเมืองเน่าเหม็น ปัญหาการดำรงชีพจะกระจายไปสู่ชุมชนต่างๆ การขาดแคลนอาหาร ของยังชีพ
      
        นายกฯ ปู ออกแนวไร้เดียงสา อ้างไม่มีนโยบายเรื่องเปิดบ่อนกาสิโนในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ แถมมีข่าวพ่อค้านักเก็งกำไรไปกว้านซื้อที่ดินผืนใหญ่ หวังโกยเงินรอบแรก
      
        นี่เป็นนโยบายตีกิน ตีเมืองขึ้นชัดๆ! เพียงแค่นักการเมืองเปิดปากเรื่องกาสิโน คนรู้ทันก็เห็นไส้เน่าเป็นขดๆ นี่คงนั่งรอพวกเจ้าของบ่อนในเขมร มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย และพม่ามาจิ้มก้อง เอาขนมมาฝาก เพื่อกล่อมให้เลิกแผนตั้งบ่อน
      
        ตั้งได้เมื่อไหร่ บ่อนใกล้และไกลบ้านจะขาดรายได้จากลูกค้ารายใหญ่! ดังนั้น นักการเมือง พวกเปิดปากเรื่องเปิดบ่อน เตรียมเปิดบ้านรอรับกระเป๋าเงินจากนายบ่อนแล้ว! นี่เป็นการหาเงินแบบง่ายๆ เหมือนคำขู่ว่าจะตรวจคาเฟอีนในเครื่องดื่มชูกำลัง
      
        คนอะไร ทั้งโกงเก่ง หน้าด้าน ตะกละตะกลาม ไม่เสียชาติเอี้ยมาเกิดจริงๆ นิ! อิอิอิ!!! 

ไม่มีความคิดเห็น: