25 ธันวาคม 2551

กษิต ภิรมย์

ระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยทั้ง โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ต่างพึ่งพิงและอาศัยอยู่กับทุนนิยมสามานย์ที่ครองอำนาจรัฐเสียจนเคยตัว เป็นความเคยตัวของ “สื่อ” ที่ชีวิตวนเวียนอยู่กับการประจบสอพลอนายทุน-ผู้มีอำนาจ ที่ไม่เพียงใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินเข้าบีบ แต่ยังกระโดดลงมาสร้าง “สื่อเทียม” และยึดครอง “สื่อรัฐ” เป็นสมบัติของตนเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ อิทธิพลของกลุ่มทุนสามานย์ดังกล่าวมากมายมหาศาลถึงขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งสื่อมวลชนไทยจำนวนไม่น้อยเคยวาดฝันว่านายทุนคนนี้จะครองประเทศไทยอยู่ถึง 20 ปี ทว่าระยะเวลา 20 ปีที่เคยวาดฝันไว้ก็สั้นกว่าที่ใครหลายคนคิด … ตลอดระยะเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมา ช่องเอ็นบีทีปฏิบัติตนเป็นเครื่องมือของ “ระบอบทักษิณ” อย่างสมบูรณ์แบบ โดยใช้วิธีการบิดเบือนข่าวสารแต่อาศัยคำว่า “ข่าว” บังหน้า ตีข่าวเล็กให้เป็นข่าวใหญ่ ย่อข่าวใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก เพื่อมุ่งตอบสนองผลประโยชน์ทางการเมืองของตน และทำลายศัตรูทางการเมืองอย่างไม่แยแสถึงเงินภาษีของประชาชนที่ใช้ก่อตั้งและหล่อเลี้ยงสถานี นอกจากนี้ยังมีรายการที่จงใจสร้างขึ้นเพื่อโจมตีศัตรูทางการเมืองของพรรคพลังประชาชนโดยเฉพาะพันธมิตร นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งที่เราเห็นได้ชัดที่สุดก็คือรายการความจริงวันนี้ซึ่งมีความพยายามในการนำเสนอเนื้อหาที่ทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันต่างๆ ในบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง เช่น สตง. ป.ป.ช. สถาบันตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ธรรมชาติของสื่อมวลชนไทยนั้นจริงๆ แล้วก็แค่มักจะสำคัญตัวผิด ยิ่งสื่อที่อยู่ใกล้ชิดหรือสนิทสนมกับนักการเมือง-ผู้มีอำนาจมากก็ยิ่งสำคัญตัวเองผิดมากและจนกระทั้งนึกว่าตัวเองเป็นผู้มีอำนาจเสียเอง

กษิต ภิรมย์อดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศเพียบพร้อมทุกด้านทั้งชาติตระกูลและการศึกษาและการทำงาน
กษิต ภิรมย์มีความรู้ความสามารถ หลังการรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศนับว่าโดดเด่นชนิดที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง
กษิต ภิรมย์เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยในรัสเซีย อินโดนีเซีย เยอรมันนี ญิปุ่น และสหรัฐอเมริกาก่อนเกษียณอายุราชการในตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี
กษิต ภิรมย์เข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 1 และในยุคที่อภิสิทธิ์เป็นผู้นำฝ่ายค้านเขาก็เป็นรองนายกฯเงา
กษิต ภิรมย์หาญกล้าทัดทานอำนาจการเมืองในเรื่องที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน
กษิต ภิรมย์ได้ทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่มีสำนึกรับผิดชอบและตื่นตัวต่อเรื่องราวของบ้านเมืองมีเจตนาและความตั้งใจดี
กษิต ภิรมย์รักและเป็นห่วงชาติบ้านเมืองที่กำลังตกต่ำลงมากด้วยน้ำมือของคนไทยด้วยกันที่ขายชาติขายแผ่นดินเพื่อแลกกับผลประโยชนส่วนตัว
กษิต ภิรมย์เป็นคนที่รู้จัก กาละเทศะและเป็นสุภาพบุรษเสมอ
กษิต ภิรมย์เป็นพลเมืองที่มีสำนึกต่อบ้านเมือง ควรได้รับการสดุดีมากกว่าถูกกล่าวหา
กษิต ภิรมย์รู้เท่าทันและหาญกล้าที่จะรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติมากกว่าจะไปช่วยรักษาผลประโยชน์ส่วนตัวให้ทักษิณ
กษิต ภิรมย์จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้น ประชาคมโลกจะไม่ตกอยู่ภายใต้อวิชชาที่บริษัทล็อบบี้ยิสต์ภายใต้การว่าจ้างของทักษิณให้บิดเบือนและใส่ร้ายประเทศไทยไว้
กษิต ภิรมย์มีข้อมูลด้านต่างประเทศอยู่เต็มมือว่าทักษิณได้ทำร้าย ทำลายประเทศตัวเอง ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปหาประโยชน์ส่วนตัวอย่างไรบ้างและยังต้องมีผลสะเทือนต่อการหลบหนีคดีในต่างประเทศ
กษิต ภิรมย์จะมีบทบาทอย่างมากในการจัดการกับอดีตนายกทักษิณบนเวทีโลก

กษิต ภิรมย์วอนทุกฝ่ายอย่าตัดตอนมองการปิดสนามบินพันธมิตรเป็นคนทำ ย้ำไม่ใช่เรื่องสนุก ชี้ต้นเหตุมาจาก รบ.ทรราช บิดเบือนความจริง แถมยกปราสาทพระวิหารให้เขมร กลับยกเป็นวีรกรรม ดังที่การทำงานของผู้สื่อข่าวต่างประเทศของเดลิเทเลกราฟเป็นการทำให้กระดาษของเดลิเทเลกราฟเปื้อนหมึกจริง ๆ ช่างคล้าย ๆ กับหนังสือพิมพ์บางฉบับของไทยเลยพยายามจะบิดเบือนบริบทของเรื่องท่านทูตที่มันตัดตอนเอาแต่เฉพาะคำพูดติดตลกของท่านกษิตเรื่องการไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรที่เรียบร้อยดีปราศจากความรุนแรง ผู้ชุมนุมสนุกสนานและอาหารอร่อยด้วย

เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าการชุมนุมเป็นไปในทางสันติ ไม่มีความรุนแรง เป็นก้าวหน้าในเรื่องของประชาธิปไตยในไทย ทำให้ประชาชนตื่นตัวเรื่องการเมืองมากขึ้นและเกลียดการคอร์รัปชั่นของรัฐบาล ตลอดจนถูกทำร้ายเข่นฆ่ารายวันอย่างไร้มนุษยธรรม ประชาชนกลุ่มนี้ได้แสดงออกให้นานาชาติรู้แล้วว่า รัฐบาลที่ผ่านๆมานี้เป็นรัฐบาลขายชาติ เข่นฆ่าประชาชนรายวันและหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปเท่านั้นเอง คาดกันว่าคนที่เล่นข่าวพวกนี้ก็เลยกังวลว่าทักษิณจะสูญเสียผลประโยชน์ทำให้ในวันนี้กษิต ภิรมย์ต้องตกเป็นเป้าการเมืองของบริวารระบอบทักษิณมากที่สุดไม่ใช่เพราะว่าเป็น "ปมด้อย" หรือ "จุดอ่อน" ของรัฐบาลชุดนี้แต่น่าจะเป็นเพราะ "ความเจ็บแค้นส่วนตัวของทักษิณ" หรือ "หวาดกลัวในความเด่นดีของรัฐมนตรีคนนี้" มากกว่า

สนามบินสวรรณภูมิก็เป็นอีกแห่งที่สร้างความอัปยศอดสูให้กับคนไทยทั้งชาติ ที่เราทำการเมืองภาคประชาชนยึดแค่ทางเข้าสนามบิน..เราไม่ได้ยึดสนามบิน โกดัง ลานบิน หลายท่านก็พูดเกินไป การกระทำของเราชาวพันธมิตรถือว่าถูกต้องแล้วเพราะต้องการหยุดการกระทำที่ที่รัฐบาล ทักษิณ-สมัคร-สมชาย-กระทำการต่อๆ กัน มันเสียหายหลายแสนล้าน มากกว่าการปิดสนามบินหลายร้อยเท่า..คนไทยที่ต้องเดือดร้อนไปตลอดชีวิตหากเราเจอรัฐทรราชปกครองแผ่นดิน เพราะเรามีรัฐบาลที่คิดแต่จะกอบโกย โกงบ้านโกงเมือง ทำลายสถาบันทุกสถาบัน ไม่เว้นแม้แต่สถาบันครอบครัวตัวเอง หากเราหยุดการกระทำของทรราชได้ ประเทศไทยเราจะกลับมาอยู่กันอย่างสงบสุข ทุกคนมีสันติสุขถ้วนหน้าการที่นักท่องเที่ยวเจอปัญหานิดหน่อยไม่กี่วัน คุณที่บอกว่าจะเดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ได้ไป ทำให้คุณเดือดร้อน คนไทยที่ทำส่งออกตายทั้งเป็น ฝรั่งที่เขาออกมาโวยวายว่าเดือดร้อนก็ไม่ใช่จะไม่เคยเจอที่บ้านเขากัน ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวกระจายกันไปตามแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ต้อนรับกันไม่หวาดไม่ไหว มือเป็นระวิง การส่งออก นำเข้าก็ได้รับผลกระทบใช่แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะการชุมนุมต้องไม่ลืมว่าการที่อมเริกาประสบปัญหาทางเศรษฐกิจนั้นเป็นปมหลักที่ให้ตัวเลขที่เคยงามของการส่งออกนั้นลดลงเป็นหลักต่างหาก สนามบินถูกปิดลงเองโดยผู้มีอำนาจของการท่าฯอย่างไม่เป็นขั้นเป็นตอน การลงโทษคนสั่งปิดก็เพียงแค่การตักเตือนจากคณะกรรมการบริหารการท่าฯเพราะเขามีสายสัมพันธ์กับผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เป็นพิธีกรรายการความเท็จวันนี้

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ