04 มิถุนายน 2552

พรรคการเมืองใหม่-New Politics Party

จากการตรวจสุขภาพหลินฮุ่ยและแพนด้าน้อยทั้งแม่และลูกร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ หลินฮุ่ยคาบลูกหมีแพนด้าอย่างทะนุถนอมและไม่ปลอยให้ห่างจากอกแม่ หลินฮุ่ยไม่ยอมกินไผ่แต่ที่สุดหลินฮุ่ยก็ต้องกินเราคงให้เริ่มกินของที่ชอบก่อนและค่อยๆ เพิ่มปริมาณ แพนด้าทุกตัวต้องกินไผ่เพราะมีประโยชน์ต่อระบบลำไส้ การขับถ่าย คนไทยเราหลายๆคนคงไม่ค่อยได้รู้ว่าการมีฑูตสันถวไมตรีไทย-จีนคู่นี้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก่จีนเป็นรายเดือนเป็นเงินไม่น้อย ยิ่งฑูตคู่นี้ทะลึ่งมีลูกด้วยกันอีก ไทยเราก็ยิ่งต้องจ่ายค่าตัวฑูตอีกทั้งค่าสนับสนุนแรกเกิดแล้วถ้าหากเรายื้อเอาไอ้ตัวเล็กไว้ยิ่งต้องจ่ายหนักเข้าไปอีก มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดที่แม่กาจะต้องเลี้ยงลูกกาเหว่าทั้งๆที่ลูกแม่กาเองนั่นแหละที่จะสูญพันธ์ ทั้งนกเงือก ปูสิรินทรหรือสัตว์พื้นบ้านอื่นๆของไทยเราเองที่ใกล้จะสูญพันธุ์แต่นักการเมืองตระกูลห้อยกลับไม่สนใจคอยจะกินบ้านกินเมืองส่วนนักการเมืองตระกูลโหนมัวแต่จะโหนกระแสขอลูกกาเหว่าไว้เลี้ยงต่อด้วยการขอเลี้ยงแพนด้าน้อยไว้ต่อไปอีก

การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุดไม่กล้าชี้ขาดโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน มูลค่า 6 หมื่นกว่าล้านบาทซึ่งน่าจะเป็นอนุสรณ์เตือนสติคนไทยได้เป็นอย่างดี นายกอภิสิทธิ์ก็ตัดสินใจหักดิบยังไม่อนุมัติตามคำขอ แต่ยังถนอมน้ำใจนิดหน่อยโดยตั้งคณะกรรมการให้กลับไปศึกษามาใหม่ ประชาธิปัตย์ต้องการประคับประคองยืดอายุรัฐบาลให้อยู่ได้นานที่สุดภูมิใจไทยเองลึกๆ ก็ยังไม่พร้อมที่จะถอนตัวจากรัฐบาลมติครม.ที่ออกมาก็คงเป็นเพียงการหนีปัญหาได้ชั่วคราวเท่านั้น แม้จะสร้างความผิดหวังอย่างมากให้กับเจ้าของกลุ่มเพื่อนเนวินแต่อย่าลืมว่าโครงการการขายข้าวโพดและโครงการอื่นๆของนักการเมืองตระกูลห้อยยังรออนูมัติอยู่อีกมากมาย แต่ถึงแม้โครงการนรกดังกล่าวจะยังไม่ล้มหายตายจากไปอย่างเด็ดขาดเสียเลยทีเดียวคนมีสามัญสำนึกทั่วไปควรจะเกิดความละอายประกาศล้มเลิกหรือเริ่มต้นโครงการใหม่สร้างการยอมรับและความโปร่งใสของโครงการโดยเน้นรักษาผลประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม รัฐบาลน่าจะถือเป็นโอกาสประกาศสงครามกับการทุจริตคอรัปชั่นอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ประเทศไทยเข้มแข็ง แต่อนิจจารองนายกด้านความมั่นคงออกมายืนยันแล้วว่าไม่ล้มโครงการรถเมล์เอ็นจีวีแต่จะจัดซื้อหรือเช่าเท่านั้น

ภาคประชาชนก็ควรจะร่วมด้วยการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบและเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้โดยทั่วกันสังคมก็จะยิ่งตื่นตัว การเมืองใหม่เป็นการเมืองที่ไร้มลพิษ โปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต สร้างชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์โดยใช้ธรรมนำหน้า จากทุกภูมิภาค ทุกภาคส่วนและทุกสาขาอาชีพมาร่วมมือกันเพื่อโอบอุ้มและลงมือทำการเมืองใหม่ด้วยมือประชาชนเอง แน่วแน่ที่จะยึดมั่นอุดมการณ์ด้วยความเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญด้วยความสามารถเต็มที่ ในการเปรียบเทียบในเชิงปริมาณจากผลการเลือกตั้งที่ฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่ประมาณ 7 ล้านเสียงในช่วงปี 2544 – 2548 และพรรคไทยรักไทยมีคะแนนเสียงสูงสุดที่ 19 ล้านเสียงในปี 2548 แต่ภายหลังจากการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี 2549 ประชาธิปัตย์มีเสียงเพิ่มขึ้นประมาณ 6 ล้านเสียงในปี 2550 ในทางตรงกันข้ามพรรคพลังประชาชนฐานเสียงหายไปประมาณ 6 ล้านเสียงเช่นเดียวกัน การโยกย้ายนั้นน่าจะเกิดจากอิทธิพลหลังการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายคะแนนถึง 6 ล้านคะแนน เมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดตั้งพรรคการเมืองตามฉันทามติของประชาชนในนามการเมืองใหม่ที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “New Politics Party” ใช้ชื่อย่อภาษาไทยว่า ก.ม.ม. และมีตัวย่อภาษาอังกฤษว่า “N.P.s.P” ส่วนตัวอักษร N.P หรือ N.P.P. นั้นมีพรรคการเมืองใช้แล้วไม่สามารถใช้ซ้ำได้อีก มีกลุ่มผู้ก่อการดีมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิงได้มารวมตัวกันเพื่อก่อตั้งพรรคก็แตกต่างกับหลายพรรคการเมืองที่ประชุมเพื่อก่อตั้งพรรคการเมืองตามเอกสารเท่านั้นและก็ไม่ได้มีการประชุมกันจริงโดยตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกภูมิภาคและหลากหลายอาชีพในบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง

การเมืองใหม่การเมืองที่เลือกข้างในคุณงามความดี ยึดมั่นในจริยธรรม และศีลธรรม เลือกข้างความซื่อสัตย์ สุจริต ด้วยความเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม กล้าหาญในการตัดสินใจ เปลี่ยนแปลงพร้อมเลือกข้างความถูกต้องชอบธรรม ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมืองร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างโปร่งใส ส่งเสริมให้คนดีปกครองบ้านเมือง และหาทางป้องกันมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ ทำให้ระบบเศรษฐกิจที่สร้างความเป็นธรรมในสังคมและเน้นผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก พัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นฐานในการดำเนินชีวิตและอาชีพตามภูมินิเวศน์ ทำให้ประชาชนเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งด้วยการศึกษาที่มีคุณภาพที่ใช้ได้ในชีวิตจริงควบคู่ไปกับคุณธรรมเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เปิดกว้างในข้อมูลข่าวสารให้พัฒนาก้าวไกลด้วยข้อมูลข่าวสาร ปฏิรูปสื่อให้เป็นองค์กรพัฒนาจิตสำนึกและศักยภาพของคนในชาติ

จากการสำรวจผู้ที่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา ปี 2552 มีจำนวน 9,338,200 คน แต่มายื่นเสียภาษี 7,618,319 คน ซึ่งตามกฎหมายสามารถยื่นบริจาคให้พรรคการเมืองไม่เกินรายละ 100 บาท ตามมาตรา 58 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ซึ่งปรากฏว่ามีการยื่นแสดงความจำนงบริจาคให้พรรคการเมืองเพียง 66,364 คน ในปีแรกนี้มีประชาชนได้ยื่นบริจาคภาษีให้พรรคประชาธิปัตย์ 57,124 ราย คิดเป็นเงินประมาณ 5.7 ล้านบาทที่เหลือจากยอดบริจาคให้พรรคอื่นๆ ซึ่งได้รับน้อยมากถ้าพรรคการเมืองใหม่เป็นความหวังของประชาชนที่ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนและทำประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างแท้จริงเงินภาษีดังกล่าวซึ่งมีวงเงินประมาณเกือบพันล้านบาทอาจจัดสรรให้กับพรรคการเมืองแห่งความหวังของประชาชนได้

ไม่มีความคิดเห็น: