03 สิงหาคม 2552

ผม ทหารของชาติและทหารของพระเจ้าอยู่หัว ก๊าบ


เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ธรรมะหรือความถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อทุกๆคนในทุกๆ สังคม ถ้าหากลองขาดเสียซึ่งธรรมะเสียแล้วก็ย่อมนำมาซึ่งความสับสน ความปั่นป่วน วุ่นวาย ภายในสังคม ทำให้เกิดความทุกข์บนความเดือดร้อนต่อประชาชนด้วยกันทั้งสิ้น ประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นธรรมนั้นไม่ว่าจะเรียกขานด้วยคำนิยามแบบไหนก็แล้วแต่...จะขาดเสียซึ่งธรรมะมิได้โดยเด็ดขาด...

26 กรกฎาคมที่ผ่านมาแกนนำเสื้อแดงได้จังหวะวางบิลกับคนไทยคนแรกที่มีคนร่วมอวยพรและจัดงานวันเกิดรวมถึงมหกรรมพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ให้ทั้งประเทศในงานแซยิดที่สร้างความร่ำรวยทันตา ให้แก่แกนนำเสื้อแดง มีการเล่นของ ปักกลดขึงผ้าดำโยงสายสินธ์พันกันไปพันกันมาแล้วเกณฑ์พระสงฆ์องค์เจ้ามานั่งล้อมวงคว่ำบาตร-หงายบาตรเหลือแต่ยังไม่ได้ควักควายธนูออกมาปลุกเสก บรรยากาศมันเลยออกไปทางมนต์ดำไม่ได้มีกลิ่นอายงานบุญงานกุศลเอาเลยแม้แต่น้อย อาศัยงานแซยิดมาทำการล่ารายชื่อประชาชนเป็นล้านๆเกิดจากการยุแยงตะแคงรั่วเพื่อบีบบังคับให้อาชญากรพ้นผิดโดยไม่ได้มองประชาชนอีก 60 กว่าล้านคนที่อยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกันว่าจะยอมกันไม่

แกนนำเสื้อแดงบางคนก็ได้โอกาสใครไอเดียดี ไอเดียเด็ดต้องงัดออกมาแสดงให้นายใหญ่ได้เห็นว่าฉันทำเพื่อนายจริง หลายๆคนสู้แล้วรวย ส่วนเจ้าภาพจะหมดจากงานครั้งนี้เท่าไหร่มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด “ข้าฯ อยู่ไม่ได้ คนอื่นก็อยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน”

ถ้าคิดจะขจัดความทุกข์ยากด้วยการสร้างกรรมใหม่เพื่อหวังที่จะลบล้างกรรมเก่าไม่ว่าจะโดยการไปลากเอาพระสงฆ์องค์เจ้าออกมาเสกมนต์ดำก่อให้เกิดกรรมกันเห็นๆ อาศัยความไม่รู้ของปวงชนมาใช้เป็นเกราะป้องกันการต้องโทษและยังเป็นการเบียดเบียนสถาบันสำคัญอันเป็นหลักของชาติอย่างตรงไป-ตรงมา คำว่าประชาธิปไตยในความหมายของผู้ซึ่งรักทักษิณมันจึงออกมาในแบบเลอะเทอะเละเทะสะเปะสะปะหนักขึ้นๆทุกที ยิ่งดูนักประชาธิปไตยเสื้อแดงทั้งหลายที่กรูกันเข้าไปล้อมโอ่งน้ำมนต์เพื่อหาเลขเด็ดเป็นของแถมหลังจากที่การสวดแล้วย่อมถือเป็นภาพสะท้อนการเมืองไทยภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนยังไม่ได้พัฒนาอย่างเห็นได้ชัด

D Station ทีวีดาวเทียมก็กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ระดมคนมาป่วนกรุงเทพได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ล่มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยาจนสำเร็จหรือเล่นงานอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีและสุเทพเทือกสุบรรณเกือบเอาตัวไม่รอดที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อถูกปิดไปก็ผุด People Channel ขึ้นมาแทนเชื่อมต่อคนเสื้อแดงที่สู้เพื่อทักษิณได้ตลอดเวลาแพร่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคยกเว้นภาคใต้สามารถหาดูได้อย่างง่ายดายจากเคเบิลทีวีท้องถิ่นไม่นับรวมสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผุดขึ้นมาชนิดที่ไม่ต้องการโฆษณาก็อยู่ได้อีกหลายฉบับหรือมีทีมข่าวที่ยังคงอยู่ในสายของทักษิณไปรวมศูนย์กันที่ช่องฟรีทีวีเรตติ้งสูงอีกที่คอยสนับสนุนและวิทยุชุมชนอีกทั่วประเทศที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ดหน้าฝน คนพวกนี้ผลิตรายการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อช่วยทักษิณคืนเมืองโดยไม่สนใจบรรทัดฐานของกฎหมายและหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น

เดี๋ยวนี้มีภาพของนักโทษหนีคดีผุดขึ้นมาแทนที่ในรูปแบบเพลงและมิวสิควิดีโอที่ดูไปก็คล้าย“สรรเสริญพระบารมี”ไม่ผิดเพี้ยนไปหาดูได้จากทีวีเสื้อแดง

ท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์และอภิปรายถกเถียงทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่อกรณีการถวายฎีกาในครั้งนี้ นับเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศ ที่เรามีสุเทพ เทือกสุบรรณที่เป็นถึงคนคุมความมั่นคงภายในประเทศแต่กลับปล่อยให้เสื้อแดงและหัวหน้าของมันอาละวาดไปทั่วทั้งแผ่นดินอย่างไม่ยำเกรงตัวบทกฎหมาย ท่องแต่คำว่าไม่มีเขา เราไม่ได้เป็นรัฐบาล ปกปิดความจริงปล่อยให้ประชาชนผู้รู้ไม่เท่าทันก็ตกเป็นทาสข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนของทักษิณต่อไป ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมีความสับสน ประชาชนก็ต้องสับสน หน่วยงานต่างๆ นอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็นหายไปไหนกันหมดนับเป็นอาเพศอย่างหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมือง ผู้คนแตกแยกแตกสามัคคีที่มุ่งร้ายหมายขวัญต่อกันประหนึ่งว่าเป็นศัตรู แต่กลับไม่มีความรู้สึกนึกคิดร้อนหนาวประการใดตอบโต้อริราชศัตรูตัวจริงหรือกับผู้ที่เป็นศัตรูของชาติเลย ไม่เพียงแค่นั้นใครกันคือผู้อยู่เบื้องหลังความหายนะทั้งปวงของชาติบ้านเมืองในวันนี้และใครกันช่วยคนชั่วปกปิดความจริงและใครกันกำหนดท่าทีที่แข็งขืน “ปล่อยให้พวกบ้านพระอาทิตย์มันด่าต่อไปเรื่อยๆ มันจะกล้ามาทำอะไรเราได้ ไม่ต้องกลัวพวกมัน”

พอมีคดีลอบยิงนายสนธิหน้าที่ของนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคือเมื่อพนักงานสอบสวนบอกว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในการทำคดี เรื่องมีแค่นั้นแต่ระหว่างที่ทำงานตรงนี้กลายเป็นว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โตว่าจะปลดผบ.ตร.หรือไม่ปลด โยกย้ายหรือไม่ จะมัวเสียเวลากับเรื่องแค่นี้จนลืมไปว่าเป้าหมายสุดท้ายคือเรื่องคดี ถ้าให้บรรยากาศทุกคนไม่มีข้อครหามัวแต่พิสูจน์ว่าอันไหนจริงเท็จพอดีคนทำงานคลี่คลายคดีตรงนี้เกษียณไปเสียก่อน "เอาว่าอุปสรรคเป็นอย่างนี้ ผบ.ตร.เสนอมาเรื่องลาและเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง ผมก็เห็นด้วยก็คือตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องจะลาเมื่อไหร่ ลาพักร้อน พักหนาว ไปเมืองนอกหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ ตนให้ความเป็นธรรมและให้เกียรติกับทุกคน"นายกรัฐมนตรีกล่าว อาจเป็นเพราะอยู่ในภาวะกดดันจึงทำให้สุเทพเทือกต้องพูดออกมาว่าคุณพัชรวาทไม่ผิด

ไม่ผิดหรอกที่ใครสักคนและกระทั่งพี่ป้อมที่เป็นถึง รมว.กลาโหมคุมกองทัพมีอำนาจอยู่ในมือแล้วจะนิ่งดูดายได้อย่างไรจะคิดว่าน้องใครใครก็รัก ถึงแม้น้องป๊อดจะนั่งเอาตีนราน้ำไม่เคยคิดจะช่วยอะไรให้บ้านเมืองเลยเพราะแม้แต่จะช่วยตัวเองก็ยังแทบจะทำไม่ได้ ร้อนถึงพี่ชายต้องอุ้มเข้าเอว ออกมาอาละวาดฟาดงวงฟาดงา ถามว่าน้องผมผิดอะไร(ทำไมต้องปลด) แถมยังส่งคนใกล้ชิดออกมาพูดจาทำนองข่มขู่รัฐบาลอีกต่างหาก การที่เลขานุการของพี่ป้อมยังออกมาขู่ว่าถ้าน้องป๊อดเป็นอะไรไปพี่ป้อมจะตอบโต้ทั้งวิธีการในกฎหมายและนอกกฎหมาย ทำนอกกฎหมายคือทำอะไรหรือพี่ป้อม จะยิงใครอีก มันเป็นไปได้อย่างไรรัฐมนตรีซึ่งยืนถวายสัตย์กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีเลขานุการตัวเองบอกว่าจะสู้ในกฎหมายและนอกกฎหมายมีอย่างที่ไหน

น้องป๊อดเองก็ยังกระตุ้งกระติ้งกระดี๊กระด๊า โดยมีรายงานออกมาว่า 3 สิงหาคมนี้จะไปทำงานตามปกติที่สตช.ก่อนที่จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีนในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ เป็นเวลา 10 วันจากนั้นจะกลับมาทำงานต่อไม่มีการลาราชการตามที่นายกรัฐมนตรีออกมาระบุ คนหน้าหอออกมาขู่อีกหากมีการฟ้องและศาลสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่คนที่หักพร้าด้วยเข่าออกคำสั่งต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ วันนี้เห็นได้ชัดแล้วว่าน้องป๊อดส่งสัญญาณชัดเจนขัดขืน-แข็งข้อ ต่อผู้นำประเทศโดยไม่ลาพักทั้งสั้นทั้งยาว จะเป็น ผบ.ตร.ต่อไป แค่ข้อเสนอแนวนิ่มที่นายกฯอภิสิทธิ์แนะทางออกให้ลาราชการถูกตอกกลับหน้าหงายแบบนี้ดาบผู้นำเลยไร้ความศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นของเล่นพลาสติกใช้จิ้มแหย่เล่นเท่านั้น
หรือน้องป๊อกแป๊กที่ได้สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนอย่างยิ่งกับการที่ไม่ยอมออกมาแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบัน “ผมในฐานะทหารของชาติและทหารของพระเจ้าอยู่หัวไม่มีความเห็นครับ” ทั้งที่การเป็นทหารของชาติจะต้องมีหน้าที่หลักคือพร้อมปกป้องและพลีกายถวายชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่ทั้งพี่ป้อม-น้องป๊อดกำลังซวนเซเจียนอยู่เจียนไปหลายรอบทว่าเมื่อพี่ป้อมหวังในตัวน้องป๊อกแป๊กอย่างมากนั้นเหลียวหากำลังใจจากน้องป๊อกแป๊กเพื่อหวังให้น้องป๊อกแป๊กมาช่วยค้ำเก้าอี้อำนาจให้น้องป๊อดอีกแรง

ด้วยที่พี่ป้อมรู้ดีว่านายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้นเกรงใจน้องป๊อกแป๊กอย่างมากหลังจากช่วยทำให้อภิสิทธิ์ผ่านพ้นวิกฤตการเมืองช่วงสงกรานต์เลือดมาได้ แต่น้องป๊อกแป๊กกลับเลือกที่จะเล่นบทประคองตัวปล่อยให้พี่น้องเผชิญชะตากรรมกันไปเองจนต้องไปพึ่งบริการทางการเมืองจากคนเสื้อน้ำเงินให้เชื่อมต่อไปถึงตอกย้ำต่อมความทรงจำไม่มีเขาก็ไม่มีเรา พี่ป้อมฟาดงวงฟาดงาได้ร้อนเร่าเสียจนน้องป๊อกแป๊กที่กลมกลืนทุกค่าย-เข้าได้ทุกขั้วต้องเพลย์เซฟอีกครั้งด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นยิ่งของนายพลผู้นี้ที่สามารถเล่นเกมกับอำนาจได้อย่างช่ำชองและมักไม่พลาด

แต่เมื่อพี่ป้อมยังไม่รู้ว่า “น้องผมผิดอะไร” ก็จะตอบให้ตาสว่าง เอาไอ้ที่ความผิดที่มีผลสำเร็จแล้วก่อน ส่วนความผิดวินัยและอาญาตามมาตรา 157 นั้นให้อดใจรอผลการชี้มูลของป.ป.ช.ชี้มูลในราวกลางเดือนสิงหาคมนี้ก่อนก็ได้

1) เริ่มจากมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดย “มิชอบ” ทำให้ราชการเสียหายกรณีเป็นประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทผลิตรายการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 18.766 ล้านบาท เข้าข่าย “ฮั้ว” กับเอกชน ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสอดีตผบ.ตร.เคยตั้งคณะกรรมการสอบสวน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.51 แล้วพบว่ามีความผิดจริง
2) จากนั้นจึงได้ทำหนังสือถึงสมัคร สุนทรราชให้ย้ายน้องป๊อดมาช่วยราชการสำนักนายกฯ แต่เรื่องก็ถูกดองไว้จนกระทั่งในยุคของสมชายวงศ์ชายกระโปรงเป็นนายกฯ
ก็ได้ใช้เป็นเหตุผลลงนามย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เมื่อ 28 พ.ย.51 แม้ว่าลึกๆแล้วจะมีเรื่องอื่นอีกหลายอย่างก็ตาม แต่นี่คือเครื่องยืนยันความผิดของน้องป๊อด แม้ว่าต่อมา ชวรัตน์ ชาญวีรกูลที่รักษาการรองนายกฯปฏิบัติราชการแทนนายกฯขณะนั้นจะลงนามโยกให้มานั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ดังเดิมแบบมีเงื่อนงำก็ตาม
3) เรื่องที่ปล่อยให้คนเสื้อแดงไม่กี่ร้อยคนทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเมื่อเดือนเมษายนที่พัทยาหรือปล่อยให้มีการทุบรถนายกฯ มุ่งหมายเอาชีวิตกันกลางเมือง อย่างนี้น้องป๊อดในฐานะผบ.ตร.ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ การประชุมสุดยอดผู้นำไม่ใช่ประชุมสุดยอดผู้นำท้องถิ่นแถวบุรีรัมย์นะ
4) เหตุการณ์ที่พัทยาทั้งพี่ป้อมและสุเทพเทือกต่างก็มีความผิดและจะต้องร่วมรับผิดชอบในฐานะผู้นำกองทัพและมีกำลังทหารไปรักษาความสงบด้วย นี่ยังไม่นับเหตุร้ายที่กระทรวงมหาดไทยชาวบ้านร้านช่องเห็นภาพพี่ป้อมสติแตกสั่งให้ทหารติดตามและพลทหารออกไปรับหน้าพวกเสื้อแดงว่า “มึงออกไปๆ” เพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น

5) น้องป๊อดได้มอบหมายสั่งการให้ลูกน้องเป็นผู้รับผิดชอบและปฏิบัติการสลายการชุมนุมในเหตุการณ์ 7 ต.ค. 2551 ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ประชาชนอย่างร้ายแรง เสียชีวิต พิการ ขาขาด แขนขาด ลูกตาหลุด เนื้อสมองเสียหาย และบาดเจ็บอีกจำนวนหลายร้อยคน
นี่ไงความผิดของน้องป๊อดในต่างกรรมต่างวาระและยังมีกรณีถูกสงสัยว่าเป็นตอใหญ่ขัดขวางคดีลอบยิง สนธิ ลิ้มทองกุล โดยไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ฯ ฯลฯ แค่นี้ผิดพอหรือยัง นายกฯอภิสิทธิ์ต้องกล้าหาญ อย่าไปกลัวคำขู่รีบร่างหนังสือแล้วเข้าเฝ้าฯ เลย จะปลดใครก็ปลดเลย คนบางคนนั้นเวลาใหญ่และดูเป็นนักเลงเที่ยวข่มขู่คนโน้นคนนี้เพราะตัวเองมีตำแหน่ง แต่เมื่อใดหลุดจากตำแหน่งเมื่อไม่มีลูกน้องที่คุมกำลังก็หมดความหมาย

พี่น้องทหาร ตำรวจ และประชาชนถูกฆ่าฟันบาดเจ็บล้มตายลงเป็นเบือทุกวันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่มีใครรู้สึกรู้สา เขมรเหยียดหยามเกียรติศักดิ์ของกองทัพไทยต่อให้สามต่อหนึ่งเลยเอา เขมรส่งกำลังทหารเข้าไปยึดที่ดินรอบปราสาทเขาพระวิหารเพิ่มเติมไปอีก 4.6 กิโลเมตร ขับไล่ทหารไทยออกนอกพื้นที่แล้วยึดครองอย่างสมบูรณ์ก็ไม่มีใครพูดจาว่ากล่าว เขมรแย่งยึดดินแดนอันเป็นอธิปไตยในอ่าวไทยเอาไปให้ชาติอื่นสัมปทานสำรวจขุดเจาะก๊าซและน้ำมันก็ไม่มีใครรู้สึกรู้สา พวกอริราชศัตรูจาบจ้วงล่วงละเมิดพระมหากษัตริย์ก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้สึกนึกคิดใดๆ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการและชาวบ้านตาสี ตาสา ยายมา ยายมีอย่างเราๆท่านๆให้ช่วยกันเตรียมปี๊บไว้สำหรับคลุมหัวจะได้ไม่ต้องคิดคำนึงถึงศักดิ์ศรีเกียรติภูมิใดๆ อีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: