16 พฤศจิกายน 2552

ปริศนาเจ้าองค์ที่ 10

ปฏิญญาฟินแลนด์ คือแนวทางในการปกครองประเทศไทยที่ทักษิณกับแกนนำในการก่อตั้งพรรคไทยลักไทยบางคนไปหารือร่วมกันที่ประเทศฟินแลนด์โดยมียุทธศาสตร์ 5 ขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประกอบด้วยการตั้งพรรคการเมืองใหญ่พรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาลและมีผู้นำคนเดียว, การเปลี่ยนแปลงระบบราชการเป็นแบบซีอีโอ, การแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการ, การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปลงทุนให้เป็นสินทรัพย์และการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ ปฏิญาฟินแลนด์แม้ไม่มีปรากฎในรูปเอกสารที่จะนำมายืนยันอ้างอิงได้ก็ตาม ตั้งแต่ครั้งพรรคไทยลักไทยเรืองอำนาจ เว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพเกิดเป็นจำนวนมากขึ้นราวกับดอกเห็ดทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐบาลสมัยนั้นพยายามเปลี่ยนเนื้อร้องทำนองเพลงชาติ-เปลี่ยนบัตรประชาชน ตั้งสมเด็จพระสังฆราชซ้อน ไทยคู่ฟ้าเทียบชั้นประมุขอย่างแอร์ฟอร์ซวันของประธานาธิบดี ทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตีตนเสมอเจ้า นั่งบนพรมแดงเป็นประธานในวัดพระแก้ว ทำลายพล.อ.เปรมกระทบชิ่งสถาบัน อุปโลกน์ให้ทักษิณเป็น“พระเจ้าตากสิน” มีภาพวาดพญากือนาจงใจวาดพระพักตร์ของพญากือนาในยุคหลายร้อยปีก่อนให้มีเหลี่ยม หล่อรูปปั้นพระพุทธรูปชินวัตรมุณี อุปโลกน์พระเจ้ามูลเมืองในงานอ้างบุญเขียนชื่อบุคคลระดับสูงที่ชาวบ้านทั้งประเทศเคารพนับถือเพื่อทำพิธีการปัดเป่าให้พ้นไป ใช้วัดธรรมกายขยายมวลชนที่แอบอ้างว่าแม่ชีจันท์ หางเสือเรือล่มอวดอุตริสวดมนต์ภาวนาอย่างหนักและนานจนเด็กอ้วนสองลูกไปถล่มฮิโรชิมาแทนเมืองไทยเมื่อครั้งสงครามโลกมาแล้ว สื่อถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมืออย่างเป็นระบบทั้งประเภทสื่อหลัก สื่อรอง สื่อใต้ดิน ฟรีทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เว็บไซต์ ใบปลิว รวมไปถึงการปล่อยข่าวลือ นำเสนอรายงานเกี่ยวกับการโค่นล้มราชวงศ์เนปาล สารคดีเกี่ยวกับการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ในสาธารณรัฐฝรั่งเศส การโค่นล้มระบบกษัตริย์ในอังกฤษ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 4 ปีเต็ม สนธิ ลิ้มไม่เคยหยุดพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ถึงแม้จะถูกโจมตีใส่ร้ายป้ายสีจากระบอบทักษิณและลิ่วล้อตลอดจนสื่อมวลชนเสื้อแดงว่า แอบอ้าง ใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ เพื่อโค่นล้มทักษิณ ถึงแม้จะถูกพิพากษาลงโทษจำคุก หลายคดี ทักษิณและพรรคไทยลักไทยได้ฟ้องสนธิ ลิ้มกับกลุ่มผู้ที่คัดง้างกับตนอย่างหนัก การทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญญลักษณ์เท่านั้นเป็นปัจจัยหนึ่งในปฏิญญาฟินแลนด์ วันนี้บทสัมภาษณ์ในไทม์สออนไลน์เป็นใบเสร็จที่พิสูจน์ว่าสิ่งที่สนธิ ลิ้มพูดมาตลอดสี่ปีกว่านั้นเป็นเรื่องจริง ตั้งแต่รัฐบาลพรรคไทยลักไทยถูกโค่นลงจากอำนาจ ฮุนเซนเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่อบอุ่น ฮุนเซนต้องเผชิญหน้ากับกองทัพไทยที่มีพลังอำนาจอันเหนือกว่า ดังนั้นนับตั้งแต่ปี 2551 ฮุนเซนจึงต้องแสดงออกความเกรี้ยวกราดเพราะฮุนเซนเริ่มรู้ว่าไม่มีมิตรที่มีอำนาจเหลืออยู่อีกแล้วในกรุงเทพฯ ไม่แปลกที่นายทหารทุกคนของเขมรจะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าสู่ลูกน้องให้หยามกองทัพไทยกับบรรดาแม่ทัพนายกองนักออกรอบกอล์ฟ เพียงเพื่อให้ชาวเขมรเชื่อถือและศรัทธาในผู้นำ ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษหลังจากที่ถูกถีบจากตำแหน่งว่าเมื่อได้โอกาสเขาจะลักลอบเข้าประเทศไทยทางภาคอีสานซึ่งมีฐานมวลชนใหญ่ที่สุดของเขาอยู่แล้วค่อยเคลื่อนกระแสมวลชนเข้ามากดดันล้มรัฐบาล เกมโลกล้อมประเทศไทยของทักษิณ (โกงจน)ชิน(กินเป็นกิจ)วัตรที่ใช้ภาษาอังกฤษไม่เก่ง ปากไว ระหว่างที่เป็นนายกรัฐมนตรีหรือให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไทยมักจะพูดไทยคำ อังกฤษคำอยู่เสมอ โกหกกับใครก็ได้แต่ไม่สามารถหลอกลวงตัวเองได้และไม่สามารถปกปิดความคิดที่แท้จริงของตัวได้ สักวันหนึ่งจะเผลอหลุดความจริงในใจออกมาจนได้ บังอาจทำตัวเสมอเจ้าและหมิ่นเบื้องสูงอย่างหยาบคายเลวร้ายที่สุด ทำหลายต่อหลายครั้งมิใช่เพียงครั้งเดียวถ้าหากย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของทักษิณเราก็จะพบความเชื่อมโยงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของคนๆ นี้ว่ามีความคิดต่อสถาบันอันเป็นเคารพสักการะของคนไทยทั้งชาติอย่างไร บริวารแต่ละกลุ่มเดินเข้าจังหวะ ประสานสอดรับกัน ในประเทศ-นอกประเทศ ในสภา-นอกสภา คนที่อยู่รอบตัวทักษิณหลายคนที่มีพฤติกรรมทำนองเดียวกัน เช่น “สหายสมชาย” หรือ “ชูชีพ ชีวสุทธิ์” ที่ปัจจุบันหลบหนีการจับกุม หรือ เพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำกลุ่ม “คนรักเชียงใหม่ 51” ที่เคยกล่าวกระทบกระเทียบสถาบันสูงสุดอย่างหมิ่นเหม่เช่น “คนเชียงใหม่นับถือแค่กษัตริย์ 3 องค์เท่านั้นก็คืออนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางหลังเก่า(พญาเม็งราย พญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหง) ไปกรุงเทพฯก็สักการะเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น” ในจำนวนนี้ยังรวมไปถึง วีระ มุสิกพงศ์และจักรภพ เพ็ญแข สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์(แซ่ด่าน) หรือแม้แต่กระทั่ง ใจ อึ๊งภากรณ์ นักวิชาการ “แดงสยาม” รวมทั้ง สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ หรือ “สหายสมพร” อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ร่วมขบวนการด้วยโดยออกมาการันตีประกันตัว ดา ตอร์ปิโดถึงสองครั้งแต่ศาลยกคำร้อง กลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่มีวีระเป็นแกนนำยังได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการล่ารายชื่อประชาชนถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับทักษิณก็ถูกมองว่าเป็นการกดดันพระเจ้าอยู่หัว จากเรื่องในอดีตถ้าหากนำมาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาก็ยิ่งพบว่าเป็นสิ่งที่จงใจและเจตนาจะให้เกิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพขึ้น แต่คนพวกนี้ก็ขี้ขลาดไม่กล้าอยู่รอรับกรรมและความจริงล้วนแต่หลบหนีอาญาแผ่นดินออกไปนอกประเทศทั้งสิ้น ทักษิณเคยเข้าเขมรเมื่อเดือนเมษายนเมื่อช่วงเวลาเดียวกับที่เขาวิดีโอลิงก์ยั่วยุกลุ่มเสื้อแดงก่อจลาจลในไทยโดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายขณะกบดานอยู่ในเขมรที่ติดอยู่บนกำแพงของสโมสรนครวัด กอล์ฟคลับ ในจังหวัดเสียมราฐ ชื่อ "ทักษิณ" ถอดได้เลข 19 นามสกุล "ชินวัตร" ถอดได้เลข 28 จึงเป็นดวงที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลเลข 10 ทักษิณตอนนี้พักอยู่ที่คฤหาสน์หมายเลข E 46 ซอยแยกที่ 10 จากถนนเมน ของ Emirates Hills มีรถใช้หลายคันแต่ที่ใช้รับส่งแขกที่มาเยี่ยมเป็นรถตู้ BMW Multivan สีดำหมายเลขดูไบ F 7388 รถที่ใช้ส่วนตัวเป็นเก๋งหรู Bentley หมายเลขดูไบ F 54155 หมอดูอีทีบอกให้ใช้เลข 10 ดังนั้นในปี 2010 จะเป็นปีที่นักโทษหนีคดีรายนี้ทุ่มหมดหน้าตักเพื่อช่วงชิงอำนาจให้กลับคืนมานี่จึงเป็นปริศนาเจ้าองค์ที่ 10 กระนั้นไม่ว่าเลขอะไรก็ตามถ้าทำไม่ดีมันก็จบไม่สวยทั้งนั้นแหละ ดังนั้นสิบหน้าก็สิบหน้าเถิดถ้าประพฤติไม่ถูกต้อง ใช้สิบปากไวในทางอกุศลแบบที่เป็นอยู่ 10 ทศกัณฑ์ 10 หน้าตัวพ่อก็ไม่รอดพระรามหรอก ข่าวลืออัปมงคลเผยแพร่ไปตามเว็บไซต์และห้องค้าหุ้นซึ่งทำให้ตลาดหุ้นในวันที่ 14 และ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาทรุดลงอย่างหนัก นอกจากนี้คอลัมนิสต์ข่าวการเมืองบางฉบับยังปล่อยข่าวว่ามีสัญญาณพิเศษ ให้เลือกข้างให้ชัดเจนได้แล้ว การระดมเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ตบเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย และพล.ท.มนัส เปาริกอดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 เตรียมทหารรุ่น 10 ที่เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยที่เคยระบุว่า “ฝ่ายตรงข้ามเราพวกอำนาจนอกระบบผู้มีบารมีทั้งหลายกำลังมีปัญหาเรื่องอายุขัย ถามว่าวันนี้อายุเท่าไรแล้ว อยู่อีกไม่นานท่านเกินอายุขัยแล้ว ทุกอย่างจบแล้วจะอยู่ได้นานขนาดไหน ผู้มีบารมีและอำนาจนอกระบบที่คิดจะมาทำอะไรกับทักษิณและพรรคเพื่อไทยวันนี้จะอยู่ได้อีกไม่นาน บิ๊กป๊อกก็กำลังหาทางลง ทุกอย่างมันใกล้จบแล้ว” การใช้กับฮุนเซนมาย่ำยีกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ระบุว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีคำพิพากษาภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีคำตัดสินที่ไม่เป็นธรรมในดดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ แต่ทักษิณพร้อมที่จะรับพระบรมราชโองจากพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนีกษัตริย์ตรายางแห่งราชอาณาจักรเขมรเข้ารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเขมรและฮุนเซน ฮุนเซนได้เสนอให้ที่ลี้ภัยทางการเมืองแก่ทักษิณไปด้วยเลย เอเชียไทมส์ระบุ เมื่อคนทรยศแผ่นดิน จะเนรมิต“รัฐทักษิณ”ที่เกาะกง เป็นฐานที่มั่นขย่มไทย เมื่อทักษิณมีแผนชัดเจนอย่างนี้การได้มาตั้งหลักอยู่ใกล้ๆ ในเขมรย่อมเป็นประโยชน์ต่อทักษิณมากทีเดียวเพราะการรับรองของกษัตริย์ตรายางเท่ากับเป็นการรับรองทักษิณให้เป็นพลเมืองของเขมรไปโดยปริยาย ดังนั้นเราจะได้ยินฮุนเซนประกาศเสมอๆ และฮุนเซนก็พร้อมที่จะสนองประโยชน์ในส่วนนี้ให้ทักษิณโดยการปฏิเสธไม่ส่งทักษิณกลับประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ทักษิณนึกว่าตัวเองฉลาดอาจจะนึกว่าตัวเองกำลังใช้ฮุนเซนให้เกิดประโยชน์ในการดิ้นรนกลับไปเป็นใหญ่ที่ไทย คิดว่าตัวเองเป็นคนชนะ ในฐานะใหม่ที่ปรึกษาของนายกฯ เขมร ไม่ใช่ ราษฎรไทยที่เห็นประโยชน์ของประเทศไทยมาก่อนเขมร ฮุนเซนต้องการคนไทยจะต้องแตกแยกกันครั้งใหญ่อีกครั้ง พลาดท่าพลาดทางอย่างไร ฮุนเซนก็ยังสามารถจะโบ้ยเรื่องเลวๆ ไปที่ทักษิณได้ ทักษิณยังกล้าอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือประเทศไทยอีกทางหนึ่งเพราะเมื่อชาวเขมรร่ำรวยขึ้นจะซื้อสินค้าไทยมากขึ้น วิน-วินทั้งไทยและเขมร ทั้งๆที่การแต่งตั้งนักโทษชายของไทยที่หนีการลงโทษโดยรัฐบาลเขมรโดยตรายางเขมร เป็นการเยียบย่ำศักดิ์ศรีของคนไทยและประเทศไทยอย่างน่าสังเวชที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทักษิณเข้าเขมรตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเขมรฮุนเซนในวันที่ 10 พ.ย.เช่นกันในใจทักษิณคงคิดว่า "ผมไม่อยากติดคุก ไม่อยากให้ถูกยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ถ้ายูช่วยได้สำเร็จเอาไป 10 เปอร์เซ็นต์ให้พี่จิ๋ว 2 เปอร์เซ็นต์ กับพี่วัลลภให้เกือกไปคู่เดียวก็พอ" ทักษิณเปลือยตัวเองล่อนจ้อน หมดสภาพไปแทบจะสิ้นเชิง ภาพคนขายชาติ คนทำร้ายสถาบันติดตัวคนอย่างทักษิณไปตลอดชีวิต เขาสมคบคิดกับ “ฮุนเซน การถ่ายภาพหมู่ทักษิณพร้อมด้วยสมชายกระโปรงและซาลาเปาวภา วงจำกัดร่วมกับครอบครัวของฮุนเซนรวมไปถึงภาพการโอบกอดกันอย่างดูดดื่มของแฝดทรราชที่เผาบ้านตัวเองกลางวงคนเขมรที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญนับร้อยคนระหว่างโชว์วิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกหลังจากได้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโดยหยิบยกในประเด็นคลั่งชาติหรือชาตินิยมที่คนอย่างเขาไม่เคยได้รู้สึกเลยมาบิดเบือน เพื่อกลบเกลื่อนตบตาชาวโลกอีกรอบ คนไทยที่ยังมีเลือดไทยจะต้องสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ประท้วงรัฐบาลเขมรด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตของไทยที่กรุงพนมเปญกลับประเทศไทยในทันที รัฐบาลไทยตอบโต้ "เขมร" สั่งทบทวนเงินกู้ 1.4 พันล้านให้สร้างถนน ฮุนเซนฉุนขาดขับเลขานุการเอกของไทย ลีลาการเมืองระหว่างประเทศที่ประเทศหนึ่งจะงัดมาใช้กับอีกประเทศหนึ่งเป็นสัญญาณให้รู้ถึงขีดระดับความพอใจ-ไม่พอใจที่มีต่อกัน เขาไล่เลขานุการเอกเราออกจากเขมรหรือจะไล่ออกด้วยจำนวนเท่าใด ไทยเราก็ต้องไล่เลขานุการเอกหรือตามจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เขาไล่ออกกลับเขมรไปจำนวนเท่านั้น ด่าน-พรมแดนที่ติดต่อกับเขมรเหมือนเดิมทุกอย่าง ทักษิณกำลังดีใจที่อาศัยประเทศเพื่อนบ้านมากดดันและโจมตีรัฐบาลไทยกำลังเดินหน้าและได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เปิดเกมดิสเครดิตการบริหารงานของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง แต่ดันสะดุดสมองของตัวที่เหน็บอยู่ตรงหัวแม่เท้าด้วยการทะลุคิวให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ พูดในช่วงที่พระองค์ท่านกำลังเสด็จประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช มีเนื้อหาและถ้อยคำที่ชี้ชัดว่าพาดพิงสถาบันเบื้องสูง นี่เองจึงเป็นใบเสร็จหรือคำสารภาพของโจรที่ยืนยันถึงขบวนการล้มเจ้า ปฏิญญาฟินแลนด์ได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นในอดีตโทษประการเดียวที่เขาควรได้รับคือจับใส่ตรวนแล้วให้คนทั้งชาติถ่มน้ำลายรดหน้ากันคนละ 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นจากนั้นก็ต้องแล่เนื้อเอาเกลือทาและปิดฉากด้วยการตัดหัวเสียบประจานทั่วทุกภูมิภาคของประเทศเป็นเวลา 1 ปีเป็นอย่างน้อยเพื่อมิให้ชนรุ่นหลังเอาเป็นเยี่ยงอย่างและควรที่จะถูกตัดหัว 7 ชั่วโคตรเสียด้วยซ้ำไปให้สาแก่ใจ ส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านและตอบโต้กลับจากกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายในสังคมไทยอย่างรุนแรงทันที ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเสื้อแดงที่เคยถูกอบรมยัดเยียดให้เกลียดชังอำมาตย์ ให้ต่อต้านเผด็จการ ให้ต่อต้านการทรยศชาติ กลับปรากฏว่าต้องไปยกย่องเชิดชูอำมาตย์ใหญ่ของเขมรสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เคยป่าวประกาศไว้ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงใบ้กินเอาอย่างไรกันแน่ ยุทธการเอาเงิน 7 หมื่น 6 พันล้านบาท-ที่ถูกอายัดไว้คืนก่อนสิ้นปี 2552 ที่กำลังถูกทีมทนายหน้าเงินยื้อไปยื้อมาจนอาจจะต้องเลื่อนไปพิพากษาประมาณกุมภาพันธ์ 2553 เพื่อทำให้ทักษิณหลุดพ้นจากความผิดรวมทั้งกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งหนึ่งนั้น ทักษิณจะต้องเสี่ยงแค่ไหน-ก็จะเสี่ยง ต้องทำรัฐประหาร-ก็ต้องทำ ต้องล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อเลือกตั้งใหม่ก็มีเงินเต็มพิกัดพร้อมซื้อเสียงเอาชนะคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง มีแต่จะต้องเดินหน้าลุยเต็มตัว หากจะต้องผลัดแผ่นดิน-สร้างรัฐไทยใหม่ที่ไม่มีพระมหากษัตริย์หรือหากต้องมีพระมหากษัตริย์ก็ต้องเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีเหลี่ยมคอยบงการชี้นิ้วได้แบบเดียวกับฮุนเซนทำกับกษัตริย์เขมร ปวงชนชาวไทยไม่ว่าใครก็ตามก็ควรมีจิตสำนึกในการร่วมปกป้องศักดิ์ศรีชาติไทย กระนั้นก็ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณในชุดเสื้อแดงกว่า 20 คนและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินทางจากประเทศไทยไปพบกับทักษิณที่เมืองเสียมราฐ ไม่ใช่เสียมเรียบที่แปลว่า.เสียมแพ้ราบคาบ แขมร์ชนะตลอดกาล. ตามความเชื่อในทางประวัติศาสตร์ของเขมร มองว่า เสียมราบเป็นยุทธภูมิที่ฝ่ายเขมรเคยเอาชนะเหนือกองทัพสยามอย่างราบคาบมาแล้ว! บ้างถึงกับหลั่งน้ำตา ยังมีความคิดน้อยกว่าชาวเขมรส่วนใหญ่เสียอีก กลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณเสื้อแดงล้วนได้รับผลประโยชน์ บ้างก็หลอกใช้ซึ่งกันและกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางอย่าง และมวลชนที่หลงเชื่อหลงรักด้วยความบริสุทธิ์ใจเพราะขาดข้อมูลความจริงถูกหลอกล่อบิดเบือนหลอกลวง อยากให้กลุ่มมวลชนผู้สนับสนุนทักษิณนี้หันกลับไปดูว่าวันนี้ ทักษิณทำเพื่อชาติหรือผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้ามวลชนคนเสื้อแดงคนใดยังหลงรักหลงเชื่อนักโทษหนีคุกอยู่ก็จะหนีไม่พ้นตกเป็นเครื่องมือถูกนักโทษหนีคุกหลอกใช้และจะถูกประวัติศาสตร์บันทึกตราหน้าว่ามีส่วนร่วม ทรยศชาติ และขายชาติ เป็นที่เสื่อมเสีย ส่วนกลุ่มเสื้อแดงที่เหลืออยู่นั้นเชื่อว่าจากนี้ไปแกนนำอาจต้องเร่งเกมล้มรัฐบาลนอกสภาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมเป็นช่วงเดือนมหามงคลและใกล้เทศกาลปีใหม่ คาดว่ากองทัพคนเสื้อแดงหรือแนวรบของระบอบทักษิณจะยังไม่สามารถรุกฆาตใดๆ ได้ โดยคงต้องรอสถานการณ์จนถึงหลังปีใหม่ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 จึงจะเป็นช่วงเวลาชี้ขาดสถานการณ์จริง ส่วนเสื้อนอกคลุมหนังมันคงนึกว่าโก้เป็นฮีโร่ในตลาดประมูลวัว-ควายในสภา เป็นบุคคลในสถาบันหลักของชาติแต่กลับทิ้งภารกิจข้ามด่าน-ข้ามแดน ไปซบหัวเถิก-จมูกถอกกับไอ้ผู้นำเขมรกลับกลอกผู้มีพฤติกรรมเหยียบย่ำบ้านเมืองของเรา แอคท่า ถ่ายรูปออกโทรทัศน์ ยกเขมร-ย่ำไทย เอาใจทักษิณ-ฮุน เซนให้คนไทยได้เห็น-ได้ยินซะด้วย มันใครกันบ้าง 40-50 คนนั้น น่าเอาชื่อมาประจานให้รู้กันไว้ว่าเป็นวัว-ควายจากจังหวัดใด ถึงเวลาประชาชนจังหวัดนั้นๆ จะได้ตัดสินใจเอาไม้หน้าสามซัดปลายเขาให้มันทรุดคาแอกไม่ปล่อยให้กินหญ้า-กินฟางของเราแล้วแว้งเขามาขวิดประเทศเราอย่างนี้อีกต่อไป หากไม่สบายใจ ไม่สะดวกใจหรือไม่สามารถจะทำหน้าที่ปกป้องรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของแผ่นดินไทยซึ่งขัดแย้งกันกับผลประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณ แบบนี้ น่าเห็นใจ และน่าสงสาร ไม่ควรให้ทรมานเป็น ส.ส.ต่อไป ไสหัวไปเถิด (บางส่วนจากข้อเขียนของเปลว สีเงิน) ถึงแม้ประชาชนเขมร 12 ล้านคนถูกครอบงำโดยข่าวโทรทัศน์ฟรีทีวีช่องต่างๆ ที่ทางการควบคุมอย่างใกล้ชิดและสื่อสิ่งพิมพ์ตกอยู่ใต้การครอบงำโดยรัฐ ขาดเสรีภาพในการเสนอข้อมูลข่าวความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ชาวเขมรที่อาศัยทำกินในต่างแดนกลับมีอิสระมากกว่าในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและระบายความคิดเห็นผ่านเว็บบล็อกข่าวต่างๆ ชาวเขมรในต่างแดนส่วนใหญ่เกือบเป็นเอกฉันท์ คัดค้านการนำนักโทษชายทักษิณเข้าประเทศสร้างศัตรูกับประเทศไทยโดยไม่จำเป็น แต่ก็ทราบดีว่าฮุนเซนจะไม่ใส่ใจกับเสียงทักท้วงเหล่านี้ “อาชญากรทักษิณเป็นเพื่อนกับฮุนเซน แต่ไม่ใช่เพื่อนของชาวเขมร จึงไม่สมควรเดินทางเข้าประเทศ” ต้องขอบคุณทรราชทั้งทักษิณและฮุนเซนการกระทำของทั้งสองส่งผลให้เกิดกระแส “ชาตินิยม” ขึ้นในหมู่คนไทยขึ้นทันที ถ้าคนไทยที่มีเลือดไทยโกรธแค้นขึ้นมาและระงับอารมณ์ไม่อยู่ คนไทยหัวใจเขมรเพียงหยิบมือเดียวที่ยังต้องการยืมมือเขมรมาแก้ปัญหาทางการเมืองของพรรคพวกของตน อาจจะไม่มีที่แม้แต่ร่างกายที่จะให้ลูกหลานได้กราบไหว้ด้วยซ้ำไม่ใช่ว่าท่านและพรรคพวกจะไม่มีแผ่นดินไทยจะอาศัยเท่านั้น ในอดีต นอกจากทักษิณจะยกย่องสิงคโปร์เป็นโมเดลในการพัฒนาประเทศ เขาได้ทำข้อตกลงความร่วมมือหลายด้านกับประเทศสิงคโปร์ หลังการทำปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) กับผู้นำเขมร ลาว และพม่าที่มีสาระสำคัญคือให้ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนการคมนาคม ฯลฯ ในปี 2546 จากนั้นก็มีการเปิดซองประมูลโครงการก่อสร้างถนนสายเชียงราย-คุนหมิงวงเงิน 1,358 ล้านบาทโดยทางการไทยเป็นผู้ให้เงินกู้ซึ่งแทนที่บริษัทที่ชนะการประมูลไม่ใช่บริษัทที่ให้ราคาต่ำสุดแต่สาเหตุได้งานเพราะมีข่าวว่ามีนักการเมืองคนหนึ่งไปล็อบบี้ให้ และการที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ให้พม่าเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาการสื่อสารและโทรคมนาคม พม่าได้จ้างบริษัทพม่าที่รับงานพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมของพม่าเป็นบริษัทของลูกชายพล.อ.ขิ่น ยุ้นนายกรัฐมนตรีพม่าขณะนั้นให้บมจ.ชิน แซทเทลไลท์ให้เป็นผู้พัฒนาโครงการสื่อสารผ่านดาวเทียมระบบบอร์ดแบนด์โดยเอ็กซิมแบงก์ต้องรับภาระต่อดอกเบี้ยที่ชาวไทยต้องมารับผิดชอบโดยไม่รู้ตัว เอ็กซิมแบงก์ไม่ต้องเสียค่าโอนเงินไปพม่าแต่แค่โอนให้ชินขอบก็พอ แถมเมื่อขิ่น ยุ้นถูกถีบตกเก้าอี้แล้วรัฐพม่าเองก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไรกับเงินกู้ก้อนนี้ แล้วอย่างไรไทยเราจะทำอะไรพม่าได้เล่า กระทรวงการคลังที่ทักษิณสั่งให้ค้ำประกันเงินกู้ก้อนนี้ให้ขิ่น ยุ้นก็ต้องจ่ายให้เอ็กซิมแบงก์แทน แล้วใครจ่ายงบประมาณให้กระทรวงนี้คุณกรณ์ จาติกวณิชน่าจะลองเปิดเผยข้อมูลให้ชาวไทยได้รู้ได้เห็นขีดความสามารถของทักษิณในกรณีนี้ด้วย สมัยพรรคไทยลักไทยเรืองอำนาจนั้น เขมรได้รับการเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ ช่วยเหลือรัฐบาลเขมรหลายครั้งหลายหนรวมแล้วหลายพันล้านบาทใน 6 ปีของรัฐบาลไทยลักไทย และ 1 ปีรัฐบาลพังประชาชนที่มีการนำเงินภาษีประชาชนไปช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านมากมาย นอกจากทำให้ทักษิณมีสายสัมพันธ์กับแกนนำรัฐบาลเพื่อนบ้านแล้ว คนไทยได้ประโยชน์อะไรจากดีลเหล่านั้นบ้าง เขมรจับกุมนายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรบริษัท CATS โดยอ้างว่าเป็นผู้จารกรรมข้อมูลตารางการบินทักษิณ สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเกมที่ทักษิณกลบข่าวปากไวใจหมา ทักษิณซึ่งให้สัมภาษณ์ไทม์สออนไลน์พาดพิงถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของไทย พุ่งเป้าไปที่นายอภิสิทธิ์ว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไร เมื่อวิกฤตการจับวิศวกรไทยถูกปลุกจนถึงขีดสุด มีการตัดสินจำคุกเพื่อให้เห็นว่าผิดจริง และเห็นว่า รัฐบาลไทยไม่สามารถช่วยเหลือวิศวกรไทยได้ ก็จะมีอดีตนายกฯหน้าปลาตีนหรือหน้าเหลี่ยมปราดเข้ามาทำทีเป็นเจรจากับรัฐบาลฮุนเซน พาวิศวกรไทยกลับบ้านเยี่ยงวีรบุรุษ เล่นบทสุภาพบุรุษมากเกินไป ทำให้รัฐบาลอันธพาลของสมเด็จฮุนเซ็น ฮึกเหิม คิดว่ารัฐบาลควรจะต้องทบทวนบทบาทใหม่ อาจจะเป็นบทมือปราบซึ่งอาจจะต้องใช้ยุทธวิธีโจรจับโจรบ้าง.. หากมีการรบกันเกิดขึ้นจริงคงต้องพ่ายแพ้กันทั้ง 2 ประเทศและสร้างผลเสียอย่างมหาศาล แต่ผู้ที่ชนะคงหนีไม่พ้นประเทศรอบข้างที่รอหัวเราะเยาะกันอยู่ และยังได้รับผลประโยชน์ ทั้ง ด้านเศรฐกิจ และสังคม สุดท้ายผลกระทบก็จะต้องตกอยู่กับประชาชนทั้ง 2 ชาติ เขมรจับจุดที่ว่าต่างฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดสงครามจริงๆ เลยกล้าที่จะแหย่-ยั่วยุไทยตลอดมา ดังนั้นรัฐบาลไทยและกองทัพจึงควรจะตอบโต้ ลดละเลิกโครงการความช่วยเหลือต่างๆ แล้วทำการซ้อมรบซึ่งไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นการเตรียมพร้อมและประกาศศักดา ประโคมข่าว ตีข่าว ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ล่วงหน้า เผยแพร่สื่อให้ใหญ่โต เพื่อผลในเชิงจิตวิทยา กระตุ้นความรักชาติให้คนไทยตื่นตัว ขวัญทหารของใครจะตกต่ำและของใครจะฮึกเหิม แต่อย่าให้ทั่วโลกมองภาพว่าไทยเป็นประเทศใหญ่แล้วรังแกประเทศเล็กอย่างเขมร สิ่งที่ฮุนเซนต้องเรียนรู้และได้รับจากรัฐบาลไทยจากสิ่งที่เขาทำคือการนั่งมองการลงพื้นที่ไปสำรวจทรัพยากรทางทะเลตาปริบๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้ ชาติไทยแตกแยกชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านต้องขัดแย้งจนกำลังจะเกิดเป็นสงคราม ล้วนเป็นความเสียหายมหาศาลทั้งแก่คนไทยและคนเขมร ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนเพียงคนเดียวแท้ๆ ยังคงน่าวิตกว่าความขัดแย้งจะลุกลามบานปลายไปถึงจุดที่ไม่ควรเกิดขึ้นซึ่งมีปัจจัยสำคัญอยู่ที่ความเคลื่อนไหวของคนคนเดียว

ไม่มีความคิดเห็น: