03 พฤศจิกายน 2551

ก้อนกรวดในรองพระยุคลบาท / Our HM the king gets grit in his shoes.

นทช.ทักษิณเป็นผู้มีบุคลิกถูกใจชาวบ้านกว่านักการเมืองใดๆที่เราเคยมีมา “ทัวร์นกขมิ้น”ที่นายกฯนุ่งผ้าขาวม้าลงไปห้องน้ำนั้น สื่อลงภาพทุกฉบับและเป็นภาพที่น่าประทับใจแก่ชาวบ้านว่าท่านนายกฯใช้ชีวิตปกติเหมือนตนเองแต่ภาพถ่ายนี้จะไม่ให้ใครถ่ายได้เลยก็ได้เพราะมีทหารตำรวจล้อมรอบอยู่แล้วแค่กันให้ถอยออกไปเสียก่อนก็ได้ฉะนั้นจึงเป็นภาพที่นทช.ทักษิณตั้งใจจะให้ถ่ายรูปและเผยแพร่ ยังไม่พูดถึงคำพูดคำจาและวัตรปฏิบัติอีกหลายอย่างที่น่าประทับใจแก่ชาวบ้านเช่น ชอปปิ้ง, กินก๋วยเตี๋ยว, รักลูกเมีย ซื้อของแล้วไม่ต้องทอน ฯลฯทั้งหมดนี้จะพูดว่านทช.ทักษิณเก่งด้านการตลาดก็ได้แต่เป็นตลาดการเมืองไม่ใช่ตลาดโทรศัพท์มือถือ การก้มลงกราบแผ่นดินแม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเดือน ก.พ. 51 ที่ผ่านมาดูจะเป็นการสร้างภาพขั้นสุดยอดเพื่อเข้ามาสู้คดีที่ดินรัชดาฯพร้อมๆกับการบอกกับสาธารณชนว่าตัวเขาเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทย อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในเวลาต่อมาก็คือนทช.ทักษิณกลับหนีคดีที่ศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศเมื่อเร็วๆนี้ซึ่งดูจะขัดแย้งกับสิ่งที่นทช.ทักษิณได้แสดงออกมาก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน การตลาดกับการตลบตะแลงไม่ควรจะเป็นสิ่งเดียวกันและนทช.ทักษิณ ชินวัตรน่าจะมีคุณสมบัติในประเด็นหลังมากกว่าการเป็นนักการตลาด ยิ่งก่อนจะถึงวันจัดชุมนุม 1 พ.ย. 2551 หลายฝ่ายได้พยายามเตือนว่าการจัดให้ นทช.ทักษิณ ชินวัตรผู้ร้ายหลบหนีคำพิพากษาจำคุก โทรศัพท์สายตรงจากต่างประเทศเข้ามาให้สัมภาษณ์ ปราศรัยกับประชาชนผู้ชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถานนั้นมีสุ่มเสี่ยงว่าจะมีการพูดจาให้ร้ายดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมและศาลยุติธรรมในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมุ่งหมายให้เกิดการปลุกระดมประชาชนเพื่อผลประโยชน์ของตนเองจนอาจจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม


อาจจะนึกไม่ถึงว่า คนระดับอดีตนายกรัฐมนตรีจะกระทำการเลวร้ายอันใดมากไปกว่านั้น นทช.ทักษิณ ก็กระทำการไปไกลยิ่งกว่านั้น! นทช.ทักษิณไม่ทำเพียงเท่านั้นแต่ "เหิมเกริม"อย่างหนัก"บังอาจ"ถึงขนาดรุกคืบขึ้นไปกระทบกระเทือนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างโจ่งแจ้งพยายามจะกดดัน ข่มขู่ และล่วงละเมิดต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่องและหนักข้อขึ้นทุกที นทช.ทักษิณกำลังพยายามชี้นำให้ประชาชนเข้าใจหรือสงสัยว่าสถาบันชั้นสูงสามารถสั่งการศาลยุติธรรมให้พิพากษาคดีของตนไปในทางหนึ่งทางใดอย่างบิดเบือนโดยอ้างว่า"เขาใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ"และ"เขาต้องการเอาผมไว้เมืองนอก 10 ปี"(ตามอายุความของคดี) นั้น แท้ที่จริงแล้วคำพิพากษาต้องการให้นทช.ทักษิณเข้ามารับโทษจำคุกในประเทศไทยเป็นเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นแต่นทช.ทักษิณเลือกที่จะหนีคดีหนีความรับผิดก็เลยต้องอยู่ต่างประเทศ 10 ปี ด้วยตัวเอง นทช.ทักษิณกำลังบอกว่าสถาบันเบื้องสูงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีของนทช.ทักษิณ หรือไม่ ? นอกจากทำให้ประชาชนเข้าใจผิดแล้ว นทช.ทักษิณกำลังต้องการให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงช่วยเหลือให้รอดพ้นความผิดจากคดีต่างๆ และ/หรือพระราชทานอภัยโทษให้เพื่อให้ทักษิณสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องรับผิดในคดีต่างๆ ? อีกทั้งการกระทำในครั้งนี้ควรหรือที่จะประกาศ"การที่ตนอยากได้จากราชา"ผ่านทางสาธาระชนมีลักษณะกดดันอย่างมิบังควร ประชาชนอาจจะอาจสำคัญผิดไปได้ว่าหากไม่ทรงช่วยทักษิณให้รอดพ้นจากความผิดในคดีต่างๆที่นทช.ทักษิณ รอดพ้นจากการกระทำความผิดของตนเอง แล้ว หมู่ประชาชนลูกน้องในพรรคการเมืองของนทช.ทักษิณ หรือบริวาร ผู้ที่จงรักภักดีต่อระบอบทักษิณ ก็อาจจะช่วยให้นทช.ทักษิณ รอดพ้นความผิดได้เอง อย่างนั้นหรือ ? นอกจากนี้...ในวันงานยังได้มีการตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนทช.ทักษิณ ชินวัตร และนายสมัคร สุนทรเวช


คดีทุจริตประพฤติมิชอบอีกหลายคดีของนทช.ทักษิณเองก็ยังคงคั่งค้างอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลซึ่งยังไม่มีคำพิพากษาฉะนั้นการจะไปขอพระราชทานอภัยโทษระหว่างคดีอยู่ในศาลจึงไม่บังควรอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วนทช.ทักษิณยังบังอาจคิดจะขอพระราชทานอภัยโทษต่อกรณีนายสมัคร สุนทรเวชซึ่งถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกนั้นเป็นคดีความผิดส่วนบุคคลอันเกิดจากการกระทำผิดส่วนตัวของนายสมัครเองซึ่งได้ไปกระทำผิดโดยพูดจาให้ร้ายหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ทำให้เขาได้รับความเสียหายร้ายแรงเมื่อศาลพิพากษาว่านายสมัครกระทำผิดจริงจึงต้องได้รับการลงโทษเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย ตามธรรมเนียมการปกครองที่มีมาดังนั้นการขอพระราชทานอภัยโทษกรณีคดีนายสมัครเป็นการบังควรหรือไม่


คำพูดดังกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาวซึ่งขณะนี้มีสถานะเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่หลบหนีคดีทุจริตไปพำนักอยู่ในต่างแดนนับเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นที่ทราบกันว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นทรงอยู่เหนือการเมืองและเป็นประมุขสูงสุดอันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาวกลับพยายามที่จะดึงฟ้าลงต่ำให้ลงมาเกลือกกลั้วกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่กำลังแตกแยกเกิดการเผชิญหน้าของคนในชาติอย่างรุนแรงและที่สำคัญพฤติกรรมดึงฟ้าลงต่ำเช่นนี้เป็นการทำเพื่อตัวเอง


หาก"ข้าราชการ"ปล่อยขบวนการเหล่านี้เอาไว้ต่อไป"พสกนิกรคนไทยผู้จงรักภักดี"จะรู้สึกอย่างไรในเมื่อการพูดในลักษณะนี้ย่อมนำมาซึ่งความไม่พอใจของพสกนิกรผู้จงรักภักดีซึ่งเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนืออำนาจฝ่ายการเมืองและอิทธิพลของนักการเมือง การถวายฎีกาฯควรจะเป็นการกระทำของตัวนักโทษเองเท่านั้นมิใช่โดยการล่ารายชื่อจากประชาชนทั่วไป ธรรมเนียมปฏิบัติต่อกรณีนักโทษที่เคยได้รับการพระราชทานอภัยโทษซึ่งจะต้องถูกจำคุกตามคำพิพากษาก่อนที่จะถวายฎีกาฯทั้งสิ้นและไม่เคยปรากฏว่ามีกรณีพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้กระทำผิดในคดีความผิดส่วนบุคคลและไม่สมควรกระทำการใดๆให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและทำให้ต้องหนักพระราชหฤทัยที่ต้องถูกดึงเข้ามาสู่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยไม่จำเป็น เมื่อมีเหตุอันควรเมตตา เช่น ผู้กระทำความผิดได้สำนึกในความผิดและจะกลับตัวเป็นคนดีองค์พระประมุขแห่งรัฐ หรือ "ราชา"จึงอาจให้ความเมตตาต่อผู้กระทำผิดได้โดยไม่กระทบต่อความเป็นธรรมของเอกชนผู้เสียหาย ขนาดเวลานี้เหตุการณ์บ้านเมืองเราอยู่ในสภาพที่อาจจะเกิดการปะทะเข่นฆ่ากันอย่างไร้เหตุผลระหว่างคนไทยกันเองเพียงเพราะความคิดแตกต่างกันทางการเมือง แล้วทำไมข้าราชการที่มีหน้าที่ดูแลกฎหมายและความสงบสุขของประชาชนไม่ออกมาทำหน้าที่ให้เกิดความสงบสุขให้บ้านเมืองปราศจากข่าวลือของการต่อสู้ของกลุ่มต่างๆเพื่อผู้คนจะได้หายอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่ตลอดเวลาเสียที ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายจับติดคุกติดตารางไปเสีย อย่าปล่อยให้รัฐบาลหุ่นเชิดลอยหน้าลอยตานั่งกินเงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นของโครงการบ้าๆ บอๆ ที่พวก ครม.แอบอนุมัติอยู่ตลอดเวลา ปล่อยไว้ได้อย่างไรทำให้ประชาชนสับสนและเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สมบัติของชาติตลอดเวลา ปล่อยให้พวกโจรการเมืองที่มีตำแหน่งโกงกินอยู่ได้ยังไงขนาดมีหลักฐานปรากฏชัดแต่ก็ไม่เห็นมีข้าราชการที่มีหน้าที่ในการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายออกมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างจริงจัง ด้วยความบริสุทธิ์ใจปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมบ้างเลยทั้งที่สมควรจะต้องดำเนินการจับพวกโจรเหล่านี้เข้าคุกเสียทีแทนที่จะปล่อยให้หลบหนีไปอยู่ต่างแดนได้อย่างสบาย


หากนทช.ทักษิณและขบวนการเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหลายมีความจงรักภักดีและเห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมืองอย่างแท้จริงก็จะต้องยุติและไม่ควรมีการกระทำอันเป็นการดึงฟ้าลงต่ำอีกต่อไป บ้านเมืองของเราจะผ่านพ้นความรุนแรงไปได้อย่างไรและ"สถาบันพระมหากษัตริย์"จะดำรงอยู่ในสถานะใดและถ้าปล่อยไว้เราคนไทยอาจจะไม่ได้อยู่ในแผ่นดินที่คุ้นเคยอีกต่อไป...






เรียบเรียงจากข้อเขียนของดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทองศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิตเมื่อวันที่ 3/11/2008 กับบทบรรณาธิการชองแนวหน้าและผู้จัดการ


===================================================================
He was a great political marketter from the past until now, it appears that Thais has to wait longly to get the new one. He went to upcountry to promote his daily action with locals. In addition to his family images in several times, the example is his action when he first returned Thailand at the airport in photographers' eyesights from several presses. Since his wife has been sentenced, he hid his family and himself from Thailand.

He complaint Thailand's Judical system as much as he has had his occasions . The system works for our high majesty the king. On Nov 1st, almost people worried about the possible problem(s) and warned him in which he would give his speech in his employed and did-cheat people meeting. The speech pretended people our high majesty the orders to sentence him and his. If the king does not help him, he can not have a chance to get back Thailand. He needs his mentioned people to ask the king for helping him.

Usually our high majesty the king always give his people chances in several times and better reasons, e.g. the people know their wrong, significant royal occasions and etc. By process, the people who would like our high majesty the king's help for their case, have to get sentenced and accepted thier own case result, e.g. getting in jail, social service operation. and etc. before.

However His case got sentenced for only 2 years but he decides not to fight, if he is clean. The cases's age is at 10 years old, and he chose the time by himself and why he complaint others about his faults. Lots of his cases are waiting for his return, by judical process which both parties have to present the court for real facts' investigation.

It apeears that he can not give his responsibility on his faults about 200000 million baths ( as much as the possible witnesses/documents/investigation can help), thousands of killed lifes by his orders when powered, and so on.

ไม่มีความคิดเห็น: