02 พฤศจิกายน 2551

การประกาศสงครามพร้อมต่อรองในตัว / Our high majesty the king was put into pressure

Our high majesty the king was put into pressure, on what Taksin advertised his goal on Nov 1st.
1) our High majesty the king can not prohibit politics, Thais can get his high majesty the king's help through our royal courts, and submitted documents ( Deeka in Thai ).
2) Thailand's courts are complaint on Taksin think unfair, of course only when he lose his goal
3) Taksin people are to ask for collecting their signature to drive the document done.

What does this mean? He is complaining our high majesty the king, ordered him sentenced. He and his family get poor, terrible to life.

Facts, Thais official loan per head was reported +120% from the past (3000.- ThB to 120000.- ThB) , started from Taksin's era. He lives in comfortable, millionaire life and his people get poor and more poor. He can fly around the world everyday, yes he has freedom. He wants to be back to power again, and never stopped his polictical operation at all. His goal is putting our monarchy onto shrine's shelf with his first great president position.

-=-=-=-=-=-

นาทีนี้บอกได้คำเดียวว่าการสัปยุทธครั้งสำคัญกับ “ระบอบทักษิณ” กำลังเดินมาจนใกล้ถึงฉากสุดท้ายเต็มที ขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็นธาตุแท้ หรือตัวตนของคนพวกนี้ได้ชัดเจน ชนิดที่เรียกว่า “ล่อนจ้อน” กันแล้ว เหมือนกับหนังไทยยุคเก่าที่ตอนแรกคนดูนึกว่าเป็นพระเอกแต่พอดูไปเรื่อยๆก็เริ่มจับได้ว่านี่มันผู้ร้ายที่สร้างภาพหลอกล่อให้เข้าใจผิดและในที่สุดถ้าไม่ถูกชาวบ้านขับไล่ก็

จะหักหลังแล้วฆ่ากันเองอะไรประมาณนี้ เพราะยิ่งทอดเวลานานออกไปเท่าใดคนในสังคมยิ่งรู้ทันการโฆษณาชวนเชื่อหรือมุกเก่าๆก็ใช้ไม่ได้ผล แต่เมื่อเดิมพันมันสูงก็ต้องเดินหน้าลุยถั่วกันไป

เรื่อยแต่ก็อย่างว่าเมื่อยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งเสี่ยงเข้าคุกเข้าตะรางหรือฉิบหายป่นปี้เข้าไปทุกที ปฏิเสธไม่ได้ว่าการชุมนุมอย่างปักหลักพักค้างของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมานานกว่า 5 เดือนและเดินหน้าแฉโพยระบอบทักษิณอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังสามารถกดดันให้กลไกทางกฎหมายอำนาจรัฐ ต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ แต่ถูกละเลย ถูกครอบงำให้กลับมาเดินหน้าทำงานอย่างได้ผล
จากคำพิพากษาของศาลไม่ว่าจะเป็นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลอาญา ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และคำตัดสินขององค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในหลายคดียิ่งสร้างความสั่นสะเทือนให้กับ ทักษิณ และเครือข่ายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนไม่ว่าจะเป็นคดีโกงภาษีหุ้นชินวัตรฯ ที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถูกศาลอาญาประเดิมตัดสินจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา และแสบสันต์ไปกว่านั้นก็คือในคำพิพากษาได้อบรมสั่งสอนให้ได้อายแทบแทรกแผ่นดินก็คือ “คนที่มีสถานะทางสังคมสูงเป็นภริยาของผู้บริหารประเทศแต่กลับไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี” และยังมีเนื้อหาสำคัญก็คือจำเลยมีทรัพย์สินมากมายแต่เงินภาษีแค่ไม่เท่าไหร่กลับหลีกเลี่ยงไม่ยอมเสีย คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษกที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเวลา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาและในคำพิพากษาก็ได้อบรมบ่มนิสัยอีกรอบทำนองทำตัวไม่สมกับที่สังคมไว้วางใจเป็นผู้บริหารประเทศ ยังมีอีกหลายคดีที่ทยอยค้างคาอยู่ในศาลอีกเพียบเช่น คดีทุจริตหวยบนดิน กล้ายาง เงินกู้เอ็กซิมแบงก์ให้พม่า 4 พันล้านบาท เป็นต้นและยังไม่นับหมายจับอีกไม่ต่ำกว่าอีก 4-5 คดี คดืความต่างๆสรุปความเสียหายโดยคตส.ไว้โดยประมาณเท่าที่มีหลักฐานไว้สูงถึงประมาณสองแสนล้านบาท นอกจากนี้บรรดาเครือข่ายทั้งหลายต่างก็ร่วงผลอยกันเป็นพรวนไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดรุ่นแรกอย่างนายสมัคร สุนทรเวชที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ความผิดกรณีทำรายการชิมไปบ่นไป ล่าสุดมาถึงยุค “น้องเขย” สมชายวงศ์สวัสดิ์ ก็มีชะตากรรมทรามไม่แพ้กันและต้องรับผลพวงมาจากรัฐบาลก่อนทั้งในฐานะที่ร่วมอยู่ในขบวนการเครือญาติหรือร่วมในคณะรัฐบาลมาตั้งแต่ต้นกำลังเผชิญวิบากไล่หลังเข้ามาทุกที คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้มติครม.ที่เห็นชอบรับรองแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาผิดกฎหมายกำลังถูกคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีกรณีถือหุ้นบริษัทล็อกอินโฟร์ เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงเมื่อครั้งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมกรณีค่าธรรมเนียมศาลธัญญบุรี 70 ล้านบาทแถมล่าสุดยังโดนถล่มเรื่องคลิป “คนหน้าเหมือนสมชาย” ควงสาวไม่ซ้ำหน้าเข้าโรงแรมม่านรูดในเวลาราชการท้าทายจริยธรรมเข้าไปอีก

หลายฝ่ายสรุปตรงกันว่าจะทำให้ระบอบทักษิณสั่นคลอนและพังทลายลงในที่สุดก็คือกรณีเครือข่าย “กลุ่มเสื้อแดง” ในสารพัดชื่อที่มีแกนนำหลายคนขึ้นเวทีสนามหลวงแล้วกระทำการบังอาจจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่ปรากฎมาก่อนและต่อมาเมื่อถูกกดดันจากสังคมโดยเฉพาะจากกลุ่มพันธมิตรฯส่งเสียงโวยวายทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายจับกันหลายคนบางคนได้รับการประกันตัว บางคนก็หลบหนีเตลิดเปิดเปิง ขณะเดียวกันยังมีเว็บไซต์ นิตยสาร ใบปลิว วิทยุชุมชนผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเมื่อสืบสาวต้นตอก็ล้วนมาจากกลุ่มเดียวกัน คนเหล่านี้เมื่อเชื่อมโยงลึกลงไปอีกล้วนเคลื่อนไหวสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น
ประกอบกับไม่รู้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกออกคำสั่งฐานะรองผู้อำนายการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)ให้ทุกหน่วยขึ้นตรงคุมเข้มและจับตากลุ่มที่จาบจ้วงหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพร้อมทั้งทำหนังสือไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินคดีโดยเด็ดขาดประเภทเจอที่ไหนจับที่นั่น หูตาเหลือกกันไปหมดแม้เป็นปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวที่มาช้าแต่ก็ถือว่าได้ผลชะงัด หยุดกึกกันเป็นแถว เมื่อสถานการณ์เลยเถิดถูกต้อนเข้ามุมมาถึงขั้นนี้แล้วมันก็ต้องดิ้นรนเพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่ามันเดิมพันสูงหมายถึงคุกและทรัพย์สินกำลังจะถูกริบเข้าหลวงมันก็ต้องทำทุกวิถีทาง
งานนี้เปิดหน้าเห็นตัวตนแล้วและต้องทุ่มทุนสร้างกันเต็มที่ แต่เมื่อสถานการณ์มันเริ่มเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อนกุมสภาพไม่ได้ส่วนใหญ่ต้องสั่งผ่านนายหน้าซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาต้องมีรายการ “แปลงสาร” อมหัวคิวผลงานไม่ค่อยคุ้มราคาแถมสมุนลิ่วล้อเริ่มถอยฉากเพราะกลัวติดร่างแหไปด้วยเหลือแต่ระดับฮาร์ดคอร์ลูกคู่ของแท้ถึงไหนถึงกัน

-- ศาลฮึ่ม"แม้ว"หมิ่นฯเจอแน่
-- ทักษิณ คุณหนีไปเอง...ไม่มีใครอุ้มคุณขึ้นเครื่องทั้งครอบครัว...และไม่มีใครบังคับให้คุณไปด้วย...แต่คุณเลือกที่จะหนีเองเพราะรู้ว่าเงินไม่สามารถซื้อศาลได้ทั้งหมด...แล้วจะมาโอดครวญ
-- สันติอหิงสาใช้กับไอ้นี่ไม่ได้หรอก คนสันดานมันชั่วสุดๆ เจ้าคิดเจ้าแค้น ต้องเอาคืน ถ้ามันยังอยู่ มันก็ป่วนประเทศเรื่อยๆ เรื่องคงไม่ได้บง่ายๆ หรอก เอาให้หายไปจากโลกนี้เพียงคน
-- เราต้องการ นายก และรัฐมนตรี เป็นคนดีมีศีลธรรม มีจริยธรรม อยากจะเห็น ข้าราชการไทย ตำรวจไทย ทหารไทย นักการเมืองไทย มีจริยธรรมและศีลธรรม เลิกโกงกินคอรัปชั่น มุ่งหน้ามาช่วยกันทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองสมเป็นเมืองของไทย พวกเราชาวไทยเกิดเมืองไทยและตายเพื่อไทย เรากลัวไปว่าจะไม่มีประเทศไทยให้หลงเหลือเพื่ออยู่อาศัย
-- ใครไปห้ามทักษิณไม่ให้กลับประเทศไทยไปไหนมาไหนไม่เห็นใครมีอำนาจไปห้ามได้เลย การที่สามารถไปไหนมาไหนได้นี้เองจึงได้กล้ากระทำต่อประเทศชาติตนเองได้ถึงเพียงนี้ เพราะหากกระทำไปแล้วมีคนจับได้ก็หนีไปประเทศอื่นได้อย่างสะดวกสบาย การขอให้ไนหลวงช่วยให้กลับประเทศ จึงเป็นเพียงการเล่นลิ้นเพื่อเรียกความสนใจหรือเพื่อเรียกน้ำตาจากประชาชนหางแดง ทั้ง ๆ ที่เวลานี้ก็กลับมาเมืองไทยก็ได้เหมือนคนไทยทุกคน แต่ก็ต้องกลับมาสะสางคดีเหมือนกับคนไทยทุกคนที่เมื่อกระทำผิดแล้วก็ต้องรับผิด ไม่ใช่ถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่นทำผิดแล้วแต่ไม่ยอมรับโทษ
-- คำพูดของแม้วแสดงจิตใจที่ยังไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อยยังคิดกลับมาเอาชนะ แม้ทำบ้านเมืองจะพินาศย่อยยับคนคนนี้อันตรายใหญ่หลวงต่อบ้านเมืองและคนไทยจริง ถ้าเป็นคนปกติจะคิดทบทวนและสำนึกแต่นี่ยังหน้าด้านและคำพูดยังซ่อนรหัสทำลายล้าง มุ่งให้มีการมาชนกัน วีระมาแอบอ้างแนวคิดราชประชาสมาสัยในมุมกลับ พี่น้องต้องพิจารณาให้รู้เท่าทันเจตนาชั่วมุ่งให้ขัดแย้งกัน คนโรคจิตอันตรายทำลายชาติตนเองแบบสองคนนี้ไม่ควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
-- “อดีตโฆษก คตส.” ตอกย้ำ “นช.แม้ว” คือผู้ที่ก่อกรรม ส่วนศาลเป็นผู้ชี้กรรม เปรียบอดีตผู้นำผู้ร้ายปากแข็งตัวจริง สวนกลับหากศาลไม่ยุติธรรมทำไมยังใช้กระบวนการยุติธรรมฟ้องคนอื่นได้
-- ทักษิณระบุว่าคนที่จะสามารถเอาตัวเองกลับมาเมืองไทยได้คือสถาบันสูงสุดและประชาชนนั้น นายอุดม เฟื่องฟุ้งกล่าวว่ามวลชนไม่สามารถมีสิทธิอยู่เหนือศาล
-- “สนธิ” แฉขบวนการ “ปีศาจแม้ว” แก้ รธน.-นิรโทษคืนอำนาจ
-- “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” วิเคราะห์คำพูด “ทักษิณ” โฟนอินระบุละเมิดศาล-เบื้องสูง เป็นการประกาศสงครามพร้อมต่อรองในตัวโดยใช้มวลชนเป็นเครื่องมือ ชี้ความแตกต่างม็อบพันธมิตรฯ–นปก.8 ประการโดยเฉพาะประเด็นเรื่องภารดรภาพและที่มาของเงินสนับสนุนอัดนักวิชาการ-สื่อที่ออกมาขู่ว่าคำพูดของแกนนำทำให้คนน้อยลง ยันพันธมิตรฯมาเมื่อมีภัยและกลับไปทำงานเมื่อสถานการณ์สงบเพื่อนำเงินมาหนุนต่อ “ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเรียกขานประชาชนว่า ‘พสกนิกรของพระองค์’ ถ้าเป็นระบอบทุนนิยาสามานย์เรียกว่า ‘ประชาชนของผม’ อย่างเช่นแถลงการณ์ของทักษิณวันที่ 22 แล้ววันนี้มาอ้อนประชาชนของผมว่าพี่น้องประชาชนของผมจะเก็บผมไว้เมืองนอกสิบปีเชียวหรือ”
-- โฆษกพรรค ปชป.ตอกแผน “แม้ว” ใช้พลังมวลชนดึง 2 สถาบันเผชิญหน้าหวังแก้ปัญหาตัวเอง ชี้เหตุสัมภเวสีต่างแดนไม่เกี่ยวกับรัฐประหารเย้ยให้ยอมรับโทษก่อนขอพระราชทานอภัยโทษ " พรรคเห็นว่า ทักษิณสมควรได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกับคนไทยทุกคนรวมไปถึงทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ หากพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่ได้มาโดยทุจริตก็สมควรได้รับคืน ส่วนการขอพระเมตตาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นเป็นการกระทำที่พยายามแสดงออกถึงความจงรักภักดีแต่การขอพระราชทานอภัยโทษนั้นต้องเกิดขึ้นหลังจากยอมรับโทษก่อนต้องยอมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมเพราะสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ในคดีที่ดินรัชดาฯได้ภายใน 30 วันตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ... เราต้องดูคำพูด สิ่งที่อยู่ในใจและพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้ และเครือข่ายระบอบทักษิณว่ามีความจริงใจที่จะให้บ้านเมืองสงบสุขหรือไม่ ขบวนการปลุกระดมสร้างความวุ่นวายโจมตีสถาบันให้ร้ายฝ่ายตรงข้ามและใช้ความรุนแรงกับฝ่ายตรงข้ามรัฐ", นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเนื้อหาการโฟนอินของทักษิณว่าเป็นความคิดเห็นที่เห็นแก่ตัวโดยดึงสถาบันลงมา ตามกระบวนการยุติธรรมทักษิณสามารถกลับประเทศไทยได้ทุกเวลาเพื่อต่อสู้คดี ทักษิณรู้ดีว่าได้ทำอะไรไว้บ้างและสังคมไทยอยากให้ท่านกลับมาต่อสู้คดีโดยเร็วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่เคยประกาศไว้ว่าจะสู้คดีความในชั้นศาลและที่ผ่านมาก็เคยฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีที่คนอื่นหมิ่นประมาทเป็นหมื่นล้านบาท พอศาลสั่งจำคุกกลับไม่กล้าที่จะกลับมาต่อสู้คดีทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าทำเรื่องระคายเคืองให้พระองค์ท่านแล้วยังไม่สำนึกผิด
-- แกนนำพันธมิตรฯ ประณาม “สมชาย” วางเฉยปล่อย “นักโทษแม้ว” โฟนอินกลางฝูงชนเปิดทางใช้สื่อรัฐเป็นกระบอกเสียงดึงสถาบันเบื้องสูง-ดิสเครดิตศาล แฉแผน “แม้ว” ขอถวายฎีกา-อภัยโทษ จี้จริยธรรมแสดงความรับชอบคลิปฉาวสะท้านเมือง
-- "ผมขอฝากไปถึงนายวีระ มุสิกพงศ์ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ออกมาเรียกร้องให้ร่วมกันต่อต้านรัฐประหาร ควรไปกระซิบบอกทักษิณ ให้หยุดท้าทายศาลและสถาบันเบื้องสูง ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขในการรัฐประหาร" นายสุริยะใสกล่าว การที่ทักษิณ พูดว่าจะกลับประเทศไทยได้เพราะพระบารมี ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรมองว่าถือเป็นประเด็นที่อันตรายเพราะประชาชนรากหญ้าอาจจะเข้าใจสับสน และตีความว่าทักษิณมีความขัดแย้งกับสถาบันเบื้องสูงจนถูกขับออกจากประเทศ ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก ร่างกายทรุดโทรม ดังนั้นการสานเสวนาจึงเกิดไม่ได้ เพราะหัวขบวนของ นปช.ยังใส่ร้ายป้ายสีกระบวนการยุติธรรม การโฟนอินของทักษิณเป็นความพยายามแสดงพลังให้สังคมโลกเห็นว่าตัวเขามีมวลชนศรัทธาและนับถือซึ่งจะทำให้สถานการณ์ในประเทศไทยจะมีความขัดแย้งคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง
-- นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงท่าทีของทักษิณ ที่ระบุในการโฟนอินว่าจะกลับไทยได้ด้วยพระบารมีและพระเมตตาว่า ท่าทีของ ทักษิณชัดเจนว่าจะใช้กระบวนการราชประชาสมาสัยให้การช่วยเหลือให้ตัวเองพ้นผิดคือการให้ประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมากแล้วเรียกร้องให้ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่โดยหลักกฎหมายแล้ว การขอพระราชทานอภัยโทษนั้นผู้นั้นต้องได้รับโทษอยู่ก่อนแล้วจึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ หรืออีกกรณีหนึ่งคือเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณแต่แนวทางนี้ก็ขัดรัฐธรรมนูญเพราะการจะนิรโทษกรรมจะทำเพื่อคนคนเดียวไม่ได้
-- นายโคทม อารียาผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าจากการจับใจความเนื้อหาก็พอรับได้ แต่ก็ค่อนข้างไปทางลบไม่ได้ช่วยให้เกิดการคลี่คลายสถานกรณ์ความรุนแรงในประเทศได้เลย

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงงานนี้นอกจากเราจะได้เห็นตัวตนที่ชัดเจนของเขาแล้วยังต้องมีคนที่รับผิดชอบเต็มๆแน่นอนไล่ไปตั้งแต่นายกรัฐมนตรีตรีลงไปกันกราวรูดแน่

ไม่มีความคิดเห็น: