03 ธันวาคม 2551

สาธารณรัฐล้านนาประชาธิปไตย



ผลกรรมที่ชั่วช้า ทำไป
ยังไม่ส่งผลใด แก่เจ้า
เหิมเกริมไป่กลัวภัย มาสู่ ตนนา
ตราบเมื่อบาปถึงเข้า จึ่งรู้ รสกรรม


ในขณะที่ คนไทยอยากเห็นเรื่องวุ่นวายใจชาติให้ยุติ แต่ตัวปัญหาคือคนโกงไม่ยอมให้ยุติจัดตั้งรัฐบาลโนมินี การใช้อำนาจบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมคนก็จะต้องต้องโทษ พรรคการเมืองก็เช่นกัน แต่คนที่โกงแล้วหากตั้งใจแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้กติกาให้ตนพ้นผิดเราก็ทำใจให้ยอมรับได้ยากยิ่งถ้าคนไทยที่ได้รับพระคุณแผ่นดินมากมายมากกว่าที่คนไทยใดๆในประเทศเคยได้รับแต่กลับยอมเสียสละชาติสิ้นเพื่อตัวเอง ทำคนไทยให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก คนไทยบางคนไม่รับรู้ไม่ยอมรับความจริง ก่อให้เกิดประชาธิปไตยแบบเผด็จการโดยคุมสื่อด้านเดียว โดยการต่อสู้นี้มีหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหัวสี หรือหัวขาวดำ ต่างใช้วิธีท่องคาถา “กูเป็นกลาง กูเป็นกลาง กูเป็นกลาง” เป็นเกราะป้องกันเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประพฤติตนเป็นไผ่ลู่ลมทำสื่อแบบใส่ร้าย บิดเบือน ฉาบฉวย และเอาตัวกูรอดอย่างเดียวเช่นนี้ ได้รับพิสูจน์จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ในครั้งนี้แล้วว่าผิดพลาด … ทั้งในฐานะสื่อสารมวลชน ในฐานะของความเป็นคนไทยและในด้านคุณธรรม จริยธรรม และสำนึกของความเป็นมนุษย์ การเป็นสื่อของประชาชนนั้นอบอุ่นและน่าภาคภูมิใจกว่า การเป็นสื่อที่เลี้ยงชีพด้วยเม็ดเงินที่มาจากความละโมบ โลภมาก หรือนักการเมืองเป็นไหนๆ

ในระหว่างนั้นถ้าเราดูแนวโน้มของกลุ่มคนรักทักษิณ ทั้ง นปก. นปช.รวมทั้งพวกเสื้อแดงทั้งหลายจะเห็นได้ว่าขบวนการเหล่านี้มีความเชื่อมโยงค่อนข้างจะชัดเจนต่อการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และพวกแกนนำเกือบจะทุกคนก็มีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพติดตัวกันด้วย บางคนถึงขั้นต้องหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ นักการเมืองเสื้อแดงในบริเวณภาคเหนือและจากภาคอีสานได้มาหารือและประชุมประสานงานอย่างใกล้ชิดกันมาได้พักหนึ่งแล้วเหตุที่เขามาเริ่มเป็นข่าวในเวลานี้ และเรียกประชุมเป็นการด่วนก็เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะพิพากษาการให้ยุบพรรคคดีซื้อเสียงในวันที่ 2 ธันวาคมนี้แล้วดังนั้นพวกเขาก็เลยต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนอย่างเหิมเกริมถึงขั้นเตรียมตั้งประเทศรองรับรัฐบาลพลัดถิ่นของนักโทษชายทักษิณทีเดียวเชียวแหละ ประเทศที่จะตั้งกันใหม่นี้จะอยู่บนแผ่นดินไทยนี้แหละ แต่จะแยกออกไปตั้งเป็นประเทศใหม่ ใช้ชื่อว่า “สาธารณรัฐล้านนาประชาธิปไตย” ที่นอกจากจะไม่เอาสถาบันแล้ว คนพวกนี้ยังไม่เอาระบอบเก่าและการเมืองใหม่และไม่เอาวิธีคิดที่จะรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ในแผ่นดินไทยไว้ด้วย สาธารณรัฐใหม่บนดินแดนประเทศไทยนี้ จะได้ตัวประธานาธิบดีคนแรกคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เราพอจะเข้าใจแล้วว่า ขบวนการนี้ทำกันเป็นขั้นตอนจริงๆเริ่มจากการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตัดสายสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างสถาบันที่ผูกติดกับคนไทยมาช้านานให้ขาดจากคนส่วนใหญ่ ปัจจัยสำคัญที่ขบวนการนี้ใช้คือเงินจากโครงการประชานิยมต่างๆ โดยในตอนแรกไม่มีใครรู้ว่าเจตนาเบื้องหลัง จัดตั้งขบวนการแกนนำเลือกกลุ่มคนที่มีวาทะคมคาย พูดจาโฆษณาชวนเชื่อเก่ง ระดมมวลชนด้วยการว่าจ้างทั้งในต่างจังหวัดและในเมืองให้มาชุมนุมปลุกใจแต่เสื้อแดงต้องเผชิญกับกลุ่มเสื้อเหลืองที่พวกเสื้อแดงจะไม่ลังเลเลยที่จะเจรจากับเสื้อเหลืองเพื่อเป็นแนวร่วมโดยมีทักษิณมาจัดการเคลียร์ปัญหาด้วยตนเองขอให้เหลืองอย่าขัดขวางเสื้อแดง ในการล้มสถาบันก็พอ แต่เป็นเพราะเหตุผลเดียวเท่านั้นคือเสื้อเหลืองทำเพื่อรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ไม่เคยยอมให้ใครมาทำลายอย่างเด็ดขาดเสียด้วยและเป็นหัวใจที่รัฐบาลหรือทหารไม่กล้าเผด็จศึกหรือใช้มาตรการรุนแรงเสียด้วย

แทบจะในทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาการให้ยุบพรรค เมื่อดูท่าทีการพูดการจาของบรรดานักการเมืองทั้ง 3 พรรคซึ่งดูเหมือนจะสะกดคำว่า "สำนึกผิด" ไม่เป็นแล้ว นักการเมืองเหล่านั้นก็แถลงออกมาทันทีว่ารัฐบาลใหม่จะมาจากพรรคการเมือง 6 พรรคขั้วเดิมไม่มีพลัดพราก ลูกปลาไหลน้ำตาท่วมหลังทำพิธีคลุมผ้าดำปิดป้ายพรรคถาวรและเติ้งประกาศสู้ต่อรอ 5 ปีหลังพ้นโทษยังพร้อมกลับมาเล่นการเมืองต่อและสมอ้างยอมรับชะตากรรมหากยุบพรรคเพื่อแลกกับพันธมิตรฯ สลายการชุมนุม เมื่อมาถึงในปี 2552 เราต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่กันไปทั้งโลกในระยะนี้ก็ไม่แน่ว่าชนบทจะยังเป็นทุนทางสังคมเป็นเบาะรองรับวิกฤตได้ดังเดิมหรือไม่ เพราะชนบทระยะหลายปีที่ผ่านมาก่อหนี้ท่วมหัวตามนโยบายรัฐหลายปีมานี้มุ่งสร้างเมืองให้ใหญ่ มุ่งผลักดันพี่น้องเข้าสู่วงจรของความไม่สมดุล ไม่พอเพียง เพราะมีความคิดว่าวงจรเศรษฐกิจจะใหญ่และเคลื่อนเร็วกว่าเดิมต้องกระตุ้นลงไปที่รากหญ้า อัดฉีดเงินภายใต้โครงการต่าง ๆ แค่ชื่อที่โผล่ขึ้นมาเตรียมเป็นนายกฯรักษาอำนาจในขั้วเน่าๆเดิมๆก็บ่งบอกคุณภาพนักการเมืองไทยแล้วว่าพวกเขาเป็นแค่นักแสวงหาอำนาจส่วนตนเท่านั้นหาได้เคยคำนึงถึงประเทศชาติส่วนรวมเลยทั้งๆที่เศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องเล็กเพราะประเทศชาติไม่ใช่ของล้อเล่น

จากบทสัมภาษณ์ของทักษิณเองที่ให้กับไซต์ arabianbusiness ในวันเดียวกันสร้างความสะท้านแผ่นดินไทยแต่กลับหลุดข่าวที่สะท้านใจว่าประเทศอังกฤษได้อายัดทรัพย์ไป 4 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 1.4 แสนล้านบาทตามอัตราแลกเปลี่ยน 35 บาท/ดอลลาร์ในปัจจุบัน!) เพื่อเพิ่มปัญหาให้กับทักษิณ สร้างให้เราได้สับสนกับ 7.3 หมื่นล้านบาทในเมืองไทยหรือไม่ ? ก็ไม่น่าจะใช่ หรือว่าทักษิณซ่อนทรัพย์สินในต่างประเทศ รอฟอกเงิน ถ้าเป็นเงินซ่อนจริง เอามาจากไหน ทำไมจึงมากขนาดนับแสนล้านบาท ? เพื่อปกปิดเรื่องนี้หรือไม่ จึงต้องกลับมาสร้างความวุ่นวายในชาติ คนๆหนึ่งได้รับพระคุณแผ่นดินมหาศาลกว่าใครๆในประวัติศาสตร์ทั้งพระคุณบนโต๊ะ และพระคุณแผ่นดินที่นำไปซุกซ่อน แต่เมื่อต้องจำนนต่อหลักฐานของการกระทำผิดกลับเลือกที่จะสร้างความปั่นป่วน บิดเบือน ยอมเสียสละความสงบสุขของแผ่นดินแม่เพียงเพื่อปกปิดความผิดของตนเอง

ในขณะที่คนธรรมดาทั่วๆไปมีความสุขมากขึ้นหลังพันธมิตรฯ ยุติชุมนุม - แต่ก็ไม่วายที่จะมีประชาชนบางส่วนห่วงการเมืองไม่เปลี่ยนขั้ว พวกเขามั่นใจว่าสถานการณ์ทางการเมืองต่อจากนี้ไปจะดีขึ้น รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจและสังคม คาดหวังกันมากว่านักการเมืองและรัฐบาลชุดใหม่ควรจะตั้งใจทำงาน และทำทุกอย่างเพื่อให้ชาติเกิดความสงบสุข นพ.ชูชัย ศุภวงศ์อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง รธน.50 กล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณแกนนำและเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ช่วยกันปกป้องคุ้มครอง รธน.50 ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชน 14.7 ล้านเสียงที่ร่วมลงประชามติยังดำรงอยู่ และทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการปัดกวาดการเมืองไทยให้สะอาดมากขึ้น หากไม่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ รธน.ฉบับนี้จะถูกล้มล้างแก้ไขไปแล้ว นักการเมืองที่โกงบ้านกินเมืองจะกำเริบเสิบสานมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อทำการปล้นทำลายเมืองแล้ว ก็สามารถแก้กฎหมายให้ตนและพวกพ้นผิดได้เป็นรัฐธรรมฉบับแรกที่ทำให้นายกรัฐมนตรี 2 คนในรอบปีพ้นจากตำแหน่งไปและอดีตนายกรัฐมนตรี 1 คนถูกศาลสั่งจำคุกจนต้องต้องหนีออกนอกประเทศ รวมทั้งทำให้นักการเมืองที่ใช้เงินสกปรกซื้อเสียงเข้าไปยึดอำนาจรัฐแล้วใช้อำนาจโดยมิชอบก็ต้องหลุดพ้นจากวงจรการเมืองไป อีกทั้งยังปกป้องไม่ให้เสียดินแดนบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ทำงานลำพัง ปราศจากการหนุนเสริมจากประชาภิวัฒน์ ก็ยากจะต้านทานอำนาจเผด็จการทุนนิยมสามานย์ได้

นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเป็นเรื่องน่าแปลกที่ผู้ชุมนุมทั้งหมดของกลุ่มพันธมิตรฯ กลับไม่ได้เงินทอง หรือทรัพย์สินอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านเลย ตรงกันข้าม ทุกคนมีแต่เสียเงิน เสียแรง เสียเวลา เสียน้ำตา เสียอวัยวะ เสียเลือดเนื้อ เสี่ยงชีวิต เสียค่ารถไปกลับบ้านไม่รู้กี่รอบ ท่ามกลางเสียงก่นด่าของสื่อและคนบางกลุ่มในบ้านเมืองที่โวยวายว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ทำประเทศชาติเสียหายหมดแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ทำเศรษฐกิจฉิบหาย ฯลฯ แต่สิ่งที่พวกเราเสียไปนั้น คุ้มเกินคุ้มกับสิ่งที่ประเทศชาติได้กลับมา รัฐบาลทรราชได้ถูกโค่นให้ล้มครืนลงไปอีกครั้ง ความพิเศษของการชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ถือเป็นที่สุดแห่งการชุมนุมที่มีการชุมนุมยาวนานที่สุด 192 วันที่เคยมีในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวกับสนามบินและพักหลักพักค้างอยู่ชุมนุมในนั้นโดยมีน้ำดื่มที่ได้จากการบริจาคมากที่สุดกองพะเนินเทินทึกอยู่ทั่วไปเรียกได้ว่าเป็นอนุสาวรีย์น้ำกันเลยทีเดียว เป็นการชุมนุมที่สั่งได้ เพราะไม่ว่าจะขาดเหลืออะไร แค่ประกาศบนเวที สิ่งของนั้นๆ ก็จะมาทันที มีผู้คนมาจากหลากหลายจังหวัดทั่วภูมิภาค ตั้งแต่ยะลายันเชียงราย มีหน่วยพยาบาลมากที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดชุมนุมกันมา เป็นการชุมนุมที่อบอุ่นและมีน้ำใจไหลหลั่งอยู่ทั่วไป

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ